รบกวนช่วยรวบรวมหุ้นที่ไม่เข้าข่ายอกุศลกรรม ให้ด้วยนะครับ

[SAM11]

พอดีได้อ่าน Money talk@SET 20Apr2013 ช่วง"เสียดายก่อนตายคนเล่นหุ้นไม่ได้ฟัง"
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55593
แล้วสนใจนะครับ ไม่ทราบว่าทีมงานหรือเพื่อนสมาชิกพอจะช่วยรวบรวมหุ้นที่ไม่บาปให้ได้หรือเปล่าครับ
จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งนะครับ

[picatos]

เอ...​ เท่าที่ผมอ่านที่คุณดังตฤณตอบ การซื้อขายหุ้น บาปที่เกิดขึ้นอยู่ที่เจตนาในการซื้อขายนะครับ ว่าการซื้อขายของเรามีเจตนาที่ไปเบียดเบียนคนอื่น ทำร้ายคนอื่นหรือเปล่า? หากเจตนาที่เราลงทุนเป็นไปเพื่อการลงทุน เอากำไรจากการซื้อถูกขายแพง บาปที่ติดมาเป็นเพียงแค่เศษบาป เช่นเดียวกับการใช้ชีวิต ทำงานทางโลกทั่วๆ ไป เป็นกรรมทางอ้อม ไม่ใช่กรรมทางตรง ซึ่งวิบากไม่รุนแรงอย่างมิจฉาอาชีพที่เราประกอบโดยตรงนะครับ

ดังนั้นผมว่าอย่างไปกังวลหรือคิดมากจนเกินไปดีกว่าไหมครับ ไป focus ที่ว่า กิจการที่เราซื้อมา ราคาสมเหตุสมผล เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาวดีกว่า แล้วถ้าศึกษากิจการแล้วไม่สบายใจ ถือลงทุนแล้วเป็นทุกข์ ก็อย่าไปลงทุนเป็นรายๆ กิจการไปดีกว่ามั้งครับ

[Linzhi]

เข้าใจเจตนากุศลของจขกท. แต่ผมว่าถ้าจะให้ดี เริ่มต้นจากรักษาศีล 5 บริบูรณ์ก่อน

ทำทานสำหรับกำไรจากหุ้น มีเวลาไปภาวนา .. จะได้รักษากาย วาจา ใจให้ผ่องใส

ส่วนเรื่องหุ้นบาป ผมว่ามันละเอียดอ่อน เราเอาหัวข้อหลัก ๆ ไว้ก่อนดีกว่าครับ สรุปคือ ผมตอบไม่ได้ครับ

[Kritkarun]

เท่าที่ผมฟัง ลักษณะที่คุณดังตฤณพูดถึง
ที่พูดว่าหากลงทุนแบบผ่านๆ ไม่ค่อยรู้ว่าทำธุรกิจอะไร
ก็จะไม่ได้บาปมาก แค่ได้แค่กลิ่นบาป เพราะขาดเจตนา
น่าจะหมายถึงการลงทุนแบบเก็งกำไร

แต่การลงทุนแบบ VI ที่ต้องศึกษา ต้องรู้ว่าธุรกิจทำอะไร
และต้องอยู่กับบริษัทนั้นไปนานพอที่จะรับปันผลหลายรอบ(ซึ่งเป็นการรับเงินจากกำไร ในการทำธุรกิจบาป)
เจตนาในการซื้อ และความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ก็จะแตกต่างจากกรณีซื้อแบบเก็งกำไร
บาปที่ได้รับจึงแตกต่างกันมากครับ

เรื่องกฎแห่งกรรม เอาสบายใจอย่างเดียวไม่ได้ครับ
เพราะบางครั้งสบายใจก็อาจจะได้บาปติดมาครับ

[Ryotaro]

อยากทราบว่าถ้าเจตนาเหมือนกันคือ เก็งกำไรส่วนต่างราคาระยะสั้น ระหว่าง
1. ไม่รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
2. รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
จะบาปเท่ากันหรือไม่ครับ

[Kritkarun]

