คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 361
มีคนฝากบอกผมมาว่า
ยิ่งอ่านกระทู้นี้แล้วยิ่งงง
จริงหรือเปล่า????
ฮิ ฮิ
ผมไม่ได้ต้องการให้เลียนแบบผม
โดยการซื้อหุ้น P/E สูงๆนะครับ
ถ้าทำการบ้านไม่พอ
จะมีโอกาสเจ็บตัวได้ง่ายๆครับ
เพราะผิดท่าผิดทาง
ราคาจะดิ่งเหวให้หัวใจจะวายเล่น
เราต้องมั่นใจในบริษัทนั้นจริงๆครับ
ถึงจะไม่เสี่ยง
พอดีความเสี่ยงของผม
ไม่ได้อยู่ที่ราคาหุ้นครับ
แต่อยู่ที่ความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทมากกว่า
ต้องอาศัยความสามารถของผู้บริหารอย่างเดียว
ที่ผมยกตัวอย่างเพราะ
อยากแสดงให้เห็นแค่ว่า
การซื้อหุ้นโดยดู P/E อย่างเดียว
ไม่ใช่สิ่งที่น่าทำเลย
เราควรเข้าใจในธุรกิจนั้นจริงๆ
ถึงจะบอกได้ว่าหุ้นตัวไหนถูกแพง
หุ้นแบบ Net-Net ผมเคยเห็นอยู่บริษัทหนึ่งครับ
เมื่อปีที่แล้ว
แต่ไม่ได้ซื้อ
เพราะผมแอบไปดูที่ร้านของบริษัทนี้ที่อยู่แถวบ้าน
ปรากฏว่า ไม่มีลูกค้าเลย
แถมแบรนด์ก็โบราณ ผมไม่เคยคิดซื้อสินค้าเขามาใช้เลย
ก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อ
ไม่งั้น ได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์ Graham เต็มตัว
ปรากฎว่าผ่านไปหนึ่งปี
ราคาเพิ่มมา 76%
อืม........Net-Net Stock นี่ก็น่าสนใจนะเนี่ย
แต่ปัญหาคือ
ส่วนใหญ่มันจะเป็นบริษัทที่กำลังจะเจ๊งครับ
ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ
เอ้า...คุณมน 13ยกแล้วเหรอครับ
เหลืออีกกี่ยกครับเนี่ย
ผมจะได้แขวนนวมสักที
เรื่อง Growth ทำลายมูลค่านี่
มีตัวอย่างเยอะแยะ
เอาหลักๆก็เรื่อง
การที่บริษัทไปขยายงานที่ตัวเองไม่มีความถนัด
แทนที่จะมีกำไรมากขึ้น
กลับต้องขาดทุนกับธุรกิจที่ตัวเองทำใหม่
ในเมืองนอก ก็Gillette ที่ไปซื้อบริษัททำนาฬิกา
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับมีดโกนหนวดที่ตัวเองถนัด
สุดท้ายก็ขาดทุนย่อยยับ
ต้องขายกิจการนาฬิกาไป
แล้วหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจมีดโกนหนวดที่ตัวเองถนัด
เลยฟื้นตัวขึ้นมาได้
เอาอีกตัวอย่างมั๊ยครับ
อากู๋ Grammy ไปทำบะหมี่ 4-me
สุดท้ายก็ไปไม่รอด
ต้องกลับมาขาย CD เหมือนเดิม
เอาอีกตัวอย่างแล้วกัน
ปูนใหญ่เคยมีธุรกิจร่วมทุนมากมาย
เรียกได้ว่าเกือบจะทุกสินค้าอุตสาหกรรมที่มีในตลาด
ปูนใหญ่ต้องมีเอี่ยว
ยางรถยนต์ สายไฟ จอภาพคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ฯลฯ
สุดท้าย
ปูนใหญ่ก็เข้าใจในคำว่า Growth Destroy Value
ต้องขายกิจการที่ขาดทุนออกไป
เหลือแต่กิจการที่ตัวเองถนัด
ปูนซิเมนต์ กระดาษ และปิโตรเคมี
แล้วก็ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่างอื่นๆให้ท่านอื่นเล่าให้ฟังมั่งดีกว่าครับ
ทั้งคุณมน พี่เจ๋ง พี่Chatchai พี่ครรชิต และท่านอื่นๆ
โดยเฉพาะพี่ปรัชญาที่ลงทุนมานาน
น่าจะมีเรื่องเล่าเยอะ
จริงมั๊ยคร้าบ......พี่ปรัชญา
ยิ่งอ่านกระทู้นี้แล้วยิ่งงง
จริงหรือเปล่า????
ฮิ ฮิ
ผมไม่ได้ต้องการให้เลียนแบบผม
โดยการซื้อหุ้น P/E สูงๆนะครับ
ถ้าทำการบ้านไม่พอ
จะมีโอกาสเจ็บตัวได้ง่ายๆครับ
เพราะผิดท่าผิดทาง
ราคาจะดิ่งเหวให้หัวใจจะวายเล่น
เราต้องมั่นใจในบริษัทนั้นจริงๆครับ
ถึงจะไม่เสี่ยง
พอดีความเสี่ยงของผม
ไม่ได้อยู่ที่ราคาหุ้นครับ
แต่อยู่ที่ความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทมากกว่า
ต้องอาศัยความสามารถของผู้บริหารอย่างเดียว
ที่ผมยกตัวอย่างเพราะ
อยากแสดงให้เห็นแค่ว่า
การซื้อหุ้นโดยดู P/E อย่างเดียว
ไม่ใช่สิ่งที่น่าทำเลย
เราควรเข้าใจในธุรกิจนั้นจริงๆ
ถึงจะบอกได้ว่าหุ้นตัวไหนถูกแพง
หุ้นแบบ Net-Net ผมเคยเห็นอยู่บริษัทหนึ่งครับ
เมื่อปีที่แล้ว
แต่ไม่ได้ซื้อ
เพราะผมแอบไปดูที่ร้านของบริษัทนี้ที่อยู่แถวบ้าน
ปรากฏว่า ไม่มีลูกค้าเลย
แถมแบรนด์ก็โบราณ ผมไม่เคยคิดซื้อสินค้าเขามาใช้เลย
ก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อ
ไม่งั้น ได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์ Graham เต็มตัว
ปรากฎว่าผ่านไปหนึ่งปี
ราคาเพิ่มมา 76%
อืม........Net-Net Stock นี่ก็น่าสนใจนะเนี่ย
แต่ปัญหาคือ
ส่วนใหญ่มันจะเป็นบริษัทที่กำลังจะเจ๊งครับ
ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ
เอ้า...คุณมน 13ยกแล้วเหรอครับ
เหลืออีกกี่ยกครับเนี่ย
ผมจะได้แขวนนวมสักที
เรื่อง Growth ทำลายมูลค่านี่
มีตัวอย่างเยอะแยะ
เอาหลักๆก็เรื่อง
การที่บริษัทไปขยายงานที่ตัวเองไม่มีความถนัด
แทนที่จะมีกำไรมากขึ้น
กลับต้องขาดทุนกับธุรกิจที่ตัวเองทำใหม่
ในเมืองนอก ก็Gillette ที่ไปซื้อบริษัททำนาฬิกา
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับมีดโกนหนวดที่ตัวเองถนัด
สุดท้ายก็ขาดทุนย่อยยับ
ต้องขายกิจการนาฬิกาไป
แล้วหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจมีดโกนหนวดที่ตัวเองถนัด
เลยฟื้นตัวขึ้นมาได้
เอาอีกตัวอย่างมั๊ยครับ
อากู๋ Grammy ไปทำบะหมี่ 4-me
สุดท้ายก็ไปไม่รอด
ต้องกลับมาขาย CD เหมือนเดิม
เอาอีกตัวอย่างแล้วกัน
ปูนใหญ่เคยมีธุรกิจร่วมทุนมากมาย
เรียกได้ว่าเกือบจะทุกสินค้าอุตสาหกรรมที่มีในตลาด
