เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และสุขภา
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 91
แพทย์วินิจฉัยว่าเป็น TEN
เกิดจากแพ้ยาหรือเปล่าครับ พวกยา co-tri หรือพวกยากันชัก หรือยาแก้ปวดกลุ่มN-SAID
ดูจากการหลุดลอก ของผิวก้ต้องยืน TEN ครับ คงไม่ใช่แค่ SJS
ยังไงก้ขอเป็นกำลังใจให้หายไวๆนะครับ
ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้มากๆ
เกิดจากแพ้ยาหรือเปล่าครับ พวกยา co-tri หรือพวกยากันชัก หรือยาแก้ปวดกลุ่มN-SAID
ดูจากการหลุดลอก ของผิวก้ต้องยืน TEN ครับ คงไม่ใช่แค่ SJS
ยังไงก้ขอเป็นกำลังใจให้หายไวๆนะครับ
ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้มากๆ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 92
ปวดเส้นที่แทงเข็ม คือ thrombophlebitisครับ
แต่คิดว่านะจะแก้ได้แล้วเพราะ คงไม่ต้องแทงเข็มเข้าเส้นแล้ว
คุณ T คงได้ปฏิบัติธรรมผ่านการดูเวทนา ลมหายใจ และผิวหนังทุกตารางนิ้ว
มาแล้ว อนุโมทนาด้วยนะครับ
ต่อไปนี้ได้ชีวิตใหม่ หลังลอกคราบ แบบฮุ้นปวยเอี๊ยง กระบี่ไร้เทียมทานแล้ว
วิทยายุทธคงสูงส่งยิ่งขึ้นๆ สาธุ
แต่คิดว่านะจะแก้ได้แล้วเพราะ คงไม่ต้องแทงเข็มเข้าเส้นแล้ว
คุณ T คงได้ปฏิบัติธรรมผ่านการดูเวทนา ลมหายใจ และผิวหนังทุกตารางนิ้ว
มาแล้ว อนุโมทนาด้วยนะครับ
ต่อไปนี้ได้ชีวิตใหม่ หลังลอกคราบ แบบฮุ้นปวยเอี๊ยง กระบี่ไร้เทียมทานแล้ว
วิทยายุทธคงสูงส่งยิ่งขึ้นๆ สาธุ
samatah
- freedomlife
- Verified User
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 93
ขอเป็นกำลังใจให้ฝ่า วิกฤตินี้ไปให้ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 95
พันคนทุกข์พันอย่าง ร้อยคนร้อยปัญหา
เชื่อว่าการปฏิบัติ์ธรรม ของคุณ T_0007
จะช่วยบรรเทาความทุกข์ใจ จากการเจ็บป่วยทางกายได้อย่างมากครับ
เชื่อว่าการปฏิบัติ์ธรรม ของคุณ T_0007
จะช่วยบรรเทาความทุกข์ใจ จากการเจ็บป่วยทางกายได้อย่างมากครับ
- firefox
- Verified User
- โพสต์: 124
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 96
เป็นกำลังใจให้คุณธีนะครับ
ขอบคุณนะครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
จากข้อเขียนของคุณธี
เมื่อหายแล้วอย่างให้มาออกรายการ money talk
มาเล่าเรื่องต่างๆ ให้เราฟังกัน
ขอบคุณนะครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
จากข้อเขียนของคุณธี
เมื่อหายแล้วอย่างให้มาออกรายการ money talk
มาเล่าเรื่องต่างๆ ให้เราฟังกัน
"ถึงจะช้า ถ้าไม่ถอย ไกลแค่ไหนก็ไปถึง"
-
- Verified User
- โพสต์: 571
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 99
อาการคุณธีดีขึ้นตามลำดับ ภาพโกนผมบวชที่รพ.ถ่ายเมื่อสองสามวันก่อน
จริงๆ เมื่อเวลาเหมาะสม ผมตั้งใจจะบวชเมื่อสุขภาพแข็งแรงเต็มที่แล้ว แต่ด้วยผมไม่แน่ใจว่าวาสนาผมจะมีแค่ไหน บวชได้นานแค่ไหน. การสะสมความรู้และพลังหากวาสนาทางพุทธศาสนาไม่เพียงพอผมก็สามารถทำประโยชน์ได้ต่อครับ. ผมน่าจะออกจากโรงพยาบาลประมาณต้นถึงกลางมกรา ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูอาการตากับปาก และลดยาอย่างเดียวครับ. เมื่อผมพร้อม จึงอยากขอโอกาสไปหาอาจารย์ เพื่อกราบขอบคุณ ขอความรู้ ละขอธรรมะ จากอาจารย์อีกทีครับ ตามโอกาสเหมาะสมและความสะดวกของอาจารย์ครับ <<อ.ในบทสนทนาหมายถึงอ.ไพบูลย์ครับ
ภาพสุดท้ายคือคุณพ่อคุณธี รศ.ดร.ปฐม นิคมานนท์ ปฏิบัติหน้าที่แทนคุณเดียร์ภรรยาคุณธี
คุณเดียร์เฝ้าไข้จนป่วยเป็นหวัดหมอห้ามเยี่ยมทั้งๆที่อยากทำหน้าที่ต่อ ฟังแล้วครอบครัวนี้น่ารักดีครับ
จริงๆ เมื่อเวลาเหมาะสม ผมตั้งใจจะบวชเมื่อสุขภาพแข็งแรงเต็มที่แล้ว แต่ด้วยผมไม่แน่ใจว่าวาสนาผมจะมีแค่ไหน บวชได้นานแค่ไหน. การสะสมความรู้และพลังหากวาสนาทางพุทธศาสนาไม่เพียงพอผมก็สามารถทำประโยชน์ได้ต่อครับ. ผมน่าจะออกจากโรงพยาบาลประมาณต้นถึงกลางมกรา ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูอาการตากับปาก และลดยาอย่างเดียวครับ. เมื่อผมพร้อม จึงอยากขอโอกาสไปหาอาจารย์ เพื่อกราบขอบคุณ ขอความรู้ ละขอธรรมะ จากอาจารย์อีกทีครับ ตามโอกาสเหมาะสมและความสะดวกของอาจารย์ครับ <<อ.ในบทสนทนาหมายถึงอ.ไพบูลย์ครับ
ภาพสุดท้ายคือคุณพ่อคุณธี รศ.ดร.ปฐม นิคมานนท์ ปฏิบัติหน้าที่แทนคุณเดียร์ภรรยาคุณธี
คุณเดียร์เฝ้าไข้จนป่วยเป็นหวัดหมอห้ามเยี่ยมทั้งๆที่อยากทำหน้าที่ต่อ ฟังแล้วครอบครัวนี้น่ารักดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 172
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 100
มีคำของตถาคตสักบทอยากจะฝากไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยามนี้ลองพิจารณาดูนะครับ
ทางรอดสำหรับภิกษุไข้
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไข้ผู้มีกำลังน้อยรูปใด ไม่ละ
จากธรรม ๕ อย่าง, เธอพึงหวังผลอันนี้ได้ คือเธอจัก
ทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ในปัจจุบัน เข้าถึงแล้วแลอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย.
