ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 31
แบ่งเป็นหลายๆ ก้อนเหมือนพวกผจก กองทุนเลยนะเนี่ย
คุณเป็นนักลงทุนเต็มเวลาหรือไม่ ถ้าไม่อย่าทำข้อ 4 เสียเวลาทำมาหากิน หรือถ้ารักจะทำข้อ 4 อาจจะต้องให้มีเงินมากกว่านี้ และศึกษาเทคนิคอลเยอะๆ คัทลอสให้ได้ (เหมือนที่เด็กเทคนิคเค้าชอบพูดกัน)
ข้อ 1-2 โอเคครับ ข้อ 3 ถ้าชัวร์ก็ผลตอบแทนดีมาก ถ้าพลาดก็เงินจม
ผมว่าคุณข้ามข้อสำคัญไป 1 ข้อ คือ ซื้อหุ้นที่เราเข้าใจในธุรกิจ เข้าใจว่ากิจการได้เงินมาไง เข้าใจในจุดขาย จุดด้อย อย่างลึกซึ้ง ยิ่งถ้ามีสายสืบอยู่ภายในกิจการยิ่งดีครับ ถ้าได้ข้อนี้แล้วเห็นว่ากิจการดี ถือตัวเดียวยังได้ เพราะไม่เสี่ยงเลย
คุณเป็นนักลงทุนเต็มเวลาหรือไม่ ถ้าไม่อย่าทำข้อ 4 เสียเวลาทำมาหากิน หรือถ้ารักจะทำข้อ 4 อาจจะต้องให้มีเงินมากกว่านี้ และศึกษาเทคนิคอลเยอะๆ คัทลอสให้ได้ (เหมือนที่เด็กเทคนิคเค้าชอบพูดกัน)
ข้อ 1-2 โอเคครับ ข้อ 3 ถ้าชัวร์ก็ผลตอบแทนดีมาก ถ้าพลาดก็เงินจม
ผมว่าคุณข้ามข้อสำคัญไป 1 ข้อ คือ ซื้อหุ้นที่เราเข้าใจในธุรกิจ เข้าใจว่ากิจการได้เงินมาไง เข้าใจในจุดขาย จุดด้อย อย่างลึกซึ้ง ยิ่งถ้ามีสายสืบอยู่ภายในกิจการยิ่งดีครับ ถ้าได้ข้อนี้แล้วเห็นว่ากิจการดี ถือตัวเดียวยังได้ เพราะไม่เสี่ยงเลย
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 32
เมื่อก่อนผมเคยสงสัยครับว่าทำไมต้องมีบริษัทผลิต บริษัทจัดจำหน่าย ตัวแทนจำหน่าย บางบริษัทnonation เขียน:ที่ผมคิดคือแม้จะมี 4 กลุ่มแต่ไม่ได้หมายความว่าแต่ละกลุ่มต้องมีหลายตัวนะครับ อาจมีแค่กลุ่มละตัวก็ได้ ผมพยายามนั่งทบทวนวิธีการดำเนินธุรกิจของเจ้านายเก่า ๆ ที่เคยทำงานด้วย ( เป็นคนชอบสังเกตุครับ แต่คงไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงที่แต่ละคนใช้ตัดสินใจ ) เห็นแต่ละท่านไม่เคยทำธุรกิจเดี่ยว ๆ ครับ ธุรกิจในมืออาจไม่ใช่ธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่แม้จะเป็นธุรกิจกลุ่มเดียวกันก็จะมีหลายระดับ บ้างก็เพื่อผลกำไรสูง บ้างก็เพื่อเกื้อหนุนธุรกิจในเครือ บ้างก็เพื่อเอาไว้เลี้ยงลูกน้องประมาณนั้นแหละครับ ลงทุนก็มากบ้าง น้อยบ้างตามแต่เจตนาของธุรกิจนั้น ๆ
ก็มีบริษัทลูกที่ทำงานต่อเนื่องกับบริษัทแม่ ผมคิดว่าทำไมไม่รวมมันเป็นบริษัทเดียวไปเลย จริงๆมีหลาย
เหตุผลปัจจัย แต่ผมขออธิบายในแบบที่คุณ "nonation" พูดถึงละกันครับ...^^)
การทำธุรกิจเดี่ยวๆเป็นสิ่งที่เสี่ยงครับ มันจะเป็นการที่เงินจะวิ่งเข้ามาหากระเป๋าเราเพียงทางเดียว
