รบกวนสอบถามกรณี MAKRO ค่ะ ควรรับคำเสนอซื้อหรือถือต่อไปดีคะ

[kikkokkok]

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว VI ทุกคน

หนูมีหุ้น MAKRO อยู่นิดหน่อย เป็นหุ้นที่ซื้อตัวแรกในชีวิต รักมากและตั้งใจว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ขาย
กะว่าจะขอแต่ปันผลและเครดิตภาษีเท่านั้นก็พอแล้ว ต้นทุนอยู่ประมาณ 70 กว่าบาท

แต่จากกรณี CPALL มาเทคโอเวอร์ MAKRO ไป
มาร์เกตติ้งแนะนำให้ขายที่ราคา CPALL รับซื้อค่ะ หนูก็สับสน ใจจริงไม่อยากจะขาย
แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตของ MAKRO จะเป็นยังไง

มาร์บอกว่า CPALL ยืนยันจะไม่ขายกิจการ MAKRO แน่นอนภายใน 1 ปี และจะยังคงอยู่ในตลาดหุ้นอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป
ซึ่งหนูก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาก (มือใหม่ค่ะ ซื้อมานานแต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตาม) รู้แค่ว่าตอนนี้จะต้องตัดสินใจว่าจะขายหรือจะถือต่อ
ถ้าถือต่อไป แล้วเกิดตอนหลัง CPALL ประกาศเอาออกจากตลาด จะเป็นยังไง

อยากรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ

[apiwatyao]

ถ้ามีความสุขกับการเป็นเจ้าของ Makro
ราคาหุ้นจะเป็นยังไงก็ไม่เห็นต้องสนใจเลยครับ

แต่ถ้ามีความสุขกับ Capital gain(ราคาหุ้น) ราคานี้ก็ 11 เท่าแล้วนะครับ ก็เก้บกำไรไว้ก้ได้ครับ

ลองพิจารณาดู

[istyle]

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ราคานี้คล้ายๆมีคนมาขอซื้อ iphone 3gs เครื่องเก่าของคุณในราคา 3 หมื่น

ก็แล้วแต่จะให้คุณค่าทางใจเท่าไหร่ครับ

[นายมานะ]

มือใหม่เหมือนกันนะครับ แต่อยากแชร์ครับ ฮ่าา

ผมว่ามูลค่าของบริษัทนั้นขึ้นอยู่กับใครจะตีความครับ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณ kikkokkok มีทางเลือกที่ดีกว่าในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นผมผมจะลองเปรียบเทียบดังนี้ครับ

1. ถือ makro or ขายเป็นเงินสด แน่นอนว่าอย่างแรก คุณอาจสูญเสียการทำกำไร (ระยะสั้น) ในราคาที่สูงลิ่วไป แต่ ต้องแลกการทำกำไรนี้ ต้องแลกมาซึ่งกำไรในอนาคต (ซึ่งต้องประเมินด้วยตัวเองว่ากำไรในอนาคตนี้มากพอหรือไม่)
2. ถือ makro or นำเงินไปลงทุนในทางเลือกอื่น ในข้อนี้ก็จะต้องเปรียบเทียบระหว่างความถูกแพง ของบริษัท makro กับบริษัทอื่นๆ หรือการลงทุนในลักษณะอื่นๆ เช่น ซื้อพันธบัตร ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่แล้วแต่ความถนัดเฉพาะบุคคลครับ

โดยส่วนตัวแล้วถ้าเป็นผมจะเลือกขาย เพื่อนำมาลงทุนในบริษัทที่ผมมองว่ามีราคาถูกกว่า makro ครับ (ไม่ใช่การถือ makro ไม่ดี แต่มีบางบริษัทที่ผมชอบมากกว่า) ความผูกพันธ์ทางใจ ผมว่าไม่ควรนำมาเป็นประเด็นในการตัดสินใจลงทุนครับ

[Tanukicho]

ขายแล้วจะเอาเงินไปทำอะไรหรอครับ ถ้าขายแล้วไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร อย่าขายเลยดีกว่าครับ

แต่ถ้ารู้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ขายตอนี้ก็ดีครับ ราคาขึ้นมาเยะแล้ว

ราคาปัจจุบันต่อกระเงินสดหมุนเวียนยอดหลัง10ปี ตั้ง 125 เท่า

[Plant]