ธรรม ๕ อย่างอะไรบ้างเล่า ? ๕ อย่างคือ :-
(๑) เป็นผู้พิจารณา เห็นความไม่งามในกายอยู่เป็น
ประจำ
(๒) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความเป็นปฏิกูล
ในอาหารอยู่เป็นประจำ;
(๓) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความไม่น่ายินดี
ในโลกทั้งปวงอยู่เป็นประจำ;
(๔) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความไม่เที่ยงใน
สังขารทั้งปวงอยู่เป็นประจำ;
(๕) มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในกาย แล้วเห็น
การเกิดดับ ในภายใน.
90 พุ ท ธ ว จ น
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไข้ผู้มีกำลังน้อยรูปใด ไม่ละ
จากธรรม ๕ อย่างเหล่านี้, เธอพึงหวังผลอันนี้ได้ คือ
เธอจักทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะ
มิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญา
อันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงแล้วแลอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย.
ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๐/๑๒๑.
ทางรอดสำหรับภิกษุไข้
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไข้ผู้มีกำลังน้อยรูปใด ไม่ละ
จากธรรม ๕ อย่าง, เธอพึงหวังผลอันนี้ได้ คือเธอจัก
ทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ในปัจจุบัน เข้าถึงแล้วแลอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย.
ธรรม ๕ อย่างอะไรบ้างเล่า ? ๕ อย่างคือ :-
(๑) เป็นผู้พิจารณา เห็นความไม่งามในกายอยู่เป็น
ประจำ
(๒) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความเป็นปฏิกูล
ในอาหารอยู่เป็นประจำ;
(๓) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความไม่น่ายินดี
ในโลกทั้งปวงอยู่เป็นประจำ;
(๔) เป็นผู้ที่มีการกำหนดหมาย ความไม่เที่ยงใน
สังขารทั้งปวงอยู่เป็นประจำ;
(๕) มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในกาย แล้วเห็น
การเกิดดับ ในภายใน.
90 พุ ท ธ ว จ น
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไข้ผู้มีกำลังน้อยรูปใด ไม่ละ
จากธรรม ๕ อย่างเหล่านี้, เธอพึงหวังผลอันนี้ได้ คือ
เธอจักทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะ
มิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญา
อันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงแล้วแลอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย.
ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๐/๑๒๑.
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 102
ใจบุญทั้งครอบครัวเลยนะครับLA-Z-BOY เขียน: ภาพสุดท้ายคือคุณพ่อคุณธี รศ.ดร.ปฐม นิคมานนท์ ปฏิบัติหน้าที่แทนคุณเดียร์ภรรยาคุณธี
คุณเดียร์เฝ้าไข้จนป่วยเป็นหวัดหมอห้ามเยี่ยมทั้งๆที่อยากทำหน้าที่ต่อ ฟังแล้วครอบครัวนี้น่ารักดีครับ
อย่างนี้เรียกว่า "บุญรักษา" ของแท้ครับ
http://larndham.org/index.php?/topic/41 ... %E0%B8%B0/
ขอเชิญดาวน์โหลด ebook หนังสือธรรมะหลากหลายนับร้อยเล่ม
พระเกจิอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากโครงการ หนังสือบูรพาจารย์
(รศ.ดร.ปฐม - รศ.ภัทรา นิคมานนท์
ที่เอื้อเฟื้อต้นฉบับหนังสือทั้งหมด และที่เป็น pdf ไฟล์
โดยมุ่งหวังในการร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน )
-
- Verified User
- โพสต์: 154
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 103
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก
ดลบันดาลให้คุณธีหายป่วย สุขภาพร่างกายแข็งแรงดังเดิมด้วยนะครับ
ดลบันดาลให้คุณธีหายป่วย สุขภาพร่างกายแข็งแรงดังเดิมด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 104
คุณwanidaja เก่งจริงๆน่าจะมีความรู้ทางแพทย์ เพราะตรงกับที่หมอบอกผมเมื่อวันก่อนเลยครับ ว่าหากเส้นใช้ไม่ได้ อย่าว่าแต่ปวดเส้นเลย ไข้ขึ้นยังได้. ผมสบายใจไปแล้วครับ สังเกตอาการปวดเส้น เมื่อไหร่ก็บอกเขา พิเศษหน่อยที่เจาะ 20 กว่าครั้งและ จิ๊บๆ เมื่อวานก็เจาะอีก2เส้น เส้นแรกใช้ไม่ได้ ต้องเจาะซ้ำ
ขอบคุณครับ La-Z-boy ที่ช่วยโพส ผม ยังโพสไม่เป็นช่วยสินหน่อยนะครับ
(มันต้องใส่อะไรไปตรงกลางก็ไม่รู้
