หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 1
งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า
50 ข้อคิดสู่อิสรภาพแห่งชีวิต งานที่ไร้กรอบ ไม่ต้องตอกบัตร แต่ก็รวยได้
ผู้เขียน วิสูตร แสงอรุณเลิศ
หนังสือราคา 225.00 บาท
รายละเอียดหนังสือ
ISBN : 9786167752112 (ปกอ่อน) 256 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 145 x 209 x 15 มม.
น้ำหนัก : 320 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : สี่สีในเล่ม
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว์, สนพ.
เนื้อหาโดยสังเขป
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ช่วยให้คุณลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นอยู่แล้ว หรือกำลังอยากจะมีชีวิตอิสระ หนังสือเล่มนี้มีวิธีคิด และวิธีการอะไรบางอย่างที่ช่วยคุณได้ หรือแม้กระทั่งถ้าหากคุณยังรักที่จะทำงานประจำอยู่ ก็เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณทำงานประจำได้ดีกว่าเดิม ได้เลื่อนขั้น! ได้เงินเดือนสูงขึ้น!
เนื้อหาในเล่มจะทำให้คุณรู้จักชายผู้มีความสุขกับงานอิสระ ผู้ที่มีทั้งประสบการณ์ที่เคยเป็นลูกน้องคนอื่น และเป็นเจ้านายตัวเอง ทำให้เขาเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของงานแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นครูสอนพิเศษ นักแต่งเพลง นักเขียน ครีเอทีฟรายการวิทยุ คนเขียนสคริปต์รายการโทรทัศน์ ไปแข่งรายการเกมโชว์ เจ้าของร้านเครื่องประดับ คนขายของแบกะดิน วิ่งหนีเทศกิจ ขายตรง ธุรกิจเครือข่าย บรรณาธิการ เล่นหุ้น เขาสัมผัสด้วยตัวเองมาหมดแล้ว วันนี้เขาได้เลือกแล้วที่จะมีความสุขใน "งานไม่ประจำ" เพราะทำให้เขาสามารถออกแบบชีวิตได้ ที่สำคัญนอกจากจะออกแบบชีวิตได้แล้ว ยังออกแบบรายได้เองได้อีกด้วย เขาทำได้...คุณเองก็ทำได้เช่นกัน!
สารบัญ
1. ผมมีความลับจะบอก
2. อิสรภาพ-ภาพอิสระ
3. 20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40
4. คนเดินห้างที่เปลี่ยนชีวิตผม
5. แบบสอบถาม : คุณเป็นคนแบบไหน?
6. Work with or Work for?
7. บริษัท "ฉันเอง" จำกัด
8. มนุษย์รอเงินเดือน?
9. ทั้งดึง ทั้งดูด
10. ไข่ในตระกร้าใบเดียว
ฯลฯ
คำนิยม
บอยเป็นตัวจริงเสียงจริง จุดที่เด่นมากๆ ก็คือเขาเขียนหนังสือดี ใช้คำไม่เยอะ แต่ทิ่มแทงได้ทะลุใจ
-- ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา --
พี่บอยคือนักผจญภัยที่รู้จักการใช้ชีวิต บนพื้นฐาน "ทุกอย่าง ข้าขอเลือกเอง" นั่นแหละที่มันเท่และน่าอ่านมาก
-- ภาววิทย์ กลิ่นประทุม --
ผมเคยเห็นเพื่อนสูญเสียจิตวิญญาณเพราะงานประจำที่น่าเบื่อ พวกเขา (และผม) น่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ
-- บัณฑิต อึ้งรังษี --
ภาษาของ "บอย" จะกระตุ้น "ต่อมอิสรภาพ" ของคุณ รับรองว่าอ่านหนังสือเล่มนี้จบ จะมีคนนอนไม่หลับหลายคน
-- หนุ่มเมืองจันท์ --
50 ข้อคิดสู่อิสรภาพแห่งชีวิต งานที่ไร้กรอบ ไม่ต้องตอกบัตร แต่ก็รวยได้
ผู้เขียน วิสูตร แสงอรุณเลิศ
หนังสือราคา 225.00 บาท
รายละเอียดหนังสือ
ISBN : 9786167752112 (ปกอ่อน) 256 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 145 x 209 x 15 มม.
น้ำหนัก : 320 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : สี่สีในเล่ม
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว์, สนพ.
