สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

[ปรัชญา]

[ปรัชญา]

สรุปข่าวหน้า1 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

18 ธ.ค.--กรุงเทพธุรกิจ
Distributor - Bisnews AFE
ดบ.1,095% วิกฤติ 'หนี้นอกระบบ' แก๊งหมวกกันน็อคลามเข้าเขตเมือง - มหาดไทยเผยยอดหนี้นอกระบบ
1.2 ล้านราย ตร.เผยมีขบวนการปล่อยกู้นอกระบบ 3 กลุ่มใหญ่พฤติกรรมทวงหนี้โหด ยุติธรรมเผยวิกฤติหนี้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยปีละ 1,095% จนปัญญาลูกหนี้ระบุมีหลายรูปแบบ-ท้าทาย
กฎหมายเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมแก้ไข สตช.เผยทั่วประเทศมี 3 ขบวนการใหญ่ จับดำเนินคดีแล้ว 164 ราย
นักวิชาการระบุขบวนการหนี้นอกระบบเริ่มขยายสู่เขตเมือง คนงานอุตสาหกรรมตกเป็นเหยื่อโหด

บินไทยแพ้คดี ศาลออสซี่ปรับ 256 ล. 'ฮั้วราคา'
ศาลออสเตรเลียพิพากษาให้การบินไทยจ่ายค่าเสียหาย 8 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียหลังจากคณะ
กรรมการผู้บริโภคฯ ยื่นฟ้องกรณีรวมหัวกับสายการบินอื่น กำหนดค่าธรรมเนียมพิเศษขนส่งสินค้าในช่วงปี
2544-2549 ด้าน "สรจักร" ยันไม่กระทบฐานะการเงิน เหตุตั้งสำรองล่วงหน้าไว้กว่า 4 พันล้านบาท
ชี้การจ่ายค่าปรับเสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเดินหน้าต่อสู้คดี

ไทย-พม่าดีเดย์เม.ย. ลุยก่อสร้าง 'ทวาย'
นายกฯ เยือนทวาย หารือร่วม "เต็งเส่ง" โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายมั่นใจสรุปราย
ละเอียดโครงการพร้อมดึงนักลงทุน เดือนเม.ย.2556 เปิดกว้างประเทศที่ 3 เข้าร่วม พม่ายอมเปิดด่าน
สิงขรเป็นด่านถาวร ด้านไทยรับพิจารณาสร้างถนนเชื่อมต่อมะระแหม่ง พัฒนาเส้นทางรถไฟเก่าด่านสามองค์

หนุน 'เทรดดิ้ง' ค้าข้าวหนีระบบจำนำ
"พ่อค้าข้าว" แนะผู้ส่งออกข้าวผันตัวเองเป็นเทรดดิ้งค้าข้าว ชี้นโยบายจำนำเปลี่ยนพลวัตข้าวไทยใหม่
ตลาดต่างประเทศหนีข้าวไทยแพง หันซื้อเวียดนาม-อินเดีย ชี้สต็อกข้าวรัฐ 12 ล้านตันเป็นวิกฤติ แนะไทย
ปรับฐานตลาด คัดลูกค้าส่งออกระดับพรีเมียมหนีแข่งดุ ด้าน "ณัฐวุฒิ" ส่งข้อมูลขายข้าวยุครัฐบาลก่อนให้
ป.ป.ช.พุธนี้--

สรุปข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ชุมพลหมดสติ คาห้องประชุม แพทย์ช่วยทัน
"ชุมพล ศิลปอาชา" เส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้นหมดสติคาห้องประชุม ทำเนียบฯ หมอรีบทำบอลลูนทันที
จนอาการปลอดภัย "บรรหาร" ห่วงน้องชายแต่ยืนยันไม่กระทบงาน

อดีตปธ.สปริงนิวส์โผล่ชิงผู้ว่าฯ ส.ส.-ส.ก.-ส.ข.เพื่อไทยถอยไม่เสนอ "สุดารัตน์" หลังเจ้าตัวแจงผ่าน
เฟซบุ๊ค
อดีตประธานฯ สปริงนิวส์ "โฆสิต สุวินิจจิต" เปิดตัวลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ชูนโยบาย "กรุงเทพฯ 24
ชั่วโมง" และ "50 เขต 50 ยุทธศาสตร์" ด้าน ปชป.ยังกั๊ก อ้างไม่เร่งสรุปชื่อว่าที่ผู้สมัคร-

สรุปข่าวการเงิน-ลงทุน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

แก้ 'รธน.' กระทบหุ้นน้อย โบรก-บลจ.ระบุการเมืองนิ่งส่งผลดีตลาดทุน ยอมรับประเด็นการเมืองถือ
เป็นปัจจัยเสี่ยง และกดดันบรรยากาศลงทุน
โบรกเกอร์ มองปมแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจมีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยบ้าง พร้อมต้องเกาะ
ติดสถานการณ์ความขัดแย้งใกล้ชิด เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันบรรยากาศการลงทุน สอดคล้องกับด้าน
บลจ."แอสเซทพลัส-วรรณ" ประเมินการเมืองมีผลกระทบไม่มากกับการลงทุน เนื่องจากทุกอย่างสะท้อนใน
ราคาแล้ว เชื่อนักลงทุนมองภาพนโยบายใหญ่เป็นสำคัญ แนะการเมืองนิ่งส่งผลดีต่อตลาดทุนโดยรวม

โบรกชี้กำไรซีพีเอฟปี 56 ฟื้นราคาไก่ขึ้น-ลงทุนนอกหนุน
โบรกเกอร์คาดกำไรซีพีเอฟปี 2556 ฟื้นแรงหลังราคาเนื้อไก่ในประเทศขยับขึ้นและผลตอบแทนการ
ลงทุนดี คาดผลดำเนินงานใกล้ผ่านจุดต่ำสุด หนุนราคาหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังช่วงที่ผ่านมาให้ผลตอบ
แทนต่ำสุดในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่หรือบิ๊กแคป และให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดถึง 29%

ธปท.สานต่อยุทธศาสตร์ 5 ปีหวังคนไทยอยู่ดียั่งยืน
"แบงก์ชาติ" ลุยสานต่อแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี วางคีย์เวิลด์ปีหน้า เน้นการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดียั่งยืนของคนไทย โดยยึดแผนงาน 4 ด้าน ผ่านการเชื่อม
โยงเศรษฐกิจต่างประเทศเพิ่มโอกาสเติบโตจากภายนอก ขณะที่ภายในเร่งยกศักยภาพแข่งขัน ลุยลดความ
เหลื่อมล้ำพร้อมดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม

เอไอจีเทขายเอไอเอ รับ 6.5 พันล้านดอลล์
"เอไอจี" ประกาศขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดในเอไอเอ มูลค่าราว 6.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นการปิดฉาก
ถือครองหุ้นในบริษัทประกันขนาดใหญ่อันดับ 3 ของเอเชียมานานเกือบ 100 ปี

สรุปข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

สทน.วอนรัฐจัดระเบียบจราจร รับมือรถคันแรกแห่เที่ยวปีใหม่
สทน.หวั่นนโยบายรถคันแรกทำจราจรวุ่นช่วงเที่ยวปีใหม่ จี้ภาครัฐเตรียมจัดระเบียบหนุนบรรยากาศ
ท่องเที่ยวราบรื่น ชี้สงกรานต์ปีหน้าปริมาณคนไทยเที่ยวเองเพิ่มสูงสุด เหตุเริ่มส่งมอบรถยนต์คันแรกมากขึ้น
สวนทางธุรกิจนำเที่ยวซบเซาแล้วกว่า 15-20%

'อมารี' ชูรายการฟอร์แมตปั้นแบรนด์โกอินเตอร์
"อมารี" คว้าสิทธิ "แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์" ผลิตเวอร์ชั่นไทยต่อเนื่อง 3 ปี หวังต่อยุทธศาสตร์
โกอินเตอร์ ลงจอช่อง 7 ชนผัง 'ตีสิบ' ด้านกันตนาชี้รายการฟอร์แมตนอกยังแรงเตรียมผลิตอีกหนึ่งรายการ

'เพาเวอร์มอลล์' บุกสแตนอะโลน เกาะเทรนด์คอมมูนิตี้มอลล์บูม
เพาเวอร์มอลล์เกาะคอมมูนิตี้มอลล์คลอดสาขาใหม่ ลงทุนแห่งละ 60 ล้าน เผยเทรนด์สมาร์ทโฟน
เติบโต 100% พร้อมกระตุ้นกำลังซื้อปลายปี เท 65 ล้านจัด "บางกอก อิเล็กทรอนิก้า" ตั้งเป้ายอดขาย
450 ล้านบาท ช่วยดันรายได้รวมปีนี้ทะลุ 9.7 พันล้านบาท

อสังหาเขาใหญ่พุ่ง 5 พันยูนิตมูลค่า 5 หมื่นล. แสนสิริเทอีก 1.2 พันล้าน ผุดโครงการใหม่ทันที หลังจาก
ปิดยอดขายโครงการแรกสำเร็จ
ทำเลเขาใหญ่ยังเนื้อหอมรับโครงการอสังหาฯ แห่เปิด "แสนสิริ" ลุยสร้างคอนโดฯ ลำดับที่สอง
"เดอะ วัลลีย์" ต่อเนื่อง ปีหน้าเล็งทุ่มงบบุกต่างจังหวัดต่อเนื่อง ชี้หัวหิน-ชะอำ ศักยภาพสูง

สรุปข่าวหุ้น การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

'บิ๊กปตท.สผ.' แห่ใช้สิทธิเพิ่มทุน มูลค่ารวม 25.07 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่ พร้อมใจเพิ่มสัดส่วน
ถือครองหุ้นตัวเอง
ผู้บริหารบริษัทปตท.สผ. 11 ราย พร้อมใจรายงานรับหุ้นเพิ่มทุน มูลค่ารวม 25.07 ล้านบาท ด้าน
บริษัทรายงานผลขายหุ้นหมดเกลี้ยง ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่พร้อมใจเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นตัวเอง หลัง
ราคานิ่งสวนทางดัชนี

ดีเอ็นเอตั้งเป้า มาร์เก็ตแชร์ครองอันดับ 1
นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ ดีเอ็นเอ
(DNA) เปิดเผยว่าหลังจากได้รับเงินจากการระดมทุนบริษัทมีแผนจะนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนขยาย
ธุรกิจให้ขยายตัวมากขึ้น โดยมีเป้าหมายในอนาคตต้องการจะมีส่วนแบ่งการตลาดในด้านผู้จำหน่ายสินค้า
สื่อโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์สูงสุดของประเทศ

'กันกุล' ปี 56 ทุ่มลงทุนพลังงาน 4 พันล้าน
กันกุลเอ็นจิเนียริ่งเดินหน้าลงทุน 4 พันล้านบาท ขยายโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มปีหน้า วาง
เป้าทำสัญญาขายไฟฟ้าขั้นต่ำ 50 เมกะวัตต์ พร้อมคาดการณ์กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมากหลังเริ่มรับรู้รายได้
โครงการพลังงานทดแทน

[ปรัชญา]

สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

18 ธ.ค.--โพสต์ทูเดย์
Distributor - Bisnews

ทัวร์จีนทะลัก 2.5 ล้านคนแห่เที่ยว กทม.-พัทยาห้องพักไม่พอบริการไม่ไหว/ร้องททท.ช่วยด่วน
นักท่องเที่ยวแดนมังกรทะลักเที่ยวไทย 2.5 ล้านคน โตพรวด 45% เอกชนป่วนร้องรัฐช่วยด่วน
นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า
ปีนี้มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณะรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้าไทยอย่างล้มหลาม เฉพาะระหว่างเดือน ม.ค.
-ก.ย. ที่ผ่านมา มีคนจีนมาเที่ยวไทยแล้วถึง 1.94 ล้านคน คาดว่าทั้งปีจะเข้ามากว่า 2.5 ล้านคน หรือ
เติบโต 45% เมื่อเทียบกับ 1.7 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา

รีดภาษีโปะรถคันแรก ผู้ผลิตชิ้นส่วน-ประกัน
คลัง สั่งรีดภาษีธุรกิจเอี่ยวรถคันแรก ทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนและประกัน หวังได้เงินโปะคืนปีหน้า
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ กล่าวว่า ได้สั่งให้
กรมสรรพากรเก็บภาษีกับผู้ประกอบการรถยนต์ และผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมด และบริษัทประกันภัย
รถยนต์ เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่มียอดใช้
สิทธิถึง 1 ล้านคัน เพิ่มจากที่ประเมินไว้ว่าจะมียอดใช้สิทธิประมาณ 8 แสนคันเท่านั้น

พม่าแก้กฎหมายอุ้มทวาย
พม่าเล็งแก้กฎหมายดึงดูดลงทุนเข้าทวาย "นิวัฒน์ธำรง" เผยเตรียมดึงรัฐบาลเมียนมาร์ร่วมหุ้น
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะ
กรรมการประสานงานระหว่างไทย-เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการ
ที่เกี่ยวข้อง (JCC) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยมีแนวคิดในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน หรือ คอนซอร์เตียม
(Consortium) มาถือสัมปทานทวายร่วมกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุน
โครงการทวาย ที่ต้องใช้เงินลงทุนถึง 2-3 แสนล้านบาท เพราะเอกชนคงทำไม่ไหว

สรุปข่าวการเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ธปท.หารือพม่า กำหนค่าเงิน แลกกันได้ตรง
ธปท.เร่งหารือกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนโดยตรง "บาท-จ๊าด" หนุนการลงทุนไทยและพม่า ลดปัญหา
อัตราแลกไม่แน่นอน
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.และธนาคารกลางประเทศพม่าได้หารือกันเพื่อกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงิน
บาทและเงินจ๊าดโดยตรงเป็นสกุลแรก ๆ ในภูมิภาค

นายแบงก์มั่นใจ เงินเยนอ่อนค่า ส่งออกไทยได้ดี
นายแบงก์มั่นใจค่าเงินเยนอ่อนค่าแน่ ส่งผลดีต่อการส่งออก การท่องเที่ยวคนญี่ปุ่นเข้ามาไม่น้อยกว่า
1 ล้านคน
นายธนวัฒน์ รื่นบันเทิง นักเศรษฐศาสตร์ทิสโก้ กล่าวว่า หลังจากพรรคแอลดีพีชนะการเลือกตั้ง จะ
ส่งผลกดดันให้การดำเนินนโยบายทางการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น ปล่อยให้ค่าเงินเยนอ่อนลง และปล่อยให้
เงินเฟ้อสูง ให้คนใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวตามมา ดังนั้นจึงมีการเข้าไล่ซื้อพันธบัตรให้มากที่สุด

แบงก์กรุงเทพจุก สินเชื่อบ้านเดี้ยง
"แบงก์กรุงเทพ" โอดสินเชื่อบ้านอาจหลุดเป้า ปีหน้าอุดจุดบอดพัฒนาช่องทางสาขา รับสภาพทำงาน
หนักขึ้น ด้านกสิกรไทยฉลุย
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ปีนี้การขยาย
สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาจไม่ได้ตามเป้าหมาย ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยอดสินเชื่อยังไม่ค่อยดี ปีหน้า
ธนาคารจึงต้องทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาช่องทางการขายให้เข้าถึงลูกค้ามากกว่านี้

แบงก์ไทยดิ้นแก้เกมสหรัฐ ร้องภาครัฐดูแลกม.รายงานข้อมูล ธปท.ยันส่งธุรกรรมของลูกค้าไม่ได้
สมาคมธนาคารไทยเล็งยื่นข้อเสนอภาครัฐแก้กฎหมายรับเกณฑ์ FATCA ของสหรัฐ หวั่นถูกรีดภาษี 30%
ทำไม่ได้อาจยกเลิกบริการลูกค้ามะกัน
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษ
ขึ้นมาเพื่อศึกษาผลกระทบจากกฎหมายการรายงานข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศของสหรัฐ (Foreign
Account Tax Compliance Act: FATCA) ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2557 ซึ่งกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์
ทั่วโลกต้องแจ้งข้อมูลการลงทุนของธุรกิจและบุคคลสัญชาติอเมริกันให้กับกรมสรรพากรสหรัฐ หากสถาบันการ
เงินรายใดไม่ให้ความร่วมมือจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 30% จากเงินลงทุนที่อยู่ในสหรัฐ

สรุปข่าวการตลาด หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

เครื่องใช้ไฟฟ้าคึกรับ 3จี ฟันธงปีหน้าอุปกรณ์สื่อสารบูม สมาร์ตโฟนแท็บเล็ตยังโต 2 หลัก
พาวเวอร์ มอลล์ ส่องตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2556 กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารดิจิตอลส่วนบุคคลพุ่งรับ 3จี
เจ้าของสินค้าเปิดรุ่นใหม่
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า พาวเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์
กรุ๊ป ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้
ไฟฟ้าปี 2556 คาดกลุ่มสินค้าอุปกรณ์สื่อสารดิจิตอส่วนบุคคล (เพอร์ซันนัล ดีไวซ์) ต่างๆ อาทิ สมาร์ตโฟน
และแท็บเล็ต จะโตสูงสุดตัวเลขกว่า 2 หลัก เทียบกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดอื่นๆ

อมารีสร้างชื่อออกโรงหนุนรายการบีบีซี
อมารี ลงขันนำเข้ารายการระดับโลก รับกระแสทาเลนต์ โชว์ บูม หวังสร้างชื่อ
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทย กรุ๊ป
กล่าวว่า ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักแต่เพียงผู้เดียวสำหรับรายการแดนซิง วิธ เดอะ สตาร์ จากบีบีซี ประเทศ
อังกฤษ รวม 3 ซีซัน โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านบาทต่อซีซันคาดว่ารายการระดับโลกนี้ จะช่วยทำ
ให้แบรนด์อมารีเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ปั้น 'บีเจ' ผงาดยีนส์ 5 พันล้าน ชี้คนรุ่นใหม่ไม่ยึดติดแบรนด์ ไฮแฟชฯเล็งบุกต่อเพื่อนบ้าน
ไฮแฟชฯ ปรับแผนบุกตลาดกางเกงยีนส์ ปั้นแบรนด์ใหม่ "บีเจ" เจาะตลาด 5,000 ล้านบาท
สบช่องคนรุ่นใหม่ไม่ติดแบรนด์
น.ส.กัลยานี บุญญลักษม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮแฟชฯ วางแผนใช้งบลงทุนปี
2556 ไม่ต่ำกว่า 115 ล้านบาทเพื่อทำตลาดเครื่องแต่งกายยีนส์แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ บีจีเนียส หรือ "บีเจ"
ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองเป็นครั้งแรก และทำตลาดเชิงรุกอย่างจริงจังครั้งแรกในรอบ 28 ปี
หลังจากได้รับสิทธิในการผลิตและทำตลาด (ไลเซนส์) แบรนด์บิ๊กจอห์น จากประเทศญี่ปุ่น

ซอฟต์แวร์ไทย คว้าได้ 4 รางวัล เปิดช่องสู้นอก
เอทีซีไอ เผยไทยชนะประกวดแข่งขันซอฟต์แวร์เอเชียแปซิฟิก 4 รางวัล เปิดช่องทำตลาดต่าง
ประเทศมากขึ้น
นายดิลก คุณะดิลก ประธานฝ่ายกิจกรรม สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย หรือเอทีซีไอ
เปิดเผยว่า เอทีซีไอได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือซิป้า ผลักดันให้บริษัท
พัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยเข้าร่วมการแข่งขันซอฟต์แวร์ในระดับเอเชียแปซิฟิก หรืออะพิกตา อะวอร์ด 2012
จากผู้เข้าร่วม 12 ประเทศ รวม 153 ผลงาน ซึ่งไทยส่งเข้าประกวด 15 ผลงาน และคว้ามาได้ 4
รางวัล แบ่งเป็นชนะเลิศ 2 รางวัล และรองชนะเลิศ 2 รางวัล

เอ็นฟอร์ซโดดลุยโมบายซีเคียวริตี
เอ็นฟอร์ซ คาดปี 2556 โมบายมาแรงดันตลาดซีเคียวริตีโตไม่ต่ำกว่า 20% ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า
400 ล้านบาท
นายนักรบ เนียมนามธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็มส์ เอพี ผู้จำหน่าย
ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรในไทย เปิดเผยว่า ตลาดระบบรักษาความปลอดภัย (ซีเคียวริตี) ใน
ประเทศไทยมีการเติบโตที่ดีมากโดยปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 12-15% ส่วนในปี 2556 คาดว่าจะเติบโต
ไม่ต่ำกว่า 20% แน่นอน เนื่องจากจะมีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐหลายโครงการที่จะดำเนินการในปีหน้า
เช่น 3จี ไวร์เลส เพื่อการศึกษา เป็นต้น

สรุปข่าวหุ้น-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

'ครบุรี'เลือกคู่มิตซุย ขายหุ้น-วอร์แรนต์เฉียด 17% เจาะส่งออกน้ำตาลเกรดบน
น้ำตาลครบุรีขายหุ้นให้กลุ่มมิตซุย 16.7% ช่วงแรกชิมลาง 9% หวังได้ช่องขายน้ำตาลเกรดบน
มาร์จินมาก
นายธาญทิฐ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท น้ำตาลครบุรี (KBS) เปิดเผยว่า
คณะกรรมการบริษัทมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาทเพื่อออกหุ้นใหม่จำนวน
100 ล้านหุ้น ขายให้กลุ่มบริษัท มิตซุย ผู้ค้าน้ำตาลรายใหญ่ของโลก

STA อัดลงทุนเพิ่มกำลังผลิต 2 ปี 3 แสนตัน- รักษาแชมป์โลก ราคายางเด้งแตะ 3 พันเหรียญ
"ศรีตรังฯ" ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตยางเป็น 1.5 ล้านตันต่อปี หวังครองส่วนแบ่งตลาด 12% รักษา
แชมป์ของโลก คาดราคายางปีหน้าเด้งแตะ 3,000 เหรียญ
นายกิตติชัย สินเจริญกุล กรรมการบริษัท ศรีตรังแอโกร อินดัสตรี (STA) เปิดเผยว่า คณะ
กรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท รับเบอร์แลนด์ โปรดักส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 500
ล้านบาท ส่งผลให้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ยางพารา เป็น
1.5 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2557 จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 1.2 ล้านตันต่อปี

ทิสโก้ชี้ขาขึ้นต้นปี 1,400 หน้าผาแก้ได้
บล.ทิสโก้คาดคิวอี 4 ดันหุ้นถึง 1,400 จุด เดือน ม.ค.ปี หน้าเร็วกว่าคาด
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ วิเคราะห์ว่า ดัชนีหุ้นจะยังคงเดินหน้าไปทดสอบระดับ
1,390-1,400 จุด ได้ในช่วง 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะตลาดหุ้นไทยตอบสนองในเชิงบวกทุกครั้งกับ
มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ตามกระแสเงินนอกที่ไหลเข้า

'กันกุล' ปักธงโตเป้าผู้นำพลังงาน
"กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง" มั่นใจกำไรปี 2556 วิ่งแซงรายได้ อานิสงส์โครงการพลังงานลม-แสงแดด
ดันยอดขายเติบโตมีเสถียรภาพ 10 ปี
นายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า มี
เป้าสร้างบริษัทให้โตก้าวกระโดดยั่งยืน มีแผนเจรจาขอซื้อสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase
Agreement) หรือ PPA ทั้งพลังงานแดดและลม อย่างน้อย 50 เมกะวัตต์

สมาคมบลจ.เล็งจ้างที่ปรึกษารับมือกม.สหรัฐบีบเปิดข้อมูล
สมาคมบริษัทจัดการลงทุนเล็งจ้างที่ปรึกษารับมือกฎหมาย FATCA ชี้ทุก บลจ.ต้องร่วมมือ มั่นใจ
รัฐบาลให้ความสำคัญ
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย ใน
ฐานะนายกสมาคม บริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า สมาชิกสมาคมมีการหารือเกี่ยวกับการรับมือในการดำเนิน
ตามกฎหมายการรายงานข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศของสหรัฐ (Foreign Account Tax
Compliance Act: FATCA) แล้ว โดยในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการหาที่ปรึกษาเพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำ
ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

10 ปีกองทุนเพิ่ม 4 แสนบัญชี
10 ปี โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม ปั้นผู้ลงทุนเพิ่ม 4 แสนบัญชี เติบโต 13.8%
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 มีจำนวนผู้ลงทุนใน
กองทุนรวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 2.9 ล้านบัญชี ในปี 2554 เป็น 3.3 ล้านบัญชีในปี 2555 หรือ
เพิ่มขึ้น 13.8%

สรุปข่าวธุรกิจ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

กระหึ่มเคาต์ดาวน์ไทยที่ 8 โลก ททท.ร่วมเอกชนจัด 8 ที่ทั่วไทย คาด 4 วันรายได้เฉียด 6 พันล้าน
ททท.ลงขันเอกชนจัดเคาต์ดาวน์ราชประสงค์ ตอกย้ำเมืองไทยน่าเที่ยว คาด 4 วันรายได้เฉียด
6,000 ล้าน ชี้ไทยอันดับ 8 เคาต์ดาน์ฮิตระดับโลก
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท สนับสนุนการจัดงานนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่
(เคาต์ดาวน์) ใน 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านราชประสงค์ เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ ภูเก็ต ที่บริเวณหาดกะรน
สนามชัย ขอนแก่น และเชียงราย

รฟท. ชงงบ 100 ล้าน ซื้อเครื่องตรวจระเบิด
"ประภัสร์" ทุ่มงบ 100 ล้านบาท จัดหาเครื่องตรวจวัตถุระเบิดสถานีรถไฟ 3 จังหวัดใต้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการได้ลงพื้นที่
ตรวจสถานีและรางรถไฟใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างความมั่นใจและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการสร้าง
มาตรการความปลอดภัยให้กับเจ้าห้าที่และทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.ไ ด้เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อขอ
อนุมัติงบจำนวน 100 ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

