สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 1
เตรียมใจก่อนไป Siam Ocean Wolrd / ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2548 13:41 น.
ระยะนี้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นกลางกรุง Siam Ocean World อะควอเรี่ยมแห่งใหม่ ณ สยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าใหม่กิ๊กตรงข้ามสยามสแควร์ นับเป็นอะควอเรี่ยมใหญ่สุดในไทย เป็นของเอกชนโดยเป็นเชนของบริษัทอะควอเรี่ยมใหญ่ที่มีจุดกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย
ผมเกี่ยวข้องกับอะควอเรี่ยมแห่งนี้นิดหน่อย ตั้งแต่สมัยเริ่มดำเนินการ เขาเคยเชิญเข้าไปพูดคุย ผมก็ยินดีเพราะในใจไม่เคยนึกปฏิเสธอะควอเรี่ยม ด้วยทราบว่าเป็นแหล่งหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักทะเล ผมเคยคิดฝันอยากเห็นอะควอเรี่ยมแจ๋ว ๆ สักแห่งในเมืองไทย ยังไม่เคยมีที่ไหนตอบสนองได้ถึงใจ ของภาครัฐที่ชื่นชมคือบางแสน ภูเก็ต และบ้านเพ แม้จะไม่ถึงขั้นใช่เลย แต่ทราบดีว่าข้อจำกัดของภาครัฐมีแค่ไหน สำหรับของเอกชน ต้องบอกตามตรง ยังอยู่ห่างจากฝันครับ
สยามโอเชี่ยนเวิร์ลเปิดตัวด้วยเงินลงทุนนับพันล้านบาท เท่าที่ผมฟังสิ่งที่พวกเขาบรรยาย ตลอดจนการเข้าไปชมภายในตั้งแต่ก่อสร้าง รู้สึกนึกฝันว่าเราคงมีอะควอเรี่ยมแจ๋วจริงล่ะคราวนี้ เมื่อมีโอกาส เราคุยเกี่ยวกับหนึ่งประเด็น นั่นคือการ "แปลข้อความ" จากอังกฤษเป็นไทย ผมรับปากทีมงานว่าจะช่วยทำให้ ด้วยอยากให้อย่างน้อยข้อมูลก็พออ่านได้ มิใช่อ่านแล้วกลุ้มใจหมายความว่าไงเนี่ย
และนั่นคือทั้งหมดที่ผมเกี่ยวข้อง จนได้ข่าวว่าปลาเริ่มเข้ามาแล้ว ใกล้เปิดแล้ว ยังสนใจว่าจะเปิดได้จริงหรือ...เร็วดีจังแฮะ สงสัยเป็นเพราะห้างต้องเปิด อะควอเรี่ยมจึงต้องเปิดตามไปด้วย จนวันหนึ่งผมมีโอกาสเข้าอะควอเรี่ยม ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการแป๊บเดียว และต่อจากนี้คือความคิดเห็นของผมครับ
สภาพภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ 7 โซน ทางเข้าออกแบบไว้อย่างดี ป้ายติดราคาชัดเจน ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก 280 บาท นับเป็นราคาที่ค่อนข้างร้าวรานใจสำหรับคนไทย หากทุ่มทุนไปจ่ายเงินตั้งเท่านี้ เราต้องหวังสูงเป็นธรรมดา เมื่อเดินเข้าโซนแรก Weird and Wonderful เป็นตู้สัตว์น้ำกระจายเป็นจุด จุดเด่นคือตู้ใหญ่ 3 แห่ง อย่างแรกเป็นปูชื่อ Alaska King Crab ปูใหญ่ที่สุดในโลก (ใหญ่ หมายถึงวัดความกว้างจากปลายขาถึงปลายขา กางเต็มที่ แต่ไม่วัดน้ำหนัก เพราะปู Tasmanian King Crab หนักกว่านี้)