เนื้อหาโดยสังเขป
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ช่วยให้คุณลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นอยู่แล้ว หรือกำลังอยากจะมีชีวิตอิสระ หนังสือเล่มนี้มีวิธีคิด และวิธีการอะไรบางอย่างที่ช่วยคุณได้ หรือแม้กระทั่งถ้าหากคุณยังรักที่จะทำงานประจำอยู่ ก็เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณทำงานประจำได้ดีกว่าเดิม ได้เลื่อนขั้น! ได้เงินเดือนสูงขึ้น!
เนื้อหาในเล่มจะทำให้คุณรู้จักชายผู้มีความสุขกับงานอิสระ ผู้ที่มีทั้งประสบการณ์ที่เคยเป็นลูกน้องคนอื่น และเป็นเจ้านายตัวเอง ทำให้เขาเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของงานแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นครูสอนพิเศษ นักแต่งเพลง นักเขียน ครีเอทีฟรายการวิทยุ คนเขียนสคริปต์รายการโทรทัศน์ ไปแข่งรายการเกมโชว์ เจ้าของร้านเครื่องประดับ คนขายของแบกะดิน วิ่งหนีเทศกิจ ขายตรง ธุรกิจเครือข่าย บรรณาธิการ เล่นหุ้น เขาสัมผัสด้วยตัวเองมาหมดแล้ว วันนี้เขาได้เลือกแล้วที่จะมีความสุขใน "งานไม่ประจำ" เพราะทำให้เขาสามารถออกแบบชีวิตได้ ที่สำคัญนอกจากจะออกแบบชีวิตได้แล้ว ยังออกแบบรายได้เองได้อีกด้วย เขาทำได้...คุณเองก็ทำได้เช่นกัน!
สารบัญ
1. ผมมีความลับจะบอก
2. อิสรภาพ-ภาพอิสระ
3. 20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40
4. คนเดินห้างที่เปลี่ยนชีวิตผม
5. แบบสอบถาม : คุณเป็นคนแบบไหน?
6. Work with or Work for?
7. บริษัท "ฉันเอง" จำกัด
8. มนุษย์รอเงินเดือน?
9. ทั้งดึง ทั้งดูด
10. ไข่ในตระกร้าใบเดียว
ฯลฯ
คำนิยม
บอยเป็นตัวจริงเสียงจริง จุดที่เด่นมากๆ ก็คือเขาเขียนหนังสือดี ใช้คำไม่เยอะ แต่ทิ่มแทงได้ทะลุใจ
-- ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา --
พี่บอยคือนักผจญภัยที่รู้จักการใช้ชีวิต บนพื้นฐาน "ทุกอย่าง ข้าขอเลือกเอง" นั่นแหละที่มันเท่และน่าอ่านมาก
-- ภาววิทย์ กลิ่นประทุม --
ผมเคยเห็นเพื่อนสูญเสียจิตวิญญาณเพราะงานประจำที่น่าเบื่อ พวกเขา (และผม) น่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ
-- บัณฑิต อึ้งรังษี --
ภาษาของ "บอย" จะกระตุ้น "ต่อมอิสรภาพ" ของคุณ รับรองว่าอ่านหนังสือเล่มนี้จบ จะมีคนนอนไม่หลับหลายคน
-- หนุ่มเมืองจันท์ --
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 2
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 3
สารบัญข้อ 3 มันลอกบทความในเนตมานี่หว่า
ไอ้สำนักพิมพ์ซังกะบ๊วยเอ๊ยย
ไอ้สำนักพิมพ์ซังกะบ๊วยเอ๊ยย
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 4
อันนี้เขาเป็นคนเขียนคนแรกครับ แต่เวลาไปเผยแพร้ไม่ได้creadit ชื่อของผู้เขียนครับ ซึ่งเขาออกมาพิสูจน์แล้วว่า เขาเขียนเป็นคนแรกครับake.9991 เขียน:สารบัญข้อ 3 มันลอกบทความในเนตมานี่หว่า
ไอ้สำนักพิมพ์ซังกะบ๊วยเอ๊ยย
-
- Verified User
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 5
ใครอ่านแล้วเป็นไงบ้างครับ แนวๆการลาออกครั้งสุดท้ายรึป่าว เทียบกับการลาออกครั้งสุดท้ายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ผมเคยอ่าน 20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40 แล้วรู้สึกบางข้อก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่
all i need is Zero
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 7
ค้นหา 50ข้อคิด สู่อิสรภาพแห่งชีวิตในหนังสือ "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า"
13 กรกฎาคม 2556 11:23 น.
