ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 1
"คุณดูแล ให้ทาง"
ได้โพสไว้ในกระทู้นี้ครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 13109.html
ผมขอเล่าบ้างครับ เท่าที่อ่านมาดูเหมือนจะจบกันที่เทนเดอร์ออฟเฟอร์เท่านั้นเอง
หลังจากบริษัทพวกนั้นออกจากตลาดรู้ไหมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อ
เอาตัวอย่างบริษัทดีๆละกัน CMBT เจ้ากระป๋อง ตอนอยู่ในตลาด กำไรดีมาก แต่ปันผลน้อยสุดๆ
ผมจำได้ครั้งหนี่งมีการต่อรองกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าขอเพิ่มปันผลโดยที่ประชุมต้องยอมให้ขายบ.ลูกออกไปบริษัทหนึ่ง
ปีนั้นปันผล 5 บาท และเป็นปีสุดท้ายก่อนจะถูกเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ออกจากตลาดไป
ราคาดีด้วย ใจป้ำมาก 90 บาท
หลังจากออกตลาด
ปี48 ปันผลครั้งที่ 1 จ่าย 61 บาท
ครั้งที่ 2 จ่าย 8 บาท
ครั้งที่ 3 จ่าย 6 บาท
ปี 49 ปันผลครั้งที่ 1 จ่าย 5 บาท
ผลประกอบการก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่จ่ายปันผลง่ายกว่าเดิมเยอะ เสียอย่างเดียวผมมีแค่ 200 หุ้น
ยังมีบริษัทที่เจ๋งกว่านี้อีกนะครับ EAC อีสต์เอเชียติ๊ก
EAC อีสต์เอเชียติ๊ก
บริษัทเก่าแก่ อายุร้อยกว่าปี ทำเทนเดอร์ ออกจากตลาดไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่ราคา 29 บาท
ราคาเทนเดอร์ กดต่ำสุดๆ แม่ของผมซื้อมาตอน 45 ทำใจขายราคานี้ไม่ได้
แม่บอกว่าเอาสิบริษัทดี มีชื่อเสียงและเก่าแก่ขนาดนี้ ออกตลาดไปแล้วจะไม่ได้เงินคืนก็ให้มันรู้ไปสิ ไม่เอาก็ได้ 29 บาท
แม่ไม่ยอมเซ็นขายด้วยอารมณ์โมโห
แม่โทรถามญาติๆ ในตอนหลังเทนเดอร์ไปแล้วว่าเขายอมขายขาดทุนเพื่อเอาเงินไปซื้อตัวอื่น
เพราะเขาอ่านความเห็นที่ปรึกษาฝั่งผู้ถือหุ้น+ความเห็นกรรมการว่า
ควรจะขายเพราะออกไปแล้วจะไม่มีสภาพคล่องและราคานี้ดีสุดแล้ว
เอาละครับพอออกจากตลาดทีนี้ได้เรื่องเลย
ก่อนจะมีการจ่ายปันผล มีหนังสือจากบริษัทแจ้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ขายเทนเดอร์ ให้ขายได้อีกครั้ง
ที่ราคาเดิม 29 บาท
แม่บอกยังไงก็ไม่ขาย เอาละไม่ขายก็ไม่ขาย
ผลปรากฏว่าแม่ถูก
ปีที่ 1 ปันผลครั้งที่ 1 เป็นกรณีพิเศษ 16 บาท
2 ปันผลประจำปี 5 บาท
3 ปันผลกลางปี 5 บาท
ปีที่2 ปันผลปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 บาท ถึง 5 บาท
ปีที่3 มีรายการพิเศษ ขอซื้อหุ้นคืนอีกครั้งในราคาประมาณ 45 บาท เอาละสิ ราคานี้ต้นทุนซะด้วย
ขายก็ได้ทุนคืนบวกกำไรจากปันผลเลยนะ
แต่คราวนี้ไม่ไว้ใจแล้วกลัวถูกหลอกเหมือนคราวก่อนที่กดราคาแค่ 29
แม่ผมไม่คิดเลยตอบว่าไม่ขายเพราะได้ทุนคืนหมดแล้ว อยู่เฉยๆก็ได้
รวม 3-4 ปีนี้รับปันผลอย่างเดียวเลย ไม่ต้องมาดูราคาหน้าจอ สบายใจจัง
ปีที่แล้วนี้เอง บริษัทแจ้งว่าจะเป็นการซื้อหุ้นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ย้ำครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ขายจะบังคับแล้ว
เดาสิครับว่าราคาเท่าไหร่