มีอยู่นิดหน่อยนี่สามารถตัดขายเอาทุนคืนได้หรือเปล่าครับ ถ้าทำสามารถทำได้
และถ้าเป็นผม(ย้ำ!!ว่าเป็นผม)จะตัดขายเอาทุนคืน ที่เหลือก็รอดูต่อไปเพราะใช้เงินในตลาดแทนแล้ว
ตามสไตล์ "เฮียคลายเคลียด" ....^^)

แต่ถ้าตัดขายเอาทุนคืนไม่ได้ ก็ต้องดูจุดประสงค์ของเงินก้อนนั้นครับ อย่างที่
คุณ "Tanukicho" บอกครับ ว่าเราจะเอาเงินก้อนที่ได้มานั้นไปทำอะไรต่อ แล้วมันคุ้ม
ค่าไหมกับการที่เราไม่ขายแล้วถือกินเงินปันผลต่อไป ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ของ
คุณ "kikkokkok" เองครับ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร....^^)

[HIM]

ต้นทุน 70 กว่าบาทเอง กำไรเยอะแล้ว ใกล้เคียงกับของผมครับ

ผมก็ขายเทนเดอร์ไปแล้วครับ หาซื้อตัวอื่นต่อไป หรือรอดูอนาคต

อาจกลับมาซื้อใหม่

[newbie_12]

ขายเลยครับ จะเอาไว้ทำไม ราคาที่ cpall ซื้อถือว่าแพงสุดกู่ ถ้ายังรัก makro ผมว่า swap ไปถือ cpall ผมว่าดีกว่าเยอะ

[dr1]

มาเล่าให้ฟังแบบมือใหม่เหมือนกัน
เป็นหุ้นที่คิดเองซื้อเองตัวแรกที่ราคา70
ขึ้นไป140ได้เด้งนึง ดีใจขายไปซื้อศูนย์การค้าแถวปทุมวัน ตามเซเลป
ตัวใหม่ป้วนเปี้ยนอยู่ที่เดิม แมคโครขึ้นไปเรื่อยๆ
ไปซื้อกลับมาที่300 (บ้าป่าว)
คราวนี้พอไป700+ขายไปซื้อร้านสะดวกซื้อที่มาเทนเดอร์

ตัวใหม่ที่ซื้อมาทำตัวไม่ไปใหนเหมือนกับตอนเปลี่ยนตัวตอนโน้นเลยครับ
เฮ้อออ.....

[อินทรีย์ทองแดง]

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว VI ทุกคน

หนูมีหุ้น MAKRO อยู่นิดหน่อย เป็นหุ้นที่ซื้อตัวแรกในชีวิต รักมากและตั้งใจว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ขาย
กะว่าจะขอแต่ปันผลและเครดิตภาษีเท่านั้นก็พอแล้ว ต้นทุนอยู่ประมาณ 70 กว่าบาท

แต่จากกรณี CPALL มาเทคโอเวอร์ MAKRO ไป
มาร์เกตติ้งแนะนำให้ขายที่ราคา CPALL รับซื้อค่ะ หนูก็สับสน ใจจริงไม่อยากจะขาย
แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตของ MAKRO จะเป็นยังไง

มาร์บอกว่า CPALL ยืนยันจะไม่ขายกิจการ MAKRO แน่นอนภายใน 1 ปี และจะยังคงอยู่ในตลาดหุ้นอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป
ซึ่งหนูก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาก (มือใหม่ค่ะ ซื้อมานานแต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตาม) รู้แค่ว่าตอนนี้จะต้องตัดสินใจว่าจะขายหรือจะถือต่อ
ถ้าถือต่อไป แล้วเกิดตอนหลัง CPALL ประกาศเอาออกจากตลาด จะเป็นยังไง

อยากรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ

เข้าใจว่าคำถามนี้เกิดจากแรงยุของมาร์ ที่ให้ขายtender
จากที่จขกท.เล่ามา ดูเหมือนไม่ได้ติดตามราคาตลอด แล้วก็ไม่ได้คิดจะทำกำไร เพื่อไปหาหุ้นใหม่
แต่ที่หวั่นไหวเนื่องจากกลัวโดนdelistออกจากตลาดหุ้น
งั้นผมให้แนวทางคร่าวๆนะครับ
1.cpallไม่เอาmakro ออกจากตลาดแน่นอนครับ(ในความคิดผมนะ) เนื่องจากราคาหุ้นmakroเกี่ยวพันถึงwealthของเจ้าสัว ยิ่งกำลังบี้กันไฟแล่บ3ตระกูลใหญ่เพื่อเป็นคนรวยที่สุดในไทย ยิ่งไม่น่าเอาออก
2.ดูเหมือนจขกท จะไม่ได้สนใจราคาหุ้นว่าจะถูกแพงอะไรยังไง ดังนั้นราคาที่787ก็ยังให้yeildราวๆ2%ปีนี้. ปีหน้าก็ปันมากขึ้น ผมคิดว่าอนาคตก็คงไต่ขึ้นไปถึง5%ได้ เพียงแต่ให้เวลามันหน่อย
3.makroเป็นบริษัทที่ธรรมาภิบาลสูงมาก ตราบเท่าที่คุณสุชาดานั่งบริหาร ผมเชื่อว่าmakroเป็นบริษัทที่ธรรมาภิบาลดีลำดับต้นๆของตลาด ถ้าcpallจะตุกติก ยังไงก็คงเกรงใจคุณสุชาดาบ้างแหละครับ
4.ราคารับซื้อที่787 ถือว่าสูงเอาเรื่องทีเดียว ไม่ขายก็อาจจะเป็นเรื่องเสียโอกาสน่ะครับ

[dome@perth]

^^ ชัดเจนครับ

[miracle]

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว VI ทุกคน

หนูมีหุ้น MAKRO อยู่นิดหน่อย เป็นหุ้นที่ซื้อตัวแรกในชีวิต รักมากและตั้งใจว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ขาย
กะว่าจะขอแต่ปันผลและเครดิตภาษีเท่านั้นก็พอแล้ว ต้นทุนอยู่ประมาณ 70 กว่าบาท

แต่จากกรณี CPALL มาเทคโอเวอร์ MAKRO ไป
มาร์เกตติ้งแนะนำให้ขายที่ราคา CPALL รับซื้อค่ะ หนูก็สับสน ใจจริงไม่อยากจะขาย
แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตของ MAKRO จะเป็นยังไง

มาร์บอกว่า CPALL ยืนยันจะไม่ขายกิจการ MAKRO แน่นอนภายใน 1 ปี และจะยังคงอยู่ในตลาดหุ้นอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป
ซึ่งหนูก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาก (มือใหม่ค่ะ ซื้อมานานแต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตาม) รู้แค่ว่าตอนนี้จะต้องตัดสินใจว่าจะขายหรือจะถือต่อ
ถ้าถือต่อไป แล้วเกิดตอนหลัง CPALL ประกาศเอาออกจากตลาด จะเป็นยังไง

อยากรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ

เข้าใจว่าคำถามนี้เกิดจากแรงยุของมาร์ ที่ให้ขายtender
จากที่จขกท.เล่ามา ดูเหมือนไม่ได้ติดตามราคาตลอด แล้วก็ไม่ได้คิดจะทำกำไร เพื่อไปหาหุ้นใหม่
แต่ที่หวั่นไหวเนื่องจากกลัวโดนdelistออกจากตลาดหุ้น
งั้นผมให้แนวทางคร่าวๆนะครับ
1.cpallไม่เอาmakro ออกจากตลาดแน่นอนครับ(ในความคิดผมนะ) เนื่องจากราคาหุ้นmakroเกี่ยวพันถึงwealthของเจ้าสัว ยิ่งกำลังบี้กันไฟแล่บ3ตระกูลใหญ่เพื่อเป็นคนรวยที่สุดในไทย ยิ่งไม่น่าเอาออก
2.ดูเหมือนจขกท จะไม่ได้สนใจราคาหุ้นว่าจะถูกแพงอะไรยังไง ดังนั้นราคาที่787ก็ยังให้yeildราวๆ2%ปีนี้. ปีหน้าก็ปันมากขึ้น ผมคิดว่าอนาคตก็คงไต่ขึ้นไปถึง5%ได้ เพียงแต่ให้เวลามันหน่อย
3.makroเป็นบริษัทที่ธรรมาภิบาลสูงมาก ตราบเท่าที่คุณสุชาดานั่งบริหาร ผมเชื่อว่าmakroเป็นบริษัทที่ธรรมาภิบาลดีลำดับต้นๆของตลาด ถ้าcpallจะตุกติก ยังไงก็คงเกรงใจคุณสุชาดาบ้างแหละครับ
4.ราคารับซื้อที่787 ถือว่าสูงเอาเรื่องทีเดียว ไม่ขายก็อาจจะเป็นเรื่องเสียโอกาสน่ะครับ

