2012 Investment Diary

[nut776]

1ขาดความรู้ความเข้าใจ port management
2การวางแผน หา exit strategy ต่ำ
3active เกินความจำเป็น

นำมาซึ่งผลตอบแทนต่ำรวมกว่าควรจะเป็นทั้งๆ
return รายตัวสูงตามตั้งใจ และใกล้เคียงเหตุผลที่คิด

[leky]

นโยบายส่วนตัว "เปิดเกมรุกเต็มที่" ถือหุ้น 100% ตลอดเวลา ซึ่งเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว

ปัญหาของการถือหุ้นตลอดเวลาคือ

บางครั้งหุ้นที่ถืออยู่มีหลายประเภท เช่น หุ้นบางตัวเป็นหุ้นที่ต้องให้เวลา ราคาหุ้นคิดว่าถูกแต่ต้องรอ "ตัวเร่ง" บางอย่างมาขับดันราคาหุ้น ซึ่งถ้าตัวเร่งนั้นมาจริง ราคาหุ้นจะขึ้นได้ได้ค่อนข้างมาก หุ้นบางตัวผลประกอบการดีต่อเนื่องราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง หุ้นบางตัวราคาขึ้นมาตามพื้นฐานแต่อาจจะยังมีตัวเร่งใหม่ ๆ ทำให้บางครั้งเจอหุ้นที่น่าสนใจก็ทำให้เราตัดใจขายหุ้นตัวที่ถืออยู่ไม่ลง เพราะรู้สึกว่าของเก่ามันก็ยังดี แต่ของใหม่มันก็น่าจะเข้าท่าอยู่เหมือนกัน เข้าทำนอง "รักพี่เสียดายน้อง" ทำให้รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ซื้อหุ้นตัวใหม่ ๆ หรือซื้อได้ในสัดส่วนที่น้อย แล้วมันก็ขึ้นไปประมาณเท่าตัว

ปีนี้ชนะตลาดขาดลอยเอาคืนจากปีก่อนที่โดนพิษของน้ำท่วมเข้าไป แต่ผมให้ความสำคัญกับกำไรเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นมากกว่าครับ ขอให้อย่าตกจากเป้าที่วางไว้ ปีไหนจะติดลบปีไหนจะบวกมากบ้างน้อยบ้างก็รู้สึกยอมรับได้ครับ

[Green]

ตอนนี้ลงทุนอยู่ 6 บริษัทครับ

1. บริษัทแรก บริษัทกลับมามีกำไร แล้วครับ หลังจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม บริษัทนี้เปลี่ยน business model ใหม่ เพิ่มเงินลงทุนในบริษัทย่อยมากขึ้น หวังว่าปีหน้าจะกลับมาแบบเต็มตัวได้ และระยะยาว บริษัทย่อยนี้น่าจะทำกำไรได้มากกว่าธุรกิจหลักได้ ต้องติดตามดูต่อไปยาวๆครับ
2 . บริษัทที่สอง เป็นไปตามคาดว่าเติมโต ดีกว่าตลาดรวมเยอะ มีช่องทางการขาย ที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท หุ้นเคยถูกกดลงมามากเพราะคนกลัวกันว่าจะถูกเอาออกนอกตลาด (สงสัยตอนนี้จะเลิกกลัวกันแล้วมั้ง)
3. บริษัทที่สาม เป็นการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทได้วางกลยุทธ์ให้เป็นregional playeเต็มตัว ยอดขายเติบโตขึ้นมากตามเป้า แต่กำไรยังน้อยอยู่ ราคาหุ้นเลยยังไม่ไปไหนมาก ปีนี้บริษัท ลงทุนขยายสาขาเยอะมาก จากไม่เคยกู้ก็กู้เพิ่ม ถึงแม้ว่าจะยังไม่เยอะมาก แต่ต้องจับตาดูครับ ว่าจะสำเร็จหรือไม่

[Green]

