Power Buy vs IT

[thanwa]

พักนี้ Power Buy รุกหนักด้านโฆษณามาก ทั้งทีวี และหนังสือพิมพ์
ทั้งคอมพิวเตอร์และกล้องดิจิตอล นอกจากนี้ ทำเลของ Power Buy ที่อยู่ให้ห้างชั้นนำถือว่าเป็นต่ออยู่

เพื่อนๆ คิดว่า IT จะรับมือครั้งนี้ไหวไหมครับและ IT ต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบการแข่งขันครั้งนี้ครับ

[harry]

ส่วนตัวผม ถ้าซื้อทีวี เครื่องเสียง ต่างๆ ไม่สนว่าร้านไหน ขอให้มีของ แล้วมีสินค้าที่รับประกันถูกต้อง แต่คนส่วนใหญ่มักซื้อในห้าง

ถ้าเป้นกล้องดิจิตอล ผมไปร้านกล้องโดยตรง พวก powerbuy หรือ it ผมไม่เข้าแน่นอน

[worapong]

ต้องขอโทษด้วยที่ต้องย้อนถามครับ เพราะว่าผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีร้านไอทีซิตี้ครับ
คำถามก็คือว่า
1.ถ้าคุณจะซื้อ pc จะซื้อที่ไหน
2.ถ้าคุณจะซื้อ laptop จะซื้อที่ไหน
3.ถ้าคุณจะซื้อ mp3 จะซื้อที่ไหน
4.ถ้าคุณจะซื้อ pda จะซื้อที่ไหน
5.ถ้าคุณจะซื้อ printer จะซื้อที่ไหน
6.ถ้าคุณจะซื้อ digital camera จะซื้อที่ไหน
7.ถ้าคุณจะซื้อ inkjet paper จะซื้อที่ไหน
8.ถ้าคุณจะซื้อ ... จะซื้อที่ไหน
ดูจากคำถามของคุณธันวาแล้ว แสดงว่าเป็นคนช่างสังเกตมากนะครับ เหมือนปีเตอร์ลินช์เลยครับ เห็นคำถามผมแล้วช่วยตอบด้วยนะครับ ถ้าคำตอบส่วนใหญ่คือไอทีซิตี้ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ถ้าเป็นpower buy อันนี้น่ากลัวครับ แล้วผู้บริหารไอทีซิตี้ก็คงแก้ปัญหาเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก มันยากเกินไป ถ้าถามผมว่ากลุ่มลูกค้าของไอทีซิตี้กับpower buy ต่างกันไหม ผมคิดว่าต่างกัน เพราะ ลูกค้า it city เป็นคนที่ตั้งใจจะซื้อสินค้าไอทีจริงๆ อยากดูของเยอะๆ เปรียบเทียบทุกรุ่นทุกยี่ห้อทุกร้าน เลยไปห้างเฉพาะทางเหมือนพันธ์ทิพย์ แต่ลูกค้า power buy จะเป็นกลุ่มคนที่เดินช็อปเล่นๆ เลยไปห้างที่มีสินค้าหลากหลายมากกว่า คือมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า หนังสือ เครื่องไฟฟ้า เลยไปเดินตามเซ็นทรัลครับ แต่อนาคตทางไอทีซืตี้ก็คงไปอยู่ตามห้างหรูเหมือนกันครับ ก็เป็นการขยายฐานลูกค้า ไปยังอีกกลุ่มนึง แต่ยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม เพราะการเปิดร้านในห้าง it ถึงแม้ว่าจะมี traffic น้อยกว่าห้างหรู แต่ก็ตรงกลุ่มเป้าหมาย และค่าเช่าถูกกว่าห้างหรูมากครับ
ผมว่าทางที่ดี คุณธันวาลองเดินสำรวจทั้งร้านไอทีซิตี้ และ power buy ดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง ว่าค่าโฆษณาของ power buy จะเปลี่ยนเป็นยอดขายได้หรือไม่ครับ อันนี้ต้องขอให้คนที่อยู่กรุงเทพช่วยดูครับ    :twisted:  :twisted:

[setmaker]

เท่าที่ทราบ IT City ไม่มีเว็บขายของลักษณะของ E-Commerce เหมือนที่อื่นครับ
ผมว่าน่าเสียดายนะ
มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใหญ่พอสมควร ชอบซื้อของออนไลน์ครับ
ต้นทุนการเช่าพื้นที่ก็ไม่มี มีแต่ค่า Server ก็ไม่แพงเท่า
ค่าแรงพนักงานเชียร์สินค้า ก็ไม่ต้องมี ค่าน้ำค่าไฟ ประหยัดกว่าแยะ
ทำไมเขาถึงไม่ทำ Site E-Commerce
เพื่อแย่งส่วนแบ่งลูกค้าที่ชอบซื้อของออนไลน์