>>มาค้นหา 50ข้อคิด สู่อิสรภาพแห่งชีวิตใน "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า" หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ชวนให้คุณลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นอยู่แล้ว หรือกำลังอยากจะมีชีวิตอิสระ หนังสือเล่มนี้มีวิธีคิดและวิธีการอะไรบางอย่างที่ช่วยคุณได้ หรือแม้กระทั่งถ้าหากคุณยังรักที่จะทำงานประจำอยู่
มนุษย์ต้องการอิสรภาพ แค่ได้ยินคำว่า “อิสระ” ความฝันของแต่ละคนก็ผุดออกมา ทุ่งหญ้าสีเขียว ทะเลในวันแดดสวยและคนไม่พลุกพล่าน เวลาว่างสำหรับออกกำลังกาย ได้นอนตื่นสาย หรือการได้ทำงานในชุดนอน
เรื่องบางเรื่อง “งานประจำ” ทำไม่ได้ แต่กับ “งานไม่ประจำ”กลับทำได้ เทรนด์โลกเริ่มเทมาทางฟรีแลนซ์ ใครถนัดอะไรก็ทำในสิ่งที่รัก แล้วโชว์ออกมา ผลงานคือเนื้องานและคือค่าตอบแทน ไม่ได้มองกันที่เวลาเข้า-ออกงาน หรือเครื่องแต่งกายเวลาทำงาน
ผู้เชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้านต่างออกมามีอิสระในการทำงานมากขึ้น แถมตามมาด้วยรายได้ที่มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกๆคนจะต้องทำงาน “ไม่ประจำ” หากเป็นพนักงานประจำ ก็ไม่ต้องรีบร้อนลาออกมาเพื่ออิสรภาพ แต่ลองมองหาอะไรบางอย่างในใจ แล้วดึงออกมาทำคู่กัน และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เรามั่นใจว่า “งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า” เมื่อนั้นทุ่งหญ้าสีเขียวก็จะเข้ามาในชีวิต
:: ทำความรู้จัก วิสูตร แสงอรุณเลิศ (บอย) ผู็เขียน "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า"
คำถามที่ผมมักจะถูกถามประจำก็คือ "มาทำงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร?” และผมก็มักจะตอบว่า "คุณมีเวลาจะฟังใช่มั้ยครับ?” ที่ตอบแบบนั้นเพราะเส้นทางชีวิตของผมมันสนุกและเหลือเชื่อน่าดู
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด (พิษณุโลก) ผมเป็นเด็กเนิร์ด สอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียน จบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.95 ผมสอบคณิตศาสตร์ได้ที่ 2 ของประเทศ ผมเอนทรานซ์ติดคณะวิศวะ จุฬาฯ ทั้งๆ ที่ตอนมัธยมผมไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าจุฬาฯ คือมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ แล้ววิศวะเขาเรียนอะไรกัน ผมก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่าชอบฟังเพลง ชอบเล่นกีตาร์ ชีวิตมหาวิิทยาลัยของผมก็เลยอยู่ในห้องซ้อมดนตรีมากกว่าห้องเรียน จับกีตาร์บ่อยกว่าปากกา อ่านวรรณกรรมมากกว่าตำราเรียน และมีเทปคาสเส็ตสูงเป็นตั้งแทบจะชนเพดาน
รู้ตัวอีกทีผมก็จะจบปริญญาตรีแล้ว ทำยังไงดี? ผมถามตัวเอง เพราะไม่อยากไปทำงานอยู่ในไซต์งานก่อสร้างเหมือนเพื่อนๆ ที่จบวิศวะมาด้วยกัน ผมตัดสินใจซื้อเวลาด้วยการเรียนต่อปริญญาโทที่สถาบันเดิม คณะเดิม ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ชอบเลย ตอนนั้นผมอยากเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง หรือนักอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเพลง คิดว่าถ้าเรียนจบโทแล้วยังหาช่องทางไปสู่วงการดนตรีไม่ได้ ก็จะขอยอมแพ้แล้วไปทำงานวิศวะแต่โดยดี
แต่อกหักก็มีประโยชน์ของมัน เจ็บปวดจากอกหักในครั้งนั้นผมกลั่นมันออกมาเป็นเพลง ในห้องน้ำของห้อง 514 ชั้น 5 ราชเทวีอพาร์ทเมนท์ คือจุดกำเนิดความเป็นนักแต่งเพลงของผม ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกีตาร์โปร่งและซาวนด์เบาท์ ปิดประตู ปิดฝาชักโครก นั่งบนโถส้วม กดปุ่มบันทึกเสียงซาวด์เบาท์ (พูดตอนนี้แล้วเชยมาก) แล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงที่แต่งขึ้นมาเอง ผมส่งเพลงเหล่านี้ไปที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ทั้งที่ไม่รู้จักใคร มีเพียงชื่อที่คุ้นๆ ในปกเทปที่เห็นอยู่แทบทุกอัลบั้มว่า "นิติพงษ์ ห่อนาค"
