การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
DooStock
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้าเราแบ่งความเสี่ยง โดยซื้อ มันทุกกลุ่ม เลยเราน่าจะดีหรือป่าวครับ กลุ่มละตัว 1-2 ตัวแล้ว ถือยาวเลย
เช่น
1. กลุ่มก่อสร้าง
2. กลุ่มเกษตร
3. กลุ่มโรงพยาบาล
3. กลุ่มวัสดุ
4. พลังงาน
5. สือสาร
6. auto
7. bank
อื่นๆ

เราคงจะมีหุ้นใน port ประมาณ 10-20 ตัว แบบนี้ดีกว่าลงทุนในไม่กี่ตัวแต่ ซื้อหมดหน้าตักเลย?? แบบไหนจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน??
soi
Verified User
โพสต์: 34
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 2

โพสต์

DooStock เขียน:ถ้าเราแบ่งความเสี่ยง โดยซื้อ มันทุกกลุ่ม เลยเราน่าจะดีหรือป่าวครับ กลุ่มละตัว 1-2 ตัวแล้ว ถือยาวเลย
เช่น
1. กลุ่มก่อสร้าง
2. กลุ่มเกษตร
3. กลุ่มโรงพยาบาล
3. กลุ่มวัสดุ
4. พลังงาน
5. สือสาร
6. auto
7. bank
อื่นๆ

เราคงจะมีหุ้นใน port ประมาณ 10-20 ตัว แบบนี้ดีกว่าลงทุนในไม่กี่ตัวแต่ ซื้อหมดหน้าตักเลย?? แบบไหนจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน??
ซื้อทุกกลุ่ม ความเสี่ยงน้อยกว่าแต่ผลตอบแทนก็จะไปตามset แต่ ถ้าเลือกไม่กี่ตัว เลือกถูก(เราเข้าใจธุรกิจนั้นจริงๆ)ผลตอบแทนจะดีกว่าและน่าประสบผลสำเร็จมากกว่า
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Ideaดี ลองทำดูเลยครับ ได้ผลอย่างไรอีก5ปีมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ
manhaha
Verified User
โพสต์: 89
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขึ้นอยู่กับเงินทุนด้วยครับ ถ้าเงินทุนเยอะกระจายความเสี่ยงก็เป็นวิธีที่ดี
แต่ถ้าทุนน้อยแล้วกระจายไปเยอะๆ เหนื่อยครับ
luz666
Verified User
โพสต์: 845
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมว่าซื้อกลุ่มที่เราไม่เข้าใจจะยิ่งเสี่ยงครับ ถ้าเราไม่มั่นใจว่ากลุ่มไหน/ตัวไหนดี อยากถือกระจายๆ ก็ลองตัดกลุ่มที่ไม่เข้าใจมากที่สุดไปก่อนดีกว่า เช่นอาจจะเหลือซัก3กลุ่มที่เราเข้าใจมากหน่อย เราจะได้เลือกหุ้นดีๆเข้าพอร์ทได้ อย่างของคุณ ถ้าซื้อ7กลุ่ม กลุ่มละตัวจริง เท่ากับว่าต้องหาตัวที่ดีที่สุดในแต่ละกลุ่มมา ซึ่งพอทำจริงๆอาจจะไม่ง่ายที่จะรู้ว่าตัวไหนดีที่สุด ถ้าเราไม่เข้าใจธุรกิจ อีกอย่างถ้าพอร์ทเล็กๆ กระจายเยอะ เหนื่อยนะครับ งบออกมาทีนึงดูกันเหนื่อยเลย สุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆ ผมว่าซื้อกองทุนแบบ dca ก็ดีครับ เพราะเรื่อง diversify พวกกองทุนเค้าเก่งกว่าคนธรรมดาเยอะ เพราะเค้าพอร์ทใหญ่ กระจายการลงทุนได้เต็มที่ หรือไม่ก็ศึกษาเพิ่มแล้วเลือกหุ้นเองครับ พอ learning curve ถึงระดับหนึ่งจะพบว่ามันคุ้มกับการศึกษามากครับ
all i need is Zero
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เงินเยอะ ต้องการความปลอดภัยมากกว่า return ก็จะดีคับ
แต่ถ้าเงินน้อย พอร์ทจะไม่โตเลย
show me money.
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เป้าหมายของคุณคืออะไรหละครับ ถ้าเป้าคือกระจายความเสี่ยง แล้ววิธีคือ
ซื้อหุ้นหลายๆตัว ผมว่าซื้อกองทุนไม่ดีกว่าหรือครับเพราะผลตอบแทนได้ตามตลาด
แล้วเราไม่ต้องมานั่งติดตามหุ้นเอง มีมืออาชีพ(?)มาจัดการให้ แต่หากอยากได้
ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดมีคนข้างบนๆผมตอบไว้แล้วครับ...^^)
yakjabon
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ซื้อทุกตัวที่เรา ****เข้าใจ**** เท่านั้นครับ .. ถ้เราศึกษาไหวการซื้อตัวนำของทุกกลุ่มก็ไม่เลว แต่ย้ำอีกทีว่าต้องเข้าใจทุกตัว .. ซึ่งผมว่าตัวคนเดียวศึกษานี่ เหนื่อยนะ :drink:
Invincible MOS is knowing what you're doing
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ซื้อน้อยตัว แล้วทำแบบตีแตกครับ
ถ้าลงทุนถูกทางก็คืออิสระภาพทางเงิน
ถ้าผิดทาง ก็รู้ว่าเราไม่เหมาะกับทางนี้ ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหรือพวก ETF ที่เป็นตัวแทนของตลาดครับ
แถมคุณไม่ต้องออกแรงมานั่งศึกษาหุ้นให้ตีแตกแบบนี้ละครับ

