ขยายขอบเขตความรู้ : ในด้านรูปแบบธุรกิจ อย่างไรดี?

[TissueThiti]

ช่วงนี้ตลาดผันผวนสูงและเงินสดในมือก็ไม่มี (เพราะมีน้อยอยู่แล้วด้วย )
เลยนับเป็นโอกาสที่ดีที่จะหยุดแล้วหันมาขยายความรู้ความเข้าใจในธุรกิจรูปแบบต่างๆ
เพราะผมเชื่อว่าคงไม่มีใครที่เข้าใจธุรกิจในทุกรูปแบบ อย่างเช่น
บางท่านอาจเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับธุรกิจส่งออก แต่ก็อาจไม่สันทัดในด้านธุรกิจพลังงาน หรืออะไรทำนองนั้น

ผมเลยอยากสอบถามทุกท่านเป็นแนวทางในการศึกษาครับ ว่าเราควรจะมีแนวทางอย่างไรในการศึกษาธุรกิจที่เราไม่เข้าใจ
เพราะอย่างผมยังไม่มีประสบการณ์ทำงานในบริษัทผลิตชิ้นส่วน จึงเริ่มด้วยการอ่านกระทู้ อ่าน 56-1 ฯลฯ ไปเรื่อยๆ
กว่าจะเริ่มเข้าใจว่าธุรกิจได้กำไรมาจากส่วนใดและมีรูปแบบการหารายได้อย่างไรบ้าง
หรือ"มีธรรมชาติของธุรกิจนั้นๆอย่างไร" ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (ทุกวันนี้ก็ยังมึนๆอยู่ )

และทุกครั้งที่ได้อ่านคำพูดของหลาย ๆ ท่านในนี้ว่า หุ้นในตลาดมีตั้ง 500 กว่าตัว มีของที่ดีกว่าให้เลือกเสมอ
แต่ผมกลับสามารถพิจารณาได้เพียงไม่กี่ตัว มันย่อมเหมือนผมเสียโอกาสอยู่ตลอดเวลา

จึงอยากขอคำชี้แนะจากทุกท่าน
ขอบคุณครับผม

[BoatAttasit]

ผมก็เข้าใจธุรกิจน้อยประเภทเช่นกัน มาติดตามอ่านด้วยคนครับ

แต่ผมว่าความจริงเราไม่จำเป็นต้องลงทุนในธุรกิจทุกรูปแบบก็ได้นะครับ

warren buffet เขาก็ชอบธุรกิจที่เข้าใจได้ไม่ยาก
ส่วนอ.นิเวศน์ก็ชอบหุ้นหลักๆอยู่ไม่กี่กลุ่มเอง

[Auggie]

ผมใช้วิธี อัด MP3 ที่ทุกๆท่านในเวปนี้ช่วยกันแปลงไฟล์เป็น MP3 แล้วเอาไปฟังในรถ ขับรถเบื่อๆ นั่งฟังก็ได้รับความรู้เรื่องใหม่ๆ ฟังธุรกิจที่เราไม่เคยสนใจ ผ่านๆ หู มันจะมีประเด็นให้เราคิดได้ทุกครั้งที่ฟัง

ทั้งนี้ยังรวมถึงพวก สัมมนาต่างๆ ที่มีอยู่ใน youtube ก็นำมาแปลงไฟล์แล้วไปฟังในรถได้เช่นกันครับ

[lmagine]

ผมใช้วิธี อัด MP3 ที่ทุกๆท่านในเวปนี้ช่วยกันแปลงไฟล์เป็น MP3 แล้วเอาไปฟังในรถ ขับรถเบื่อๆ นั่งฟังก็ได้รับความรู้เรื่องใหม่ๆ ฟังธุรกิจที่เราไม่เคยสนใจ ผ่านๆ หู มันจะมีประเด็นให้เราคิดได้ทุกครั้งที่ฟัง

ทั้งนี้ยังรวมถึงพวก สัมมนาต่างๆ ที่มีอยู่ใน youtube ก็นำมาแปลงไฟล์แล้วไปฟังในรถได้เช่นกันครับ

