อ่านข่าวตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์แล้วสลด

[สุมาอี้]

ไม่ทราบว่าวัตถุประสงค์ในการตั้งแมชชิ่งฟันด์ของตลท. คือการแก้ปัญหาหุ้นไอพีโอต่ำจองดังทีนสพ.เสนอข่าวจริงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น น่าสลดกับไอเดียนี้จริงๆ

เกาไม่ถูกที่คันมากๆ  

[คัดท้าย]

[quote="สุมาอี้"]
เกาไม่ถูกที่คันมากๆ

[สุมาอี้]

มิหน่ำซ้ำยังบอกว่าจะชวนบลจ.เอาเงินรายย่อยมาร่วมลงขันกันอีก ยิ่งไปกันใหญ่เลย

ผมว่าคณะกรรมการตลท. ควรจะมีตัวแทนจากรายย่อยด้วยนะครับ ถ้าส่วนใหญ่มาจากโบรก รายย่อยจะลำบาก

[น้ำครึ่งแก้ว]

ยังงี้ก็สุดยอดเลยนะครับ   อีกหน่อย สร้างบริษัทเน่าๆ จับมือ Brokeไร้ยางอาย ร่วมกัน ตั้ง IPO แพงลิบลิ่ว ไปเลย แล้วเอาเงินกลต มารับซื้อหุ้น
เน่าที่หลุดจองชนิดมหารูด     ดีครับตลาดบ้านเรา กล้วยทอดจริงๆ
 
                              โอ้ว สุดยอดครับ   กลต

[Stock Broker]

มิติพิศวงของหุ้น ipo

ก่อนวันจอง : มักจะมีการโม้จาก underwriter ว่าธุรกิจนี้ดี ราคาจองเทียบกับมูลค่าแล้วถูกมากๆ และกำไรปีล่าสุดมักจะก้าวกระโดดจาก 1-2 ปีก่อนเกือบ 100% แทบทุกตัว บางครั้งมีแถมอีก บอกพอเข้าตลาดปุ๊บจะจ่ายปันผลคืนปั๊บ

หลังวันจอง ก่อนวันเข้าตลาด : มักจะมีการโม้จาก underwriter (อีกแล้ว) ว่ายอดจองท่วมท้น จองหมดวันแรก ต่างชาติและสถาบันสนใจจองมากเกิน 5 เท่า 6 เท่า


วันเข้าตลาดวันแรก : ชนแชมเปญปุ๊บ ยังจิบไม่ทันหมดแก้ว หุ้นร่วงผลอยหลุดจอง (บางตัวแย่กว่านั้น คือหลุดจองตั้งแต่ยังไม่เปิดขวดแชมเปญเลย) ซักพักก็จะมีการให้ข่าวตามมาดังนี้

1. ถ้าวันนั้นตลาดหุ้นซึ่มหรือร่วงพอดี ก็เข้าทาง underwriter เป๊ะ โทษภาวะตลาดว่าทำให้หุ้นดีๆ หลุดจอง

2. ถ้าวันนั้นตลาดหุ้นดันคึกคัก อันนี้ underwriter ต้องหน้าด้านหน่อย คือ โทษรายย่อยที่จองว่า ไม่มีความรู้ความเข้าใจพอ เลยขายทิ้งทำกำไรกันหมด (ก็สงสัยเหมือนกันว่ามันกำไรตรงไหน) ทั้งๆ ที่เป็นหุ้นดี๊ดีแสนดีน่าลงทุนมากๆ

เออ... แล้วพวกต่างชาติและสถาบันที่แห่จองล้น 5-6 เท่า พอเข้าตลาดซื้อได้ราคาถูกลงอีก ทำไม demand มันหายจ้อยไปไหนหมดหว่า? แล้วถ้าหุ้นมันดีขนาดนั้น พอหลุดจองลงมา ทำไม underwriter ไม่ซื้อเข้าพอร์ตบริษัทไว้ลงทุนระยะยาวซะเองล่ะ?

[สุมาอี้]

ทฤษฏีบอกว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยากขายหุ้นแพงๆ ส่วนรายย่อยอยากซื้อถูกๆ ส่วน FA อยากให้ Deal success เพื่อสร้างชื่อเสียงในทางที่ดีให้กับตัวเอง ดังนั้น FA ก็จะพยายามตั้งราคา IPO ที่คิดว่าทำให้เมื่อหุ้นเข้าตลาดไปแล้ว คนที่ซื้อตอน IPO ไปจะมีกำไรเล็กน้อยประมาณ 15-20% (ถ้ามากกว่านั้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะโกรธได้เพราะ Leave too much money on the table)

แต่เอาเข้าจริงๆ กลไกนี้มันไม่ทำงาน เพราะ FA ไม่ค่อยห่วงชื่อเสียง เพราะรู้ว่ารายย่อยไม่ค่อยจำ FA จึงหันมาหวังผลระยะสั้นมากกว่า อีกอย่างถ้าหุ้นที่ FAเอาเข้ามามันเน่าอยู่แล้ว ถ้าขายไม่ออก FA ต้องรับซื้อไว้เอง ดังนั้นผู้ถือหุ้นรายใหญ่กับ FA จึงทิ้งรายย่อยหันมาจับมือกันผลักดันสินค้าออกไปให้ได้

ถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่อง "วัดครึ่งหนึ่ง-กรรมการครึ่งหนึ่ง" หุ้นก็จะต่ำจองกันต่อไป ตลท. อ้างว่าหุ้นต่ำจองเพราะสภาพคล่องน้อย เลยต้องตั้งกองทุนเข้ามาเสริมสภาพคล่อง คิดได้ยังไงเนี่ย???