ตีแตกมันเหนื่อยละครับ
ตีแตกได้ ต้องใช้อะไรหลากหลายอย่างครับ
บางครั้งบางสิ่งที่เรารู้ ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด
การลงทุนเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะ

ศาสตร์คือ หลักทางบัญชีและหลักการเงิน
ศิลปะคือลงทุนอย่างไง บนศาสตร์ที่มี
:)
:)
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 10

โพสต์

จะซื้อหุ้นหลายๆ ตัวเพื่ออะไร ?
จะซื้อหุ้นน้อยตัวเพื่ออะไร ?
ความสำเร็จที่ต้องการคืออะไร ?

:roll:


ปล.
ถ้าคิดว่าการคัดเลือกหุ้นสักตัวเป็นเรื่องยาก
เอาเงินไปซื้อ index fund น่าจะง่ายกว่านะครับ
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ไม่ก็เล่นหุ้นตาม theme ดีไหมคับ

ดูว่า theme อไรจะได้ประโยชน์
ซื้อทุกตัว บน supply chain ครบกำหนดเวลาก็ขาย
เช่น รถ--->leasing

แบบ adapt จาก เทสเปิลตัน
ผมเคยลองก็โอเคนะ แต่มันคงบอกอะไรไม่ได้มาก
กับตลาดตอนนี้ แต่ผมว่า เงินเหลือๆแล้วค่อยทดลองจะดีกว่า
show me money.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ก่อสร้าง พลังงาน bank auto

ไม่พูดมาก แต่แนะให้กลับไปดูข้อมูลย้อนหลัง ตอนเศรษฐกิจขาลง (อย่าดูแค่ราคา... เปิดดูงบ)

แล้วตัดสินใจเองว่าจะถือยาวรึเปล่า
DooStock
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอบคุณที่แนะนำคับ

แล้วควรมีไว้ ใน port สักกี่ตัวดี ครับถึง จะดูแลทั่วถึง ดูงบนี้ก็เหนื่อยจริงๆ เลย
เป้าลงทุนยาวใน 3-5 ปีครับ หวังว่าจะได้มีหุ้น 2-3 เด้ง กับเค้าบ้าง ละครับ (มือใหม่) ตอนนี้ port สะอาดมาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Guiman
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 14

โพสต์

การกระจายความเสี่ยงที่มากไป แสดงถึงความไม่ใส่ใจจะศึกษาในหุ้นตัวนั้นๆครับ

จากอาจารย์ W. Oneil
http://guimanstock.blogspot.com/
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 15

โพสต์

แล้วแต่วัตถุประสงค์ แผนการ มุมมอง กลยุทธ์ และ นิสัยของแต่ละคนครับ

ต้องถามกลับว่าทำไมถึงกระจาย ทำไมถึงโฟกัส

ผมถือมาตั้งแต่ ไม่กี่ตัว จนเป็น 50 เป็น 100 ตัว ก็ยังไม่เคยแพ้ตลาดนะ
luz666
Verified User
โพสต์: 845
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 16