หนึ่งเดือนผ่านไป (แต่เหมือนหนึ่งปี) โฟนลิงค์ดังขึ้น (อันนี้เชยกว่าซาวด์เบาท์อีก) มีข้อความเรียกให้ผมเข้าไปพบทีมนักแต่งเพลงย่านอโศก แปดเดือนหลังจากที่ผมต้องมาเรียนแต่งเพลงทุกสัปดาห์ ผมก็ได้ทำงานที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ในฐานะนักแต่งเพลงประจำ งานสบาย เงินดีพอใช้ เข้างานแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ นอกนั้นจะไปนั่งแต่งเพลงที่ไหนก็ได้ ถือว่าช่วงนั้นเป็นชีวิตที่ใช้ได้ทีเดียว เพราะได้ทำงานที่รักและได้เงินจากงานที่รัก
สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่วงการเพลงตกต่ำคือเรื่องจริง ไม่มีใครซื้อเพลงฟังอีกต่อไป แล้วนักแต่งเพลงจะเป็นอาชีพได้อย่างไร? แต่ถึงวงการเพลงจะตกต่ำ แต่เราก็ไม่ควรให้ชีวิตตกต่ำไปด้วย ผมคิดอย่างนั้น จึงออกหาโอกาสครั้งใหม่ แล้วชีวิตก็ลากผมขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา ผมได้ไปทำงานเป็นครีเอทีฟคลื่นวิทยุให้กับคลื่นที่ดังมากๆ ในตอนนั้นอย่าง the radio 99.5 ของ พี่หมึก วิโรจน์ ควันธรรม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรจ ควันธรรม) โดยที่พี่หมึกคงไม่รู้ว่าผมเป็นคนไม่ฟังวิทยุเลย ไม่นานผมก็ได้ทำงานเขียนสคริปต์รายการโทรทัศน์ของ พอล ภัทรพล ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนไม่ดูโทรทัศน์เลย ในเวลาต่อมา ผมก็ได้ทำงานเป็นบรรณาธิการของนิตยสารเซ็กซี่มีระดับอย่าง MiX Magazine ของคุณชโลทร ศิวารัตน์ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยทำงานนิตยสารมาก่่อนเลย
จากนั้นก็จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นบรรณาธิการหนังสือพ็อกเก๊ตบุ๊กด้านการลงทุนให้กับสำนักพิมพ์ Stock2morrow ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานระดับ Bestseller ทุกเล่ม ทั้งๆ ที่ผมไม่ใช่นักลงทุนอะไรเลย ตอนนั้นไม่รู้เรื่องหุ้นเลยสักนิด (แต่ตอนนี้ก็พอจะรู้ขึ้นมาบ้าง)
แถมปัจจุบันผมยังได้ไปเป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารในตำนานอย่าง "บันเทิงคดี" (ซึ่งกลับมาผงาดบนแผงอีกครั้ง) โดยมีเงื่อนไขที่สุดจะมันส์ว่า เราเป็น Virtual Office ทุกคนต่างทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งงานผ่านอีเมล ไม่ต้องมาทำงานจันทร์-ศุกร์ และจะมาเจอกันเมื่อมีเรื่องจำเป็นต้องเจอกันเท่านั้น
ปัจจุบันผมลาออกจากงานประจำทั้งหมดแล้ว ที่ทำงานใหม่ของผมคือ "ที่บ้าน" หัวหน้าคนใหม่ของผมคือ "ตัวผมเอง" และงานใหม่ของผมเรียกว่า "งานไม่ประจำ" ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องฝ่ารถติด ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน ไม่ต้องตอกบัตร มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาไปรับลูกที่โรงเรียน ไปเดินห้าง ไปดูหนังตอนที่คนน้อยๆ จะตื่นหรือนอนตอนไหนก็แล้วแต่ออกแบบเอง ที่ดีกว่านั้น ปรากฏว่า "งานไม่ประจำ" ของผมนั้น "ทำเงินกว่า" ตอนที่ทำงานประจำเสียอีก
หนังสือ "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า" ที่ผมเขียนขึ้นมาไม่ได้จะเชิญชวนให้ใครลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าใครอยากลาออก ผมมีวิธีคิดและวิธีการให้คุณ หรือถ้าใครยังอยากที่จะทำงานประจำอยู่ ผมก็มีข้อคิดที่จะทำให้คุณทำงานประจำได้ดีขึ้น เพราะผมอยู่มาแล้วทั้งโลกของงานประจำและงานไม่ประจำ :: Report by FLASH
13 กรกฎาคม 2556 11:23 น.