บริการหลังขาย แข่งดุรับ 'เออีซี'
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ตลาดอสังหาฯ แข่งหนักด้านบริการหลังการขาย รับเปิดเออีซี ต่างชาติทะลัก
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และประธานอำนวยการกลุ่ม
บริษัทแสนสิริ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะด้านบริการหลังการ
ขายเป็นหัวใจสำคัญ หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี

สภาอุตฯ ชี้ศก.ปี'56 เข้มแข็ง
ส.อ.ท. คาดปีหน้าโต 5% เหตุเศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็ง การบริโภคขยายตัว แนะเอสเอ็มอี
รวมตัวจับคลัสเตอร์
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวในงานสัมมนา
"11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม: วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ 11 และ
รองรับเออีซี" ว่า เศรษฐกิจของไทยในปี 2556 น่าจะคึกคักมากกว่าปีนี้ โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโตได้ 5%
เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเข้มแข็ง มีความสมดุล มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในระบบโครงสร้าง
พื้นฐานและการบริโภคภายในประเทศก็อยู่ในระดับที่ดี

[ปรัชญา]

สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

18 ธ.ค.--เดลินิวส์
Distributor - Bisnews AFE

ศาลชี้เจ้าหน้าที่ยิงแท็กซี่แดง ตายอนาถพยานยืนยันมาร์ค-เทือกอ่วมหนักดีเอสไอจ่อฟันอีกรอบ
ศาลอาญาชี้ชัดแท็กซี่เสื้อแดง "ชาติชาย ชาเหลา" ถูกยิงตายบนถนนพระราม 4 โดนกระสุนจากเจ้า
หน้าที่หลังแนวด่านแข็งแรงแต่ระบุคนยิงไม่ได้ พยานบุคคล "กู้ชีพวชิระ" เห็นแสงไฟจากแนวด่านของเจ้า
หน้าที่ บวกกับหลักฐานหัวกระสุนจากปืนทหาร ด้าน "ดีเอสไอ" ตั้งทีมรอพิจารณาคำสั่งศาล นำมาต่อยอด
เอาผิด "มาร์ค-เทพเทือก" เพิ่มเติมอีกคดี ส่วนแม่เหยื่อ ร่ำไห้ ลูกชายได้รับความเป็นธรรมเสียที
"เหลิม-เพื่อไทย" เขย่าซ้ำให้ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" รับผิด-ขอโทษสังคม ขณะที่ ม็อบ "อพส." ตำรวจทำ
สำนวนเสร็จ นัดผู้ต้องหา 127 คนรายงานตัว 20 ธ.ค.นี้ ก่อนส่งอัยการด้าน "วรพงษ์" แจง สลายม็อบ
ทำตามกฎหมาย

ศิลปะภาพทองคำในหลวงของเราพระพักตร์ฝังเพชร
เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา เอสทีจีมัลติมี
เดียฯ รังสรรค์ชิ้นงานศิลปะแผ่นภาพทองคำพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านจากทองคำ 99.9% เป็น
ประติมากรรมพระพักตร์ทองคำฝังเพชร รุ่น "ในหลวงของเรา ปกเกล้ามหาบารมี" เปิดตัวครั้งแรกในโลก
มีเพียง 98 ชิ้น มูลค่าชิ้นละ 3 แสนบาท ให้จับจอง พร้อมระบุเตรียมสารคดีเผยแพร่พระอัจฉริยภาพ
พระองค์ท่าน ผ่านเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ใน 177 ประเทศทั่วโลก ปีหน้า

รวมโจ๋ฆ่าสาวซี5แค้นหึงโหดเผ่นกบดานเคยบำบัดยา
จนมุมโปลิศแล้ว กิ๊กวัยโจ๋อำมหิต บีบคอฆ่าโหดสาวซี 5 สำนักงานที่ดินก่อนลากศพจุดไฟเผาอำพรางคดี
รวบตัวได้ขณะหนีกบดานย่านเทียนทะเล สารภาพทำไปเพราะหึงหวง หลังรู้จักกับผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊ก และ
คบหากันมาปีกว่า เผยเมื่อได้สติร่ำไห้เสียใจอยู่กับศพทั้งวัน สำนึกผิดหวังซดยาเบื่อหนูฆ่าตัวตายตาม แต่กิน
ไปแล้วรู้สึกแสบท้อง กลัวความทรมานเลยล้มเลิกความคิดตรวจสอบประวัติพบเคยเข้าบำบัดยาเสพติดตำรวจ
คุมตัวทำแผน ท่ามกลางไทยมุงรุมสาปแช่งระงม

'แม่ค้าส้มตำ' เฮงถูกหวยรางวัลที่ 1
เฮงถูกหวยรางวัลที่ 1 แม่ค้าส้มตำเมืองหมอแคนโร่พบตำรวจลงบันทึกประจำวัน ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่
1 รับเงินเป็นเศรษฐีใหม่ทันที เผยไปกราบเจ้าอาวาสวัดดังเมืองขอนแก่นเพื่อขอฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ หลวงพ่อ
ให้ดำเนินการขึ้นเสาเอกวันที่ 24 ธ.ค. นำไปแทงหวยประกาศผลแทบช็อกรับ 4 ล้านบาท

ตีหัวทนายพรรค 'ปชป.' อัดมาร์คคว่ำประชามติ 'โฆสิต' ลงชิงผู้ว่าฯกทม.
คอ.นธ.เสนอฉีกทิ้ง รธน.เผด็จการทั้งฉบับแนะตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแทน ส.ส.ร. ด้าน
เพื่อไทยตอกหน้าพรรคประชาธิปัตย์สงสัยคลั่งรัฐธรรมนูญเผด็จการ จึงตั้งท่าล้มประชามติที่จะให้ประชาชนมี
ส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน "มาร์ค" เทปยืดอ้างแก้ รธน.หวังล้มคดี "แม้ว" ยันแนวคิด
ล้มประชามติอยู่ภายใต้เจตนารมณ์กฎหมาย ด้านปชป.ชู4 ข้อขวาง แนะแก้รายมาตรา กกต.เตือน ปชป.
ยุยงให้คนไม่ลงประชามติความผิดถึงยุบพรรค ด้าน "ชุมพล" วูบคาห้องทำงาน หมอต้องทำบอลลูนเส้นเลือด
หัวใจ 2 เส้นรวด ยื้อชีวิตได้ฉิวเฉียด "สุขุมพันธุ์" ส่อฝันสลาย เมื่อประชาธิปัตย์แทงกั๊กไม่ฟันธงส่งลง
รักษาตำแหน่งอีกรอบ อ้างมี 2-3 คนขอลงแทน ขณะที่ "ปู" หอบคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจดูความคืบหน้า
โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ย้ำไทยพร้อมสนับสนุนพม่าในการพัฒนาร่วมกัน

เครื่องบินเล็กดิ่งเวหา-พังยับเยิน 2 นักบินวัยดึกรอดปาฏิหาริย์
เครื่องบินเล็กตกกลางทุ่งนาในเขต อ.สามโคก ปทุมธานี สองนักบินวัยดึกชาวอังกฤษรอดตาย
ปาฏิหาริย์ เผยก่อนเกิดเหตุเห็นเครื่องบินเฉียดหลังคาบ้าน-ต่ำกว่าปกติ ก่อนจะเสียการทรงตัวจนไม่
สามารถควบคุมเครื่องได้ ส่วนหัวถลากระแทกพื้นอย่างแรงจนเครื่องตีลังกาหงายท้อง ชาวบ้านรีบเข้าไป
ช่วยนำตัวนักบินและผู้ช่วยออกมา เพราะเกรงเครื่องจะระเบิด ปรากฏว่าทั้งคู่แค่บาดเจ็บเล็กน้อย คาด
สาเหตุน่าจะเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง

'โอบามา' ร่วมไว้อาลัย26ศพ
ผู้นำสหรัฐร่วมพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทั้ง 26 ศพ จากเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมรัฐคอนเนตทิคัต
พร้อมกับกล่าวสดุดีความกล้าหาญของครูที่สละชีวิตปกป้องนักเรียน และยืนยันจะแก้ไขกฎหมายอาวุธปืนให้
เข้มงวดมากขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เผย มือปืนยิงเด็กส่วนใหญ่เกิน 10 นัด

โจรใต้ยิงถล่มรถ2ขรก.ดับ-เจ็บ5
โจรใต้โหด ยิงถล่มรถสองแถวที่นราธิวาส 2 ข้าราชการสาว สนง.เกษตร เสียชีวิตสยองคารถ
บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย ในจำนวนนี้มีครูหญิงรวมอยู่ด้วย ปัตตานีระอุรายวัน คนร้ายใช้อาก้ายิงถล่มร้านน้ำ
ชา ชาวบ้านสังเวยชีวิต 1 ศพ ขณะที่โรงเรียนในจังหวัดชายแดนใต้กลับมาเปิดเรียนอย่างคึกคักท่ามกลาง
การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด แต่ที่โรงเรียนบาโง ปัตตานีที่เกิดเหตุคนร้ายบุกยิงครู
ตายสยอง 2 ศพคาโรงเรียน ยังคงปิดเงียบ เนื่องจากยังหวาดผวาและไม่มั่นใจในความปลอดภัย ด้าน
ตำรวจได้ออกหมายจับหนึ่งในกลุ่มคนร้ายแล้ว เป็นแนวร่วมอาร์เคเคระดับสั่งการ พบประวัติเคยก่อเหตุ
โชกโชน รมช.ศึกษาฯ เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ "ครูสมศักดิ์ ขวัญมา" ครูเหยื่อไฟใต้รายที่ 157

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ส่งออกวืดคาดโต 4.17%
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยปี 56 จะทำได้
มูลค่า 250,410 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8-9% จากปี 55 คาดว่าส่งออกจะขยายตัว 4.17% หรือ
มูลค่า 231,861 ล้านดอลลาร์สหรัฐการกำหนดเป้าหมายส่งออกปีหน้าเป็นการประเมินจากแนวโน้ม
เศรษฐกิจคู่ค้าของไทย ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดทำ ประกอบกับข้อมูลของหัวหน้า
สำนักงานการค้าระหว่างประเทศทั่วโลก และภาคเอกชน

ทั้งปีเที่ยวไทยทะลุ 4 ล้านคน
นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ภาพรวมคนไทย
เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยวช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ คึกคักกว่าช่วงเดียวกันของ
ปีก่อนเกิน 100% โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยมีเหตุผลสำคัญจากปีนี้ไม่มีปัญหาน้ำท่วม ทำให้
คนไทยเที่ยวต่างประเทศกันมากตามปกติ ต่างจากปีที่ผ่านมาที่หลายครอบครัวยกเลิกการเดินทางไป เพราะ
เผชิญปัญหาน้ำท่วม ประกอบกับปีนี้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) เส้นทางระยะใกล้มาก ทำให้
คนไทยมีทางเลือกเดินทางมากกว่าเดิม ส่วนทั้งปีนี้คาดว่า ยอดคนไทยเที่ยวต่างประเทศ ผ่านสนามบิน
สุวรรณภูมิและดอนเมือง น่าจะถึง 2.5 ล้านคน แต่หากนับรวมคนไทยเที่ยวต่างประเทศโดยข้ามทางชายแดน
ทางบกด้วย คาดว่าจะมากถึง 3.8-4.2 ล้านคน

คนไทยจี้รัฐบาลแก้ของแพงมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ดันแก้หนี้สิน-ยาเสพติด
รายงานข่าวจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า สสช.ได้ออกสำรวจความต้องการของ
ประชาชนในปี 56 พบว่าจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 23,120 ราย โดยส่วนใหญ่หรือ 41% ต่าง
ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาของแพงมากที่สุด เพราะถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุดและเกี่ยวข้องกับปาก
ท้องของประชาชนคนไทยมากที่สุด ขณะที่สิ่งที่คนไทยต้องการเป็นของขวัญปีใหม่ประจำปี 56 มากที่สุด คือ
ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติด

พาณิชย์-โลตัสรับซื้อสินค้าเกษตร-โอทอป
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ
กรมการค้าภายใน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด
เจ้าของกิจการห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัส เพื่อร่วมมือส่งเสริมการรับซื้อและส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตร
ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) และผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์การเกษตรของไทยใน ปี 56 เพื่อนำผัก
ผลไม้ ผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารแปรรูป โอทอป และผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์การเกษตร ไปจำหน่ายในสาขา
ของร้านเทสโก้ ที่ตั้งในต่างประเทศทั้งสหราชอาณาจักร ยุโรปกลาง เอเชีย และจีน ในปริมาณเพิ่มขึ้นจาก
ปีก่อนอีก 15% หรือคิดเป็น 15,000 ล้านบาท

คลังไล่บี้รีดภาษีผู้ผลิตชิ้นส่วนรถ
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ เปิดเผยว่า
กระทรวงการคลังได้สั่งให้กรมสรรพากรเข้มงวดการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์
และผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์เป็นพิเศษ เพราะเห็นว่า เป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการคืนภาษี
รถยนต์คันแรกของรัฐบาล ที่ส่งผลให้การผลิตรถยนต์ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องมี
รายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ เพราะส่วนใหญ่เช่าซื้อจากบริษัทเช่าซื้อ ที่
ต้องทำประกันภัยชั้น 1 ด้วย จึงต้องเสียภาษีมากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งคาดว่าอาจมีผู้ใช้สิทธิสูงถึง 1 ล้านคัน
จากเดิมประเมินไว้เพียง 800,000 คันเท่านั้น

จี้เอสเอ็มอีปรับตัวสู้300บาท
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยในงานสัมมนา
"11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม :วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
และรองรับเออีซี" ว่า ต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยเร่งหามาตรการพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน
และสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้ารองรับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศที่มีผลวันที่ 1 ม.ค. 56
เนื่องจากทำให้ต้นทุนค่าจ้างของไทยสูงกว่าเพื่อนบ้านหลายประเทศ เช่น ค่าจ้าง 300 บาทต่อวันสามารถ
จ้างแรงงานในอินโดนีเซียเฉลี่ย 2 คน, จ้างในลาวได้ 3 คน, จ้างในเวียดนาม 4 คน และจ้างในพม่า
และกัมพูชา ได้ 5 คน เพราะมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นหากไม่มีการปรับ
ตัวแล้วมาตรการจากภาครัฐสิ้นสุดลงจะส่งผลให้เอสเอ็มอีมีความเสี่ยงต่อการปิดกิจการได้ง่าย


สรุปข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

มท.1 ยันเดินหน้าประชาเสวนา
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ให้ความมั่นใจ
ถึงการทำเวทีประชาเสวนา หลังพรรคฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นการหาทางออกเพื่อช่วยเหลือคนๆ เดียว ว่าการ
ประชาเสวนาที่กระทรวงมหาดไทยเป็นธุระจัดการเป็นการคิดและทำโดยนำเอาข้อเสนอของคณะกรรมการ
อิสระตรวจสอบความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และผลการศึกษาแนวทางสร้างความ
ปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า รวมถึงผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการตรวจสอบและค้นหาความจริง
เพื่อความปรองดอง สภาผู้แทนราษฎรที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน มา
กำหนดเป็นแนวทางในการดำเนินการ ซึ่งผลการศึกษาข้างต้นมีความสอดคล้องตรงกันโดยเฉพาะในส่วนที่มี
การเสนอให้มีการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เมื่อเราเห็นว่าการศึกษาขององค์กรต่าง ๆ มี
แนวทางที่สอดคล้องกันแล้ว

'โฆษกขุนค้อน' ยันรัฐสภาไม่ใช่ 'ซอมบี้ฯ'
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ตอบโต้กรณีที่
สมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งฉายารัฐสภาประจำปี 2555 ว่า "ซอมบี้สไตล์" นั้น ถ้าผู้ที่
ตั้งเป็นนายกสมาคมมีฐานะทางสังคมและมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ให้ตั้งได้ก็ไม่มีอะไร แต่ผู้ตั้งเป็นเพียงนิสิต
ปริญญาโท การตั้งฉายาดังกล่าวก็ต้องถามว่าคุณเป็นใคร มีองค์ความรู้รอบด้านอะไรหรือไม่ หากความน่า
เชื่อถือยังไม่ประจักษ์ก็อย่าแสดงความคิดเห็น อยากให้มีความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นทางการ
เมือง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ขอยืนยันว่าสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส. ส.ว. มา
จากประชาชน การแสดงความคิดเห็นเป็นอิสระอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจต้องใช้มติพรรคบ้าง รวมทั้งการ
แสดงความคิดก็ทำอย่างมีหลักเกณฑ์ไม่ใช่ซอมบี้สไตล์แน่นอน

'ปชป.' จี้รัฐ-จนท.เร่งสางปัญหาหลังส.ส.หารือในสภางานคืบ5%
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าจากการที่ประธาน
สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดโอกาสให้ ส.ส. ได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อนเข้าสู่ระเบียบ
วาระในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ว่าตนตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาที่ ส.ส. ได้หารือ อาทิ
การคมนาคม แหล่งน้ำ สาธารณูปโภค พืชผลทางการเกษตร และการไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ
พบว่า หน่วยงานที่ได้รับข้อหารือปัญหาประชาชนจากสภาผู้แทนราษฎรไม่ใส่ใจในการแก้ไขปัญหา ทำเหมือน
กับไม่มีคุณค่า ตอบคำถามกลับมาแบบขอไปที ไม่ให้น้ำหนักต่อปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนประสบอยู่ ทั้งที่
เป็นเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรส่งไปให้ สิ่งเหล่าทำให้รู้สึกสะท้อนใจว่า เหตุใดมาตรการ กลไกของฝ่าย
นิติบัญญัติถึงได้รับความสำคัญน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่ทุกเรื่องที่หารือเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

'หมอสมาน' โต้รายการทีวีดัง โจมตีห้ามขายเหล้าบนทางเท้า
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีรายการทีวีเล่าข่าวอ้างความเห็นนักวิชาการบิดเบือน
โจมตีกระทรวงสาธารณสุขว่าประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องกำหนดสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ... รังแกคนจน รายได้น้อย ว่า ประกาศฉบับนี้ มาจากผลการศึกษาวิจัยที่พบว่า
คนไทยซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายเกินไป โดยเฉลี่ยเด็กและเยาวชนใช้เวลาเพียง 7 นาทีก็ซื้อได้แล้ว
และจากการสำรวจความเห็นทั่วประเทศพบว่าสถานที่อันดับหนึ่งที่คนไทยอยากให้มีการห้ามขายเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ คือ ทางเท้า ไหล่ทางและถนน นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ทั่วประเทศกว่า 80% ก็เห็นด้วย มีผู้
ไม่เห็นด้วยไม่ถึง 5% แม้แต่ผู้ดื่มก็เห็นด้วยแสดงถึงความใฝ่ดีที่ยังมีความห่วงใยสังคมเห็นแก่ประโยชน์สุข
ส่วนตน

[ปรัชญา]

สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ศาลชี้ผลศพที่3ก็ตายด้วยปืนฝั่งจนท.มาร์ค-เทือกจ่อคดีที่3แม่เหยื่อดีใจถึงร่ำไห้ เมียลั่นเอาผิด
ถึงที่สุด 19 ธค.ดีเอสไอรุกต่อถกข้อหา'พยายามฆ่า'
ศาลมีคำสั่งผลไต่สวนศพที่ 3 'ชาติชาย ชาเหลา' เหยื่อพ.ค.53 ก็โดนปืนฝั่งเจ้าหน้าที่
ถูกยิงด้วยกระสุนขนาด .223 จากแนวด่านตรวจของ เจ้าหน้าที่ บริเวณถนนพระราม 4 ย่านศาลา
แดง แม่-เมียน้ำตานองหน้าดีใจได้รับความยุติธรรม 'ธาริต' เตรียมรับคำสั่งจากศาล ต่อยอดตั้งข้อ
หาฆ่า แยกสำนวนเป็นรายคดี ไม่สน 'มาร์ค' โจมตี ย้ำไม่ตอบโต้ แต่จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป
เผย 19 ธ.ค.นี้ ดีเอสไอประชุมคดีพยายามฆ่า แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ 'มาร์ค-เทือก' มีคนเจ็บอีก
พันคน ขณะที่ 'ลุงสมร' คนขับรถตู้ เหยื่อปืนจนท. ลั่นถ้าดีเอสไอไม่รุกคืบ ก็พร้อมจะแจ้งจับคดี
พยายามฆ่าด้วยตนเอง

ขู่ยุบ'ปชป.'ปลุกคว่ำประชามติรุมถล่มอภิสิทธิ์กกต.เผยผิดกม.'ปู'ยันแก้ม.291ไม่
เกี่ยว'ทักษิณ'สภาโต้ลั่นซอมบี้
กกต.ชี้เองมาร์คหนุนคว่ำประชามติ ส่อผิดอาญา แนะรัฐบาลเร่งทำความเข้าใจ
ประชาชน 'ปู' ย้ำ แก้รธน.ไม่เกี่ยวแม้ว แค่แก้ม.291 ส่วนเนื้อหาอยู่ที่ส.ส.ร.เป็นคนร่าง ยันยึด
ประโยชน์ประเทศ-ประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อไทยรุมยำมาร์ค ซัดอุ้มรธน.เผด็จการ ย้อนถามจะอุ้ม
ผลพวงรัฐประหารไปถึงไหน เล็งยื่นร้องเอาผิด ปชป.โต้มาร์คไม่ผิด-แค่อารยะขัดขืน ด้านอภิสิทธิ์
อู้อี้แค่ขวางรื้อม.309 ประธานวุฒิฯ ชี้รณรงค์ไม่ออกเสียงเป็นสิ่งไม่สมควร อุกฤษหนุนแก้รัฐ
ธรรมนูญทั้งฉบับ ปูพอใจบินถกพม่า เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายคืบหน้า

'หนุ่มกะลา'สลดพี่ถูกฆ่าเผาตร.จับแล้วโจ๋19รับสังหารสาวซี5
รวบแล้วโจ๋ 19 ฆ่าเผาสาว ซี 5 กรมที่ดินทิ้งศพหมกคอนโดฯ บางเขน เผยเป็นหนุ่มคู่
ขาคนสนิทถูกจับขณะหนีไปกบดานบ้านญาติย่านเทียนทะเล ให้การรับสารภาพ ทำไปเพราะความ
หึงหวง กลัวผู้ตายไปคบหาผู้ชายอื่น วันเกิดเหตุมีปากเสียงกัน เลยบีบคอจนตายคามือ แล้วนั่งเฝ้า
ศพทั้งคืน ก่อนพยายามกินยาเบื่อหนูตายตาม แต่ทนทรมานไม่ไหว สุดท้ายเลยเปลี่ยนใจลากศพ
เข้าห้องน้ำจุดไฟเผาอำพรางแล้วหลบหนีไปจนมุม เผยผู้ตายเป็นพี่สาว 'หนุ่มกะลา' นักร้องแกรม
มี่

พณ.แก้ผักล้นตลาดจับมือ'ห้างดัง'รับซื้อชาวสวน
พณ.ลุยแก้ปัญหาผักล้นตลาด จับมือห้าง 'เทสโก้ โลตัส' ลงนามเอ็มโอยู รับซื้อผัก-ผล
ไม้ที่มีคุณภาพ จากชาวสวน ส่งขายห้างโลตัสทั่วประเทศ เพิ่มจากปีก่อนถึง 1.2 แสนตัน แถม
เตรียมผลักดันส่งออกขายทั่วยุโรปกลาง-เอเชีย มูลค่า 1.5 หมื่นล้าน เน้นเฉพาะผัก-ผลไม้ อาหาร
แปรรูป สินค้าโอท็อป หวังแก้วิกฤตสินค้าเกษตรล้นตลาด ด้าน รมช.พาณิชย์ 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' เผย
เป็นการแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาดระยะยาวเปิดทางเลือกให้ผู้บริโภค ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีราย
ได้เพิ่ม

ชุมพลหัวใจตีบวูบคาทำเนียบ!
'ชุมพล ศิลปอาชา' โรคหัว ใจกำเริบ วูบหมดสติคาโต๊ะทำงานรัฐมนตรีในทำเนียบ ลูก
น้องตกตะลึงรีบช่วยกันหามส่งโรงพยาบาล หมอตรวจพบเส้นเลือดเลี้ยงสมองกับหัวใจอุดตันถึง 2
เส้น ต้องทำ 'บอลลูน' ด่วนทันที 'บิ๊กเติ้ง-บรรหาร' เผย 3 ปีก่อนน้องชายก็เคยมีอาการแบบนี้ บอก
ให้รีบผ่าตัดทำบายพาส แต่เจ้าตัวกลัวเลย ไม่ยอมทำ ย้ำพักฟื้นราว 1 เดือนก็หาย กลับมาทำงาน
การเมืองได้ตามปกติ

ศอ.บต.สั่งสอบยิงครู-ร้านน้ำชานราฯยังดุรัวฆ่าขรก.ตาย-เจ็บ7
'ทวี' เซ็นตั้งกก.สอบสวนคดีฆ่าครูใน 3 จ.ใต้ มีอดีตผอ.ศอ.บต.เป็นประธาน ส่วนเหตุ
กราดยิงร้านน้ำชา นราธิวาส ให้ปธ.กก.อิสลามนราธิวาส เป็นประธานตรวจสอบ รองเลขาฯศอ.บต.
เผยคดียิงร้านน้ำชาติดปัญหาพยานไม่ยอมให้ความร่วมมือ โรงเรียนในพื้นที่เปิดเรียนแล้วเกือบ
ทั้งหมด แม่ทัพ 4 พร้อมถอนกำลังทหารออกจากบางพื้นที่ซึ่งไม่มีเหตุร้าย ตามที่นายกฯ ต้องการ
แต่ยังต้องคงกำลังบางส่วนไว้ เพื่อเป็นกองหนุนให้ตำรวจและอส. คนร้ายยิงถล่มรถสองแถวรับ-ส่ง
ข้าราชการที่เจาะไอร้อง 2 สาวเกษตรอำเภอสุไหงปาดีดับ 2 ข้าราชการเจ็บอีก 5