ผมคิดอีกแบบละ (รับฟังไว้ด้วยละกัน)
ตอนนี้ ไพ่ออกเป็นหน้านี้ก็ได้
CPALL โอนหนี้ที่ดำเนินการ ไปให้ Makro เหมือนอดีตที่ตอนที่ TURE ทำ Tender UBC ออกจากตลาดฯ ก็ได้ เพื่อลดภาระของ CPALL ลง
ณ เวลานี้ CPALL เพียงพยุงเรื่องดอกเบี้ย+เงินกู้ระยะสั้น 1 ปี ให้ได้
ผมคิดว่า เกมนี้ อาจจะต้องกางอดีตที่ตระกูลนี้เคยทำ tender ออกมาดู ว่า ไพ่ในมือเจ้าสัวจะทำเช่นไร
อีกอย่างการ ขยายกิจการด้วยการซื้อกิจการ จากการใช้หนี้สินนั้น
ก่อนหน้านี้มี เคสของ BIGC ที่ใช้หนี้ระยะสั้น แล้วก็ไม่สามารถผ่านมติการเพิ่มทุนได้
สุดท้ายก็แปลงเป็นหนี้ระยะยาว ซึ่ง ไพ่มันทิ้งตอนหลัง เนื่องจากกลุ่มของเซ็นทรัสไม่เอาด้วย
ต้องดูหลังจากควบรวม ซึ่งใช้เวลา 1 ปีว่า CEO ของ แม็คโคร ทนกับแรงกดดันจาก CPALL ได้นานแค่ไหน อาจจะนับถอยหลัง เร็วกว่านั้น ถ้าหากควบรวมเสร็จสมบูรณ์

อีกอย่าง ถ้าใครอ่าน เอกสารของกรรมการอิสระ
ราคา 787 ที่ทำ tender นั้น เป็นราคาที่ใช้หลักการ M&A คิดออกมาได้ราคานี้
ถ้าจากวิธีการอื่น ไม่สามารถให้ราคาของกิจการนี้ที่ราคานี้ได้เลย
ดังนั้น ถ้าหาก M&A มีปัญหาเกิดขึ้น (ซึ่งหลายกิจการควบรวมไปก็ไม่เกิด ผลที่ดี บางกิจการก็เกิดผลที่ดีขึ้น) มันจะเป็นเช่นไรละ

สุดท้ายที่ฝากไว้คือ
การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาก่อนการลงทุน
เรื่องเดียวกันที่ 10 คนได้ยิน ควรมีคนที่คิดแตกต่าง 1 คน จากที่ 9 คนที่คิดในแนวทางเดียวกัน
จากหนัง ซอมบี้ เรื่อง World war Z

[zephyr]

ความเห็นส่วนตัว

ขายครับเพราะราคานี้สูงเกินไปแล้ว
หากยังรัก Makro ก็รอรับกลับหลังจาก Tender จบครับ

[miracle]

ถ้ามองอย่างอื่นประกอบ
Gdp โดนปรับลดลง
หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น
ภาษีบุคคลธรรมดาไม่ลดลง
น้ำมันแพง
แล้วคุณคิดว่า มีการใช้จ่ายเป็นเช่นไร
แน่นอน ceo ต้องบอกว่าไม่กระทบหรือกระทบน้อย
แต่ท่าที่ดี กลับไปดูอดีตว่า ตัวเลข ในงบที่ส่งให้ ตลท และ กลต
ฟ้องว่าอย่างไงในปีที่เจอแบบนี้ (เทียบไปตอนปี 2549 -2550)

