Angel Investors Thailand
-
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 1
ไม่ทราบว่าที่เมืองไทยมี องค์กร website หรือแหล่งเพื่อให้นักลงทุนส่วนบุคคลสามารถลงทุนกับพวกบริษัท startup ได้บ้างไหมครับ ผมเคยเจอ website นึงที่เราสารถเข้าไม่ทิ้งรายละเอียดของเราเอาไว้ได้และถ้ามีบริษัท startup สนใจจะขอเงินทุนจากเราเขาก็จะติดต่อมาแต่เขาเปิดให้แต่สำหรับกองทุนเท่านั้นไม่ให้นักลงทุนส่วนบุคคล
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 3
มีกองทุนของบัวหลวงครับ จำชื่อกองทุนไม่ได้ลงทุนทั้งบ.ในตลาดและนอกตลาด
ผลตอบแทนพอได้ครับ17%ทบต้น
แล้วก็มีบ.ข้าวกล้าของkbankที่ลงทุนนอกตลาด แต่ไม่รู้รับนักลงทุนทั่วไปรึเปล่า
เรื่องรับแต่กองทุนไม่รับนักลงทุนทั่วไป ก็ตั้งกองprivate fundเลยครับแล้วให้บลจ.ที่มีประสบการณ์บริหารให้
ไม่รู้ว่าทำได้รึเปล่าแต่น่าลอง
ผลตอบแทนพอได้ครับ17%ทบต้น
แล้วก็มีบ.ข้าวกล้าของkbankที่ลงทุนนอกตลาด แต่ไม่รู้รับนักลงทุนทั่วไปรึเปล่า
เรื่องรับแต่กองทุนไม่รับนักลงทุนทั่วไป ก็ตั้งกองprivate fundเลยครับแล้วให้บลจ.ที่มีประสบการณ์บริหารให้
ไม่รู้ว่าทำได้รึเปล่าแต่น่าลอง
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 4
คือไม่ได้อยากให้เงินกองทุนไปบริหารน่ะครับ หมายถึงว่าเราไปเจอพูดคุยกับบริษัท startup ต่างๆที่ต้องการเงินทุนแล้วเราก็ลงทุนกับเขาโดยตรงเลยน่ะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 5
ปัญหาคือขนาดครับ หลายปีมาแล้ว จำได้ว่าไซส์เล็กที่สุดที่ Venture Cap สนใจก็ US$5M ซึ่ง start-up ไทยที่จะฟิต requirement มีน้อยมาก
อันนี้ของกสิกร
http://www.khaokla.com/thai/Capital_fund01.aspx
อันนี้ของกสิกร
http://www.khaokla.com/thai/Capital_fund01.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 6
ยังงี้คงต้องอาศัยเครือข่ายของตัวเองในการค้นหาว่ามีบริษัท Start up แห่งไหนต้องการเงินทุนนะครับ กรณีนี้คงต้องมีเครือข่ายกับที่ปรึกษาทางเงินให้มาก จริงๆ แล้วรู้สึกจะมีกฎ ของกลต. อยู่นะครับในการระดมทุน เนื่องจากกลต.คงกลัวว่านักลงทุน หรือชาวบ้านทั่วๆ ไป
จะไม่สามารถพิจารณาการลงทุนได้ดี ดังเช่น การเกิดแชร์ลูกโซ่ต่างๆ นาๆ จึงต้องออกกฎ
มาป้องกัน โดยจะให้ทำผ่านบริษัทที่มี License นะครับ คือถ้ามีเงินทุนเยอะพอ อาจไป
หาบลจ. ที่สามารถบริหารเงินทุนให้จัดตั้ง Fund ขึ้น ตามที่คุณ Anubist บอก ทีมงานมืออาชีพจะช่วยหาหรือคัดกรองบริษัท Start up ร่วมกับเราครับ เป็นการป้องกันความเสี่ยงของบริษัท Start up ไปในตัว เพราะบริษัท Start up ความเสี่ยงสูงจริงๆ ครับ
Venture Cap ในต่างประเทศดังๆ เช่น กองทุนซีควอย่า (ลงทุนใน Apple) หรือ excel partner (ที่ลงทุนใน Facebook) ต่างก็มีคณะกรรมการพิจารณาในการลงทุนแต่ละครั้งนะครับและถึงแม้ว่ามีการพิจารณาอย่างเข้มงวดในการให้เงินทุน รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขต่างๆให้บริษัทต้องปฏิบัติ (บางครั้งยังเข้ามาเป็น Board ด้วย) แล้วก็ตามอัตราการการผิดพลาดยังเป็น สำเร็จ 1 บริษัท เจ็งซะ 10-20 ครับ แต่ว่า 1 บริษัทที่สำเร็จจะมีผลตอบแทนสูงมหาศาลเป็น 100 เท่า Cover ความเสี่ยงได้หมดครับ