ไฟล์Mp3 ไปโหลดได้ที่ไหนครับ น่าสนใจ

[BeSmile]

ต้องลองมองในมุม บริษัทดูบ้างครับ

เริ่มต้นที่แผนก marketing แล้ว ฝ่ายผลิต ดูลูกค้า คู่แข่ง

เอาตำรา มาเทียบ เช่น 4P หรือ five force model

หา จุดอ่อน จุดแข็ง อื่น ๆ

ก็น่าจะเข้าใจธุรกิจ ได้ในระดับหนึ่ง

ดูที่ละบริษัท อาจใช้ เวลา 3 4 เดือน หรือ 1 2 วัน ขึ้นกับความคุ้นเคย และเวลาที่ใช้ในการทำความเข้าใจ

ถ้าเข้าใจลึกซึ้งขึ้น ก็จะมองเห็น แนวโน้ม การทำธุรกิจต่อไปในอนาคต เมื่อมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากระทบ แผนการทธุรกิจ

แต่ก็อย่าไปยึดมั่นมากในสิ่งที่คาดการณ์ เพราะ MD บริษัท ที่น่าจะรู้ดีที่สุด ยังประมาณการณ์ได้คร่าว ๆ เลย

[kotaro]

ลองอ่านพวก แผนธุรกิจ ดูสิครับ

ในหลายๆอุตสาหกรรมดู ลองนึกภาพว่าเรากำลังจะทำธุรกิจในอุตฯ นั้นๆ
ตั้งคำถาม และ หาคำตอบ พอช่วยได้ครับ

https://sites.google.com/site/ibusiness ... en-thurkic

[Tibular]

ฟังข่าว อ่านข่าว เข้าสัมนา อ่านหนังสือ แมกกาซีน คอลัมม์ต่างๆ 56-1 รายงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงาน บทวิเคราะห์ของผู้บริหาร รายงานการประชุม เยอะๆคับ
แล้วมาลองดูงบการเงินของบริษัทต่างๆดู

ตีให้ออก ว่าเค้ามียอดขายจากอะไร ต้นทุนของเค้าคืออะไร
กำไรเค้ามีมาจิ้นเท่าไหร่ เพราะอะไร และต่อไปจะเป็นยังไง

ดูงบดุลขนาดสินทรัพย์ที่ใช้ หมุนเวียนเยอะ หรือน้อย เพราะอะไร
ลงทุนเยอะไหม มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่มาก เพราะอะไร
ลูกหนี้เยอะไหม ลูกหนี้น้อยเพราะอะไร สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น หรือลดลงเพราะอะไร
และต่อไปจะเป็นยังไง

เงินสดหมุนเวียนมากน้อย มาจากไหน ค่าเสื่อมราคาเยอะ น้อย เพราะอะไร
เงินสดมากน้อย เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะกำไรมาขึ้น ขายของมากขึ้น
หรือเพราะลูกหนี้น้อยลง สินค้าคงเหลือน้อยลง เพราะอะไร หรือทำไม ต่อไปจะเป็นอย่างไร

ไล่ไปเรื่อยๆคับ เก็บสะสมไป ใช้เวลาหน่อย ปี สองปี สามปี ก็จะพอเข้าใจมากขึ้นๆ

จนเห็นหุ้นปุ๊ป รู้สตอรี่ปั๊ป แบบไม่ต้องคิดเลย

อึดไว้ก่อนคับ แรกๆไม่รู้เรื่อง ก็ทนๆอ่านไปเรื่อยๆ จะเกิดผลแน่นอน

[forward]

ฟังข่าว อ่านข่าว เข้าสัมนา อ่านหนังสือ แมกกาซีน คอลัมม์ต่างๆ 56-1 รายงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงาน บทวิเคราะห์ของผู้บริหาร รายงานการประชุม เยอะๆคับ
แล้วมาลองดูงบการเงินของบริษัทต่างๆดู