ปูยักษ์มีอยู่เพียงหนึ่งตัว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเพราะอาจเคยเห็นปูชนิดนี้ตามร้านอาหารญี่ปุ่น อีกทั้งปูนอนนิ่งจนเหมือนปูตาย เราเดินต่อไปถึงตู้หอยงวงช้างหรือ Nautilus พวกเขาเป็นสัตว์ประหลาด สืบทอดชีวิตมาจากบรรพบุรุษย้อนหลังไปหลายร้อยล้านปี น่าเสียดายที่หอยมีน้อยอีกทั้งอยู่ในตู้เล็ก ไม่ดึงดูดเท่าที่คิด ข้อมูลที่มียังอยู่ในระดับน้อยนิด เมื่อเทียบกับความสำคัญของสัตว์กลุ่มนี้
ตู้ท้ายสุดหากใครไม่สังเกตคงเดินผ่าน ทั้งที่เป็นจุดเด่นของอะควอเรี่ยม "Sea Dragon" ปลามังกรอันเป็นญาติสนิทของม้าน้ำ สีเหลืองอร่ามตามลำตัวและครีบเต็มไปด้วยติ่งหนัง กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอันเป็นดงสาหร่ายในทะเลน้ำเย็น น่าเสียดายอีกเช่นกันที่ข้อมูลยังคงมีน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของปลา
เข้าสู่โซนสอง Deep Reef มาถึงตรงนี้ผมเริ่มเหี่ยว ตู้กระจกสูง 7 เมตรออกแบบไว้ดูดี ภายในประดับด้วยปะการังดูดีเช่นกัน เพราะเป็นปะการังเทียม แต่ปลาที่เห็นดูไม่ดี หลายตัวอยู่ในสภาพย่ำแย่ อาการไม่ค่อยน่าไว้ใจ ผมรีบเดินผ่านไปจนถึงโซน Living Ocean ถึงตอนนี้เริ่มไม่ค่อยอยากเดินแล้ว เพราะความฝันกับความจริงไม่ค่อยเหมือนกัน ปลาบางตัวมีอาการติดเชื้อมองเห็นได้ชัด
ผมจ้ำเท้าผ่านโซนสี่ Rain Forest เป็นป่าที่ควรทำได้งดงาม การตกแต่งถือว่าดีเชียวล่ะ แต่ปลาน้ำจืดที่เห็นยังไม่ถึงขั้นนั้น ความรู้กระจายเป็นจุดเล็กจุดน้อยคงต้องทุ่มเทกันอีกเยอะ ผมวกเข้าโซนห้า Touch Pool จุดที่ต้องระวังให้มาก นับเป็นไอเดียตั้งแต่อดีตให้คนได้สัมผัสหรือแตะสัตว์ทะเลบางชนิด แต่เมื่อกาลผ่านไป ความรักทะเลมีเพิ่มขึ้น หลายคนจึงรู้สึกว่าไม่ควรไปจับไปแตะสัตว์น้ำ ทางที่ดีควรจำกัดไว้แค่ให้คนมองคงเหมาะกับนิสัยคนไทยมากกว่า
จุดหนึ่งที่ผมได้ยินผู้คนบ่นกันมากคือบ่อเลี้ยงแมวน้ำ ดูจากขนาดแมวน้ำกับขนาดตู้แล้วไม่ค่อยสมดุล ดูแล้วค่อนข้างสงสารแมวน้ำมากกว่าตื่นตาตื่นใจ ตรงข้ามกับแท้งค์โลกแคบของแมวน้ำ คือที่ตั้งของตู้กระเบนนก ถือเป็นตู้แก้ขัด ผมดูไปดูมารู้สึกว่าตู้แก้ขัดนี่แหละเข้าท่ากว่าเพื่อน อย่างน้อยกระเบนนกและแมงดาทะเลค่อยคึกคักมีชีวิตชีวา เลยจากตรงนั้นมา เราเข้าเขต Open Ocean
อุโมงค์ใหญ่พาเราลอดใต้บ่อน้ำยักษ์ แต่ถ้าเทียบขนาดแล้วยังเป็นรองอีกหลายอะควอเรี่ยมในเมืองนอก ปลาภายในตู้มีทั้งฉลามและกระเบน ผมเจอฉลาม 3 ชนิด ฉลามเสือทราย (ไม่พบในไทย) ฉลามหูดำตัวจิ๋ว และฉลามเสือดาวที่เห็นอยู่ตัวเดียว ดูจากสภาพแล้วฉลามท่าทางหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ที่ต้องระวังคือฉลามงับปลาหลายตัวเป็นรอยเขี้ยวบ้าง นอนตายบ้าง คนที่เดินผ่านไปมาพากันวิจารณ์ตรงจุดนี้
เราเดินลอดจนมาถึงจุดเลี้ยงฉลาม เผอิญผมไม่ได้รอชม เพราะเคยเห็นหลายครั้งในทะเลของจริง จึงผ่านตรงมาถึงโซนสุดท้าย Sea Jelly นับว่าเป็นจุดดูดีสุดของอะควอเรี่ยม แมงกะพรุนตัวน้อยล่องลอยไปมา แต่ถ้าเอาตามตรง นี่ยังไม่ใช่โซนแมงกะพรุนดีสุดเท่าที่ผมเคยเห็น ในเมืองนอกยังมีอีกหลายแห่งดีกว่านี้