วันนี้ทำตาอีกครั้งใหญ่หน่อย แต่หมอบอกว่าไม่ active แล้ว เหลือเฝ้อดูอาการ และป้ายเจลทุกสอง ชม เพื่อเป็นตัวกั้นผังผืด
เมื่อสองวันที่ผ่านมา มีข่าวคนเสียชีวิตอีก ข่าว คือเพื่อนสนิทน้องที่ทำงาน อุบัติเหตุเสียชีวิต และรถโรงงาน wd (น่าจะ50) คนเป็นบริษัทเก่าผมเอง คว่ำเสียชีวิต เราก็อุทิศให้เขา และแสดงความเสียใจและปลอบใจ มันเป็นเรื่องธรรมดา เราแค่มาพบกันสั้นๆ ดังนั้นจดจำความรู้สึกดีๆ ต่อกันไว้ (เรื่องอย่างนี้มันใกล้เราจริงๆ ไม่รู้ว่าม่านควรจะใกล้ผมหรือเปล่าเนี่ย ฮา)
อีกเรื่องที่น่ายินดีวันนี้ คือผมได้เพื่อนที่ดีมากกลับมา 2 ท่าน ผมโชคดีอีกแล้วครับมีความสุข
ขอบคุณครับ La-Z-boy ที่ช่วยโพส ผม ยังโพสไม่เป็นช่วยสินหน่อยนะครับ
(มันต้องใส่อะไรไปตรงกลางก็ไม่รู้
วันนี้ทำตาอีกครั้งใหญ่หน่อย แต่หมอบอกว่าไม่ active แล้ว เหลือเฝ้อดูอาการ และป้ายเจลทุกสอง ชม เพื่อเป็นตัวกั้นผังผืด
เมื่อสองวันที่ผ่านมา มีข่าวคนเสียชีวิตอีก ข่าว คือเพื่อนสนิทน้องที่ทำงาน อุบัติเหตุเสียชีวิต และรถโรงงาน wd (น่าจะ50) คนเป็นบริษัทเก่าผมเอง คว่ำเสียชีวิต เราก็อุทิศให้เขา และแสดงความเสียใจและปลอบใจ มันเป็นเรื่องธรรมดา เราแค่มาพบกันสั้นๆ ดังนั้นจดจำความรู้สึกดีๆ ต่อกันไว้ (เรื่องอย่างนี้มันใกล้เราจริงๆ ไม่รู้ว่าม่านควรจะใกล้ผมหรือเปล่าเนี่ย ฮา)
อีกเรื่องที่น่ายินดีวันนี้ คือผมได้เพื่อนที่ดีมากกลับมา 2 ท่าน ผมโชคดีอีกแล้วครับมีความสุข
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 105
วันนี้ตั้งใจจะเล่าเรื่อง ที่ผมเพิ่งเข้าใจพอดีครับในระหว่่างป่วย จนตอนนี้ก็เริ่มกลายเป็นความชินแล้ว. คือ "ความรู้ลดความเสี่ยงได้". และ "ถ้ารู้ว่าที่ไหนตาย อย่าไป"
2 ประโยคนี้คงคุ้นหูในเหล่านักลงทุนไม่มากก็น้อย. แต่ผมก็พบว่าใช้ประโยชน์ในชีวิตได้เช่นเดียวกับการลงทุน
มาดูโรคที่ผมเป็นก่อนนะครับ โรคของผมคือแพ้ยารุนแรง อาการขนาดนี้เรียก Stevens Johnson Syndrome ตามบทความอ้างอิงมีโอกาส เกิดระดับนี้ 2.6-7.8 ต่อ 1 ล้าน โอกาสตาบอดประมาณ 12.5%. แต่ผมทราบทีหลังจากหมอเฉพาะทางที่ดูแลว่า อย่างของผม คือ ten โอกาสเกิด 0.4-1.2 ในล้าน) ดูความโชคดีครับ ความเสี่ยงขนาดนี้ยังทำเราได้ถึงเพียงนี้
อ้างอิง เนื้อหาโรค
http://haamor.com/th/stevens-johnson/#article101
http://en.wikipedia.org/wiki/Stevens–Johnson_syndrome
------------
ปกติผมไม่เคยแพ้ยาเลย แต่รอบนี้ตัวยาที่ผมแพ้คือ allopurinal ซึ่งเป็นยาลดกรดยูริค
ซึ่งผมกินไปเพียง1 อาทิตย์เท่านั้น
ภรรยาผมเป็นเภสัชครับ ปกติ เราจะอ่านฉลากยาที่ได้อยู่แล้ว. (เช่นเดียวกับที่ผมมักจะอ่านคู่มือการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าก่อนใช้) แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องของความโชคดีครับ ผมยังไม่เคยอ่านมาตรฐาน JCI ครับว่ากล่าวตรงนี้อย่างไรบ้าง แต่ต้องบอกว่าตามโรงพยาบาลอื่นๆ ก็น่าจะเป็นช่องโหว่เหมือนกัน ยาที่ผมได้มาเป็นแผงใส่ซองมีชื่อ แต่ไม่เต็มกล่องจึงอาจเป็นเหตุให้ไม่มีฉลาก
ห้องยาที่นี่ได้มีการปรับปรุงใส่สลากยาในบางประเภทที่มีโอกาสเสี่ยงแล้ว. เริ่มใช้งานวันที่ 1 ธ.ค. แต่ด้วยความโชคดีของผม ผมได้ยาตัวนี้มา ในวันที่ 24 และ 27 พ.ย. ก่อนนั้นนิดเดียว (คงเป็นโอกาสที่ลิขิตให้ผมต้องทำความดีของผมจริงๆครับ) ภรรยาผมบอกว่ากลุ่มนี้เธอไม่คุ้นเลยดูคร่าวๆ พบว่าเป็นยาที่ใช้มานาน แล้ว อย่างกว้างขวาง (ตัวหมอหลายท่านเองก็กินนะ) แต่เราก็ไม่ได้ดูมากกว่านั้น แต่ภายหลังจากที่ผมป่วยแล้ว มีเพื่อนท่านหนึ่งซึ่งทำร้านยา ได้ถ่ายฉลากยาทั้ง 3 ยี่ห้อทั้งยาในและยานอกของตัวนี้มาให้ เมื่อได้อ่านแล้ว ผลข้างเคียงมันเหมือนเป๊ะ เมื่อยตามตัว ปวดข้อ ไข้ขึ้นสูง ระดับ 39 ซึ่งผมรู้สึกตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้ว (ถ้าทราบคงปรึกษาแพทย์ และหยุดยาได้เร็วกว่านี้). แต่ผมยังโชคดีนะ บางคนอายุมากกว่าผม กินนานกว่าผม ถึงขั้นไตเสียเลย นี่แหละครับสอนในผมรู้ว่า "ความไม่รู้คือความเสี่ยง "
เทียบกับการอ่าน 56-1 นะ มีเรื่องความเสี่ยง(บางทีก็บอกไม่หมด). ข้อพิพาททางกฏหมาย(ใครจำบ้านปูได้บ้าง) รายงานผู้ตรวจสอบบัญชี (หน้าแรกที่เรามักลืมอ่าน) คุณภาพของ inventory (พอจะรู้ไหมว่า หมดอายุไหม) รวมถึงลูกหนี้การค้า(เพิ่มไหม ยาวขึ้นไหม)