ตีให้ออก ว่าเค้ามียอดขายจากอะไร ต้นทุนของเค้าคืออะไร
กำไรเค้ามีมาจิ้นเท่าไหร่ เพราะอะไร และต่อไปจะเป็นยังไง

ดูงบดุลขนาดสินทรัพย์ที่ใช้ หมุนเวียนเยอะ หรือน้อย เพราะอะไร
ลงทุนเยอะไหม มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่มาก เพราะอะไร
ลูกหนี้เยอะไหม ลูกหนี้น้อยเพราะอะไร สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น หรือลดลงเพราะอะไร
และต่อไปจะเป็นยังไง

เงินสดหมุนเวียนมากน้อย มาจากไหน ค่าเสื่อมราคาเยอะ น้อย เพราะอะไร
เงินสดมากน้อย เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะกำไรมาขึ้น ขายของมากขึ้น
หรือเพราะลูกหนี้น้อยลง สินค้าคงเหลือน้อยลง เพราะอะไร หรือทำไม ต่อไปจะเป็นอย่างไร

ไล่ไปเรื่อยๆคับ เก็บสะสมไป ใช้เวลาหน่อย ปี สองปี สามปี ก็จะพอเข้าใจมากขึ้นๆ

จนเห็นหุ้นปุ๊ป รู้สตอรี่ปั๊ป แบบไม่ต้องคิดเลย

อึดไว้ก่อนคับ แรกๆไม่รู้เรื่อง ก็ทนๆอ่านไปเรื่อยๆ จะเกิดผลแน่นอน
ฟังข่าว อ่านข่าว เข้าสัมนา อ่านหนังสือ แมกกาซีน คอลัมม์ต่างๆ 56-1 รายงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงาน บทวิเคราะห์ของผู้บริหาร รายงานการประชุม เยอะๆคับ
แล้วมาลองดูงบการเงินของบริษัทต่างๆดู

ตีให้ออก ว่าเค้ามียอดขายจากอะไร ต้นทุนของเค้าคืออะไร
กำไรเค้ามีมาจิ้นเท่าไหร่ เพราะอะไร และต่อไปจะเป็นยังไง

ดูงบดุลขนาดสินทรัพย์ที่ใช้ หมุนเวียนเยอะ หรือน้อย เพราะอะไร
ลงทุนเยอะไหม มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่มาก เพราะอะไร
ลูกหนี้เยอะไหม ลูกหนี้น้อยเพราะอะไร สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น หรือลดลงเพราะอะไร
และต่อไปจะเป็นยังไง

เงินสดหมุนเวียนมากน้อย มาจากไหน ค่าเสื่อมราคาเยอะ น้อย เพราะอะไร
เงินสดมากน้อย เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะกำไรมาขึ้น ขายของมากขึ้น
หรือเพราะลูกหนี้น้อยลง สินค้าคงเหลือน้อยลง เพราะอะไร หรือทำไม ต่อไปจะเป็นอย่างไร

ไล่ไปเรื่อยๆคับ เก็บสะสมไป ใช้เวลาหน่อย ปี สองปี สามปี ก็จะพอเข้าใจมากขึ้นๆ

จนเห็นหุ้นปุ๊ป รู้สตอรี่ปั๊ป แบบไม่ต้องคิดเลย

อึดไว้ก่อนคับ แรกๆไม่รู้เรื่อง ก็ทนๆอ่านไปเรื่อยๆ จะเกิดผลแน่นอน

ตามคุณ Tibular โพสต์ใช่เลยครับ

อ่าน คิด ถาม สังเกตุ

[TissueThiti]

ต้องลองมองในมุม บริษัทดูบ้างครับ

เริ่มต้นที่แผนก marketing แล้ว ฝ่ายผลิต ดูลูกค้า คู่แข่ง

เอาตำรา มาเทียบ เช่น 4P หรือ five force model

หา จุดอ่อน จุดแข็ง อื่น ๆ

ก็น่าจะเข้าใจธุรกิจ ได้ในระดับหนึ่ง

ดูที่ละบริษัท อาจใช้ เวลา 3 4 เดือน หรือ 1 2 วัน ขึ้นกับความคุ้นเคย และเวลาที่ใช้ในการทำความเข้าใจ