ปูนใหญ่ต้องมีเอี่ยว
ยางรถยนต์ สายไฟ จอภาพคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ฯลฯ
สุดท้าย
ปูนใหญ่ก็เข้าใจในคำว่า Growth Destroy Value
ต้องขายกิจการที่ขาดทุนออกไป
เหลือแต่กิจการที่ตัวเองถนัด
ปูนซิเมนต์ กระดาษ และปิโตรเคมี
แล้วก็ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่างอื่นๆให้ท่านอื่นเล่าให้ฟังมั่งดีกว่าครับ
ทั้งคุณมน พี่เจ๋ง พี่Chatchai พี่ครรชิต และท่านอื่นๆ
โดยเฉพาะพี่ปรัชญาที่ลงทุนมานาน
น่าจะมีเรื่องเล่าเยอะ
จริงมั๊ยคร้าบ......พี่ปรัชญา
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 362
คุณวิบูลย์ สำหรับจำนวนยกนั้นไม่จำกัดครับ
ตอบไปเรื่อยๆ เถอะครับ ผมเองแอบติดตามจอมยุทธ์ปะฝืมือกันอยู่
สำหรับท่านที่บอกว่า ยิ่งอ่านยิ่งงง ยอมรับว่าบางทีต้องเพิ่มสมาธิ
ในการอ่านเพื่อติดตามให้เข้าใจ อีกอย่าง ถ้าไม่เข้าใจ ยอดฝีมือ
ก็เปิดโอกาสให้ถามได้อยู่ ไม่ต้องกลัวครับ
ผมเองอ่านหนังสือเรื่องลงทุนมาบ้างแต่ลงไม่เยอะเมื่อเทียบกับ
คุณวิบูลย์ คุณมน และหลายท่านให้ห้องนี้
กระทู้นี้เหมือนเป็นการสรุปข้อดี ข้อเด่น ของการลงทุนจากหลายตำรา
ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะสำหรับ VI รุ่นใหม่
ว่าแต่ว่า คงต้องคิดเรื่อง workshop กันอย่างจริงๆ จังแล้วมั๊งครับ
คุณวิบูลย์ คุณมน คุณเจ๋ง และท่านอื่นๆ ว่าไงครับ
ตอบไปเรื่อยๆ เถอะครับ ผมเองแอบติดตามจอมยุทธ์ปะฝืมือกันอยู่
สำหรับท่านที่บอกว่า ยิ่งอ่านยิ่งงง ยอมรับว่าบางทีต้องเพิ่มสมาธิ
ในการอ่านเพื่อติดตามให้เข้าใจ อีกอย่าง ถ้าไม่เข้าใจ ยอดฝีมือ
ก็เปิดโอกาสให้ถามได้อยู่ ไม่ต้องกลัวครับ
ผมเองอ่านหนังสือเรื่องลงทุนมาบ้างแต่ลงไม่เยอะเมื่อเทียบกับ
คุณวิบูลย์ คุณมน และหลายท่านให้ห้องนี้
กระทู้นี้เหมือนเป็นการสรุปข้อดี ข้อเด่น ของการลงทุนจากหลายตำรา
ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะสำหรับ VI รุ่นใหม่
ว่าแต่ว่า คงต้องคิดเรื่อง workshop กันอย่างจริงๆ จังแล้วมั๊งครับ
คุณวิบูลย์ คุณมน คุณเจ๋ง และท่านอื่นๆ ว่าไงครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 363

ที่ผ่านๆมา
ตอนนั้นจำได้ว่า...ไอศครีมโฟ-โม-
ขายดีเป็นอันดับ1
และมีไอศครีมวอ- ตามมาเป็นอันดับ2
การเทคโอเว่อร์ ออกจากตลาดก็เกิดขึ้น
เพื่อเอาบริษัทคู่แข่งไปทำกิจการอย่างอื่น
เพื่อให้ตัวเองหมดคู่แข่ง เป็นเจ้าตลาดก็เกิดขึ้นครับ
เขาซื้อโฟ-โม- แล้วให้เลิกทำไอศครีม
แต่ไปทำนมกล่อง และเป็นบริษัทลูกไปซื้อนมมาส่งให้
บริษัทแม่เขาผลิตไอศครีม
อันนี้เป็นเรื่องย่อๆนะครับ
ตัวอย่างที่2
ก็หุ้นเจ้าหยดน้ำตา
ทำปั๊มน้ำมันอยู่ดีดี ก็มีกำไรพอดูได้
แต่อยากรวย ด้วยความคิดของเจ้าของ
ด้วยการถือหุ้นมากกว่ารายย่อย
ก็เลยเขียนโครงการ ไปทำบ่อกุ้ง นำเงินมาเล่นเกมส์
สุดท้าย ก็เอาเงินกำไรจากขายน้ำมันไปโยนทิ้งน้ำ
เพิ่มหนี้สินเข้าไปอีก
ตัวอย่างที่3
บริษัทแก๊สอันดับ3ต้องการสร้างมูลค่าให้ตัวเองขึ้นมาเป็นอันดับ2
ด้วยการไปเทคโอเว่อร์ เอ-โ-แก๊-มาเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง
และต่อมาอีกปี ก็ขายให้กับที-ไอ ี...ไปพร้อมแถมเงินสดไปด้วย
ปีเดือนก่อนเห็นแจ้ง ตลาดว่าบริษัทแม่กู้เงินบริษัทลูกไป500ล้านบาท
ก็ได้แค่มองและได้แค่คิดครับ
และมีการทำแบบไม่ชอบมาพากลกับตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้มากมาย
ที่นักฉวยโอกาส ใส่สูทใช้เล่ห์เหลี่ยมการตลาด
เขาไปเพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง และหุ้นที่ดูแล
จนถึงยุคเสี่ย2
แต่ก็ไม่มีการจดบันทึกเอาไว้ ผมก็ไม่ค่อยกล้าพูดตรงๆ
อาจจะทำให้เดือดร้อน เดี๋ยวเขาสั่งปิดเวปเลยจะลำบาก
คอยๆริน ออกมาทีละนิด ๆ
อีกสัก3-4เดือนก็รินออกมาอีกหน่อยดีไหมครับ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 364
งานนี้คงต้องแหกกฎทั้งหลายแล้วละครับ คุณวิบูลย์ยังแหกกฎเหล็กของอาซ้อมาpostวันเสาร์อาทิตย์เลย ทำไมเราจะต้องไปจำกัดยกด้วยเล่า
-------------------------------------------------------------------------------------
กระทู้นี้อ่านแล้วจะไม่งงเลยหากนำกลับไปคิดต่อ และค้นคว้าต่อ ถ้าไม่ถามก็ต้องหาศึกษาเองครับ แต่ถ้าถามก็ได้คำตอบจะทำให้เดินทางได้เร็วขึ้นครับ
-------------------------------------------------------------------------------------
ผมเปิดเรื่องGrowth ทำลายมูลค่านี้ก็เพื่อเตือนให้เพื่อนๆฉุกคิดถึงการลงทุนในบริษัทที่เห็นว่าGrowthสูงมากๆ จนทำให้PEGดูดีมากๆ ให้ระวังไว้นะครับ ผมจำได้ว่าผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้เอาไว้ใน Investor Guideเมื่อนานมาแล้วเรื่องEarning Growth and Value Creation ไม่รู้ว่าได้เคยอ่านกันหรือยัง ถ้ายังลองแวะเข้าไปหน่อยนะครับแล้วเราจะคุยกันอย่างเห็นภาพ และกว้างขึ้น http://www.thaivalueinvestor.com/investorguide8.html
-------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เราจะคุยกันเรื่อง Discount Cash Flow กันต่อไหมครับ งานนี้ผมว่าคุณฉัตรชัยคงช่วยได้มากในเรื่อง Case Studyนะครับ ลองยกมาสักตัวอย่างหนึ่งสิครับ