หรือ IT มีเหตุผลที่ดีกว่าที่ทำให้ปฏิเสธการเปิดเว็บ  :D

[woody]

[quote="setmaker"]เท่าที่ทราบ IT City ไม่มีเว็บขายของลักษณะของ E-Commerce เหมือนที่อื่นครับ
ผมว่าน่าเสียดายนะ
มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใหญ่พอสมควร ชอบซื้อของออนไลน์ครับ
ต้นทุนการเช่าพื้นที่ก็ไม่มี มีแต่ค่า Server ก็ไม่แพงเท่า
ค่าแรงพนักงานเชียร์สินค้า ก็ไม่ต้องมี ค่าน้ำค่าไฟ ประหยัดกว่าแยะ
ทำไมเขาถึงไม่ทำ Site E-Commerce
เพื่อแย่งส่วนแบ่งลูกค้าที่ชอบซื้อของออนไลน์

หรือ IT มีเหตุผลที่ดีกว่าที่ทำให้ปฏิเสธการเปิดเว็บ

[thanwa]

ติดตามผลงานของคุณ worapong อยู่เหมือนกัน ชอบข้อสังเกตุ และข้อคิดเห็น รับรองว่าไม่เป็นรอง VI คนไหนใน TVI แห่งนี้

ไม่ทราบว่า คุณ worapong  อยู่จังหวัดไหนครับ เผื่อทาง IT จะได้ไปเปิดสาขาที่นั่นบ้าง

ข้อสังเกตุของคุณ worapong นะใช่เลยครับ ลูกค้าที่เข้าร้าน IT City นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ซื้อหรือมีความตั้งใจที่จะซื้อสินค้า คล้ายๆ กับ Hmpro ขณะที่ลูกค้าของ Power Buy จะมีส่วนที่เดินห้างเล่นด้วย เฉพาะฉนั้น % ในการขายต่อลูกค้าเข้าร้านของ IT City และ Hmpro น่าจะสูงกว่า Power Buy

สำหรับคำถามของคุณ worapong ในการหาซื้อสินค้าดังกล่าวนั้นผมทราบมาว่า
  Power Buy กำลังขยายจาก Consumer Electronic ไปยัง IT City ขณะที่
  IT City กำลังขยายจาก IT ไปยัง Consume Electronic  แม้ในที่สุดจะไม่เหมือนกันทีเดียว  แต่ก็จะมีส่วนที่ซ้ำซ้อนกันมากขึ้น

ระยะหลังผมไปเยี่ยมชมสาขาของ IT ค่อนข้างบ่อยครับ ได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจพอสมควร   ยังเห็นว่า Power Buy เป็นโอกาสที่เป็น threat ของ IT ในอนาคตที่สำคัญที่เดียว เนื่องจาก coverage ของ IT City ยังไม่ค่อยมีในห้างที่สำคัญมากนัก ยกเว้น Central Praram 3 หรือ paragon เพราะฉนั้น ผู้ซื้อต้องใช้ effort ในการไปใช้บริการ IT City เหมือนกัน

IT คงต้องแสดงให้เห็นว่าการจะมีสาขาให้ครบ 40 แห่งภายใน 3 ปี ต้องดูว่าจะสามารถทำได้ทำแผนหรือไม่   ถ้าไม่ก็น่าเป็นห่วงเพราะ Power Buy นอกจาก e-commerce อย่างที่ว่า ยังมีสาขาดังต่อไปนี้

