pakapong_u เขียน:ทายาท 'เคซีอี' แฟน 'อั้ม-พัชราภา' เปิดแผน 'เทิร์นอะราวด์'
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Th)
Monday, September 03, 2012 02:30
25877 XTHAI XFRONT XGEN V%NETNEWS P%WNO
ทายาทหนุ่ม..เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ 'แอมป์' พิธาน องค์โฆษิต เปิดแผน 'เทิร์นอะราวด์' ธุรกิจหลายพันล้านของครอบครัว ตั้งเป้า "แรงง..ๆๆ" ไม่แพ้จีบสาว 'อั้ม-พัชราภา' ภายใน 3-5 ปี รายได้กระฉูดปีละ 25%
--> เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ “แอมป์” พิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ลูกชายคนที่ 2 ของ "เสี่ยบัญชา องค์โฆษิต" ส่งดอกไม้ปริศนาให้สาวไฟแรงสูง “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกวิก 7 สี ข่าวซุบซิบดาราการันตี "หนุ่มแอมป์" กับ "สาวอั้ม" ไฟฟ้าหัวใจสปาร์คแผล็บๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!
ล่าสุดเพิ่งเปิดแถลงข่าวใหญ่แต่ไม่ใช่ "กิจการหัวใจ" เป็นกิจการของ "ป๊ะป๋า" มูลค่า "หลายพันล้านบาท" ที่ถูก "น้ำ" เมื่อปีที่แล้วพัดเอา "ความมั่งคั่ง" หายไปเยอะมาก คราวที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เจอน้ำท่วมเต็มๆ บวกกับพิษหนี้ยุโรปซ้ำดาบสอง มาคราวนี้หนุ่มแอมป์ แรงง..ๆๆ ไม่แพ้จีบสาวอั้ม ประกาศแผน "เทิร์นอะราวด์” สุดท้าทาย! หลังเก็บตัวเงียบอยู่บนชั้น 21 อาคารว่องวานิช ถ.พระราม 9 นานเป็นปี "บริษัทพีอาร์" ถึงกับโทรศัพท์มาย้ำกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถึง 2 รอบ "ส่งนักข่าวมารึเปล่าคะ!!!" “ปี 2556 ผลประกอบการและราคาหุ้น KCE จะกลับมา “เทิร์นอะราวด์” หลังอยู่ในยุคตกต่ำมานานกว่า 1 ปี” ประโยคสั้นๆ ของ “แอมป์” พิธาน ทายาทที่ถูกวางตัวขึ้นมาดูแลธุรกิจของครอบครัวองค์โฆษิตรุ่นต่อไป
งาน Group Interview ที่จั่วหัวหรู “ผ่ากลยุทธ์ KCE ครึ่งปีหลัง 2555” ไม่ได้มีเพียงนักข่าวสายหุ้นเท่านั้น แต่ยังมีนักข่าวสายบันเทิงมารอสัมภาษณ์ชนิดแน่นห้องประชุม อยากรู้กิจการหัวใจระหว่าง "แอมป์" กับ "อั้ม" วันนี้มีมูลค่าเท่าไรแล้ว
ย้อนประวัติทายาทหนุ่ม KCE รายนี้ จบปริญญาโทจาก Johnson Graduate School of Management มหาวิทยาลัยคอร์เนล เรียนรู้งานในเคซีอีตั้งแต่ปี 2548 หนุ่มแอมป์เคยเล่าให้ "บิซวีค" ฟังเมื่อ 2 ปีก่อนว่า เขาเป็นคนเสนอตัวขอพ่อเข้ามาทำงานในเคซีอีเอง เพราะเห็นว่าพี่ชายคนโต อรรถสิทธิ์ องค์โฆษิต มีความถนัดงานทางด้านคอมพิวเตอร์มากกว่างานบริหาร ส่วนน้องสาวคนสุดท้อง ชุตินาถ องค์โฆษิต ก็ชอบเรื่องโปรแกรมมากกว่างานเอกสาร
ล่าสุดพิธานเล่าแผนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า (2556-2560) ให้ "บิซวีค" ฟังด้วยน้ำเสียงมั่นใจสุดขีด...ผมจะพยายามผลักดันตัวเลขรายได้ให้ขยายตัวปีละ 25% จากปกติที่เติบโตได้ปีละประมาณ 10-15% หากไม่มีอะไรผิดพลาด ตั้งแต่ปี 2556 ได้เห็นแน่นอน!!!
