จำลองมาแล้ว มาเพราะอะไรเนี่ย

[champ]

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประกาศร่วมม็อบทั่วประเทศขับไล่ทักษิณ 26 ก.พ.พร้อมเรียร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง ชี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว เหตุสร้างความแตกแยกเกิดความเสียหายกับประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง เชื่อหากประชาชนออกมาขับไล่เรือนแสน"แม้ว"ยอมยกธงขาวแน่
     
      วันนี้(19 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ในฐานะกองทัพธรรมมูลนิธิ ได้แถลงข่าวขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออก โดยระบุว่า การขายหุ้นบริษัทชิน คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ของครอบครัว นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกิจการที่ได้สัมปทานจากประเทศไทย ขายให้ต่างชาติ โดยเฉพาะกรณีที่จงใจแก้กฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม (แก้จากเดิมให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น49% จากแก้กฎหมายได้เพียง 2 วัน ครอบครัวท่านนายกฯก็เทขายหุ้นให้ต่างชาติได้หมด ตามที่จงใจแก้กฎหมายไว้)
     
      ได้ก่อให้เกิดปฎิกริยาอย่างรุนแรงในหมู่ประชาชน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้คณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆได้รวมพลังกันเป็นปึกแผ่นชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เสริมด้วยพลังนิสิตนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งมีความเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันว่า ท่านนายกรัฐมนตรี หมดความชอบธรรม จึงได้พร้อมใจกันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก
     
      พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า สถานการณ์ยิ่งตรึงเครียดขึ้นไปอีก เมื่อผู้จัดรายการสถานีโทรทัศน์และวิทยุ ซึ่งเป็นสถานีของราชการ และเคยเป็นปากเสียงของท่านยกฯมาโดยตลอด ได้ออกมาจาบจ้วง ประธานองคมนตรี พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ผู้เป็นที่เคารพรักของทหาร 3 เหล่าทัพและประชาชนทั่วไป การจาบจ้วงดังกล่าวก็เพื่อปกป้องท่านนายกรัฐมนตรี โดยแท้ ประชาชนสงสัยว่า มีการรู้เห็นเป็นใจกันหรือเปล่า ระหว่างรัฐบาลกับ ผู้จัดรายการฯคนดังกล่าว"ผมได้คุยกับทหารหลายคน ซึ่งหลายคนใช้ถ้อยคำรุนแรงไม่พอใจอย่างมาก"
     
      พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เกิดความแตกแยกอย่างกว้างขวาง เพราะอีกฝ่ายนหนุนยากฯอีกฝ่ายต้าน ทำให้เกิดความเสียหายกัยประเทศชาติ
     
      ผมจึงตัดสินใจขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออก และในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ผมพร้อมกับประชาชนจากทั่วประเทศ จะไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง คาดว่าหากทีประชาชนออกมาขับไล่นายกฯเรือนแสน ท่านนายกฯคงลาออกแน่นอน พล.ต.จำลอง กล่าว

[Stock Broker]

ก็ท่านมหาฯ ขอให้บริจาคแค่ 2 หมื่นล้าน นายกอยากไม่ฟังเองนี่นา เลยต้องออกมาไล่กันหน่อย

[Jeng]

จำลองคงอยากตั้งพรรคใหม่

พลังปราบมาร

[tok]

มีรายละเอียดต่ออีก จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เกิดความแตกแยกอย่างกว้างขวาง ทั้งในที่ทำงานและในครอบครัว แบ่งกันเป็นสองฝ่าย สามีภรรยา ซึ่งอยู่บนรถคันเดียวกันหรืออยู่บนเตียงเดียวกันถึงขั้นทะเลาะกัน ไล่ลงจากรถไล่ลงจากเตียง เพราะอีกฝ่ายหนึ่งหนุนนายกฯอีกฝ่ายหนึ่งต้าน นับวันความแตกแยกความสามัคคี จะทวีมากยิ่งขึ้น ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับประเทศ ซึ่งเดิมเคยมีความสามัคคีกันอย่างดี ก็ยังช่วยแก้ปัญหาของชาติได้ยากอยู่แล้ว
     
