สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ หน้าใหม่ และน่าจะเรียกได้ว่าพึ่งเกิดใหม่ในด้านการลงทุน -O-
เริ่มศึกษาการลงทุนมาปีกว่าอ่านหนังสือต่างๆ เช่น ตีแตก, ตะแกรงร่อนหุ้น รวมถึงบทความและความเห็นของทุกท่านในเว็บบอร์ดนี้มาบ้างแล้ว และกำลังอ่านเพิ่มเติม
แต่หลังจากศึกษาและได้เริ่มลองวิเคราะห์งบการเงินเอง โดยจัดทำเป็นตารางหาค่าต่างๆจากงบจริง
ผมได้เกิดข้อสงสัยดังนี้ครับ
1) หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางบัญชี เช่น งบ ปี54 ประกาศตัวเลขออกมาอย่างหนึ่ง แต่พอปี 55 เราดูงบปี 54 (ที่เขาจะมีไว้สำหรับเปรียบเทียบ) ได้เปลี่ยนแปลงไป เราต้องทำอย่างไรดีครับ จะอิงจากงบใหม่หรือเก่าดี เพราะเหมือนระเบียบทางบัญชีเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน -o- และผมก็ไม่สามารถหาได้ว่าเปลี่ยนแปลงเพราะอะไรจากหมายเหตุประกอบงบฯ (ในที่นี้ผมพบปัญหาจากต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาลของ TNH 2554)
2) ในงบกระแสเงินสด สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลงและ หนี้สินดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง) มันคือส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปีก่อนๆใช่ไหมครับ ดังนั้นในการคำนวณ changing in working capital ก็คำนวณจากส่วนนี้ได้ใช่เลยไหมครับ
3) EBIT นี่เป็นคนละตัวกับ operating profit ใช่ไหมครับ คือถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
operating profit = รายได้(core และ non-core business) – (ต้นทุนขาย+ค่าใช้จ่ายในการบริหาร+ตอบแทนผู้บริหาร)
แต่ EBIT = operating profit + รายได้อื่นๆ ถูกต้องไหมครับ
และถ้าผมเข้าใจถูก ในกรณีที่งบกำไรขาดทุนแยกรายได้เป็นเพียง รายได้จากการประกอบกิจการหลักและรายได้อื่นๆ นี่หมายความว่า รายได้อื่นๆในที่นี่รวมทั้ง รายได้จากnon-core กับรายได้พิเศษ(ที่อาจเกิดขึ้นครั้งเดียว) ใช่ไหมครับ เพราะในหมายเหตุไม่ได้ระบุไว้ ผมเลยค่อนข้างสับสน
4) ผมพิจารณาบริษัทโดยศึกษาจากงบประจำปีเพียงอย่างเดียว และศึกษางบแต่ละไตรมาสในปีหลังสุด เพราะผมคิดว่างบประจำปีจะเป็นภาพรวมและมีความถูกต้องสูงกว่า ส่วนงบประจำไตรมาสในปีหลังสุดเพื่อให้ผมทราบความเคลื่อนไหวของบริษัทในระยะหลังได้น่าจะเพียงพอแล้ว ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ
ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ
#ปล.ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าผมควรโพสถามในห้องนี้หรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะใช่แล้ว หากผมปฏิบัติผิดกฎอย่างไรรบกวนแจ้งด้วยนะครับ เผื่อผมอ่านกฎระเบียบไม่รอบคอบหรือไม่เข้าใจ ขอบคุณครับ
เริ่มศึกษาการลงทุนมาปีกว่าอ่านหนังสือต่างๆ เช่น ตีแตก, ตะแกรงร่อนหุ้น รวมถึงบทความและความเห็นของทุกท่านในเว็บบอร์ดนี้มาบ้างแล้ว และกำลังอ่านเพิ่มเติม
