MK สุกี้
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
MK สุกี้
โพสต์ที่ 1
การเงิน - การลงทุน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 01:01
ไอพีโอฟีเวอร์ เอ็มเคสุกี้เข้าตลาดหุ้นปีหน้า
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เอเซีย พลัส ระบุกระแสหุ้นไอพีโอยังพุ่งต่อปีหน้า เตรียมดันเอ็มเคสุกี้เข้าตลาดช่วงกลางปีหน้า
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) (ASP) เปิดเผยว่า กระแสหุ้นไอพีโอยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไปจนถึงปีหน้า และบริษัท จะมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าต่อเนื่อง และน่าจะดีกว่าปีนี้ โดยเบื้องต้นได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในได้ในกลางปี 2556
ทั้งนี้ เอ็มเคสุกี้ หรือ บริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์ มีกระแสข่าวว่า จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2549 โดยคาดว่าการเงินระดมทุนไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้สำหรับการขยายธุรกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะการขยายสาขาในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เกตติ้ง เช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้สรุปเรื่องระยะเวลาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง เดิมมีแผนจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในต้นปี 2556 และเข้าซื้อขายกลางปี โดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นไม่เกิน 300 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น (พาร์) 10 บาท
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 01:01
ไอพีโอฟีเวอร์ เอ็มเคสุกี้เข้าตลาดหุ้นปีหน้า
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เอเซีย พลัส ระบุกระแสหุ้นไอพีโอยังพุ่งต่อปีหน้า เตรียมดันเอ็มเคสุกี้เข้าตลาดช่วงกลางปีหน้า
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) (ASP) เปิดเผยว่า กระแสหุ้นไอพีโอยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไปจนถึงปีหน้า และบริษัท จะมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าต่อเนื่อง และน่าจะดีกว่าปีนี้ โดยเบื้องต้นได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในได้ในกลางปี 2556
ทั้งนี้ เอ็มเคสุกี้ หรือ บริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์ มีกระแสข่าวว่า จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2549 โดยคาดว่าการเงินระดมทุนไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้สำหรับการขยายธุรกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะการขยายสาขาในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เกตติ้ง เช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้สรุปเรื่องระยะเวลาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง เดิมมีแผนจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในต้นปี 2556 และเข้าซื้อขายกลางปี โดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นไม่เกิน 300 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น (พาร์) 10 บาท
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 2
ทิศทางเม็ดเงินทุนเน้น AEC หรือ Domistic ครับ..เเข็งในแต่อย่าอ่อนนอก..ใครมีความเห็นบ้างครับ..พอดีผมมือใหม่ครับ.ขอIdeaด้วย..Diversification คิดหนักนะครับผมมอง
ความไม่โลภเป็นลาภอันประเสริฐ....
-
- Verified User
- โพสต์: 223
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 5
เท่าที่ดูๆ ตอนนี้ ในประเทศ น่าจะชนะร้านสุกี้อื่นๆ แบบลอยลำไปแล้วนะครับ
แถมธุรกิจอย่างเอมเค ก็น่าจะกระแสเงินสดล้นมืออยู่แล้ว
สำหรับผมตอนนี้ ยังหาเหตุผลอื่นของการระดมทุนไม่ถูกเลยครับ นอกจากไป ตปท.
(จะว่าหรือปรับ capital structure ก็ไม่น่าจะใช่)
แถมธุรกิจอย่างเอมเค ก็น่าจะกระแสเงินสดล้นมืออยู่แล้ว
สำหรับผมตอนนี้ ยังหาเหตุผลอื่นของการระดมทุนไม่ถูกเลยครับ นอกจากไป ตปท.
(จะว่าหรือปรับ capital structure ก็ไม่น่าจะใช่)
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 6
น่าสนใจว่าจะเข้ามาP/Eเท่าไหร่ แล้วจะเอาเงินไปทำอะไร
จะลุยต่างประเทศแบบจริงๆจังๆ??
เหมือนMKจะโดนใช้เป็นcase studyบ่อยๆว่าบริษัทดีๆมักอยู่นอกตลาดหุ้น ไม่ต้องเอาเงินไปแบ่งใคร
?
จะลุยต่างประเทศแบบจริงๆจังๆ??
เหมือนMKจะโดนใช้เป็นcase studyบ่อยๆว่าบริษัทดีๆมักอยู่นอกตลาดหุ้น ไม่ต้องเอาเงินไปแบ่งใคร
?