อยากทราบว่าถ้าเจตนาเหมือนกันคือ เก็งกำไรส่วนต่างราคาระยะสั้น ระหว่าง
1. ไม่รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
2. รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
จะบาปเท่ากันหรือไม่ครับ

ตอบเท่าที่เข้าใจนะครับ
กรรมเป็นเรื่องของเจตนา
ยิ่งเจตนา(ใจ)มีความเข้มข้นแค่ไหน ก็จะได้บาป(บุญ)มากขึ้นเท่านั้น

เช่น หากรู้ว่าขายเหล้า ก็จะได้บาปกว่าไม่รู้

[WEB]

ขอแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่างการซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
การซื้อหุ้นของผมไม่ได้ทำให้บริษัทฆ่าไก่มากขึ้น เงินลงทุนของ
ผมไม่ใช่เงินชี้ขาด ไม่ได้เกี่ยวกับการขยายงานของบริษัท
เปลี่ยนใหม่ ถ้าเพื่อนมาชวนลงทุนเลี้ยงไก่ เพราะเงินทุนไม่พอ
กรณีนี้ เงินของผมเป็นเงินชี้ขาดที่จะทำให้
กิจการเกิดขึ้นหรือไม่เกิด ถ้าเกิด การฆ่าไก่ก็เริ่มต้นขึ้น
แบบนี้ผมไม่เอา การบอกว่าไม่ซื้อหุ้นบริษัทขายไก่ แต่ยังกินไก่
ผมว่ามันแปลกๆ เพราะอย่างที่ว่า เราจะซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อ เค้าก็ฆ่าแบบนั้น
แต่ถ้าเรากินไก่นี่สิ เรากินตัวนึง ไก่ก็ตายตัวนึง ถ้าถึงขนาดซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
ไม่ได้ ตามความเห็นผม ควรเลิกกินไก่ให้ได้ก่อนครับ

อีกอย่างธุรกิจมันเกี่ยวพันกันมาก ถ้าบอกว่าซื้อบริษัทขายไก่ไม่ได้ แล้วบริษัท
น้ำมันพืชที่เค้าเอาไปทอดไก่ล่ะครับ คือถ้าไม่มีน้ำมันพืชก็ไม่มีไก่ทอด
อย่างน้อยคนที่ชอบกินแต่ไก่ทอดก็จะไม่กิน ไก่ก็ตายน้อยลง แล้วบริษัทขาย
ซอสจิ้มไก่ที่ช่วยให้กินไก่ได้อร่อยกินได้บ่อยๆล่ะ แล้วบริษัทที่ทำโฆษณาให้บริษัทนี้อีกล่ะ
และอีกสารพัด หรืออย่างบริษัทขายเบียร์ ไหนจะขวด ไหนจะฝา ไหนจะบริษัทโฆษณา
ไหนจะร้านค้า ถ้าไม่ซื้อก็ต้องไม่ซื้อหมดครับ มันโยงกัน

และจริงๆ ส่วนตัวผม ธุรกิจไม่ดีไม่จำเป็นต้องไม่ดีที่สินค้า แต่อาจไม่ดีที่วิธีการทำธุรกิจด้วย
อย่างเปิดฝาลุ้นรวยทุกวันอะไรเนี่ย ผมว่ามอมเมาชัดๆ ถึงแม้สินค้าไม่ผิดศีลก็เถอะ
แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ

[SAM11]

ขอบคุณสำหรับ ความคิดเห็นทุกท่านที่ตอบมาครับ

[อ่อนซ่อนศิลป์]

ลงทุนในกิจการที่สบายใจดีกว่าครับ แต่ส่วนตัวพยายามไม่ลงทุนในกลุ่มที่มีการฆ่าครับ
เพราะคิดว่ามันเป็นการดบียดเบียนชีวิตผู้อื่น (แต่ตัวเองก็กินเนื้อสัตว์)นะ
เคยลงทุนในกลุ่มนี้อยู่ช่วงนึง เราจะดีใจเวลาเพิ่มกำลังการผลิต หรือยอดขายสูง
แต่ไม่ว่าเราจะหลอกตัวเองให้รู้สึกดียังไงเกี่ยวกับเงินที่ลงไปแต่ท้ายที่สุดมันคือการฆ่าเพิ่ม
หลังๆเริ่มไม่สบายใจ เลยขายออกหมด แล้วก็พยายามลงทุนในกิจการแบบอื่นครับ