ถ้าเกิดเหตุอะไรไปก็จะไม่มีอะไรมารองรับชีวิตเบื้องหลัง(ครอบครัว)ได้ครับ เปรียบกับคนธรรมดา
ถ้ารู้จักวางแผนทางการเงิน ก็ต้องมีเงินออมไว้ในออมทรัพย์ ออมไว้ในฝากประจำ ลงทุนกองทุน
ลงทุนหุ้น บ้างก็อสังหาปล่อยเช่า บ้างก็ทำธุรกิจ เหตุผลเหมือนกันครับ คือ ถ้าลงทุนที่เดียวมันเสี่ยง
กลับมาที่ธุรกิจ การที่ทำไมถึงมีหลายๆธุรกิจแต่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น ทำร้านอาหารด้วย ทำงานใน
อุตสาหกรรมหนักด้วย เปิดทัวร์เที่ยวต่างประเทศด้วย พวกนี้จะเกิดจากการร่วมลงทุนครับ เพราะ
คนๆเดียวไม่สามารถจะถนัดทำในทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่อาจมีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อธุรกิจนั้นๆได้ เช่น
มีเงินทุน มีทรัพยากรต่างๆรองรับ หรือมีความรู้ในด้านนั้นๆ ดังนั้นจึงเห็นว่าเจ้านายของคุณอาจ
จะมีธุรกิจหลายๆอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกันก็ได้ครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 33
เรื่องวิธีการลงทุนแบบนี้ก็ไม่มีผิด ไม่มีถูกครับ มีแต่เหมาะสมกับตัวคุณและเวลาของคุณหรือไม่ครับnonation เขียน:ข้อ 1 คือเงินออม
ข้อ 2 คือการลงทุนทำธุรกิจ ประเมินสถานการณ์ดี หรือใกล้เคียงก็กำไรเยอะ พลาดก็อาจเท่าทุนหรือขาดทุน ไม่มีการสร้างธุรกิจอะไรที่สามารถบอกได้ว่าต้องได้กำไรแน่ ๆ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ
ข้อ 3 คือการปล่อยเงินกู้เพื่อหากำไรจากดอกเบี้ย หนี้อาจศูนย์ถ้าลูกหนี้หนี
ข้อ 4 กิเลส ความต้องการพิสูจน์ ความต้องการเอาชนะ เหมือนเล่นไพ่ถ้าเล่นโดยไม่มีเวลาเลิกก็หมดตัวทุกราย แต่ถ้าควบคุมตัวเองได้ก็หมดแต่งบดุลที่ตั้งไว้ แต่ช่วงที่ได้มันก็คือการผ่อนคลาย
เคยดูธุรกิจโรงพยาบาลใหมครับจะมีหลายคลินิก รพ.ไม่สามารถทำได้ดีทุกคลินิกหรอกครับ กำไรมากบ้างหน่อยบ้างแล้วแต่ช่วงเวลา แต่รวมแล้วคือกำไรและอยู่ได้นาน เพราะมีรายได้จากหลายกลุ่มคลินิก ส่วน รพ. หรือคลินิกเฉพาะทางจะกำไรดีในช่วงต้น ๆ เพราะคนอื่นยังคิดไม่ทันเลยไม่มีคู่แข่ง แต่พอตลาดเริ่มทำเงินคู่แข่งจะเกิดขึ้นเยอะมาก ส่วนแบ่งกำไรจะเยอะ ถ้าไม่มีแผนธุรกิจอื่น ๆ คิดเผื่อไว้ก็ต้องเริ่มธุรกิจกันใหม่ตั้งแต่ต้น ผมคิดประมาณนี้มั้งครับ
ผมเห็นที่นี่มักจะแอนตี้การลงทุนสไตร์เทคนิคคอลกัน ผมมองว่าการที่จะลงทุนแบบเทคนิคคอลก็ไม่ใช่
สิ่งผิดอะไร ประเด็นหลักของเทคนิคคอลคือการดูแนวโน้ม ด้วยการพอร์ตกราฟแล้วทำสถิติว่ามันมักจะ