-------------------------------------------------------------------------------------
กระทู้นี้อ่านแล้วจะไม่งงเลยหากนำกลับไปคิดต่อ และค้นคว้าต่อ ถ้าไม่ถามก็ต้องหาศึกษาเองครับ แต่ถ้าถามก็ได้คำตอบจะทำให้เดินทางได้เร็วขึ้นครับ
-------------------------------------------------------------------------------------
ผมเปิดเรื่องGrowth ทำลายมูลค่านี้ก็เพื่อเตือนให้เพื่อนๆฉุกคิดถึงการลงทุนในบริษัทที่เห็นว่าGrowthสูงมากๆ จนทำให้PEGดูดีมากๆ ให้ระวังไว้นะครับ ผมจำได้ว่าผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้เอาไว้ใน Investor Guideเมื่อนานมาแล้วเรื่องEarning Growth and Value Creation ไม่รู้ว่าได้เคยอ่านกันหรือยัง ถ้ายังลองแวะเข้าไปหน่อยนะครับแล้วเราจะคุยกันอย่างเห็นภาพ และกว้างขึ้น http://www.thaivalueinvestor.com/investorguide8.html
-------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เราจะคุยกันเรื่อง Discount Cash Flow กันต่อไหมครับ งานนี้ผมว่าคุณฉัตรชัยคงช่วยได้มากในเรื่อง Case Studyนะครับ ลองยกมาสักตัวอย่างหนึ่งสิครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 365
จริงๆแล้วการทำ case study ทำตรงนี้ก็ได้เลย ยกตัวอย่าง APRINT ก็ได้ งบการเงิน ก็งบเดียวกัน
คุณมนลอง เอางบ APRINT แล้วมาหา FCF กันเลยดีมั๊ยครับ
ว่าเราจะเข้าใจตรงกันหรือเปล่า
ทุกคนที่อ่านอยู่ใครอยากทำ FCF ก็โหลดงบ APRINT แล้วทำกันเลยนะครับ
แล้วมาเฉลยกัน
EBITDA - working cap - fix cap - tax = free cash flow
ใช่มั๊ยคุณมน งั้นลุยเลยดีกว่า
ถ้าเราหา FCF สำเร็จ เราก็ค่อยทำขั้นตอนต่อไปดีมั๊ย เช่น DCF
คุณมนลอง เอางบ APRINT แล้วมาหา FCF กันเลยดีมั๊ยครับ
ว่าเราจะเข้าใจตรงกันหรือเปล่า
ทุกคนที่อ่านอยู่ใครอยากทำ FCF ก็โหลดงบ APRINT แล้วทำกันเลยนะครับ
แล้วมาเฉลยกัน
EBITDA - working cap - fix cap - tax = free cash flow
ใช่มั๊ยคุณมน งั้นลุยเลยดีกว่า
ถ้าเราหา FCF สำเร็จ เราก็ค่อยทำขั้นตอนต่อไปดีมั๊ย เช่น DCF
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 366
ผมขอแก้ข่าวให้ GRAMMY หน่อยนะครับ (ผมไม่มีหุ้นนะครับ) เรื่องธุรกิจบะหมี่สำเร็จรูปที่น้อง VIB007 พูดถึงนะ ที่จริงแล้วอากู๋แกเอาเงินส่วนตัวลงทุนครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัท
ส่วนเรื่องที่ Growth แล้วทำให้บริษัทมีมูลค่าลดลงนั้น อย่างที่เพื่อนๆ บอกนะครับ แต่ผมอยากบอกว่า บางกรณธุรกิจใหม่ก็ไม่ได้เลวร้ายมาก ไม่ถึงกับขาดทุน แต่ก็อาจจะทำให้มูลค่าบริษัทลดลงก็ได้นะครับ
ถ้าเดิมบริษัทนั้นทำธุรกิจที่มี ROE และ ROA สูง มี DCA ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่ดันมาขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและต่อเนื่อง อีกทั้ง ROE และ ROA ก็ต่ำกว่าธุรกิจเดิม
ผมว่าถึงแม้ธุรกิจใหม่จะไม่ถึงกับขาดทุน แต่มูลค่ากิจการคงจะลดลงแน่ครับ เพราะต่อไปธุรกิจเดิมหาเงินได้เท่าไร แทนที่จะส่งกลับคืนให้ผู้ถือหุ้น ต้องกลับนำไปอุดหนุนธุรกิจใหม่ โดยที่ผลตอบแทนไม่ค่อยคุ้มค่า
ผู้บริหารบางแห่งอาจจะคิดว่า ธุรกิจเดิมอาจจะไม่มีตึกสำนักงานสูงๆ ไม่มีโรงงานผลิตใหญ่โต มีพนักงานไม่มาก ยอดขายเดิมอาจจะน้อย ก็เลยอยากขยายไปยังธูรกิจใหม่ที่ดูใหญ่โต เพื่อเพิ่มบารมีและผลตอบแทนให้แก่ตนเองครับ
ส่วนเรื่องที่ Growth แล้วทำให้บริษัทมีมูลค่าลดลงนั้น อย่างที่เพื่อนๆ บอกนะครับ แต่ผมอยากบอกว่า บางกรณธุรกิจใหม่ก็ไม่ได้เลวร้ายมาก ไม่ถึงกับขาดทุน แต่ก็อาจจะทำให้มูลค่าบริษัทลดลงก็ได้นะครับ
ถ้าเดิมบริษัทนั้นทำธุรกิจที่มี ROE และ ROA สูง มี DCA ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่ดันมาขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและต่อเนื่อง อีกทั้ง ROE และ ROA ก็ต่ำกว่าธุรกิจเดิม
ผมว่าถึงแม้ธุรกิจใหม่จะไม่ถึงกับขาดทุน แต่มูลค่ากิจการคงจะลดลงแน่ครับ เพราะต่อไปธุรกิจเดิมหาเงินได้เท่าไร แทนที่จะส่งกลับคืนให้ผู้ถือหุ้น ต้องกลับนำไปอุดหนุนธุรกิจใหม่ โดยที่ผลตอบแทนไม่ค่อยคุ้มค่า
ผู้บริหารบางแห่งอาจจะคิดว่า ธุรกิจเดิมอาจจะไม่มีตึกสำนักงานสูงๆ ไม่มีโรงงานผลิตใหญ่โต มีพนักงานไม่มาก ยอดขายเดิมอาจจะน้อย ก็เลยอยากขยายไปยังธูรกิจใหม่ที่ดูใหญ่โต เพื่อเพิ่มบารมีและผลตอบแทนให้แก่ตนเองครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 368
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ตัวอย่างดีๆแก่น้องๆครับ
โดยเฉพาะพี่ปรัชญา
ที่ทำให้เห็นภาพธุรกิจเด็ดๆ
หลอกลวงเอาเงินในกระเป๋าชาวบ้าน
เข้ากระเป๋าตัวเอง
ถ้าพึ่งทางการไม่ได้
VI ก็ต้องช่วยตัวเองละครับ
ด้วยการไม่สนับสนุนของ (หุ้น) โจรครับ
ถ้าพี่ปรัชญาคิดออกอีกเมื่อไหร่
ช่วยบอกน้องๆด้วยนะครับ
ถือว่าทำบุญแล้วกันครับ
ขอนอกเรื่องนึดนึง
วันนี้พอดีไปบ้านพ่อตาแม่ยายมา
เห็นรถกระบะ Isuzu D-Max
4 ประตู ขับเคลื่อนสองล้อ
ป้ายแดง ใหม่เอี่ยม จอดอยู่หน้าบ้าน