หมายเหตุ มันไม่ได้หมายความว่าหุ้นที่เทนเดอร์ออกจากตลาดมันจะไปได้ดีทุกตัว
ตอนนี้ยังลำบากใจกับแก้วส่องอยู่เลย น่าจะยอมตอนเทนเดอร์ รอบที่แล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 2.91
แล้วเห็นว่าออกไปแล้วจะเอาไปเชือดปิดกิจการซะงั้น
จากคุณ : ดูแล ให้ทาง - [ 17 ก.พ. 49 22:09:47 ]
ได้โพสไว้ในกระทู้นี้ครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 13109.html
ผมขอเล่าบ้างครับ เท่าที่อ่านมาดูเหมือนจะจบกันที่เทนเดอร์ออฟเฟอร์เท่านั้นเอง
หลังจากบริษัทพวกนั้นออกจากตลาดรู้ไหมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อ
เอาตัวอย่างบริษัทดีๆละกัน CMBT เจ้ากระป๋อง ตอนอยู่ในตลาด กำไรดีมาก แต่ปันผลน้อยสุดๆ
ผมจำได้ครั้งหนี่งมีการต่อรองกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าขอเพิ่มปันผลโดยที่ประชุมต้องยอมให้ขายบ.ลูกออกไปบริษัทหนึ่ง
ปีนั้นปันผล 5 บาท และเป็นปีสุดท้ายก่อนจะถูกเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ออกจากตลาดไป
ราคาดีด้วย ใจป้ำมาก 90 บาท
หลังจากออกตลาด
ปี48 ปันผลครั้งที่ 1 จ่าย 61 บาท
ครั้งที่ 2 จ่าย 8 บาท
ครั้งที่ 3 จ่าย 6 บาท
ปี 49 ปันผลครั้งที่ 1 จ่าย 5 บาท
ผลประกอบการก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่จ่ายปันผลง่ายกว่าเดิมเยอะ เสียอย่างเดียวผมมีแค่ 200 หุ้น
ยังมีบริษัทที่เจ๋งกว่านี้อีกนะครับ EAC อีสต์เอเชียติ๊ก
EAC อีสต์เอเชียติ๊ก
บริษัทเก่าแก่ อายุร้อยกว่าปี ทำเทนเดอร์ ออกจากตลาดไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่ราคา 29 บาท
ราคาเทนเดอร์ กดต่ำสุดๆ แม่ของผมซื้อมาตอน 45 ทำใจขายราคานี้ไม่ได้
แม่บอกว่าเอาสิบริษัทดี มีชื่อเสียงและเก่าแก่ขนาดนี้ ออกตลาดไปแล้วจะไม่ได้เงินคืนก็ให้มันรู้ไปสิ ไม่เอาก็ได้ 29 บาท
แม่ไม่ยอมเซ็นขายด้วยอารมณ์โมโห
แม่โทรถามญาติๆ ในตอนหลังเทนเดอร์ไปแล้วว่าเขายอมขายขาดทุนเพื่อเอาเงินไปซื้อตัวอื่น
เพราะเขาอ่านความเห็นที่ปรึกษาฝั่งผู้ถือหุ้น+ความเห็นกรรมการว่า
ควรจะขายเพราะออกไปแล้วจะไม่มีสภาพคล่องและราคานี้ดีสุดแล้ว
เอาละครับพอออกจากตลาดทีนี้ได้เรื่องเลย
ก่อนจะมีการจ่ายปันผล มีหนังสือจากบริษัทแจ้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ขายเทนเดอร์ ให้ขายได้อีกครั้ง
ที่ราคาเดิม 29 บาท
แม่บอกยังไงก็ไม่ขาย เอาละไม่ขายก็ไม่ขาย
ผลปรากฏว่าแม่ถูก
ปีที่ 1 ปันผลครั้งที่ 1 เป็นกรณีพิเศษ 16 บาท
2 ปันผลประจำปี 5 บาท
3 ปันผลกลางปี 5 บาท
ปีที่2 ปันผลปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 บาท ถึง 5 บาท
ปีที่3 มีรายการพิเศษ ขอซื้อหุ้นคืนอีกครั้งในราคาประมาณ 45 บาท เอาละสิ ราคานี้ต้นทุนซะด้วย
ขายก็ได้ทุนคืนบวกกำไรจากปันผลเลยนะ
แต่คราวนี้ไม่ไว้ใจแล้วกลัวถูกหลอกเหมือนคราวก่อนที่กดราคาแค่ 29
แม่ผมไม่คิดเลยตอบว่าไม่ขายเพราะได้ทุนคืนหมดแล้ว อยู่เฉยๆก็ได้
รวม 3-4 ปีนี้รับปันผลอย่างเดียวเลย ไม่ต้องมาดูราคาหน้าจอ สบายใจจัง