สิ่งที่ผมได้แก้ หลังจากที่ผมเริ่มรู้ตัว ผมทำประกัน โรคร้ายแรงทันที ซึ่งมี 1 โรคที่เราต้องการป้องกัน คือ ตา เพราะโอกาสตาบอดมี ถ้าเกิดอะไรเราจะสู้ต่อได้ แล้วผมก็สบายใจปล่อยวางไป 1 เปราะ (ต้องขอบคุณเพื่อนคนนั้นมากที่ยอมช่วยทำให้แม้แต่จะต้องมาจากชลบุรีก็ตาม ต่างจากหัวหน้าหน่วยประกันที่ผมเพิ่งสมัคร และกำลังจะซื้อประกันให้ตัวเองก่อน วันนั้นผมโทรไปยอมซื้อโค้ดเขาแทนโดยอธิบายเหตุผม เขากลับตอบว่า วันหยุดไม่ว่าง เช่นเดียวกับพี่เขยของเขาซึ่งตอบในอีก 2 วันถัดมาคล้ายๆกัน - อันนี้นอกเรื่องนิด แต่อยากให้ วงการการเงินเรามีคนที่มีจรรยาบรรณกว่านี้ แล้วอย่างนี้เราจะฝากชีวิตได้อย่างไร)
หลังจากนั้น ผมก็มีความรู้เพิ่มเพราะว่าหมอรู้จักกับภรรยาผมที่เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ได้โทรมาบอกว่า ช่วง 7-10 วันนี้จะทรมานอย่างมากเลยนะ แต่คุณต้องพยายามผ่านไปให้ได้ เช่นเดียวกับหมอที่โรงพยาบาล ท่านหนึ่งเตือนผมไว้ ว่า มันจะมาเหมือนสึนามิโหม. เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราก็พอมองออกครับ ทนทรมาน ตั้งใจหายใจให้ผ่านไป เพื่อให้พ้นช่วงนั้น นี่คือหน้าที่ของเราเท่านั้น
ช่วงที่ทานอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ทานได้2อย่างคือ ไข่ลวก 2ช้อนเล็กกว่าช้อนโต๊ะ และเอ็นชัวร์ 1/2 จอก ต้องชมภรรยาจริงๆ ครับว่าละเอียดมาก ผมกลายเป็นคนที่อ่านฉลากต่างๆ พบว่า เอ็นชัวร์ เป็นอาหารการแพทย์ที่ให้ได้แม้กระทั้งทางท่อ มีสารอาหารครบถ้วนเลย โอเมก้า 3-6-9 และสารอาหารอื่นๆ ดีกว่า พวกแบรน์อีกครับ รวมทั้งการชงของเธอก็ตรงตามขั้นตอนที่เขียนไว้เป๊ะ
เช่นกันกับเรื่องการลงทุนครับ ยิ่งมีความรู้ยิ่งลดความเสียงได้
--------
ส่วนเรื่อง ที่ไหนตายอย่าไปที่นั้น แบบที่มังเกอร์เคยพูดไว้
ผมมีโอกาสได้ใช้ในครั้งนี้ มาก และในช่วงหลังจะขอความเห็นที่เป็นประโยชน์จากผู้รู้ และพี่หมอในที่นี่ด้วย
ขออ้างอดีตก่อนว่า เมื่อตอนสมัยมหาลัย ผมแพ้เหล้าหงส์ กินก็ผื่นขึ้น ยี่ห้ออื่นผมไม่แพ้ เพื่อนจึงลงมติว่าผมเป็นเด็กผี จึงต้องจัดยี่ห้ออื่นให้ผมทุกครั้งที่สังสรรค์ แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงแล้วครับ ผมไม่ทานเหล้าแล้ว เดี๋ยวงานจิบเบียร์ vi ครั้งหน้าผมจิ๊บเก๊กด้วยคุยด้วยครับ(สีใกล้เคียงกัน)
เมื่อผมแพ้ คุณหมอเฉพาะทางได้เล่าทุกขั้นตอน ว่าภูมิของผมมันเกลียดยาตัวนี้มาก เลยต้องให้สเตียรอย์ขึ้นไปถึง 80มก เพื่อให้ภูมิผมเฉี่ิอย แต่ก็เป็นการกดภูมิคุ้มกันจึงอาจทำให้ผมติดเชื้อง่าย ต้องระวังการติดเชื้อ - และหากมีปัญหาอะไร อาจจะต้องฟอกเลือด ครั้งแรกที่ผมคุยกับหมอท่านนี้ผมก็ไม่ชอบเท่าไหร่ แต่พอผมคิดดีๆ ผมพบว่าหมอมีวิธีคิดแนวกว้างจริงๆ มองทุกโอกาส
เมื่อผมรู้แล้วว่าโอกาสตายที่ไหน จึงไม่ไป ห้ามเยี่ยม คนเฝ้าต้องใส่ mask การตรวจที่ต้องลงไปปะปนกับคนไข้อื่นไม่ไป แต่หมอจะขึ้นมาตรวจ มีการทานยาพยาธิ เพื่อป้องกัน รวมถึงมีการเพาะเชื้อ และเฝ้าดูอาการไข้เป็นระยะๆ. (หมอสั่งแม้กระทั้ง ให้เอาผ้าก๊อสมาพัน ที่ฉีดเข็มและเอาแอลกอฮอลเช็ดก่อนฉีด 20ที สงสารพยาบาลเหมือนกัน)
มีอีกเรื่องครับ ที่อยากจะแชร์เรื่องปิดความเสี่ยง จริงๆ ตัวยาและสถิติที่ผมแสดงข้างต้น อ้างอิงมาจากสถิติต่างประเทศ ในช่วงหลังมีการพบว่า เป็นยีนส์ ซึ่งมีโอกาสพบในคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ดังลิ้งค์ข้างล่างครับ. และผมยังทราบอีกว่า ตอนนี้มีสถาบันแพทย์ในไทยสามารถตรวจได้แล้วว่าเราแพ้อะไรเราจะได้หลีกเลี่ยง แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าที่ไหน(คลับคล้ายคลับคลาว่า รพ.จุฬา กับกรุงเทพ) ฝากเพื่อนที่พอรู้ช่วยให้ข้อมูลหน่อยครับ
สิ่งที่ผมช่วยเรื่องเตือน
1. เมื่อเป็นยีนส์ ผมจึงต้องส่งชื่อยาตัวนี้ให้ ญาติๆเผื่อจดไว้
2. ผมจะต้องไม่ใช้ยาตัวนี้อีก
3. เมื่อผมหาย ผมก็จะไปตรวจยีนดูสารแพ้ (เป็นการทดลองด้วย ว่าเจอตัวเดียวกันไหม) และทำให้เรารู้ว่า ที่ไหนตายเราอย่าไปที่นั่น
ลิ้งค์ การตรวจ ยีนส์เพื่อให้รู้ว่าแพ้อะไร
ยีนส์ HLA-B*1502
http://www.vcharkarn.com/varticle/41015
http://www.google.co.th/search?q=การตรว ... ent=safari
อ้างอิงจากบทความครับ