แต่หลังจากศึกษาและได้เริ่มลองวิเคราะห์งบการเงินเอง โดยจัดทำเป็นตารางหาค่าต่างๆจากงบจริง
ผมได้เกิดข้อสงสัยดังนี้ครับ
1) หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางบัญชี เช่น งบ ปี54 ประกาศตัวเลขออกมาอย่างหนึ่ง แต่พอปี 55 เราดูงบปี 54 (ที่เขาจะมีไว้สำหรับเปรียบเทียบ) ได้เปลี่ยนแปลงไป เราต้องทำอย่างไรดีครับ จะอิงจากงบใหม่หรือเก่าดี เพราะเหมือนระเบียบทางบัญชีเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน -o- และผมก็ไม่สามารถหาได้ว่าเปลี่ยนแปลงเพราะอะไรจากหมายเหตุประกอบงบฯ (ในที่นี้ผมพบปัญหาจากต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาลของ TNH 2554)
2) ในงบกระแสเงินสด สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลงและ หนี้สินดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง) มันคือส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปีก่อนๆใช่ไหมครับ ดังนั้นในการคำนวณ changing in working capital ก็คำนวณจากส่วนนี้ได้ใช่เลยไหมครับ
3) EBIT นี่เป็นคนละตัวกับ operating profit ใช่ไหมครับ คือถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
operating profit = รายได้(core และ non-core business) – (ต้นทุนขาย+ค่าใช้จ่ายในการบริหาร+ตอบแทนผู้บริหาร)
แต่ EBIT = operating profit + รายได้อื่นๆ ถูกต้องไหมครับ
และถ้าผมเข้าใจถูก ในกรณีที่งบกำไรขาดทุนแยกรายได้เป็นเพียง รายได้จากการประกอบกิจการหลักและรายได้อื่นๆ นี่หมายความว่า รายได้อื่นๆในที่นี่รวมทั้ง รายได้จากnon-core กับรายได้พิเศษ(ที่อาจเกิดขึ้นครั้งเดียว) ใช่ไหมครับ เพราะในหมายเหตุไม่ได้ระบุไว้ ผมเลยค่อนข้างสับสน
4) ผมพิจารณาบริษัทโดยศึกษาจากงบประจำปีเพียงอย่างเดียว และศึกษางบแต่ละไตรมาสในปีหลังสุด เพราะผมคิดว่างบประจำปีจะเป็นภาพรวมและมีความถูกต้องสูงกว่า ส่วนงบประจำไตรมาสในปีหลังสุดเพื่อให้ผมทราบความเคลื่อนไหวของบริษัทในระยะหลังได้น่าจะเพียงพอแล้ว ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ
ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ
#ปล.ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าผมควรโพสถามในห้องนี้หรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะใช่แล้ว หากผมปฏิบัติผิดกฎอย่างไรรบกวนแจ้งด้วยนะครับ เผื่อผมอ่านกฎระเบียบไม่รอบคอบหรือไม่เข้าใจ ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 2
ผมก็ความรู้ยังน้อย แต่อยากช่วยแสดงความเห็น ขออนุญาตินะครับ...^^)
ข้อ1) ผมไม่เคยดูหุ้นของโรงพยาบาลจึงไม่มีความเห็นเรื่องหุ้นตัวนี้
แต่ในส่วนของงบปีถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัทจะปรับตัว
เลขให้ใช้มาตรฐานเดียวกันเวลางบล่าสุดออกครับ จากที่คุณ
บอกมาน่าจะหมายถึงเรามีงบปี 54 อยู่แล้ว แต่พองบปี 55 ออกมา
พร้อมกับงบเปรียบเทียบปี 54 ตัวเลขในงบเปรียบเทียบกับงบเก่าที่
เราเคยเก็บไว้ไม่ตรงกัน ตามแบบนี้ผมจะยึดงบล่าสุดครับเพราะจะใช้