ผมจากสยามโอเชี่ยนเวิร์ลด้วยความรู้สึกเศร้าเล็ก ๆ เพราะที่นี่ยังไปไม่ถึงครึ่งทางฝัน อาจเป็นด้วยปัญหาหลายอย่าง ทั้งการรีบเร่งเปิด ทั้งสุขภาพสัตว์น้ำที่นำมาใส่ ฯลฯ ทำให้หลายปลาประสบปัญหา รวมถึงข้อมูลที่ยังขาดหายไปในหลายต่อหลายจุด สัตว์น้ำที่น่าสนใจจึงกลายเป็นไร้คนมอง การนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ จึงต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้คอยแนะนำ เท่าที่ลองฟังดู นับว่าใช้ได้ครับ แต่คงต้องพยายามปรับให้เกี่ยวข้องกับทะเลของเมืองไทยให้มากขึ้น
ปัญหาสำคัญสุด และผมคิดว่าเป็นจุดที่ต้องรีบทำอย่างเร่งด่วน คือ สัตว์น้ำเจ็บป่วยหรือใกล้ลาตาย ไม่ว่าใครจะมีอารมณ์อยากดูปลาแค่ไหน เห็นปลาแหว่งหรือปลานอนชักเป็นต้องหมดอารมณ์ การเลี้ยงปลาหรือสัตว์ทะเลไม่ใช่ของง่าย ไม่ง่ายแน่ ขนาดใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทำอะควอเรี่ยมในต่างประเทศมาคอยดูแลยังมีปัญหา ตราบใดที่จุดนี้ยังแก้ไขไม่ได้ การไปสู่ฝันยังอีกไกล และปลาก็จะตายต่อไป
บทสรุปสำหรับพวกเรา คุ้มค่าเสียเงินดูหรือไม่ ? คำว่าคุ้มไม่คุ้มวัดกันได้ยาก ขึ้นกับความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าให้แนะนำ ถ้าอยากดูตั้งแต่เปิดตัวหมาด ๆ กรุณาอย่าตั้งความหวังให้สูงเกินไป สำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นทะเลจริง อาจดูแล้วตื่นใจ แต่ถ้าใครเคยเห็นของจริง ดูแล้วอาจต้องถอนหายใจ เป็นเรื่องของประสบการณ์แต่หนหลังของแต่ละคน
ถ้าถามประสบการณ์ของผม แน่นอนว่าที่นี่เป็นอะควอเรี่ยมตกแต่งได้งามสุดของไทย ใหญ่สุดด้วย แต่ยังไปไม่ถึงขั้นให้ข้อมูลหรือเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะถ้าเทียบกับราคา อะควอเรี่ยมบางแสนหรือภูเก็ตแม้จะด้อยกว่าในเรื่องการตกแต่ง แต่การนำเสนอให้สอดคล้องกับทะเล สองแห่งนั้นไปไกลกว่า
อย่างไรก็ตาม ผมทราบดีว่าอะควอเรี่ยมช่วงแรกจะล้มลุกคลุกคลาน ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นเช่นนั้น แม้แต่บางแสนหรือภูเก็ตก็ต้องใช้เวลาสะสมประสบการณ์สร้างทีมงาน ผมยังหวังอยากให้สยามโอเชี่ยนเวิร์ลก้าวไปให้ไกลกว่านี้ ไปอีกมาก ๆ เชียวล่ะ เพราะผมเชื่อว่า นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อาจด้วยเวลาและข้อจำกัดอื่น นี่อาจเป็นบทเรียนบทแรกเพื่อการก้าวต่อไป
ผมคงต้องเว้นวรรคจากที่นี่อีกหลายเดือน ก่อนจะกลับเข้าไปอีกครั้ง เพื่ออยากดูให้รู้แน่ อะควอเรี่ยมจะพัฒนาได้ไหม ชีวิตปลาที่ต้องจากทะเลมาอยู่ในตู้กระจก จะคุ้มค่าหรือเปล่า ? ก้าวแรกอาจเร็วเกินไปที่จะตัดสิน แต่ถ้าเวลาผ่าน การพัฒนาน่าจะมี มิฉะนั้น...