[ศิษย์เซียน007]

[Kritkarun]

ขอแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่างการซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
การซื้อหุ้นของผมไม่ได้ทำให้บริษัทฆ่าไก่มากขึ้น เงินลงทุนของ
ผมไม่ใช่เงินชี้ขาด ไม่ได้เกี่ยวกับการขยายงานของบริษัท
เปลี่ยนใหม่ ถ้าเพื่อนมาชวนลงทุนเลี้ยงไก่ เพราะเงินทุนไม่พอ
กรณีนี้ เงินของผมเป็นเงินชี้ขาดที่จะทำให้
กิจการเกิดขึ้นหรือไม่เกิด ถ้าเกิด การฆ่าไก่ก็เริ่มต้นขึ้น
แบบนี้ผมไม่เอา การบอกว่าไม่ซื้อหุ้นบริษัทขายไก่ แต่ยังกินไก่
ผมว่ามันแปลกๆ เพราะอย่างที่ว่า เราจะซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อ เค้าก็ฆ่าแบบนั้น
แต่ถ้าเรากินไก่นี่สิ เรากินตัวนึง ไก่ก็ตายตัวนึง ถ้าถึงขนาดซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
ไม่ได้ ตามความเห็นผม ควรเลิกกินไก่ให้ได้ก่อนครับ

อีกอย่างธุรกิจมันเกี่ยวพันกันมาก ถ้าบอกว่าซื้อบริษัทขายไก่ไม่ได้ แล้วบริษัท
น้ำมันพืชที่เค้าเอาไปทอดไก่ล่ะครับ คือถ้าไม่มีน้ำมันพืชก็ไม่มีไก่ทอด
อย่างน้อยคนที่ชอบกินแต่ไก่ทอดก็จะไม่กิน ไก่ก็ตายน้อยลง แล้วบริษัทขาย
ซอสจิ้มไก่ที่ช่วยให้กินไก่ได้อร่อยกินได้บ่อยๆล่ะ แล้วบริษัทที่ทำโฆษณาให้บริษัทนี้อีกล่ะ
และอีกสารพัด หรืออย่างบริษัทขายเบียร์ ไหนจะขวด ไหนจะฝา ไหนจะบริษัทโฆษณา
ไหนจะร้านค้า ถ้าไม่ซื้อก็ต้องไม่ซื้อหมดครับ มันโยงกัน

และจริงๆ ส่วนตัวผม ธุรกิจไม่ดีไม่จำเป็นต้องไม่ดีที่สินค้า แต่อาจไม่ดีที่วิธีการทำธุรกิจด้วย
อย่างเปิดฝาลุ้นรวยทุกวันอะไรเนี่ย ผมว่ามอมเมาชัดๆ ถึงแม้สินค้าไม่ผิดศีลก็เถอะ
แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ขออนุญาติถามครับว่า เวลาที่บริษัทกำไรมากขึ้น(ซึ่งจะมีการฆ่าไก่ได้มากขึ้น) เราดีใจหรือยินดีไหมครับ
ถ้าใช่ แบบนี้ พระพุทธเจ้าเรียกว่า การยินดีในบาป
พระพุทธเจ้าเองเคยเกิดในครอบครัวที่ทำประมง
แม้พระองค์ไม่ได้เป็นผู้จับเอง แค่ดีใจที่คนในครอบครัวจับได้
พระองค์ก็ได้บาป และบาปนั้นก็ส่งผลมาต่อเนื่องจนชาตินี้พระองค์ยังรับกรรมด้วยการเป็นไมเกรนอยู่