>>มาค้นหา 50ข้อคิด สู่อิสรภาพแห่งชีวิตใน "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า" หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ชวนให้คุณลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นอยู่แล้ว หรือกำลังอยากจะมีชีวิตอิสระ หนังสือเล่มนี้มีวิธีคิดและวิธีการอะไรบางอย่างที่ช่วยคุณได้ หรือแม้กระทั่งถ้าหากคุณยังรักที่จะทำงานประจำอยู่
มนุษย์ต้องการอิสรภาพ แค่ได้ยินคำว่า “อิสระ” ความฝันของแต่ละคนก็ผุดออกมา ทุ่งหญ้าสีเขียว ทะเลในวันแดดสวยและคนไม่พลุกพล่าน เวลาว่างสำหรับออกกำลังกาย ได้นอนตื่นสาย หรือการได้ทำงานในชุดนอน
เรื่องบางเรื่อง “งานประจำ” ทำไม่ได้ แต่กับ “งานไม่ประจำ”กลับทำได้ เทรนด์โลกเริ่มเทมาทางฟรีแลนซ์ ใครถนัดอะไรก็ทำในสิ่งที่รัก แล้วโชว์ออกมา ผลงานคือเนื้องานและคือค่าตอบแทน ไม่ได้มองกันที่เวลาเข้า-ออกงาน หรือเครื่องแต่งกายเวลาทำงาน
ผู้เชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้านต่างออกมามีอิสระในการทำงานมากขึ้น แถมตามมาด้วยรายได้ที่มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกๆคนจะต้องทำงาน “ไม่ประจำ” หากเป็นพนักงานประจำ ก็ไม่ต้องรีบร้อนลาออกมาเพื่ออิสรภาพ แต่ลองมองหาอะไรบางอย่างในใจ แล้วดึงออกมาทำคู่กัน และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เรามั่นใจว่า “งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า” เมื่อนั้นทุ่งหญ้าสีเขียวก็จะเข้ามาในชีวิต
:: ทำความรู้จัก วิสูตร แสงอรุณเลิศ (บอย) ผู็เขียน "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า"
คำถามที่ผมมักจะถูกถามประจำก็คือ "มาทำงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร?” และผมก็มักจะตอบว่า "คุณมีเวลาจะฟังใช่มั้ยครับ?” ที่ตอบแบบนั้นเพราะเส้นทางชีวิตของผมมันสนุกและเหลือเชื่อน่าดู
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด (พิษณุโลก) ผมเป็นเด็กเนิร์ด สอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียน จบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.95 ผมสอบคณิตศาสตร์ได้ที่ 2 ของประเทศ ผมเอนทรานซ์ติดคณะวิศวะ จุฬาฯ ทั้งๆ ที่ตอนมัธยมผมไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าจุฬาฯ คือมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ แล้ววิศวะเขาเรียนอะไรกัน ผมก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่าชอบฟังเพลง ชอบเล่นกีตาร์ ชีวิตมหาวิิทยาลัยของผมก็เลยอยู่ในห้องซ้อมดนตรีมากกว่าห้องเรียน จับกีตาร์บ่อยกว่าปากกา อ่านวรรณกรรมมากกว่าตำราเรียน และมีเทปคาสเส็ตสูงเป็นตั้งแทบจะชนเพดาน
รู้ตัวอีกทีผมก็จะจบปริญญาตรีแล้ว ทำยังไงดี? ผมถามตัวเอง เพราะไม่อยากไปทำงานอยู่ในไซต์งานก่อสร้างเหมือนเพื่อนๆ ที่จบวิศวะมาด้วยกัน ผมตัดสินใจซื้อเวลาด้วยการเรียนต่อปริญญาโทที่สถาบันเดิม คณะเดิม ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ชอบเลย ตอนนั้นผมอยากเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง หรือนักอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเพลง คิดว่าถ้าเรียนจบโทแล้วยังหาช่องทางไปสู่วงการดนตรีไม่ได้ ก็จะขอยอมแพ้แล้วไปทำงานวิศวะแต่โดยดี
แต่อกหักก็มีประโยชน์ของมัน เจ็บปวดจากอกหักในครั้งนั้นผมกลั่นมันออกมาเป็นเพลง ในห้องน้ำของห้อง 514 ชั้น 5 ราชเทวีอพาร์ทเมนท์ คือจุดกำเนิดความเป็นนักแต่งเพลงของผม ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกีตาร์โปร่งและซาวนด์เบาท์ ปิดประตู ปิดฝาชักโครก นั่งบนโถส้วม กดปุ่มบันทึกเสียงซาวด์เบาท์ (พูดตอนนี้แล้วเชยมาก) แล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงที่แต่งขึ้นมาเอง ผมส่งเพลงเหล่านี้ไปที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ทั้งที่ไม่รู้จักใคร มีเพียงชื่อที่คุ้นๆ ในปกเทปที่เห็นอยู่แทบทุกอัลบั้มว่า "นิติพงษ์ ห่อนาค"