ปีที่แล้วนี้เอง บริษัทแจ้งว่าจะเป็นการซื้อหุ้นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ย้ำครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ขายจะบังคับแล้ว
เดาสิครับว่าราคาเท่าไหร่
หมายเหตุ มันไม่ได้หมายความว่าหุ้นที่เทนเดอร์ออกจากตลาดมันจะไปได้ดีทุกตัว
ตอนนี้ยังลำบากใจกับแก้วส่องอยู่เลย น่าจะยอมตอนเทนเดอร์ รอบที่แล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 2.91
แล้วเห็นว่าออกไปแล้วจะเอาไปเชือดปิดกิจการซะงั้น
จากคุณ : ดูแล ให้ทาง - [ 17 ก.พ. 49 22:09:47 ]
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 3
คุณปรัชญา
หุ้นกระป๋อง ก็เป็นหุ้นยุคแรกๆของตลาดฯเหมือนกัน
เคยอ่านเจอว่า คุณโกศลจะไม่ยอมขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ขอตามออกไปราวีนอกตลาดฯ
ไม่รู้จะแฮบปี้เอนดิ้งหรือเปล่า
:roll: :roll: :roll: :roll:
หุ้นกระป๋อง ก็เป็นหุ้นยุคแรกๆของตลาดฯเหมือนกัน
เคยอ่านเจอว่า คุณโกศลจะไม่ยอมขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ขอตามออกไปราวีนอกตลาดฯ
ไม่รู้จะแฮบปี้เอนดิ้งหรือเปล่า

- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 4
หุ้นกระป๋อง คาร์โนเมนตันบล็อก เรียกไม่ค่อยถูก
อยู่กลุ่มบรรจุพัง
กำไรเยอะแยะแต่ จ่ายปันผลหน่อยเดียว
เคยถืออยู่ครับสมัยนั้นเขาทำกระป๋องน้ำอัดลมแป๊บซี่
แต่ทนไม่ไหวขายก่อนทำเทนเดอร์ครับ
อยู่กลุ่มบรรจุพัง
กำไรเยอะแยะแต่ จ่ายปันผลหน่อยเดียว
เคยถืออยู่ครับสมัยนั้นเขาทำกระป๋องน้ำอัดลมแป๊บซี่
แต่ทนไม่ไหวขายก่อนทำเทนเดอร์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 6
เจ้ากระป๋องเคยถืออยู่นิดหน่อยและขายไปก่อนเทนเดอร์เหมือนกันครับ โหดมั่ก ๆ เรื่องปันผล แถมราคาหุ้นก็กดน่าดูทั้ง ๆ ที่ PE, BV ดีทุกอย่าง แถมมีเรื่องการขายหุ้นบริษัทลูกให้กับบริษัทแม่ที่ต่างประเทศอีก ไม่รู้ข่าวข้างล่างเฮียคค. ไปร่วมด้วยเปล่า
กรุงเทพ--25 เม.ย.--ข่าวหุ้น
รายย่อยพลิกประวัติศาสตร์ชนะผู้บริหารหน้าเลือด รวมพลไล่บี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นนาน9 ชั่วโมง CMBT ยอมคายปันผลให้อีก 4 บาทรวมเป็น 5 บาท พร้อมยอมยกเลิกเงื่อนไขอัปยศจ่ายปันผล 10% ของราคาพาร์ ขณะผู้ถือหุ้นใจดียอมยกมือผ่านขายบริษัทย่อยแบบมีเงื่อนไขแม้อาจจะมีความสูญเสียในอนาคต ระบุเป็นการตอบแทนน้ำใจ สุดท้ายการประชุมจบอย่างชื่นมื่น ฝรั่งรับเป็นบทเรียนที่ดีจะจำไว้ใส่ใจ
วานนี้ในการประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.คาร์โนต์เมตัลบ๊อกซ์ (CMBT) ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ CMBT รวมพลกว่า 65 คนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง จากปีก่อนๆที่เคยมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมเฉลี่ยเพียง 25 คนเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินปันผลหลังจากบริษัทประกาศจะจ่ายเพียง 1 บาท