มาตรฐานเดียวกันในการลงบัญชี ส่วนที่ว่าหาในหมายเหตุประกอบงบ
ไม่เจอ ส่วนใหญ่ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเลขจะมีเขียนไว้ในความเห็นของผู้
สอบบัญชีหรือไม่ก็จะเขียนที่นโยบายการบัญชีที่สำคัญ(หัวข้อที่3 ใน
หมายเหตุ) ครับ
ข้อ 2)เป็นการเพิ่มและลดจากปีก่อนถูกต้องครับ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน
(CWC)ผมลองหาข้อมูลใน google มันเกิดจาก เงินทุนหมุนเวียนที่เปลี่ยนแปลง
คือ CWC ปี 55 =WC ปี55 - WC ปี54
แล้ว เงินทุนหมุนเวียน(WC) = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน ครับ
ข้อ3)ผมคิดว่า 2 ตัวนี้คือตัวเดียวกันนะครับ EBIT คือ กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี
ส่วน Operating profit คือ กำไรจากการดำเนินงาน มันคือตัวเดียวกันครับ
สิ่งที่คุณพูดถึงผมคิดว่าเป็นการมองรายได้จากธุรกิจของแต่ละคนมากกว่าครับ
ว่าใครจะคอนเซอเวทีพกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่นบริษัทนึงมีรายได้จากเงินลงทุน
(non-core)เป็นประจำทุกๆปี และมีค่ามากกว่ารายได้หลักด้วยแบบนี้จะนำมา
คำนวนดีหรือไม่ดีหละครับ??(อันนี้ผมเจอในตลาดด้วยครับ)
ข้อ4)จุดประสงค์ในการดูงบรายไตรมาสของผม(เน้น!ว่าของผมครับ)ผมจะดูเพื่อมองว่า
กิจการมีลักษณะของฤดูกาลหรือไม่เช่นบางบริษัทจะมีรายได้ดีในไตรมาส 1,4
ส่วน 2,3 จะขาดทุน หากเรามองเพียงไตรมาสสุดท้ายไตรมาสเดียว อาจทำให้เรา
ประเมินตัวเลขของบริษัทในอนาคตดีเกินไปหรือแย่เกินไปได้ครับ
ผิดถูก ขาดตก บกพร่องช่วยแก้ไข แนะนำด้วยนะครับ...^^)
ข้อ1) ผมไม่เคยดูหุ้นของโรงพยาบาลจึงไม่มีความเห็นเรื่องหุ้นตัวนี้
แต่ในส่วนของงบปีถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัทจะปรับตัว
เลขให้ใช้มาตรฐานเดียวกันเวลางบล่าสุดออกครับ จากที่คุณ
บอกมาน่าจะหมายถึงเรามีงบปี 54 อยู่แล้ว แต่พองบปี 55 ออกมา
พร้อมกับงบเปรียบเทียบปี 54 ตัวเลขในงบเปรียบเทียบกับงบเก่าที่
เราเคยเก็บไว้ไม่ตรงกัน ตามแบบนี้ผมจะยึดงบล่าสุดครับเพราะจะใช้
มาตรฐานเดียวกันในการลงบัญชี ส่วนที่ว่าหาในหมายเหตุประกอบงบ
ไม่เจอ ส่วนใหญ่ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเลขจะมีเขียนไว้ในความเห็นของผู้
สอบบัญชีหรือไม่ก็จะเขียนที่นโยบายการบัญชีที่สำคัญ(หัวข้อที่3 ใน
หมายเหตุ) ครับ
ข้อ 2)เป็นการเพิ่มและลดจากปีก่อนถูกต้องครับ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน
(CWC)ผมลองหาข้อมูลใน google มันเกิดจาก เงินทุนหมุนเวียนที่เปลี่ยนแปลง
คือ CWC ปี 55 =WC ปี55 - WC ปี54
แล้ว เงินทุนหมุนเวียน(WC) = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน ครับ
ข้อ3)ผมคิดว่า 2 ตัวนี้คือตัวเดียวกันนะครับ EBIT คือ กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี
ส่วน Operating profit คือ กำไรจากการดำเนินงาน มันคือตัวเดียวกันครับ