เกิดแบบนี้เพราะปัจจัยตัวนี้บ่อยๆ ด้วยการทำความน่าจะเป็นจึงมีถูกบ้างผิดบ้างจึงมีกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง
แต่ถ้าสามารถทำให้รวมๆแล้วกำไรก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ลงทุนแบบเทคนิคคอล มันเป็นความชอบ
หรือจริต(ขอยืมคำของพี่คนนึงมาใช้)ของแต่ละคนครับ เหมือนคนที่ชอบความเร็ว ชอบขับรถแข่ง
ชอบรถสปอร์ต เขาก็ต้องซื้อพอช เฟอรารี่ แลมเบอกีนี่ ถ้าจะให้มาซื้อเบนซ์ bm ก็กระไรอยู่...^^)
ปล. อีกอย่างที่ฝากไว้ คือ บางคนในนี้ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของการลงทุนแบบ vi กับ เทคนิคคอล
บางคนอยากรวยเร็วๆ แต่กลับเลือกมาสาย vi ทั้งที่ๆการรวยเร็วๆมันเป็นทางสายเทคนิคคอลต่างหาก
แต่ก็สามารถทำให้จนเร็วได้ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณไม่เจ๋งจริง!!!(แอบเหน็บนิดหน่อย 555+)...^^)
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 34
ขอพูดในกลุ่มturnaroundนะครับ ให้เวลาแค่1-2ปีน้อยไปครับ
ยกตัวอย่างPAEของพี่PAK ถือมาสองปีกว่า ผลงานยังไม่turn
ยังไม่แสดงในงบเลยครับ แต่ราคาturnไปไกลแล้ว
จะลงทุนturnaroundต้องให้เวลามันครับ สัก3-5ปี
แต่ถ้าturnเร็วกว่านั้นก็ดี
สาเหตุที่ต้องให้เวลา3-5ปีเพราะ
1.เมื่อประกาศbiz modelใหม่ ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
ในการรับงาน ไม่อาจทิ้งงานเดิมได้ในทันที ต้องใช้เวลาค่อยเปลี่ยbiz model
2.บางทีมีปัจจัยลบที่คาดการณ์ไม่ได้อย่างน้ำท่วม
อย่างซึนามิที่ญี่ปุ่น มารบกวนทำให้ระยะเวลาที่คาดการณ์ผิดพลาดไป
3.turnแล้วอาจมีgrowthต่อ ก็ต้องให้เวลามันโตครับ
ยกตัวอย่างPAEของพี่PAK ถือมาสองปีกว่า ผลงานยังไม่turn
ยังไม่แสดงในงบเลยครับ แต่ราคาturnไปไกลแล้ว
จะลงทุนturnaroundต้องให้เวลามันครับ สัก3-5ปี
แต่ถ้าturnเร็วกว่านั้นก็ดี
สาเหตุที่ต้องให้เวลา3-5ปีเพราะ
1.เมื่อประกาศbiz modelใหม่ ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
ในการรับงาน ไม่อาจทิ้งงานเดิมได้ในทันที ต้องใช้เวลาค่อยเปลี่ยbiz model
2.บางทีมีปัจจัยลบที่คาดการณ์ไม่ได้อย่างน้ำท่วม
อย่างซึนามิที่ญี่ปุ่น มารบกวนทำให้ระยะเวลาที่คาดการณ์ผิดพลาดไป
3.turnแล้วอาจมีgrowthต่อ ก็ต้องให้เวลามันโตครับ
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 36
ที่เวปนี้ เค้าไม่บอกหุ้นรายตัวครับ และมีคติว่าให้คนหาปลากินเอง
ผมไม่เก่งแต่ขอเสนอว่า
1. กลุ่มแรก คุณลองดูกลุ่ม sethd เค้าคัดให้แล้วมีปันผลมามากว่า 5 ปี
2. กลุ่มเน้นหุ้นเติบโตลงทุน ลองศึกษาแนวทางดร.