เวลาที่บริษัทได้กำไรจากฆ่าไก่ แล้วปันผลจากเงินที่ได้จากการฆ่า เรารับเงินนั้นไหมครับ
ถ้ารับ เงินนั้นเรียกว่าเงินบาปครับ
เพราะได้มาจากอาชีพ(ธุรกิจ) ที่พระพุทธเจ้าห้าม
(ธุรกิจฆ่าสัตว์ ขายอาวุธ ขายยาพิษ ขายมนุษย์)

ซึ่งทรัพย์แบบนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า จะพบกับความวิบัติในอนาคตครับ


ขออนุญาติสงสัยอีกข้อหนึ่งครับว่า การพยายามบอกว่าการประกอบธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับเราในฐานะผู้ถือหุ้น
ดูจะขัดแย้งกับหลักการ VI ที่คิดว่า การซื้อหุ้น คือการลงทุนในธุรกิจที่เราสนใจ(ธุรกิจที่เราเห็นว่าดี)
และเข้าไปเรียนรู้ ติดตาม ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแสดงความคิดเห็น และเติบโตไปพร้อมกับบริษัท(เป็นระยะเวลาหนึ่ง)


ส่วนที่พูดถึงเรื่องการเกี่ยวพันกัน แน่นอนว่า
ในโลกนี้ ทุกอย่างมันเกี่ยวพันกันหมด
แต่การเกี่ยวพันกัน ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องได้บาปร่วมกันเสมอไป
ขึ้นอยู่กับเจตนา(ความตั้งใจ) ของบริษัทนั้นว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร

ธุรกิจน้ำมันพืช เขาเอาพืชมาผลิตน้ำมัน เพื่อขายน้ำมัน(ลูกค้าจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของลูกค้า) หากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เขาทำตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เกี่ยวข้องกับบาป เขาก็จะไม่ได้บาป

ธุรกิจขายน้ำจิ้ม เขาก็เอาส่วนผสมมาผลิตน้ำจิ้ม(ลูกค้าจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของลูกค้า) หากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เขาทำทำตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เกี่ยวข้องกับบาป เขาก็จะไม่ได้บาป

ส่วนธุรกิจฆ่าไก่ขาย เขาต้องฆ่าไก่เป็นล้านตัว เพื่อเอามาขาย จะเห็นว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เขาทำ เป็นการทำบาปโดยตรง จึงได้บาป

ธุรกิจ 3 อย่างนี้ แม้จะดูเกี่ยวพันกัน แต่เนื้อแท้ของธุรกิจต่างกันมาก การได้บาปไม่ได้บาปจึงแตกต่างกันมาก

[WEB]

ผมคงตอบอะไรไม่ได้มากครับ เพราะสิ่งที่ผมเขียน

1. เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะผิดถนัด
และอาจจะเปลี่ยนไปเมื่อผมได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น

2. เป็นความคิดเห็นของคนธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่
คนถือศีล คนปฏิบัติธรรม หรือคนดีอะไร

3. ส่วนตัว ผมคิดว่า โลกเรามีเรื่องเลวร้ายเยอะ
คนเห็นแก่ตัวเยอะ ผมไม่อยากหวังอะไรมาก
ไม่อยากเรียกร้องอะไรมาก แค่ทุกคนไม่ทำบาป
โดยตรง หรือบาปแบบชี้ขาดแบบที่ผมยกตัวอย่าง
ส่วนตัวผมยิ่งกว่าพอใจแล้ว เพราะนั่นหมายความว่า
บริษัทขายไก่คงไม่ได้เกิดขึ้นครับ

[superboy]

ผมคิดว่า กลุ่ม ปิโตเคมี ครับ พี่เวบลองพิจารณาครับ

กลุ่ม อสังหา พวกโรงแรม และห้าง

น้ำมันพืช แพ็คเกจจิ้ง ครับ คิดได้แค่นี้ครับ ไม่รู้ว่าบาปหรือไม่บาปด้วย ฮาๆๆๆ

[superboy]

พวกบริษัท ปล่อยกู้ ต้องตามทวงหนี้ แบบนี้ บาป หรือป่าว ครับ

[Nevercry.boy]

รู้อยู่แก่ใจ

[superboy]