สรุปข่าวหน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด

พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าโต9%มุ่งเจาะตลาดเอเชีย-ตั้งศูนย์เกาะติดปัจจัยเสี่ยง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ (พณ.)เปิดเผยถึงเป้าหมายการส่งออกในปี
2556 ว่ากระทรวงพาณิชย์คาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 8-9% หรือคิดเป็นมูลค่า 250,410 ล้าน
เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากปี 2555 ที่คาดว่ามูลค่าการส่งออกทั้งปีจะอยู่ที่ 231,861 ล้าน
เหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 5% โดยภาพรวมการเติบโตของการส่งออกในปีหน้า คาดว่าจะมาจาก
การส่งออกของรายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง ได้แก่ ยานยนต์และส่วน
ประกอบคาดว่าจะขยายตัว 15% เครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัว 5% ผลิตภัณฑ์ยางขยายตัว 5% วัสดุก่อ
สร้างขยายตัว 10% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปขยายตัว 10% และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป
คาดว่าจะขยายตัว 12% เป็นต้น

ส.อ.ท.มั่นใจปีหน้าจีดีพีโต5%
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย
ภายหลังเปิดสัมมนา 11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม :วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 รองรับเออีซี ว่าเอกชนมั่นใจว่าในปี 2556 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้
ไม่ต่ำกว่า 5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจภายในประเทศ
ทั้งด้านการลงทุนและการบริโภคยังแข็งแกร่ง รวมถึงแนวโน้มการลงทุนจากต่างชาติที่จะไหลเข้า
ไทยเพิ่มขึ้น เพราะต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ขณะที่รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าโครง
สร้างพื้นฐาน

เวิลด์แบงก์จี้รื้อโครงสร้างแรงงานยกชั้นชาวนา-ชาวไร่เป็นอุตฯเกษตร-บริการ
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) สำนักงาน
ประเทศไทย เปิดเผยในการสัมมนาหัวข้อ 'ทิศทางเกษตรไทยในยุค 4Gs' จัดโดยสำนักงาน
เศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ว่า การแข่งขันในโลกเริ่มทวีความรุนแรง ประเทศไทยควรใช้
โอกาสจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยการรวมกลุ่มทางการค้า
ให้มาก เปิดกว้างในธุรกิจการค้าภาคบริการ และขยายการลงทุนด้านการเกษตรไปในต่าง
ประเทศ โดยต้องปรับโครงสร้างประชากรด้านการเกษตร ที่ขณะนี้มีสัดส่วน 40% ของวัยทำงาน
ของประเทศ ให้ลดลงโดยการพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมการบริการ
เพราะหากยังปล่อยให้สัดส่วนแรงงานด้านการเกษตรสูงถึง 40% จะทำให้การเติบโตของ
เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลงและสู้คู่แข่งไม่ได้

ชาวบ้านจี้รัฐแก้สินค้าแพงเป็นของขวัญปีใหม่
รายงานข่าวจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยผลสำรวจความต้องการของ
ประชาชนทั่วประเทศ จากสมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกสาขาอาชีพ ครัวเรือนละ 1
ราย รวมทั้งจำนวนตัวอย่างประชาชนทั้งสิ้น 23,120 ราย พบว่าในปี 2556 ประชาชนส่วนใหญ่
กว่า 41% ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาของแพงมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว
รองลงมาคือ แก้ปัญหาหนี้สิน 24% แก้ปัญหายาเสพติด 23% แก้ปัญหาการจราจรติดขัด 18%
และแก้ปัญหาความยากจน 18%

รับจำนำข้าวแผลงฤทธิ์คาดฉุดราคาร่วง
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) สำนักงาน
ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2556 เวิลด์แบงก์คาดการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง
โดยราคาข้าวไทยจะลดลงเหลือ 520 เหรียญสหรัฐ/ตัน หรือลดลงประมาณ 5.5% จากปีนี้ที่ราคา
ข้าวไทยอยู่ที่ 550 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพราะมองว่าปีหน้ารัฐบาลไทยต้องระบายข้าวในสต๊อกที่รับ
จำนำไว้จำนวนมากออก และเมื่อสมทบกับผลผลิตข้าวในรอบใหม่ จะทำให้ปริมาณข้าวไทยออกสู่
ตลาดในเวลาใกล้กันและในปริมาณมาก ฉุดราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวลดลงตาม

อานิสงส์รถคันแรกรัฐโกยภาษีประกันเป๋าตุง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ เปิดเผยว่า
ได้สั่งให้กรมสรรพากรดูเรื่องการเก็บภาษีกับผู้ประกอบการรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการชิ้นส่วน
รถยนต์ทั้งหมด และบริษัทประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่าง
มาก จากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ยอดใช้สิทธิจะถึง 1 ล้านคัน จากที่ประเมินไว้จะมีผู้
ใช้สิทธิ 8 แสนคันเท่านั้น

จ่อให้เงินชราภาพต่างด้าว
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวปราศรัยเรื่อง Labour Migration
Critical Issue For Thailand ในงานประชุมนานาชาติ ภายใต้หัวข้อ การเคลื่อนย้าย : ความจำ
เป็นในการอพยพย้ายถิ่น ในภูมิภาคอาเซียน ว่า ตนเห็นด้วยกับแนวคิดที่จะให้มีการจัดตั้งกองทุน
ประกันสังคมอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อแรงงานที่จะเคลื่อนย้ายให้เข้าถึงการดูแลและคุ้มครองอย่าง
เท่าเทียม ส่วนสาเหตุที่ไม่มีการขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ หลังครบ
กำหนดในวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการขยายเวลามาแล้วกว่า 6 ครั้ง แต่ไม่สามารถแก้
ปัญหาการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายได้ ดังนั้นจากนี้ไปแรงงานที่เข้ามาจะต้องผ่าน
ระบบการนำเข้าแบบรัฐต่อรัฐ


ที่มา
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม


ที่มา
18/12/2555

[ปรัชญา]

สรุปข่าววันที่ 18-19 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.



เกิดเหตุอุกอาจกลางดึก คนร้ายดักฟันหัว "ราเมศ รัตนะเชวง" รองโฆษกพรรค ปชป. ร่วงคาคอนโด เร่งส่ง รพ.บางนา 1 ขณะที่คนในพรรค เผยเจ้าตัวรู้ล่วงหน้าถูกสะกดรอย สำหรับอาการล่าสุด พ้นขีดอันตรายแล้ว และย้าย ร.พ. เพื่อความปลอดภัย ระบุ 10 โมงของวันที่ 18 ธ.ค.55 จะมีการแถลงข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ พรรคประชาธิปัตย์…

http://www.thairath.co.th/content/region/313996



โดย ไทยรัฐออนไลน์
18 ธันวาคม 2555, 06:15 น.

[ปรัชญา]

ประเด็นร้อน18ธ.ค.

เรื่องฮอตวันนี้ต้องติดตามคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีความเห็นการแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร ด้านเศรษฐกิจ ต้องติดตามการประชุมแก้ปัญหาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ว่ารัฐบาลจะหาทางบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการวิธีใด


1.การเมืองยังต้องจับตากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 หลังจากนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ได้เสนอเรื่องดังกล่าวผ่านนายอำพนกิตติอำพน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้บรรจุเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในการจัดทำประชามติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องให้ต้องลุ้นว่าที่ประชุม ครม.จะมีความเห็นและทิศทางต่อเรื่องนี้อย่างไรเพราะอีกด้านหนึ่งอาจกลายเป็นชนวนเพิ่มอุณหภูมิความรุนแรงทางการเมืองให้ร้อนรุ่มเข้าไปอีก

2.เพื่อสร้างความเข้าใจหลังเกิดกระแสข่าว "วันสิ้นโลก" และคำทำนายการล่มสลายของโลก รวมทั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาคาดการณ์ว่าจะเกิดหายนะขึ้นโดยไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลทางวิชาการอ้างอิงข้ออ้างเหล่านั้น คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เชิญนักวิชาการจากหลายหน่วยงาน เพื่อให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งที่เข้าร่วมงานในเวทีเสวนาทางวิชาการเรื่อง"โลกแตก 2012 ในเชิงวิชาการ...จริงหรือหลอก?" ในวันนี้เวลา 13.00 น.ที่ห้อง 308 อาคารมหามกุฏ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเวทีดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลในทุกแง่มุมที่มีการผูกโยงเข้าสู่ประเด็นโลกแตกที่สังคมเป็นกังวล อาทิ การอ้างอิงเรื่องดาราศาสตร์ ดาวเรียงตัว พายุสุริยะ การเกิดแผ่นดินไหว วิทยาศาสตร์ลวงโลก(Pseudo Science) เป็นต้น

3.จับตาการประชุมคณะกรรมการบริหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในวันนี้ โดยนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. ประกาศนัดหมายประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. ทั้ง 70 คน เพื่อหารือถึงความคืบหน้าของมาตรการบรรเทาและเยียวยาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท การสรุปสถานการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ส.อ.ท. รวมทั้งการขอผ่อนผันขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานต่างด้าว ต่อด้วยช่วงบ่ายจะมีการหารือเรื่องมาตรการรับมือผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 นี้ ร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง

4.กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีมอบเกียรติบัตรโครงการพัฒนาสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียวประจำปี 2555 ในงานสัมมนา "ก้าวต่อไป...อุตสาหกรรมสีเขียวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้มีการประกอบการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมสามารถอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน พร้อมสรุปผลการดำเนินงานโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ประจำปี 2555 และการบรรยายเรื่อง"เศรษฐกิจสีเขียว" โดยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

5.วันนี้เวลา 10.00 น. สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จัดแถลงข่าวผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ (SAA Survey) เรื่องแนวโน้มการลงทุน2556 ห้องประชุม 1104 ชั้น 11 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์

6.สัมมนาแนวทางการใช้ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เวลา13.30-17.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น2 กรมสรรพากร โดยนายสาธิต รังคสิริอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.เพรามาตรหันตรา ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกรมสรรพากรนายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต.


18 ธันวาคม 2555 เวลา 06:26 น.

[ปรัชญา]

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

18 ธ.ค.--ข่าวหุ้น
Distributor - Bisnews AFE

KBANK แชมป์กำไรเทียบสัดส่วนสินเชื่อแบงก์ใหญ่โชว์คุณภาพสินเชื่อเหนือแบงก์เล็ก
เปิดโผ 10 อันดับแบงก์ ที่มีอัตรากำไรต่อสินเชื่อ 9 เดือนแรกสูงสุด ระบุกสิกรไทยดีที่สุด รองลงมา
ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ และกรุงไทย เทียบกับแบงก์ขนาดกลางและเล็กที่สินเชื่อโตไว แต่คุณภาพสินเชื่อสู้
แบงก์ใหญ่ไม่ได้ ด้านทหารไทย และธนชาตแย่ ขณะที่ KK BAY TISCO CIMBT ปานกลาง

ผู้บริหารPTTEPใช้สิทธิเพิ่มทุนเพียบ1.7แสนหุ้น
11 ผู้บริหาร PTTEP ตบเท้าใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพียบ 176,578 หุ้น มูลค่ารวม 25 ล้านบาท ขณะที่
"สมเกียรติ จันทร์มหา" ซื้อสูงสุดอันดับหนึ่ง 69,000 หุ้น ใช้เงินเฉียด 10 ล้านบาท อันดับสอง "สมพร
ว่องวุฒิพรชัย" ทุ่มเงิน 4 ล้านบาท

CKนิวไฮรอบ7ปีงานจ่อเซ็นเพียบปีหน้าเติบโต20%
"ช.การช่าง" ราคาหุ้นพุ่งทำนิวไฮในรอบ 7 ปี แตะระดับ 13.10 บาท ผู้บริหารย้ำเป้ารายได้ปี 56
โต 20% จากปีนี้คาดทำได้ 1.8-2 หมื่นล้านบาท ตุนแบ็กล็อกล้นมือ 1.63 แสนล้านบาท แถมมีงานรอเซ็น
เพียบ โบรกฯ แนะซื้อเป้าใหม่ 14.80 บาท

KBS หุ้นแอบซ่อนมูลค่ามิตซุยซื้อของดีราคาถูก
"น้ำตาลครบุรี" แปลงลูกค้าเป็นผู้ถือหุ้น ออกหุ้นเพิ่มทุนและวอร์แรนต์เสนอขายแบบ PP ให้พันธมิตร
ญี่ปุ่น "กลุ่มบริษัทมิตซุย" ราคาขายหุ้นละ 10.25 บาท ถูกกว่าราคากระดาน แถมพีอีต่ำแค่ 5 เท่า หวัง
ช่วยขยายตลาดในแถบอาเซียน

ทวายระดมทุนเม.ย.นี้ตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ
หุ้นอิตาเลียนไทยคึกปรับตัวสูงสุดในรอบ 15 เดือน รับนายกฯ ไปพม่า หารือเดินหน้าโครงการพัฒนา
ท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย มั่นใจระดมทุนและก่อสร้างภายในเดือนเม.ย.นี้ ตั้งเป็นนิติบุคคล
เฉพาะกิจ หรือ SPV ขึ้นมา ระหว่างรัฐบาลไทย และ DDC รวมทั้งญี่ปุ่น

GUNKUL ปี55โตทะลัก กรอสมาร์จิ้นทะลุ23%
"กันกุล" ปลื้มธุรกิจขาขึ้น ชี้ปี 2555 รายได้ทะลัก 4.3 พันล้านบาท กรอสมาร์จิ้นทะลุ 23% มั่นใจ
ปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง ได้ธุรกิจพลังงานทดแทนช่วยเสริมกำไรแกร่ง พร้อมตั้งงบลงทุนอีก 4 พันล้านบาท
เพื่อขยายกิจการพลังงานเพิ่มเติม

SPCG ลั่นรายได้ปีหน้าโตเท่าตัว ไตรมาส 2/56 ลุยขายกองทุนอินฟรา 5 พันล้าน
"เอสพีซีจี" มั่นใจรายได้ปีหน้าโตเท่าตัวจากปีนี้การันตีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท เหตุรับรู้
รายได้ขายไฟเพิ่มขึ้น ส่วนจัดตั้งกองทุนอินฟราสตัคเจอร์มูลค่า 5,000 ล้านบาท ยันยื่นไฟลิ่งไตรมาส 1/56
และน่าจะขายได้ช่วงไตรมาส 2/56

STAเพิ่มทุน2บริษัทย่อย ในไทย-สิงคโปร์ รองรับการขยายกำลังการผลิต
STA ไฟเขียวเพิ่มทุน 2 บริษัทย่อยในไทยและสิงคโปร์ รองรับการขยายกำลังการผลิตได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม พร้อมเพิ่มบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรม
ยางในระดับโลก

SIRIวางเป้ายอดขายปีหน้า5หมื่นล้านบาทขยายต่างจังหวัดเพิ่ม
"แสนสิริ" ตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 5 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดจะมียอดขาย 4.2 หมื่นล้านบาท ขณะ
ที่ยังคงเน้นการเปิดโครงการใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าเติบโตไม่ถึง 10%

PTTสั่งลุยท่อน้ำมันเหนือ-อีสานเมินแทปไลน์ตั้งบริษัทลงทุนเอง
ปตท.พร้อมตั้งบริษัทใหม่ เพื่อลงทุนและดำเนินการโครงการท่อส่งน้ำมันภาคอีสาน-ภาคเหนือ แทน
แทปไลน์ หากแผนซื้อหุ้นคืน-เทกโอเวอร์ไม่ประสบผลสำเร็จ

CWTเปิดประชุมวิสามัญวันนี้ จับตาโหวตออกวอร์แรนต์ รายได้ปีนี้ทะลุ 1.2 พันล้าน
"ชัยวัฒนาฯ" ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ จับตาผลโหวตออกวอร์แรนต์ 82 ล้านหน่วยให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
ฟากผู้บริหารย้ำเพื่อตอบแทนนักลงทุนที่เชื่อมั่น รายได้ทั้งปี 2555 โตทะลุเป้าหมาย 1,200 ล้านบาท

ITD ยอมดั๊มพ์ราคาสีแดงสัญญา2 เหลือ 21,235 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญาม.ค.ปีหน้า
บอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบผลต่อรองราคาสายสีแดงสัญญา 2 บางซื่อ-รังสิต "ITD" ยอมลดเหลือ
21,235 ล้านบาท เตรียมส่ง JICA รับทราบผลประมูล ก่อนรายงาน ครม.เพื่อเซ็นสัญญาคาดไม่เกิน
ม.ค.56 ส่วนสัญญา 1 ลุ้นลงนามเดือนนี้

'บินไทย' โดนออสซี่ปรับ240ล้าน สรจักรยันไม่กระทบตั้งสำรองแล้ว
"สรจักร" ยันศาลออสเตรเลียตัดสิน THAI จ่ายค่าปรับคดีฮั้วค่าธรรมเนียมน้ำมัน 240 ล้านบาท
ทยอยชำระ 7 งวด ภายใน 3 ปี ไม่กระทบผลประกอบการ เพราะตั้งสำรองจ่ายไว้ล่วงหน้าสูงกว่าค่าปรับ
แต่ยังเหลือคดีที่ศาลนิวซีแลนด์ต้องลุ้นต่อโบรกฯมอง Q4 ปีนี้ THAI ฟื้นตัวแข็งแกร่ง ทั้งปีมีกำไรก่อนอัตรา
แลกเปลี่ยน 4.9 พันล้านบาท

เสี่ยเจริญจีบกองทุนซื้อหุ้นF&N ให้ราคาสูงกว่าปัจจุบัน 8.1% แต่ซื้อไม่สำเร็จ
ธนาคารที่ดำเนินการในนามของบริษัทลงทุนของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้พยายามที่จะเพิ่มหุ้นเอ
ฟแอนด์เอ็นอีก 10% จากผู้ถือหุ้นสถาบันในราคาหุ้นละ 9.60 ดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ไม่
เป็นผลสำเร็จ ราคานี้สูงกว่าราคาที่นายเจริญเสนอซื้อประมาณ 8.1% และสูงกว่าราคาที่กลุ่มคิวยูอีขอซื้อ
5.7%

นิกเกอิพุ่งสูงสุดรอบ8เดือนหลังแอลดีพีชนะถล่มทลาย
หุ้นญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน และเงินเยนอ่อนตัวหลังชินโซ อาเบะ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ในขณะที่หุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงดีดตัวขึ้นหลังจากทำผลงานอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

กกต.จับตาขวางประชามติ อาจถูกยุบพรรค - นักกฎหมายชี้ไม่มีความผิด
วานนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.
กล่าวถึงการตั้งคำถามในการทำประชามติของรัฐบาลว่า ควรนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างวาระ 3 อยู่ใน
รัฐสภามารณรงค์ให้ความรู้ เพื่อจะทำให้ประชาชนมีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจในการลงประมติซึ่งขณะนี้ กก
ต.เองได้เตรียมความพร้อมการทำประชามติแล้ว โดยขณะนี้จะมีการปรับปรุงระเบียบของ กกต.บางส่วน
คาดว่าจะสามารถจัดทำประชามติได้ทันในเดือนมีนาคม-เมษายน ปี พ.ศ. 2556 ทั้งนี้ หากผู้นำฝ่ายค้าน
ขัดขวางการทำประชามติอาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาได้

โบรกหนุนเก็บหุ้นBBL รับสินเชื่อรายใหญ่พุ่ง เป้าหมาย 213 บาท
นักวิเคราะห์คงมองหุ้นแบงก์กรุงเทพ หรือ BBL ยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการของสินเชื่อ
รายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น พร้อมยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 55 ไว้ 3.2 หมื่นล้านบาท ขณะราคาหุ้นปัจจุบันยังถูก

ตลท.ชวนไปงานมหกรรมลดภาษีโชว์1,300กองทุน
งาน "มหกรรมลดภาษีนาทีสุดท้ายด้วย LTF-RMF" เริ่ม 20-23 ธ.ค.นี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ รวมเอา
LTF-RMF 150 กองทุนและกองทุนรวมประเภทอื่นรวมกว่า 1,300 กองทุนมาให้เลือกลงทุน พร้อมรับคำ
ปรึกษาการลงทุนจาก 18 บลจ.ชั้นนำในงานเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

บลจ.กรุงศรีส่งกองบอนด์อายุ6เดือน-รีเทิร์น2.95%
บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี ตราสารหนี้ 6M49 (KFFIX6M49) อายุประมาณ 6 เดือน
เสนอขายระหว่างวันที่ 18-24 ธ.ค. 55 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี

งานสมาร์ทมันนี่ปิดธุรกรรมสวยทะลุ2.5หมื่นลบ.
สถาบันการเงินการลงทุน/โบรกเกอร์/ประกันยิ้มปลื้ม ผลงาน Thailand Smart Money ครั้งที่ 3
ปิดงานยอดธุรกรรมทางการเงินการลงทุนเกินเป้าทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท

แบงก์ผ่านเกณฑ์บาเซิล3 Tier1 เกิน 6% ถ้วนหน้า ยันไม่ต้องเพิ่มทุน
โบรกฯ เผยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยสุดแกร่ง เงินกองทุนล้นตุ่ม ผ่านเกณฑ์ Basel 3 ทุกแห่ง
พร้อมให้น้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด

ธปท.จับตาการเงินญี่ปุ่นคาดปรับเงินเยนอ่อนค่า
นางจันทวรรณ สุจิรตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิด
เผยว่า ธปท.คงต้องติดตามดูการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อย่างใกล้ชิด
หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ชนะการเลือกตั้งและกลับมาจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะ
ก่อนหน้านี้ นายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคแอลดีพี ประกาศนโยบายไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า จะดำเนิน
นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้น และผลักดันให้เงินเยนอ่อนค่า

[ปรัชญา]

ททท.ผนึกเอกชนท่องเที่ยวราชประสงค์ ลงขันจัดเคาต์ดาวน์คาด 4 วันนักท่องเที่ยวต่างชาติคนไทยเดินทางเพิ่ม 7% กว่า 9 แสนคน รายได้เฉียด 6,000 ล้านบาท


นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ใช้งบประมาณ จำนวน 5 ล้านบาท สนับสนุนการจัดงานนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ (เคาต์ดาวน์) ใน 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านราชประสงค์ เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ ภูเก็ต 2 พื้นที่ บริเวณหาดกระรน และสนามชัย ขอนแก่น และเชียงราย เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวไทย ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.-1 ม.ค.ปีหน้า รวมถึงตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ประเทศไทยน่าเดินทางท่องเที่ยว

ทั้งนี้จากการจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยพาะพื้นที่บริเวณย่านราชประสงค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยถูกจัดอันดับความนิยมการเป็นสถานที่การจัดงานเคาต์ดาวน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 8 ของโลก และอันดับที่ 1 ในภูมิภาคเอเชีย วัดได้จากการเดินทางท่องเที่ยวดังกล่าว นักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดกิจกรรมจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางพื้นทีที่ททท.ให้การสนับสนุน ประมาณ 8-9 แสนคน รายได้สะพัด 5,700 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพ 3,500 ล้านบาท

“ปัจจุบันการจัดอันดับสถานที่เคาต์ดาวน์ยอดฮิตของดลก เริ่มถูกพูดถึงลดน้อยลง หากประเทศไทยจัดงานอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าความนิยมจะอยู่ในอันดับต้นๆ ซึ่งช่วยโฆษณาประประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี” นางวิไลวรรณ กล่าว

ด้านนายชาย ศรีวิกรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่ย่านราชประสงค์ รวมถึงพันธมิตรใหม่ๆ อย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ได้ใช้งบประมาณการจัดงาน 150 ล้านบาท สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์การจัดงาน รวมถึงการจัดงานแบงคอค เคาต์ดาวน์ 2013 แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางลงพื้นที่ 5 แสนคน จะเป็นภาพที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั่วโลก ทั้งกลุ่มนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ภาพรวมการลงทุนบริเวณพื้นที่ย่านราชประสงค์อีกหลายโครงการ ถือเป็นปัจจัยบวกสะท้อนภาพความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงาน ผู้ประกอบการทุกตึกได้ประสานความร่วมมือกันผ่านศูนย์กลางคอลเซ็นต์เตอร์ โดยก่อนวันงาน 1 วัน จะเข้าเครียร์พื้นที่บริเวณลานจอดรถ การร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจตราบริเวณถังขยะ ท่อระบายน้ำ ตู้โทรศัพท์ พร้อมปิดผนึก เพื่อป้องกันความปลอดภัยจากสิ่งผิดปกติ รวมถึงการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

“นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นได้ว่าการเดินทางมาเค้าท์ดาวน์ที่ราชประสงค์ จะมีความปลอดภัยสูงสุด เพราะผู้ประกอบการได้เก็บประสบการณ์จุดอ่อน จุดแข็ง ปัญหาที่เกิดขึ้น ปรับปรุงแนวทางรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรการที่ดีเพิ่มขึ้นทุกปี”นายชาย กล่าว

[ปรัชญา]

สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

18 ธ.ค.--ไทยรัฐ
Distributor -- Bisnews AFE
ระบุโดนกระสุนจนท.ศาลไต่สวนคดีนปช. ชุมพลช็อกหมดสติหามเข้าโรงพยาบาล
ประธาน กกต.ยืนยันพร้อมจัดทำประชามติแนะรัฐบาลกำหนดประเด็นคำถามให้ชัดเจน "สดศรี" ชี้กรณี
"มาร์ค" รณรงค์คว่ำประชามติเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียง
ประชามติ สอนถ้าคัดค้านการแก้ไข รธน.ให้กาช่องไม่เห็นด้วย ด้าน "อภิสิทธิ์" อ้างแค่เชิญชวนประชาชน
แสดงพลังให้รัฐบาลเห็นว่าไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญตอกย้ำรัฐบาลต้องการแก้ ม.309 เพื่อล้มคดีช่วย
"ทักษิณ" พท.ได้ทีขย่มหาช่องยื่นร้องยุบ ปชป. "ยิ่งลักษณ์" ปัดลุยแก้ รธน.เพื่อช่วยพี่ชาย โอดตอนนี้หัวข้อ
คำถามประชามติยังไม่ได้กำหนดเลยศาลอ่านคำสั่งคดีชันสูตรพลิกศพแนวร่วมเสื้อแดงศพที่ 3 ตายด้วยกระสุน
ปืนจากฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่ระบุใครเป็นผู้ลงมือ "ชุมพล" ช็อกหมดสติคาทำเนียบรัฐบาล ต้องรีบหามส่ง
โรงพยาบาล แพทย์ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต พร้อมทำบอลลูนขยายหลอดเลือด