      “ผมตกอยู่ใน2ฐานะ ฐานะหนึ่ง ผมเป็นคนไปเชิญท่านนายกรัฐมนตรี มาสู่วงการเมือง อีกฐานะหนึ่ง ผมเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นเลขาธิการของ ท่านองคมนตรีและรัฐบุรุษ ผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับผม รวมทั้งพี่ๆน้องๆ นายทหาร 3 เหล่าทัพ หลายคนได้สอบถามผมว่า นอกจากเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงท่านายกรัฐมนตรีแล้ว ผมจะไม่คิดไม่ทำอะไรเลยหรือ จึงตัดสินใจขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออก เพื่อความสามัคคี ของคนในชาติกลับคืนมา และเหตุการณ์ต่างๆจะได้คลี่คลายลง" พล.ต.จำลองกล่าว
     
      พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ตนพร้อมมวลหมู่สมาชิกกองทัพธรรมมูลนิธิ พร้อมกับประชาชนจากจังหวัดต่างๆทั่วทุกภาคของประเทศ พวกเราหลายๆคนที่ห่วงใยบ้านเมือง จะไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง คาดว่าหากมีประชาชนออกมาขับไล่นายกรัฐมนตรีเรือนแสน ท่านนายกฯคงลาออกแน่นอน
     
      ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลไม่ลาออกแต่เลือกยุบสภา เป็นทางออกที่ดีหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า เท่าที่ฟังขณะนี้หลายฝ่ายอยากให้นายกรัฐมนตรีลาออกมากกว่า ทั้งนี้พล.ต.จำลองยังย้ำด้วยว่า ขณะนี้ตนไม่ได้ทำงานไม่มีหน้าที่อะไรในรัฐบาล หรืออยู่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

[tok]

พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เกิดความแตกแยกอย่างกว้างขวาง ทั้งในที่ทำงานและในครอบครัว แบ่งกันเป็นสองฝ่าย สามีภรรยา ซึ่งอยู่บนรถคันเดียวกันหรืออยู่บนเตียงเดียวกันถึงขั้นทะเลาะกัน ไล่ลงจากรถไล่ลงจากเตียง เพราะอีกฝ่ายหนึ่งหนุนนายกฯอีกฝ่ายหนึ่งต้าน

นี่อาจเป็นเหตุผลหลักให้ พล.ต จำลองออกม่้าไล่นายก เมียสั่งมา ฮิฮิ

[Supra]

:lol:  :shock:

          น้ำผึ้งหยดเดียว.........  :roll:  เรื่องต่อจากนี้จะเป็นไง  26 ก.พ. คงได้ดูกันต่อ  :?:  :?:  :?:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

น้ำผึ้งหยดเดียว......... 

หยดเดียวตรงไหน

เหอๆ

[qingwen]

เหตุผลคุณจำลองทำไมไม่ค่อยฉลาดล่ะ น่าเสียดาย โดยเฉพาะข้อมความที่ว่า
-------------
โดยเฉพาะกรณีที่จงใจแก้กฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม (แก้จากเดิมให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น49% จากแก้กฎหมายได้เพียง 2 วัน ครอบครัวท่านนายกฯก็เทขายหุ้นให้ต่างชาติได้หมด ตามที่จงใจแก้กฎหมายไว้)
------------