โพสต์

DooStock เขียน:ขอบคุณที่แนะนำคับ

แล้วควรมีไว้ ใน port สักกี่ตัวดี ครับถึง จะดูแลทั่วถึง ดูงบนี้ก็เหนื่อยจริงๆ เลย
เป้าลงทุนยาวใน 3-5 ปีครับ หวังว่าจะได้มีหุ้น 2-3 เด้ง กับเค้าบ้าง ละครับ (มือใหม่) ตอนนี้ port สะอาดมาก
อันนี้มันแล้วแต่คนจริงๆครับ ไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายอย่างมาก ทั้งความขยัน ขนาดพอร์ทก็มีส่วน แต่ส่วนตัวผมจะพยายามถือให้แต่ละตัวเป็นอย่างน้อย 10% ของพอร์ทรวม (เท่ากับว่าผมถือไม่เกิน10ตัว) เพราะถ้าน้อยกว่านี้รู้สึกไม่ค่อยมีผลกับพอร์ทรวม เลยไม่รู้จะถือตัวละนิดละหน่อยทำไมให้เสียเวลาตาม ที่เหลือก็แล้วแต่ความมั่นใจกับ upside ของหุ้นแต่ละตัว ถ้ามั่นใจมาก upside มาก ก็ถือเยอะๆเลย เช่นสมมติ upside 100% ภายในหนึ่งปี มั่นใจมาก อาจจะจัดหนักเกินครึ่งพอร์ทก็ได้ แต่ผมว่า มือใหม่ กระจายๆก็ดีนะ จะได้รู้ว่าถนัดกลุ่มไหน อย่างผม ตอนแรกก็มีหลายกลุ่ม ไปๆมาๆก็เหลือ2-3กลุ่มที่คิดว่าเข้าใจมากกว่ากลุ่มอื่น เช่นตัดกลุ่มอาหารออก เพราะไม่อยากตามราคาเนื้อ ตัดกลุ่มประกันออกเพราะงงเรื่องสำรอง
all i need is Zero
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1369
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ไม่ดีครับ เพราะหุ้นบางกลุ่มมีความเสี่ยงมากกว่าตลาด
เมื่อเราซื้อทุกกลุ่ม ความเสี่ยงเราก็เท่าตลาด ผลตอบแทนก็เท่าตลาด
แล้วจะยุ่งยากไปทำไม??? ซื้อSET50 SET100จบ

จริงๆแล้วเราควรดูRisk VS Returnของportครับว่าเป็นอย่างไร
ต้องไปอ่านทฤษฎีของMarkowiz CAPM Efficient frontier
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมบอกรุ่นน้องผมว่า...

"มาร์ไม่มีวันเก่งกว่าผม เพราะมาร์ต้องดูหุ้นเกือบ 600 ตัว
กระจัดกระจายเต็มตลาดไปหมด ในขณะที่ผมนั่งดูและพยายาม Focus อยู่เพียงตัวเดียว!!!
แล้วเอ็งคิดว่า ใครจะดูได้ละเอียดและลึกกว่ากัน?"
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0

Re: การแบ่งความเสี่ยง ซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ดีหรือเปล่า???

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ถ้าจะกระจายความเสี่ยง หรือลดความผันผวนของพอร์ต ต้องถือสินทรัพย์ที่มี correlation ระหว่างกันใกล้ๆ 0 ให้มากที่สุด (ไม่ต้องถึงกับติดลบ เพราะจะกลายเป็นตัวนึงขึ้น ตัวนึงลง เจ๊ากันไป พอร์ตไม่ไปไหน) แต่ถึงจะอยู่คนละกลุ่มกันอาจจะมีผลเกี่ยวเนื่องกัน หรือได้รับผลกระทบเดียวก็ได้

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างกลุ่มอสังหา ถ้าหากขายไม่ดีอาจจะกระทบกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็ได้ หรือในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ กลุ่มยานยนต์ อาจจะได้รับผลกระทบพร้อมๆกับกลุ่มอสังหาก็ได้ ใช่ไหมครับ

ดังนั้นในกรณีนี้ การกระจายความเสี่ยงไม่ได้ช่วยอะไรเลย
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
โพสต์โพสต์