ถ้าเข้าใจลึกซึ้งขึ้น ก็จะมองเห็น แนวโน้ม การทำธุรกิจต่อไปในอนาคต เมื่อมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากระทบ แผนการทธุรกิจ

แต่ก็อย่าไปยึดมั่นมากในสิ่งที่คาดการณ์ เพราะ MD บริษัท ที่น่าจะรู้ดีที่สุด ยังประมาณการณ์ได้คร่าว ๆ เลย

ขอบคุณครับ เป็นแนวคิดที่น่าสนดี ผมก็ลืมนึกไปเลยทำไมไม่ลองจับเข้าแนวทฤษฎีต่างๆ -O-
จะได้มีแปลนคร่าวๆในหัว

[TissueThiti]

ฟังข่าว อ่านข่าว เข้าสัมนา อ่านหนังสือ แมกกาซีน คอลัมม์ต่างๆ 56-1 รายงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงาน บทวิเคราะห์ของผู้บริหาร รายงานการประชุม เยอะๆคับ
แล้วมาลองดูงบการเงินของบริษัทต่างๆดู

ตีให้ออก ว่าเค้ามียอดขายจากอะไร ต้นทุนของเค้าคืออะไร
กำไรเค้ามีมาจิ้นเท่าไหร่ เพราะอะไร และต่อไปจะเป็นยังไง

ดูงบดุลขนาดสินทรัพย์ที่ใช้ หมุนเวียนเยอะ หรือน้อย เพราะอะไร
ลงทุนเยอะไหม มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นสัดส่วนที่มาก เพราะอะไร
ลูกหนี้เยอะไหม ลูกหนี้น้อยเพราะอะไร สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น หรือลดลงเพราะอะไร
และต่อไปจะเป็นยังไง

เงินสดหมุนเวียนมากน้อย มาจากไหน ค่าเสื่อมราคาเยอะ น้อย เพราะอะไร
เงินสดมากน้อย เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะกำไรมาขึ้น ขายของมากขึ้น
หรือเพราะลูกหนี้น้อยลง สินค้าคงเหลือน้อยลง เพราะอะไร หรือทำไม ต่อไปจะเป็นอย่างไร

ไล่ไปเรื่อยๆคับ เก็บสะสมไป ใช้เวลาหน่อย ปี สองปี สามปี ก็จะพอเข้าใจมากขึ้นๆ

จนเห็นหุ้นปุ๊ป รู้สตอรี่ปั๊ป แบบไม่ต้องคิดเลย

อึดไว้ก่อนคับ แรกๆไม่รู้เรื่อง ก็ทนๆอ่านไปเรื่อยๆ จะเกิดผลแน่นอน

อ่านแล้วแอบท้อพอสมควร 5555 แต่ผมเห็นด้วยนะครับ
แม้ตอนเริ่มต้นอาจจะเหมือนไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอทนไปเรื่อยๆ มันก็เข้าใจมากขึ้นจริงๆ
ถ้ายังทนต่อไหว อีก3-4ปี จะลองมารายงานผลให้ฟังนะครับ ขอบคุณครับผม

[kongkiti]

อ่านแล้วแอบท้อพอสมควร 5555 แต่ผมเห็นด้วยนะครับ
แม้ตอนเริ่มต้นอาจจะเหมือนไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอทนไปเรื่อยๆ มันก็เข้าใจมากขึ้นจริงๆ
ถ้ายังทนต่อไหว อีก3-4ปี จะลองมารายงานผลให้ฟังนะครับ ขอบคุณครับผม

ผมว่า หากต้องทนอ่าน คงไม่ดีเท่าไหร่มั้งครับ
ลองหา Sector ที่เราชอบ หรือ พอมีความรู้พื้นฐานดีกว่าไหมครับ...
เริ่มต้นจาก ความชอบ (ฉันทะ) ก่อน น่าจะไปได้เร็วครับ
สู้ๆ ครับ อนาคตสดใสรอเราอยู่

[Plant]