รู้อยู่แก่ใจ

ผมไม่รู้ครับ ช่วยชี้แนะครับ
ตามความคิดของผม สมมุตินะครับ เงินของเรา เขายืมไปจ่ายดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน
ถึงเวลาไม่มีเงินจ่ายต้นก็คิดดอกเบี้ย ถ้าไม่จ่ายดอกเบี้ยเจ้าของเงินก็ไม่ได้รับค่าตอบแทน
แบบนี้ ลูกหนี้บาปด้วยมั้ย ครับ

วิธีการทวงหนี้ บัตรเครดิต ผมคิดว่าไม่ใช่ทวงหนี้โหด เลยไม่คิดว่าบาปครับ

[อ่อนซ่อนศิลป์]

ผมสังเกตว่าจะมีกะทู้เเนวนี้บ่อย ซึ่งทุกครั้งก็จบที่ไม่มีข้อสรุป แต่จะเม้นกันยืดยาวหน้าหลาย ซึ่งท้ายที่สุด แต่ละคนก็มีแนวคิดและความเชื่อของตัวเอง ถึงได้ว่าลงทุนแบบที่เราสบายใจดีกว่าครับ
เพราะสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ

[zephyr]

คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป

ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย

ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว

[workart]

ผมว่าหาข้อสรุปก่อนไหมครับว่าอะไรบาป อะไรบุญ...

อยู่ที่ใจ กับ เจตนา รึเปล่าครับ....

[Kritkarun]

คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป

ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย

ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว

ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่น
ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด

ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ

และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ
หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ

[zephyr]

คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป

ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย

ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว

ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่น
ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด

ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ

และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ
หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ

ขอบคุณครับ แต่ที่ผมฟังมามันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ธุรกิจที่มีการประมูลเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ทุกบริษัทแหละครับ การโฆษณาชวนเชื่อก็เกิดได้หมดทุกบริษัท

ผมเพียงบอกว่าเราควรพิจารณาตามสมควร

[Kritkarun]

ขอบคุณครับ แต่ที่ผมฟังมามันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ธุรกิจที่มีการประมูลเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ทุกบริษัทแหละครับ การโฆษณาชวนเชื่อก็เกิดได้หมดทุกบริษัท

ผมเพียงบอกว่าเราควรพิจารณาตามสมควร

ธุรกิจประมูลไม่ได้หมายถึงได้บาปนะครับ วิทยากรเขาหมายถึง การฮั้วประมูลแล้วโกงเิงินประชาชนต่างหาก ถึงได้บาป
ส่วนโฆษณาชวนให้เชื่อก็ไม่ได้บาปไปเสียหมด แต่วิทยากรหมายถึง โฆษณาที่โกหกหลอกลวงต่างหากครับ ถึงได้บาป

[สูญญตา]

ว่าไปแล้วทุกธุรกิจในปัจจุบันที่เราลงทุน. เราร่ำรวยบนกิเลสคนทั้งสิ้น. การเติบโตทุกธุรกิจปันผลที่เราอยากได้มากขึ้นๆ. ถ้าไม่กระตุ้นกิเลสคนในฟุ้งมากๆเราก็จะไม่ได้. แทบทุกธุรกิจมีบาปในตัวเองแน่นอนครับ

[panwasit]

ไม่น่ามีนะครับ หุ้นที่ไม่เข้าข่าย อกุศลธรรม

ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าใจธรรมะเท่าไหร แต่ถ้าหุ้นที่มีไม่มีอกุศลกรรม ต้องเป็นหุ้นที่ไม่ทำอะไรเลยครับ เพราะแค่ทำสินค้า บริการขึ้นมัน มันก็ผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับคนคิดมากกว่า

"คนที่ไม่ผิด เพราะเขาไม่ทำอะไรเลย"

อย่างเช่นหุ้น CPF ทุกคนบอกว่า ฆ่าไก่ หุ้นบาป โหดร้าย
แต่อีกมุมนึง ถ้าไม่มีธุรกิจทำอาหาร ฆ่าสัตว์ ทุกวันนี้คนจะเอาอะไรกินกัน อย่าบอกนะ ไม่เคยกินไก่ กินปลา