3. หุ้นที่คิดว่าน่าจะ turn around ลองตามแนวท่าน pak
4. หุ้นการพนัน ลองเลือกดูที่ติด turnover list ดูที่ติดหลายๆครั้งนะครับ
หลังจากลองแล้ว ช่วยมาแชร์ประสบการณ์นะครับ
ผมไม่เก่งแต่ขอเสนอว่า
1. กลุ่มแรก คุณลองดูกลุ่ม sethd เค้าคัดให้แล้วมีปันผลมามากว่า 5 ปี
2. กลุ่มเน้นหุ้นเติบโตลงทุน ลองศึกษาแนวทางดร.
3. หุ้นที่คิดว่าน่าจะ turn around ลองตามแนวท่าน pak
4. หุ้นการพนัน ลองเลือกดูที่ติด turnover list ดูที่ติดหลายๆครั้งนะครับ
หลังจากลองแล้ว ช่วยมาแชร์ประสบการณ์นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 950
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 38
ข้อ 4 ตัดทิ้งโดยเด็ดขาด หุ้นพวกนี้มันกลวงไม่มีอนาคตจริง ห้ามไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีใด ๆ
ข้อ 3 หุ้น Turnaround เลือกมา 5 หุ้น อาจ Turn ได้จริงเพียงตัวเดียว ต้องระดับเทพถึงจะหาเจอ เพราะยากมาก ๆๆๆๆๆ
ข้อ 2 หุ้นเติบโตต้องดูที่กำไร อย่าไปดูราคา ส่วนใหญ่หุ้นเติบโตราคาแพงไปหมดแล้ว ต้องรอจังหวะมีคน Panic Sale
ข้อ 1 เน้นปันผล ต้องระวังหุ้น Commodity ที่อาจหลอกเรา เพราะตัวเลขในงบ เป็นอดีต เป็นแค่กระจกมองหลัง
หากคันมือ ให้แยก Port Port หนึ่ง 95% เป็น VI แท้ ไม่ต้องไปซื้อ ๆ ขาย ๆ เว้นแต่พื้นฐานเปลี่ยนจริงๆ
อีก Port ก็เน้นหุ้นพื้นฐานดี ราคามีการขึ้นๆ ลงๆ เน้นหุ้นเติบโต พื้นฐานดี เป็นผู้นำตลาด เลือกสัก 2-3 ตัว
เวลาราคาหุ้นขึ้นไปมาก ๆ ก็ขายไปซื้อ ตัวที่ลงเยอะๆ สลับกันไป แต่ห้ามไปไล่ราคา เช่น หุ้น A,B ราคาเป้าหมาย 100
สมมุติว่าราคาหุ้น A ขึ้นไปเกิน 100 เช่น 110 ส่วนหุ้น B ราคาลงเหลือ 95 ก็ขายหุ้น A ไปซื้อหุ้น B
พอราคาหุ้น B ขึ้นไปเป็น 110 ส่วนหุ้น A ลดลงเหลือ 95 ก็ขายหุ้น B ไปซื้อหุ้น A
หากำไรจาก Mr. Market แต่ทำไปสนุกๆ ที่สำคัญห้ามขายขาดทุนเด็ดขาด
ข้อ 3 หุ้น Turnaround เลือกมา 5 หุ้น อาจ Turn ได้จริงเพียงตัวเดียว ต้องระดับเทพถึงจะหาเจอ เพราะยากมาก ๆๆๆๆๆ
ข้อ 2 หุ้นเติบโตต้องดูที่กำไร อย่าไปดูราคา ส่วนใหญ่หุ้นเติบโตราคาแพงไปหมดแล้ว ต้องรอจังหวะมีคน Panic Sale
ข้อ 1 เน้นปันผล ต้องระวังหุ้น Commodity ที่อาจหลอกเรา เพราะตัวเลขในงบ เป็นอดีต เป็นแค่กระจกมองหลัง
