ทักษิณยันยังไม่ได้ตกลงซื้อซู 30 แค่ทำบันทึกข้อหารือ

[โป้ง]

ทักษิณยันยังไม่ได้ตกลงซื้อซู 30 แค่ทำบันทึกข้อหารือ

ทำเนียบฯ - 22 ธ.ค. "ทักษิณ"ยันยังไม่ได้ตกลงซื้อเครื่องบินรบ ซู 30 เพียงแต่มีการทำเป็นบันทึกข้อหารือเท่านั้น เผยหารือกับสหรัฐฯให้อัพเกรดเครื่องบินเอฟ 16 โดยใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรเช่นกัน
เมื่อเวลา 09.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีรัฐบาลจะใช้งบประมาณโครงการเมกะโปรเจคซื้อเครื่องบินรบซู-30 จากรัสเซียว่า ปัญหาคือเรื่องการอธิบาย ความจริงไม่มีอะไร ทุกอย่างทำตรงไปตรงมา มีการตรวจสอบที่ชัดเจน ปัญหาคือเรื่องมาก หากต้องอธิบายทุกเรื่องคงไม่ไหว แต่เรื่องนี้ใจเย็นๆ เพราะทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ ไม่มีระบบนายหน้า

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างตนกับประธานาธิบดีรัสเซียที่หารือกัน และที่ระบุว่าส่วนลดจะแถมเป็นเฮลิคอปเตอร์มาให้นั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจและยังไม่ตกลงอย่างชัดเจน เป็นการพูดคุยว่าหากข้อตกลงบรรลุผลจะเป็นลักษณะบาเตอร์เทรด ไม่มีการผ่านนายหน้า และส่วนลดไทยขอเป็นเฮลิคอปเตอร์ เพราะปัจจุบันเราขาดเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย เป็นหลักการที่พูดคุยกันและยังไม่ได้ตกลงในรายละเอียด ซึ่งหากมีการตกลงซื้อจริงก็ต้องมีการกลั่นกรอง พูดคุยในหลักการให้ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ ครั้งนี้เป็นเพียงบันทึกข้อหารือระหว่างกันเท่านั้น

"การพูดคุยและหารือเป็นลักษณะการแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตร เช่น ไก่ จุดประสงค์ของเราคือต้องการเจาะตลาดสินค้าเกษตรของรัสเซียมากขึ้น เพราะปัจจุบันเราไม่มีสินค้าเกษตรในประเทศรัสเซีย อย่างไก่ รัสเซียนำเข้าไปทีละล้านตัว แต่ไทยไม่เคยขายได้แม้แต่ตัวเดียว ดังนั้น ถ้าเราไม่แลกเปลี่ยนสินค้ากับรัสเซียก็คงเปิดตลาดไม่ได้ แต่เมื่อเราตกลงชำระเป็นสินค้าเกษตรแล้ว อนาคตก็คงเป็นไปตามครรลอง การเจาะตลาดมีหลายเหตุผล" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีการกล่าวหารัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้นายทุนพรรคไทยรักไทยในการนำไก่ไปแลกซื้อเฮลิคอปเตอร์ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ธรรมดา ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็กล่าวหาไป แต่อย่าลืมว่าเวลานี้รัฐบาลกำลังลงไปแก้ปัญหาเรื่องไก่ตั้งแต่ระดับชุมชน คือพยายามที่จะให้มีการลดการเลี้ยงไก่ระบบเปิดมาเป็นการเลี้ยงไก่ระบบปิด เป็นลักษณะธุรกิจชุมชน และจะมีคนมารับซื้อสินค้าจากชาวบ้านโดยตรง คนวิจารณ์และกล่าวหาก็คิดในมิติเดิม คิดว่าทุกอย่างเหมือนเดิม ก็ออกมาวิจารณ์เหมือนเดิม รัฐบาลกำลังเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง จึงขอให้ใจเย็นๆ

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้หารือและตกลงเบื้องต้นกับสหรัฐฯว่าจะให้ทางสหรัฐฯอัพเกรดเครื่องบินเอฟ 16 ของเราที่มีอยู่ ซึ่งการอัพเกรดดังกล่าวจะทำให้เครื่องเอฟ 16 มีอายุใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 15 ปี โดยจะเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าทางเกษตรเช่นกัน การหารือเบื้องต้นทางสหรัฐฯยอม ซึ่งผิดจากแต่ก่อนไม่เคยยอมแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าไม่มีกรณีของรัสเซียทางสหรัฐฯคงไม่ยอม การตกลงกันจะต้องจ่ายเป็นเงินสดตลอดเวลา ถือว่าเป็นเรื่องการเจรจาต่อรองกัน และที่รัฐบาลไม่ซื้อเครื่องเอฟ 18 เหมือนที่สิงคโปร์ใช้ ก็เป็นเพราะว่าเครื่องเอฟ 18 แพงมาก และเครื่องเอฟ 16 ของเราก็ยังมีอยู่ ถ้านำมาอัพเกรดราคาจะถูกลงมาก และการที่ไม่ซื้อเครื่องเอฟ 16 รุ่นใหม่เพราะกำลังจะตกรุ่นแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างยังไม่จบ เป็นการพูดคุยหารือ ทั้งหมดอยู่ที่เงื่อนไขว่าจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยสินค้าเกษตรเท่านั้น

"เราต้องการเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายแก้ปัญหาความยากจน เรากำลังเพิ่มกำลังการผลิตให้ชาวบ้าน เพราะฉะนั้น เมื่อเพิ่มแล้วต้องหาตลาดให้ วิธีที่ดีที่สุดคือการแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกันก่อน ต่อไปการไหลของตลาดจะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ และแน่นอนว่าหากมีข้อเสนอจากที่อื่นที่ดีกว่า เรา

ไม่จำเป็นต้องตกลงกับทางรัสเซียและสหรัฐฯ อะไรดีกว่าก็เอาตรงนั้น" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ต่อข้อถามว่า มีผู้เชี่ยวชาญของกองทัพอากาศทำรายงานเครื่องบินรบซู 30 คุณสมบัติไม่ดีและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงมาก นายกฯ ย้อนถามว่า คนทำรายงานชื่ออะไร ว่ากันไปเรื่อย ลองไปถามตรงๆให้พูดผ่านไมโครโฟนออกมา มีหลักฐานชัดเจนแล้วตนจะเชื่อ

[โป้ง]

ไม่เอาเรื่อง ค่านายหน้า ซื้อเครื่องบิน

คืออยากถามรู้ทุกท่าน คิดว่า การแลกไก่กับเครื่องบินรัสเซีย เป็นการเปิดประตูตลาดส่งออกไก่ ทำให้การค้าเกิดขึ้นในอนาคต อย่างที่ นายกว่ามา จริงหรือไม่ครับ

และใครพอรู้บ้างครับ ซู-30 กับ F-18 อันไหนแจ๋วกว่ากันครับ