ถ้าถึงตอนนั้นอเมริกาเป็นผู้ส่งออกจริง
ผู้รู้คิดว่าเขาอยากส่งออกน้ำมันในราคาถูก หรือ ราคาแพงครับ
ขอเหตุผลด้วยครับ
อยากถามผู้รู้เกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซจากอเมริกาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1475
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากถามผู้รู้เกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซจากอเมริกาคร
โพสต์ที่ 2
เชื่อว่าจะส่งออกแค่ก๊าซครับ ใช้ราคาอ้างอิง Henry Hub บวกส่วนเพิ่ม ส่วนน้ำมันไม่น่าจะส่งออกเพราะอเมริกายังขาดแคลนน้ำมันเยอะครับ ฝั่ง East Coast ยังต้องนำเข้าน้ำมันที่ราคา Brent เพราะท่อส่งน้ำมันจาก Oklahoma ที่ราคา WTI มีไม่พอใช้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากถามผู้รู้เกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซจากอเมริกาคร
โพสต์ที่ 3
“โอเปก”ชี้ ปีหน้าจีนจะแซงหน้าสหรัฐ ขึ้นแท่นประเทศผู้ “นำเข้าน้ำมัน” รายใหญ่สุดในโลก
“โอเปก” กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกเผยในวันพุธ (3) โดยระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนใกล้จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน รายใหญ่ที่สุดของโลกแล้วโดยระบุ ภายในปี 2014 หรือ 1 ปีข้างหน้า จีนจะขึ้นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแทนที่สหรัฐฯ จากความต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของแดนมังกร สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังอยู่ใน “เมฆหมอกแห่งความอึมครึม” ของสหรัฐฯ
ข้อมูล ของกลุ่มโอเปกซึ่งก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1960และมีสมาชิกในปัจจุบัน 12 ประเทศระบุ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนจะทะลุหลัก 6 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2013 นี้อย่างแน่นอน สวนทางกับปริมาณการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วซึ่งสหรัฐฯมียอดการนำเข้าน้ำมันลดลงถึง 21 เปอร์เซ็นต์
รายงาน ของโอเปกระบุว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ เป็น5.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังคงมีแนวโน้มที่จีนจะเพิ่มการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งหากแนวโน้มยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลให้จีนก้าวขึ้นแท่นเป็นประเทศ ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกแทนที่สหรัฐฯได้ในปีหน้า
ขณะที่สหรัฐฯซึ่งครองแชมป์มายาวนานดูจะหันไปให้ความสำคัญกับการสำรวจ ขุดเจาะ และใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานในประเทศของตัวเองแทน
ทั้ง นี้ ข้อมูลระบุว่า 10 ประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันสูงที่สุดของโลกในปีที่ผ่านมาประกอบด้วย สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เยอรมนี เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และสิงคโปร์ตามลำดับ
ที่มา : money channel (วันที่ 3 เมษายน 2556)
http://www.rubberthai.com/rubberthai/in ... 4-03-57-14
จากข่าวนี้แปลว่าอเมริกานำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ส่วนการส่งออก LPG นั้นต้องลงทุนอีกมากและอาจไม่คุ้มค่า ปัจจุบัน shale gas ที่ขุดได้ใช้อยู่เฉพาะภายในประเทศโดยส่งตามท่อที่ลงทุนสร้างโครงข่ายไว้ทั่วประเทศอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ทำให้ต้นทุนถูก แต่ถ้าจะออกมาขายต่างประเทศจะต้องทำให้เป็นของเหลวก่อน เป็น LPG แล้วส่งขายทางเรือ
“โอเปก” กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกเผยในวันพุธ (3) โดยระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนใกล้จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน รายใหญ่ที่สุดของโลกแล้วโดยระบุ ภายในปี 2014 หรือ 1 ปีข้างหน้า จีนจะขึ้นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแทนที่สหรัฐฯ จากความต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของแดนมังกร สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังอยู่ใน “เมฆหมอกแห่งความอึมครึม” ของสหรัฐฯ
ข้อมูล ของกลุ่มโอเปกซึ่งก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1960และมีสมาชิกในปัจจุบัน 12 ประเทศระบุ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนจะทะลุหลัก 6 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2013 นี้อย่างแน่นอน สวนทางกับปริมาณการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วซึ่งสหรัฐฯมียอดการนำเข้าน้ำมันลดลงถึง 21 เปอร์เซ็นต์
รายงาน ของโอเปกระบุว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ เป็น5.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังคงมีแนวโน้มที่จีนจะเพิ่มการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งหากแนวโน้มยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลให้จีนก้าวขึ้นแท่นเป็นประเทศ ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกแทนที่สหรัฐฯได้ในปีหน้า
ขณะที่สหรัฐฯซึ่งครองแชมป์มายาวนานดูจะหันไปให้ความสำคัญกับการสำรวจ ขุดเจาะ และใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานในประเทศของตัวเองแทน
ทั้ง นี้ ข้อมูลระบุว่า 10 ประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันสูงที่สุดของโลกในปีที่ผ่านมาประกอบด้วย สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เยอรมนี เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และสิงคโปร์ตามลำดับ
ที่มา : money channel (วันที่ 3 เมษายน 2556)
http://www.rubberthai.com/rubberthai/in ... 4-03-57-14
จากข่าวนี้แปลว่าอเมริกานำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ส่วนการส่งออก LPG นั้นต้องลงทุนอีกมากและอาจไม่คุ้มค่า ปัจจุบัน shale gas ที่ขุดได้ใช้อยู่เฉพาะภายในประเทศโดยส่งตามท่อที่ลงทุนสร้างโครงข่ายไว้ทั่วประเทศอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ทำให้ต้นทุนถูก แต่ถ้าจะออกมาขายต่างประเทศจะต้องทำให้เป็นของเหลวก่อน เป็น LPG แล้วส่งขายทางเรือ
การลงทุนมีความเสี่ยง #การลงพุงก็เช่นกัน