หนึ่งเดือนผ่านไป (แต่เหมือนหนึ่งปี) โฟนลิงค์ดังขึ้น (อันนี้เชยกว่าซาวด์เบาท์อีก) มีข้อความเรียกให้ผมเข้าไปพบทีมนักแต่งเพลงย่านอโศก แปดเดือนหลังจากที่ผมต้องมาเรียนแต่งเพลงทุกสัปดาห์ ผมก็ได้ทำงานที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ในฐานะนักแต่งเพลงประจำ งานสบาย เงินดีพอใช้ เข้างานแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ นอกนั้นจะไปนั่งแต่งเพลงที่ไหนก็ได้ ถือว่าช่วงนั้นเป็นชีวิตที่ใช้ได้ทีเดียว เพราะได้ทำงานที่รักและได้เงินจากงานที่รัก
สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่วงการเพลงตกต่ำคือเรื่องจริง ไม่มีใครซื้อเพลงฟังอีกต่อไป แล้วนักแต่งเพลงจะเป็นอาชีพได้อย่างไร? แต่ถึงวงการเพลงจะตกต่ำ แต่เราก็ไม่ควรให้ชีวิตตกต่ำไปด้วย ผมคิดอย่างนั้น จึงออกหาโอกาสครั้งใหม่ แล้วชีวิตก็ลากผมขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา ผมได้ไปทำงานเป็นครีเอทีฟคลื่นวิทยุให้กับคลื่นที่ดังมากๆ ในตอนนั้นอย่าง the radio 99.5 ของ พี่หมึก วิโรจน์ ควันธรรม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรจ ควันธรรม) โดยที่พี่หมึกคงไม่รู้ว่าผมเป็นคนไม่ฟังวิทยุเลย ไม่นานผมก็ได้ทำงานเขียนสคริปต์รายการโทรทัศน์ของ พอล ภัทรพล ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนไม่ดูโทรทัศน์เลย ในเวลาต่อมา ผมก็ได้ทำงานเป็นบรรณาธิการของนิตยสารเซ็กซี่มีระดับอย่าง MiX Magazine ของคุณชโลทร ศิวารัตน์ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยทำงานนิตยสารมาก่่อนเลย
จากนั้นก็จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นบรรณาธิการหนังสือพ็อกเก๊ตบุ๊กด้านการลงทุนให้กับสำนักพิมพ์ Stock2morrow ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานระดับ Bestseller ทุกเล่ม ทั้งๆ ที่ผมไม่ใช่นักลงทุนอะไรเลย ตอนนั้นไม่รู้เรื่องหุ้นเลยสักนิด (แต่ตอนนี้ก็พอจะรู้ขึ้นมาบ้าง)
แถมปัจจุบันผมยังได้ไปเป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารในตำนานอย่าง "บันเทิงคดี" (ซึ่งกลับมาผงาดบนแผงอีกครั้ง) โดยมีเงื่อนไขที่สุดจะมันส์ว่า เราเป็น Virtual Office ทุกคนต่างทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งงานผ่านอีเมล ไม่ต้องมาทำงานจันทร์-ศุกร์ และจะมาเจอกันเมื่อมีเรื่องจำเป็นต้องเจอกันเท่านั้น
ปัจจุบันผมลาออกจากงานประจำทั้งหมดแล้ว ที่ทำงานใหม่ของผมคือ "ที่บ้าน" หัวหน้าคนใหม่ของผมคือ "ตัวผมเอง" และงานใหม่ของผมเรียกว่า "งานไม่ประจำ" ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องฝ่ารถติด ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน ไม่ต้องตอกบัตร มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาไปรับลูกที่โรงเรียน ไปเดินห้าง ไปดูหนังตอนที่คนน้อยๆ จะตื่นหรือนอนตอนไหนก็แล้วแต่ออกแบบเอง ที่ดีกว่านั้น ปรากฏว่า "งานไม่ประจำ" ของผมนั้น "ทำเงินกว่า" ตอนที่ทำงานประจำเสียอีก
หนังสือ "งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า" ที่ผมเขียนขึ้นมาไม่ได้จะเชิญชวนให้ใครลาออกจากงานประจำ แต่ถ้าใครอยากลาออก ผมมีวิธีคิดและวิธีการให้คุณ หรือถ้าใครยังอยากที่จะทำงานประจำอยู่ ผมก็มีข้อคิดที่จะทำให้คุณทำงานประจำได้ดีขึ้น เพราะผมอยู่มาแล้วทั้งโลกของงานประจำและงานไม่ประจำ :: Report by FLASH
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 8
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า/วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โพสต์ที่ 9
ถ้าคุณยังมีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน แต่ยังไม่พ้น 40 ปี คงจะต้องสะดุดกับข้อคิดโดน ๆ จากบทความ "20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40" จาก คุณ Wisoot Sangarunlert ที่เขียนลงใน นิตยสาร MiX ฉบับเดือนเมษายน 2556 ซึ่งเขียนเอาไว้บอกหนุ่ม-สาว ที่ยังไม่ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวกับการใช้ชีวิต โดยอ้างอิงมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนล้วน ๆ ใครอยากรู้ว่าทั้ง 20 ข้อจะตรงใจขนาดไหน ต้องลองไปอ่านบทความดี ๆ ชิ้นนี้พร้อมกันเลยจ้า