แกไม่รู้เลยเหรอว่ามันไม่เกี่ยวกัน ไม่รู้เลยเหรอว่า SHIN ไม่ใช่ผู้ถือใบอนุญาต ถ้ารู้ว่าเป็น ADVANC ที่เกี่ยว ถ้าตีความตามตัวอักษร ADVANC ก็ยังมีผู้ถือหุ้นต่างด้าวไม่เกิน 25% อยู่ดี แล้วถ้าตีความไปอีกแบบตามจำนวนเงินลงทุน ต่างด้าวก็ถือหุ้นเกิน 25% มาตั้งนานแล้ว แล้วตอนนี้ก็ถือเกิน 50 % อยู่ดี แกสอบได้ที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ ไม่น่าให้เหตุผลอย่างนี้ แต่เรื่องอื่นไม่ว่ากัน มันเป็นความเห็น

[ปรัชญา]

คิดแบบน้ำแตกสาย  ไผ่แตกกอ

ทักษิณส่งจำลองมาคุมเกมส์

แต่เกมส์อาจไม่เป็นไปตามที่คิด

อาจผิดคาด

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แกไม่รู้เลยเหรอว่ามันไม่เกี่ยวกัน ไม่รู้เลยเหรอว่า SHIN ไม่ใช่ผู้ถือใบอนุญาต ถ้ารู้ว่าเป็น ADVANC ที่เกี่ยว ถ้าตีความตามตัวอักษร ADVANC ก็ยังมีผู้ถือหุ้นต่างด้าวไม่เกิน 25% อยู่ดี แล้วถ้าตีความไปอีกแบบตามจำนวนเงินลงทุน ต่างด้าวก็ถือหุ้นเกิน 25% มาตั้งนานแล้ว แล้วตอนนี้ก็ถือเกิน 50 % อยู่ดี แกสอบได้ที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ ไม่น่าให้เหตุผลอย่างนี้ แต่เรื่องอื่นไม่ว่ากัน มันเป็นความเห็น

ถามแบบฟันธงครับ ถ้าไม่แก้กฎหมาย deal shin ซื้อขายได้หรือไม่ครับ

ถ้าซื้อไม่ได้ แล้วไปซื้อแบบปกติ รัฐจะได้ภาษีหรือไม่ครับ

[qingwen]

ถามแบบฟันธงครับ ถ้าไม่แก้กฎหมาย deal shin ซื้อขายได้หรือไม่ครับ

ถ้าซื้อไม่ได้ แล้วไปซื้อแบบปกติ รัฐจะได้ภาษีหรือไม่ครับ

ซื้อได้ครับ ไม่ต้องแก้กฎหมาย (เหมือน UCOM)

คำถามข้อสองไม่เข้าใจ ซื้อแบบปกติคืออะไรครับ ถ้าหมายถึงเทมาเส็กซื้อตรงๆไม่ผ่านบริษัทลูก SHIN จะกลายเป็นต่างด้าวไปนะครับ ส่วนเรื่องภาษีไม่เกี่ยว เสียหรือไม่เสียคงเหมือนเดิม

[Jeng]

อ้าวเหรอครับ พีไม่ยักรู้

งั้นไปแก้กฎหมายทำไมครับ ไม่รู้จิงๆครับ

สรุปคือ ขนเงินมา 73000 ล้านแล้วซื้อ shin

โดยไม่ต้องแก้กฎหมายซื้อได้เลยใช่หรือไม่ครับ

[qingwen]

อ้าวเหรอครับ พีไม่ยักรู้

งั้นไปแก้กฎหมายทำไมครับ ไม่รู้จิงๆครับ

เขาคงแก้เพื่อให้เป็นไปตาม WTO กับเพื่อดึงเงินต่างชาติกระมังครับ

[Jeng]

เรียนถามคุณ gingwen อีกครั้งว่า


ไปแก้กฎหมายทำไมครับ

สรุปคือ ขนเงินมา 73000 ล้านแล้วซื้อ shin

โดยไม่ต้องแก้กฎหมายซื้อได้เลยใช่หรือไม่ครับ

[qingwen]

เรียนถามคุณ gingwen อีกครั้งว่า


ไปแก้กฎหมายทำไมครับ

สรุปคือ ขนเงินมา 73000 ล้านแล้วซื้อ shin

โดยไม่ต้องแก้กฎหมายซื้อได้เลยใช่หรือไม่ครับ

แก้ทำไม อันนี้ไม่ทราบ เท่าที่ฟังมาคือทำตาม WTO ทำมาเป็นปีแล้วตั้งแต่ยังไม่คิดที่จะขาย