โดยในการประชุม เริ่มต้นผู้บริหารบริษัทต้องการให้การประชุมเดินตามวาระ ซึ่งเริ่มที่วาระพิจารณาขายหุ้น 40% ในบริษัท คาร์โนต์เมตัลบ๊อกซ์ เบ๊บแคน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือให้กับ คาร์โนต์ เมตัลบ๊อกซ์ เอเชีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน CMBT ด้วยมูลค่า 70 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขายขาดทุน
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยกลับไม่ยินยอมโดยยืนยันที่จะให้ผู้บริหารนำวาระเรื่องการจ่ายเงินปันผลเข้าสู่การพิจารณาก่อน ในขณะที่ผู้บริหารยังยืนยันที่จะให้เป็นไปตามวาระเดิม จนเกิดเป็นปากเสียงกันขึ้นระหว่างผู้บริหารและผู้ถือหุ้น จนในที่สุดได้มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งทักท้วงขึ้นว่าควรจะให้มีการประนีประนอมกันเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามจนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐเกิดความร้าวฉาน การถกเถียงจึงยุติลงด้วยการยอมให้วาระการพิจารณาเงินปันผลขึ้นมาเป็นวาระแรก
ทั้งนี้ การพิจารณาเรื่องดังกล่าวประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดมากที่สุด คือ เงื่อนไขการจ่ายเงินปันผล 10% ของราคาพาร์ โดยผู้ถือหุ้นกล่าวว่าไม่ทีบริษัทใดในโลกจ่ายเงินปันผลในลักษณะดังกล่าว ในขณะที่นายเฟรดเดอริค บรูเน่ท์ กรรมการ CMBT พยายามจะยืนยันว่ามีการจ่ายเงินปันผลในลักษณะอิงกับราคาพาร์ที่ 10% จริง จนในที่สุดมีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งยกตัวอย่างการจ่ายเงินปันผลของบริษัท ค็อคเน่ ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในสหรัฐอเมริกาว่ามีราคาพาร์เพียง 5 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น แต่จ่ายปันผลที่ 1 ดอลล่าร์ คิดเป็น 20% ของราคาพาร์ดังนั้นผู้บริหารจึงยอมยุติที่จะถกเถียงในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดีในการประชุมครั้งนี้มี นายโกศล ไกรฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเจ้าของตะวันออกไฟแนนซ์ เข้าร่วมประชุมด้วย โดยนายโกศลกล่าวว่า มีผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมากรออยู่หน้าห้องประชุมเพื่อรอฟังผลการประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ โดยขอให้ผู้บริหารใช้ดุลยพิจนิจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ
นอกจากนั้น ยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยรายหนึ่งได้ขอความเห็นใจจากผู้บริหารว่า ให้บริษัทรับฟังความคิดเห็นของผู้ถือหุ้นบ้างเนื่องจากการเข้ามาถือหุ้นของ CMBT ก็ถูกตราหน้าจากนักลงทุนด้วยกันแล้วว่าเข้ามาซื้อหุ้นกระป๋อง ซ้ำเมื่อบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 1 บาทซ้ำซาก จากที่เคยเหน็บแนมว่าถือหุ้นกระป๋องก็กลายเป็นถือหุ้นถังขยะทันที จึงขอให้บริษัทพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นธรรม