[miracle]

http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?fil ... 040048.pdf

อ่านแล้วสะดุด อยู่ที่ การประเมินมูลค่า ในเรื่องของ DCF แบบ Synergy ซึ่งอยู่ที่หน้า 45-47 มีเพียงตารางคำนวณค่าออกมาให้ ณ หน้าที่ 47 แต่สมมุติฐานคิดมันคือ DCF มาคิด แต่อย่างไงก็ตาม เมื่อทำ Synergy เข้าไป มันต้องมีสมมติฐาน
ที่ใส่เข้าไปว่า การประหยัดต้นทุนจากขนาด ,การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการจัดหาสินค้าและผลิตภัณฑ์ ,การเตรียมความพร้อมเื่พื่อรองรับโอกาสขยายธุรกิจ และ โอกาสในการขยายตลาดใหม่ ค่ามันเท่าไร ถึงได้คำตอบ มาเป็นตารางที่หน้า 47 ได้ มันคือ กล่องดำที่นักลงทุนต้องนำไปคิดเลย และ สร้างคำว่า challenge เลยว่าทำได้หรือเปล่า

ถ้ามองคือ กด Supplier ได้แค่ไหน ,แต่ในด้านเดียวกัน Suppiler โดยกดดันเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
อาจจะทำให้เกิด supply put คือ ราคาสินค้าพุ่งจากค่าแรง ไม่เีพียงเท่านั้นจากราคาน้ำมัน ราคาก๊าซที่ลอยตัว และ ที่สำคัญคือ กำลังซื้อของประชาชนจากการก่อหนี้สินภาคครัวเรือน

เอาภาพจากเอกสารมาฉายต่อเลยว่า เอกสารนั้น มีกล่องดำอยู่ ถ้าเปิดหรือแงะ กล่องดำที่ว่าได้
นั้นคือ หัวใจของดิวนี้

หน้าแรกๆของเอกสาร บอกไว้ว่า"จากการที่ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือแผนการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า และยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจของกิจการเช่นเดิม เว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของสภาพทางการเงินหรือสภาวะทางธุรกิจของกิจการ......" (แบบ 250-2 หน้าที่ 7)
ตีความกันเอาเองล่ะกัน สำหรับประโยชน์นี้ มันบอกร่องรอยอะไรไว้บางอย่างที่มีเงื่อนไข

ขอให้โชคดี

[Highway_Star]

คิดมากแล้วเครียด ก็ขายครึ่งๆ ก็ได้ครับ
ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเบอร์ 2 ของตลาดค้าส่งเลยว่าใครจะมาสู้ makro ได้
แต่อย่างว่าอนาคตมันไม่แน่นอน เราจะขายเอากำไรบางส่วนออกมาก็ได้ครับ
คิดมากเป็นทุกข์เปล่าๆ ครับ

[miracle]

เอกสาร ประเิมินราคาทำ Tender หรือ ซื้อบริษัท มันคือเอกสารที่บอกถึง การประเมินราคาที่ดีที่สุด
ถ้าอ่านดีๆ ตัวเลขการประเมินราคาของหลักทรัพย์นั้น บริษัทไม่บอกว่าประเมินอย่างไง
จนเมื่อวันที่ทำ tender หรือ ซื้อบริษัท ค่อยเจอการคำนวณแบบนั้น เห็นมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
บนสมมติฐานของ FA ที่ทำมาให้ผู้ขายหลักทรัพย์ให้แก่ผู้เสนอซื้อ

ดังนั้นไม่อ่านไม่ได้ ว่าตัวเลขนั้นมาจากที่ใด มาได้อย่างไง
ถ้าหลุดจากช่วงนี้ไปแล้ว กิจการไม่เป็นไปตามที่ FA ประเมิน คนที่เสนอซื้อก็ซวยซิครับ
ถ้า FA ประเมินออกมาแย่เกินไป คนที่ขายก็ขายหมู
ดังนั้น การตั้งสมมติฐานเพื่อให้ได้ตัวเลขราคาออกมาต้องมีให้เห็น วิธีการ DCF ก็มีการให้ตัวเลขทั้งหมดในกรณีนี้
แต่วิธีการ DCF ในการรวม SYNEGY ไม่เห็นตัวเลขในการตั้งสมมติฐานที่เพียงพอ มีแต่ผลเลย
หรือตารางที่บอกว่า กระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินการทำ SYNEGY เป็นเท่าไร ในแต่ละปี แล้วปีสุดท้ายที่เข้าสู่ช่วง
การเติบโตคงที่ให้การเติบโตที่ร้อยละเท่าไร