สิงคฺโปร์ขนเงินมาซื้อ SHIN ได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้กฎหมายครับ แต่เพื่อให้ SHIN ยังเป็นบริษัทไทยอยู่จึงจำเป็นต้องตั้งบริษัทกุหลาบแก้วขึ้นมาให้มีสัญชาติไทย เพื่อทำให้ SHIN ยังมีสัญชาติไทย เมื่อ SHIN ยังมีสัญชาติไทย เวลาไปถือหุ้น ADVANC SATTEL ITV ทำให้บริษัทเหล่านั้นมีอัตราส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยคงเดิมครับ

[Jeng]

ขอบคุณครับ ไม่ทราบว่าผู้รู้ท่านอื่นว่าอย่างไรครับ

ผมไม่รู้จิงๆข้อนี้

รอฟังอยู่ครับ

[qingwen]

ตอนแรกที่ผมเห็นข้อกล่าวหานี้ตั้งแต่วันแรกๆที่มีข่าว ผมก็คิดทันทีว่ามันไปได้ได้ยังไง ที่พรบ.โทรคมนาคม จะไปครอบคลุมบริษัท Holding Company เพียงแต่ผมไม่แน่ใจว่า SHIN ถือใบอนุญาตอะไรอยู่หรือเปล่า จนวันนั้นแหละครับมีคนมายืนยันว่า SHIN เป็น Holding จริงๆ ผู้ถือใบอนุญาตเป็นบริษัทลูก ส่วน SHIN เป็นบริษัทธรรมดา อยากให้ต่างด้าวถือหุ้นเท่าไหร่ก็เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทเอง

[noom_sit]

แก้ไม่แก้กฏหมาย เค้าก็ซื้อได้อยู่ดีครับ ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็ UCOM

หรือก็ตั้งบริษัท กุหลาบหิน กุหลาบดิน กุหลาบทราย ขึ้นมาเพิ่มอีกก็ได้

ผมว่าเหตุผลของ พลตรี จำลอง ฟังไม่ขึ้น เหมือนตอนบอกว่า ช้างเข้าตลาดจะทำให้คนกินเหล้าเยอะขึ้น ทั้งที่จะเข้าหรือไม่เข้า ก็กินเยอะขึ้นอยู่ดี

[Jeng]

อืม สองท่านละ ที่ว่าไม่แก้ก็ซื้อได้

มีท่านอื่นมั๊ยครับ

เหอๆ

[Jeng]

ไปค้นมาแล้วครับ

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่มีลักษณะดังกล่าวดังต่อไปนี้

1.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 42.8 บริษัท สิงเทล สเตรติจิก อินเวสเมนท์ ของสิงคโปร์ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 19.2

2.บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51.38

3.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 53

ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคม (เอไอเอส-ชินแซท) ในลักษณะนี้ไว้ว่า "ต้องมิใช่คนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้น รวมทั้งต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด และผู้มีอำนาจกระทำการผูกพันนิติบุคคลนั้นต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยด้วย ในการนี้คณะกรรมการ (กทช.) อาจกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการบางลักษณะหรือบางประเภทที่เป็นนิติบุคคลจะต้องกำหนดข้อห้ามการกระทำอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยอีกด้วยก็ได้"

ดังนั้น บริษัท เอไอเอส ก็ดี บริษัท ซินแซทฯ ก็ดี จะมีบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นต่างด้าวถือหุ้นเกินร้อยละ 25 และยังถูกจำกัดด้วยสัดส่วนกรรมการที่เป็นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 อีกด้วย

เมื่อมีข้อจำกัดดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ซึ่งด้วยเสียง 375 เสียงของพรรคไทยรักไทยในสภาผู้แทนราษฎร และเสียง ส.ว.ในวุฒิสภาที่เกินครึ่งเทให้กับพรรคไทยรักไทย จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ไขกฎหมายฉบับนี้

