|0 คอมเมนต์
อ่านกระทู้ นี้แล้วหดหู่ใจจัง เลยย....
ธรรมดาของบทสนทนาของคนไทย
คนไทย1 "เรื่องนี้เป็นอย่างไรนะ ผมคิดว่าอย่างนี้ อย่างนี้ ..." เริ่มหัวข้อสนทนาในเนื้อหาที่น่าสนใจ
คนไทย2 "ไม่ใช่ ผมคิดว่าอย่างนั้น อย่างนั้น มากกว่า ..." ออกความเห็นในมุมมองที่แตกต่าง
คนไทย1 "อ้อ ไม่ใช่หรอก อย่างนี้ๆ น่าจะถูกกว่า ..." ยืนยันในความคิดของตน
คนไทย2 "เปล่าๆ อย่างนี้ๆ น่าจะจริง..." ยังไม่ยอมจำนน
คนไทย1 "ผมว่าคุณ โง่ที่คิดแบบนั้น..." เถียงอะไรดี ในเนื้อหาชักไม่สะใจ ต้องเฉือดให้ถึงตัว
คนไทย2 "ผมก็ว่าคุณ นั้นแหละที่โงที่คิดอย่างนั้น ..." เจ็บๆ ต้องซัดกลับบ้าง
คนไทย1 "คุณคิดอย่างนั้น โง่ๆๆๆ..." อ้าวอย่างนี้ก็สวย
คนไทย2 "คุณสิ โง่ๆๆๆๆๆ..." เอาไงเอากัน มันส์ดี
คนไทย1+2 : @#$!$%% ตลุมบอน!
บทสนทนาแบบนี้ มีให้เห็นได้ทุกระดับชั้นในประเทศไทย
ตั้งแต่ ตลาดสด หมู่ผู้มีการศึกษาสูง จนถึงคนระดับสูงของประเทศ
การต่อสู้ทางความคิด เปลี่ยนไปเป็นความขัดแย้งของบุคคล
การถกเถียงในหัวข้อประเด็นหายไป ประเด็นของบุคคลเข้ามาแทนที่
จะคุยกันไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครฟังใคร
จะแบ่งปันความคิดไปทำไม เมื่อเราจะต้องถูกเพียงคนเดียว
เนื่องเพราะ ทุกคนไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
เนื่องเพราะ ทุกคนไม่ยอมรับในความแตกต่าง
เนื่องเพราะ ทุกคนไม่ยอมรับในความผิด
เนื่องเพราะ ทุกคนถืออัตตาอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง
สังคมไทย จึงเป็นสังคมแห่งอัตตา ในขณะที่เราประกาศตัวเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา
สังคมไทย จึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ในขณะที่เราประกาศตัวเป็นสยามเมืองยิ้ม
สัมคมไทย จึงเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี ในขณะที่เราคิดว่าเราสมานฉันท์
ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครเก่งกว่าได้ ไม่มีใครมีประโยชน์เกินกว่าได้
เพราะเรา เอาตัวเองเป็นตัวตั้ง แล้วคิดถึงแต่ตัวเอง
หากสนใจธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนสักนิด (ไม่ใช่แค่ไปวัดทำบุญแล้วคิดว่าเป็นพุทธ)
คิดถึงตัวเองให้มากในธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอน เหมือนกับคิดในเรื่องอื่นๆ
ประเทศไทยคงจะนับว่าเป็นเมืองพุทธได้ ไม่อายใคร
เพราะเพียงแค่ท่านพุทธทาส ได้ยอมรับในระดับโลกแล้ว
ประเทศไทยใช่จะเกาะชายผ้าเหลือง รับเอาผลประโยชน์นั้นมาใส่ตัวก็ไม่ได้
ประเทศไทยคือเราทุกคน เน่าครึ่ง ดีครึ่ง ดมแล้วก็ย่อมมีกลิ่นอยู่ดี
ประเทศไทยคือเราทุกคน เน่าครึ่ง ดีครึ่ง สุดท้ายมันก็จะเน่าสิ้นไม่มีเหลือ
เต่าโบราณในกะลา ... ติดละครน้ำเน่า TVI