“ผู้ป่วยที่แพ้ยาชนิดนี้จะมีผื่นขึ้นตามลำตัว หรือมีการหลุดลอกของผิวหนัง รวมทั้งมีการอักเสบของ เยื่อบุต่างๆ และความผิดปรกติของระบบอวัยวะสำคัญต่างๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดหรือถึงแก่ชีวิตได้ โดยอาการที่รุนแรงนี้พบได้ราว 2-7 รายใน 1 ล้านคน มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงคือประมาณ 25-80% และที่สำคัญคือไม่มียารักษาเฉพาะ จึงรักษาได้ตามอาการเท่านั้น”
บทความนี้ ฝาก เพื่อน หมอ เภสัชช่วยคอมเมนต์ด้วยครับน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆมาก
วันนี้ผมได้เรียนรู้ เรื่อง ความไม่รู้คือความเสี่ยง และประโยคที่ ว่า คุณรู้ว่าตายที่ไหนอย่าไปที่นั่น
เรื่องนี้หลายท่านที่เข้าใจโชคดีมากครับ สำหรับผม ตอนนี้เป็นนิสัยไปแล้ว เรื่องนี้ใช้ได้
2 ประโยคนี้คงคุ้นหูในเหล่านักลงทุนไม่มากก็น้อย. แต่ผมก็พบว่าใช้ประโยชน์ในชีวิตได้เช่นเดียวกับการลงทุน
มาดูโรคที่ผมเป็นก่อนนะครับ โรคของผมคือแพ้ยารุนแรง อาการขนาดนี้เรียก Stevens Johnson Syndrome ตามบทความอ้างอิงมีโอกาส เกิดระดับนี้ 2.6-7.8 ต่อ 1 ล้าน โอกาสตาบอดประมาณ 12.5%. แต่ผมทราบทีหลังจากหมอเฉพาะทางที่ดูแลว่า อย่างของผม คือ ten โอกาสเกิด 0.4-1.2 ในล้าน) ดูความโชคดีครับ ความเสี่ยงขนาดนี้ยังทำเราได้ถึงเพียงนี้
อ้างอิง เนื้อหาโรค
http://haamor.com/th/stevens-johnson/#article101
http://en.wikipedia.org/wiki/Stevens–Johnson_syndrome
------------
ปกติผมไม่เคยแพ้ยาเลย แต่รอบนี้ตัวยาที่ผมแพ้คือ allopurinal ซึ่งเป็นยาลดกรดยูริค
ซึ่งผมกินไปเพียง1 อาทิตย์เท่านั้น
ภรรยาผมเป็นเภสัชครับ ปกติ เราจะอ่านฉลากยาที่ได้อยู่แล้ว. (เช่นเดียวกับที่ผมมักจะอ่านคู่มือการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าก่อนใช้) แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องของความโชคดีครับ ผมยังไม่เคยอ่านมาตรฐาน JCI ครับว่ากล่าวตรงนี้อย่างไรบ้าง แต่ต้องบอกว่าตามโรงพยาบาลอื่นๆ ก็น่าจะเป็นช่องโหว่เหมือนกัน ยาที่ผมได้มาเป็นแผงใส่ซองมีชื่อ แต่ไม่เต็มกล่องจึงอาจเป็นเหตุให้ไม่มีฉลาก
ห้องยาที่นี่ได้มีการปรับปรุงใส่สลากยาในบางประเภทที่มีโอกาสเสี่ยงแล้ว. เริ่มใช้งานวันที่ 1 ธ.ค. แต่ด้วยความโชคดีของผม ผมได้ยาตัวนี้มา ในวันที่ 24 และ 27 พ.ย. ก่อนนั้นนิดเดียว (คงเป็นโอกาสที่ลิขิตให้ผมต้องทำความดีของผมจริงๆครับ) ภรรยาผมบอกว่ากลุ่มนี้เธอไม่คุ้นเลยดูคร่าวๆ พบว่าเป็นยาที่ใช้มานาน แล้ว อย่างกว้างขวาง (ตัวหมอหลายท่านเองก็กินนะ) แต่เราก็ไม่ได้ดูมากกว่านั้น แต่ภายหลังจากที่ผมป่วยแล้ว มีเพื่อนท่านหนึ่งซึ่งทำร้านยา ได้ถ่ายฉลากยาทั้ง 3 ยี่ห้อทั้งยาในและยานอกของตัวนี้มาให้ เมื่อได้อ่านแล้ว ผลข้างเคียงมันเหมือนเป๊ะ เมื่อยตามตัว ปวดข้อ ไข้ขึ้นสูง ระดับ 39 ซึ่งผมรู้สึกตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้ว (ถ้าทราบคงปรึกษาแพทย์ และหยุดยาได้เร็วกว่านี้). แต่ผมยังโชคดีนะ บางคนอายุมากกว่าผม กินนานกว่าผม ถึงขั้นไตเสียเลย นี่แหละครับสอนในผมรู้ว่า "ความไม่รู้คือความเสี่ยง "
เทียบกับการอ่าน 56-1 นะ มีเรื่องความเสี่ยง(บางทีก็บอกไม่หมด). ข้อพิพาททางกฏหมาย(ใครจำบ้านปูได้บ้าง) รายงานผู้ตรวจสอบบัญชี (หน้าแรกที่เรามักลืมอ่าน) คุณภาพของ inventory (พอจะรู้ไหมว่า หมดอายุไหม) รวมถึงลูกหนี้การค้า(เพิ่มไหม ยาวขึ้นไหม)
สิ่งที่ผมได้แก้ หลังจากที่ผมเริ่มรู้ตัว ผมทำประกัน โรคร้ายแรงทันที ซึ่งมี 1 โรคที่เราต้องการป้องกัน คือ ตา เพราะโอกาสตาบอดมี ถ้าเกิดอะไรเราจะสู้ต่อได้ แล้วผมก็สบายใจปล่อยวางไป 1 เปราะ (ต้องขอบคุณเพื่อนคนนั้นมากที่ยอมช่วยทำให้แม้แต่จะต้องมาจากชลบุรีก็ตาม ต่างจากหัวหน้าหน่วยประกันที่ผมเพิ่งสมัคร และกำลังจะซื้อประกันให้ตัวเองก่อน วันนั้นผมโทรไปยอมซื้อโค้ดเขาแทนโดยอธิบายเหตุผม เขากลับตอบว่า วันหยุดไม่ว่าง เช่นเดียวกับพี่เขยของเขาซึ่งตอบในอีก 2 วันถัดมาคล้ายๆกัน - อันนี้นอกเรื่องนิด แต่อยากให้ วงการการเงินเรามีคนที่มีจรรยาบรรณกว่านี้ แล้วอย่างนี้เราจะฝากชีวิตได้อย่างไร)
หลังจากนั้น ผมก็มีความรู้เพิ่มเพราะว่าหมอรู้จักกับภรรยาผมที่เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ได้โทรมาบอกว่า ช่วง 7-10 วันนี้จะทรมานอย่างมากเลยนะ แต่คุณต้องพยายามผ่านไปให้ได้ เช่นเดียวกับหมอที่โรงพยาบาล ท่านหนึ่งเตือนผมไว้ ว่า มันจะมาเหมือนสึนามิโหม. เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราก็พอมองออกครับ ทนทรมาน ตั้งใจหายใจให้ผ่านไป เพื่อให้พ้นช่วงนั้น นี่คือหน้าที่ของเราเท่านั้น