สิ่งที่คุณพูดถึงผมคิดว่าเป็นการมองรายได้จากธุรกิจของแต่ละคนมากกว่าครับ
ว่าใครจะคอนเซอเวทีพกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่นบริษัทนึงมีรายได้จากเงินลงทุน
(non-core)เป็นประจำทุกๆปี และมีค่ามากกว่ารายได้หลักด้วยแบบนี้จะนำมา
คำนวนดีหรือไม่ดีหละครับ??(อันนี้ผมเจอในตลาดด้วยครับ)
ข้อ4)จุดประสงค์ในการดูงบรายไตรมาสของผม(เน้น!ว่าของผมครับ)ผมจะดูเพื่อมองว่า
กิจการมีลักษณะของฤดูกาลหรือไม่เช่นบางบริษัทจะมีรายได้ดีในไตรมาส 1,4
ส่วน 2,3 จะขาดทุน หากเรามองเพียงไตรมาสสุดท้ายไตรมาสเดียว อาจทำให้เรา
ประเมินตัวเลขของบริษัทในอนาคตดีเกินไปหรือแย่เกินไปได้ครับ
ผิดถูก ขาดตก บกพร่องช่วยแก้ไข แนะนำด้วยนะครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 3
ขอตอบแค่บางข้อนะครับ ความรู้น้อย
1. ควรยึดงบใหม่ครับ เพราะปกติมาตรฐานบัญชีจะพยายามปรับให้เหมาะสมกับธุรกิจอยู่แล้ว เชื่องบ update ดีที่สุด แต่ที่ผมโหลดงบมา เป็นรายการ reclassify น่าจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชี เลยไม่ได้มีในหมายเหตุประกอบงบครับ
2-3 เข้าใจเหมือนคุณ Plant ครับ
4. ผมคิดว่าเราควรติดตามบริษัทที่เราลงทุนอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ผมลุ้นงบทุกไตรมาสครับ แล้วก็ชอบอ่านตรงที่ผู้บริหารอธิบายการเปลี่ยนแปลงด้วย เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงเราจะได้ไหวตัวทัน ผู้บริหารยังดูงบทุกเดือนเลย เราดูรายไตรมาสคงไม่มากไป
1. ควรยึดงบใหม่ครับ เพราะปกติมาตรฐานบัญชีจะพยายามปรับให้เหมาะสมกับธุรกิจอยู่แล้ว เชื่องบ update ดีที่สุด แต่ที่ผมโหลดงบมา เป็นรายการ reclassify น่าจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชี เลยไม่ได้มีในหมายเหตุประกอบงบครับ
2-3 เข้าใจเหมือนคุณ Plant ครับ
4. ผมคิดว่าเราควรติดตามบริษัทที่เราลงทุนอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ผมลุ้นงบทุกไตรมาสครับ แล้วก็ชอบอ่านตรงที่ผู้บริหารอธิบายการเปลี่ยนแปลงด้วย เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงเราจะได้ไหวตัวทัน ผู้บริหารยังดูงบทุกเดือนเลย เราดูรายไตรมาสคงไม่มากไป
all i need is Zero
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 4
โอ๋ ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ เดี๋ยวจะมาถามต่อนะครับ ตอนนี้กำลังมึนกับหุ้นบุริมสิทธิ์ได้ที่เลย 555
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 5
ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ
ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเท่าเทียมกับหุ้นสามัญ ยกเว้นสิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ประโยคนี้มีความหมายว่าไงหรอครับตรง "สิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุน"
แอบปวดหัวกับงบการเงินของหลายๆบริษัท มีทั้งหุ้นบุริมสิทธิ์ หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ T^T แถมจำนวนหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเลย
ขอบคุณครับ
ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเท่าเทียมกับหุ้นสามัญ ยกเว้นสิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ประโยคนี้มีความหมายว่าไงหรอครับตรง "สิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุน"
แอบปวดหัวกับงบการเงินของหลายๆบริษัท มีทั้งหุ้นบุริมสิทธิ์ หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ T^T แถมจำนวนหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเลย
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 6
ลองหาเงื่อนไขในงบการเงินของบริษัทนั้นหรือสอบถามไปทางบริษัทที่ออกหุ้นบุริมสิทธิTissueThiti เขียน:ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ
ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเท่าเทียมกับหุ้นสามัญ ยกเว้นสิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ประโยคนี้มีความหมายว่าไงหรอครับตรง "สิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุน"
แอบปวดหัวกับงบการเงินของหลายๆบริษัท มีทั้งหุ้นบุริมสิทธิ์ หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ T^T แถมจำนวนหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเลย
ขอบคุณครับ
ดูจะได้ข้อมูลที่ตรงและถูกต้องกว่าครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 7
แปลว่า ถ้าปีไหนบริษัทจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้ปันผล 15% ของทุนครับ สมมติหุ้นบุริมสิทธิราคา 10 บาท ก็ได้ 1.5 บาท คือหุ้นบุริมสิทธิจะเหมือนเป็นเจ้าหนี้มากกว่าผู้ถือหุ้น ถ้าบริษัทจะจ่ายปันผล ก็ต้องกันเงินมาจ่ายให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิก่อน ถึงจะเอาที่เหลือไปจ่ายให้ผู้ถือหุ้นสามัญได้ครับ ผู้ถือหุ้นธรรมดา อาจได้ปันผลไม่ถึง 1.5 บาทก็ได้ แต่ข้อเสียของหุ้นบุริมสิทธิก็คือ ถ้าปีไหนบริษัทกำไรดีๆ อาจจ่ายให้ผู้ถือหุ้นธรรมดามากกว่า 1.5 บาท ก็ไม่ผิดเหมือนกัน ถ้าจ่ายให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิตามกำหนดแล้วTissueThiti เขียน:ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ
ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเท่าเทียมกับหุ้นสามัญ ยกเว้นสิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ประโยคนี้มีความหมายว่าไงหรอครับตรง "สิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตราร้อยละ 15 ของทุน"
แอบปวดหัวกับงบการเงินของหลายๆบริษัท มีทั้งหุ้นบุริมสิทธิ์ หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ T^T แถมจำนวนหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเลย
ขอบคุณครับ
http://betteroflife.wordpress.com/2012/ ... %E0%B8%B4/
all i need is Zero
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณมากครับ
งี้ผมมองว่ามันเป็นรายจ่ายคงที่ คงจะได้ และโดยปกติแล้วหุ้นบุริมสิทธิ์จะอยู่ยืนยงถาวรเลยใช่ไหมครับ
เพราะถ้าเป็นหุ้นกู้เห็นจะมีกำหนดคืน -O-
งี้ผมมองว่ามันเป็นรายจ่ายคงที่ คงจะได้ และโดยปกติแล้วหุ้นบุริมสิทธิ์จะอยู่ยืนยงถาวรเลยใช่ไหมครับ
เพราะถ้าเป็นหุ้นกู้เห็นจะมีกำหนดคืน -O-
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 9
ผมมีเรื่องสอบถามเพิ่มเติมครับ(อีกแล้ว)
กรณีภาษีเงินได้ในงบกำไรขาดทุนไม่เท่ากับเงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้ในงบกระแสเงินสด
เกิดจากอะไรหรือครับ หรือเป็นเพราะการจ่ายภาษีเราเป็นการคาดคะเนซึ่งอาจไม่ตรงกับจ่ายจริง ซึ่งส่วนต่างตรงนี้เราต้องขอคืนเองในภายหลังหรือเปล่าครับ
(อันนี้เจอจากงบSKR ปี 2555 ครับ)
ขอบคุณครับผม
กรณีภาษีเงินได้ในงบกำไรขาดทุนไม่เท่ากับเงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้ในงบกระแสเงินสด
เกิดจากอะไรหรือครับ หรือเป็นเพราะการจ่ายภาษีเราเป็นการคาดคะเนซึ่งอาจไม่ตรงกับจ่ายจริง ซึ่งส่วนต่างตรงนี้เราต้องขอคืนเองในภายหลังหรือเปล่าครับ
(อันนี้เจอจากงบSKR ปี 2555 ครับ)
ขอบคุณครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 11
อ่า เคยอ่านคร่าวๆแล้ว เดี๋ยวจะลองกลับไปอ่านอย่างละเอียดอีกทีครับผมyy เขียน:ช่วยดูใน PM ด้วยนะครับ
ผมแนะนำกระทู้ที่คุณควรจะเข้าไปถาม .... และจะได้คำตอบที่ต้องการ
ขอบคุณครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 13
แอบงงนิดนึง 555 แต่เดี๋ยวลองอ่านดูครับผมmiracle เขียน:สิ่งที่เปลี่ยน ถ้าหากไม่โพล่ที่ไหนเลย
มันควรไปโพล่เป็นก้อนใหญ่ๆที่งบการเปลี่ยนส่วนของผู้ถือหุ้น
เช่น งบบางจาก ปี 2554-2555
ส่วนเรื่องภาษีอ่าน เรื่องมาตราบัญชี ครับ
ขอบคุณครับ
ตอนนี้กำลังพยายามเข้าใจค่าทางบัญชีให้ครอบคลุมก่อน -O-
เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ในการวิเคราะห์บริษัทต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 14
ตอนนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจ ว่าผมมองโลกง่ายไปไหม
คือผมกะว่าจะพยายามไม่สนใจค่าต่างๆที่ซับซ้อนมากนัก
ผมจะมองแค่ปัจจัยเหล่านี้ในการศึกษาบริษัท
1) บริษัททำมาหากินอะไรบ้าง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคืออะไร
2) กำไร ทั้งขั้นต้น ดำเนินงานและสุทธิ และการเติบโตของยอดขาย
3) ต้นทุนหลัก บริหาร รวมถึงเปรียบเทียบอัตราการเติบโตเทียบกับยอดขาย
4) สภาพคล่องผมดูเพียงแค่เงินสดที่ออกมา และอัตราหนี้สินระยะสั้น รวมถึงเจ้าหนี้การค้า-ลูกหนี้การค้า ที่ผมมองว่ามีมากๆทั้งคู่ก็ไม่ดี (แต่ก็ควรจะมีบ้าง)
เหตุผลที่ผมจะโฟกัสแค่นี้เป็นเพียงเพราะผมคิดว่า ค่าที่ค่อนข้างซับซ้อนต้องอาศัยการคาดคะเนและการประมาณการที่ต้องใช้ประสบการณ์และความรู้สูง ซึ่งผมเองที่ค่อนข้างใหม่กับทางสายนี้ผมคิดว่าไม่ควรจะไปใช้ เพราะการคาดคะเนผิดๆอาจจะส่งผลแย่กว่าการไม่ใช้เลยเสียด้วยซ้ำ