โจรฉกไอโฟนก่อคดีนับร้อยหวิดโดนรุมยำ
รวบหนุ่มฉกมือถือก่อคดีกว่า 100 ราย ขี่รถ จยย.เข้าประกบเหยื่อทำทีเข้าไปพูดคุยตีสนิทแล้วขอยืม
โทรศัพท์เน้นเป้าหมายผู้ชายเพราะไม่ระแวงแล้วเชิดบิดรถ จยย.หนีเอาไปขายต่อได้ราคาดี นำเงินไปเล่น
พนันบอลและเล่นเกมออนไลน์ ผู้เสียหายแค้นเปิดหน้าเพจเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ตามล่าตัว ต่อมารู้ข่าวถูก
ตำรวจจับแห่รุมชี้ตัวที่ สน.เกือบถูกประชาทัณฑ์

รวบหนุ่ม19ได้ในร้านเกมมือฆ่า-เผาสาวซี5 รู้จักกันทาง 'เฟซบุ๊ก' อยู่ร่วมห้องได้ปีเศษอ้างกลัวผู้ตายปันใจ
บีบคอ-เฝ้าศพทั้งวัน
ตำรวจตามลากคอหนุ่มวัย 19 ปี ฆ่าเผาสาวใหญ่พนักงานที่ดิน 5 หมกคอนโดถนอมมิตรพาร์คแล้ว
สารภาพอ้างรู้จักฝ่ายหญิงทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ก กระทั่งกลายเป็นนิยายรักต่างวัยพอระยะหลังทนความเจ้าชู้
ของผู้ตายไม่ไหว เกิดปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง ยันวันสุดท้ายเห็นเหยื่อเมากลับจากงานเลี้ยงนอนหลับ
เลยบีบคอตาย ส่วนตัวเองนั่งสำนึกผิดอยู่ข้างศพตลอดวัน หวังเอายาเบื่อหนูผสมบะหมี่สำเร็จรูปปลิดชีพตาม
ดันใจไม่ถึง หันมาเปลี่ยนแผนเผาอำพรางคดี

ส.ส.จี้โอบามาควบคุมอาวุธ! สกัดฆ่าหมู่รวบอีกรายมีปืนเพียบข่มขู่ก่อคดี
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา บุกปลอบขวัญครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงใน
โรงเรียนประถม ที่รัฐคอนเนกติกัตย้ำคำมั่นจะรับผิดชอบต่อครอบครัวของผู้สูญเสียและหาทางป้องกันเหตุไม่
ให้เกิดซ้ำซาก นักการเมืองพรรคเดโมแครตเรียกร้องโอบามา ดำเนินการห้ามซื้อขายอาวุธปืนร้ายแรง
และหาวิธีป้องกันอันตรายจากพวกโรคจิตชอบฆ่าหมู่

ทหารคุมเข้มเปิดโรงเรียน 3 จว.ใต้วันแรกแต่ 'บ้านบาโง' ปิดอีกสัปดาห์
โรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติแล้วท่ามกลางกำลัง 3 ฝ่าย
ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ระดมกำลังดูแลความปลอดภัยเต็มพิกัด ขณะที่โรงเรียนบ้านบาโง จ.ปัตตานี
เป็นโรงเรียนต้นสังกัดที่ ผอ.โรงเรียนถูกยิงตายอนาถพร้อมครูผู้ช่วย ยังปิดเรียนอีกสัปดาห์ เพราะเพื่อนครู
และนักเรียนยังสุดที่จะทำใจกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

บินเล็กขัดข้องร่อนลงท้องนาพลิกหงายท้อง2ฝรั่ง-หวิดดับ!
2 นักธุรกิจชาวอังกฤษขับเครื่องบินเล็กแบบ 2 เครื่องยนต์ขึ้นจากสนามบินจังหวัดระนองมุ่งหน้ากลับ
สนามบินดอนเมืองเครื่องยนต์เกิดขัดข้องกลางอากาศตัดสินใจร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางทุ่งนา อ.สามโคก
จ.ปทุมธานี แต่เสียหลักพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่โชคดีที่เครื่องบินไม่ระเบิดทำให้รอดตาย
ราวปาฏิหาริย์

'ศาลอุทธรณ์' จำคุกขวัญชัย แกนแดง 2 ปี 8 เดือนคดีทำร้ายพันธมิตร
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดรฯ เป็นเวลา
2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และปรับ 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จากเหตุการณ์ระดมพลคนเสื้อ
แดงลุยเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เมื่อปี
2551 หลังฟังคำพิพากษาขวัญชัยยื่นประกันตัว เตรียมให้ทนายความยื่นฎีกาสู้คดีต่อ เผยความรู้สึกหากศาล
ฎีกาพิพากษายืนอีก ต้องยอมรับสภาพความจริงที่จะเข้าสู่ประตูคุกเตรียมหาคนเป็นตัวแทนสานงานต่อ

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

แนะไทยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ แฉการใช้แรงงานกับมูลค่าผลผลิตที่ได้บิดเบี้ยว
ธนาคารโลกแนะไทยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายใน 15-20 ปี หากยังต้องการให้เศรษฐกิจโตต่อได้
โดยพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หรือย้ายแรงงานออกจากภาคเกษตรไปภาคอื่น เพราะใช้แรงงานมาก
แต่สร้างมูลค่าเศรษฐกิจเพียง 8% ของจีดีพี ชี้คนจนลดลงแต่ช่องว่างรายได้คนรวยคนจนยังห่างชั้น เหตุรัฐ
ใช้งบฯ ไม่เป็นธรรม กระจุกตัวในกรุงเทพฯ มากสุด แต่เจียดลงอีสาน-เหนือน้อยนิด

ลุยไฟดันเป้าส่งออกปีหน้าทะยาน 9%
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้กำหนดเป้าหมายมูลค่าการส่ง
ออกสินค้าไทยปี 56 ขยายตัว 8-9% มูลค่า 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 55 ที่คาดขยายตัว 4.17%
มูลค่า 231,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป้าหมายปีหน้าเป็นการรวบรวมข้อมูลจากการประเมินเศรษฐกิจประเทศ
คู่ค้า โดยกรมฯ ทูตพาณิชย์ที่ประจำประเทศต่างๆ ทั่วโลกและภาคเอกชน โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือภาวะ
เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียยังคงขยายตัวเป็นบวกผู้ประกอบการไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และ
ผลดีจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตาม จะมีการทบทวน
เป้าหมายใหม่อีกครั้งในเดือน พ.ค.56 เพื่อพิจารณาว่าการผลักดันการส่งออกมีประสิทธิภาพหรือไม่ และ
ควรปรับเพิ่มหรือลดอย่างไร

ดีเดย์ก่อสร้างเม.ย.56 ไทย-เมียนมาร์จับมือหนุนท่าเรือทวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทาง
ไปเยือนสหภาพเมียนมาร์ เพื่อเยี่ยมชมโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายโดยได้
หารือกับประธานาธิบดี เต็ง เส่ง แห่งเมียนมาร์ด้วย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้ำว่าไทยตั้งใจและพร้อมสนับ
สนุนเมียนมาร์เต็มที่ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย สำหรับคณะกรรมการประสาน
งานร่วมไทย-เมียนมาร์ (เจซีซี) มีความคืบหน้าในการทำงานร่วมกัน แต่ต้องหาข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งการ
ทบทวนข้อมูลเชิงเทคนิค รูปแบบทางการเงินเพื่อระดมทุน การออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่
คาดคณะอนุกรรมการร่วมเมียนมาร์-ไทย 6 สาขา จะจัดทำรายละเอียดทั้งหมดเสร็จภายในเดือน ก.พ.56
เพื่อเสนอให้คณะกรรมการร่วมระดับสูง (เจเอชซี) พิจารณาเพื่อลงนามในข้อตกลงระหว่างกันเป็นราย
สาขาภายในเดือนมี.ค.56และคาดจะเริ่มระดมทุนและก่อสร้างภายในเดือน เม.ย.56 ตามที่กำหนด

ของขวัญปีใหม่!คนไทยขอรัฐแก้ของแพง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจความต้องการของประชาชนทั่ว
ประเทศทุกสาขาอาชีพ 23,120 ราย วันที่ 1-12 ต.ค.55 พบว่า ในปี 56 ประชาชน 41% ต้องการให้
รัฐบาลแก้ปัญหาของแพงมากที่สุด รองลงมา 24% แก้ปัญหาหนี้สิน อีก 23% แก้ปัญหายาเสพติด ส่วน 18%
แก้ปัญหาจราจร และอีก 18% แก้ปัญหาความยากจนส่วนเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเพื่อเป็น
ของขวัญปีใหม่ 5 อันดับแรก ได้แก่ แก้ปัญหายาเสพติด น้ำท่วม หนี้สิน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและ
ทรัพย์สินและแก้ปัญหาจราจร ขณะที่ความเดือดร้อนที่ชุมชนได้รับในปี 55 ผู้ตอบ 34% ระบุยาเสพติด รองลง
มา 26% น้ำท่วม และ 25% ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ส่ง ป.ป.ช.ฟันทุจริตข้าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ จะนำข้อมูลการทุจริตซื้อขายข้าว
ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
หลังจากที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตจริง โดยเฉพาะการขายวิธีพิเศษที่กำหนดให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อมา
ขอซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาล และยังขายข้าวให้เอกชนในราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก "การขายข้าวตอนนั้น รัฐ
ได้เงินคืนเพียง 53,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ควรจะได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่นล้านบาท อยากถามว่าเงินหมื่นกว่า
ล้านบาทหายไปไหนเข้ากระเป๋าใครเดี๋ยวจะเอาข้อมูลไปยื่นให้ ป.ป.ช.รับรองคนขายข้าวสมัยนั้นเจอดีแน่ๆ"

จัดระเบียบต่างด้าวทำเอสเอ็มอีป่วน
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า
ส.อ.ท.ได้ทำหนังสือด่วนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้กระทรวงแรงงานผ่อนผัน
ขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานต่างด้าว จากที่กระทรวงแรงงานกำหนดสิ้นสุดลงไปเมื่อ 14 ธ.ค.
ที่ผ่านมา โดยอาจออกเป็นวีซ่าชั่วคราว หรืออื่นๆ เนื่องจากภาคธุรกิจโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ประสบกับภาวะขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเข้า
มาดำเนินธุรกิจ อีกทั้งขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวรอพิสูจน์สัญชาติอยู่อีก 400,000 ราย ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้อง
การแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายและหากมีการพิสูจน์สัญชาติก็พร้อมที่จะจ่ายค่าแรงตามกฎหมายของไทยอยู่
แล้ว

"ทรูวิชั่นส์" ฮึดเคเบิลทีวีเดือด จัดทัพรับขวัญลูกค้าหลังพรีเมียร์ลีกหลุดมือ
ทรูวิชั่นส์จับมือ 150 ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่น จัดทัพรายการทรูวิชั่นส์ลงฐานลูกค้าทั่วประเทศ
เผยกว้านซื้อลิขสิทธิ์รายการต่างประเทศเพิ่ม ตะลุยขยายช่องเอชดีหวังมัดใจลูกค้าหลังพรีเมียร์ลีกหลุดมือ
คาดเปิดตัวแพ็กเกจใหม่หลัง ก.พ.แบ่งรับแบ่งสู้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อจากซีทีเอช ระบุราคาเป็นปัจจัยสำคัญ

"พาวเวอร์มอลล์" ปรับแผนรบ
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัย ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า พาวเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป
จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายสาขาร้านพาวเวอร์มอลล์ ในรูปแบบสแตนด์อโลนในอนาคต เนื่องจาก
มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการห้างค้าปลีกในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ประมาณ 2-3 ราย
เข้ามาเจรจาขอให้บริษัทนำร้านพาวเวอร์มอลล์เข้าไปเปิดให้บริการแต่เนื่องจากร้านพาวเวอร์มอลล์อยู่ใน
ระดับพรีเมียมไม่ใช่ระดับกลาง จึงต้องหาห้างค้าปลีกที่มีความเหมาะสม อยู่ในระดับเดียวกัน และพื้นที่ที่ต้อง
การในเบื้องต้นต้องมีไม่ต่ำกว่า 2,000 ตร.ม.ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท

ตีปี๊บท่าเรือเชียงแสนปลุกการค้าอินโดจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมถึงความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 ว่า หลัง
จากกรมเจ้าท่าได้ทำการพัฒนาท่าเทียบเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 วงเงินกว่า 1,546 ล้านบาท และเปิด
ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 55 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการขนส่งระหว่างประเทศและพัฒนาให้เป็นศูนย์กลาง
หรือประตูการพัฒนาภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งรองรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่ง
เป็นโครงการความร่วมมือ 6 ประเทศ ล่าสุดกรมเจ้าท่าได้ส่งมอบท่าเรือดังกล่าวให้การท่าเรือแห่ง
ประเทศไทย (กทท.) แล้ว โดยได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

บินไทยทะยานไม่พ้นศาลออสซี่ถูกปรับคดีฮั้วค่าโดยสาร 200 ล้าน
นางสุวิมล บัวเลิศ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการบริษัทฯ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
หรือ THAI เปิดเผยกรณีที่บริษัทถูกตรวจสอบโดย Australian Competition and Consumer
Commission (ACCC) กรณีทำความตกลงกำหนดราคาร่วมกับสายการบินอื่นเรื่องค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง
ค่าธรรมเนียมความปลอดภัยและค่าภาษีเที่ยวบินจากอินโดนีเซียไปหลายประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย
ระหว่างปี 2544-2548 และ ACCC โดยได้ยื่นฟ้องบริษัทกระทำการละเมิดกฎหมาย Trade Practices
Act 1974 เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

"อีเกีย" จัดคริสต์มาสกระหึ่ม!
บริษัท อิคาโน่ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ภายใต้แบ
รนด์ "IKEA: อีเกีย" จากประเทศสวีเดน ได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้า โดยขอแบ่งปัน
ความสุขบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสให้ลูกค้า ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่อีเกียนำเข้าต้นสนสด จำนวน 1,400 ต้น
มาจำหน่ายให้ลูกค้าที่ต้องการสร้างสรรค์บรรยากาศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสให้เหมือนจริงและสัมผัสต้น
คริสต์มาสจริงๆ ซึ่งจะสร้างสีสันและกลิ่นอายที่อบอุ่น ซึ่งจะทำให้การฉลองเทศกาลคริสต์มาสปี 2555 นี้
ไม่จำเจอีกต่อไปและที่พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อต้นคริสต์มาสไปแล้ว สามารถนำมาคืนได้ที่อีเกีย บางนา ได้
ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2555-6 ม.ค.2556 พร้อมรับเงินคืนเต็มจำนวนเท่ากับราคาที่ซื้อ ในรูปแบบของบัตร
ของขวัญ ภายใต้คอนเซปต์ให้ยืมต้นคริสต์มาสเพื่อสร้างบรรยากาศความสุขในครอบครัวโดยราคาต้น
คริสต์มาสมีให้เลือก 2 ขนาด คือ สูง 1.6 เมตร ราคา 1,290 บาท และสูง 2 เมตร ราคา 1,999
บาท และหลังจากรับคืนต้นคริสต์มาสจากลูกค้าแล้ว ทางอีเกียจะนำไปจัดการด้วยวิธีการที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อมตามกระบวน และจะนำมาเป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป เพราะอีเกียตระหนัก และใส่ใจ
ในความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน

[ปรัชญา]

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

18 ธ.ค.--ทันหุ้น
Distributor - Bisnews AFE

GUNKUL เปิดแผนเด็ดปี 56 บุกพม่า-ลาวผุดโปรเจ็กต์ลม
GUNKUL เปิดแผนปี 2556 ลุยธุรกิจพลังงานทดแทนใน-นอกประเทศ หลังยึดพม่า-ลาว มากกว่า
100 เมกะวัตต์ ปั้นกำไรโตกระฉูดใน 10 ปี ส่วนยอดขายปีหน้าโต 10% อัตรากำไรสุทธิพุ่ง 40% จาก
ธุรกิจโรงไฟฟ้า ด้านโบรกแนะ "ซื้อ" หลังกำไรสูงน่าประทับใจถึง 61% เป้า 29 บาท

'SC' ไตรมาส 4 กำไรนิวไฮ เปิดโครงการใหม่ 2 หมื่นล้าน
SC คาดปีหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าปั๊มยอดขายสู่
ระดับ 1 หมื่นล้านบาท โบรกส่องกำไรไตรมาส 4/2555 ทำนิวไฮ หลังมี Backlog รอโอนอีก 7.76
พันล้านบาท กำไรทะยานทั้งปี 2555 แตะระดับ 1.22 พันล้านบาท

UMI ไฮซีซันดันยอดโตแรง รายได้ 4 พันล.-EPS พุ่ง 400%
UMI ชูคอ Q4/2555 โตแรงหลังรับอานิสงส์ช่วงไฮซีซัน ดันรายได้ในประเทศและต่างประเทศพุ่ง 1
-1.2 พันล้านบาทหรือโต 30% จากไตรมาสก่อนเกือบ 900 ล้านบาท จับตาปี 2555 ปั๊มกำไร 670 ล้าน
บาท เติบโต 468.08% โชว์ EPS แตะ 1.40 บาทต่อหุ้นทะลุ 400% ฟันรายได้รวมเฉียด 4,000 ล้านบาท
แถมบุกต่างประเทศเต็มสูบ กูรูแนะสอยเป้า 11.30 บาท อัพไซด์เกิน 30%

ITD เฮงโครงการทวายหนุน CK งานในมือพุ่ง 1.5 แสนล้าน
กลุ่มรับเหมาฉาวแววเด่นรับปี 2556 กูรูส่องดวง ITD อนาคตไกลโอกาสรับงานใหม่ 7 หมื่นล้านบาท
หนุนงานในมือทำสถิติสูงสุด 2.4 แสนล้านบาท พร้อมจับตาโครงการยักษ์เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รัฐบาล
ไทย-พม่าผนึกกำลังเต็มที่ดัน ITD โกยกำไรยาว ส่วน CK ไม่น้อยหน้าเก็งงานในมือ 1.5 แสนล้านบาทได้
งานใหญ่จากโครงการไซยะบุรี

'TUF' ปั๊มกำไรปีหน้านิวไฮ แนะสอย-เป้าไกล 94 บาท
TUF โบรกส่องกำไรสุทธิปี 2556 ทำ New High ต่อเนื่อง แนะนำ "ซื้อ" เลือกเป็นหุ้น Top
Pick ของกลุ่มอาหาร เคาะเป้า 94 ฟากเทคนิคชี้กำไร ให้ต้าน 74 บาท ด้านผู้บริหาร "ธีรพงศ์ จันศิริ"
ลั่นปีหน้ามั่นใจกำไรโตได้ถึง 15%

KBS เพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น ดึงพันธมิตรญี่ปุ่นร่วมทุน
บอร์ด KBS ไฟเขียวเพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น ขายให้กลุ่มบริษัทมิตซุย จากประเทศญี่ปุ่นเข้าถือหุ้นใน
สัดส่วน 9.1% ตามแผนการหาพันธมิตร ช่วยสนับสนุนธุรกิจรองรับการแข่งขันของตลาดโลก ฟากโบรก
ประเมินปี 2556 มีกำไรที่ระดับ 691 ล้านบาท แนะ "เก็งกำไร" เป้า 11 บาท

DRT หวั่นขึ้นค่าแรง 300 บ. กระทบอุตสาหกรรมก่อสร้าง
DRT ชี้ปี 2556 แรงงานขาดแคลน รัฐปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท กระทบอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง
ผู้ประกอบการ หันผลิตสินค้าสำเร็จรูปลดระยะเวลาก่อสร้าง-ต้นทุนแรงงาน เชื่อช่องทางขายโมเดิร์นเทรด
ร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่โตต่อเนื่องมั่นใจกระเบื้องคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ยังมาแรง

KMC ยิ้มยอดจองเดอะคริสเข้าเป้า เล็งอัพราคาขายเพิ่ม-ต้าน 0.48 บาท
ผู้บริหาร KMC "วิรัตน์ เอี้ยวอักษร" ยิ้มแป้นยอดจองโครงการเดอะคริส ตึก 6 และ 7 ยอดจอง
โต 20% ตามเป้า เล็งปรับราคาขายขึ้นอีกหลังเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนการเปิดโครงการปีหน้า 1-2
โครงการ พร้อมการันตีปีหน้ายอดขายพุ่ง 1.5 พันล้านบาท ดันรายได้โต 1 พันล้านบาท ฟากโบรกส่อง
เทคนิคราคาหุ้นมีลุ้นวิ่งต่อชน 0.48 บาท

HEMRAJ ดึงญี่ปุ่นร่วมทุน ผุดรง.ใหม่ในอีสเทิร์นซีบอร์ด
HEMRAJ เดินแผนร่วมทุนดึงพันธมิตรญี่ปุ่นเปิดโรงงานใหม่เพื่อผลิตอะลูมิเนียม แปรรูปสำหรับ
อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ด้วยกำลังการผลิต 600 คันต่อเดือน ในอีสเทิร์นซีบอร์ด ฟากโบรกส่องอนาคต
มีโอกาสเติบโตสูงเชียร์สอย ให้เป้า 3.56 บาท

CPF ธุรกิจ Q4 ฟื้น ราคาหมู-ไก่หนุน โบรกเชียร์ 40.44 บ.
CPF โบรกประสานเสียเชียร์ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หลังธุรกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวในช่วงกลาง
ไตรมาส 4/2555 ประเมินในช่วงสั้นได้รับแรงหนุนจากราคาหมูและไก่ปรับตัวดีขึ้น มีลุ้นผลประกอบการ
โดดเด่นอีกครั้งในปี 2555 ได้รับผลกระทบราคาสัตว์ปรับลดลง

'BBL' จ่อลุยธุรกิจเช่าซื้อ กูรูชี้ Basel3 ไม่กระทบธุรกิจ
BBL บ่นเสียดายไม่ได้แชร์สินเชื่อเช่าซื้อ แต่ประกาศพร้อมลุยธุรกิจเช่าซื้อแน่นอน แต่ขอเลือกวิธีการ
ที่เหมาะสม ขณะที่สินเชื่อรวมปี 2556 มั่นใจเติบโตระดับ 6-7% หวังการลงทุนเอกชน-ภาครัฐช่วยหนุนการ
ขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ด้านโบรกให้น้ำหนักลงทุน "กลุ่มแบงก์" มากกว่าตลาด คาดแผนแม่บท
"บาเซิ่ล3" ไม่กระเทือนแบงก์พาณิชย์ของไทย

SIRI สะพรั่งยอด 5 หมื่นล. ผุด PlusShop บริการเช่า
SIRI ประกาศพร้อมลุยธุรกิจปักธงยอดขายปี 2556 เติบโต 5 หมื่นล้านบาทจากปีนี้ยอดขาย 4.2
หมื่นล้านบาท ลุยตลาดต่างจังหวัด พร้อมส่ง Plus Shop ภายใต้ "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ให้บริการปล่อย
เช่าเพื่อเพิ่มรายได้ให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการ หนุนรายได้กลุ่มบริษัท

พม.พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจัดกีฬาแทนของขวัญแห่งการให้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี
สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา (บ้านราชาวดี) และเปิดโครงการส่งเสริมการฟื้นฟู
สมรรถภาพคนพิการด้านกีฬา "ของขวัญแห่งการให้ เติมแต่งฝัน ประกาศความสำเร็จ" ณ สถานสงเคราะห์
เด็กพิการทางสมองและปัญญา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

เปิดมหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ หั่นราคาพิเศษส่งท้ายปลายปี
สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ร่วมกับ 7 สมาคมพันธมิตรจัดงานมหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ยิ่งใหญ่แห่งปี
Lifestyle Outlet 2012 รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลายรายการจากผู้ผลิตมานำเสนอในราคา
ต้นทุนเอาใจผู้ซื้อกว่า 500 บูธ ณ อาคาร 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2555
หวังกระตุ้นเม็ดเงินในประเทศช่วยปั๊มรายได้ หลังผลกระทบเศรษฐกิจยูโรและค่าแรง 300 บาท ทำตลาด
ส่งออกขยายตัวเพียง 3% คาด 5 วัน จัดงานเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท

บลจ.กรุงศรีเปิดขาย 6M49 ชูผลตอบแทน 2.95% ต่อปี
บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M49 (KF-FIX6M49) อายุประมาณ 6
เดือนเสนอขายระหว่างวันที่ 18-24 ธันวาคม 2555 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ
2.95% ต่อปี

'มหกรรมลดภาษีนาทีสุดท้าย' คัดสรร LTF-RMF150 กองให้เลือก
โครงการให้เงินทำงานผ่านกองรวม โดยตลาดหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลัก
ทรัพย์จัดการกองทุนรวม จัด "มหกรรมลดภาษีนาทีสุดท้ายด้วย LTF-RMF" 20-23 ธันวาคม นี้ ที่เซ็นทรัล
เวิลด์ รวมเอา LTF-RMF150 กองทุน และกองทุนรวมประเภทอื่นรวมกว่า 1,300 กองทุนมาให้เลือกลงทุน