ผมเลยถามว่าของใคร
แม่ยายบอกว่าของที่บ้านพึ่งซื้อมาใหม่
เอาไว้ขนของ
ผมเลยขอลองขับดู
ขอบอกว่า เยี่ยมเลยครับ
การทรงตัวดี ช่วงล่างไม่กระเทือน
ภายในดูดี ที่นั่งหลังกว้าง
แถมแอร์เย็น เสียงเงียบอีกต่างหาก
ผมลองวิ่งดู ดีกว่ารถเก๋งญี่ปุ่นขนาดกลางที่ผมใช้อยู่อีกครับ
วิ่งผ่านถนนลูกรังนี่ กระเทือนน้อยกว่าเจ้าซีวิคของผมอีก
แม่ยายยังบอกอีกว่า
ประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ที่เล่ามานี่เพราะคิดถึงพี่ปรัชญา
ที่พี่บอกว่าใช้แต่รถกระบะ
ให้คนหัวเราะเยาะเล่น
ผมก็อยากจะบอกว่า
คราวหน้าถ้าเปลี่ยนรถ
ผมคงซื้อกระบะมาใช้เหมือนกันครับ
(แต่ผมไม่ได้ค่าโฆษณาจาก Isuzu นะครับ
อย่าเข้าใจผิด)
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า
คุณธันวา คุณมนไม่ต้องห่วงเรื่องผมจะแขวนนวมครับ
ตราบใดที่ผมยังไม่ถูกน๊อค (หมดภูมิ)
ก็จะตอบไปเรื่อยๆครับ
ส่วนเรื่อง Workshop นี่
ผมขอเป็นมือปืนแล้วกันครับ
ถ้าให้ช่วยอะไรก็บอกได้ครับ
ขอบคุณพี่Chatchaiครับที่ช่วยแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง
ผมก็ลักจำเขามา
ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ
ที่พี่Chatchai พูดเรื่องGrowth ทำลายมูลค่า
ด้วยการไปลงทุนในธุรกิจที่มีผลตอบแทนของเงินลงทุนต่ำกว่าเดิม
ผมเห็นด้วย 1,000% ครับ
ดังนั้นหน้าที่อีกอย่างของ VI ก็คือ
การตรวจสอบการตัดสินใจของผู้บริหารบริษัท
ในการดำเนินธุรกิจว่าการขยายกิจการของบริษัท
จะเพิ่มมูลค่าของกิจการได้จริงหรือไม่
และ
อย่าหลงเชื่อผู้บริหารที่คิดขยายกิจการ
อย่างไม่ลืมหูลืมตา
เพราะบางครั้ง Growth ก็ทำลายมูลค่าได้อย่างมากเหมือนกัน
การขยายกิจการด้วยการเทคโอเวอร์หรือลงทุนใหม่
ในกิจการที่ไม่เกี่ยวกับ Core Business ของบริษัท
แล้วก็ทำให้บริษัทแม่แย่ลง
คุณน้า Peter Lynch ของผม
แกเรียกขบวนการนี้ว่า "Diworsification" ครับ
แสบดี จริงๆ
ส่วนเรื่อง FCF และ DCF
ผมขอยกหน้าที่ดีเจ..... เอ๊ย ไม่ใช่
หน้าที่ตอบคำถามในกระทู้นี้เกี่ยวกับ FCF และ DCF
ให้กับพี่ Chatchai แล้วกันครับ
เพราะพี่เขาเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องนี้
ผมฝากพี่Chatchai ด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
โดยเฉพาะพี่ปรัชญา
ที่ทำให้เห็นภาพธุรกิจเด็ดๆ
หลอกลวงเอาเงินในกระเป๋าชาวบ้าน
เข้ากระเป๋าตัวเอง
ถ้าพึ่งทางการไม่ได้
VI ก็ต้องช่วยตัวเองละครับ
ด้วยการไม่สนับสนุนของ (หุ้น) โจรครับ
ถ้าพี่ปรัชญาคิดออกอีกเมื่อไหร่
ช่วยบอกน้องๆด้วยนะครับ
ถือว่าทำบุญแล้วกันครับ
ขอนอกเรื่องนึดนึง
วันนี้พอดีไปบ้านพ่อตาแม่ยายมา
เห็นรถกระบะ Isuzu D-Max
4 ประตู ขับเคลื่อนสองล้อ
ป้ายแดง ใหม่เอี่ยม จอดอยู่หน้าบ้าน
ผมเลยถามว่าของใคร
แม่ยายบอกว่าของที่บ้านพึ่งซื้อมาใหม่
เอาไว้ขนของ
ผมเลยขอลองขับดู
ขอบอกว่า เยี่ยมเลยครับ
การทรงตัวดี ช่วงล่างไม่กระเทือน
ภายในดูดี ที่นั่งหลังกว้าง
แถมแอร์เย็น เสียงเงียบอีกต่างหาก
ผมลองวิ่งดู ดีกว่ารถเก๋งญี่ปุ่นขนาดกลางที่ผมใช้อยู่อีกครับ
วิ่งผ่านถนนลูกรังนี่ กระเทือนน้อยกว่าเจ้าซีวิคของผมอีก
แม่ยายยังบอกอีกว่า
ประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ที่เล่ามานี่เพราะคิดถึงพี่ปรัชญา
ที่พี่บอกว่าใช้แต่รถกระบะ
ให้คนหัวเราะเยาะเล่น
ผมก็อยากจะบอกว่า
คราวหน้าถ้าเปลี่ยนรถ
ผมคงซื้อกระบะมาใช้เหมือนกันครับ
(แต่ผมไม่ได้ค่าโฆษณาจาก Isuzu นะครับ
อย่าเข้าใจผิด)
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า
คุณธันวา คุณมนไม่ต้องห่วงเรื่องผมจะแขวนนวมครับ
ตราบใดที่ผมยังไม่ถูกน๊อค (หมดภูมิ)
ก็จะตอบไปเรื่อยๆครับ
ส่วนเรื่อง Workshop นี่
ผมขอเป็นมือปืนแล้วกันครับ
ถ้าให้ช่วยอะไรก็บอกได้ครับ
ขอบคุณพี่Chatchaiครับที่ช่วยแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง
ผมก็ลักจำเขามา
ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ
ที่พี่Chatchai พูดเรื่องGrowth ทำลายมูลค่า
ด้วยการไปลงทุนในธุรกิจที่มีผลตอบแทนของเงินลงทุนต่ำกว่าเดิม
ผมเห็นด้วย 1,000% ครับ
ดังนั้นหน้าที่อีกอย่างของ VI ก็คือ
การตรวจสอบการตัดสินใจของผู้บริหารบริษัท
ในการดำเนินธุรกิจว่าการขยายกิจการของบริษัท
จะเพิ่มมูลค่าของกิจการได้จริงหรือไม่
และ
อย่าหลงเชื่อผู้บริหารที่คิดขยายกิจการ
อย่างไม่ลืมหูลืมตา
เพราะบางครั้ง Growth ก็ทำลายมูลค่าได้อย่างมากเหมือนกัน
การขยายกิจการด้วยการเทคโอเวอร์หรือลงทุนใหม่
ในกิจการที่ไม่เกี่ยวกับ Core Business ของบริษัท
แล้วก็ทำให้บริษัทแม่แย่ลง
คุณน้า Peter Lynch ของผม
แกเรียกขบวนการนี้ว่า "Diworsification" ครับ
แสบดี จริงๆ
ส่วนเรื่อง FCF และ DCF
ผมขอยกหน้าที่ดีเจ..... เอ๊ย ไม่ใช่
หน้าที่ตอบคำถามในกระทู้นี้เกี่ยวกับ FCF และ DCF
ให้กับพี่ Chatchai แล้วกันครับ
เพราะพี่เขาเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องนี้
ผมฝากพี่Chatchai ด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 369
พี่Chatchaiครับ
ผมขอถามเรื่องการคำนวณกระแสเงินสดอิสระกับพี่
เป็นการประเดิมแล้วกันครับ