ขอเสริมจากประสบการณ์อันน้อยนิดกระติ๊ดของกระผมครับ...^^)
ของผมมองว่าเราควรศึกษาธุรกิจที่เราเข้าใจดี ให้แตก!!ก่อนเลยครับ
รู้เกือบจะทุกอย่างของธุรกิจ แล้วเวลาเราไปมองธุรกิจอื่น ผมจะใช้วิธีตั้งคำถาม
หาภาพคร่าวๆของธุรกิจนั้นก่อน เช่น
รายได้มาจากช่องทางไหน?เงินสดหรือเงินเชื่อ?(โครงสร้างรายได้)
ลูกค้าเขาเป็นใคร?เป็นบริษัท ผู้บริโภคทั่วไป หรือภาครัฐ
แล้วอะไรจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตในอนาคต?(โอกาส)
แล้วปัจจัยไหนจะทำให้ธุรกิจล้มเหลว?(ความเสี่ยง)

ประมานนี้ครับ ซึ่งเวลาผมตั้งคำถามใหญ่ๆแล้วเราไปค้นหาคำตอบ
ย่อยๆ เราก็จะได้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับตัวธุรกิจ ซึ่งหลายๆครั้งผมวิเคราะห์
ไปแล้วเริ่มจะไม่เข้าใจ จนถึงกับงงว่ามันคืออะไร แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง
ผมก็จะเลิกดูต่อ เพราะผมถือว่าผมไม่เข้าใจหุ้นตัวนั้นครับ ผมยึดกฎที่ว่า
"จงลงทุนในสิ่งที่คุณรู้และเข้าใจ" ถ้าเราเริ่มไม่เข้าใจธุรกิจ ผมก็จะตัดทิ้งทันทีครับ
ส่วนจุดไหนที่จะบอกได้ว่า ตรงนี้ควรเลิก หรือตรงนี้น่าจะศึกษาต่อ คุณเท่านั้นที่บอก
ตัวเองได้ครับ...^^)

[raynus]

ผมใช้วิธีดู opp day สะสมไว้เยอะๆครับ

เพราะหลายๆครั้ง ผบห จะกล่าวถึงลักษณะของธุรกิจ และ อุตสาหกรรมไว้ด้วย

พอดูเข้าเยอะๆมันก็สะสมมากขึ้น

พอเจอหุ้นที่ไม่มีใน oppday ก็เริ่มทำความเข้าใจได้ง่าย


ไม่น่าเบื่อด้วยครับ มีทั้งภาพและเสียง

[imerlot]

"มีธรรมชาติของธุรกิจนั้นๆอย่างไร"??

ถ้าในขบวนการของ Value Investment Concept แล้ว

1. ควรริ่เริ่ม จากการแยกให้ออก ระหว่าง
ก. commodities business
ข. High Value Added (HVA) business
(ยังไม่ ไปถึง Sustainability business)

โดย เช่น อาจฟัง สัมนาที่ ผู้บริหารชั้นนำไปพูดก็ได้ เช่น
http://www.youtube.com/watch?v=99O6nauz48A
{ใน http://www.youtube.com/moneytalkchannel}
งานเสวนา มองไปในอนาคตกับสุดยอด CEO วิศวฯ จุฬาฯ 1
นาที 1:36:52 คุณ กานต์ SCG พูดถึง HVA

หรือจาก ต.ย
SCG ในยุค Creative Economy
http://www.brandage.com/Modules/Desktop ... oupID=1218


2. แยกให้ออก ระหว่าง
ก. Low Moat Business
ข. Wide Moat Business
อันนี้ ผมก็กำลัง เก็บความรู้ อยู่
โดยตามอ่าน ลุงบัฟ ลุงมังเกอร์
เช่นจาก
http://www.tilsonfunds.com/motley_berks ... eeches.php
ส่วนอันนี้ ผมเคย เก็บตกไว้เล็กน้อย
Post subject: 'Wide Economic Moat'
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=52403