ดังนั้น พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 ซึ่งแก้ไขเงื่อนไขซึ่งเป็นข้อจำกัดดังกล่าวจึงผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเมื่อเดือนธันวาคม 2548 อย่างง่ายดาย รอแต่เพียงนำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อลงพระปรมาภิไธยประกาศ (ในราชกิจจานุเบกษา) ใช้เป็นกฎหมายต่อไป

พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมฉบับใหม่ได้ตัดเงื่อนไขที่จำกัดการถือหุ้นไว้ที่ร้อยละ 25 โดยอิงกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ให้ต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทด้านกิจการโทรคมนาคมได้ถึงร้อยละ 49 และตัดเงื่อนไขสัดส่วนกรรมการบริษัทที่ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ออกทั้งหมด 

หมายเหตุท้าย พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ตอกย้ำถึงสมมติฐานข้างต้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยระบุว่า 

"โดยที่กิจการโทรคมนาคมบางลักษณะหรือบางประเภทเป็นกิจการที่ต้องใช้ทุนเป็นจำนวนมากในการดำเนินการและต้องใช้เทคโนโลยีสูงซึ่งปัจจุบันการพึ่งพาทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศยังมีความจำเป็น การกำหนดคุณสมบัติของผู้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคม...โดยให้มีสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้านั้นเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการระดมทุนจากผู้ลงทุนต่างประเทศหรือหากจะร่วมทุนกับต่างประเทศก็จะติดขัดปัญหาสัดส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าวดังกล่าวส่งผลให้ผู้รับใบอนุญาตทั้งรายเดิมและรายใหม่ไม่สามารถพัฒนาโครงข่ายหรือเทคโนโลยีโทรคมนาคมเพื่อจัดการให้บริการแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพได้เท่าที่ควร สมควรแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้นเสียใหม่เอื้อต่อการระดมทุนจากนักลงทุนจากต่างประเทศ.."

อย่างไรก็ตาม กว่า พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคทนาคมฉบับใหม่ ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ กว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต้องรอถึงวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 และมีผลบังคับใช้วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2549

นี่จึงอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การซื้อขายหุ้นที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ต้องเลื่อนมาจนถึงวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2549

http://www.rakbankerd.com/01_jam/thaiin ... 0&db_file=

อืม ผมอ่านแล้วสรุปได้ว่า ไม่แก้ ซื้อไม่ได้ครับ

ไม่ทราบว่ามีใครแย้งหรือไม่

[qingwen]

ก็ชัดเจนนี่ครับ
-----------------
ดังนั้น บริษัท เอไอเอส ก็ดี บริษัท ซินแซทฯ ก็ดี จะมีบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นต่างด้าวถือหุ้นเกินร้อยละ 25

-----------------

เขาไม่ได้หมายถึง SHIN สักหน่อย หุ้นที่ขายเป็นหุ้น SHIN นะครับ แล้วตอนนี้ SHIN มีสัญชาติไทยเต็มตัว ด้วยเทคนิคตามที่กล่าวมา

[Jeng]

ยังสรุปว่า ไม่ต้องแก้กฎหมาย ตามที่คุณจำลองกล่าวหา

เทมาเส็ก ยังซื้อ shin ได้ใช่หรือไม่ครับ

[qingwen]

ชัวร์ครับ ไม่ต้องแก้ก็ซื้อ SHIN ได้

แต่ซื้อ ADVANC ไม่ได้ เพราะติด 25% จนแก้นั่นแหละถึงซื้อ ADVANC ได้ 49%

สรุปอีกที SHIN ไม่ใช่ ADVANC เป็นหุ้นคนละตัว เป็นคนละนิติบุคคลกันครับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมฉบับใหม่ได้ตัดเงื่อนไขที่จำกัดการถือหุ้นไว้ที่ร้อยละ 25 โดยอิงกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ให้ต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทด้านกิจการโทรคมนาคมได้ถึงร้อยละ 49 และตัดเงื่อนไขสัดส่วนกรรมการบริษัทที่ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ออกทั้งหมด 