ส่งท้าย เก็บ เอกสารพวกนี้ไว้ครับ
เพราะ พวกเราเป็น VI การซื้อการขายหุ้น อยู่ที่การประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ไม่ใช่หรือครับ
ถ้าประเมินออกมาแพงไป ก็ขาย ประเมินออกมาถูกไปก็ซื้อเลย เคาะขวาลุยด้วยซ้ำ
ขอให้โชคดี

[kikkokkok]

ขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะสำหรับความคิดเห็น ได้ไอเดียมากมายเลย

ตอนนี้ตัดสินใจขายหุ้น MAKRO ทั้งหมดไปแล้วค่ะ หลังจากคิดอยู่หลายตลบ
เพราะชอบในกิจการของ MAKRO แต่ไม่ค่อยแน่ใจในผู้ที่มาซื้อกิจการซักเท่าไหร่
และอีกเหตุผลคือ คาดว่าน่าจะนำกำไรจากการขาย ไปลงทุนต่อและเกิดผลประโยชน์ได้มากกว่ารอรับปันผลจาก MAKRO น่ะค่ะ

ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะค้า ^/\^

[wisarnjin]

มหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผม "Makro=หุ้นชายขอบ+ม้านอกสายตา"
บริษัทนี้มันเหมือนธุรกิจจัดงานศพที่ Peter Lynch เคยเขียนไว้ ใครฟังชื่อ+รู้ว่าทำอะไรก็โคตรจะน่าเบื่อ ไม่เร้าใจในการดำเนินธุรกิจเลย ขายของให้พวกร้านโชว์ห่วย ภัตตาคาร โรงแรม เวลาไปซื้อของต้องยกโหล ถุงก็ไม่มีให้ เอาใส่รถเข็นไปรถเอง โปรโมชั่นคูปองแบบ discount store อื่นก็ไม่เคยจัด บัตรเครดิตไม่รับ ต้องจ่ายสดงดเชื่อเบื่อทวงอย่างเดียว (เหมือนเคยทำแคมเปญร่วมกับบัตรซิตี้แบงค์ถ้าจำไม่ผิด แต่ผมว่าน้อยคนนักที่มีบัตรกับแบงค์นี้) แถมแผนกอาหารสดผักผลไม้ยังมีกลิ่นไม่ค่อยดีคล้ายตลาดสดน้อยๆอีก ตัวห้างด้านนอกดูเก่าๆ บางสาขาต้องจอดรถตากแดดด้วย ไม่ค่อยมีโบรกเกอร์เชียร์หรือพูดถึง ใน settrade ก็แทบไม่ค่อยมีโบรกไหนติดตามหรือให้ consensus เลย ขนาดโบรกเกอร์ที่ผมใช้บริการขอไม่เอ่ยชื่อ (แต่ขอวงเล็บหน่อย=แบงค์สีเขียว ที่ผมไม่เคยคุยกับมาร์เก็ตติ้งเลยตั้งแต่เริ่ม trade มา 5 ปี ยกเว้น 1 สัปดาห์ก่อนโทรมา ทำผมตกใจมาก แนะนำให้ขาย tender ให้ cpall บอกว่าโอกาสที่จะเห็นราคา 787 บาทไม่มีอีกแล้ว!!!) ให้ target price ต่ำมากมาตลอดทาง ร่วมกับบอกว่า overvalue แนะนำขายตลอดทาง แถมบริษัทนี้ก็ไม่มีข่าวว่าเซียนหรือเซเลบที่ไหนถืออีกต่างหาก อยู่ๆปีก่อนก็ถูกตัดออกจากดัชนี msci small cap ราคากอดคอกันร่วงเป็น 100 บาทกับบริษัทค้าปลีกขายวัสดุตกแต่งบ้าน อย่างกับว่าห้างของผมจะเจ๊ง แต่วันเวลามันก็พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจง่ายๆ น่าเบื่อๆ ที่ตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายข้าวแกงแถวบ้านก็ใช้กล่องกระดาษทิชชู่และไม้จิ้มฟันตรา aro ถามร้านหมูกระทะ ร้านสเต็ก 59 บาท ร้านข้าวปั้นซูชิข้างทางว่าซื้อวัตถุดิบจากไหนก็บอกว่าแม็คโคร ผลประกอบการก็โตมาตลอด แถมปันผลปีละ 3 รอบ ระหว่างกาลเดือน สค. พย. และ พค.