หากคันมือ ให้แยก Port Port หนึ่ง 95% เป็น VI แท้ ไม่ต้องไปซื้อ ๆ ขาย ๆ เว้นแต่พื้นฐานเปลี่ยนจริงๆ
อีก Port ก็เน้นหุ้นพื้นฐานดี ราคามีการขึ้นๆ ลงๆ เน้นหุ้นเติบโต พื้นฐานดี เป็นผู้นำตลาด เลือกสัก 2-3 ตัว
เวลาราคาหุ้นขึ้นไปมาก ๆ ก็ขายไปซื้อ ตัวที่ลงเยอะๆ สลับกันไป แต่ห้ามไปไล่ราคา เช่น หุ้น A,B ราคาเป้าหมาย 100
สมมุติว่าราคาหุ้น A ขึ้นไปเกิน 100 เช่น 110 ส่วนหุ้น B ราคาลงเหลือ 95 ก็ขายหุ้น A ไปซื้อหุ้น B
พอราคาหุ้น B ขึ้นไปเป็น 110 ส่วนหุ้น A ลดลงเหลือ 95 ก็ขายหุ้น B ไปซื้อหุ้น A
หากำไรจาก Mr. Market แต่ทำไปสนุกๆ ที่สำคัญห้ามขายขาดทุนเด็ดขาด
- Guiman
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 39
ผมเห็นว่า ข้อ 4 ไม่มีอะไรเสียหายครับ
ดีซะอีก ได้ทดสอบความชอบตัวเองหลายๆแบบ ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับ VI / buffetology
จขกท อาจจะเหมาะกับ trading ก็ได้ แล้ว trading ก็ไม่ได้มีแค่ day trade มันมี week trade, month trade ฯลฯ ยิ่งระยะเวลายาว ความเสี่ยงยิ่งละลายลงไป
เพียงแต่ ถ้าทำครบทุก 4 ข้อ แบบเอาจริงเอาจัง ผมว่ามันต้องใช้พลังงานมาก ข้อแรกไม่ยากเท่าไหร่ แต่ 3 ข้อหลังเหนื่อย ยิ่งข้อ 4 มันแตกต่างกับข้อ 2/3 อย่างสิ้นเชิง อาจจะต้องเหลือ 1 กับ 4 หรือ 1 กับ 2/3
ส่วนที่ว่า หุ้นการพนัน นิยามมันกำกวมไปหน่อยครับ มันไม่จำเป็นว่าบางตัวเป็นหุ้นการพนัน บางตัวไม่ใช่ อย่างพวก ivl ptt advanc เขาก็เอามาพนันกันได้ ทุกตัวพนันได้หมด
ถ้าอยากเพิ่ม odd ให้ได้กำไร ก็แค่เล่นตามเทรนด์ (trend is your friend) เล่นเมื่อมีสัญญาณเบรค
ปล. ที่ผมอยากย้ำจริงๆคือ จะทำทั้งหมดนั่นให้ได้ดีอะ มันยากน้าาา
เคยลองแล้ว ทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน มันไม่เดินซักอย่าง
ดีซะอีก ได้ทดสอบความชอบตัวเองหลายๆแบบ ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับ VI / buffetology
จขกท อาจจะเหมาะกับ trading ก็ได้ แล้ว trading ก็ไม่ได้มีแค่ day trade มันมี week trade, month trade ฯลฯ ยิ่งระยะเวลายาว ความเสี่ยงยิ่งละลายลงไป
เพียงแต่ ถ้าทำครบทุก 4 ข้อ แบบเอาจริงเอาจัง ผมว่ามันต้องใช้พลังงานมาก ข้อแรกไม่ยากเท่าไหร่ แต่ 3 ข้อหลังเหนื่อย ยิ่งข้อ 4 มันแตกต่างกับข้อ 2/3 อย่างสิ้นเชิง อาจจะต้องเหลือ 1 กับ 4 หรือ 1 กับ 2/3