อย่าง BGH หลายคนบอกว่า ธุรกิจโรงพยาบาล ดี ทำบุญ
แต่อีกมุมนึง คนหลายคนก็เข้าโรงพยาบาลไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน แพง ยิ่ง BGH เทคโรงพยาบาลเล็กๆ แล้วอัพราคาเพิ่มกำไร ก็ยิ่งทำให้คนจนเป็นอมตะ ป่วยไม่ได้เลย

อย่างหุ้นรับเหมาก่อสร้าง ก็สร้างบ้านให้คนอยู่
แต่อีกมุมนึง มันทำให้สัตว์ แมลง ไม่มีที่อยู่ โดนคอนกรีตทับหมด คนงานก็ทำงานแทบเลือดกระเด็น ทุกตึกทุกการก่อสร้าง มักมีคนตายเสมอ

อย่างหุ้น ค้าปลีก ก็ทำให้คนซื้อของทุกลง
แต่ก็ทำให้รายย่อยโชว์ห่วย แย่ แล้วก็ค่อยๆตายลงเหมือนกัน

ส่วนตัวแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า คุณลงทุนอะไรแล้วสบายใจมากกว่า ธุรกิจไหนที่คุณลงทุนแล้วไม่สบายใจ แค่ 5 นาที ก็อย่างไปยุ่ง เท่านั้นเองครับ

[Kritkarun]

ไม่น่ามีนะครับ หุ้นที่ไม่เข้าข่าย อกุศลธรรม

ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าใจธรรมะเท่าไหร แต่ถ้าหุ้นที่มีไม่มีอกุศลกรรม ต้องเป็นหุ้นที่ไม่ทำอะไรเลยครับ เพราะแค่ทำสินค้า บริการขึ้นมัน มันก็ผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับคนคิดมากกว่า

แปลกดีครับ แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ไม่เข้าใจ

[bennn]

คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป

ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย

ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว

ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่น
ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด

ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ

และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ
หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ

ขายอาหารพวกเนื้อสัตว์ พอขายอาหารได้ดีขึ้น ก็พอใจ เพิ่มการสั่งซื้อ
ต่างกันตรงไหนครับ

[กาละมัง]

ชอบ comment คุณ web ครับ ตรงใจที่สุด. ผมว่าเราดูที่ตัวเราก่อนให้เบียดเบียนมนุษย์และสัตว์โลกด้วยกันให้น้อยที่สุด และลึก ๆก็หวังให้ทั้งโลกมีแต่การให้. หลายเรื่องยัง controversy มาก บอกถูกหรือผิดยาก เช่นเรื่องการกินเนื้อ สังคมก็มีสองความรู้สึกในเรื่องเดียวกัน แต่ใจเราเป็นคนตัดสินครับ ก็ขอเพียงเราตระหนักในการกระทำของเรา ผมก็เหมือนคุณเวบ วิจารณ์แบบทางโลก

[tum_H]

ในสมัยพุทธกาล หญิงคนหนึ่งเป็นภรรยานายพรานซึ่งนายพรานมีนิสัยโหดร้าย จับดักสัตว์มาเป็นอาหาร
และนำมาขายอยู่ทุกวัน ทุกๆวันเธอก็เตรียมอุปกรณ์ในการล่าสัตว์ ปรณิบัติสามีตามหน้าที่ของภรรยา
มีผู้คนจำนวนมากสงสัยว่า เธอเป็นพระโสดาบันได้อย่างไร จึงเข้าไปทูลถามองค์สมเด็จพระบรมครู
ว่าเธอนั้น มีส่วนในการฆ่าเพราะได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการทำลายชีวิตสัตว์ให้สามี
พระพุทธองค์ตรัสว่า เธอนั้นไม่มีบาป เพราะเธอทำตามหน้าที่ภรรยาและไม่ได้มีความยินดีในการฆ่านั้น

เช่นเดียวกับท่านจักขุบาล เดินจงกลมเวลากลางคืน เดินไปเหยียบแมลงตายเป็นจำนวนมาก
รุ่งเช้ามีคนประทูลพระพุทธเจ้า ว่าท่านผิดศีล พระผู้ทรงคุณ ทรงตอบว่า บาปนั้นเกิดจากจิต
บุตรของเราไม่มีเจตนาในการฆ่า ย่อมไม่มีบาปแม้แต่น้อย