VTE เปิดเกมชิงงานใหม่ 600 ล. ลุ้นปรับงวดบัญชีดันกำไรปรี๊ด
VTE เดินหน้าสอยโปรเจ็กต์ใหม่ราว 600 ล้านบาท หวังซิวเพิ่ม 40% เสริมแบ็กล็อกในมือจากตอนนี้
ที่มีกว่า 400 ล้านบาท กินยาวถึงปีหน้า พร้อมมั่นใจงวดปีนี้รายได้ตามฝันทะยาน 20% จากปีก่อนที่ 464
ล้านบาท หลังงานในมือจ่อรับทรัพย์ตรึม ด้านโบรกเกอร์ แนะจับตาปรับรอบบัญชีใหม่หนุนกำไรกระฉูด ชี้
เทคนิครีบาวนด์ 7.50 บาท

DNA หุ้นน้องใหม่สายพันธุ์แกร่ง ฤกษ์ดีเทรด 21 ธ.ค.นี้ -เป้าโต 30%
น้องใหม่ DNA เตรียมตัวเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 21 ธันวาคม นี้ ผู้บริหารไฟแรง
"สามารถ ฉั่วศิริพัฒนา" บอกจุดแกร่งเพียบเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ทั้งหนัง-เพลง มี
สาขามากถึง 1,432 แห่ง วางเป้าขึ้นแท่นครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นที่ 1 หลังจากได้เงินระดมทุนไป
ขยายธุรกิจวางเป้าปีนี้รายได้แตะ 2 พันล้านบาท และปี 2556 โตไม่ต่ำกว่า 30%

SIMAT แรงทะลุจอชนซิลลิ่ง เซียนชี้อัพไซด์บานเป้า 9.20 บ.
SIMAT ม้ามืดราคาวิ่งชนซิลลิ่งปิดพุ่ง 29.55% มาอยู่ระดับ 5.70 บาท ด้านผู้บริหาร เชื่อหุ้นแรง
เก็งข่าวเริ่มบุ๊กรายได้ค่าเช่าโครงการกสท. ช่วง Q3/2556 คาดโปรเจ็กต์นี้เสริมรายได้ปีละ 170 ล้าน
บาท แถมปักธงปี 2555 รายได้ตามนัด 1.5 พันล้านบาท อานิสงส์ธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง ฟากโบรกเกอร์
เชียร์ "ซื้อ" มองเหมาะสม 9.20 บาท ฟันธงปีหน้าเข้ายุคเฟื่องฟู

[ปรัชญา]

2556 ปีทองหุ้นแบงก์
* หลัง PBV ยังต่ำกว่าแบงก์ในภูมิภาค

โบรกฯ มองกลุ่มแบงก์ปี 2556 สดใส หลังมี PBV ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกว่าธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาค ยก KBANK และ TCAP เป็น Top picks หลัง EPS ส่งสัญญาณโต ต่อเนื่องในปีหน้า ด้านแบงก์ตัวอื่นโบรกฯเชียร์ซื้อเพียบ ทั้ง BBL ที่โดดเด่นสินเชื่อจากรายใหญ่ แถมราคาหุ้นยังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่ม ส่วน KTB เริ่มปรับแผนรักษาฐานลูกค้า SME และ TISCO ได้สินเชื่อรถจากนโยบายรถคันแรกช่วยหนุน

หุ้นกลุ่มแบงก์ ส่อแววสดใสข้ามปี หลังจากโบรกเกอร์ประเมินปี 2556 จะเป็นปีทองของการลงทุน แม้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะปรับตัวขึ้นมาในปีนี้อย่างต่อเนื่อง แต่มี PBV แค่ 1.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกว่าธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาค ชี้ธนาคารพาณิชย์ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนอันเนื่องมาจากผลกระทบของหลักเกณฑ์ Basel 3 สิ้นงวด 9M55 ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามี Tier1 ที่สูงถึง 10.5%

โดยวานนี้ (17 ธ.ค.) ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่สำคัญของไทย ปิดการวื้อขายดังนี้
BBL ปิดการซื้อขายที่ระดับ 194.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.78%ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 781.78 ล้านบาท
KBANK ปิดการซื้อขายที่ระดับ 194.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.02%ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8,75.91ล้านบาท
KTBปิดการซื้อขายที่ระดับ 18.60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 289.24 ล้านบาท
TCAPปิดการซื้อขายที่ระดับ 37.00บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166.94 ล้านบาท
TISCOปิดการซื้อขายที่ระดับ 48.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 163.19 ล้านบาท


*** ยก KBANK - TCAP เป็น Top picks ของปีหน้า
ฝ่ายวิจัยของบล.เอเซียพลัส ประเมินว่า ในปี 2556 ที่จะถึงนี้ ยังคงน้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาดในหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ แม้ SET Bank จะทยอยปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่หากพิจารณา PBV (ราคาหุ้นปัจจุบัน / มูลค่าทางบัญชี) ที่ 1.8 เท่า ยังต่ำมากหากเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาค อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ยังเห็นแนวโน้มการเติบโตของ GDP ที่สดใสโดยได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงเลือกหุ้นTop picks คือ KBANK และ TCAP ซึ่งเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นของ EPS ต่อเนื่องในปี 2556 อีกทั้ง ยังมี upside ที่ดีให้เข้าลงทุน

*** ชี้ไม่ต้องกังวลแบงก์ไทยเพิ่มทุน มั่นใจผ่านเกณฑ์ Tier 1 ตาม Basel 3
ฝ่ายวิจัยของบล.เอเซียพลัส เปิดเผยถึงกรณีที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยออกหลักเกณฑ์ Tier 1 ไม่ต่ำกว่า 6% ต้องมี CET1 ขั้นต่ำ 4.5% ตามเกณฑ์ Basel 3ธปท. ได้ออกประกาศจำนวน 7 ฉบับเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.55 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเงินกองทุนตามแนวทาง Basel 3 โดยสรุปได้ดังนี้
1) กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ที่จดทะเบียนในประเทศ ต้องดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) ไม่ต่ำกว่า 6% โดยมีเงื่อนไขว่าต้องประกอบด้วยส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1) ไม่ต่ำกว่า 4.5% รวมเป็นเงินกองทุนทั้งสิ้น (Total Capital Ratio : CAR) ไม่ต่ำกว่า8.5% ซึ่งยังคงเป็นระดับเดียวกับเงินกองทุนตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน และ
2) ให้สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ดำรงเงินกองทุนทั้งสิ้น (CAR) ไม่ต่ำกว่า 8.5% เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศ ซึ่งจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มค.56 เป็นต้นไปทั้งนี้ ในส่วนของหลักเกณฑ์ในเรื่องการดำรงอัตราส่วนด้านปริมาณธุรกิจ (Leverage ratio) รวมถึงมาตรการด้านการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่องนั้น (อันเนื่องมาจากวิกฤติด้านการเงินที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเกิดจากปัญหาหลักๆ คือปัญหาด้านสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งมีปัจจัยหลักจากรูปแบบการทำธุรกิจของสถาบันการเงินที่อาศัยแหล่งเงินทุนจากผู้ลงทุนรายใหญ่(WholesaleFunding) อีกทั้งยังมีเรื่องการขยายธุรกิจเกินกำลังของสถาบันการเงิน) ซึ่ง ธปท. อยู่ระหว่างการติดตามหลักเกณฑ์ของ BCBS (Basel Committee on Banking Supervision) และวิเคราะห์ผลกระทบ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้กับระบบ ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารความเสี่ยงของ ธปท. ได้สำทับเกี่ยวกับประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวว่าธนาคารพาณิชย์ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนตามหลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของฝ่ายวิจัยมาโดยตลอดว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนอันเนื่องมาจากผลกระทบของหลักเกณฑ์ Basel 3 (ยกเว้นแต่ธนาคารพาณิชย์ที่ต้องการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเติบโต อาทิ KTB ตามที่ได้ดำเนินการไปแล้ว) ซึ่งหากพิจารณาฐานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงหรือ CAR ของ ธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นงวด 9M55 ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามี Tier1 ที่สูงถึง 10.5% โดยส่วนใหญ่เป็น Tier 1 ที่มีองค์ประกอบที่เป็น CET1 อยู่แล้ว ยกเว้นเพียง TCAP ที่มีองค์ประกอบของค่าความนิยมที่รวมไว้ แต่ธนาคารฯ ก็ได้ดำเนินการขายธุรกิจประกันชีวิตออกไปเพื่อลดภาระสินทรัพย์เสี่ยงพร้อมทั้งช่วยเพิ่มฐานเงินกองทุนเข้ามาเพื่อเป็น CET1 มากขึ้น ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงเชื่อมั่นว่าภายหลังจากที่หลักเกณฑ์ Basel 3 ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2556 จะไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ไทย เช่นที่กังวลว่าจะต้องนำไปสู่การเพิ่มทุนแต่อย่างใด

*** โบรกฯมองงบ KBANK ปี 56 โตแบบโดดเด่น
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปัจจุบันหากประเมินสัญญาณทางเทคนิคของราคาหุ้น KBANK ยังพบว่าอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัว ซึ่งหากราคาปรับตัวลงแนะนำทยอยซื้อ โดยมีแนวรับ 190 บาท และแนวต้าน 200 บาท ส่วนราคาพื้นฐานได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 216 บาท จากเดิมที่คาดการณ์อยู่ที่ 198 บาท เพราะประเมินว่าในปี 2556 แนวโน้มผลประกอบการยังมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่น โดยคาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะเติบโต 9-11% เมื่อเทียบกับปีนี้ โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศที่ธนาคารได้เข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย ทั้งในฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะทำให้สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อมีอัตราการเติบโตมากขึ้น เพราะภาพรวมเศรษฐกิจประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีทิศทางการเติบโตที่ดี
ขณะเดียวกันรายได้จากค่าธรรมเนียมยังเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศ เพราะมีค่าธรรมเนียมจากเมืองไทยประกันชีวิตเข้ามาร่วมด้วย ทำให้คาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตถึง 15% ขณะที่คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 2556 จะเติบโตอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.67 หมื่นล้านบาท เพราะได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายการปรับลดอัตราจัดเก็บภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% จากปีนี้ที่จัดเก็บในอัตรา 23% และแนวโน้มผลประกอบการโดยรวมยังมีสัญญาณการเติบโตอย่างโดดเด่นอีกด้วย ทั้งการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

*** TCAP สดใสรับสินเชื่อรถยนต์โต
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยถึง บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) ว่าตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคมเป็นต้นมา ทาง TCAP ได้เริ่มซื้อหุ้นคืน หลังจากมติคณะกรรมการของ TCAP ออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 3.4 พันล้านบาท โดยจะมีการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 127,781,636 หุ้น ราคาพาร์ 10 บาท หรือคิดเป็นไม่เกิน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยจะซื้อจากในตลาดหลักทรัพย์ กำหนดระยะเวลาการซื้อหุ้นตั้งแต่ 11 ธ.ค. 2555 – 10 มิ.ย. 2556 โดยราคาซื้อไม่เกิน 1.1 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ของงบการเงินที่ประกาศล่าสุด และไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้านั้น โดยเหตุผลที่ซื้อหุ้นคืนครั้งนี้เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าทางบัญชี 3Q55 ที่อยู่ที่ 32.33 บาท และราคาปิดเฉลี่ย 5 วันย้อนหลังที่ 36.70 บาทแล้ว ราคาซื้อคืนจะอยู่ที่ 35.56 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน และจะทำให้ราคาหุ้นของ TCAP ไม่ตอบสนองในทางบวกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นของ TCAP ตอบรับในทางบวกต่อข่าวการซื้อคืนหุ้นดังกล่าว
ถึงแม้ราคาหุ้นของ TCAP จะไม่ตอบรับในเชิงบวกต่อการเริ่มซื้อหุ้นคืน แต่ TCAP นั้นยังมีปัจจัยหนุนจากการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร์ ซึ่งมียอดจองรถตลอดการจัดงานสูงถึง 78,807 คัน สูงกว่าที่ผู้จัดงานคาดไว้ที่ 60,000 คันมาก ซึ่งการที่ TCAP นั้นเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คาดว่าจะทำให้สินเชื่อของ TCAP ใน 4Q55 เติบโตต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ที่ 4Q55 จะเป็นไตรมาสที่ TCAP มีสินเชื่อเติบโตมากที่สุดในปี 2555 โดย ณ สิ้นเดือน ต.ค. TCAP มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 แล้ว 12.4% YTD
ส่วนผลประกอบการ 4Q55 ของ TCAP จะทรงตัวจาก 3Q55 เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ TCAP จะยังคงมีการตั้งสำรองจำนวนมากในช่วง 4Q55 โดยคาดว่า TCAP จะมีกำไรสุทธิปี 2555 5,352 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.01 บาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผล 1.25 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.4% ส่วนในปี 2556 ในช่วง 1Q56 TCAP จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจประกันออกไป ทำให้คาดว่า TCAP จะมีกำไรสุทธิ 6,759 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.07 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ถึง 26% YoY เรายังคงมูลค่าเหมาะสม 42.50 บาท และยังคงแนะนำ “ซื้อ”

*** BBL จะยังได้ประโยชน์จากสินเชื่อรายใหญ่ - ราคาหุ้นยังถูก
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยถึง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ว่ามีสินเชื่อ ณ สิ้นเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 5.6% YTD ซึ่งคาดว่าสินเชื่อของ BBL จะได้ประโยชน์จากความต้องการสินเชื่อของลูกค้าขนาดใหญ่ จากการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลและความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนขยายธุรกิจ การซื้อกิจการ รวมไปถึงการควบรวมกิจการ จากการที่ BBL เป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์เป็นอันดับ 1 ของไทย และมีความเชี่ยวชาญสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยมีสินเชื่อรายใหญ่คิดเป็น 63% ของสินเชื่อทั้งหมด และมีส่วนแบ่งตลาดทางด้านสินเชื่อรายใหญ่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มธนาคาร ทำให้เราคาดว่า หากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มีความต้องการสินเชื่อ จะมี BBL เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมปล่อยสินเชื่อด้วยในหลายๆดีล
ถึงแม้ว่า BBL จะมี NPL อยู่ 2.6% ของสินเชื่อรวม ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่มี NPL อยู่ 3% ของสินเชื่อรวมไม่มากนัก แต่เรามองว่า BBL เป็นธนาคารที่สามารถรองรับความเสี่ยงได้มากที่สุด จากการที่ BBL มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงถึง 192% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในระบบธนาคาร เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่มีอยู่ 118%
ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้น BBL ที่ซื้อขายกันในปัจจุบันค่อนข้างถูกเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่ม โดยซื้อขายกันที่ระดับ P/E ที่ 12 เท่า และ P/BV 1.4 เท่าเท่านั้น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารจะมีการซื้อขายกันที่ระดับ P/E 14 เท่า และ P/BV 2 เท่า
อย่างไรก็ตามยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ไว้ที่ 32,541 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 17.05 บาท และเราคาดว่า BBL จะมีการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2555 จำนวน 6.50บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.4% เรายังคงมูลค่าเหมาะสมของ BBL ไว้ที่ 213 บาท โดยเราคาดว่า BBL จะได้ประโยชน์จากความต้องการสินเชื่อของลูกค้ารายใหญ่ ทำให้สินเชื่อเติบโตขึ้นได้ในช่วงปลายปีตอลดจนถึงปี 2556 และราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่ม เราจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ"

*** KTB ปรับกลยุทธ์ หวังรักษาฐานลูกค้า SME
จากรายงานข่าว ที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารจะให้นโยบายกับ นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการ คนใหม่ของธนาคาร ให้รักษาฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีไว้ให้ได้ เพราะการแข่งขันที่สูงทำให้มีการดึงลูกค้ากันไปมา ฉะนั้นจำเป็นต้องปรับรูปแบบธุรกิจการให้บริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งในปีหน้าธนาคารจะเพิ่มสำรองให้ได้ตามมาตรการฐานธนาคารขนาดใหญ่ หากปีหน้าสินเชื่อขยายตัว สำรองหนี้ฯต้องเพิ่มตามในสัดส่วนเดียวกัน
ทางบล.กรุงศรีเปิดผยว่า KTB รายงานสินเชื่อสินเชื่อ 10M55 เติบโต 7.9% จากการเติบโตทุกภาคส่วนทั้งสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่, สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อย โดยสัดส่วนสินเชื่อประกอบด้วยสินเชื่อรายใหญ่ 38% สินเชื่อ SME 20% สินเชื่อรายย่อย 29% และสินเชื่อภาครัฐ 13% ทั้งนี้ จากการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุดในเดือน พ.ย. ธนาคารมีนโยบายสนับสนุนโครงการลงทุนของรัฐ และมีแผนจะขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่ก็จะมีนโยบายเชิงรุกขยายฐานการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อ SME มากขึ้นเพื่อรักษาระดับของ NIM ให้ทรงตัว เพราะสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อ SME มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าสินเชื่อให้ภาครัฐ
โดย KTB มี coverage ratio ราว 71% ต่ำที่สุดในกลุ่มนาคารขนาดใหญ่ (BBL มี 192%, KBANK 143, SCB 135%) ทั้งนี้แม้ ทาง KTB ต้องการมีระดับสำรองหนี้ฯ ใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่ คงจะต้องมีนโยบายสำรองหนี้ฯ สูงกว่าระดับปกติที่ราว 6 พันล้านบาท/ปี และอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะทำให้สูงขึ้นใกล้เคียงกับคู่แข่ง สำหรับประเด็นนี้ เรามองว่าคงต้องสอบถามความชัดเจนกับผู้บริหารของธนาคารในการประชุมครั้งหน้า เพราะจะมีผลต่อการประมาณการสำรองหนี้ฯ และความสามารถการทำกำไร รวมถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอนาคต
ผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อให้ SSI ค่อนข้างจำกัด ขณะที่ SSI สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อคุณภาพสินเชื่อของ KTB อย่างไรก็ดี แม้ธนาคานยืนยันว่าตั้งสำรองหนี้ฯ เพียง พอแล้ว แต่จากที่ KTB มีกำไรเติบโตสูงในปีนี้ และ coverage ratio ที่ 71% ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 110% อยู่ค่อนข้างมาก ทำให้เรามองว่าธนาคารอาจจะมีการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงกว่าระดับปกติที่ 1.5 พันล้านบาท/ไตรมาส ใน Q4 ซึ่งเราคาดไว้ที่ราว 5 พันล้านบาท
คาดการณ์กำไรใน 4Q55 ของ KTB ที่ราว 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงกว่า 5 เท่าตัวจากปีก่อน เพราะการเติบโตของรายได้ดอกเบี้นและรายได้ค่าธรรมเนียม รวมทั้งสำรองหนี้ฯ ลดลง แต่กำไรจะลดลง 46%QoQ เพราะคาดว่าสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น และรายได้จากเงินปันผลลดลง สำหรับทั้งปี 5 เราคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 27.5 พันล้านบาท เติบโตสูง 62%YoY สาระสำคัญจากการลดลงของสำรองหนี้ฯ และการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจธนาคาร
ด้านการลงทุน เราคงคำแนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินมูลค่าพื้นฐาน KTB ที่ 20.50 บาท อิงจาก Prospective P/BV 1.4 เท่า (ROE 14%, Ke 11.7%) ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนว่าสินเชื่อที่ปล่อยให้ SSI มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และจะไม่เป็นภาระต่อคุณภาพสินเชื่อของธนาคาร เราอาจจะมีการปรับมุมมองการลงทุนของ KTB ที่ดีขึ้น

*** TISCOยังสดใสรับสินเชื่อเดือนพ.ย.โต โบรกเชียร์ซื้อ
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป เปิดเผยถึง ตัวเลขสินเชื่อสุทธิเดือนพ.ย. 2555 เติบโต 2.8% MoM สนับสนุนโดยความต้องการรถยนต์ที่แข่งแกร่ง คาดสินเชื่อในเดือนสุดท้ายของปียังเติบโตได้ต่อจากโครงการรถยนต์คันแรกที่ส่งผลให้คำสั่งซื้องาน International Motor Expo มียอดจองสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 8 หมื่นคัน
โดยทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิของบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCOใน 4Q55 ไว้ที่ 901.82 ล้านบาท ลดลงราว 5.4% QoQ จากอัตรา Cost/Income ที่ขยับขึ้นในส่วนของรายจ่ายปลายปี หากเทียบ YoY กำไรจะเติบโตสูงถึง 33.4% เนื่องจากใน 4Q54 มีผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม
กำไรสุทธิปี 2555 คาดอยู่ที่ 3.61 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% YoY โดยรายได้คาดขยายตัวสูงตามความต้องการสินเชื่อรถยนต์ หากต้นทุนการเงินก็ปรับสูงขึ้นเช่นกัน สำหรับปี 2556 คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องอีก 16.5% YoY สู่ 4.21 พันล้านบาท อิงสินเชื่อขยายตัวที่ราว 12%
กำไรที่เพิ่มขึ้นคาดช่วยสนับสนุนอัตรา Tier-1 จากที่ ณ สิ้นก.ย. 2555 อยู่ที่ 9.0% (CAR=13.5%) อย่างไรก็ตามทางฝ่ายมองมีความเป็นไปได้ที่อัตราปันผลจ่ายในอนาคตจะปรับลงต่ำกว่า 50% เนื่องจากเงินส่วนหนึ่งถูกกันไว้เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ ล่าสุดธนาคารทิสโก้ได้เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.6% มูลค่ารวมไม่เกิน 2.00 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ
TISCO มีการปล่อยสินเชื่อแก่ SSI จำนวนราว 4.00 พันล้านบาท ซึ่งตั้งสำรองในระดับปกติ เนื่องจากยังเป็น Performing Loan อย่างไรก็ตามธนาคารมี Excess Reserve ในระดับ 77.1% หรือ 2.13 พันล้านบาท ทำให้คาดว่าสามารถรองรับการตั้งสำรองในอนาคตได้บางส่วน และไม่กระทบต่อผลประกอบการอย่างรุนแรงหากตั้งสำรองเพิ่มเติมเข้ามา
ราคาพื้นฐานปี 2556 คาดอยู่ที่ 49.60 บาท/หุ้น อิง P/B ที่ 1.76 เท่า (ROE= 18.0%, g=7.2%) ทั้งนี้ทางฝ่ายประเมินอัตรา Dividend Payout ลดลงมาที่ 40.0% โดย ณ ระดับดังกล่าวยังคงให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ราว 5% แนะนำ “ทยอยซื้อ”
ด้าน บล.ฟินันเซียไซรัส แนะนำให้ซื้อเก็งกำไร TISCO ประเมิน แนวต้านตามสัญญาณทางเทคนิค 48.50-49.50 , 50-53 บาท
บล.เกียรตินาคิน แนะนำซื้อ TISCO มูลค่าเหมาะสมปี 2555 ที่ 54 บาท


ที่มา

[ปรัชญา]

จับตาเยนอ่อนค่ารอดูประชุมบบีโอเจ20ธ.ค.

แบงก์ชาติเกาะติดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) หลังทราบผลเลือกตั้ง พรรคแอลดีพี กลับมาตั้งรัฐบาล จับตานโยบายค่าเงินเยนอ่อน พร้อมเล็งผ่อนปรนนโยบายการเงินเพิ่มเติม ส่งผลเงินเยนวานนี้อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 20 เดือนเหลือ 84.05 เยนต่อดอลลาร์ ด้าน “ประสาร” เผยรอดูประชุม 20 ธ.ค. เชื่อระยะสั้นไม่มีมาตรการใหม่

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.คงต้องติดตามดูการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อย่างใกล้ชิด หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ชนะการเลือกตั้งและกลับมาจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้ นายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคแอลดีพี ประกาศนโยบายไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า จะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้น และผลักดันให้เงินเยนอ่อนค่า

หุ้นนิกเคอิในตลาดโตเกียวปิดตลาดวานนี้ (17 ธ.ค.) สูงขึ้น 91.32 จุดหรือ 0.94% หลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) คว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไป โดยนายชินโซ อาเบะ ผู้นำพรรค รับปากระหว่างหาเสียงว่าจะกดดันให้ธนาคารกลาง (บีโอเจ) ดำเนินนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนั้น การปรับตัวขึ้นของหุ้นยังมาจากการที่นักลงทุนดีใจที่พรรคแอลดีพีจะกลับมาเป็นรัฐบาล เพราะพรรคนี้มีแนวทางเป็นมิตรกับธุรกิจ นอกจากนั้น หุ้นโรงไฟฟ้ายังพุ่งขึ้นอย่างหุ้นของบริษัทเทปโก ผู้ดำเนินโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมา ที่ทะยานเกือบ 33% เพราะมองว่าแผนระยะสั้นที่จะเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์มีแววเป็นหมัน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่แอลดีพี จะกดดันบีโอเจให้ดำเนินนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงเหลือ 84.05 เยนต่อดอลลาร์ จาก 83.52 เยน โดยช่วงหาเสียงนั้นนายอาเบะระบุว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค 2 เท่า ผลักดันบีโอเจให้ดำเนินมาตรการสุดขั้วเพื่อยุติภาวะเงินฝืด และช่วยเหลือผู้ส่งออกด้วยการดึงเงินเยนให้อ่อนค่า

ทั้งนี้ นายอาเบะ ลั่นวาจาจะผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวหลังจากเผชิญภาวะเงินฝืดมาหลายปี วาระหลักของเขาคือการกดดันบีโอเจ ซึ่งจะประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 19-20 ธ.ค. ให้ดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างมาก เพื่อกระตุ้นการเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลกเสี่ยงตกสู่ภาวะถดถอย โดยนักลงทุนคาดว่าบีโอเจจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายเป็นครั้งที่ 5 ของปีนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมวันพฤหัสบดี (20 ธ.ค.)