มิฉะนั้น สยามโอเชี่ยนเวิร์ลก็คงเป็นเหมือนอะควอเรี่ยมอีกบางแห่ง มีเงินใช้เงินซื้อปลาขังปลา ใช้สัตว์น้ำเป็นเพียงเพื่อความบันเทิงเริงใจของผู้เข้ามาชม ทุ่มเทให้ค่าโฆษณามากกว่าค่าดูแลปลาให้รอดตาย มุ่งหวังเพียงผลตอบแทน มิได้คิดคืนหรือแบ่งปันประโยชน์กลับสู่ท้องทะเล
ยังคงมีหวังและจะติดตามต่อไป ด้วยอยากเห็นอะควอเรี่ยมดี ๆ ในเมืองไทยครับ...
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2548 13:41 น.
ระยะนี้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นกลางกรุง Siam Ocean World อะควอเรี่ยมแห่งใหม่ ณ สยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าใหม่กิ๊กตรงข้ามสยามสแควร์ นับเป็นอะควอเรี่ยมใหญ่สุดในไทย เป็นของเอกชนโดยเป็นเชนของบริษัทอะควอเรี่ยมใหญ่ที่มีจุดกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย
ผมเกี่ยวข้องกับอะควอเรี่ยมแห่งนี้นิดหน่อย ตั้งแต่สมัยเริ่มดำเนินการ เขาเคยเชิญเข้าไปพูดคุย ผมก็ยินดีเพราะในใจไม่เคยนึกปฏิเสธอะควอเรี่ยม ด้วยทราบว่าเป็นแหล่งหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักทะเล ผมเคยคิดฝันอยากเห็นอะควอเรี่ยมแจ๋ว ๆ สักแห่งในเมืองไทย ยังไม่เคยมีที่ไหนตอบสนองได้ถึงใจ ของภาครัฐที่ชื่นชมคือบางแสน ภูเก็ต และบ้านเพ แม้จะไม่ถึงขั้นใช่เลย แต่ทราบดีว่าข้อจำกัดของภาครัฐมีแค่ไหน สำหรับของเอกชน ต้องบอกตามตรง ยังอยู่ห่างจากฝันครับ
สยามโอเชี่ยนเวิร์ลเปิดตัวด้วยเงินลงทุนนับพันล้านบาท เท่าที่ผมฟังสิ่งที่พวกเขาบรรยาย ตลอดจนการเข้าไปชมภายในตั้งแต่ก่อสร้าง รู้สึกนึกฝันว่าเราคงมีอะควอเรี่ยมแจ๋วจริงล่ะคราวนี้ เมื่อมีโอกาส เราคุยเกี่ยวกับหนึ่งประเด็น นั่นคือการ "แปลข้อความ" จากอังกฤษเป็นไทย ผมรับปากทีมงานว่าจะช่วยทำให้ ด้วยอยากให้อย่างน้อยข้อมูลก็พออ่านได้ มิใช่อ่านแล้วกลุ้มใจหมายความว่าไงเนี่ย
และนั่นคือทั้งหมดที่ผมเกี่ยวข้อง จนได้ข่าวว่าปลาเริ่มเข้ามาแล้ว ใกล้เปิดแล้ว ยังสนใจว่าจะเปิดได้จริงหรือ...เร็วดีจังแฮะ สงสัยเป็นเพราะห้างต้องเปิด อะควอเรี่ยมจึงต้องเปิดตามไปด้วย จนวันหนึ่งผมมีโอกาสเข้าอะควอเรี่ยม ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการแป๊บเดียว และต่อจากนี้คือความคิดเห็นของผมครับ
สภาพภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ 7 โซน ทางเข้าออกแบบไว้อย่างดี ป้ายติดราคาชัดเจน ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก 280 บาท นับเป็นราคาที่ค่อนข้างร้าวรานใจสำหรับคนไทย หากทุ่มทุนไปจ่ายเงินตั้งเท่านี้ เราต้องหวังสูงเป็นธรรมดา เมื่อเดินเข้าโซนแรก Weird and Wonderful เป็นตู้สัตว์น้ำกระจายเป็นจุด จุดเด่นคือตู้ใหญ่ 3 แห่ง อย่างแรกเป็นปูชื่อ Alaska King Crab ปูใหญ่ที่สุดในโลก (ใหญ่ หมายถึงวัดความกว้างจากปลายขาถึงปลายขา กางเต็มที่ แต่ไม่วัดน้ำหนัก เพราะปู Tasmanian King Crab หนักกว่านี้)
ปูยักษ์มีอยู่เพียงหนึ่งตัว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเพราะอาจเคยเห็นปูชนิดนี้ตามร้านอาหารญี่ปุ่น อีกทั้งปูนอนนิ่งจนเหมือนปูตาย เราเดินต่อไปถึงตู้หอยงวงช้างหรือ Nautilus พวกเขาเป็นสัตว์ประหลาด สืบทอดชีวิตมาจากบรรพบุรุษย้อนหลังไปหลายร้อยล้านปี น่าเสียดายที่หอยมีน้อยอีกทั้งอยู่ในตู้เล็ก ไม่ดึงดูดเท่าที่คิด ข้อมูลที่มียังอยู่ในระดับน้อยนิด เมื่อเทียบกับความสำคัญของสัตว์กลุ่มนี้
ตู้ท้ายสุดหากใครไม่สังเกตคงเดินผ่าน ทั้งที่เป็นจุดเด่นของอะควอเรี่ยม "Sea Dragon" ปลามังกรอันเป็นญาติสนิทของม้าน้ำ สีเหลืองอร่ามตามลำตัวและครีบเต็มไปด้วยติ่งหนัง กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอันเป็นดงสาหร่ายในทะเลน้ำเย็น น่าเสียดายอีกเช่นกันที่ข้อมูลยังคงมีน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของปลา
เข้าสู่โซนสอง Deep Reef มาถึงตรงนี้ผมเริ่มเหี่ยว ตู้กระจกสูง 7 เมตรออกแบบไว้ดูดี ภายในประดับด้วยปะการังดูดีเช่นกัน เพราะเป็นปะการังเทียม แต่ปลาที่เห็นดูไม่ดี หลายตัวอยู่ในสภาพย่ำแย่ อาการไม่ค่อยน่าไว้ใจ ผมรีบเดินผ่านไปจนถึงโซน Living Ocean ถึงตอนนี้เริ่มไม่ค่อยอยากเดินแล้ว เพราะความฝันกับความจริงไม่ค่อยเหมือนกัน ปลาบางตัวมีอาการติดเชื้อมองเห็นได้ชัด
ผมจ้ำเท้าผ่านโซนสี่ Rain Forest เป็นป่าที่ควรทำได้งดงาม การตกแต่งถือว่าดีเชียวล่ะ แต่ปลาน้ำจืดที่เห็นยังไม่ถึงขั้นนั้น ความรู้กระจายเป็นจุดเล็กจุดน้อยคงต้องทุ่มเทกันอีกเยอะ ผมวกเข้าโซนห้า Touch Pool จุดที่ต้องระวังให้มาก นับเป็นไอเดียตั้งแต่อดีตให้คนได้สัมผัสหรือแตะสัตว์ทะเลบางชนิด แต่เมื่อกาลผ่านไป ความรักทะเลมีเพิ่มขึ้น หลายคนจึงรู้สึกว่าไม่ควรไปจับไปแตะสัตว์น้ำ ทางที่ดีควรจำกัดไว้แค่ให้คนมองคงเหมาะกับนิสัยคนไทยมากกว่า
จุดหนึ่งที่ผมได้ยินผู้คนบ่นกันมากคือบ่อเลี้ยงแมวน้ำ ดูจากขนาดแมวน้ำกับขนาดตู้แล้วไม่ค่อยสมดุล ดูแล้วค่อนข้างสงสารแมวน้ำมากกว่าตื่นตาตื่นใจ ตรงข้ามกับแท้งค์โลกแคบของแมวน้ำ คือที่ตั้งของตู้กระเบนนก ถือเป็นตู้แก้ขัด ผมดูไปดูมารู้สึกว่าตู้แก้ขัดนี่แหละเข้าท่ากว่าเพื่อน อย่างน้อยกระเบนนกและแมงดาทะเลค่อยคึกคักมีชีวิตชีวา เลยจากตรงนั้นมา เราเข้าเขต Open Ocean