"ตอนแรกที่ผมเคยบอกว่าปีหน้าจะขยายตัวเพียง 10-15% นั่นเป็นเพราะผมยัง “กั๊ก” เรื่องดีๆ ไว้อีกนิดหน่อย (หัวเราะ) ข่าวดีชิ้นนั้นคือ ผมมีแผนจะบุกตลาดประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นตลาดใหม่ “กิ๊ก” ตอนนี้เราได้จับมือกับพันธมิตรเข้าไปตั้งสำนักงานในประเทศญี่ปุ่นแล้ว" เขาเปิดเผย
ในปี 2555 ญี่ปุ่นสร้างยอดขายให้เคซีอีเพียง 1% โดยเขาเชื่อว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จะมีรายได้จากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 10% ถึงวันนี้โครงสร้างรายได้ของเคซีอีจะเปลี่ยนแปลงไปทันที โดยรายได้จากแถบเอเชียจะทะยานขึ้นเป็น 45% จากระดับปกติ 27-28% ส่วนรายได้จากแถบยุโรปจะลดเหนือ 40% จากเดิม 60% และรายได้จากสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 20-25% เพิ่มจากระดับปกติอยู่ที่กว่า 10%
“เราจะพยายามดึงลูกค้ารายใหญ่ที่ติดท็อป 10 ทั้งในประเทศและต่างประเทศของอุตสาหกรรมยานยนต์มาเป็นลูกค้าเราให้ได้ อย่างตอนนี้ตั้งใจจะดึง DENSO, DELPHI และ VISTEON ถ้าเราทำได้จริง เท่ากับว่าเราจะมีลูกค้ารายใหญ่อยู่ในมือเพียบ ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์โลกมีขนาดใหญ่มากมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และสร้างรายได้กว่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐให้กับผู้ผลิตใน 26 ประเทศทั่วโลก”
แอมป์เล่าต่อว่า ข่าวดีชิ้นที่ 2 ได้พูดในงานแถลงข่าวไปบ้างแล้ว นั่นคือ เราจะเปิดโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ 20 ไร่ มูลค่าลงทุน 2,800 ล้านบาท เดิมตั้งใจจะเปิดปลายปี 2554 แต่เมื่อเจอน้ำท่วมก็ต้องหยุดไว้ชั่วคราว เคซีอีตั้งใจจะเปิดโรงงานให้ได้ 3 เฟส หากทำได้จริงบริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน เป็นประมาณ 4 ล้านตารางฟุตต่อเดือน ตอนนี้กำลังตัดสินใจว่าจะแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส หรือ 3 เฟส
แต่ที่แน่ๆ เฟสแรก กำลังการผลิต 700,000 ตารางฟุตต่อเดือน จะเริ่มก่อสร้างในปี 2556 แน่นอน หากไม่มีอะไรผิดพลาดภายในไตรมาสแรกของปี 2556 จะได้ข้อสรุปทั้งหมด เบื้องต้นอาจกู้เงินจากธนาคาร 80% อีก 20% มาจากกระแสเงินสดหมุนเวียน
เขาบอกว่า ตอนนี้ต้องคิดถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก เมื่อก่อนไม่คิดเยอะอย่างนี้นะ (หัวเราะ) ในอดีตบริษัทเคยใช้เงินมือเติบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดใหม่เราไม่อยากกลับไปเหนื่อยเหมือนเดิมอีก บอกตรงนี้เลยโรงงานแห่งใหม่ต้นทุนต่อหน่วยจะลดลงมาก แต่จะลดลงเท่าไรยังบอกไม่ได้ เมื่อช่วงน้ำท่วมกรุงเทพ ตนเองกับคุณพ่อ แอบบินไปดูโรงงานที่ไต้หวัน 3 รอบ ทำให้มีแนวความคิดจะดีไซน์ระบบของโรงงานใหม่
ส่วน ข่าวดีชิ้นที่ 3 ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ไปแล้วว่าบริษัทจะเทคโอเวอร์ บริษัท เคม โทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ประกอบการหมึกพิมพ์ลายแผงวงจรไฟฟ้า และน้ำยาเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า มูลค่าเงินลงทุน 240 ล้านบาท ดีลนี้จะจบภายในเดือนกันยายนนี้ ที่ผ่านมาเราซื้อน้ำยาเคมีจากเขามาผลิต และเขาก็ซื้อเศษเคมีจากเรากลับไปรีไซเคิลเพื่อทำเคมีใหม่มาขายเรา ข้อดีของการเทคโอเวอร์บริษัทดังกล่าวคือ ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่สำคัญจะช่วยให้อัตรากำไรสุทธิของเราดีขึ้น
ทายาทหนุ่มเคซีอี ถือโอกาสระบายความในใจให้ฟังว่า ตอนน้ำท่วมปลายปี 2554 ทำให้เคซีอีพลาดเป้าหมายหลายๆ อย่าง วันนั้นก็ทำได้แค่ “ก้มหน้ายอมรับความจริง” และรีบแก้ไข วันนี้เรา "กลับมาแล้ว" (น้ำเสียงสดใส) หลังปรับรูปแบบการทำงานในโรงงานเพื่อลดต้นทุน และอัตราของเสีย
"ถ้ามองราคาหุ้น KCE ที่วิ่งอยู่ราวๆ 7.25 บาท ถือว่า "ต่ำมาก" เมื่อเทียบกับค่า P/E ที่อยู่ระดับ 15.70 เท่า ผมเชื่อว่าหากนักลงทุนมั่นใจในแผนธุรกิจของเรา ราคาหุ้นยังไปได้ไกลกว่านี้ ตัวผมเองหากมีโอกาสและจังหวะก็ซื้อหุ้น KCE เพิ่มตลอด จำได้ตอนปี 2553 ผมเคยบอกคุณว่าผมมีหุ้นแค่ 2-3% เป้าหมายคือ 5% ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงแล้วนะ"
เป้าหมายของเคซีอี ผู้บริหารหนุ่ม บอกว่า อยากสร้างบริษัทให้มีระบบรัดกุมเหมือน บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส ยอมรับว่าผู้บริหาร HANA มีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเขา รู้เลยเขาเก่งจริงยกนิ้วให้
แฟนหนุ่มดาราดัง กล่าวทิ้งท้ายว่า ให้จับตาในปี 2556 รายได้และกำไรของเคซีอีจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากไม่มีอะไรผิดพลาดจะมีกำไรสุทธิไตรมาสละกว่า 215 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 7-8% เราทำได้แน่นอน!!
ก่อนหน้านี้ "แอมป์" พิธาน องค์โฆษิต ทายาทพันล้านเคซีอี ก็ยังไม่แรงง..ๆๆ ถึงขนาดนี้ หลังมาเชื่อมไฟฟ้าหัวใจเข้ากับ "อั้ม-พัชราภา" ดาราไฟแรงสูง..กลายเป็น "หนุ่มแอมป์คนใหม่" ไปในบัดดล!!!
ที่มา:
http://www.bangkokbiznews.com