ช่วงที่ทานอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ทานได้2อย่างคือ ไข่ลวก 2ช้อนเล็กกว่าช้อนโต๊ะ และเอ็นชัวร์ 1/2 จอก ต้องชมภรรยาจริงๆ ครับว่าละเอียดมาก ผมกลายเป็นคนที่อ่านฉลากต่างๆ พบว่า เอ็นชัวร์ เป็นอาหารการแพทย์ที่ให้ได้แม้กระทั้งทางท่อ มีสารอาหารครบถ้วนเลย โอเมก้า 3-6-9 และสารอาหารอื่นๆ ดีกว่า พวกแบรน์อีกครับ รวมทั้งการชงของเธอก็ตรงตามขั้นตอนที่เขียนไว้เป๊ะ
เช่นกันกับเรื่องการลงทุนครับ ยิ่งมีความรู้ยิ่งลดความเสียงได้
--------
ส่วนเรื่อง ที่ไหนตายอย่าไปที่นั้น แบบที่มังเกอร์เคยพูดไว้
ผมมีโอกาสได้ใช้ในครั้งนี้ มาก และในช่วงหลังจะขอความเห็นที่เป็นประโยชน์จากผู้รู้ และพี่หมอในที่นี่ด้วย
ขออ้างอดีตก่อนว่า เมื่อตอนสมัยมหาลัย ผมแพ้เหล้าหงส์ กินก็ผื่นขึ้น ยี่ห้ออื่นผมไม่แพ้ เพื่อนจึงลงมติว่าผมเป็นเด็กผี จึงต้องจัดยี่ห้ออื่นให้ผมทุกครั้งที่สังสรรค์ แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงแล้วครับ ผมไม่ทานเหล้าแล้ว เดี๋ยวงานจิบเบียร์ vi ครั้งหน้าผมจิ๊บเก๊กด้วยคุยด้วยครับ(สีใกล้เคียงกัน)
เมื่อผมแพ้ คุณหมอเฉพาะทางได้เล่าทุกขั้นตอน ว่าภูมิของผมมันเกลียดยาตัวนี้มาก เลยต้องให้สเตียรอย์ขึ้นไปถึง 80มก เพื่อให้ภูมิผมเฉี่ิอย แต่ก็เป็นการกดภูมิคุ้มกันจึงอาจทำให้ผมติดเชื้อง่าย ต้องระวังการติดเชื้อ - และหากมีปัญหาอะไร อาจจะต้องฟอกเลือด ครั้งแรกที่ผมคุยกับหมอท่านนี้ผมก็ไม่ชอบเท่าไหร่ แต่พอผมคิดดีๆ ผมพบว่าหมอมีวิธีคิดแนวกว้างจริงๆ มองทุกโอกาส
เมื่อผมรู้แล้วว่าโอกาสตายที่ไหน จึงไม่ไป ห้ามเยี่ยม คนเฝ้าต้องใส่ mask การตรวจที่ต้องลงไปปะปนกับคนไข้อื่นไม่ไป แต่หมอจะขึ้นมาตรวจ มีการทานยาพยาธิ เพื่อป้องกัน รวมถึงมีการเพาะเชื้อ และเฝ้าดูอาการไข้เป็นระยะๆ. (หมอสั่งแม้กระทั้ง ให้เอาผ้าก๊อสมาพัน ที่ฉีดเข็มและเอาแอลกอฮอลเช็ดก่อนฉีด 20ที สงสารพยาบาลเหมือนกัน)
มีอีกเรื่องครับ ที่อยากจะแชร์เรื่องปิดความเสี่ยง จริงๆ ตัวยาและสถิติที่ผมแสดงข้างต้น อ้างอิงมาจากสถิติต่างประเทศ ในช่วงหลังมีการพบว่า เป็นยีนส์ ซึ่งมีโอกาสพบในคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ดังลิ้งค์ข้างล่างครับ. และผมยังทราบอีกว่า ตอนนี้มีสถาบันแพทย์ในไทยสามารถตรวจได้แล้วว่าเราแพ้อะไรเราจะได้หลีกเลี่ยง แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าที่ไหน(คลับคล้ายคลับคลาว่า รพ.จุฬา กับกรุงเทพ) ฝากเพื่อนที่พอรู้ช่วยให้ข้อมูลหน่อยครับ
สิ่งที่ผมช่วยเรื่องเตือน
1. เมื่อเป็นยีนส์ ผมจึงต้องส่งชื่อยาตัวนี้ให้ ญาติๆเผื่อจดไว้
2. ผมจะต้องไม่ใช้ยาตัวนี้อีก
3. เมื่อผมหาย ผมก็จะไปตรวจยีนดูสารแพ้ (เป็นการทดลองด้วย ว่าเจอตัวเดียวกันไหม) และทำให้เรารู้ว่า ที่ไหนตายเราอย่าไปที่นั่น
ลิ้งค์ การตรวจ ยีนส์เพื่อให้รู้ว่าแพ้อะไร
ยีนส์ HLA-B*1502
http://www.vcharkarn.com/varticle/41015
http://www.google.co.th/search?q=การตรว ... ent=safari
อ้างอิงจากบทความครับ
“ผู้ป่วยที่แพ้ยาชนิดนี้จะมีผื่นขึ้นตามลำตัว หรือมีการหลุดลอกของผิวหนัง รวมทั้งมีการอักเสบของ เยื่อบุต่างๆ และความผิดปรกติของระบบอวัยวะสำคัญต่างๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดหรือถึงแก่ชีวิตได้ โดยอาการที่รุนแรงนี้พบได้ราว 2-7 รายใน 1 ล้านคน มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงคือประมาณ 25-80% และที่สำคัญคือไม่มียารักษาเฉพาะ จึงรักษาได้ตามอาการเท่านั้น”
บทความนี้ ฝาก เพื่อน หมอ เภสัชช่วยคอมเมนต์ด้วยครับน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆมาก
วันนี้ผมได้เรียนรู้ เรื่อง ความไม่รู้คือความเสี่ยง และประโยคที่ ว่า คุณรู้ว่าตายที่ไหนอย่าไปที่นั่น
เรื่องนี้หลายท่านที่เข้าใจโชคดีมากครับ สำหรับผม ตอนนี้เป็นนิสัยไปแล้ว เรื่องนี้ใช้ได้
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 106
ไหนๆ อยู่แต่ในโรงพยาบาลแล้ว ขอส่งคำนินทาหน่อย
1.ท่านรู้ไหม ว่าหมูยอเวียดนามของ 7-11 มีไก่ผสมอยู่ด้วย 15.9%