อุโมงค์ใหญ่พาเราลอดใต้บ่อน้ำยักษ์ แต่ถ้าเทียบขนาดแล้วยังเป็นรองอีกหลายอะควอเรี่ยมในเมืองนอก ปลาภายในตู้มีทั้งฉลามและกระเบน ผมเจอฉลาม 3 ชนิด ฉลามเสือทราย (ไม่พบในไทย) ฉลามหูดำตัวจิ๋ว และฉลามเสือดาวที่เห็นอยู่ตัวเดียว ดูจากสภาพแล้วฉลามท่าทางหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ที่ต้องระวังคือฉลามงับปลาหลายตัวเป็นรอยเขี้ยวบ้าง นอนตายบ้าง คนที่เดินผ่านไปมาพากันวิจารณ์ตรงจุดนี้
เราเดินลอดจนมาถึงจุดเลี้ยงฉลาม เผอิญผมไม่ได้รอชม เพราะเคยเห็นหลายครั้งในทะเลของจริง จึงผ่านตรงมาถึงโซนสุดท้าย Sea Jelly นับว่าเป็นจุดดูดีสุดของอะควอเรี่ยม แมงกะพรุนตัวน้อยล่องลอยไปมา แต่ถ้าเอาตามตรง นี่ยังไม่ใช่โซนแมงกะพรุนดีสุดเท่าที่ผมเคยเห็น ในเมืองนอกยังมีอีกหลายแห่งดีกว่านี้
ผมจากสยามโอเชี่ยนเวิร์ลด้วยความรู้สึกเศร้าเล็ก ๆ เพราะที่นี่ยังไปไม่ถึงครึ่งทางฝัน อาจเป็นด้วยปัญหาหลายอย่าง ทั้งการรีบเร่งเปิด ทั้งสุขภาพสัตว์น้ำที่นำมาใส่ ฯลฯ ทำให้หลายปลาประสบปัญหา รวมถึงข้อมูลที่ยังขาดหายไปในหลายต่อหลายจุด สัตว์น้ำที่น่าสนใจจึงกลายเป็นไร้คนมอง การนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ จึงต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้คอยแนะนำ เท่าที่ลองฟังดู นับว่าใช้ได้ครับ แต่คงต้องพยายามปรับให้เกี่ยวข้องกับทะเลของเมืองไทยให้มากขึ้น
ปัญหาสำคัญสุด และผมคิดว่าเป็นจุดที่ต้องรีบทำอย่างเร่งด่วน คือ สัตว์น้ำเจ็บป่วยหรือใกล้ลาตาย ไม่ว่าใครจะมีอารมณ์อยากดูปลาแค่ไหน เห็นปลาแหว่งหรือปลานอนชักเป็นต้องหมดอารมณ์ การเลี้ยงปลาหรือสัตว์ทะเลไม่ใช่ของง่าย ไม่ง่ายแน่ ขนาดใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทำอะควอเรี่ยมในต่างประเทศมาคอยดูแลยังมีปัญหา ตราบใดที่จุดนี้ยังแก้ไขไม่ได้ การไปสู่ฝันยังอีกไกล และปลาก็จะตายต่อไป
บทสรุปสำหรับพวกเรา คุ้มค่าเสียเงินดูหรือไม่ ? คำว่าคุ้มไม่คุ้มวัดกันได้ยาก ขึ้นกับความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าให้แนะนำ ถ้าอยากดูตั้งแต่เปิดตัวหมาด ๆ กรุณาอย่าตั้งความหวังให้สูงเกินไป สำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นทะเลจริง อาจดูแล้วตื่นใจ แต่ถ้าใครเคยเห็นของจริง ดูแล้วอาจต้องถอนหายใจ เป็นเรื่องของประสบการณ์แต่หนหลังของแต่ละคน