3. แยกให้ออก ระหว่าง
ก. Low Sustainability Business
ข. High Sustainability Business (หรือ Responsible Investment)
ธุรกิจที่มีประโยชน์ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะรักษ์โลกว่างั้น
จะอธิบายโดยไปอ่าน
Call It What You Like — New Investing Approach Gains Followers
โดย By Lisa Woll May 16, 2013
http://www.bloomberg.com/news/2013-05-1 ... owers.html

หรือ ที่เคยเขียนไว้ใน
Post subject: Re: ฝึก..จากมีดบิน..ลี้คิมฮวง
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 7&start=30
"แต่บัดนี้เราเข้าใจแล้ว คุณค่าที่แท้จริงของอาวุธชนิดใดก็ตาม..
มิใช่อยู่ที่ตัวมันเอง..แต่อยู่ที่เรื่องที่มันกระทำ"

คุณค่าของ.หุ้นที่ดีก็ไม่ได้อยู่ที่ตัว มันเอง..แต่อยู่ที่เรื่องที่มันกระทำ

เช่น เรื่อง ขวดน้ำดื่ม "อีโค-ครัช”
หรือ ตอน ลุงบัฟไปซื้อ Heinz
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 8&start=30

For example, Heinz announced a groundbreaking partnership in February 2011 that enables us to manufacture fully recyclable ketchup bottles using The Coca-Cola Company's PlantBottle™ technology. Up to 30% of the PlantBottle packaging material comes from a renewable source – plants – unlike traditional plastic bottles made from non-renewable fossil fuels.

...
ยาวไปนิด..
ผิดถูกขออภัย
เป็นแนว "ความคิด"
ลองไป ต่อยอดดู
..

[dojii]

ผมนั่งดู oppday เกือบทุกบริษัท
ว่างเมื่อไรก็ค่อยเปิดมาดู
สำหรับผม ช่วยให้เข้าใจในธุรกิจที่ไม่คุ้นเคยมากขึ้น
บางธุรกิจอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เราสนใจอยู่

บางคำถาม ถามในมุมที่เราไม่เคยคิด
CEO บางท่าน ตอบคำถามในมุมที่เราคาดไม่ถึง

สำหรับผม ได้ประโยชน์มากครับ

ส่วนที่เหลือ หาหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ ที่ไม่เกี่ยวกับหุ้นอ่านเพิ่มเติม

[นายมานะ]

เวลาผมสนใจในธุรกิจไหน ผมจะเริ่มจากอ่าน 56-1 กับกระทู้ในห้องร้อยคนรอยหุ้นครับ แล้วก็นอกจากบริษัทนั้นๆ แล้วผมจะทำแบบเดียวกันกับบริษัทคู่แข่งด้วยเพื่อให้เห็นภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมครับ ผมมีเวลาน้อยจึงไม่อาจจะศึกษาละเอียดได้ จึงใช้วิธีนี้ครับ

[Lastpun]

อ่าน 56-1 เยอะๆครับหรือทางเลือกที่น่าสนใจก็คือเข้า youtube แล้วดู money talk weekly ย้อนหลัง แนวทางนี้ได้ความรู้เกี่ยวกับบมจ + สนุกอีกด้วย

[TissueThiti]

ขอบคุณทุกความเห็นมากจริง ๆ ครับ
พึ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านใหม่ ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเล็กน้อย

อยากถามเพิ่มเติม แล้วสำหรับบริษัทที่ซับซ้อนมีบริษัทลูกมากมายจริงๆ
เช่น BGH PTT CPF ฯลฯ ทุกท่านใช้วิธีใดมองรูปแบบหรืออนาคตของบริษัทครับ

เพราะผมรู้สึกว่าซับซ้อนมากจริงๆ เช่น บริษัทย่อย A อนาคตน่าจะเติบโตดี แต่บริษัทย่อย B น่าจะทรงๆ
รายละเอียดเรื่องรายได้หรือกลไกการได้มาของรายได้อุรุงตุงนังไปหมด
แล้วเราจะบวกลบคูณหารอย่างไรจนออกมาเป็นบริษัทใหญ่ได้ครับ
เพราะผมค่อนข้างอยากเข้าใจบริษัทเหล่านี้พอสมควร เพราะส่วนมากมักจะเป็นบริษัทนำตลาดในแต่ละเซกชั่น