นอกจากนั้น ยังมีการคาดหมาย ว่า ผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ที่จะได้รับการแต่งตั้งปีหน้า จะมีแนวคิดส่งเสริมท่าทีผ่อนคลายอย่างมาก

คาดญี่ปุ่นดำเนินนโยบายเยนอ่อน

นางจันทวรรณ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเงินเยนของญี่ปุ่นถือว่าแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นต้องเผชิญปัญหาในเรื่องการแข่งขัน ดังนั้น นายอาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ จึงมองว่าควรต้องดำเนินนโยบายเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นเอง

นอกจากนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเงินเยนกับเงินวอนของเกาหลีใต้มักจะมีอัตราส่วนที่ห่างกันประมาณ 10 เท่า เช่น หากเงินเยน อยู่ที่ 100 เยน เงินวอนของเกาหลีใต้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 วอน แต่ช่วงหลังวิกฤติเศรษฐกิจ จะเห็นว่าเงินเยนแข็งขึ้นมาอยู่ที่ 70 เยน ในขณะที่เงินวอนเกาหลีใต้ยังอยู่ที่ 1,000 วอน ซึ่งหมายความว่า ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นมีต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้แข่งขันกับเกาหลีใต้ยากขึ้นด้วย

“ที่ผ่านมาภาคธุรกิจของญี่ปุ่นประสบปัญหาจากการที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นไปมาก ดังนั้นการที่เงินเยนอ่อนลงมาน่าจะเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจของญี่ปุ่นเอง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคส่งออกกลับมาฟื้นตัว ซึ่งมีส่วนช่วยเศรษฐกิจของเขา และเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ก็ผูกติดกับญี่ปุ่นค่อนข้างมาก หากญี่ปุ่นดีขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนในภูมิภาคด้วย” นางจันทวรรณ กล่าว

รอผลประชุมบีโอเจ 20 ธ.ค.

ส่วนแนวนโยบายเรื่องการเพิ่มปริมาณเงินในระบบนั้น นางจันทวรรณ กล่าวว่า ถึงแม้บีโอเจจะดำเนินมาตรการดังกล่าวจริง ก็คงต้องดูความต้องการหรือดีมานด์ในระบบด้วย หากในระบบไม่มีความต้องการที่จะใช้เงิน แม้บีโอเจจะพิมพ์เงินออกมา สุดท้ายเงินเหล่านี้ก็จะไหลกลับไปที่เดิม

“ต้องกลับไปคิดว่า การเพิ่มปริมาณเงินในระบบนั้น หากในระบบไม่มีความต้องที่จะใช้แล้ว เงินเหล่านั้นก็จะกลับมาที่เดิม ปัญหาของญี่ปุ่น คือ มันไม่มีดีมานด์ ไม่มีความต้องการ อุปสงค์เศรษฐกิจที่ยังแผ่ว การฟื้นตัวอาจไม่เข้มแข็ง พอไม่มีดีมานด์ก็ไม่รู้จะเอาเงินออกไปซื้ออะไร เงินก็จะกลับมาที่เดิม ถ้าคนไม่เชื่อมั่นที่จะบริโภค ไปซื้อรถ ไม่ซื้อบ้าน มันก็ไม่ถูกนำไปใช้” นางจันทวรรณ กล่าว

ขณะที่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า คงต้องรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของบีโอเจ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ว่าจะมีมาตรการออกมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายมาซาอากิ ชิรากาวา ผู้ว่าการบีโอเจ จะครบวาระในอีก 3 เดือนข้างหน้า จึงเชื่อว่าระหว่างนี้อาจจะยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติมมากนัก ซึ่งคงต้องรอไปดูในสมัยของผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่

คาดบีโอเจถูกกดดันซื้อสินทรัพย์เพิ่ม

ด้าน นายเคอิจิ คูโบะ ผู้จัดการแผนกกองทุนแห่งบริษัทโตเกียวมารีนแอสเซตแมเนจเมนต์ ชี้ว่ามีแนวโน้มที่นายอาเบะจะกดดันบีโอเจให้เข้าซื้อสินทรัพย์อย่างมาก เพื่อดึงญี่ปุ่นขึ้นจากภาวะถดถอยและภาวะเงินฝืด

นักลงทุนยังคาดหวังว่าจะมีการจัดทำงบพิเศษถึงปีละ 10 ล้านล้านเยน ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หรือ 2 เท่าของงบปัจจุบัน เพื่อทุ่มไปในโครงการด้านสาธารณูปโภค ซึ่งคำสัญญาของนายอาเบะ ว่า จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้น ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับการบริหารประเทศตามแนวทางของพรรคแอลดีพี แต่สร้างความดีใจแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเผชิญภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เครดิตอริโกลมองว่าไม่ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะยินดีกับนโยบายรุกกร้าวของนายอาเบะหรือไม่ นายสตีเฟน เชิร์ช นักวิจัยแห่งเจแปนอินเวสต์ เสริมว่าเมื่อครั้งเป็นนายกฯ ปี 2549 นายอาเบะไม่สามารถทำตามสัญญาหลายอย่างที่ให้ไว้ได้

นักวิเคราะห์วิตกแทรกแซงบีโอเจ

นอกจากนั้น แม้ชัยชนะอันถล่มทลายของพรรคแอลดีพี มีแนวโน้มว่าจะหนุนนำหุ้นในตลาดระยะสั้น แต่ผลงานที่นายอาเบะจะฝากไว้ อยู่ที่การแก้ปัญหาเรื้อรังซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้แค่การอัดฉีดเงินเข้าไป โดยนายยูกิ ซากูราอิ แห่งบริษัทฟูโกกุแคปปิตอลแมเนจเมนต์ กล่าวว่า การที่นายอาเบะ ระบุว่าจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับบีโอเจหรือระดับค่าเงิน รวมถึงดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างมากนั้น ถือเป็นสิ่งน่าวิตก เพราะเป็นเหมือนเครื่องมือในการซื้อเวลามากกว่าจะปฏิรูปอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหากไม่มีการดำเนินความพยายามกระตุ้นศักยภาพในการขยายตัวและควบคุมหนี้

ทั้งนี้ ในช่วงเพียง 3 ทศวรรษ ญี่ปุ่นกลายเป็นสังคมที่มีผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก โดยผู้มีอายุ 65 ปี หรือสูงกว่านี้ มีจำนวนเกือบ 1 ใน 4 ของประชากร แนวทางรับมือเรื่องนี้คือการยกเครื่องระบบประกันสังคม รวมถึงลดงบด้านดูแลสุขภาพและบำนาญ เพิ่มการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ เปิดกว้างตลาดในประเทศสำหรับสินค้า คนงาน และการลงทุนจากต่างชาติ ปฏิรูปภาคพลังงานและดึงสตรีเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น

ธปท.สานต่อแผนยุทธศาสตร์5ปี

ทั้งนี้ แบงก์ชาติเตรียมลุยสานต่อแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี วางคีย์เวิลด์ปีหน้า เน้นการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดียั่งยืนของคนไทย โดยยึดแผนงาน 4 ด้าน ผ่านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจต่างประเทศเพิ่มโอกาสเติบโตจากภายนอก ขณะที่ภายในเร่งยกศักยภาพแข่งขัน ลุยลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม

โดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าหลังจากเริ่มต้นแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2555-2559) โดยเริ่มปีนี้เป็นปีแรก ในปีหน้า (2556) ธปท.ยังสานแผนงานนี้ต่อเนื่อง โดยยึดหัวใจสำคัญ คือ การร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ (Constructive Engagement) เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทย

เขากล่าวว่า การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องเน้นการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งแตกต่างจากคำว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทั้ง 2 คำนี้ แม้ระยะสั้นจะให้ผลเหมือนกัน คือ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตเร็ว แต่ที่แตกต่าง คือ การพัฒนาศักยภาพจะช่วยการเติบในระยะยาวกว่า ส่วนคำว่ายั่งยืน หมายถึงการสร้างภูมิคุ้มกันที่ทนทานกับความไม่แน่นอนที่จะเข้ามาเผชิญในอนาคต ดังนั้นทั้ง 2 คำนี้ถือเป็นตัวสำคัญในการสร้างอนาคตให้กับไทย

"ปีนี้ คีย์เวิร์ดเรา คือ วิสัยทัศน์ร่วม เพราะปีนี้ถือเป็นปีซักซ้อมการก่อวิสัยทัศน์ร่วม หลายหน่วยงานมีแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของตัวเอง อย่างแบงก์ชาติก็มีแผน 5 ปี โดยยึดหลัก 9 ข้อ เป็น Platform หรือฐานในการพัฒนาระยะต่อไป ดังนั้นปี 2556 เราจึงเน้นการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน" นายประสารกล่าว

ส่วนการมีส่วนร่วมของธปท.ในแผนระยะต่อไป เขากล่าวว่าจะดำเนินการผ่าน 4 ด้านหลัก คือ พยายามเชื่อมโยงระบบเศรษฐกิจการเงินกับต่างประเทศ (Connectivity) ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตจากภายนอก ส่วนการเพิ่มโอกาสการเติบโตจากภายใน จะเน้นการยกระดับศักยภาพการแข่งขัน (High Value-Added Economy) อีกทั้งพยายามลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐานอย่างทั่วถึง (Financial Inclusion) และสุดท้าย คือ ดูแลเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน เพื่อเตรียมตัวรองรับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการเติบโตในอนาคต (Financial Stability)

ดร.ประสาร กล่าวว่า การเชื่อมโยงระบบเศรษฐกิจการเงินกับต่างประเทศ ปีหน้าธปท.จะเน้นผลักดันการพัฒนาร่วมกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เช่น การใช้ Local Currency รวมไปถึงเรื่องของระบบชำระเงิน การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ตลอดจนผลักดันเรื่องของ ASEAN+6 เป็นต้น

ส่วนด้านการค้าการลงทุนต่างประเทศ จะผลักดันให้มีความสะดวกขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำผ่านการปรับระบบงานเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ ขณะที่งานด้านสถาบันการเงิน ปีนี้ธปท.ได้ศึกษาช่วงว่างการให้บริการว่ามีจุดใดบ้าง ดังนั้นงานปี 2556 จะเน้นการปิดช่องว่างเหล่านี้

"การศึกษาของเราดูว่ามี GAP อย่างไรในงานประเภทบริการทางการเงินบ้าง ซึ่ง GAP ที่ว่านี้ เป็นเชิงการบริการและราคา ทั้งลูกค้าระดับบนและลูกค้าระดับล่าง" ดร.ประสาร กล่าว

ส่วนการใช้โอกาสในประเทศ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ธปท.จะเน้นการยกระดับความสามารถการแข่งขัน หรือ High Value-Added Economy ซึ่งการพัฒนาศักยภาพ สามารถทำได้ทั้งแนวราบผ่านการสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศ ซึ่งช่วยกระจายความเจริญออกไป และสร้างอุปสงค์ภายในที่ยั่งยืน ขณะที่การขยายศักยภาพแนวตั้ง นโยบายภาครัฐเข้ามามีส่วนส่งเสริมได้ ทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและการปรับตัว

ดร.ประสาร กล่าวว่าส่วนการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน ปี 2556 ธปท.จะเน้นสานต่อความร่วมมือกับภาครัฐ ในการสนับสนุนการเข้าถึงกลุ่มเอสเอ็มอี ส่วนการดูแลค่าเงินและการลดต้นทุนแฝง จะเน้นปรับระบบติดตามผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนต่อภาคธุรกิจแท้จริง รวมทั้งจะพัฒนาฐานข้อมูลสินเชื่อเพื่อการเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมทั้งการให้ความรู้กับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และส่วนของระบบชำระเงินจะเน้นขยายโครงการเช็ดด้วยภาพ (ICAS) และส่งเสริมการใช้ E-Payment เป็นต้น

งานด้านการเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐาน ในปี 2556 ธปท.จะลดอุปสรรคการเข้าถึง โดยดูความเป็นไปได้และความจำเป็นในการเพิ่มผู้ให้บริหารในส่วนของบริการทางการเงินระดับฐานราก (Microfinance) และปรับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดูการคุ้มครองสิทธิ และเทคโนโลยีช่วยการเข้าถึง เช่น การส่งเสริมบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือโทรศัพท์มือถือ

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน หรือ Financial Stability การเติบโตทางเศรษฐกิจย่อมมาพร้อมความเสี่ยง ดังนั้นไทยต้องเข้าใจ และพร้อมรับมือ โดยงานที่ธปท. จะดำเนินการในปี 2556 ที่เกี่ยวข้องกับการติดตามเงินทุนไหลเข้าออกนั้น จะปรับระบบการติดตามการไหลเข้าและออกของเงินตราต่างประเทศ

[ปรัชญา]

http://www.naewna.com/relation/33663

[ปรัชญา]

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้า 18/12/2555



แดงเหิมบุกยึดเวทีกสม.

ด่าว.วชิรเมธี

ป่วนงานวันสิทธิมนุษยชนสากล

ศาลสั่งอีกคดีจนท.ยิงนปช.ตาย

คุก‘ขวัญชัย’2ปี8เดือนทุบพธม.

ที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธ.ค. ประจำปี 2555 ภายใต้หัวข้อ “เมื่อถูกละเมิดสิทธิ ความจริงต้องปรากฏ” โดยมีนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม. เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัลให้แก่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนประจำปี 2555 โดยรางวัลเกียรติยศ “ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน” ได้แก่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี, แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และนางสายสุรี จุติกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรี

ขณะที่ประเภทบุคคลและองค์กร บุคคลชายได้แก่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) บุคคลหญิงได้แก่ น.ส.อรุณี ศรีโต นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา ประเภทเด็กและเยาวชนชาย ได้แก่ นายพีรพล บงค์บุตร รองประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย เยาวชนหญิงได้แก่ น.ส.มินตรา จันทร์นวล เลขานุการศูนย์ยุติธรรมเยาวชน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์

ประเภทบุคคลภาคสื่อมวลชน ได้แก่ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ บรรณาธิการข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ประเภทนักสิทธิมนุษยชนชุมชนชาย ได้แก่ นายเสด็จ เขียวแดง ประธานชุมชนโคราชคฤหาสน์ทอง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประเภทนักสิทธิมนุษยชนชุมชนหญิง ได้แก่ นางเกษร ศรีอุทิศ เลขานุการชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ประเภทองค์กรภาครัฐ ได้แก่ เทศบาลตำบลบ้านกลาง จังหวัดลำพูน ประเภทองค์กรภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และประเภทองค์กรสื่อสารมวลชน หริอรายการที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ได้แก่ สถาบันอิศรา

“แม่น้อง”เกดนำแดงป่วนกสม.

ขณะที่การจัดงานดำเนินอยู่นั้นปรากฏว่า ผู้สนับสนุนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในนามเครือข่ายญาติวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสา นปช. ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณวัดปทุมวนาราม และพวกจำนวนกว่า 30 คนได้รวมตัวบริเวณด้านหน้าอาคารประตูทางเข้าฝั่งทิศตะวันออก ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อทวงความคืบหน้ารายงานสรุปการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์การชุมนุม เมื่อปี 2553 และทวงถามอำนาจหน้าที่ของกรรมการสิทธิฯ ว่ามีอำนาจในการเรียกขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมอ้างว่า เพราะจากที่เคยมาทวงถามกรณีการเสียชีวิตของบุตรสาว นางอมราอ้างว่าไม่มีอำนาจในการเรียกขอข้อมูล แต่เมื่อมีการร้องเรียนการสลายการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย เป็นประธาน ทาง กสม.โดยนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ กลับมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงทันทีภายหลังมีการร้องเรียน โดยทางกลุ่มเครือข่ายฯ ได้ปักหลักรอฟังคำตอบจากกรรมการสิทธิฯ แต่ ก็ไม่มีกรรมการสิทธิฯ คนใดออกมาพบปะผู้ชุมนุมที่รอฟังการชี้แจง

เหิมเกริมบุกเข้าไปป่วนเวทีใหญ่

กระทั่งช่วงบ่ายกลุ่มเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตได้บุกเข้ามาภายมาในตัวอาคารที่เป็นสถานที่จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธ.ค. 2555 ท่ามการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยมีนายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ กสม. ได้พยายามเข้ามาเจรจา แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันที่จะขอพบนางอมรา ซึ่งนายวีรวิทย์ได้แจ้งกับผู้ชุมนุมว่า นางอมราติดภารกิจไม่สามารถมารับเรื่องได้ด้วยตัวเอง

จากนั้นกลุ่มเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตฯ ได้บุกเข้าไปในห้องสัมมนา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากทำพิธีมอบรางวัลเสร็จ โดยขึ้นเวทีซึ่งขณะนั้นมีการแสดงหมอลำ ส่งผลให้การแสดงต้องหยุดลงชั่วขณะ และผู้ที่มาร่วมงานต่างพากันตกตะลึง เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้อยู่ในกำหนดการของงานที่วางไว้ ที่สุดกลุ่มเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตฯได้ขึ้นไปบนเวที แล้วประกาศว่าเพื่อขอมอบรางวัล “โลงจำปาทอง” ที่เป็นโลงศพจำลอง ให้เป็นรางวัลเนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล กับประธานและกรรมการสิทธิฯ ทุกคน เพราะถือว่าเป็นรางวัลในสาขาผู้พิทักษ์ผู้กดขี่ดีเด่น โดยมีนายวีรวิทย์เป็นตัวแทนรับมอบรางวัลดังกล่าว

ด่าพระ”ว.วชิรเมธี”-แจกฟักหมอ

พร้อมกันนี้ ทางกลุ่มเครือข่ายฯ ยังได้แสดงท่าทีคัดค้านการมอบรางวัลเกียรติยศให้กับผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยนำหม้อดินปิดผ้ายันต์มามอบให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ในฐานะเป็นผู้พิสูจน์การเสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุม และชูป้ายข้อความคัดค้านการมอบรางวัลให้กับพระมหาวุฒิชัย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของวลี “ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา” พร้อมทั้งได้มีการมอบฟัก ให้แก่นายแพทย์นิรันดร์ รวมถึงได้มอบรูปปั้นเณร ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลในงาน

ส่วนบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำเอาเชือกมาผูกบริเวณเสาหน้าทางเข้าอาคาร แล้วนำรูปภาพผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงติดบนเชือกเป็นทางยาว ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่า มีบางภาพที่เป็นภาพศพผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมโดยไม่ผ่านการเซ็นเซอร์

“อมรา”ซัดแดงไม่รู้ข้อเท็จจริง

ต่อมาด้านนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กมส. กล่าวหลังถูกคนเสื้อแดงบุกป่วนงานว่า ในการสอบสวนกรณีการสลายชุมนุมปี 2553 กับการสลายการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และคิดว่าผู้ที่กล่าวหามีความเข้าใจผิดอย่างมาก และได้รับรายละเอียดที่ไม่ครบถ้วน เราดำเนินการมาตลอด มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเหมือนกันทุกกรณี จึงคิดว่าผู้กล่าวหาจะเข้าใจเมื่อรายงานผลการสอบสวนออกมา

“เราจะไม่ตอบโต้เพราะถือว่าเขามาชวนทะเลาะ ยืนยันว่าเราทำงานด้วยความยากลำบากในบรรยากาศของความขัดแย้ง และถือว่าก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของกรรมการสิทธิฯ ที่อยู่ได้เพราะมีคนเข้าใจ การทำงานมีอุปสรรคมากจึงเป็นเหตุให้ล่าช้า แต่ยืนยันว่าการดำเนินการสอบสวนของกรรมการสิทธิฯ ทั้งกรณีสลายการชุมนุมปี 53 กับสลายการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนรายงานผลการสอบสวนการสลายการชุมนุมปี 53 ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบร่างรายงานครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะสรุปและเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้เมื่อใด” นางอมรากล่าว

คุกขวัญชัย 2ปี8เดือนทุบพธม.

วันเดียวกันศาลจังหวัดอุดรธานี ศาลอ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ โดยยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกนายขวัญชัย ไพรนา ประธานชมรมคนรักอุดรเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน และปรับเป็นเงิน 359,850 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ในคดีร่วมกันทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) จนเป็นเหตุให้รับอันตราย สาหัส ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน ที่บริเวณ หน้าสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551

โดยภายหลังจากฟังคำตัดสินของศาลได้ขวัญชัย ยืนยันว่าจะต่อสู้ในชั้นศาลฏีกาต่อไปและยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนเองเนื่องจากวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่บริเวณเกิดเหตุ พร้อมกันนี้ได้ให้ทนายยื่นประกันตัวไปเป็นเงินจำนวน 500,000 บาทเพื่อประกันตัวออกไปสู้คดีในศาลฏีกาต่อไป

สั่งคดีนปช.ตายเพราะปืนจนท.

ที่ห้องพิจารณาคดี 501 ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อเวลา 10.30 น. ศาลอ่านคำสั่งคดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ยื่นคำร้องหมายเลขดำ ช.6/2555 ขอให้ไต่สวนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายชาติชาย ชาเหลา แน่วร่วมนปช. ที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ก่อนถูกยิงที่บริเวณหน้าบริษัทกฤษณา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ถ.พระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี ในระหว่างเหตุการณ์กระชับพื้นที่ของกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ค.53

ศาลพิเคราะห์จากคำเบิกความของประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์แล้วมีคำสั่งว่า ผู้ตายคือนายชาติชาย ชาเหลา ถึงแก่ความตายที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 13 พ.ค.53 เมื่อเวลา 23.37 น. เหตุและพฤติการณ์แห่งการตาย สืบเนื่องมาจากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) เป็นเหตุให้สมองฉีกขาด ร่วมกับกะโหลกศีรษะแตกอย่างมาก ซึ่งวิถีกระสุนปืนมาจากแนวด่านตรวจแข็งแรงของเจ้าพนักงานซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณถนนพระราม 4 โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ

นางพลอน ขบวนงาม มารดาของนายชาติชาย เดินทางไปฟังคำสั่งโดยนำรูปหน้าศพของลูกชายไปด้วย กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกดีใจกับคำสั่งศาล อยากให้ศาลชี้ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด ขอให้นำตัวมาลงโทษ ที่ผ่านมาได้รับการเยียวยาจำนวน 8 ล้านบาทเศษ

จี้มาร์คเทือกให้ขอโทษ

ประเด็นดังกล่าวนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)แถลงเรียกร้องให้ให้นาย อภิสิทธ์และนายสุเทพในฐานะอดีตนายก และนายสุเทพเทือกสุบรรณ อดีตผอ.ศอฉ.รองนายก ออกมาขอโทษญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการนับหนึ่งของกระบวนการปรองดองในชาติ

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าพูดไปพรรคประชาธิปัตย์ก็หาว่าตั้งธง ตนไม่มีธง มีแต่ความถูกต้อง ใครทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบ เพราะคนตายเยอะ ชีวิตคนตายมีคุณค่า ศพเดียวก็เยอะแล้ว นี่ตั้ง 99 ศพ สมัยเป็นนายตำรวจมีการวิสามัญฆาตกรรม เห็นคนตายยังต้องไปทำบุญ 7 วัด นั่นเป็นงานในหน้าที่แท้ๆ แต่มันนอนไม่หลับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ออกมาบอกว่านายกฯไม่ต้องรับผิดชอบ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แล้วตอนนั้นร้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ก็ร้องเอง ทีคนอื่นบอกต้องรับผิดชอบ พอตัวเองบอกไม่ต้องรับผิดชอบ ถ้าพูดอย่างนั้นก็ไม่ยุติธรรม เป็นคนไปร้องป.ป.ช.เอง เมื่อถามว่าจะแยกไปเป็นอีกคดีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่บอกเดี๋ยวหาว่าวางธง ประชาธิปัตย์เก่ง ทำคดียางให้เป็นเรื่องการเมืองยังได้ พูดทุกวัน ไอ้สายล่อฟ้า

แยกคดีเล่นงานมาร์ค-เทือก

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงเรื่องที่ศาลสั่งคดีศพนายชาติชาย ชาเหลา ชาวสุรินทร์ แนวร่วม นปช.ว่าขั้นตอนต่อไปศาลจะส่งคำสั่งพร้อมสำนวนทั้งหมดกลับมาที่ดีเอสไอ ดีเอสไอก็จะร่วมกับ บ.ชน.ดีเอสไอ อัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

เพื่อหาคนรับผิดชอบ สำหรับเหตุผลว่าทำไมเราต้องแยกทำรายคดี เพราะแต่ละรายจะมีความแตกต่างในรายละเอียดไม่เหมือนกัน คงไม่ใช่ว่าทั้ง 98 ศพ จะเกี่ยวข้องกับ ศอฉ.ทั้งหมด เราต้องฟังข้อยุติที่ได้จากศาลในการไต่สวน อะไรถ้าไม่เกี่ยวกับการสั่งการของ ศอฉ.ก็ไม่เกี่ยว อะไรที่เกี่ยวก็เกี่ยว เป็นเรื่องที่เรามีความจำเป็นต้องพิจารณาในรายละเอียดเป็นรายคดี

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังขอความเป็นธรรมหลังถูกฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์โจมตีอย่างหนัก เพราะเราดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายที่ออกคำสั่งและ ฝ่ายเสื้อแดงฮาร์คคอร์ถึงถูกฟ้องศาลติดคุกติดตารางไปแล้วก็มี แต่คดีอื่นเราไม่เกี่ยวข้อง คือคดีปิดสนามบิน คดีเสื้อเหลืองเพราะเป็นเรื่องของตำรวจ

“เมธี” สู้คดีหมิ่นตุ๊ดตู่

วันเดียวกันศาลอาญานัดสอบปากคำคดีหมิ่นประมาท ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 46 ปี แกนนำ นปช.จำเลยคดีก่อการร้าย เป็นโจทก์ฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตแนวร่วม นปช. ที่ 1, บริษัท นสพ. แนวหน้า จำกัด ที่ 2, นายโชคชัย สุมน บก.นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการรายวันที่ 3 ,นายวัชระ เพชรทอง สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ 4 บริษัท เอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด ที่ 5 บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด ที่ 6 และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บก.นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการรายวันที่ 7

โดยคำฟ้องโจทก์ระบุนายเมธี จำเลยที่ 1 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่าโจทก์ทุจริตเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท ทั้งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดที่พัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่า โจทก์โทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลย และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ

เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และทั่วราชอาณาจักร

โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งเจ็ดฟังอย่างละเอียด และสอบถามจำเลย ปรากฏว่า พวกจำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี จากนั้นทนายโจทก์แถลงยื่นบัญชีระบุพยาน5 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยได้จัดเตรียมพยานไว้สู้คดี จำนวน 21 ปาก ใช้เวลา 6 นัด ศาลพิจารณาแล้ว จึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 3 ธ.ค.ศกหน้า เวลา 09.30 น.