ถ้าถามประสบการณ์ของผม แน่นอนว่าที่นี่เป็นอะควอเรี่ยมตกแต่งได้งามสุดของไทย ใหญ่สุดด้วย แต่ยังไปไม่ถึงขั้นให้ข้อมูลหรือเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะถ้าเทียบกับราคา อะควอเรี่ยมบางแสนหรือภูเก็ตแม้จะด้อยกว่าในเรื่องการตกแต่ง แต่การนำเสนอให้สอดคล้องกับทะเล สองแห่งนั้นไปไกลกว่า
อย่างไรก็ตาม ผมทราบดีว่าอะควอเรี่ยมช่วงแรกจะล้มลุกคลุกคลาน ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นเช่นนั้น แม้แต่บางแสนหรือภูเก็ตก็ต้องใช้เวลาสะสมประสบการณ์สร้างทีมงาน ผมยังหวังอยากให้สยามโอเชี่ยนเวิร์ลก้าวไปให้ไกลกว่านี้ ไปอีกมาก ๆ เชียวล่ะ เพราะผมเชื่อว่า นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อาจด้วยเวลาและข้อจำกัดอื่น นี่อาจเป็นบทเรียนบทแรกเพื่อการก้าวต่อไป
ผมคงต้องเว้นวรรคจากที่นี่อีกหลายเดือน ก่อนจะกลับเข้าไปอีกครั้ง เพื่ออยากดูให้รู้แน่ อะควอเรี่ยมจะพัฒนาได้ไหม ชีวิตปลาที่ต้องจากทะเลมาอยู่ในตู้กระจก จะคุ้มค่าหรือเปล่า ? ก้าวแรกอาจเร็วเกินไปที่จะตัดสิน แต่ถ้าเวลาผ่าน การพัฒนาน่าจะมี มิฉะนั้น...
มิฉะนั้น สยามโอเชี่ยนเวิร์ลก็คงเป็นเหมือนอะควอเรี่ยมอีกบางแห่ง มีเงินใช้เงินซื้อปลาขังปลา ใช้สัตว์น้ำเป็นเพียงเพื่อความบันเทิงเริงใจของผู้เข้ามาชม ทุ่มเทให้ค่าโฆษณามากกว่าค่าดูแลปลาให้รอดตาย มุ่งหวังเพียงผลตอบแทน มิได้คิดคืนหรือแบ่งปันประโยชน์กลับสู่ท้องทะเล
ยังคงมีหวังและจะติดตามต่อไป ด้วยอยากเห็นอะควอเรี่ยมดี ๆ ในเมืองไทยครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 10
ไปบึงฉวากที่สุพรรณฯ ก็ใช้ได้ครับ :)
ค่าเข้าถูกกว่าด้วย :lol:
ค่าเข้าถูกกว่าด้วย :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 11
8) ผมไปสยามโอเชี่ยน มาเมื่อวันจันทร์นี้
บอกตามตรง ผิดหวังครับ
ไม่สมคำโฆษณาเลย
ปลาหมอทะเล ตัวเล็กกว่าที่ชลบุรีครับ
น้ำก็ขุ่นดูไม่ถนัด
แต่ที่ดีก็มีพวกการออกแบบ และสัตว์น้ำที่ยังไม่มีในประเทศไทยแห่งอื่น
เจ้าปลาที่ขยันว่ายไม่หยุดก็ ทำให้เด็กๆได้ยืนยิ้มกัน
แต่ราคาไม่เหมาะกับเมืองไทยเลย
หากไปเป็นครอบครัว เงินเลยพันต้องจ่ายน่ะ
แต่อาหาร อร่อยดีหลากหลาย แต่ค่อนข้างแพง
บอกตามตรง ผิดหวังครับ
ไม่สมคำโฆษณาเลย
ปลาหมอทะเล ตัวเล็กกว่าที่ชลบุรีครับ
น้ำก็ขุ่นดูไม่ถนัด
แต่ที่ดีก็มีพวกการออกแบบ และสัตว์น้ำที่ยังไม่มีในประเทศไทยแห่งอื่น
เจ้าปลาที่ขยันว่ายไม่หยุดก็ ทำให้เด็กๆได้ยืนยิ้มกัน
แต่ราคาไม่เหมาะกับเมืองไทยเลย
หากไปเป็นครอบครัว เงินเลยพันต้องจ่ายน่ะ
แต่อาหาร อร่อยดีหลากหลาย แต่ค่อนข้างแพง
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 13
[quote="ต.หยวนเปียว"]ไปบึงฉวากที่สุพรรณฯ ก็ใช้ได้ครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 15