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่มีลักษณะดังกล่าวดังต่อไปนี้

1.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 42.8 บริษัท สิงเทล สเตรติจิก อินเวสเมนท์ ของสิงคโปร์ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 19.2

2.บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51.38

3.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) บริษัทชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ร้อยละ 53

ถ้ามีการตีความว่าถึงแม้ว่า shin จะเป็นบริษัทคนไทย แต่ มีต่างชาติถืออยู่ 49 % และ shin ก็ถือ advanc อยู่ 42.8 %

เท่ากับ ต่างชาติ ถือหุ้น advanc ผ่าน shin ในนามบริษัทไทย 20.9 % ( 20.9 % นี้อาจจะถูกตีความว่าเป็นของต่างชาติก็ได้นะครับ ) ซึ่งเมื่อนำมารวมกับ หุ้นที่ถือโดย สิงเทล 19.2 % จะทำให้ต่างชาติ มีหุ้น 40.1 % ทำให้ต่างชาติไม่สบายใจ เลยขอให้แก้หน่อย ว่าให้ต่างชาติถือได้ ไม่เกิน 49 %

ถ้าเป็นคุณจะหอบเงินมา 73000 ล้าน คุณก็ต้องซื้อแบบที่สบายใจใช่หรือไม่

กฎหมายบอกว่าห้ามถือหุ้นเกิน 25 % ก็อืม เราซื้อผ่านชิน เราก็รู้อยู่ว่า เราซื้อ ไป 40.1 % อืม ถ้าแก้ได้เราก็คงอยากให้แก้นะ

อีกเรื่องนึงคือ กรรมการ 3 คน ใน 4 คนต้องเป็นคนไทย ข้อนี้ก็ถูกยกเลิก

คำถามถ้าเราเป็นสิงคโปร์เรากล้าใส่เงินเข้าไปในบริษัท ที่เราเป็นกรรมการได้ คนเดียว ที่เหลืออีก 3 ต้องเป็นคนของเจ้าของประเทศ

เงิน 73000 ล้านบาทนะครับ

...........................................................................

เอสรุปไงดี ตกลงซื้อได้หรือไม่ ถ้าไม่แก้กฎหมาย

[Jeng]

เรื่องนี้ทำให้นึกถึงสมัยก่อนนานมาแล้ว ผมไปฮ่องกงกับเพื่อน แล้วไปซื้อกล้องวีดีโอ

ซึ่งเพือนผมได้ถามว่ากล้องวีดีโอนี้ราคาเท่าไร คนขายบอกมาว่า XXX บาท เพื่อนก็ถูกใจอยากซื้อ หลังจากต่อรองราคาเป็นที่พอใจ

คนขายถามว่าใช้เองหรือเปล่า เพื่อนบอกใช้เอง คนขายถามว่ามาฮ่องกงกี่วันแล้ว เพื่อนบอกว่า เพิ่งมา

คนขายบอกว่า ไม่น่าเลย นึกว่าจะซื้อไปฝากเพื่อน จะแนะนำรุ่นนี้ให้ เพ่อนก็บอกว่า ไหนหละ คนขายก็เอาให้ดูว่า มันดีกว่าอย่างไร

กล่อมจนกระทั่งเพือ่น ซือตัวใหม่ ไม่เอาตัวเดิม

พอกลับมาโรงแรม ดูไปดูมา เอ๊ะ ทำให้รู้ว่า ตัวเดิมดีกว่าตั้งเยอะ ตัวใหม่แพงก็แพง ก็เลย เริ่มรู้ว่าถูกหลอก

..........................................................