คือ
แทนที่ผมจะตั้งต้นจากบัญชีกำไรขาดทุน
แล้วเพิ่มลดค่าเสื่อมราคา
เงินลงทุนและส่วนต่างเงินทุนหมุนเวียน
ตามสูตร
FCF=Net Income+Depreciation-Capital Employed-Working Capital
ถ้าผมตั้งต้นจากงบกระแสเงินสด
โดยใช้
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cashflow)
ลบด้วย
เงินลงทุนจาก Investing Cashflow เลย
ตามสูตร
FCF=Opearting Cashflow-Capital Employed
จะได้หรือเปล่าครับ
ผมขอถามเรื่องการคำนวณกระแสเงินสดอิสระกับพี่
เป็นการประเดิมแล้วกันครับ
คือ
แทนที่ผมจะตั้งต้นจากบัญชีกำไรขาดทุน
แล้วเพิ่มลดค่าเสื่อมราคา
เงินลงทุนและส่วนต่างเงินทุนหมุนเวียน
ตามสูตร
FCF=Net Income+Depreciation-Capital Employed-Working Capital
ถ้าผมตั้งต้นจากงบกระแสเงินสด
โดยใช้
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cashflow)
ลบด้วย
เงินลงทุนจาก Investing Cashflow เลย
ตามสูตร
FCF=Opearting Cashflow-Capital Employed
จะได้หรือเปล่าครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 370
รถกะบะISUZU D-Max 4ประตูนี่ผมซื้อให้ภรรยาใช้ขับไปทำงานมานานหลายเดือนแล้วครับ ที่จริงคุณเธอต้องการได้ Accordใหม่ราคา1.4ล้านแนะ มาบอกผม ทำเอาสำรักข้าวขึ้นจมูกเลย ผมก็ยอมตามใจภรรยาครับ ไปดูรถกับเขาที่showroom Honda ดูเสร็จก็บอกให้คิดก่อน แล้วก็พามาดู ISUZU ได้ลองขับดู นิ่มนวลใช้ได้ ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษามาก ที่สำคัญเกียร์ออโตครับ ขับสบายคันใหญ่ เธอขับไปทางไหนมีแต่คนหลบก็เลยชอบใจ ผมเลยสบโอกาสจองเลยกันเปลี่ยนใจ ทุกวันนี้เลยใช้คันนี้อยู่ครับ ซึ่งก็เป็นการคิดถูกประหยัดค่าโก้ไปได้โขเลย ส่วนผมขับอีแก่คันเดิมที่ค่อนข้างเกเรสักหน่อย แต่ก็ยังรักมันอยู่ครับ ทำไงได้เราเป็นคนจนรุ่นใหม่นี่ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง FCFผมขอให้คุณฉัตรชัยแสดงบ้างครับ เอา APRINT หรือ WGก็ได้นะครับ ห้ามพลิ้วเด้อ คุณฉัตรชัย
--------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง FCFผมขอให้คุณฉัตรชัยแสดงบ้างครับ เอา APRINT หรือ WGก็ได้นะครับ ห้ามพลิ้วเด้อ คุณฉัตรชัย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 371
คุณมน
ยินดีด้วยนะครับ
ที่ ผบ.ทบ. อนุมัติให้ซื้อรถกระบะ
ส่วน ผบ.ทบ.ของผมเมื่อวานนี้
เธอบอกว่ารถกระบะก็ดีเหมือนกัน
นั่งสบายกว่าฮอนด้าที่ใช้อยู่ซะอีก
เสียดายที่ไม่ได้เปลี่ยนรถตอนนี้
ไม่งั้นผมวางเงินจอง D-max แน่นอน
กลัวเธอเปลี่ยนใจนะครับ
แต่เอ....พี่Chatchai หายไปไหนเนี่ยวันนี้
กำลังรอคำตอบข้างบนอยู่นะครับ พี่Chatchai
เอาล่ะ ไหนๆยังไม่ตอบก็ถามอีกคำถามแล้วกัน
ถามว่า
ในกรณีที่บริษัทมีบริษัทลูกที่บริษัทแม่ถือหุ้นอยู่
กระแสเงินสดของบริษัทลูกจะมีผลอย่างไรกับบริษัทแม่ครับ
และการอ่านงบการเงินรวม (Consolidated Cashflow Statement)
จะมีข้อจำกัดอะไรหรือเปล่าครับ
ไม่ได้ถามลองภูมินะครับ
ผมอยากรู้จริงๆ
ถ้าว่าง รบกวนพี่Chatchai ด้วยนะครับ
ยินดีด้วยนะครับ
ที่ ผบ.ทบ. อนุมัติให้ซื้อรถกระบะ
ส่วน ผบ.ทบ.ของผมเมื่อวานนี้
เธอบอกว่ารถกระบะก็ดีเหมือนกัน
นั่งสบายกว่าฮอนด้าที่ใช้อยู่ซะอีก
เสียดายที่ไม่ได้เปลี่ยนรถตอนนี้
ไม่งั้นผมวางเงินจอง D-max แน่นอน
กลัวเธอเปลี่ยนใจนะครับ
แต่เอ....พี่Chatchai หายไปไหนเนี่ยวันนี้
กำลังรอคำตอบข้างบนอยู่นะครับ พี่Chatchai
เอาล่ะ ไหนๆยังไม่ตอบก็ถามอีกคำถามแล้วกัน
ถามว่า
ในกรณีที่บริษัทมีบริษัทลูกที่บริษัทแม่ถือหุ้นอยู่
กระแสเงินสดของบริษัทลูกจะมีผลอย่างไรกับบริษัทแม่ครับ
และการอ่านงบการเงินรวม (Consolidated Cashflow Statement)
จะมีข้อจำกัดอะไรหรือเปล่าครับ
ไม่ได้ถามลองภูมินะครับ
ผมอยากรู้จริงๆ
ถ้าว่าง รบกวนพี่Chatchai ด้วยนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 372
พอดีวันนี้ ลูกพี่ปิดเทอมนะครับ เลยพาไปเที่ยวดูสัตว์ที่ซาฟารีนะครับ
พี่ขอตอบข้อแรกเลยนะครับ อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ครับ
ในหลักการคำนวณของพี่นั้น พี่จะคำนวณหาค่า FCF ที่มาจากการดำเนินงานปกติครับ โดยพี่จะหักรายการพิเศษต่างๆทิ้งครับ
ที่น้อง VIB007 บอกสูตรการคำนวณ
FCF = Net Income + Depre. - Cap Exp. - Working Cap. นั้น
พี่ว่าการใช้สูตรนี้ก็มีข้อบ่งพร่องในส่วนของ Net Income
เพราะจะมีรายได้และรายจ่ายบางรายการที่ไม่ใช่เงินสดรวมอยู่ใน Net Income ด้วย
เช่น รายการสำรองหนี้สงสัยจะสูญ รายการสำรองสินค้าเสื่อมคุณภาพ รายได้ค่าเช่าตัดจ่าย เป็นต้น
ถ้าเราไม่บวกกลับ หรือลบออก FCF ที่เราคำนวณได้ก็จะไม่ถูกต้อง
ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ Working Cap. ครับ การที่เราใช้ข้อมูลจากปีใดปีหนึ่ง อาจจะไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานปกตินะครับ
เช่น ถ้าในอดีตบริษัทมี Inventory Turnover สูงมาก แต่มีการปรับปรุงการเก็บสินค้าดีขึ้นในปีนี้ ทำให้บริษัทมีสินค้าคงคลังลดลงเยอะมาก