เซ็นทรัล พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ (หัวหมาก) บางกะปิ
เซ็นทรัล (รามอินทรา) บางเขน
เซ็นทรัล (ปิ่นเกล้า)  บางกอกน้อย
เซ็นทรัล (บางนา)  บางนา
เซ็นทรัล (สีลม)  บางรัก 4
เซ็นทรัล (สีลมคอมเพล็กซ์)  บางรัก 5
โรบินสัน (บางรัก)  บางรัก 2
โรบินสัน (ลุมพินี)  บางรัก 4
บิ๊กซี (วงสว่าง)  บางซื่อ 2
โรบินสัน (รัชดา) ดินแดง 3
เซ็นทรัล (ลาดพร้าว)  จตุจักร
โรบินสัน (แฟชั่นไอส์แลนด์)  คันนายาว 3
เซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์ (แฟชั่นไอส์แลนด์)  คันนายาว G
โรบินสัน (ลาดหญ้า)  คลองสาน 6
โรบินสัน (บางแค)  ภาษีเจริญ 2
เซ็น (เซ็น)  ปทุมวัน 4
เซ็นทรัล (ชิดลม)  ปทุมวัน 5
โรบินสัน (ศรีนครินทร์) ประเวศ B
เพาเวอร์เซ็นเตอร์ (รัตนาธิเบศร์) อ. เมืองนน-นนทบุรี
บิ๊กซี (ราษฎร์บูรณะ)  ราษฎร์บูรณะ หลังบิ๊กซี
เซ็นทรัล (รังสิต)  ธัญบุรี B
โรบินสัน (รังสิต)  ธัญบุรี 2F
เน็ทเวิร์ค (โชคชัย 4)  วังทองหลาง
เซ็นทรัล (พระราม 3)  ยานนาวา 5
ราชวิถี (ราชวิถี) พญาไท
ศรีย่าน ดุสิต
จรัญสนิทวงศ์ บางกอกน้อย
บางกะปิ บางกะปิ
เน็ทเวิร์ค (บางบอน) บางบอน
เน็ทเวิร์ค (ประชาอุทิศ) ราษฎร์บูรณะ
เน็ทเวิร์ค (พระโขนง 71) วัฒนา
เซ็นทรัล (พระราม 2) บางขุนเทียน 4
มาบุญครอง ปทุมวัน 4  
โรบินสัน (ราชบุรี) 2
ทวีกิจ พลาซ่า (สระบุรี)  1

ว่าแต่ว่า ทาง Power Buy นี่เปิดขายเฟรนชายด้วยหรือครับ ชื่อ
เน็ทเวิร์ค ฟังดูแล้วแปลกๆ นะ

[worapong]

ผมอยู่หาดใหญ่ครับ ผมอยากให้ไอทีซิตี้มาเปิดที่หาดใหญ่ครับ จะได้เป็นลูกค้าของไอทีซิตี้ ผมก็สงสัยว่าทางไอทีซิตี้อาจจะประเมินว่าเปิดที่หาดใหญ่แล้วกำไรน้อย เลยยังไม่มาเปิดเสียที ที่จริงการขยายสาขาช่วงนี้น่าสนใจมากเพราะว่าไปแล้ว การใช้งานคอมพิวเตอร์กำลังถูกผลักด้วยเกลียวหมุนเชิงบวก คืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และราคาคอมพิวเตอร์ที่ต่ำลงมาก โดยเฉพาะตอนนี้กรุงเทพเริ่มจะมีใช้ wireless hi-speed internet ผมว่าคนกรุงเทพจำนวนมากน่าจะอยากมีคอมสักเครื่อง และคนที่มีอยู่แล้วก็อยากมีเครื่องใหม่ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ แล้วถ้ามีคนใช้ wireless hi-speed internet มากพอ operator ก็จะขยายไปยังจังหวัดใหญ่ๆ เพื่อแย่งชิงลูกค้ากัน ซึ่งtrue คงไม่ได้กำไรสักเท่าไร แต่คนขายเครื่องอย่าง it city กำไรน่าจะระเบิดทีเดียว ที่ผมคิดว่าจะเป็นลูกค้าไอทีซิตี้ก็เพราะคิดว่าถ้า wireless hi-speed internet มาถึงหาดใหญ่ ผมคงต้องซื้อเครื่องใหม่ แล้วคนอีกหลายคนก็คงคิดเหมือนผม ถ้าเค้าไม่มาผมก็คงซื้อที่อื่น
เรื่องที่power buy กลายเป็นคู่แข่งของ it city คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ เพราะตัวสินค้าเองก็เหมือนกันมากขึ้น เช่น เครื่องเล่น mp3 ใครบอกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าไอที คอมเดี๋ยวนี้ก็ใช้ดูหนังฟังเพลงได้ ทีวีเริ่มจะมีหน่วยความจำ ตู้เย็นจะต่อเน็ตได้ กล้องก็กลายเป็นดิจิตอล มือถือก็ใช้ถ่ายวีดีโอได้ ส่วนด้านทำเล ทางไอทีซิตี้เองก็จะเข้ามาขายในห้างหรูหรามากขึ้น ใครชนะนี่ตอบยากครับ อาจพังทั้งคู่ ชนะทั้งคู่ หรือ คนนึงอยู่คนนึงไปก็ได้ ต้องติดตามดูครับ ที่จริงผมอิจฉาคนกรุงเทพนะครับ เพราะติดตามดูได้ ผมอยู่หาดใหญ่นานๆไปสักครั้ง เสียเปรียบมากเลยครับ แต่ถ้าให้ผมเดานะครับ น่าจะชนะทั้งคู่ เพราะลูกค้าเป็นคนละกลุ่มกันจริงๆ แถมตลาดไอทียังโตได้อีกเยอะมาก