สำหรับของไทย Venture Cap ก็เพิ่งเริ่มกันได้ไม่นานมากครับ และผลตอบแทนก็ไม่ได้เทียบเท่ากับใน US. (อาจจะเป็นเพราะลูกค้าของบริษัทใน US สามารถขยายไปทั่วโลกก็ได้)
สำหรับในไทยที่เห็นสำเร็จตัวอย่างก็คือ บจก.ข้าวกล้า ที่ลงทุนในหุ้น Jubile นั่นเอง ครับ แต่ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรครับ กว่า Jubile จะเด้งไปมาได้ถึงขนาดนี้
ฮิฮิ... แต่ถ้ามีเงินทุนและต้องการให้ผมไปช่วยคัดเลือกบริษัท Start up ที่มีแวว ก็บอกกันได้นะครับ ยินดีช่วยเหลือ คิดว่าน่าสนุกดี
จะไม่สามารถพิจารณาการลงทุนได้ดี ดังเช่น การเกิดแชร์ลูกโซ่ต่างๆ นาๆ จึงต้องออกกฎ
มาป้องกัน โดยจะให้ทำผ่านบริษัทที่มี License นะครับ คือถ้ามีเงินทุนเยอะพอ อาจไป
หาบลจ. ที่สามารถบริหารเงินทุนให้จัดตั้ง Fund ขึ้น ตามที่คุณ Anubist บอก ทีมงานมืออาชีพจะช่วยหาหรือคัดกรองบริษัท Start up ร่วมกับเราครับ เป็นการป้องกันความเสี่ยงของบริษัท Start up ไปในตัว เพราะบริษัท Start up ความเสี่ยงสูงจริงๆ ครับ
Venture Cap ในต่างประเทศดังๆ เช่น กองทุนซีควอย่า (ลงทุนใน Apple) หรือ excel partner (ที่ลงทุนใน Facebook) ต่างก็มีคณะกรรมการพิจารณาในการลงทุนแต่ละครั้งนะครับและถึงแม้ว่ามีการพิจารณาอย่างเข้มงวดในการให้เงินทุน รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขต่างๆให้บริษัทต้องปฏิบัติ (บางครั้งยังเข้ามาเป็น Board ด้วย) แล้วก็ตามอัตราการการผิดพลาดยังเป็น สำเร็จ 1 บริษัท เจ็งซะ 10-20 ครับ แต่ว่า 1 บริษัทที่สำเร็จจะมีผลตอบแทนสูงมหาศาลเป็น 100 เท่า Cover ความเสี่ยงได้หมดครับ
สำหรับของไทย Venture Cap ก็เพิ่งเริ่มกันได้ไม่นานมากครับ และผลตอบแทนก็ไม่ได้เทียบเท่ากับใน US. (อาจจะเป็นเพราะลูกค้าของบริษัทใน US สามารถขยายไปทั่วโลกก็ได้)
สำหรับในไทยที่เห็นสำเร็จตัวอย่างก็คือ บจก.ข้าวกล้า ที่ลงทุนในหุ้น Jubile นั่นเอง ครับ แต่ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรครับ กว่า Jubile จะเด้งไปมาได้ถึงขนาดนี้
ฮิฮิ... แต่ถ้ามีเงินทุนและต้องการให้ผมไปช่วยคัดเลือกบริษัท Start up ที่มีแวว ก็บอกกันได้นะครับ ยินดีช่วยเหลือ คิดว่าน่าสนุกดี
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 7
พูดไปก็นึกถึงหนังของเสี่ยเจียงเลยนะครับ เสี่ยแกใช้วิธีเดียวกันเลย สร้างหนัง
มากมาย 10 เรื่อง สำเร็จ 1 เรื่อง ที่เหลืออีก 9 เรื่องเจ็งหมด ไอ้เรื่องที่สำเร็จ 1 เรื่อง ก็ของเฮียจาพนม นะแหละ เพราะสามารถทำเงิน ขายไป ฮ่องกง, มาเลเซีย, อินโด, เกาหลี ฯลฯ
เป็นแฟนเฮียจาพนมกันหมด
ว่าแล้วก็น่าเสียดาย เฮียจามีศักยภาพควรไปดังได้ในฮอลลีวู๊ด เหมือนกังนัมสไตส์ ของเกาหลี เสี่ยแกกั๊กเอาไว้อยู่นั่น อายุโทนีจาก็แก่ไปทุกวัน คงได้แค่อยู่แค่นี้แล้ว