[ปรัชญา]

.

[ปรัชญา]

ทิ้งรายได้เดือนละ2แสนบาทสู่เส้นทาง'วีไอ'ภาสุชา อุตรวณิช

มีเงินสดไหลเข้าบริษัทเดือนละกว่า 200,000 บาท แต่ 'ภาสุชา อุตรวณิช'
ก็เลือกปิดธุรกิจขนส่งก้าวสู่เส้นทาง 'วีไอ' รับเหมาดูแลพอร์ตของคนทั้งบ้าน

หนึ่งในเซียนหุ้นรุ่นใหม่ “ภา” ภาสุชา อุตรวณิช คุณแม่ยังสาววัย 34 ปี อดีตเจ้าของธุรกิจขนส่ง มีเงินสดไหลเข้าบริษัทเดือนละกว่า 200,000 บาท แต่ภา เลือกที่จะปิดธุรกิจส่วนตัว เพื่อออกมาลงทุนในตลาดหุ้นแนว Value Investor (วีไอ) ภายใต้พอร์ตของสามี ก่อนจะมาเปิดพอร์ตเป็นของตัวเอง และเธอยังรับหน้าที่ดูแลหุ้นค้าปลีกจำนวน 100 หุ้น ที่ลูกสาววัย 7 ขวบ ตัดสินใจทุบกระปุกออมสินนำเงินเก็บ 1,000 บาท บวกกับเงินเติมให้ของพ่อแม่มาลงทุน จนสามารถสร้างผลตอบแทน 100% ภายในระยะ 1 ปี ได้สำเร็จ

ภา ยึดแนวทางการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม หวังผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 15% ที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนเติบโตอย่างน่าพอใจ ขณะเดียวกัน เธอพยายามปลูกฝังลูกสาวให้รักการอ่านหนังสือ และออมเงิน ด้วยการหยอดกระปุกวันละ 1 บาท หรือมากกว่านั้น ทุกวันสาวน้อยของเธอจะเหลือเงินค่าขนมกลับบ้านวันละไม่ต่ำกว่า 10 บาท จากเงินค่าขนมวันละ 40 บาท ภาสอนลูกสาววัย 7 ขวบว่า หากเติมเงินลงไปในพอร์ตแล้วเลือกหุ้นดีๆ หนูจะสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นได้ทันที

"โตขึ้นหนูไม่จำเป็นต้องทำอาชีพนักลงทุนเหมือนแม่ แต่ขอให้รู้จักลงทุน เพราะการออมจะทำให้มีเงินเลี้ยงตัวเองได้ตลอด และหนูจะพบกับคำว่า..อิสระทางการเงิน"

เธอคัดหุ้นมาให้ลูกเลือกพร้อมเหตุผลและลูกสาวก็ตัดสินใจเลือกหุ้น "ค้าปลีก" ด้วยตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าห้างสรรพสินค้ามีคนเข้าออกทุกวัน มากพอๆกับโรงพยาบาล ไม่เพียงออมเงินไว้ในตลาดหุ้นเท่านั้น เธอยังมีอีกกระปุกเก็บเงินไว้ซื้อสิ่งของที่อยากได้ โดยมีเหตุผลว่าการลงทุนต้องฝึกฝนกันตั้งแต่เด็กๆ เปรียบเสมือนภาษาอังกฤษที่ต้องบ่มกันตั้งแต่ยังเล็กโตขึ้นถึงจะสบาย

เจ้าของนามแฝง "KIRI" ในเวบไซต์ไทยวีไอ ย้อนประวัติส่วนตัวให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า เรียนจบคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เกียรตินิยมอันดับ 2 เมื่อเรียนจบก็ไปฝึกงานเกี่ยวกับการแปลใน บริษัท สยามมิชลิน จากนั้นก็ออกมาเรียนต่อปริญญาโทคณะอักษรศาสตร์ ด้านการแปลวรรณกรรม ระหว่างนั้นก็ไปทำงานในบริษัท อัลคาเทล ผู้รับเหมาติดตั้งระบบเทเลคอม และจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ในตำแหน่งโอเปอร์เรเตอร์ รีเซฟชั่น และแอดมิน ทำงานได้ 1 ปี ก็ตัดสินใจลาออก คู่หมั้นที่เจอกันตอนทำงานในสยามมิชลิน ต้องบินไปทำงานที่ประเทศฝรั่งเศสปีกว่า ภาจึงตัดสินใจแต่งงานตอนอายุ 24 ปี แล้วบินไปด้วยกัน

"ตอนนั้นเศร้ามากที่เรียนไม่จบปริญญาโท ทั้งๆ ที่อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว ช่วงที่อยู่ฝรั่งเศส ด้วยสถานะของวีซ่าไม่สามารถทำงานได้ แต่ไม่อยากอยู่เฉยๆ จึงไปลงเรียนหลักสูตรภาษาฝรั่งเศส สำหรับนักศึกษาต่างประเทศ 4-5 เดือน และกะว่าเมื่อเรียนจบจะไปท่องยุโรปก่อนกลับเมืองไทย สุดท้ายผ่านมา 11 เดือน สามีไม่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนอกจึงขอเร่งคอร์สการทำงานเพื่อกลับเมืองไทยเร็วขึ้น"

พอกลับมาเมืองไทย ภาไปทำธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟโบราณ ภายใต้แบรนด์ "อาร์บีคอฟ" เป็นธุรกิจของครอบครัวสามี เขามีโรงงานกาแฟ แถวชลบุรี ทำได้ไม่นานก็เลิก เพราะอยากทำธุรกิจที่ใหญ่กว่านี้ บังเอิญมีโอกาสได้คุยกับคุณอาของสามี เขาทำธุรกิจขนส่งดูน่าสนใจจึงตัดสินใจขายบ้านย่านศรีราชาที่ไม่ได้อยู่อาศัยได้เงินมาล้านกว่าบาท แล้วไปยืมเงินพ่อแม่ของแฟนมาอีก 2 ล้านกว่าบาท เพื่อมาซื้อรถบรรทุก 2 คัน ทำธุรกิจขนส่งสินค้า มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตอนนั้นมีพนักงาน 7 คน

"ธุรกิจประสบความสำเร็จมาก มีเงินสดเข้าบริษัททุกเดือน คิดเป็นรายได้ตก 200,000 กว่าบาทต่อเดือน ตอนนั้นอายุ 27-28 ปี ทำได้เกือบ 2 ปี ก็เลิก เริ่มทำงานยากขึ้นมีคนอยากทำธุรกิจนี้ค่อนข้างมาก บางคนไม่จ้างพนักงานทำเองทั้งหมดทำให้เขามีต้นทุนไม่สูง อีกอย่างเริ่มสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว"

เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดหุ้นว่า สามีและเพื่อนๆนักลงทุนชวนไปฟังงานสัมนา ตั้งแต่สมัยที่ มนตรี นิพิฐวิทยา (อดีตคอลัมนิสต์ Value Way) เป็นประธานเวบไซต์ไทยวีไอ ฟังเสร็จรู้สึกประดับใจ มีคนกลุ่มหนึ่งสนใจในสิ่งเดียวกันทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้ทำงานหรือเรียนด้วยกัน แต่เขาเหล่านั้นสามารถนั่งคุยเรื่องเดียวกันได้อย่างออกรสชาติ

ก่อนจะมาฟังงานสัมมนามีโอกาสได้อ่านหนัง “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร อ่านจบรู้สึก..เฮ้ย!! การลงทุนมันเป็นวิธีทำงานอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเก็งกำไร อาจารย์จะสอนวิธีการเลือกหุ้นว่า ต้องเลือกธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และต้องมีความเป็นไปได้จริงๆ ว่าธุรกิจของเขาจะสร้างกำไร ดร.นิเวศน์ ยังสอนให้รู้จักคำว่า Margin of Safety (ส่วนเผื่อความปลอดภัย) สอนวิธีประเมินมูลค่าแบบง่ายๆ ด็อกเตอร์ทำให้ภารู้ว่า..ถึงเราไม่ได้เก่งเลข แต่ถ้าเข้าใจธุรกิจ ก็สามารถพัฒนาตัวเองด้านการลงทุนได้เหมือนกัน

เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับการลงทุนมากขึ้น ด้วยการเดินสายไปฟังงานสัมมนาต่างๆ รวมถึงอ่านกระทู้ในห้อง "ร้อยคนร้อยหุ้น" ในเวบไซต์ ไทยวีไอ เรียกว่าหาความรู้ให้มากที่สุด หลังจากนั้น 6 เดือน สามีก็ตัดสินใจลงทุน น่าจะเป็นช่วงสิ้นปี 2549 ซึ่งภาก็ลงทุนร่วมด้วย โดยไปเปิดพอร์ตกับ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) วงเงิน 200,000 บาท นำเงินที่ได้จากการทำธุรกิจขนส่งมาลงทุน

เธอเล่าว่า ช่วงแรกๆ มีหุ้นในพอร์ต 2-3 ตัว ภาเลือกเองจริงๆ หุ้นถ่านหินไซด์เล็ก เพราะเห็นว่าหุ้นพลังงานช่วงนั้นขึ้นมาเยอะมาก หุ้น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เป็นตัวแรกที่สามีภรรยาช่วยกันเลือก เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมาก มูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2551 นอนกินเงินปันผลอย่างเดียวก็สามารถเลี้ยงคนทั้งครอบครัวได้แล้ว

กลยุทธ์หลักๆ เน้นซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตปีละ 20% เช่น กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ และอุตสาหกรรมต่างๆ ฯลฯ ที่เหลือจะดูคุณภาพของหุ้น เช่น ความสามารถในการดำเนินกิจการ รวมถึงดูมาร์จิ้น (กำไรขั้นต้น) ด้วย แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีระดับเท่าไร โดยจะนำมาร์จิ้นของบริษัทที่สนใจไปเทียบกับคู่แข่งว่าทำดีกว่าหรือเปล่า! จากนั้นจะดูพวกค่าใช้จ่ายว่าทำได้ดีหรือไม่ และดูว่าธุรกิจใหม่ๆ สาขาใหม่ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เขาทำจะสามารถทำให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่

ในระหว่างที่ลงทุน Full Time เธอมีอะไรให้ทำอีกอย่าง คือสละเวลา 5-6 เดือน ไปสอนหนังสือในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดเสนานฤมิตร อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี แต่ก็ยังดูแลพอร์ตเหมือนเดิม นอกจากนั้นมีโอกาสไปทำงานเป็นเลขาใน “สยามมิชลิน” ปีกว่า แต่ก็ลาออกตอนปี 2554 เพราะพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้นต้องมีคนดูแล

"ภาเริ่มเปิดพอร์ตชื่อตัวเองตอนปี 2552 ไม่ได้ดังแล้วแยกวงนะ! พอร์ตของครอบครัวก็ยังดูแลอยู่เหมือนเดิม ตอนนั้นเปิดพอร์ตกับ บล.ภัทร กลยุทธ์เน้นกระจายการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม วิธีการลงทุนส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงตรงที่ไม่เน้นบริษัทที่เติบโตปีละ 20% แล้ว แต่จะชอบบริษัทที่มีผลประกอบการขยายตัวสม่ำเสมอ และรายได้ไม่ผันผวน ภาจะทำตารางประมาณการผลประกอบการล่วงหน้า 1-2 ปี ถ้าข้อมูลมากจะทำยาวกว่านั้น เมื่อเรามีข้อมูลจะทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น"

คุณแม่วัย 34 ปี บอกว่า ตอนนี้มีหุ้นกลุ่มค้าปลีก หุ้นโรงพยาบาล และหุ้นพร็อพเพอร์ตี้ ที่เหลือเป็นหุ้นที่กำลังเติบโต ถามว่า “รัก” กลุ่มไหนมากสุด เวลานี้ต้องยกให้ "หุ้นค้าปลีก" แม้ค่า P/E จะสูงมาก แต่ถ้าถือยาวผลตอบแทนโอเคเลย เพราะความเสี่ยงต่ำ แถมผลประกอบการยังเติบโตสม่ำเสมอ

ที่สำคัญนักลงทุนสามารถติดตามความ “ฮอต” ของบริษัทได้จากการเดินไปตามสาขาต่างๆ ถ้าคนเข้ามาซื้อของเยอะ ขายดีแน่นอน เมื่อก่อนเคยเห็นหุ้นค้าปลีกบางตัวมีผลประกอบการขยายตัวสูงถึง 50% ฉะนั้นการที่ ดร.นิเวศน์ เคยบอกว่า หุ้นกล่มุนี้ยังคงน่าลงทุนมันถูกต้องแล้ว "หุ้นค้าปลีกเปรียบเป็นหุ้นสามัญประจำบ้านที่ทุกครอบครัวต้องมี” (หัวเราะ)

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เป็นอีกตัวที่ “หลงรัก” ธุรกิจที่อยู่กับความจำเป็นของคน เราป่วยรักษาตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว รพ.เอกชนในเมืองไทยมีอนาคตมากๆ คนมีรายได้สูงขึ้นเขาอยากซื้อความสะดวกสบาย อยากซื้อเวลา จะให้ไปนั่งรอคิวโรงพยาบาลของรัฐบาลคงไม่ไหว ปกติธุรกิจโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี

เธอยังชอบหุ้นพร็อพเพอร์ตี้ บริษัทขนาดใหญ่มีแนวโน้มจะกินมาร์เก็ตแชร์รายเล็กๆอีกมาก แต่ละเจ้าเขาเก่งเรื่องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อีกอย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลก แต่จะเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ค่อนข้างปลอดภัย ถ้าจำเป็นต้องซื้อบ้าน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องซื้อ

ถามว่าวันนี้มูลค่าพอร์ตหลักอะไร เธอหัวเราะก่อนบอกว่า ผลตอบแทนทุกวันนี้เป็นที่น่าพอใจมาก ทั้ง 2 พอร์ต (พอร์ตชื่อสามีและของตัวเอง) เติบโตทุกปีเฉลี่ย 15% ขึ้นไป พอร์ตหลักอะไรมันไม่สำคัญแล้วละ! ขอแค่สามารถเลี้ยงคนในครอบครัวได้ก็พอใจแล้ว ตอนนี้ทั้ง 2 พอร์ตมีหุ้นรวมกันจนจะกลายเป็น SET50 อยู่แล้ว เรามองพอร์ตของครอบครัวเป็นกองทุน ถ้ามั่นใจในการทำธุรกิจ และวิธีการทำรายได้ของบริษัทก็ลงทุนเลย แม้จะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะมีคนมาเห็นคุณค่าเหมือนที่เราเห็นก็ตาม

หุ้นทุกตัวเราคัดสรรมาดีแล้ว แต่ในพอร์ตจะมีหุ้น 2 เกรด คือ ประเภท "ดิวิชั่น 1" และ "ดิวิชั่น 2" พวกเกรด 2 จะเปลี่ยนเป็น 1 ได้หรือไม่ ก็เป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่ซูปเปอร์สต็อก เราแบ่งหุ้น "ดิวิชั่น 1" และ "ดิวิชั่น 2" อย่างละครึ่ง แบบ 1 เรามองว่าธุรกิจมั่นคง รายได้ไม่ผันผวนมาก ทำธุรกิจอิงการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ผู้บริหารต้องเป๊ะ! (เก่ง) มาก ธรรมาภิบาลเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม ส่วนดิวิชั่น 2 เป็นพวกหุ้น "เทิร์นอะราวด์" และหุ้น "อันเดอร์ แวลู" ธุรกิจงั้นๆ

เซียนหุ้นวีไอ ทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่ลงทุนในตลาดหุ้น ได้บทเรียนการลงทุนหลายเรื่อง โดยเฉพาะในช่วงเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ มันสอนให้เรารู้จักรับมือ ช่วงนั้นทุกคนเป็นเหมือนกันหมด คือราคาหุ้นลงมาเยอะมาก สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เราต้องคุมอารมณ์ให้อยู่ อย่าทำให้ข่าวร้ายมาทำให้เสียใจจนล้มเลิกการลงทุน ที่สำคัญเราต้องเก็บใจให้ปลอดภัยจากตลาดหุ้น

เมื่อหุ้นมันลงมาขนาดนั้น เวลาดัชนีและหุ้นกลับตัวมันจะขึ้นแรง ฉะนั้นเมื่อมีสมมติฐานว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ก็ควรกลับไปดูว่า ธุรกิจอะไรไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ ส่วนใหญ่ก็เป็นธุรกิจที่มีรายได้จากการบริโภคภายในประเทศ ตอนนั้นก็เจอบริษัทที่ยอดขายไม่ได้รับผลกระทบเลย เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บางตัว และค้าปลีก

“อยากฝากบอกนักลงทุนว่า ให้มองการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจจริงๆ มองไปในรูปแบบระยะยาว เพราะเราจะได้เห็นว่า บริษัทนั้นมีการเติบโตแบบที่คาดการณ์หรือไม่...อย่าใจร้อนขายก่อน จงอย่ามองตลาดหุ้นเป็นเพียงหน่วยลงทุน ไม่เช่นนั้นจะหาความสุขไม่ได้เลย” เซียนหุ้นวัย 34 ปี กล่าวเตือน



วันที่ 18 ธันวาคม 2555

[ปรัชญา]

[ปรัชญา]

SET:หุ้นไทยปิดบวก 0.28% ซื้อหุ้นกลุ่มไอซีที-พาณิชย์พยุงตลาด

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--รอยเตอร์


ดัชนีหุ้นไทย ปิดบวก 0.28% หลังภาวะการซื้อขายภาคบ่ายดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน

มาก โดยดัชนีปรับตัวลงมาในแดนลบ สลับกับการปรับขึ้นในแดนบวก ซึ่งมีแรงซื้อหุ้นใน

กลุ่มไอซีที และกลุ่มพาณิชย์ที่จะประคองตลาด

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรใน

ระหว่างวัน หลังดัชนีปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยภายนอกเกี่ยวกับการแก้ปัญหา

fiscal cliff ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนปีใหม่ และถือเป็นปัจจัยที่ดีต่อ

ตลาดหุ้น โดยนักลงทุนยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดบวก 3.85 จุด มาที่ 1,362.94 ขณะที่ดัชนีสูงสุด

อยู่ที่ 1,366.17 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 16 ปี ส่วนดัชนีต่ำสุดอยู่ที่

1,348.15 โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท

ขณะที่ SET 50 ปิดบวก 4.24 จุด หรือ 0.46% มาที่ 927.02 และ SET 100

ปิดบวก 6.78 จุด หรือ 0.33% มาที่ 2,037.78

ดัชนีกลุ่มธนาคาร บวก 0.11% มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ 21.37% รองลงมา

ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ลบ 0.70%, กลุ่มไอซีที บวก 1.08% และกลุ่มพาณิชย์

บวก 1.70%


"ตลาดช่วงบ่ายค่อนข้างผันผวนมาก ระหว่างวันดัชนีปรับตัวลงแรงราว 10 จุด

หลังจากนั้นก็กระเตื้องขึ้นมา" นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าว

นายพงศ์ภัทร กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงในระหว่างวัน เนื่องจากถูก

แรงขายทำกำไร หลังจากดัชนีปรับขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจัยภายนอก

ยังมีทิศทางที่ดี โดยคาดว่าการแก้ปัญหา fiscal cliff น่าจะเสร็จสิ้นก่อนปีใหม่

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ เขา กล่าวว่า จะต้องติดตามเม็ดเงินลงทุน

ของต่างชาติว่าจะเป็นไปในทิศทางใดซึ่งหากเงินทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่อง ก็จะทำให้

ภาวะตลาดหุ้นยังมีทิศทางที่ดี โดยดัชนีจะมีแนวต้านที่ 1,367 และ 1,370 ขณะที่

แนวรับอยู่ที่ 1,344


หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

KBANK ลบ 2.00 บาท มาที่ 192.00 บาท

BBL บวก 2.00 บาท มาที่ 196.50 บาท

BTS ลบ 0.05 บาท มาที่ 6.80 บาท

THCOM ลบ 1.50 บาท มาที่ 22.80 บาท

CPALL บวก 1.00 บาท มาที่ 46.25 บาท-

[ปรัชญา]

***หุ้นโค้งสุดท้าย...SET แข็งแกร่ง


ดัชนี SET วันนี้ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,362.94 จุด เพิ่มขึ้น +3.85 จุด
หรือ +0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท

- นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +213.37 ล้านบาท
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -786.56 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +1,961.56 ล้านบาท
- นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ -1,388.37 ล้านบาท
นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก บอกในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงการซื้อขายภาคบ่าย ทำให้พลิกกลับมาปิดบวกได้ จากที่ระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรฉุดดัชนีฯร่วง 10 จุด โดยหลังจากดัชนี SET กลับมาบวกทะลุ 1,350 จุด ก็ถือเป็น Buy signal ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่สัญญาณเชิงลบ

นายธวัชชัย บอกอีกว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในช่วงวันนี้บอกว่าเป็นเพียงแรงขายกำไร
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดย SET ขึ้นทะลุผ่าน 1,355 จุด
ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นและมีแรงซื้อกลับเข้ามา

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ขึ้นขาย-ลงซื้อ

จากการรวบรวมของ Money Channel บริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ให้กรอบการลงทุนทางด้านเทคนิคและหุ้นแนะนำในวันพรุ่งนี้ดังนี้
บล.คันทรี่ กรุ๊ป ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,355-1,365 จุด หุ้นเด่น SOLAR
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,345-1,370 จุด หุ้นเด่น BJC
บล.ไอร่า ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,342-1,364 จุด หุ้นเด่น KMC
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,350-1,365 จุด หุ้นเด่น THANI

[ปรัชญา]

หุ้นไทยปิดบวก3.85จุดตามตลาดภูมิภาค

ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 3.85 จุด ตลาดพักฐานช่วงสั้นระหว่างเทรด
แต่ดีดกลับมาได้ช่วงท้าย

วันนี้ (18 ธ.ค. 55)ตลาดหุ้นไทยปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด(+0.28%)มูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการพักฐานช่วงสั้นในระหว่างเทรด หลังตลาดเข้าสู่เขต Overbought อย่างไรก็ดี ยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุน LTF, RMF และแรงหนุนจากความคาดหวังการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ทำให้ตลาดฯดีดขึ้นมาเป็นบวกได้ในช่วงท้ายตลาด ส่วนตลาดภูมิภาคก็อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย เว้นแต่ตลาดญี่ปุ่นที่บวกค่อนข้างมากรับผลการเลือกตั้ง พรุ่งนี้คาดตลาดฯอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นจากหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พร้อมให้แนวรับ 1,345-1,350 แนวต้าน 1,365 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด(+0.28%)มูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,366.17 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,348.15 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 240 หลักทรัพย์ ลดลง 316 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 176 หลักทรัพย์ นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธการลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการพักฐานช่วงสั้นในระหว่างเทรด เนื่องจากตลาดได้เข้าสู่เขต Overbought แล้ว แต่ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงท้ายตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน LTF และ RMF ช่วยพยุงไว้ นอกจากนี้ยังได้มีความคาดหวังการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff เป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ดี คงจะต้องรอดูว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร

\ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ยกเว้นแต่ตลาดญี่ปุ่นที่บวกได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากรับผลจากการเลือกตั้งที่เป็นไปตามความคาดหมาย แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(19 ธ.ค.)นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯอาจอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากยังอยู่ในเขต Overbought โดยอาจเจอแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง พร้อมให้แนวรับ 1,345-1,350 จุด แนวต้าน 1,365 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,079.24 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,834.32 ล้านบาท ปิดที่ 196.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 1,695.98 ล้านบาท ปิดที่ 6.80 บาท ลดลง 0.05 บาท
THCOM มูลค่าการซื้อขาย 1,546.71 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,384.58 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

[ปรัชญา]

18/12/55 ตอน จับตาญี่ปุ่นแผลงฤทธิ์
สรุปภาวะหุ้นแบบฮาๆ ประจำวันที่ 18/12/55



http://ibizchannel.com/view.aspx?cid=559

[ปรัชญา]

บีทีเอสลุยกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน"BTSGIF"ตั้งบลจ.บัวหลวงบริหารกองทุน

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบีทีเอส อนุมัติให้มีการระดมทุนโดยจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งมวลชนราง"กองทุนบีทีเอส โกรท" โดยจะลงทุนในรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตที่จะได้รับจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าสายหมอชิต - อ่อนนุช และ สะพานตากสิน - สนามกีฬาแห่งชาติ เป็นระยะทาง 23.5 กิโลเมตร พร้อมนำเงินระดมทุนส่วนหนึ่งไปขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีชมพู อีกด้วย พร้อมตั้งบลจ.บัวหลวง เป็นผู้จัดการกองทุน และมีบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดจ่อระดมทุนได้ในเร็วๆนี้

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น BTS อนุมัติให้ BTS ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนซึ่งจะเข้าลงทุนในรายได้ค่าโดยสารสุทธิที่จะได้รับจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 4 ธันวาคม 2572 ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ล้านบาท แต่ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