2. แพ็คเกจ ถาดหมูยอเวียดนามมี 5 ชิ้น เป็นแบบเดียวกับ ขนมจีบที่มี 5 ชิ้น (เป็นพลาสติกขาว pp แปลว่าอะไร)
ตามหลัก การผลิต วิธีนี้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มาก เพราะใช้ แพ็คเกจชนิดเดียวกันครับ ฉลาดมากทีเดียว เผลอๆ ถึงขั้น design for manufacturing เลยนะเนี่ย ลองดูรูปทรงและขนาด
3. ส. ขอนแก่น ทำลูกชิ้นปลาด้วยนะ
4. อันนี้เสียงนินทาจริงๆ เพราะแม่แอบนินทามาว่า จริงๆ ผู้บริหาร สฺขอนแก่นเป็นคนกรุงเทพ. เขาแค่ตั้งชื่อว่าขอนแก่น เพราะแหนมขอนแก่นอร่อย. (ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า แต่ที่ผมดูที่อยู่ก็อยู่ กทม จริงๆ) ถ้างั้นก็ฉลาดในการตั้งชื่อมาก ถ้าทำไส้กรอกอิตาเลี่ยนได้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว. จริงๆ ส. ขอนแก่นเคยมีส่วนช่วยทำหอส้มตำที่จันทรเกษมด้วยนะครับ เด็ดจริงๆ
ไว้พรุ่งนี้ ผมจะส่งคำนินทา เกี่ยวกับโรงพยาบาลบ้าง
1.ท่านรู้ไหม ว่าหมูยอเวียดนามของ 7-11 มีไก่ผสมอยู่ด้วย 15.9%
2. แพ็คเกจ ถาดหมูยอเวียดนามมี 5 ชิ้น เป็นแบบเดียวกับ ขนมจีบที่มี 5 ชิ้น (เป็นพลาสติกขาว pp แปลว่าอะไร)
ตามหลัก การผลิต วิธีนี้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มาก เพราะใช้ แพ็คเกจชนิดเดียวกันครับ ฉลาดมากทีเดียว เผลอๆ ถึงขั้น design for manufacturing เลยนะเนี่ย ลองดูรูปทรงและขนาด
3. ส. ขอนแก่น ทำลูกชิ้นปลาด้วยนะ
4. อันนี้เสียงนินทาจริงๆ เพราะแม่แอบนินทามาว่า จริงๆ ผู้บริหาร สฺขอนแก่นเป็นคนกรุงเทพ. เขาแค่ตั้งชื่อว่าขอนแก่น เพราะแหนมขอนแก่นอร่อย. (ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า แต่ที่ผมดูที่อยู่ก็อยู่ กทม จริงๆ) ถ้างั้นก็ฉลาดในการตั้งชื่อมาก ถ้าทำไส้กรอกอิตาเลี่ยนได้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว. จริงๆ ส. ขอนแก่นเคยมีส่วนช่วยทำหอส้มตำที่จันทรเกษมด้วยนะครับ เด็ดจริงๆ
ไว้พรุ่งนี้ ผมจะส่งคำนินทา เกี่ยวกับโรงพยาบาลบ้าง
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 456
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 109
Allopurinol เป็นยาลดการสร้างกรดuric
ใช้มานานมากในคนไข้โรคเก๊าเป็นFirst line drug
เพราะมีราคาถูกและผลข้างเคียงอื่นๆมีน้อยทั้งหาได้ง่าย
แพ้ได้รุนแรงแต่พบไม่บ่อยดังนั้นตอนเรียนอจ.จะสอนย้ำไว้หลายๆครั้ง
เมื่อก่อนไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ว่าใครจะแพ้
เหมือนการเสี่ยงดวงทั้งหมอและคนไข้
ทานแล้วเกิดอก.ผิดปกติต้องรีบหยุด
ปัจจุบันมีการตรวจยีนแพ้ยาได้ก่อน
แต่ไม่แน่ใจว่าตรวจแพ้ยาตัวนี้ได้หรือไม่
ทั้งในระดับรพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไป
และค่าใช้จ่ายในการตรวจมีราคาเท่าไหร่
ต้องรอผลนานหรือไม่
จึงเป็นช่องให้เกิดการฟ้องหมอและรพ.บ่อยๆว่า
รู้ว่าแพ้ได้ทำไมยังใช้ยากับคนไข้
ใช้มานานมากในคนไข้โรคเก๊าเป็นFirst line drug
เพราะมีราคาถูกและผลข้างเคียงอื่นๆมีน้อยทั้งหาได้ง่าย
แพ้ได้รุนแรงแต่พบไม่บ่อยดังนั้นตอนเรียนอจ.จะสอนย้ำไว้หลายๆครั้ง
เมื่อก่อนไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ว่าใครจะแพ้
เหมือนการเสี่ยงดวงทั้งหมอและคนไข้
ทานแล้วเกิดอก.ผิดปกติต้องรีบหยุด
ปัจจุบันมีการตรวจยีนแพ้ยาได้ก่อน
แต่ไม่แน่ใจว่าตรวจแพ้ยาตัวนี้ได้หรือไม่
ทั้งในระดับรพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไป
และค่าใช้จ่ายในการตรวจมีราคาเท่าไหร่
ต้องรอผลนานหรือไม่
จึงเป็นช่องให้เกิดการฟ้องหมอและรพ.บ่อยๆว่า
รู้ว่าแพ้ได้ทำไมยังใช้ยากับคนไข้
-
- Verified User
- โพสต์: 1448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 110
หมอบอกเมื่อวานว่าหลัก 2000 บาทตามโรงพยาบาลรัฐครับ
ผมหายผมจะทดสอบให้คนแรกเลย ว่าผลตรงกันหรือเปล่า ไหนๆก็อุทิศตัวแล้ว
แต่มันมีหลายตัวให้ตรวจ เช่น sulfa ยากันชักอีก มีตัวเดียวที่ยังไม่ได้ คือ เพนนิสซีลิน (อันนี้ ภรรยาผมแพ้)
ผมหายผมจะทดสอบให้คนแรกเลย ว่าผลตรงกันหรือเปล่า ไหนๆก็อุทิศตัวแล้ว
แต่มันมีหลายตัวให้ตรวจ เช่น sulfa ยากันชักอีก มีตัวเดียวที่ยังไม่ได้ คือ เพนนิสซีลิน (อันนี้ ภรรยาผมแพ้)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
- neuhiran
- Verified User
- โพสต์: 815
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 111