20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40
1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงานไม่ใช่ที่เกรด
2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก พอ ๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง
4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่า และสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณในชาตินี้ตลอดไป
6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว
8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรกสู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน
9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้ว่า วันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้
12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ
13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์
14. สร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก
15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดี ๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
17. การมีแฟน หรือสามี-ภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็น พ่อ-แม่-ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดี ๆ
18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
19. ลองหาเวลาอยู่ว่าง ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่าง งานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอมตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป
ทั้งนี้ ผู้เขียนย้ำว่า "ทั้ง 20 ข้อนี้นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ซึ่งไม่มีวันใช้ได้จริงกับทุกคนครับ" ว่าแต่อ่านจบแล้ว .. มีข้อไหนที่โดนใจกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ?
จาก Kapook.com
20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40
1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงานไม่ใช่ที่เกรด
2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก พอ ๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง
4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่า และสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณในชาตินี้ตลอดไป
6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว
8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรกสู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน
9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้ว่า วันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้
12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ
13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์
14. สร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก
15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดี ๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
17. การมีแฟน หรือสามี-ภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็น พ่อ-แม่-ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดี ๆ
18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
19. ลองหาเวลาอยู่ว่าง ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่าง งานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอมตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป
ทั้งนี้ ผู้เขียนย้ำว่า "ทั้ง 20 ข้อนี้นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ซึ่งไม่มีวันใช้ได้จริงกับทุกคนครับ" ว่าแต่อ่านจบแล้ว .. มีข้อไหนที่โดนใจกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ?
จาก Kapook.com