ด้านนายวิลเลี่ยม วอส ประธานกรรมการบริหาร CMBT หลังจากได้ฟังคำขอร้องของผู้ถือหุ้นรายย่อยก็มีท่าทียอมรับฟังเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยกล่าวว่ารู้สึกประหลาดใจมากที่ผู้ถือหุ้นชาวไทยมีปฏิกริยาตอบรับที่รุนแรง และขอบคุณนักลงทุนทุกคนที่สนใจในกิจการของบริษัทเป็นอย่างดี โดยบริษัทยอมทำตามคำร้องขอของผู้ถือหุ้นด้วยการเพิ่มเงินปันผลให้อีก 4 บาท รวมของเก่า 1 บาท เป็น 5 บาท โดยได้เรียกเงินปันผลที่จ่ายเพิ่มว่าเป็น"โบนัสพิเศษ"
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกลับไม่พอใจการเรียกเงินปันผลที่เพิ่มให้ว่าเป็นโบนัสพิเศษ โดยชี้ว่าบริษัทใช้คำไม่เหมาะสมเหมือนกับการให้เศษทานกับผู้ถือหุ้น โดยให้เปลี่ยนแปลงเป็น"เงินปันผลพิเศษ" และเมื่อทางผู้บริหารยอมตามความต้องการของผู้ถือหุ้นการประชุมจึงตกลงกันได้ด้วยดี และก้าวไปสู่ว่าระการขายหุ้นเบ๊บ แคน ตรามความต้องการของผู้บริหาร
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องการขาย คาร์โนเมตัลบ๊อกซ์ เบ๊บ แคน ให้กับ คาร์โนต์เมตับบ๊อกซ์เอเชีย ในมูลค่า 70 ล้านบาท และมีเงื่อนไขให้ CMBT สามารถเข้ามาซื้อกลับคืนได้ในภายหลังนั้น ทางผู้ถือหุ้นต้องการให้บริษํทตัดเงื่อนไขดังกล่าวออก เนื่องจากเกรงว่าจะกลับมาเป็นการสูญเสียของบริษัทในอนาคตหาก บริษัทต้องมารับรู้ผลประกอบการของเบ๊บแคนในอนาคต
โดยในประเด็นดังกล่าวทางผู้บริหารพยายามชี้แจงกับผู้ถือหุ้นว่ามีความจำเป็นสำหรับการขายเบ๊บแคนโดยมีเงื่อนไข และในที่สุดผู้ถือหุ้นรายย่อยฝ่ายข้างมากก็ยินยอมที่จะโหวตยกมือผ่านวาระดังกล่าวเป็นการตอบแทนให้กับผู้บริหาร โดยถือเป็นน้ำใจคืนกลับให้จากการที่ผู้บริหารยอมเพิ่มเงินปันผลให้อีก 4 บาท ส่งผลให้การประชุมผู้ถือหุ้นจบลงด้วยมิตรภาพ
นายวิลเลี่ยม วอส กล่าวอย่างมีสปิริตว่า ในเรื่องดังกล่าวทางผู้บริหารเองก็มีข้อพิพาทหลายอย่าง และยอมรับว่าได้รับบทเรียนจากผู้ถือหุ้นคนไทย และจะถือเป็นบทเรียนสำหรับบริษัทในครั้งต่อไป นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้ซักถามอย่างเต็มที่ และได้สั่งอาหารมาเลี้ยงผู้ถือหุ้นด้วย จากเดิมที่กำหนดจะเลิกการประชุมตั้งแต่เวลา 12.00 น.แต่การประชุมกลับสิ้นสุดลงเมื่อใกล้เวลา 19.00 น. ใช้เวลาในการประชุมทั้งสิ้น 9 ชั่วโมงเต็ม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้"ข่าวหุ้น"ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วยการเกาะติดข่าวดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การประกาศจ่ายปันผลในวันที่ 21 มีนาคม โดยข่าวหุ้นได้เสนอในวันที่ 22 มีนาคมว่าเป็นการจ่ายปันผลที่เข้าข่ายหน้าเลือดเพราะบริษัทมีผลประกอบการที่ดีมีกำไรถึงหุ้นละ 22 บาทแต่จ่ายปันผลเพียง 1 บาท เท่ากับปีก่อนๆ ที่มีกำไรต่อหุ้นเพียง 7.48 บาทเท่านั้น