ซึ่งการลดลงของสินค้าคงคลังนี้คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นทุกปี ดังนั้นถ้าเรานำตัวเลขนี้มาคำนวณ ก็คงไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานปกติ
ส่วนสูตรหลัง FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp. นั้น
ถึงแม้จะแก้ไขในจุด Net Income แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง Working Cap. ซึ่งแฝงอยู่ใน Operating Cashflow แล้วครับ
ส่วนข้อสอง เกี่ยวกับงบการเงินรวมนั้น กระแสเงินสดของลูกก็คงไม่ส่งผลต่อเงินสดของแม่มากนัก จนกว่าลูกจะปันผลมาให้แม่ครับ แต่เพียงอาจจะบอกได้ว่าลูกคงไม่เป็นภาระแก่แม่ในเรื่องเงินสด
ส่วนการอ่านงบการเงินรวมเพียงอย่างเดียว โดยไม่อ่านงบเดี่ยวนั้น เพื่อนๆลองไม่อ่านงบ TONHUA ดูซิครับ จะเห็นข้อผิดพลาดจากการอ่านงบรวมเพียงงบเดียวได้ชัดเจนครับ
พี่ขอตอบข้อแรกเลยนะครับ อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ครับ
ในหลักการคำนวณของพี่นั้น พี่จะคำนวณหาค่า FCF ที่มาจากการดำเนินงานปกติครับ โดยพี่จะหักรายการพิเศษต่างๆทิ้งครับ
ที่น้อง VIB007 บอกสูตรการคำนวณ
FCF = Net Income + Depre. - Cap Exp. - Working Cap. นั้น
พี่ว่าการใช้สูตรนี้ก็มีข้อบ่งพร่องในส่วนของ Net Income
เพราะจะมีรายได้และรายจ่ายบางรายการที่ไม่ใช่เงินสดรวมอยู่ใน Net Income ด้วย
เช่น รายการสำรองหนี้สงสัยจะสูญ รายการสำรองสินค้าเสื่อมคุณภาพ รายได้ค่าเช่าตัดจ่าย เป็นต้น
ถ้าเราไม่บวกกลับ หรือลบออก FCF ที่เราคำนวณได้ก็จะไม่ถูกต้อง
ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ Working Cap. ครับ การที่เราใช้ข้อมูลจากปีใดปีหนึ่ง อาจจะไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานปกตินะครับ
เช่น ถ้าในอดีตบริษัทมี Inventory Turnover สูงมาก แต่มีการปรับปรุงการเก็บสินค้าดีขึ้นในปีนี้ ทำให้บริษัทมีสินค้าคงคลังลดลงเยอะมาก
ซึ่งการลดลงของสินค้าคงคลังนี้คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นทุกปี ดังนั้นถ้าเรานำตัวเลขนี้มาคำนวณ ก็คงไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานปกติ
ส่วนสูตรหลัง FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp. นั้น
ถึงแม้จะแก้ไขในจุด Net Income แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง Working Cap. ซึ่งแฝงอยู่ใน Operating Cashflow แล้วครับ
ส่วนข้อสอง เกี่ยวกับงบการเงินรวมนั้น กระแสเงินสดของลูกก็คงไม่ส่งผลต่อเงินสดของแม่มากนัก จนกว่าลูกจะปันผลมาให้แม่ครับ แต่เพียงอาจจะบอกได้ว่าลูกคงไม่เป็นภาระแก่แม่ในเรื่องเงินสด
ส่วนการอ่านงบการเงินรวมเพียงอย่างเดียว โดยไม่อ่านงบเดี่ยวนั้น เพื่อนๆลองไม่อ่านงบ TONHUA ดูซิครับ จะเห็นข้อผิดพลาดจากการอ่านงบรวมเพียงงบเดียวได้ชัดเจนครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 374
ขอบคุณพี่Chathcaiมากครับ
นานๆจะมีเอ็กเปิร์ทมาให้ถามสักที
ต้องถามเยอะๆ
เรื่องลงทุนนี่หาผู้เชี่วชาญตอบยากมาก
ส่วนใหญ่ผมต้องงมโข่งหาเอาเอง
บอกตามตรงว่า
ผมจะถนัด Income Statement กับ Balance Sheet
มากกว่า Cashflow Statement
แต่ก่อนผมจะลงทุนตาม
Income Statement และ Balance Sheet มากกว่า
แต่ตอนนี้พบว่า Cashflow Statement
ก็มีความสำคัญมาก (บางทีอาจจะมากกว่าในบางกรณี)
ยังไม่เชี่ยวเท่าพี่เขาครับ
ต้องรบกวนพี่Chathcaiตอบเรื่องนี้ต่อนะครับ
ตอบคำถามผมก่อนตอบของคุณมนก็ได้ครับ
ฮิ ฮิ
ถ้าไม่มีใครถาม
ผมขอถามพี่Chathcai ต่อแล้วกันครับว่า
ในกรณีที่เราใช้สูตรที่สอง
FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp.
เราจะมีวิธีการในการดูสังเกตุและปรับ
Working Capital ให้ถูกต้องอย่างไรครับ
คำถามที่สอง
สูตรข้างบนมีข้อจำกัดอะไรอย่างอื่นนอกจาก
เรื่อง Working Capital อีกหรือเปล่าครับ
คำถามที่สาม
ในการใช้ FCF วิเคราะห์การลงทุนเลือกธุรกิจลงทุน
ผมเห็นพี่เคยแสดงให้พี่เจ๋งดูทีนึง
ในกระทู้อะไรผมจำไม่ได้ เปรียบเทียบ WG กับ PTTEP
อยากให้พี่ช่วยแสดงวิธีการในกระทู้นี้อีกสักรอบครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมจะคิดคำถามต่อคืนนี้
ท่านอื่นๆมีคำถามเกี่ยวกับ FCF
เชิญถามเลยนะครับ
เรามี Expert อยู่ที่นี่แล้ว
(พี่Chathcai นะครับ ไม่ใช่ผม)
และยินดีที่จะตอบโดยไม่หวงวิชาเลย
ผมยังไม่อยากผ่านหัวข้อนี้ไปนะ คุณมน
ผมอยากรู้เรื่อง FCF ให้มากกว่านี้(ยังโง่อยู่)
ไม่ว่ากันนะ
นานๆจะมีเอ็กเปิร์ทมาให้ถามสักที
ต้องถามเยอะๆ
เรื่องลงทุนนี่หาผู้เชี่วชาญตอบยากมาก
ส่วนใหญ่ผมต้องงมโข่งหาเอาเอง
บอกตามตรงว่า
ผมจะถนัด Income Statement กับ Balance Sheet
มากกว่า Cashflow Statement
แต่ก่อนผมจะลงทุนตาม
Income Statement และ Balance Sheet มากกว่า
แต่ตอนนี้พบว่า Cashflow Statement
ก็มีความสำคัญมาก (บางทีอาจจะมากกว่าในบางกรณี)
ยังไม่เชี่ยวเท่าพี่เขาครับ
ต้องรบกวนพี่Chathcaiตอบเรื่องนี้ต่อนะครับ
ตอบคำถามผมก่อนตอบของคุณมนก็ได้ครับ
ฮิ ฮิ
ถ้าไม่มีใครถาม
ผมขอถามพี่Chathcai ต่อแล้วกันครับว่า
ในกรณีที่เราใช้สูตรที่สอง
FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp.