ต่อครับ

4 บริษัทนี้ ไปเรื่อยๆไม่หวือหวา มาก อยู่ในธุรกิจที่ไม่ว่ายังไง ก็ยังจำเป็น ในอดีตมักมีกำไรพิเศษ แต่ปีนี้ไม่มี ถึงอย่างนั้นก็กำไรดีกว่าที่เคยๆเป็นมา ยอดขายกำไร สวยตามเป้า มีลูกค้ามาใหม่ๆ มามากขึ้น ปีต่อๆไปยอดขายโตปีละ10. - 15% ก็พอใจแล้ว

5 บริษัทนี้ อดีตเคยเป็นตัวชูโรง ผลงานเคยโดดเด่นทั้งกำไรและยอดขาย. แต่พอปีนี้เริ่มนิ่งไป ทะยอยปรับพอร์ตออกเมื่อต้นปี ตอนนี้ผบหคิดว่า ผลงานน่าจะพอๆกับปีที่แล้ว ระยะยาวน่าจะพอโตได้แต่จะเหนื่อยกว่า2-3ปีก่อนเยอะ.

6. สุดท้าย ตัวนี้เป็นdefensive play. คือเป็นสาธารณูปโภค ปีนี้กำไรดีมาก ไม่มีคู่แข่ง เลย ปีต่อๆไปจะมีการลงทุน ก้อนใหญ่มากขึ้น น่าจะกดดันกำไรเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ทำอะไรไม่เข้่าท่ามากๆ. บรัษัทน่าจะไปได้ด้วยดีในระยะยาว

สรุปปีนี้ ชนะตลาดเล็กน้อยครับ

บริษัทที่ลงทุนไป 5/6 กำไร สูงขึ้นกว่าปีก่อนครับ.
มองไปในระยะยาว บริษัทเหล่านี้ น่าจะเติบโตได้ 10-15% ได้อีกซักพักครับ

[Jatuporn9]

ปี 55
1 ล้างพอร์ท จำเป็นต้องนำเงินออกไปหมุนในธุรกิจ ตอนนี้เพิ่งกลับมาลงทุนใหม่
2 ขี้เกียจอ่านหนังสือ เพราะไม่มีเงิน ใช้เวลาไปแบบไม่มีประโยชน์
3 เปลี่ยนงาน เพื่อเพิ่มรายได้ (อันนี้ดีหน่อย) รายได้เพิ่ม 50%

เป้าหมายปี 56
1 เก็บเงินเข้าพอร์ทให้ได้ตามแผน
2 อ่านหนังสือด้านการลงทุนเดือนละเล่มเป็นอย่างน้อย
3 ลดความอ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
4 ทำงบเอง ที่ผ่านมาพึ่งคนอื่นมากไป
5 ให้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้นและมากขึ้น ที่ผ่านมา ทำแต่งาน จนครอบครัวเกือบล้ม

แค่นี้ก็น่าจะเยอะมากแล้ว ส่วนเป้าหมายทางการเงินขอไม่ตั้งดีกว่าครับ ที่ผ่านมาค่อนข้างเลือกหุ้นถูกตัว แต่ถือสั้นไป เลยไม่ได้ผลตอบแทนมากนัก ปีนี้ขอพยายามทำตัวเองให้นิ่งๆ ใจร่มๆ ดูยาวๆ ก็น่าจะดีครับ

[TIPPING_POINT]

ขอแชร์ด้วยครับ
ปีนี้ผลตอบแทนชนะตลาดนิดหน่อยแต่พลาดหลายๆอย่าง

1.ตกใจกลัวง่ายไปหน่อย. จำได้ว่าตอนกรีซกำลังเลือกตั้ง. ขายหุ้นออกไปครึ่งหนึ่ง. ทำให้ผลตอบหายไปเยอะเหมือนกัน
2.วิเคราห์ผิด ซื้อบริษัทธรรมดาในราคาถูก ต้นทุนวัตถุดิบลด แต่ผู้บริหารไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลมากนัก สุดท้ายก็มีค่าใช้จ่ายบางอย่างเกิดขึ้นมา
3.ไม่ขายหุ้นบางตัวทั้งๆที่กำไรมากแล้ว สุดท้ายราคาตกไปเกือบทุน

ปีนี้ลองเปลี่ยนวิธีเล่นคือถือหุ้นมากตัวขึ้น แต่ก่อนถือแค่ 3 -4 ตัว
มอง trend ใหญ่ก่อน