นอกจากนั้นในวันที่ 12 เมษายน ได้เสนอข่าวจากทาง CMBT ในลักษณะสื่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทถึงนักลงทุน และได้เกาะติดสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงการเข้าร้องเรียนต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น จนกระทั่งเรื่องนี้ได้จบลงอย่างชื่นมื่นดังกล่าวทุนว่าบริษัท--จบ--
กรุงเทพ--25 เม.ย.--ข่าวหุ้น
รายย่อยพลิกประวัติศาสตร์ชนะผู้บริหารหน้าเลือด รวมพลไล่บี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นนาน9 ชั่วโมง CMBT ยอมคายปันผลให้อีก 4 บาทรวมเป็น 5 บาท พร้อมยอมยกเลิกเงื่อนไขอัปยศจ่ายปันผล 10% ของราคาพาร์ ขณะผู้ถือหุ้นใจดียอมยกมือผ่านขายบริษัทย่อยแบบมีเงื่อนไขแม้อาจจะมีความสูญเสียในอนาคต ระบุเป็นการตอบแทนน้ำใจ สุดท้ายการประชุมจบอย่างชื่นมื่น ฝรั่งรับเป็นบทเรียนที่ดีจะจำไว้ใส่ใจ
วานนี้ในการประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.คาร์โนต์เมตัลบ๊อกซ์ (CMBT) ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ CMBT รวมพลกว่า 65 คนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง จากปีก่อนๆที่เคยมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมเฉลี่ยเพียง 25 คนเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินปันผลหลังจากบริษัทประกาศจะจ่ายเพียง 1 บาท
โดยในการประชุม เริ่มต้นผู้บริหารบริษัทต้องการให้การประชุมเดินตามวาระ ซึ่งเริ่มที่วาระพิจารณาขายหุ้น 40% ในบริษัท คาร์โนต์เมตัลบ๊อกซ์ เบ๊บแคน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือให้กับ คาร์โนต์ เมตัลบ๊อกซ์ เอเชีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน CMBT ด้วยมูลค่า 70 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขายขาดทุน
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยกลับไม่ยินยอมโดยยืนยันที่จะให้ผู้บริหารนำวาระเรื่องการจ่ายเงินปันผลเข้าสู่การพิจารณาก่อน ในขณะที่ผู้บริหารยังยืนยันที่จะให้เป็นไปตามวาระเดิม จนเกิดเป็นปากเสียงกันขึ้นระหว่างผู้บริหารและผู้ถือหุ้น จนในที่สุดได้มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งทักท้วงขึ้นว่าควรจะให้มีการประนีประนอมกันเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามจนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐเกิดความร้าวฉาน การถกเถียงจึงยุติลงด้วยการยอมให้วาระการพิจารณาเงินปันผลขึ้นมาเป็นวาระแรก
ทั้งนี้ การพิจารณาเรื่องดังกล่าวประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดมากที่สุด คือ เงื่อนไขการจ่ายเงินปันผล 10% ของราคาพาร์ โดยผู้ถือหุ้นกล่าวว่าไม่ทีบริษัทใดในโลกจ่ายเงินปันผลในลักษณะดังกล่าว ในขณะที่นายเฟรดเดอริค บรูเน่ท์ กรรมการ CMBT พยายามจะยืนยันว่ามีการจ่ายเงินปันผลในลักษณะอิงกับราคาพาร์ที่ 10% จริง จนในที่สุดมีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งยกตัวอย่างการจ่ายเงินปันผลของบริษัท ค็อคเน่ ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในสหรัฐอเมริกาว่ามีราคาพาร์เพียง 