เราจะมีวิธีการในการดูสังเกตุและปรับ
Working Capital ให้ถูกต้องอย่างไรครับ
คำถามที่สอง
สูตรข้างบนมีข้อจำกัดอะไรอย่างอื่นนอกจาก
เรื่อง Working Capital อีกหรือเปล่าครับ
คำถามที่สาม
ในการใช้ FCF วิเคราะห์การลงทุนเลือกธุรกิจลงทุน
ผมเห็นพี่เคยแสดงให้พี่เจ๋งดูทีนึง
ในกระทู้อะไรผมจำไม่ได้ เปรียบเทียบ WG กับ PTTEP
อยากให้พี่ช่วยแสดงวิธีการในกระทู้นี้อีกสักรอบครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมจะคิดคำถามต่อคืนนี้
ท่านอื่นๆมีคำถามเกี่ยวกับ FCF
เชิญถามเลยนะครับ
เรามี Expert อยู่ที่นี่แล้ว
(พี่Chathcai นะครับ ไม่ใช่ผม)
และยินดีที่จะตอบโดยไม่หวงวิชาเลย
ผมยังไม่อยากผ่านหัวข้อนี้ไปนะ คุณมน
ผมอยากรู้เรื่อง FCF ให้มากกว่านี้(ยังโง่อยู่)
ไม่ว่ากันนะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 375
ผมนึกคำถามออกอีกแล้วครับพี่Chatchai
ผมไปเจอการคำนวณ FCF อันนึง
ตามสูตรข้างล่างครับ
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed-Dividend
เขาเอาเงินปันผลมาหักออกด้วย
เลยอยากรู้ว่า
สูตรแบบนี้นำมาใช้ในการเลือกธุรกิจลงทุน
จะดีกว่าแบบ
FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp.
หรือเปล่า
ขอความรู้ความคิดเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ผมไปเจอการคำนวณ FCF อันนึง
ตามสูตรข้างล่างครับ
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed-Dividend
เขาเอาเงินปันผลมาหักออกด้วย
เลยอยากรู้ว่า
สูตรแบบนี้นำมาใช้ในการเลือกธุรกิจลงทุน
จะดีกว่าแบบ
FCF = Operating Cashflow - Cap. Exp.
หรือเปล่า
ขอความรู้ความคิดเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 376
ผมนึกคำถามออกอีกแล้วครับ พี่Chatchai
ที่พี่บอกว่า
ผมถามไปห้าคำถามนะครับ ค่อยๆตั้งสติตอบก็ได้ครับ
ไว้นึกออกแล้วจะถามอีกครับ
ที่พี่บอกว่า
เจ้ารายการพิเศษที่ต้องหักทิ้งมีอะไรบ้างครับchatchai เขียน: ในหลักการคำนวณของพี่นั้น พี่จะคำนวณหาค่า FCF ที่มาจากการดำเนินงานปกติครับ โดยพี่จะหักรายการพิเศษต่างๆทิ้งครับ
ผมถามไปห้าคำถามนะครับ ค่อยๆตั้งสติตอบก็ได้ครับ
ไว้นึกออกแล้วจะถามอีกครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 378
น้อง VIB007 ถามจนพี่ตั้งตัวไม่ทันเลย พี่กลัวว่าคนอื่นจะอ่านแล้วไม่เข้าใจ
พี่เลยจะสรุปการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากงบกระแสเงินสดแล้วกันนะครับ ตามประสบการณ์ของพี่ละกัน อาจจะมีผิดถูกบ้าง ใครรู้ก็ช่วยแก้ไขด้วยละกันครับ
ส่วนใหญ่ผมจะใช้งบกระแสเงินสดวิเคราะห์ 2 ด้านครับ คือ
1. ดูผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท
2. ใช้ประมาณการ FCF เพื่อหามูลค่ากิจการจากวิธี DCF ครับ
เริ่มจากข้อแรกก่อนเลยนะ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีรายจ่ายบางประเภทที่ผมเรียกว่าเป็นรายจ่ายตามนโยบายละกัน
คือส่วนใหญ่จะเป็นรายการตั้งสำรองต่างๆ ซึ่งจะไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว แล้วแต่นโยบายของบริษัท
ซึ่งรายการตั้งสำรองเหล่านี้ มักจะไม่ใช่รายจ่ายที่เป็นเงินสด และไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานในงวดการเงินนั้นๆ
ในงบกำไรขาดทุนก็ไม่มีการแยกรายจ่ายเหล่านี้ให้เห็นชัดเจนด้วย
ดังนั้นถ้าเราจะนำผลการดำเนินงานจากงบกำไรขาดทุนไปวิเคราะห์ก็จะไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานที่แท้จริง
แต่ในงบกระแสเงินสด เราสามารถรู้ตัวเลขรายจ่ายต่างๆเหล่านี้ได้ชัดเจน ซึ่งถ้าเรานำไปบวกกลับ หรือลบออก เราก็จะได้ผลการดำเนินงานที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่แท้จริงครับ
ข้อสองไว้มาตอบใหม่นะครับ
ว่าแต่ว่ามีใครดูงบการเงินรวมและงบเดี่ยวของ TONHUA แล้วหรือยังครับ
post มาเล่าให้ฟังบ้างครับ
พี่เลยจะสรุปการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากงบกระแสเงินสดแล้วกันนะครับ ตามประสบการณ์ของพี่ละกัน อาจจะมีผิดถูกบ้าง ใครรู้ก็ช่วยแก้ไขด้วยละกันครับ
ส่วนใหญ่ผมจะใช้งบกระแสเงินสดวิเคราะห์ 2 ด้านครับ คือ
1. ดูผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท
2. ใช้ประมาณการ FCF เพื่อหามูลค่ากิจการจากวิธี DCF ครับ
เริ่มจากข้อแรกก่อนเลยนะ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีรายจ่ายบางประเภทที่ผมเรียกว่าเป็นรายจ่ายตามนโยบายละกัน
คือส่วนใหญ่จะเป็นรายการตั้งสำรองต่างๆ ซึ่งจะไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว แล้วแต่นโยบายของบริษัท
ซึ่งรายการตั้งสำรองเหล่านี้ มักจะไม่ใช่รายจ่ายที่เป็นเงินสด และไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานในงวดการเงินนั้นๆ
ในงบกำไรขาดทุนก็ไม่มีการแยกรายจ่ายเหล่านี้ให้เห็นชัดเจนด้วย