ส่วนที่ว่า หุ้นการพนัน นิยามมันกำกวมไปหน่อยครับ มันไม่จำเป็นว่าบางตัวเป็นหุ้นการพนัน บางตัวไม่ใช่ อย่างพวก ivl ptt advanc เขาก็เอามาพนันกันได้ ทุกตัวพนันได้หมด
ถ้าอยากเพิ่ม odd ให้ได้กำไร ก็แค่เล่นตามเทรนด์ (trend is your friend) เล่นเมื่อมีสัญญาณเบรค
ปล. ที่ผมอยากย้ำจริงๆคือ จะทำทั้งหมดนั่นให้ได้ดีอะ มันยากน้าาา
เคยลองแล้ว ทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน มันไม่เดินซักอย่าง
http://guimanstock.blogspot.com/
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
- nonation
- Verified User
- โพสต์: 70
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 40
ขอบคุณครับ เป็นคำแนะนำที่มีค่ามากสำหรับผมเลยครับ สำหรับข้อ 4 เป็นเรื่องกิเลสล้วน ๆ ครับ ( กิเลสที่อยู่ในวงจำกัดของตัวเอง ) ถ้าไม่มีข้อนี้สำหรับผมอาจจะทำให้ข้ออื่นฟุ้งซ่านได้ และในอนาคตผมคิดว่า ผมคงมีอยู่แค่ 2 แนวทางเท่านั้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าจเป็นข้อใหน 1,3 หรือ 1,2 หรือ 2,3 แต่ที่แน่ ๆ ข้อ 4 ไม่ใช่ตัวหลักครับ ( เหมือนปัจจุบันที่เล่นหวยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเลือดลมสูบฉีดเท่านั้น )
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 43
จริงแล้วเป็นกลยุทธที่ดีนะครับ
ผมก็แบ่งเงินออกเป็นส่วน เพื่อการลงทุนตามระยะเวลาเหมือนกัน
แต่ข้อสี่ นี่มันจะหนักไปทางการพนันมากไป
หากพูดให้มันสวยหรูขึ้นมาหน่อยคือ ซื้อเพิ่มเอามาตามหรือศึกษา
ถ้ามันไม่ใช่ก็ขาย ถ้ามันดีก็ซื้อลงทุนเพิ่ม...อิอิ
ผมก็แบ่งเงินออกเป็นส่วน เพื่อการลงทุนตามระยะเวลาเหมือนกัน
แต่ข้อสี่ นี่มันจะหนักไปทางการพนันมากไป
หากพูดให้มันสวยหรูขึ้นมาหน่อยคือ ซื้อเพิ่มเอามาตามหรือศึกษา
ถ้ามันไม่ใช่ก็ขาย ถ้ามันดีก็ซื้อลงทุนเพิ่ม...อิอิ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าลงทุนแบบนี้ จะได้หุ้นแบบใหน
โพสต์ที่ 44
ข้อ ๔ นี่เป็นสิ่งที่ไม่ดีและอันตราย เพราะถ้าทำแล้วเราต้องทำซื้อขายบ่อยๆ ชึงไม่ใช่การลงทุนในกิจการยิ่งเราได้กำไร ก็จะยิ่งทำให้เราติดใจ หรือลงเงินทุนมากขึ้น ซึ่งถ้าเสียหายตอนหลังจะเสียหายมาก เรียกว่าเสียทั้งเงิน เวลาและใจของเรา สรุปว่าไม่ข้องแวะ ได้จะดีที่สุด