5 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น แต่จ่ายปันผลที่ 1 ดอลล่าร์ คิดเป็น 20% ของราคาพาร์ดังนั้นผู้บริหารจึงยอมยุติที่จะถกเถียงในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดีในการประชุมครั้งนี้มี นายโกศล ไกรฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเจ้าของตะวันออกไฟแนนซ์ เข้าร่วมประชุมด้วย โดยนายโกศลกล่าวว่า มีผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมากรออยู่หน้าห้องประชุมเพื่อรอฟังผลการประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ โดยขอให้ผู้บริหารใช้ดุลยพิจนิจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ
นอกจากนั้น ยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยรายหนึ่งได้ขอความเห็นใจจากผู้บริหารว่า ให้บริษัทรับฟังความคิดเห็นของผู้ถือหุ้นบ้างเนื่องจากการเข้ามาถือหุ้นของ CMBT ก็ถูกตราหน้าจากนักลงทุนด้วยกันแล้วว่าเข้ามาซื้อหุ้นกระป๋อง ซ้ำเมื่อบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 1 บาทซ้ำซาก จากที่เคยเหน็บแนมว่าถือหุ้นกระป๋องก็กลายเป็นถือหุ้นถังขยะทันที จึงขอให้บริษัทพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นธรรม
ด้านนายวิลเลี่ยม วอส ประธานกรรมการบริหาร CMBT หลังจากได้ฟังคำขอร้องของผู้ถือหุ้นรายย่อยก็มีท่าทียอมรับฟังเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยกล่าวว่ารู้สึกประหลาดใจมากที่ผู้ถือหุ้นชาวไทยมีปฏิกริยาตอบรับที่รุนแรง และขอบคุณนักลงทุนทุกคนที่สนใจในกิจการของบริษัทเป็นอย่างดี โดยบริษัทยอมทำตามคำร้องขอของผู้ถือหุ้นด้วยการเพิ่มเงินปันผลให้อีก 4 บาท รวมของเก่า 1 บาท เป็น 5 บาท โดยได้เรียกเงินปันผลที่จ่ายเพิ่มว่าเป็น"โบนัสพิเศษ"
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกลับไม่พอใจการเรียกเงินปันผลที่เพิ่มให้ว่าเป็นโบนัสพิเศษ โดยชี้ว่าบริษัทใช้คำไม่เหมาะสมเหมือนกับการให้เศษทานกับผู้ถือหุ้น โดยให้เปลี่ยนแปลงเป็น"เงินปันผลพิเศษ" และเมื่อทางผู้บริหารยอมตามความต้องการของผู้ถือหุ้นการประชุมจึงตกลงกันได้ด้วยดี และก้าวไปสู่ว่าระการขายหุ้นเบ๊บ แคน ตรามความต้องการของผู้บริหาร
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องการขาย คาร์โนเมตัลบ๊อกซ์ เบ๊บ แคน ให้กับ คาร์โนต์เมตับบ๊อกซ์เอเชีย ในมูลค่า 70 ล้านบาท และมีเงื่อนไขให้ CMBT สามารถเข้ามาซื้อกลับคืนได้ในภายหลังนั้น ทางผู้ถือหุ้นต้องการให้บริษํทตัดเงื่อนไขดังกล่าวออก เนื่องจากเกรงว่าจะกลับมาเป็นการสูญเสียของบริษัทในอนาคตหาก บริษัทต้องมารับรู้ผลประกอบการของเบ๊บแคนในอนาคต
โดยในประเด็นดังกล่าวทางผู้บริหารพยายามชี้แจงกับผู้ถือหุ้นว่ามีความจำเป็นสำหรับการขายเบ๊บแคนโดยมีเงื่อนไข และในที่สุดผู้ถือหุ้นรายย่อยฝ่ายข้างมากก็ยินยอมที่จะโหวตยกมือผ่านวาระดังกล่าวเป็นการตอบแทนให้กับผู้บริหาร โดยถือเป็นน้ำใจคืนกลับให้จากการที่ผู้บริหารยอมเพิ่มเงินปันผลให้อีก 4 บาท ส่งผลให้การประชุมผู้ถือหุ้นจบลงด้วยมิตรภาพ