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 7
น่าสนใจมากนะครับ mk ไปต่างประเทศ ผมว่าmk มีศักยภาพมากทีเดียว
1.ไม่มีแม่ครัว ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ง่าย มีแค่ผัก กับ เนื้อสัตว์
2.รสชาติ แล้วแต่บุคคล แต่ผมว่าอร่อยดี
3.ราคาถูก ผมไปทานไม่เกิน 200-250/หัว ถือว่าถูกกว่าไปกินอาหารญี่ปุ่นหรือบุฟเฟ่
4.พนักงาน ถือว่าเป็นจุดแข็งในการเทรนคุณภาพพนักงาน แต่หลังๆผมว่าไม่ดีเท่าเมื่อก่อนนะ เมื่อก่อนน้ำยังไม่หมด มาเติมละ
เดี๋ยวนี้ผมว่าพนักงานน้อยลง
อยากเห็นแบรนด์ไทยไปโกอินเตอร์!!!
1.ไม่มีแม่ครัว ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ง่าย มีแค่ผัก กับ เนื้อสัตว์
2.รสชาติ แล้วแต่บุคคล แต่ผมว่าอร่อยดี
3.ราคาถูก ผมไปทานไม่เกิน 200-250/หัว ถือว่าถูกกว่าไปกินอาหารญี่ปุ่นหรือบุฟเฟ่
4.พนักงาน ถือว่าเป็นจุดแข็งในการเทรนคุณภาพพนักงาน แต่หลังๆผมว่าไม่ดีเท่าเมื่อก่อนนะ เมื่อก่อนน้ำยังไม่หมด มาเติมละ
เดี๋ยวนี้ผมว่าพนักงานน้อยลง
อยากเห็นแบรนด์ไทยไปโกอินเตอร์!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 10
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ได้ยื่นแบบแสดงข้อมูล(Filing) version แรก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน(IPO)จำนวน 185.85 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ก่อสร้างโรงงานครัวกลางแห่งใหม่ สร้างสำนักงานใหม่ ขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลักคือ ร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เอ็ม เค"นอกจากนี้ยังดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"ยาโยอิ","ฮากาดะ"และ"เท็นจิน",ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า "ณ สยาม" และ "เลอ สยาม",ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"เลอ เพอทิท"รวมถึงการดำเนินธุรกิจสถาบันฝึกอบรมอาชีพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในเครือบริษัทฯทั้งหมด
โครงสร้างของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 55 โดย บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็ม เค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด(MKI), ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มเค เซอร์วิส เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด(MKST), ถือหุ้น 50% ในบริษัท พลีนัส แอนด์ เอ็ม เค พีทีอี ลิมิเท็ด และถือหุ้น 12% ในบริษัท พลีนัส เอ็ม เค ลิมิเท็ด
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯงวด 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจร้านอาหารสุกี้ 8,381 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จ 1,613 ล้านบาท และ ณ วันที่ 30 กันยายน 55 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 4,454 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,436 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 950 ล้านบาท
ณ วันที่ 8 มกราคม 56 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 925.85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 925.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 720 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 720 ล้านหุ้น ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 905.85 ล้านบาท แบ่งเป็น 905.85 ล้านหุ้น นอกเหนือจากการเพิ่มทุนขาย IPO 185.85 ล้านหุ้นแล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยด้วย
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 กันยายน 55 คือ กลุ่มนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ถือหุ้น 338,598,035 หุ้นหรือคิดเป็น 47% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 37.4%, นายสมชาย หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,088,012 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1% และนายสมนึก หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,087,977 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ก่อสร้างโรงงานครัวกลางแห่งใหม่ สร้างสำนักงานใหม่ ขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลักคือ ร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เอ็ม เค"นอกจากนี้ยังดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"ยาโยอิ","ฮากาดะ"และ"เท็นจิน",ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า "ณ สยาม" และ "เลอ สยาม",ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"เลอ เพอทิท"รวมถึงการดำเนินธุรกิจสถาบันฝึกอบรมอาชีพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในเครือบริษัทฯทั้งหมด
โครงสร้างของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 55 โดย บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็ม เค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด(MKI), ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มเค เซอร์วิส เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด(MKST), ถือหุ้น 50% ในบริษัท พลีนัส แอนด์ เอ็ม เค พีทีอี ลิมิเท็ด และถือหุ้น 12% ในบริษัท พลีนัส เอ็ม เค ลิมิเท็ด
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯงวด 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจร้านอาหารสุกี้ 8,381 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จ 1,613 ล้านบาท และ ณ วันที่ 30 กันยายน 55 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 4,454 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,436 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 950 ล้านบาท
ณ วันที่ 8 มกราคม 56 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 925.85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 925.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 720 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 720 ล้านหุ้น ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 905.85 ล้านบาท แบ่งเป็น 905.85 ล้านหุ้น นอกเหนือจากการเพิ่มทุนขาย IPO 185.85 ล้านหุ้นแล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยด้วย
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 กันยายน 55 คือ กลุ่มนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ถือหุ้น 338,598,035 หุ้นหรือคิดเป็น 47% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 37.4%, นายสมชาย หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,088,012 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1% และนายสมนึก หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,087,977 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 522
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 11
อยากกินสุกี้ แต่น้ำจิ้มหวานแหลมไปหน่อยน้ำซุปรสไม่ลุ่มลึก
แต่โดยรวมๆโอเคแล้วสำหรับตลาดแมส เด็กยันแก่
คิดคร่าวๆจากที่เห็น(คร่าวๆ)
ม.ค.-ก.ย. 55
ยอดขายโตสุกี้ประมาณ 15% ยาโยอินี่รุกเปิดสาขาเยอะมากโตประมาณ 40%
Net Magin 19%
ROA 36%
ROE 112%
Asset turnover 1.88 เท่า
น่าจะปันผลได้ดีเลยละคับ แล้วก็ยังโตได้อีกเรื่อยๆ
อาหารการกินนี่มันสุดยอดจริงๆ
โบรคเราจะหาหุ้นจองให้ได้เท่าไหร่ละเนี๊ย เฮ้อ
แต่โดยรวมๆโอเคแล้วสำหรับตลาดแมส เด็กยันแก่
คิดคร่าวๆจากที่เห็น(คร่าวๆ)
ม.ค.-ก.ย. 55
ยอดขายโตสุกี้ประมาณ 15% ยาโยอินี่รุกเปิดสาขาเยอะมากโตประมาณ 40%
Net Magin 19%
ROA 36%
ROE 112%
Asset turnover 1.88 เท่า
น่าจะปันผลได้ดีเลยละคับ แล้วก็ยังโตได้อีกเรื่อยๆ
อาหารการกินนี่มันสุดยอดจริงๆ
โบรคเราจะหาหุ้นจองให้ได้เท่าไหร่ละเนี๊ย เฮ้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 16
ในความคิดของผม
เดี๋ยวนี้ มีร้านอาหารในห้าง ให้เลือกใช้บริการมากขึ้นครับ
ความถี่ในการไปกิน MK ก็ น้อยลง
เพราะ แบ่งไปกินร้านอื่นๆ ด้วย
เดี๋ยวนี้ มีร้านอาหารในห้าง ให้เลือกใช้บริการมากขึ้นครับ
ความถี่ในการไปกิน MK ก็ น้อยลง
เพราะ แบ่งไปกินร้านอื่นๆ ด้วย
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
MK สุกี้ น่าสนใจมากครับ ถึงคาดว่าราคาน่าจะสูง แต่ก็เป็นธุรกิจที่น่าลงทุนครับ
MK สุกี้ น่าสนใจมากครับ ถึงคาดว่าราคาน่าจะสูง แต่ก็เป็นธุรกิจที่น่าลงทุนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 19
We can look in there company website on http://www.mkrestaurant.com/
That pretty good web page.
They just opened 2 new branches in Lotus Mae sot Tak (Branch number M397)
and Big C Roi et (Branch number M398) last month.
That pretty good web page.
They just opened 2 new branches in Lotus Mae sot Tak (Branch number M397)
and Big C Roi et (Branch number M398) last month.
" ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา....
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินให้ไปถึงฝัน เท่านั้นพอ"
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินให้ไปถึงฝัน เท่านั้นพอ"
-
- Verified User
- โพสต์: 2166
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 23
บริษัทน่าขะขอใช้ชื่อย่อ suki เพื่อกันความสับสน : )vim เขียน:ถ้าเข้าตลาดจริง ผมฟันธงว่าต้องมีคนกดซื้อผิดตัวเป็นพักๆ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
http://valueinvestors.wordpress.com/
- JUMP
- Verified User
- โพสต์: 175
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 25
ใช่ครับ ผมก็เป็นแบบนี้ แต่โดนรวมแล้วไม่ว่าจะแวะร้านอื่นไปบ้าแต่ สรุป MK ก็ดีและเหมาะกับผมมากว่า ณ เวลานี้ครับteetotal เขียน:ในความคิดของผม
เดี๋ยวนี้ มีร้านอาหารในห้าง ให้เลือกใช้บริการมากขึ้นครับ
ความถี่ในการไปกิน MK ก็ น้อยลง
เพราะ แบ่งไปกินร้านอื่นๆ ด้วย
สติ รู้ตัว, ปัญญา รู้คิด.