เช้าอีกวันก็เลยย้อนกลับไปที่ร้านเดิม บอกว่า ไม่เอาตัวใหม่ อยากได้ตัวแรกที่คุยกัน คนขายบอกว่า เปลี่ยนไม่ได้

อืม ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ งั้นตัวแรกที่คุยกันขอซื้อเพิ่มอีกตัว

คนขายบอกว่า ของไม่มี

เราช่วยกันพูดว่าของไม่มีได้ไง เมื่อวานยังมีเลย เขาบอกว่าเมื่อวานมี วันนี้ไม่มี

เราบอก็นั่นไง ยังเห็นวางอยู่เมื่อกี้เลย หายไปไหนแล้ว

เขาบอกอันนั้นเอาไว้โชว์ไม่ได้ขาย

เราบอกว่าหลอกเรา เราจะเรียกตำรวจจับ เขาบอกเรียกได้เลย

เขาไม่ได้หลอก

คือเขาบอกว่า อันนั้น มีไว้บอกว่าขายเท่าไร แต่ถ้าจะเอาจริงๆ ไม่มีของขาย

(เอาไว้เรียกลูกค้า หรือหลอกลูกค้าเข้าร้าน เพราะราคาที่บอก บอกต่ำ เพื่อจูงใจ แต่ขายไม่ได้เพราะขาดทุน)

.................................................................................

แก้เผ็ดพวกฮ่องกง

มีอีกครั้งผมไปฮ่องกง ก็นานเหมือนกัน ผมก็เดินเช็คกล้อง

สุดท้ายพอรู้ราคา ผมไปเจอร้านนึง ผมก็ชี้ว่ากล้องตัวนี้ ราคาเท่าไร เขาบอกราคามา ผมถามว่า ราคานี้ลดได้หรือเปล่า เขาบอกว่าลดไม่ได้ ผมถือกล้องไว้ แล้วควักเงิน

เขาบอกว่าเดี๋ยวๆเขาจะไปเขียนใบการันตี ผมบอกว่าผมไม่เอา เขาบอกว่า เดี๋ยวก่อน เขาจะไปเอาตัวใหม่มาให้ ผมบอกว่าผมชอบตัวนี้

เขาบอกว่าเดี๋ยวก่อน เขาจะไปเอาแบตเตอรี่มาใส่ให้ กล้องจะได้ทำงาน ได้ ผมบอกว่า ไม่เป็นไร แบตเตอรี่ผมซื้อเอง ผมก็วางเงิน แล้วก็เดินออกจากร้านไป

คนขายมันโมโหใหญ่เลย

[Jeng]

กรณีกล้องด้านบน ซื้อได้ครับ แต่ไม่มีของขาย

กรณี shin ซื้อได้คับ แต่ไม่มีใครซื้อ (ถ้าไม่แก้กฎหมาย)

เหอๆ เป็นอย่างนี้หรือเปล่า

[ShexShy]

เหมือนกับว่าถ้าขาย Shin โดยไม่ไก้กฎหมาย ก็จะไม่ได้ราคาที่ 49 บาท กว่า ๆ  คือ ถ้าขาย โดยไม่ก็ ราคาก็ตก หรือ ไม่ก็ไม่ซื้อเลย (อันนี้ต้องพิจารณาดูเอาเองว่าถ้าเราเป็น เทมาเส็ก จะคิดอย่างไร)

ทุกอย่างทำถูกขั้นตอนทางหฎหมายหมด

เรื่องภาษีเป็นเรื่องรอง เรื่อง การแก้กฎหมายเพื่อให้ขายได้ หรือ ให้ขายได้ราคามากขึ้น เป็นเรื่องใหญ่

ชอบผู้บริหารแบบนี้หรือเปล่าครับ

[qingwen]

ถ้ามีการตีความว่าถึงแม้ว่า shin จะเป็นบริษัทคนไทย แต่ มีต่างชาติถืออยู่ 49 % และ shin ก็ถือ advanc อยู่ 42.8 %