นายวิลเลี่ยม วอส กล่าวอย่างมีสปิริตว่า ในเรื่องดังกล่าวทางผู้บริหารเองก็มีข้อพิพาทหลายอย่าง และยอมรับว่าได้รับบทเรียนจากผู้ถือหุ้นคนไทย และจะถือเป็นบทเรียนสำหรับบริษัทในครั้งต่อไป นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้ซักถามอย่างเต็มที่ และได้สั่งอาหารมาเลี้ยงผู้ถือหุ้นด้วย จากเดิมที่กำหนดจะเลิกการประชุมตั้งแต่เวลา 12.00 น.แต่การประชุมกลับสิ้นสุดลงเมื่อใกล้เวลา 19.00 น. ใช้เวลาในการประชุมทั้งสิ้น 9 ชั่วโมงเต็ม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้"ข่าวหุ้น"ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วยการเกาะติดข่าวดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การประกาศจ่ายปันผลในวันที่ 21 มีนาคม โดยข่าวหุ้นได้เสนอในวันที่ 22 มีนาคมว่าเป็นการจ่ายปันผลที่เข้าข่ายหน้าเลือดเพราะบริษัทมีผลประกอบการที่ดีมีกำไรถึงหุ้นละ 22 บาทแต่จ่ายปันผลเพียง 1 บาท เท่ากับปีก่อนๆ ที่มีกำไรต่อหุ้นเพียง 7.48 บาทเท่านั้น
นอกจากนั้นในวันที่ 12 เมษายน ได้เสนอข่าวจากทาง CMBT ในลักษณะสื่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทถึงนักลงทุน และได้เกาะติดสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงการเข้าร้องเรียนต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น จนกระทั่งเรื่องนี้ได้จบลงอย่างชื่นมื่นดังกล่าวทุนว่าบริษัท--จบ--
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 10
ฟัง ๆ ดูเหมือนน่าจะถือตามออกจากตลาดเลยครับ แต่ละตัว :roll:
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- atsu
- Verified User
- โพสต์: 1218
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 11
ไอ้หยาาา :shock: :shock: :shock:sirivajj เขียน:ASTL ครับ ปีก่อน ทำ Tender ที่ราคา 270 บาท
พอออกไปได้ปุ๊บ ล่าสุดปันผลให้ผู้ถือหุ้น หุ้นละ 150 บาทเลย
อย่างงี้ผมก็ขายหมูคืนให้บริษัทหมดเลยดิ
ไม่อยากตามออกไปด้วย กลัวครับ
เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรายย่อยที่ตามออกไปบ้าง
จะไปโดนต้มยำทำแกงยังไงก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ประสพการณ์ของผู้ตามหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกนอกตลาด
โพสต์ที่ 12
มาตามอ่านครับ
น่าตามออกไปเหมือนกันนะครับ แต่มีทั้งดีและร้าย เลือกยากจริงๆ ไม่เป็นไรของเรามีอยู่ไม่กี่ร้อยหุ้นเอง
ว่าแต่ถ้าตามออกไปแล้ว มีผลดีอะไรหรือเปล่าครับ
ดูเหมือนไม่ค่อยมี เลยนะครับ เจ้าของเขาเล่นตามใจได้หมดไม่มีใครคุ้มครองเลย
น่าตามออกไปเหมือนกันนะครับ แต่มีทั้งดีและร้าย เลือกยากจริงๆ ไม่เป็นไรของเรามีอยู่ไม่กี่ร้อยหุ้นเอง
ว่าแต่ถ้าตามออกไปแล้ว มีผลดีอะไรหรือเปล่าครับ
ดูเหมือนไม่ค่อยมี เลยนะครับ เจ้าของเขาเล่นตามใจได้หมดไม่มีใครคุ้มครองเลย
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์