มากมาย 10 เรื่อง สำเร็จ 1 เรื่อง ที่เหลืออีก 9 เรื่องเจ็งหมด ไอ้เรื่องที่สำเร็จ 1 เรื่อง ก็ของเฮียจาพนม นะแหละ เพราะสามารถทำเงิน ขายไป ฮ่องกง, มาเลเซีย, อินโด, เกาหลี ฯลฯ
เป็นแฟนเฮียจาพนมกันหมด
ว่าแล้วก็น่าเสียดาย เฮียจามีศักยภาพควรไปดังได้ในฮอลลีวู๊ด เหมือนกังนัมสไตส์ ของเกาหลี เสี่ยแกกั๊กเอาไว้อยู่นั่น อายุโทนีจาก็แก่ไปทุกวัน คงได้แค่อยู่แค่นี้แล้ว
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 8
ผมเห็นด้วยกับคุณso simple ครับ
การลงทุนในบ.ที่เพิ่งเริ่ม หากเจ้าของไม่"แข็ง"พอ โอกาสล้มเหลวสูงมาก
10มีแค่1หรือ2บ.เท่านั้น และบ.พวกนี้ที่ล้มหรือไม่โตเพราะมีคชจ.ที่ไม่จำเป็นเยอะมาก
ซึ่งการมีJV VCมาร่วมด้วยทำให้มีการกลั่นกรองมากขึ้น
เราในฐานะนักลงทุนคงไม่เข้าใจการบริหารมากนัก
การได้บลจ.มาช่วยคัดกรอง มาช่วยบริหารมันลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้จริงๆ
เคยได้ยินว่าในอเมริกา แค่เรามีความคิดดีๆก็เป็นเจ้าของกิจการได้แล้ว
ไม่ต้องลงเงินสักบาท แต่กว่าจะได้เงินกู้มา ต้องเขียนแผนชนิดทำทีสิสกันเลย
แต่ของไทยกลับกัน ต้องมีเงินทุนก่อนสักส่วน แผนไม่ต้อง แต่เดินบัญชีดีๆ เดี๋ยวมีเงินกู้มาเสนอ
นี่คงเป็นความแตกต่างว่าทำไมเจ้าของกิจการของไทยถึงน้อยกว่าอเมริกาเยอะ
การลงทุนในบ.ที่เพิ่งเริ่ม หากเจ้าของไม่"แข็ง"พอ โอกาสล้มเหลวสูงมาก
10มีแค่1หรือ2บ.เท่านั้น และบ.พวกนี้ที่ล้มหรือไม่โตเพราะมีคชจ.ที่ไม่จำเป็นเยอะมาก
ซึ่งการมีJV VCมาร่วมด้วยทำให้มีการกลั่นกรองมากขึ้น
เราในฐานะนักลงทุนคงไม่เข้าใจการบริหารมากนัก
การได้บลจ.มาช่วยคัดกรอง มาช่วยบริหารมันลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้จริงๆ
เคยได้ยินว่าในอเมริกา แค่เรามีความคิดดีๆก็เป็นเจ้าของกิจการได้แล้ว
ไม่ต้องลงเงินสักบาท แต่กว่าจะได้เงินกู้มา ต้องเขียนแผนชนิดทำทีสิสกันเลย
แต่ของไทยกลับกัน ต้องมีเงินทุนก่อนสักส่วน แผนไม่ต้อง แต่เดินบัญชีดีๆ เดี๋ยวมีเงินกู้มาเสนอ
นี่คงเป็นความแตกต่างว่าทำไมเจ้าของกิจการของไทยถึงน้อยกว่าอเมริกาเยอะ
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 455
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Angel Investors Thailand
โพสต์ที่ 10
เคยอ่านเจอใน web ของคุณสุมาอี้
แนวคิดประมาณว่า ใครมีไอเดียดีๆ เอาไปเสนอ แล้วธุรกิจนี้จะลงทุนให้
มีข้อตกลงจะแบ่งส่วนกำไรในภายหลัง ซึ่งค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ย
แต่ก็อย่างว่า โอกาสล้มเหลวสูง ประมาณว่าลงทุนไปประมาณ 10 โครงการ เจ๊งไป 5 , งั้นๆ ซัก 3 , ดี ซัก 1 , ดีมากซัก 1
แนวคิดประมาณว่า ใครมีไอเดียดีๆ เอาไปเสนอ แล้วธุรกิจนี้จะลงทุนให้
มีข้อตกลงจะแบ่งส่วนกำไรในภายหลัง ซึ่งค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ย
แต่ก็อย่างว่า โอกาสล้มเหลวสูง ประมาณว่าลงทุนไปประมาณ 10 โครงการ เจ๊งไป 5 , งั้นๆ ซัก 3 , ดี ซัก 1 , ดีมากซัก 1
เด็กฝึกงาน...