โดยรายได้ค่าโดยสารสุทธิส่วนสำคัญประกอบด้วยรายได้ค่าโดยสารหักต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนที่เกี่ยวข้อง นอกจากการเติบโตของรายได้ค่าโดยสารสุทธิแล้ว กองทุนยังมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในอนาคตที่ BTS หรือ BTSC เป็นผู้พัฒนา ตลอดจนจากการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ ตามที่กฎหมายหลักทรัพย์อนุญาต ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF (BTS Rail Mass Transit Growth Infrastructure Fund ) อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานกลต. เมื่อสำนักงาน กลต. อนุมัติการจัดตั้งและจัดการ จะมีการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนเป็นการทั่วไปและจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในลำดับต่อไป

"กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF หากได้รับอนุมัติจัดตั้งจากสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในเวลาที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกของไทย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการได้รับประโยชน์จากรายได้ค่าโดยสารสุทธิจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก ที่มีรายได้เติบโตอย่างสม่ำเสมอจากอัตราการเติบโตของผู้โดยสารโดยเฉลี่ย 10.9% ต่อปีตลอด 13 ปีที่ผ่านมา และยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงสร้างเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนเพื่อการเติบโต นอกจากนั้นผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนนี้ ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ในเงินปันผลที่จะได้รับจากกองทุนเป็นเวลาถึง 10 ปี นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน"

สำหรับเงินสุทธิบางส่วนที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ BTS จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลักในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ตามแผนแม่บทของรัฐบาลที่จะลงทุนขยายระบบการขนส่งมวลชนทางรางเพิ่มเติมอีกกว่า 10 เส้นทางเป็นระยะทางรวมประมาณ 508 กิโลเมตร ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงภายในปี 2572 โดย BTS มีความประสงค์ที่จะลงทุนในเส้นทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงส่วนต่อขยายสายสีเขียวจากหมอชิตไปสะพานใหม่ และจาก แบริ่งไปสมุทรปราการ สายสีชมพูจากแครายไปมีนบุรี และรถไฟฟ้าขนาดเบา (Light Rail Transit) จากบางนาไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับเส้นทางที่เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักซึ่งจะทำให้การเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเครือข่ายที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและทำให้ประชาชนได้มีโอกาสเดินทางสัญจรในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงด้วยวิธีการที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย

ทั้งนี้ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด เป็นผู้จัดการกองทุนและมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็น ที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศ บริษัท Morgan Stanley & Co. International Plc. บริษัท UBS AG, Singapore Branch และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)เป็น joint international financial advisors, joint global-coordinators และ joint bookrunners ของการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2555

[ปรัชญา]

TOPNEWS:ข่าวเด่นในประเทศวันนี้

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--รอยเตอร์

ข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน

*ตลาดอนุพันธ์ สรุปการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส SET50 วันนี้(9342)

*ทริสคงอันดับเครดิตองค์กร"โฮมโปรฯ" ที่"A+" แนวโน้ม"คงที่"(9341)

*ตลท.เผยวันนี้นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 1,961.56 ล้านบาท(9340)

*ฟิวเจอร์ส SET50 วันนี้ปิดบวก, หวังสหรัฐบรรลุข้อตกลงแก้ปัญหาการคลัง(9339)

*หุ้นไทยปิดบวก 0.28% ซื้อหุ้นกลุ่มไอซีที-พาณิชย์พยุงตลาด(900)

*บลจ.ธนชาต เสนอขาย 3 กองทุนตราสารหนี้ 3-6 เดือน, คาดผลตอบแทน 2.6-3.0%

(9334)

*SENA คาดกำไรสุทธิปี 56 โตมากกว่า 20%, เปิด 12 โครงการใหม่(9332)

*เมย์แบงก์กิมเอ็งมองเป้าหุ้นไทยปี 56 ที่ 1,400-1,450 แนะหุ้นเกี่ยวกับลงทุนรัฐ(9331)

*บลจ.วรรณ มองแนวโน้มหุ้นไทยปีหน้ายังขาขึ้น, แนะลงทุน LTF เน้นหุ้นเติบโตสูง(9327)

*ไซแมทฯ เผยอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทำธุรกิจกับบริษัทให้บริการมือถือระบบ 3G(9321)

*กลุ่ม TRUE ตั้งงบลงทุนปีหน้า 2.65 หมื่นลบ.มาจากเงินกู้-กระแสเงินสด(9320)

*ส.นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยปี 56 เฉลี่ยที่ 1,471 จุด, EPS โต 15.2%(9318)

*BBL สูงสุดเกือบ 4 เดือน คาดสินเชื่อ Q4 โตแข็งแกร่ง, ลูกค้าขนาดใหญ่หนุน(9309)

*THCOM ต่ำสุดเกือบ 1 เดือน โบรกฯลดคำแนะนำ-กังวลเซ็นสัญญาลูกค้าอินเดีย(9304)

*KCE สูงสุดกว่า 2 เดือน โบรกฯแนะเก็งกำไร-คาดกำไร Q4 สูงสุดของปีนี้(9599)

*ลิฟวิ่งแลนด์ ขายหุ้นเพิ่มทุน 690 ล้านหุ้น แบบ PP ราคาหุ้นละ 0.25 บาท(9591)

*ไทยยูเนี่ยนฯ จะเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน PPC, ร่วมทุนมิตซูบิชิ ทำฟาร์มกุ้ง(9589)


ข่าวตลาดเงิน-เศรษฐกิจ


*บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายทรงตัว, แรงซื้อดอลล์ช่วงปลายปีสกัดบาทแข็ง(901)

*ครม.เห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา, ลดอัตราสูงสุดเหลือ 35%(9333)

*PwC เผยกรุงเทพฯติดอันดับ 6 ในเอเซียแปซิฟิกที่น่าลงทุนด้านอสังหาฯ ในปี 56(9330)

*ครม.อนุมัติต่ออายุปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล อีก 1 เดือน(9329)

*ยอดขอส่งเสริมลงทุน 11 เดือนแรกปีนี้ 9.36 แสนลบ., ชูไทยฐานผลิตรุกอาเซียน(9303)

*ทองแท่งในปท.เช้านี้บวกเล็กน้อย, ทองเอเชียทรงตัวรอดูแก้ fiscal cliff(9592)

*ผลประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 28, 91 และ 182 วัน ในวันนี้(9590)


ข่าวทั่วไป


*ครม.ยังไม่สรุปเรื่องทำประชามติแก้รธน.,ตั้งคณะทำงานศึกษารายละเอียดเพิ่ม(9328)

[ปรัชญา]

แมคโดนัลด์ห้ามนั่งแช่เกิน1ชม.

แมคโดนัลด์ ห้ามติว-ขายตรง-นั่งแช่เกิน 1 ชั่วโมงในร้านสาขา หลังลูกค้าร้องเรียนทุกช่องทางต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี


นางสายชล ทรัพย์มากอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัทแมคไทย ผู้ให้บริการร้านอาหารบริการด่วน “แมคโดนัลด์” กล่าวว่า บริษัทได้วางนโยบายด้านความพึงพอใจของลูกค้าที่เข้ามาใชบริการรับประทานอาหารภายในร้านสาขาแมคโดนัลด์อย่างต่อเนื่อง นับแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ สื่อสังคมออนไลน์ อีเมล์ และการสอบถามลูกค้าในร้าน ที่แสดงความเห็นต้องการให้ปรับปรุงการอำนวยความสะดวกที่นั่ง ในช่วงเวลาอาหารกลางวันและมื้อค่ำ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทจึงได้จัดทำประกาศร้านสาขาแมคโดนัลด์ในกรุงเทพฯ เพื่อขอความร่วมมือลูกค้า และผู้ที่เข้ามาใช้บริการเพื่อทำกิจกรรมภายในร้าน ที่อาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าอื่นๆ ที่จะเข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาที่มีปริมาณลูกค้าคับคั่ง(พีค อาวส์) โดยขอให้ใช้สถานที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง และ ชาร์จแบตเตอรี่แล็ปท็อป-โทรศัพท์มือถือ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง

“ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับการร้องเรียนและข้อมูลจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในด้านการปรับปรุงให้บริการภายในร้าน จากนั้นจึงได้มีการประชุมหน่วยงานภายในก่อน พร้อมจัดทำประกาศเพื่อขอความร่วมมือดังกล่าว” นางสายชลกล่าว

สำหรับในข้อความประกาศระบุว่า ประกาศขอความร่วมมือ แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ให้บริการลูกค้าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคนในแต่ละเดือนภายใต้บรรยากาศร้านที่ทันสมัย พรั่งพร้อมด้วยความสะดวกสบาย อาทิ การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สัญญาณ WiFi หรือแม้กระทั่งปลั๊กไฟ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนรุ่นใหม่ในปัจุบัน เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน บริษัทฯ ขอความร่วมมือ เพื่อรักษาสิทธิของลูกค้าทุกท่านอย่างเท่าเทียมกัน ดังนี้

ทั้งนี้ จะต้องไม่ใช้สถานที่เพื่อการสอนหนังสือ ซึ่งมีการหมุนเวียนนักเรียนตลอดทั้งวัน การรวมกลุ่มทำงาน ประชุม สัมภาษณ์งาน ฯลฯ เป็นเวลานานเกินกว่าการใช้บริการปกติ (มากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป) ห้ามรวมโต๊ะเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อทำกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น มิให้มีการวางสิ่งของทิ้งไว้เพื่อจองโต๊ะ หากพบเห็นบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บทรัพย์สินดังกล่าวทันที เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่มีที่นั่ง และไม่รับผิดชอบใด ๆ ในทรัพย์สินดังกล่าว

พร้อมกันนี้ กรุณาสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มทุกครั้งที่ใช้บริการตามจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ห้ามเข้ามานั่งเฉยๆ เพื่อรอติวหนังสือ รอสัมภาษณ์งาน หรือรอประชุมงานขาย ฯลฯ หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่แล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือ กรุณาชาร์จไม่เกิน 30 นาที เพื่อเอื้อเฟื้อแก่ลูกค้าท่านอื่น เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของลูกค้า ไม่อนุญาตให้นำปลั๊กต่อพ่วงมาใช้โดยเด็ดขาด


18 ธันวาคม 2555

[ปรัชญา]

เปิดสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ 11 ม.ค.นี้

สยามพิวรรธน์ พร้อมนับถอยหลังสู่การเปิดตัวสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่เป็น
"เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์" 11 ม.ค. 2556


นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อาวุโส สายส่งเสริม-ธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า สยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่จะเป็น “Ideaopolis” เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ นับเป็นการปฏิวัติสู่ยุคใหม่ของวงการค้าปลีกไทยอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมโดยทั่วไปเท่านั้น

ทั้งนี้ สยามเซ็นเตอร์ จะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในภูมิภาคเอเชีย สำหรับศิลปิน ดีไซเนอร์ และนักออกแบบ ในทุกแขนง โดยได้จัดสรรพื้นที่บริเวณตลอดแนวโถงทางเดินบริเวณชั้น 1 ซึ่งเรียกว่า Idea Avenue เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เหล่าอาร์ทติสจัดแสดงผลงาน ประเดิมด้วยผลงานของสุดยอดกูรู 3 ท่าน ได้แก่ สมบัษร ถิระสาโรช ออร์กาไนเซอร์มือทองผู้สร้างสรรค์งานสุดบรรเจิด, กิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการออกแบบและธุรกิจสร้างสรรค์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และ ทรรศนัย ญานอุบล ผู้ก่อตั้ง The Embassy of Design Territory ร่วมมือกันเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของโปรเจกต์นี้

นายทินกร อัศวรักษ์ ออร์กาไนเซอร์แห่ง บริษัท คูโด เปิดเผยว่า หนึ่งในเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่สยามเซ็นเตอร์คัดสรรมาเพื่อคนไทย นั่นคือ ‘World Class Art Exhibition’ นำผลงานจริงของ แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) ศิลปินชาวอเมริกันฝีมือระดับตำนาน มาจัดแสดงถึง 6 ภาพด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Silver Factory ที่เป็นการจำลองบรรยากาศการทำงานจริงของวอร์ฮอลมาไว้ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง Fashion Exhibition ผลงานของ โยจิ ยามาโมโตะ (Yohji Yamamoto) ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก หรือแบรนด์ดังอย่าง กอม เด การ์ซอง (Comme des Garçons) และดีไซเนอร์ชั้นนำสายเลือดไทยอีกมากมาย อาทิ Playhound by Greyhound, Theatre และ Wonder Anatomie เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของดีไซเนอร์ระดับโลกและดีไซเนอร์แถวหน้าของไทยให้ปรากฏสู่วงการแฟชั่น และยังสะท้อนถึงการพัฒนาของวงการแฟชั่นไทยที่ก้าวล้ำทัดเทียมระดับสากล ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจะได้สัมผัส

ด้านนายสมบัษร ถิระสาโรช ออร์กาไนเซอร์ชื่อดังแห่งบริษัท ตือ จำกัด กล่าวว่า พื้นที่ Idea Avenue ประกอบด้วยโซนต่างๆได้แก่ Live Extendist เดินทางสู่โลกมหัศจรรย์และสถานที่ท่องเที่ยวในฝันทั่วโลกภายใน 5 นาที , Time Line Extendist บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันยาวนานกว่า 40 ปี ของสยามเซ็นเตอร์จากอดีตสู่ปัจจุบัน , Overhead Mirror Room สัมผัสความรักและผูกพันที่มีต่อสยามเซ็นเตอร์จากถ้อยคำสัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญหลากหลายวงการ, Idea Flow เปิดโอกาสให้เหล่าบรรดาแฟนพันธุ์แท้ได้แสดงความรู้สึกสนุกกับ การเขียนข้อความดิจิตอลให้ปรากฏบนจอภาพที่ออกแบบเป็นพิเศษ

ภายในงาน จะมีคนดังของไทยจากหลากหลายวงการ 40 คน ร่วมกันออกแบบตกแต่งงานศิลปะบนตัวตุ๊กตา “I Love Siam” ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสยามเซ็นเตอร์ที่ผู้คนคุ้นตา โดยแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Be Amazed (ผู้สร้างเซอร์ไพรส์ ), Be Inspired (ผู้สร้างแรงบันดาลใจ ) และ Be Revolutionary (ผู้นำการปฏิวัติ) จัดแสดงให้บุคคลทั่วไปได้รับชม

"คนรักสยามพลาดไม่ได้ในการเป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ในงาน “Let’s the Legendary Party Begins” งานแกรนด์ โอเพ่นนิ่งสุดอลังการของสยามเซ็นเตอร์ ที่จะได้พบกับสิ่งที่ไม่เคยพบ พร้อมร่วมเปิดประตูสู่ปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ของเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ในวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2556" นางมยุรีกล่าว

18 ธันวาคม 2555

[ปรัชญา]

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ ข่าวสด


รูปพิมพ์นิ้วหลุด อภิสิทธิ์ไม่พอใจอ้างถูกละเมิดสิทธิ์ แล้ว99ศพกลับไม่รู้สึกรู้สาในชีวิตคน

สันตะวา


หนังสือพิมพ์ ข่าวสด บดขยี้บีฑาความตะลบตะแลง ดีแต่พูด
ฉบับนี้ตรงกับวันอังคารที่ 18 เดือนธันวาคม พุทธศักราช 2555 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง


รูปพิมพ์นิ้วมือทำทะเบียนประวัติอาชญากรหลุดไปในโลกออนไลน์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ต้องหาคดีอาญา ไม่พออกพอใจ อ้างถูกละเมิดสิทธิ์ แต่ระหว่างนั่งเป็น นายกฯ แล้วปล่อยให้มีการตาย 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2 พัน กลับไม่รู้สึกรู้สาในชีวิตคนเหล่านี้


จับตาทีวีสาธารณะเมืองไทย ประเคนเวลาให้ อดีตนายกฯ จ้อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษพัลวันออกจอ สมชัย สุวรรณบรรณ ศิษย์เก่าวิทยุบีบีซี ต้องตอบคำถามสังคมด้วยเหมือนกันว่าญาติพี่น้อง 99 ศพ เหยื่อคมกระสุนอีก 2 พันชีวิตมีสิทธิ์ร้องเรียกความยุติธรรมผ่านทีวีไทยที่ใช้เงินภาษีราษฎรปีละพันกว่าล้านหรือไม่


จับอาการส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตลอดจนส.ก.-ส.ข.อยากให้ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่ในเมื่อเจ้าตัวประกาศบาย ขอผลักดันโครงการบุญบูรณะลุมพินีสถานให้เสร็จลุล่วงเสียก่อน ทำไมไม่ร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยเล่า


ทอดยาวไปถึงปีหน้าวันที่ 10 มกรา 2556 ประกาศชื่อ แคนดิเดต ผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯเมืองกรุง ทั้ง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มั่นใจตรงกัน พรรคไม่แตก


เอแบคโพลล์สำรวจล่าสุดชาวกรุงเทพมหานครคิดอย่างไรกับผู้ว่าฯ คนใหม่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ คะแนนนิยมแซงหน้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นิดหน่อย ส่วน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ตีคู่กับแชมป์เก่าหล่นไปอยู่ที่ 3


เมื่อตัดสินใจใช้กระบวนการ ประชามติ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมชี้ขาดแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องระดมสรรพกำลังชี้แจงทำความเข้าใจ ประเทศไทยตอนนี้ ผู้สิทธิ์เลือกตั้ง รวมแล้ว 46 ล้านเสียง กึ่งหนึ่งคือ 23 ล้านเสียงต้องออกมาเข้าคูหา ครึ่งหนึ่งที่จะทำให้ประชามติผ่านก็ประมาณ 13 ล้านเสียง ถ้าเป็นไปตามนี้ ไม่น่ายากเย็นอะไร


ฮาได้อีก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกาศรางวัลเกียรติยศผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน ดูรายชื่อแล้วไม่จ๊าบโดนใจ อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกสม.หาใครไม่ได้แล้วหรือย่างไร ยิ่งให้ วีระ สมความคิด คว้าถ้วยบุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้น ยิ่งไปกันใหญ่ หาวิธีช่วยให้พ้นทุกข์จากคุกเปรย์ซอกัมพูชามาก่อนไม่ดีกว่าหรือ


งามหน้าและน่าเศร้าในยุทธจักรดาวแปดแฉก เมื่อนายตำรวจระดับ ร.ต.ต. และ พ.ต.ท. พร้อมลูกน้องชั้นประทวนสภ.อวน จังหวัดน่าน รวม 5 นายกระทำความผิด ร่วมกันขนยาเสพติดเสียเอง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการป.ป.ส. และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.เห็นพ้องต้องกัน ต้องขยายผลถอนรากถอนโคนทั้งเครือข่าย


ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 10.00 น. องค์อร อาภากร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แถลงงานแสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากโครงการ Waste to Wealth และ Scrab Lab โถงชั้น UB ธนาคารสำนักงานใหญ่

14.00 น. สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม แถลงจัดงาน คนไทย Like วัฒนธรรม กด Like หัวใจไทยเทิดไท้องค์ราชันย์Ž ลานอีเด็น 1 เซ็นทรัลเวิลด์

18.30 น. ฉลองสมรส อจลา ตั้งจิตรเพียร-ธนภัทร บัวลอย ห้องแกรนด์บอลรูม ดิ เอมเมอรัลด์


วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... sectionid=

[ปรัชญา]

เมื่อ"ซีพี"ไม่ใช่แค่"อาหาร" แต่ยักษ์กำลังใส่ล้อ ?


นายนพดล เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรม (จีน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Shanghai Automotive Industry Corp. - SAIC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน และใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ MG ป้อนสู่ตลาดไทยและตลาดโลก โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตและส่งออกไปยังทุกประเทศทั่วโลก ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของเอเชีย หรือ ดีทรอยซ์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia) ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน และมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน



ในการร่วมทุนนี้ SAIC ถือหุ้นสัดส่วน 51% เครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นสัดส่วน 49% ในนาม บริษัท ซีพี มอเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อทำธุรกิจยานยนต์ในไทย ซึ่งได้มีการจัดพิธีเซ็นสัญญาร่วมทุนอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มีนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรม (จีน) เป็นผู้ลงนาม ส่วน SAIC มีนายเฉิน หง (Mr.Chen Hong) รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้ลงนามในสัญญาร่วมทุน โดยในเฟสแรกของการลงทุนจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกที่ตั้งโรงงานซึ่งต้องการสร้างโรงงานที่อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อสะดวกในการส่งออกไปต่างประเทศ




เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อมั่นในการลงทุนครั้งนี้ เนื่องจาก SAIC เป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ปีละกว่า 4 ล้านคัน และยังเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์ระดับโลกอีกหลายแห่งมาเป็นเวลานาน อีกทั้งมีการสะสมบุคลากรที่เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก จึงมีความเข้าใจในธุรกิจรถยนต์ระดับโลกเป็นอย่างดี และเมื่อเร็ว ๆ นี้ SAIC ได้ลงทุนมหาศาลเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาทสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ จะมีการออกแบบ ค้นคว้า วิจัย เพื่อรองรับตลาดในอนาคต โดยมีพนักงานออกแบบกว่า 300คน และเมื่อ SAIC มีนโยบายที่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพียงแห่งเดียวเพื่อป้อนตลาดโลก เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงไม่ลังเลที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจลงทุนเปิดตลาดรถยนต์ MG ในประเทศไทยและส่งออกไปทั่วโลก

ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์และ SAIC มีความร่วมมือกันมาวนานกว่า 27 ปี เคยร่วมกันผลิตจำหน่ายรถจักรยานยนต์และแอร์คอมเพรสเซอร์สำหรับรถยนต์ในจีน จึงมีความคุ้นเคยและเข้าใจกันเป็นอย่างดี อีกทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์มีการดำเนินธุรกิจในจีนมาเป็นเวลาถึง 33 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ด้วยเหตุนี้เมื่อ SAIC มีนโยบายลงทุนต่างประเทศ จึงเลือกเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ร่วมทุน เพราะเชื่อมั่นว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ร่วมทุนที่ดี และเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย

ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมั่นใจด้วยว่ารถยนต์ MG ที่จะผลิตในไทยและส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก จะได้รับความนิยม เนื่องจาก MG รถยนต์มาตรฐานยุโรป ที่มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งผู้บริโภคไทยรู้จักและยอมรับในคุณภาพมาตรฐาน โดยจะเริ่มทำการตลาดในปี พ.ศ.2557 ซึ่งรถยนต์ MG รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในไทยนั้นจะเป็น MG 6 MG 3 และ MG 5 โดยในระยะเริ่มต้นจะนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในไทย และในช่วงแรกตั้งเป้าหมายผลิต 50,000 คัน/ปี และมีแผนที่จะขยายการผลิตเป็น 200,000 คัน/ปี ในอนาคต



อนึ่ง MG เป็นรถยนต์ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 100 ปี โดยมีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ SAIC เข้าไปซื้อกิจการ MG ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 และได้ตั้งโรงงานผลิต MG ขึ้นใหม่อีกแห่งที่ประเทศจีน โดยผลิตเป็นรถยนต์พวงมาลัยซ้ายเพื่อรองรับตลาดรถยนต์ในจีน




วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[ปรัชญา]

SET ปี 56 ไต่ไปถึง 1,471 จุด

สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ระบุ SET ปี 56 ขึ้นไปถึง 1,471 จุด
ขณะที่ปัญหาการเมือง วิกฤตหนี้ยูโรโซน และเศรษฐกิจสหรัฐ ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ
แนะหุ้นเด่น BCP, INTUCH, KBANK, PTTEP, STEC

[ปรัชญา]

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” พร้อมทรงบรรยายพิเศษแก่ผู้เฝ้ารับเสด็จฯ



กรุงเทพฯ ๑๐ ธ.ค. ๒๕๕๕ – สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นายนิติกร กรัยวิเชียร อุปนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นางลักขณา คุณาวิชยานนท์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และคณะผู้จัดงานเฝ้าฯ รับเสด็จ

ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะ เสด็จฯ ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น ๕ เพื่อทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์แก่ผู้ร่วมชมนิทรรศการ ก่อนเสด็จฯ ขึ้น ณ ชั้น ๙ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์ ซึ่งในปีนี้ได้จัดภายใต้ชื่อนิทรรศการ “ควงกล้องท่องโลก” นอกจากนี้ ยังทรงจำหน่ายหนังสือภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์ประจำปี ๒๕๕๕ แก่ผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วย




นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดโดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ที่ได้ทรงบันทึกไว้ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕ เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ จำนวน ๑๘๑ ภาพ


.

นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ เพื่อนำมาจัดแสดงนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นความรู้แก่นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เริ่มตั้งแต่นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “แสงคือสี สีคือแสง” ในปี ๒๕๕๐ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตที่หมุนไปไม่หยุดยั้ง” ในปี ๒๕๕๑ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ถ้าเดินเรื่อยไปย่อมถึงปลายทาง” ในปี ๒๕๕๒ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “สี แสง แสดงชีวิต” ในปี ๒๕๕๓ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อุปบัติ ณ โลกี” ในปี ๒๕๕๔ และในปี ๒๕๕๕ นี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เพื่อจัดนิทรรศการในหัวข้อ “ควงกล้องท่องโลก”

ในการนี้ ผู้จัดงานฯ ได้รับพระราชานุญาตให้นำวิดีทัศน์ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ด้วยพระองค์เอง มาจัดฉายให้แก่ผู้ร่วมชมนิทรรศการได้ทราบแนวคิด และเกร็ดมุมมองของถ่ายภาพนั้นๆ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ผู้จัดงานจัดวางสมุดแสดงความคิดเห็น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมนิทรรศการได้เขียนข้อความแสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างอิสระต่อภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ อันเป็นไปตามพระราชประสงค์ที่ทรงอยากทราบถึงความรู้สึกของผู้มาชมนิทรรศการของพระองค์อีกด้วย



ร่วมชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพผ่านมุมมองของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในระหว่างวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ – วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. (หยุดทุกวันจันทร์) ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” สามารถติดต่อขอซื้อได้ในราคาเล่มละ ๙๐๐ บาท ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น ๙ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน) และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย สอบถามรายละเอียด โทร. ๐๒-๒๑๔-๖๖๓๗-๘