เท่ากับ ต่างชาติ ถือหุ้น advanc ผ่าน shin ในนามบริษัทไทย 20.9 % ( 20.9 % นี้อาจจะถูกตีความว่าเป็นของต่างชาติก็ได้นะครับ ) ซึ่งเมื่อนำมารวมกับ หุ้นที่ถือโดย สิงเทล 19.2 % จะทำให้ต่างชาติ มีหุ้น 40.1 % ทำให้ต่างชาติไม่สบายใจ เลยขอให้แก้หน่อย ว่าให้ต่างชาติถือได้ ไม่เกิน 49 %

ถ้าเป็นคุณจะหอบเงินมา 73000 ล้าน คุณก็ต้องซื้อแบบที่สบายใจใช่หรือไม่

กฎหมายบอกว่าห้ามถือหุ้นเกิน 25 % ก็อืม เราซื้อผ่านชิน เราก็รู้อยู่ว่า เราซื้อ ไป 40.1 % อืม ถ้าแก้ได้เราก็คงอยากให้แก้นะ

อีกเรื่องนึงคือ กรรมการ 3 คน ใน 4 คนต้องเป็นคนไทย ข้อนี้ก็ถูกยกเลิก

คำถามถ้าเราเป็นสิงคโปร์เรากล้าใส่เงินเข้าไปในบริษัท ที่เราเป็นกรรมการได้ คนเดียว ที่เหลืออีก 3 ต้องเป็นคนของเจ้าของประเทศ

เงิน 73000 ล้านบาทนะครับ

...........................................................................

เอสรุปไงดี ตกลงซื้อได้หรือไม่ ถ้าไม่แก้กฎหมาย

ถ้าจะตีความอย่างนั้น ทำไมตีความแค่ให้ต่างชาติถือ SHIN แค่ 49% ล่ะครับ แล้วทำไมมองแค่สิงเทล 19.2%  มีคนเขาคำนวณไว้ผมขี้เกียจคำนวณเองใน SHIN ตอนนี้มีต่างด้าวถืออยู่ 75% ส่วนใน ADVANC มีต่างด้าวถืออยู่ 25% (ดูผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้) แปลว่าตอนนี้ใน ADVANC มีต่างด้าวถืออยู่เกิน 50% แล้วในอดีตก่อนแก้กฎหมาย มันก็มีต่างด้าวถือเกิน 25% อยู่แล้ว ถ้าคิดแบบเดียวกัน อย่างที่ผมบอกไว้ในความเห็นแรกนั่นแหละครับ ซึ่งมีคนไปเรียกร้องในถอนสัมปทานของ AIS แล้วจริงๆ ซึ่งตีความแบบนี้ผมไม่ว่าสักคำ เพียงแต่ต้องตีความไปในทางเดียวกัน อย่าเลือกตีความ

[Jeng]

เหอๆ ไม่เข้าใจอีกเหรอ

ว่า ตอนนี้ shin  เป็นบริษัทคนไทย คือมีต่างชาติถือได้ไม่เกิน 49 %

เลือกตีความแปลว่าอะไร

ก็เห็นๆว่า มีความจงใจให้ shin เป็นบริษัทคนไทยนะ

[qingwen]

เลือกตีความคือตีความว่าการถือหุ้นของต่างด้าว รวมการถือหุ้นทางอ้อม ซึ่งก็ต้องตีความตั้งแต่สมัยยังไม่มีกฎหมาย และต้องตีความถึงการถือหุ้นทางอ้อมของ SHIN ด้วย ต่างด้าวถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมใน SHIN ประมาณ 75% ครับ 49% คือการถือหุ้นทางตรง

ถ้าเราเลือกเฉพาะการถือหุ้นทางตรง ADVANC ก็มีต่างด้าวไม่เกิน 25% เหมือนกันครับ

ดังนั้นเราจะเลือกเฉพาะถือทางตรง หรือจะรวมที่ถือทางอ้อมด้วย ก็เอาสักอย่าง เล่นผสมกันเวียนหัว