ตอนนี้ p/e 9.3 p/bv 1.6 div yield 4.5% ปีนี้ โตราวๆ 25% และยังมีเรื่องดีๆรออยู่อีกมาก กระแสเงินสดก็สุดยอด เพราะลงทุนเปิดสาขาแค่1-2ปีก็ได้ทุนคืนหมดแล้ว ถ้าปีนี้ปันผลเพิ่ม 25% เหมือนกำไร คงยอดเยี่ยมมากครับ ได้แต่หวังว่าไอทีซิตี้จะทำได้ดีตลอด5-10ปีข้างหน้าครับ

เรื่องคำชมนั้น ขอขอบคุณครับ แต่ไม่ขอรับไว้นะครับ ผมเองยังมือใหม่อยู่ ยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ  :twisted:  :twisted:  :twisted:

[thanwa]

เห็นคุณ worapong บอกว่ามีเรื่องดีๆ รออีกเยอะ ไม่ทราบ มีเรื่องราวอะไรที่คิดว่าเป็น TOP 3 ในด้านบวกของ IT ที่จะเกิดครับ

เนื่องจากอุตสาหกรรมมีโอกาสโตขึ้นอย่างที่บอก คุณ worapong มองอย่างไร สำหรับคู่แข่งใหม่ โดยเฉพาะจากต่างประเทศที่มีทั้งกำลังทรัพย์ และเทคโนโลยีครับ

[setmaker]

[quote="woody"][quote="setmaker"]เท่าที่ทราบ IT City ไม่มีเว็บขายของลักษณะของ E-Commerce เหมือนที่อื่นครับ
ผมว่าน่าเสียดายนะ
มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใหญ่พอสมควร ชอบซื้อของออนไลน์ครับ
ต้นทุนการเช่าพื้นที่ก็ไม่มี มีแต่ค่า Server ก็ไม่แพงเท่า
ค่าแรงพนักงานเชียร์สินค้า ก็ไม่ต้องมี ค่าน้ำค่าไฟ ประหยัดกว่าแยะ
ทำไมเขาถึงไม่ทำ Site E-Commerce
เพื่อแย่งส่วนแบ่งลูกค้าที่ชอบซื้อของออนไลน์

หรือ IT มีเหตุผลที่ดีกว่าที่ทำให้ปฏิเสธการเปิดเว็บ

[worapong]

เห็นคุณ worapong บอกว่ามีเรื่องดีๆ รออีกเยอะ ไม่ทราบ มีเรื่องราวอะไรที่คิดว่าเป็น TOP 3 ในด้านบวกของ IT ที่จะเกิดครับ

เนื่องจากอุตสาหกรรมมีโอกาสโตขึ้นอย่างที่บอก คุณ worapong มองอย่างไร สำหรับคู่แข่งใหม่ โดยเฉพาะจากต่างประเทศที่มีทั้งกำลังทรัพย์ และเทคโนโลยีครับ

ก็เป็นเรื่องธรรมดาๆที่คุณก็รู้อยู่แล้วครับ เช่น
1.ฐานลูกค้ายังเติบโต2หลักไปอีกหลายปี
2.wireless hi-speed internet ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมากๆ
3.คู่แข่งทยอยตายไปเรื่อยๆ

เรื่องคู่แข่งใหม่ ยังไม่เกิด คิดไปก็ปวดหัวครับ ถ้าเค้ามาจริงเราก็ต้องเห็นในหนังสือพิมพ์หรือในห้างครับ ตอนนั้นค่อยขายหุ้นก็ยังทัน ส่วนพาวเวอร์บายนี่สิน่ากลัวกว่าเรื่องต่างชาติ เพราะเค้าเริ่มบุกแล้ว แต่ผมอยู่หาดใหญ่ เท่าที่ดูpower buy ก็มีโชว์ lap top 5 เครื่อง pc 3 เครื่องเอง ยังอีกนานครับ กว่าจะสะเทือน it city แล้วที่กรุงเทพ power buy มีวางสินค้าไอทีมากแค่ไหนครับ

[woody]

พอดูครับพี่ Worgapon อย่างไรก็ดี power buy ที่กรุงเทพฯ นี่ก็เหมือนเอาไว้ให้คนที่ชอบเที่ยวห้างได้แวะเข้าไปดูครับ คนที่ชอบแบบ One stop service ไปกันทั้งครอบครัวน่าจะเป็นเป้าหมายหลัก