ขอบคุณครับผม

[Plant]

สำหรับตัวผมแล้ว ผมจะไม่ได้วิเคราะห์บริษัทใหญ่ๆพวกนี้ครับ ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1) บริษัทใหญ่ๆพวกนี้จะเป็นที่จับตามองของทุกๆคน ดังนั้นหุ้นจะไม่ค่อยมี mos เพราะทุกคนเห็นค่า
ของมันหมด ราคาจึงสะท้อนความเป็นจริงของบริษัท+ความเชื่อมั่นของการเติบโตในอนาคต หุ้นแบบนี้
ถ้าเราซื้อคือมองอย่างเดียวว่าอนาคตจะดี แต่ไม่ได้ซื้อเพราะของถูกครับ

2)อย่างที่คุณ "Tissue Thiti" บอกแหละครับว่ามันประเมินธุรกิจยาก!!! เพราะพอบริษัทเติบโตมากๆ
ก็มักจะแตกสายผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจมากขึ้น จนไม่รู้ว่าธุรกิจไหนดี ธุรกิจไหนไม่ดี แล้วที่ว่าดีมันมีผลต่อ
บริษัทแม่มากน้อยแค่ไหน ผมจึงมักประเมินบริษัทที่ยังไม่ใหญ่มาก หรือธุรกิจที่ผมรู้จักดีครับ

ปล. ผมมีอยู่ตัวนึงเหมือนกันที่เป็นธุรกิจใหญ่ ผมซื้อเพื่อหวังเงินปันผลอย่างเดียว
แล้วก็พอจะมั่นใจในบริษัท ส่วนเรื่องโครงสร้างของธุรกิจแทบไม่ได้วิเคราะห์เลยครับ
เพราะเห็นรายงานประจำปีเล่มอย่างหนา!!! ก็หมดแรงแล้วครับเหอๆๆ...^^)

[dojii]

ถ้ายากเกินไปสำหรับเรา ก็ข้ามไปก่อนดีกว่า
เลือกเฉพาะที่เราพอจะเข้าใจได้
มีบริษัทมากมายในตลาด ให้เราเลือกครับ

[Auggie]

ผมใช้วิธี อัด MP3 ที่ทุกๆท่านในเวปนี้ช่วยกันแปลงไฟล์เป็น MP3 แล้วเอาไปฟังในรถ ขับรถเบื่อๆ นั่งฟังก็ได้รับความรู้เรื่องใหม่ๆ ฟังธุรกิจที่เราไม่เคยสนใจ ผ่านๆ หู มันจะมีประเด็นให้เราคิดได้ทุกครั้งที่ฟัง

ทั้งนี้ยังรวมถึงพวก สัมมนาต่างๆ ที่มีอยู่ใน youtube ก็นำมาแปลงไฟล์แล้วไปฟังในรถได้เช่นกันครับ

ไฟล์Mp3 ไปโหลดได้ที่ไหนครับ น่าสนใจ

เพิ่มเติมครับ

ผมมี Link ประจำใน Youtube ที่ไว้ดูบ่อยๆ

https://www.youtube.com/playlist?list=P ... l2X21mcoIu

https://www.youtube.com/playlist?list=P ... EV-NcTr5YI

https://www.youtube.com/user/MoneyTalkChannel

แล้วใช้โปรแกรม แปลง Youtube เป็น MP3 (สบายใจได้ครับ ตัวนี้เป็น Freeware ครับ)

โปรแกรมแปลงไฟล์
http://www.dvdvideosoft.com/products/dv ... dWhIjtkOSo

ลองทำดูครับ ติดตรงไหนอย่างไรแจ้งได้นะครับ ^^
ตอนนี้ผมฟังไปทำไปได้ 12 แผ่นแล้วครับ ทั้ง opp day + สัมมนา แล้วจะทำให้เวลารถติดไม่เบื่ออีกต่อไปครับ