-
- Verified User
- โพสต์: 345
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 26
ผมสงสัยเวลาจะจอง IPO ครับ เห็น mk เค้าปรึกษา บล.เอเซีย พลัส จำเป็นไหมครับว่า เราต้องมีพอร์ทกับ เอเชีย พลัสเท่านั้น ถึงจะจองได้
Facebook Page: VI10x:
https://www.facebook.com/vi10x
https://www.facebook.com/vi10x
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 27
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ได้ยื่นแบบแสดงข้อมูล(Filing) version แรก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน(IPO)จำนวน 185.85 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ก่อสร้างโรงงานครัวกลางแห่งใหม่ สร้างสำนักงานใหม่ ขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลักคือ ร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เอ็ม เค"นอกจากนี้ยังดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"ยาโยอิ","ฮากาดะ"และ"เท็นจิน",ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า "ณ สยาม" และ "เลอ สยาม",ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"เลอ เพอทิท"รวมถึงการดำเนินธุรกิจสถาบันฝึกอบรมอาชีพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในเครือบริษัทฯทั้งหมด
โครงสร้างของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 55 โดย บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็ม เค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด(MKI), ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มเค เซอร์วิส เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด(MKST), ถือหุ้น 50% ในบริษัท พลีนัส แอนด์ เอ็ม เค พีทีอี ลิมิเท็ด และถือหุ้น 12% ในบริษัท พลีนัส เอ็ม เค ลิมิเท็ด
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯงวด 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจร้านอาหารสุกี้ 8,381 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จ 1,613 ล้านบาท และ ณ วันที่ 30 กันยายน 55 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 4,454 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,436 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 950 ล้านบาท
ณ วันที่ 8 มกราคม 56 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 925.85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 925.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 720 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 720 ล้านหุ้น ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 905.85 ล้านบาท แบ่งเป็น 905.85 ล้านหุ้น นอกเหนือจากการเพิ่มทุนขาย IPO 185.85 ล้านหุ้นแล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยด้วย
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 กันยายน 55 คือ กลุ่มนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ถือหุ้น 338,598,035 หุ้นหรือคิดเป็น 47% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 37.4%, นายสมชาย หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,088,012 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1% และนายสมนึก หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,087,977 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
น่าสนใจอย่างมากครับ โดยเฉพาะเรื่อง npm ถ้าดูจากตัวเลขตามที่ปี 55 เท่ากับว่า
มี net profit margin อยู่เกือบ 20% ทีเดียว เหนือกว่าธุรกิจอาหารอื่นๆ ไม่รู้ว่า
ทำได้อย่างไร
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ก่อสร้างโรงงานครัวกลางแห่งใหม่ สร้างสำนักงานใหม่ ขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลักคือ ร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เอ็ม เค"นอกจากนี้ยังดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"ยาโยอิ","ฮากาดะ"และ"เท็นจิน",ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า "ณ สยาม" และ "เลอ สยาม",ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า"เลอ เพอทิท"รวมถึงการดำเนินธุรกิจสถาบันฝึกอบรมอาชีพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในเครือบริษัทฯทั้งหมด
โครงสร้างของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 55 โดย บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็ม เค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด(MKI), ถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มเค เซอร์วิส เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด(MKST), ถือหุ้น 50% ในบริษัท พลีนัส แอนด์ เอ็ม เค พีทีอี ลิมิเท็ด และถือหุ้น 12% ในบริษัท พลีนัส เอ็ม เค ลิมิเท็ด
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯงวด 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจร้านอาหารสุกี้ 8,381 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จ 1,613 ล้านบาท และ ณ วันที่ 30 กันยายน 55 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 4,454 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,436 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 950 ล้านบาท
ณ วันที่ 8 มกราคม 56 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 925.85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 925.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 720 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 720 ล้านหุ้น ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 905.85 ล้านบาท แบ่งเป็น 905.85 ล้านหุ้น นอกเหนือจากการเพิ่มทุนขาย IPO 185.85 ล้านหุ้นแล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยด้วย
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 กันยายน 55 คือ กลุ่มนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ถือหุ้น 338,598,035 หุ้นหรือคิดเป็น 47% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 37.4%, นายสมชาย หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,088,012 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1% และนายสมนึก หาญจิตต์เกษม ถือหุ้น 164,087,977 หุ้น หรือคิดเป็น 22.8% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 18.1%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
น่าสนใจอย่างมากครับ โดยเฉพาะเรื่อง npm ถ้าดูจากตัวเลขตามที่ปี 55 เท่ากับว่า
มี net profit margin อยู่เกือบ 20% ทีเดียว เหนือกว่าธุรกิจอาหารอื่นๆ ไม่รู้ว่า
ทำได้อย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 28
ตอบคุณ zaranghae ใช่ครับ ต้องมีพอร์ต ที่เอเชียพลัส และคาดว่าต้องเป็นรายใหญ่ด้วย
นะครับ เพราะหุ้นมีจำนวนไม่เยอะคือ 185.85 ล้านหุ้น เท่านั้น คิดว่าราคา IPO คงแพงน่าดู
ไม่รู้ว่าจะออกมาที่ P/E เท่าไหร่ เดาๆ เอาน่าจะเกิน P/E 20 หรือราวๆ นี้ แต่คิดว่าคงเป็น
หุ้นประเภทแพงแล้วแพงได้อีก ก็ต้องดูครับว่าเอเชียพลัส จะมีใครเป็น co-underwriter บ้าง
ก็อาจจะไปขอจากโบรกนั้นได้บ้างมั้งคับ
ราย MK สุกี้นี่ เท่าทีทราบดร.ก้องเกียรติ แกใช้ความพยายามจีบมานานมากแล้ว น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ปี นะครับ ในที่สุดเจ้าของก็ใจอ่อนยอม IPO จนได้
นะครับ เพราะหุ้นมีจำนวนไม่เยอะคือ 185.85 ล้านหุ้น เท่านั้น คิดว่าราคา IPO คงแพงน่าดู
ไม่รู้ว่าจะออกมาที่ P/E เท่าไหร่ เดาๆ เอาน่าจะเกิน P/E 20 หรือราวๆ นี้ แต่คิดว่าคงเป็น
หุ้นประเภทแพงแล้วแพงได้อีก ก็ต้องดูครับว่าเอเชียพลัส จะมีใครเป็น co-underwriter บ้าง
ก็อาจจะไปขอจากโบรกนั้นได้บ้างมั้งคับ
ราย MK สุกี้นี่ เท่าทีทราบดร.ก้องเกียรติ แกใช้ความพยายามจีบมานานมากแล้ว น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ปี นะครับ ในที่สุดเจ้าของก็ใจอ่อนยอม IPO จนได้
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MK สุกี้
โพสต์ที่ 29
ลองสวมวิญญาน IB ดูคิดเล่นๆ ง่ายๆ เกี่ยวกับราคา IPO นะครับ หุ้นทั้งหมดก่อน IPO มี
720 กำไรปี 55 ประมาณ 2,150 ลบ. (กำไรประมาณไตรมาสละ 530 ลบ.) ตกกำไร
ต่อหุ้น ประมาณ 3 บาท คิดง่ายๆ ถ้าขาย P/E 20 ก็ตกประมาณหุ้นละ 60 บาท แต่ถ้าคิดว่ายอดขายและกำไรโตต่อเนื่องอาจขายที่ P/E ที่ 30 จะเท่ากับ 90 บาท หรือมากกว่า ต้องดูเอเชียพลัสละครับว่าจะทำราคา IPO ออกมาแค่ไหน แต่งานนี้ถึงแพงมากแต่ก็มีคนเอาหมดแน่นอน (งานนี้คุณฤทธิ์ลดสัดส่วนหุ้นจาก 47% ลงมาเหลือ 37% ก็จะ Cash out เงินออกมาได้มโหฬารเลยที่เดียว)
720 กำไรปี 55 ประมาณ 2,150 ลบ. (กำไรประมาณไตรมาสละ 530 ลบ.) ตกกำไร
ต่อหุ้น ประมาณ 3 บาท คิดง่ายๆ ถ้าขาย P/E 20 ก็ตกประมาณหุ้นละ 60 บาท แต่ถ้าคิดว่ายอดขายและกำไรโตต่อเนื่องอาจขายที่ P/E ที่ 30 จะเท่ากับ 90 บาท หรือมากกว่า ต้องดูเอเชียพลัสละครับว่าจะทำราคา IPO ออกมาแค่ไหน แต่งานนี้ถึงแพงมากแต่ก็มีคนเอาหมดแน่นอน (งานนี้คุณฤทธิ์ลดสัดส่วนหุ้นจาก 47% ลงมาเหลือ 37% ก็จะ Cash out เงินออกมาได้มโหฬารเลยที่เดียว)