ทุกท่านคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
คือผมกะว่าจะพยายามไม่สนใจค่าต่างๆที่ซับซ้อนมากนัก
ผมจะมองแค่ปัจจัยเหล่านี้ในการศึกษาบริษัท
1) บริษัททำมาหากินอะไรบ้าง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคืออะไร
2) กำไร ทั้งขั้นต้น ดำเนินงานและสุทธิ และการเติบโตของยอดขาย
3) ต้นทุนหลัก บริหาร รวมถึงเปรียบเทียบอัตราการเติบโตเทียบกับยอดขาย
4) สภาพคล่องผมดูเพียงแค่เงินสดที่ออกมา และอัตราหนี้สินระยะสั้น รวมถึงเจ้าหนี้การค้า-ลูกหนี้การค้า ที่ผมมองว่ามีมากๆทั้งคู่ก็ไม่ดี (แต่ก็ควรจะมีบ้าง)
เหตุผลที่ผมจะโฟกัสแค่นี้เป็นเพียงเพราะผมคิดว่า ค่าที่ค่อนข้างซับซ้อนต้องอาศัยการคาดคะเนและการประมาณการที่ต้องใช้ประสบการณ์และความรู้สูง ซึ่งผมเองที่ค่อนข้างใหม่กับทางสายนี้ผมคิดว่าไม่ควรจะไปใช้ เพราะการคาดคะเนผิดๆอาจจะส่งผลแย่กว่าการไม่ใช้เลยเสียด้วยซ้ำ
ทุกท่านคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 15
เรื่องนี้คุณ "TissueThiti" ต้องทดลองลงทุนดูครับ แล้วดูผลที่ออกมาว่าได้ตามที่ต้องการTissueThiti เขียน:ตอนนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจ ว่าผมมองโลกง่ายไปไหม
คือผมกะว่าจะพยายามไม่สนใจค่าต่างๆที่ซับซ้อนมากนัก
ผมจะมองแค่ปัจจัยเหล่านี้ในการศึกษาบริษัท
1) บริษัททำมาหากินอะไรบ้าง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคืออะไร
2) กำไร ทั้งขั้นต้น ดำเนินงานและสุทธิ และการเติบโตของยอดขาย
3) ต้นทุนหลัก บริหาร รวมถึงเปรียบเทียบอัตราการเติบโตเทียบกับยอดขาย
4) สภาพคล่องผมดูเพียงแค่เงินสดที่ออกมา และอัตราหนี้สินระยะสั้น รวมถึงเจ้าหนี้การค้า-ลูกหนี้การค้า ที่ผมมองว่ามีมากๆทั้งคู่ก็ไม่ดี (แต่ก็ควรจะมีบ้าง)
เหตุผลที่ผมจะโฟกัสแค่นี้เป็นเพียงเพราะผมคิดว่า ค่าที่ค่อนข้างซับซ้อนต้องอาศัยการคาดคะเนและการประมาณการที่ต้องใช้ประสบการณ์และความรู้สูง ซึ่งผมเองที่ค่อนข้างใหม่กับทางสายนี้ผมคิดว่าไม่ควรจะไปใช้ เพราะการคาดคะเนผิดๆอาจจะส่งผลแย่กว่าการไม่ใช้เลยเสียด้วยซ้ำ
ทุกท่านคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวต่อไป ถ้าได้มากกว่าที่คาดหวังก็ต้องหาสาเหตุว่ามันเกิด
จากอะไร(การได้มากกว่าที่คาดผมถือว่าเป็นความผิดพลาดเช่นกัน) แล้วสุดท้ายเราจะเจอแนวทาง
ที่เหมาะสมกับตัวเราครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 16
555 ขอบคุณมากครับ เพียงแต่ตอนนี้รู้สึกค่อนข้างกังวล
เพราะเหมือนใครๆก็อยากกำแต่เงินเข้าตลาดหุ้นทั้งนั้น ผมเลยไม่อยากเป็นเหมือนคนกลุ่มนั้น -O-
เลยพยายามศึกษาก่อนมากๆ อย่างน้อยจะได้มีชุดเกราะก่อนถูกรถสิบล้อชน
บางทีก็ค่อนข้างกังวลใจ(อีกแล้ว) เพราะผมเชื่อว่ากว่าหลายๆบริษัทจะแสดงฝีมือออกมาได้ต้องใช้เวลาหลายปี
งี้กว่าเราจะปรับกลยุทธได้นี่ ต้องใช้เวลาและความอดทนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
เพราะเหมือนใครๆก็อยากกำแต่เงินเข้าตลาดหุ้นทั้งนั้น ผมเลยไม่อยากเป็นเหมือนคนกลุ่มนั้น -O-