เช่นเดียวกับคนปรุงเนื้อสัตว์ไปถวายพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ฉันตามปรกติ เพราะพระองค์ไม่ได้รู้ ได้เห็น
หรือ มีส่วนในการฆ่านั้น และในข้อห้ามเรื่องการฉันเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมี ก็มีที่มาจาก การที่พระไปธุดง
ในป่าหากกินเนื้อหมี หมีได้กลิ่น ก็ย่อมจะมาทำร้ายได้

สำคัญที่สุดคือใจครับ ถึงแม้ทำบุญมามากมาย ก่อนตายดันไปนึกถึงบาปที่เคยกระทำก็ต้องไปนรกก่อน
หมดกรรมถึงไปสวรรค์ได้ครับ เช่นเดียวกัน ทำบาปมามากมาย ก่อนตายนึกถึงบุญที่เคยทำมาแค่ครั้งเดียว
ก็ไปสวรรค์ก่อนเช่นกันครับ

[คนคอน]

ลงทุนตามความสบายใจของแต่ละคนเลยครับดีที่สุด ต่างคนเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน มีความเชื่อที่ต่างกัน เถียงกันเรื่องนี้อีก10ปีก็ไม่น่าจะจบ แต่ถ้าให้ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้ที่ต้องการสื่อความหมายคือ หุ้นที่ไม่ได้ผิดศีลกันแบบตรงๆ เช่นไม่ได้ฆ่าสัตว์ เพื่อเปลี่ยนเป็นกำไร ของบริษัท แต่ก็ไม่ถึงขนาดว่า ลงทุนบริษัทรับเหมาไม่ได้เพราะเวลาก่อสร้างบ้าน ต้องทำลายแมลง หรือสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ต่างๆ ดังนั้นถ้าเป็นแบบที่ผมเข้าใจ ผมคิดว่า

ธุรกิจที่ไม่เข้าข่ายอกุศลกรรมที่เจ้าของกระทู้หมายถึงน่าจะมี

1.กลุ่มค้าปลีก[ขายเหล้าได้รึป่าวครับ]
2.กลุ่มรพ BGH BH
3.กลุ่มรร MINT CENTEL ERW
4.กลุ่มสื่อสาร ADVANC TRUE DTAC
5.กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต STA PTTEP TRUBB SSI CITY
6.กลุ่มบันเทิง GRAMMY RS WORK
7.กลุ่้มสินค้าเกษตร KASET
8.กลุ่มอสังหา รับเหมา CK ITD PREB
9.สาธารณูปโภค EASTW BAFS


แต่โดยส่วนตัวผมลงทุนได้ทุกกลุ่มครับ ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้ เพราะผมคิดว่า ถึงผมไม่เอาส่วนนี้ ในเมื่อมันมีอยู่แล้ว ยังไงสะก็มีคนเอาอยู่ดี สู้เราเอาเองแล้ว สุดท้ายเอาไปแบ่งปัน หรือทำกุศลดีๆ อย่างอื่นโดยตัวเราเองดีกว่า

[panwasit]

ไม่น่ามีนะครับ หุ้นที่ไม่เข้าข่าย อกุศลธรรม

ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าใจธรรมะเท่าไหร แต่ถ้าหุ้นที่มีไม่มีอกุศลกรรม ต้องเป็นหุ้นที่ไม่ทำอะไรเลยครับ เพราะแค่ทำสินค้า บริการขึ้นมัน มันก็ผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับคนคิดมากกว่า

แปลกดีครับ แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ไม่เข้าใจ

ไม่แน่ใจเรื่องธรรมะ เพราะคุยกับหลายๆคน แล้วหลายคนให้ความคิดเห็นที่แตกต่างนะครับ

เผื่อใครว่า ผมเขียนผิด หรือไม่เข้าตานะครับ ^^

555 ต้องขออภัยด้วยนะครับ