ตอนประกาศงบปี คงมีไม่กี่ บมจ. ในตลาดที่ทั้ง CEO และ CFO เป็นผู้หญิง ปีน้ำท่วมใหญ่ 2554 นครสวรรค์น้ำท่วมเมือง แต่สาขานครสวรรค์ดันเปิดขายได้ ใช้รถแทรกเตอร์และเรือรับส่งลูกค้าขายของ ไม่เคยปิดเลย น้ำไหลต่อมาถึงวังน้อย ศูนย์กระจายสินค้าที่วังน้อยก็หลีกไม่พ้นชะตากรรมธรรมชาติลิต ท่วมเหมือนกัน ก็สามารถย้ายศูนย์กระจายสินค้าไปที่สาขาชลบุรีได้ในเวลาไม่กี่วัน ผมคิดว่าบริษัทนี้มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมมาก ยกเว้นว่าโลกจะแตกค่อยหยุดขาย สาขาเปิดใหม่แถบภาคเหนือและตะวันตก ถูกออกแบบอาคารและชั้นวางที่มันสูงๆหลายๆชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้า ให้รองรับแผ่นดินไหวด้วย กะว่าแผ่นดินไหวก็จะขายของให้ได้ ไม่มีพนักงานหรือลูกค้าบาดเจ็บแน่นอน ผมทึ่งในวิสัยทัศน์ของ ผบห. ขนาดในเว็บบอร์ดห้องสินธร และในห้อง makro thaivi นี้ก็ยังเงียบกับบริษัทนี้เหมือนป่าช้าเลย แต่วันนี้บริษัทมันพิสูจน์ตัวมันเองให้ผมเห็นแล้ว (แม้คนอื่นจะไม่เห็น) ว่ามันสามารถเป็นมหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผมได้ ขอโทษไม่สามารถเอ่ยเรื่องต้นทุนราคาเพราะผิดกฏของเว็บบอร์ด (แต่ทุนผมก็เอาราคาประมาณวันนี้หาร 10 ครับ) บริษัทของผมเพิ่งมาดังเป็นเซเลบพลุแตกแบบซีรี่ย์ฮอร์โมน ก็สองครั้งนี้ ครั้งแรกวันที่ cpall ประกาศเทคโอเว่อร์ ที่ทุกคนในห้อง cpall และสินธรบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาเว่อร์มาก ที่ 787 บาท และวันนี้ครับ ครั้งที่สองที่ราคาทำ ceiling เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผมจำความได้ตั้งแต่กอดหุ้นนี้มา แต่ก็ยังเป็นชนกลุ่มน้อยใน 2.2% อยู่ที่ไม่ได้ขาย tender ให้ cpall (จะขายทำไม ก็ในเมื่อผมถือทั้งสอง บมจ. ถ้าขายคงมี conflict of interest) คงต้องถือกินปันผลซึ่งแน้วโน้มมากขึ้นเรื่อยๆไปก่อน ขอรอดูผลประกอบการใต้ร่มเงาบริหารของ cpall ไปอีกระยะก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แบบที่ วอร์เรน บัฟเฟต์บอกว่าจะถือหุ้นโค้กไปเรื่อยๆ ตราบใดที่โค้กยังเป็นโค้ก แต่ถ้านักลงทุนระยะสั้นและนักเก็งกำไรทำหน้าที่ของเค้าได้ดี ไล่ราคาบริษัทของผมไปไกลมาก ประเมินมูลค่าแล้วทะลุชั้นบรรยากาศนอกโลกแล้วและมีบริษัทอื่นที่ผมรู้จัก เข้าใจน่าสนใจกว่า โดยเฉพาะอารมณ์บรรยากาศแบบตลาดตกใจ หุ้นตกใจ คนซื้อขายก็ตกใจ ราคาหุ้นต่างๆก็ตก เพราะตกใจไปกับเค้าด้วย ก็คงต้องพิจารณากันอีกที เพราะหุ้นมีไว้ขาย เมียมีไว้กอด เหมือนที่ท่านนายกโจ ลูกอีสาน(ขออนุญาติเอ่ยนาม) เคยว่าไว้

[pornchal]

ระยะสั้น ถือว่าขายคือตัดสินใจผิด ระยะยาว ไม่รู้ 555

ระยะสั้น ไม่มีใครคาดเดาราคาได้.....
จริง จริง

ผมก้อเชียร์ขายนะ...