T_0007 เขียน:หมอบอกเมื่อวานว่าหลัก 2000 บาทตามโรงพยาบาลรัฐครับ
ผมหายผมจะทดสอบให้คนแรกเลย ว่าผลตรงกันหรือเปล่า ไหนๆก็อุทิศตัวแล้ว
แต่มันมีหลายตัวให้ตรวจ เช่น sulfa ยากันชักอีก มีตัวเดียวที่ยังไม่ได้ คือ เพนนิสซีลิน (อันนี้ ภรรยาผมแพ้)
คุณ T_007 ไปตรวจแล้วได้ผลออกมาอย่างไร รบกวนมาโพสต์บอกด้วย ผมอยากจะพาลูกชายคนกลางไปตรวจเหมือนกัน เพราะเขาแพ้ยาซัลฟา
-
- Verified User
- โพสต์: 1448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 112
เพิ่งได้อ่านว่า คุณธันวา ลาออก แล้วพี่โจ รับหน้าที่แทน ชื่นชมทั้งคู่เลยครับ
ผมเพิ่งเห็นข้อความพี่โจ ที่ pm ขอบคุณมากครับ ผมเริ่มดีขึ้นแล้ว ตอนนี้เวลาเยอะเลย
หลังจาก นั่งสมาธิ ผมก็มานั่งเปฺิด opday ฟังบ้างพักบ้าง
ผมไม่กลัวตกรถอยู่แล้วครับพี่โจ เพราะรถออกทุกวัน (พี่บอกไว้)
ตอนนี้ เดี๋ยวผมจะฟัง ออปเดย์ให้เหมือนนิยายวิทยุเลยพี่ แบบที่พี่บอกว่าอ่าน 56-1 ในเหมือนนิยาย
นะแหล่ะ ทำมาปีนึงและ แต่ยังไม่เต็มที่เท่าไหร่
(ที่ชอบพี่โจมาก เพราะ พี่โจ อยู่ต่างจังหวัด ยังลงทุนได้ขนาดนี้ แต่ช่วงหลังเห็นขึ้นมาบ่อยนะพี่ แถมผมเคยล้างจานต่างประเทศเหมือนพี่อีก ฮีโร่ในดวงใจจริงๆ มีหลายเรื่องที่อยากคุย เช่น ตัวกลุ่มๆ ที่ผมไปคุยกับพี่ที่หาดใหญ่อะ พี่สอนผมเยอะเลย แหมเพิ่งมาเฉลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร มีอีกหลายตัวที่ได้จากพี่ กับในงาน ตัวที่ชื่อจีน กับตัวที่รอแถว และตัวที่เจ้าของอ้วนๆ ฝากขอบคุณคุณหมอและ ท่านอื่นๆด้วยครับ)
รอบนี้ถ้าหายทันขอลงไปแอบทานข้าวด้วยนะพี่ ข้าวที่หาดใหญ่มันอร่อย เหมือนการลงทุนที่ดีจริงๆ
ผมเพิ่งเห็นข้อความพี่โจ ที่ pm ขอบคุณมากครับ ผมเริ่มดีขึ้นแล้ว ตอนนี้เวลาเยอะเลย
หลังจาก นั่งสมาธิ ผมก็มานั่งเปฺิด opday ฟังบ้างพักบ้าง
ผมไม่กลัวตกรถอยู่แล้วครับพี่โจ เพราะรถออกทุกวัน (พี่บอกไว้)
ตอนนี้ เดี๋ยวผมจะฟัง ออปเดย์ให้เหมือนนิยายวิทยุเลยพี่ แบบที่พี่บอกว่าอ่าน 56-1 ในเหมือนนิยาย
นะแหล่ะ ทำมาปีนึงและ แต่ยังไม่เต็มที่เท่าไหร่
(ที่ชอบพี่โจมาก เพราะ พี่โจ อยู่ต่างจังหวัด ยังลงทุนได้ขนาดนี้ แต่ช่วงหลังเห็นขึ้นมาบ่อยนะพี่ แถมผมเคยล้างจานต่างประเทศเหมือนพี่อีก ฮีโร่ในดวงใจจริงๆ มีหลายเรื่องที่อยากคุย เช่น ตัวกลุ่มๆ ที่ผมไปคุยกับพี่ที่หาดใหญ่อะ พี่สอนผมเยอะเลย แหมเพิ่งมาเฉลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร มีอีกหลายตัวที่ได้จากพี่ กับในงาน ตัวที่ชื่อจีน กับตัวที่รอแถว และตัวที่เจ้าของอ้วนๆ ฝากขอบคุณคุณหมอและ ท่านอื่นๆด้วยครับ)
รอบนี้ถ้าหายทันขอลงไปแอบทานข้าวด้วยนะพี่ ข้าวที่หาดใหญ่มันอร่อย เหมือนการลงทุนที่ดีจริงๆ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1018
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 113
อ่านมาถึงตอนนี้ รู้สึกว่า T น่าจะพ้นจุดอันตรายที่สุด เริ่มเข้าระยะฟื้นตัวแล้ว ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ต่างๆ และเรื่องราวที่เป็นอุทธาหรณ์สำหรับทุกๆคน ผมเชื่อว่าผลบุญและคุณประโยชน์ที่ T ได้ทำไว้ บวกกับกำลังใจทำให้T ผ่านช่วงวิกฤตมาได้ สุดท้ายขอให้ T หายเร็วๆ แล้วมาเจอกันใหม่ในงาน meeting ครับ
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 114
เห็นรูปแล้ว หวาดเสียวแทน ครับ ความเสี่ยงน้อยมาก แต่ก็มีความเสี่ยงdr1 เขียน:...
คุณ T คงได้ปฏิบัติธรรมผ่านการดูเวทนา ลมหายใจ และผิวหนังทุกตารางนิ้ว
มาแล้ว อนุโมทนาด้วยนะครับ
...
บุญรักษาครับ ขอให้แข็งแรงโดยเร็วครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 118
TEN เป็นโรคที่โชคร้ายมากที่จะเกิด. จะทุกข์ทรมานมาก หมอที่รักษาต้องอธิบายกะคนไข้อย่างลำบากใจ คือ สงสารทั้งคนไข้และหมอและบุคลากรเอง เพราะตอนมายังไม่แย่นัก แต่จะต้องบอกคนไข้ว่าจะแย่กว่านี้อีกทรมานกว่านี้อีกเยอะแค่นี้ยังน้อยมากในวันแรกที่เจอ. การรักษาต้องระวังเรื่องการติดเชื้อเพราะเป็นเรื่องที่จะทำให้เสียชีวิต ถ้าผ่านทั้งหมดในอาทิตย์นึงมาได้ ทุกอย่างจะดีขึ้นและหายในที่สุด.
คุณ T น่าจะเริ่มพ้นระยะพีคแล้วกำลังดีขึ้น. โชคดีที่เป็นโรคที่รักษาหายได้. ขอให้หายเร็วๆ ครับ
คุณ T น่าจะเริ่มพ้นระยะพีคแล้วกำลังดีขึ้น. โชคดีที่เป็นโรคที่รักษาหายได้. ขอให้หายเร็วๆ ครับ