สวัสดีปีใหม่ครับผู้พันชิกกี้ :D
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 16
สวัสดีครับคุณCK
ไม่ได้ย่องไปครับ ขับวีโก้ไป บ้านสวนดำเนินสะดวกเลยแวะดูปลา
ขอบคุร ที่จะเลี้ยงอาหาร ยกยอดไว้ครั้งหน้าก็ได้ครับ อิอิ
สวัสดีคุณเต่าหยวนเปียว
สุ1000ยังไม่ได้ไปดูครับ
เคยไปแต่ดูปลาการ์ตูนที่พัดยา ไม่มีอุโมงค์
ไม่ได้ย่องไปครับ ขับวีโก้ไป บ้านสวนดำเนินสะดวกเลยแวะดูปลา
ขอบคุร ที่จะเลี้ยงอาหาร ยกยอดไว้ครั้งหน้าก็ได้ครับ อิอิ
สวัสดีคุณเต่าหยวนเปียว
สุ1000ยังไม่ได้ไปดูครับ
เคยไปแต่ดูปลาการ์ตูนที่พัดยา ไม่มีอุโมงค์
- เพื่อน
- Verified User
- โพสต์: 1826
- ผู้ติดตาม: 0
สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ไปกันมาหรือยังครับ
โพสต์ที่ 17
เท่าที่ได้เคยศึกษามา(บ้าง) เนื่องจากครั้งหนึ่งเคยออกแบบไว้แถบพัทยา แต่พอดีเศรษฐกิจทรุด(ปี40) โปรเจคเลยพับไป
AQUARIUM ในต่างประเทศหลายๆที่จะเน้นการอภิบาลสัตว์น้ำเป็นสำคัญ จะต้องมีพื้นที่เพื่อการนี้อย่างพอเพียง แม้กระทั่งจุดขึ้นลงของสัตว์น้ำขนาดใหญ่ จะต้องมีบริเวณ มีการเตรียมอุปกรณ์รวมทั้งเครนยกติดตั้งไว้โดยเฉพาะ
และส่วนใหญ่จะอยู่ริมทะเล เพื่อให้ความสำคัญของเรื่องราวและจุดเด่นเฉพาะท้องถิ่นของที่นั้นๆ และที่สำคัญมีความสะดวกในการหาแหล่งในการอภิบาลสัตว์น้ำ สามารถเปลี่ยนถ่ายและสำรองน้ำทะเลได้สะดวก สามารถขนย้ายสัตว์ทางน้ำได้ง่ายกว่าในเมือง
การที่เค้ามาทำในกรุงเทพฯ คงด้วยจุดประสงค์ด้านการศึกษา(รึปล่าว).....คงต้องรอการพิสูจน์ต่อไปว่าได้เตรียมการไว้พร้อมแค่ไหน....ห่วงเรื่องการอภิบาลสัตว์นี่หละครับ
สำหรับราคา ในแง่user ผมก็ว่าแพงไปนะ แต่ในแง่ผู้ลงทุนนี่ ไม่ค่อยแน่ใจ
AQUARIUM ในต่างประเทศหลายๆที่จะเน้นการอภิบาลสัตว์น้ำเป็นสำคัญ จะต้องมีพื้นที่เพื่อการนี้อย่างพอเพียง แม้กระทั่งจุดขึ้นลงของสัตว์น้ำขนาดใหญ่ จะต้องมีบริเวณ มีการเตรียมอุปกรณ์รวมทั้งเครนยกติดตั้งไว้โดยเฉพาะ
และส่วนใหญ่จะอยู่ริมทะเล เพื่อให้ความสำคัญของเรื่องราวและจุดเด่นเฉพาะท้องถิ่นของที่นั้นๆ และที่สำคัญมีความสะดวกในการหาแหล่งในการอภิบาลสัตว์น้ำ สามารถเปลี่ยนถ่ายและสำรองน้ำทะเลได้สะดวก สามารถขนย้ายสัตว์ทางน้ำได้ง่ายกว่าในเมือง
การที่เค้ามาทำในกรุงเทพฯ คงด้วยจุดประสงค์ด้านการศึกษา(รึปล่าว).....คงต้องรอการพิสูจน์ต่อไปว่าได้เตรียมการไว้พร้อมแค่ไหน....ห่วงเรื่องการอภิบาลสัตว์นี่หละครับ
สำหรับราคา ในแง่user ผมก็ว่าแพงไปนะ แต่ในแง่ผู้ลงทุนนี่ ไม่ค่อยแน่ใจ