เลยพยายามศึกษาก่อนมากๆ อย่างน้อยจะได้มีชุดเกราะก่อนถูกรถสิบล้อชน

บางทีก็ค่อนข้างกังวลใจ(อีกแล้ว) เพราะผมเชื่อว่ากว่าหลายๆบริษัทจะแสดงฝีมือออกมาได้ต้องใช้เวลาหลายปี
งี้กว่าเราจะปรับกลยุทธได้นี่ ต้องใช้เวลาและความอดทนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 17
ระวังจะกลายเป็นโรค "อัมพาตเพราะการวิเคราะห์" นะครับ เพราะมัวแต่วิเคราะห์จนกว่าจะมั่นใจTissueThiti เขียน:555 ขอบคุณมากครับ เพียงแต่ตอนนี้รู้สึกค่อนข้างกังวล
เพราะเหมือนใครๆก็อยากกำแต่เงินเข้าตลาดหุ้นทั้งนั้น ผมเลยไม่อยากเป็นเหมือนคนกลุ่มนั้น -O-
เลยพยายามศึกษาก่อนมากๆ อย่างน้อยจะได้มีชุดเกราะก่อนถูกรถสิบล้อชน![]()
บางทีก็ค่อนข้างกังวลใจ(อีกแล้ว) เพราะผมเชื่อว่ากว่าหลายๆบริษัทจะแสดงฝีมือออกมาได้ต้องใช้เวลาหลายปี
งี้กว่าเราจะปรับกลยุทธได้นี่ ต้องใช้เวลาและความอดทนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
จนไม่ได้ลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย สู้เรียนรู้จากการกระทำและค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆดีกว่านะครับ
ผมเชื่อว่าการจะเก่ง การจะรวย ไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้ทั้งหมดแล้วทำตูมเดียวสำเร็จเลย มันเกิดจาก
การค่อยๆสะสมความรู้และประสบการณ์ไปเรื่อยๆจนเก่งและชำนาญในเรื่องนั้นๆครับ ซึ่งการเรียนรู้ที่ดี
และเร็วที่สุด คือ "การลงมือทำครับ" (เงินจริงเจ็บจริง เหอๆๆ)
ปล. แนะนำด้วยความหวังดีครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 18
555 ขอบคุณครับผม
ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ตอนนี้ขอนั่งเก็บความรู้อีกนิดดีกว่า
ตามกฎสำคัญที่ว่า "ห้ามขาดทุน" -O- ตอนนี้ยอมเสียโอกาสก่อนดีกว่า 5555
ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ตอนนี้ขอนั่งเก็บความรู้อีกนิดดีกว่า

ตามกฎสำคัญที่ว่า "ห้ามขาดทุน" -O- ตอนนี้ยอมเสียโอกาสก่อนดีกว่า 5555
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่องการอ่านงบและค่าทางการเงินครับ
โพสต์ที่ 19
คำว่า "ห้ามขาดทุน" หากมองในเรื่องของตัวเงิน นั่นอาจจะใช่ว่าเราขาดทุนTissueThiti เขียน:555 ขอบคุณครับผม
ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ตอนนี้ขอนั่งเก็บความรู้อีกนิดดีกว่า![]()
ตามกฎสำคัญที่ว่า "ห้ามขาดทุน" -O- ตอนนี้ยอมเสียโอกาสก่อนดีกว่า 5555
แต่หากเรามองย้อนกลับว่าที่เราพลาดทำให้เราเสียเงินไปเกิดจากอะไร แล้วปรับ
ปรุงแก้ไขไม่ให้พลาดในจุดเดิมซ้ำอีกหรือสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากการเสียเงินนั้นได้
เราจะได้สิ่งที่มีค่ากลับมามากกว่าจำนวนเงินที่เราเสียไปนั่นคือ "ประสบการณ์จริง" ที่หา
ซื้อไม่ได้ครับ ดังนั้นในมุมของผม คำว่า "ขาดทุน" ขึ้นอยู่กับตัวผู้ลงทุนว่าจะมองมันยังไง
มากกว่าการมองจำนวนเงินที่ได้มาหรือเสียไปครับ...^^)