ดังนั้นถ้าเราจะนำผลการดำเนินงานจากงบกำไรขาดทุนไปวิเคราะห์ก็จะไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานที่แท้จริง
แต่ในงบกระแสเงินสด เราสามารถรู้ตัวเลขรายจ่ายต่างๆเหล่านี้ได้ชัดเจน ซึ่งถ้าเรานำไปบวกกลับ หรือลบออก เราก็จะได้ผลการดำเนินงานที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่แท้จริงครับ
ข้อสองไว้มาตอบใหม่นะครับ
ว่าแต่ว่ามีใครดูงบการเงินรวมและงบเดี่ยวของ TONHUA แล้วหรือยังครับ
post มาเล่าให้ฟังบ้างครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 379
VIB007 เขียน:พี่เจ๋งครับ
ฝันของพี่ใกล้ป็นจริงแล้วครับ
พี่ว่า กระทู้นี้จะมีคนอ่านเกิน 10,000 ครั้งหรือเปล่า
ผมว่าน่าจะเกินนะ ต่อสิบหนึ่ง
ฮิ ฮิ

ผมเห็นรอยเนทไปแล้ว
ก็อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ
เจอะ....ข่าวหนึ่งก็คิดถึง........พี่วิบูลย์
ขอฟังคำชี้แนะและวิเคราะห์หน่อยครับ
คือหุ้น ...บ้านไร่กาแฟ
กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์
ที่ขอนแก่นและที่ต่่างเขาจะเช่าพื้นที่ปั๊มเจ็ท(สถานีน้ำมัน)
ปกติผมไม่ทานกาแฟ เลยอดไม่ได้ที่จะเข้าไปทุกครั้งที่ผ่าน
ทุกจังหวัด เห็นเขาขายกาแฟแถมโอ่งดินเผา
ราคาก็มหาแพง กินก๋วยเตี๋ยวได้2ชาม ต่อกาแฟหนึ่งแก้ว
ที่ขอนแก่น วันหนึ่งคงขายไม่ได้10แก้ว เปิดเพลง
ปั๊มน้ำให้ไหลรินตามกระจกมาดูแปลก คือมันสถานที่คับแคบ
ถ้าหุ้นเข้าตลาด เขาจะนับทรัพย์สิน อย่างไร หักค่าเช่าทั่วประเทศ
คงจะติดหนี้สินไว้เยอะ ถึงวาดฝันมาเอาเงินจากนักเล่นหุ้นเก็งกำไร
ผมมองดูว่าขายได้น้อยไม่พอค่าคนงานและค่าเช่านา
ยาก และกลุ่มคนทานน้อยกว่ารถไอศครีมเลย
เพราะไอศครีม ทานกันเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่
แต่กาแฟเด็กไม่กิน100%
ราคาIPO เขายังไม่ตั้งปี47จะเข้าตลาด แล้วเขาเอาหลักเกณฑ์แบบไหน
ที่รับหุ้นเข้าใหม่ครับ เห็นแล้วก็อ่อนใจครับ
ขอคำแนะนำด้วย ถ้าใครมีหนังสือเชิญชวนกรุณานำมาลงด้วย
เผื่อผมจะได้ เอาโรงงานเพื่อนผมเข้าตลาดมั่ง
เพื่อนผม ทำโรงงานอิฐมอญเผา อิอิ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 380
เคยอ่านใน พันทิพ ในเรื่องบ้านใร่กาแฟ (ส่วนใหญ่ไม่ดี) ราคาแพงเกินมาตราฐานการครองชีพของคนไทย รสชาติก็งั้งๆ ใส่นำ้แข็งมากดูดสองทีหมด แล้วสาเหตุที่เขาตั้งราคาไว้สูงๆ เพราะจะได้มีกำไรเยอะๆเพื่อเข้าตลาด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 381
ผมเป็นคนหนึ่งที่กินกาแฟมาโดยตลอด กินทุกวัน กินทุกที่ กินทุกร้านเลย
เช่น S&P , 94 coffee , starbucks , black canyon
ผมเป็นคนกินง่ายครับ กินอะไรก็กินหมด และรู้สึกอร่อยเกือบทุกอย่าง
บางครั้งแฟนเห็นกินจนหมด แฟนถามอร่อยหรือไม่ ผมตอบ ว่า ไม่อร่อย แฟนยิ้มเลย เพราะกินจนเกลี้ยงเลย
นักชิมอย่างผมนะครับ ลิ้นจรเข้เลย แบบว่ากินอะไรก็อร่อย
ขอลงความเห็นว่าบ้านไร่กาแฟ รสชาติห่วยแตกทีสุด
เคยลองกินแล้วไม่ประทับใจ แต่เราเป็นขากาแฟ เกิดการลองอีก 2-3 ครั้ง สรุป คือ ไม่อร่อยเลย
กาแฟไม่สด กาแฟเข้มไป กาแฟขมไป ไม่กลมกล่อม *(ไม่เกี่ยวกับราคานะครับ เพราะไม่เคยจำราคา แบบว่าซื้อกินทุกราคา เพราะชอบกินกาแฟ)
ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร เอาเป็นว่า ต้องถามคนที่กินแล้วชอบรสขาติ ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่า อร่อยอย่างไร
ผมจะได้กลับไปชิมอีก
เช่น S&P , 94 coffee , starbucks , black canyon
ผมเป็นคนกินง่ายครับ กินอะไรก็กินหมด และรู้สึกอร่อยเกือบทุกอย่าง
บางครั้งแฟนเห็นกินจนหมด แฟนถามอร่อยหรือไม่ ผมตอบ ว่า ไม่อร่อย แฟนยิ้มเลย เพราะกินจนเกลี้ยงเลย
นักชิมอย่างผมนะครับ ลิ้นจรเข้เลย แบบว่ากินอะไรก็อร่อย
ขอลงความเห็นว่าบ้านไร่กาแฟ รสชาติห่วยแตกทีสุด
เคยลองกินแล้วไม่ประทับใจ แต่เราเป็นขากาแฟ เกิดการลองอีก 2-3 ครั้ง สรุป คือ ไม่อร่อยเลย
กาแฟไม่สด กาแฟเข้มไป กาแฟขมไป ไม่กลมกล่อม *(ไม่เกี่ยวกับราคานะครับ เพราะไม่เคยจำราคา แบบว่าซื้อกินทุกราคา เพราะชอบกินกาแฟ)
ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร เอาเป็นว่า ต้องถามคนที่กินแล้วชอบรสขาติ ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่า อร่อยอย่างไร
ผมจะได้กลับไปชิมอีก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 382
อิอิ กระทู้นี้คนอ่านทะลุ 10,000 แย้ว ยินดีด้วยครับ ท่านวิบูลย์
อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งภูมิใจ เป็นแชมป์ ไม่เท่าไร รักษาแชมป์ นี่ซิ
เพราะฉะนั้น อย่าลืมนัดกันไปกินข้าวกันเพื่อวางแผนว่า จะโพสให้ถึง 30,000 ได้อย่างไร
พี่เสนอ วันที่เสาร์ที่ 25 10.30 น.ถึง 14.00 ที่โรงแรมเรดิสัน บุพเฟ่ อาหารญี่ปุ่น หัวหนึ่ง ไม่เกิน 500 บาท อร่อยมาก คนน้อย นั่งคุยสดวก บรรยากาศเยี่ยม
เรียนเชิญ คุณฉัตรชัย คุณมน คุณวิบูลย์ คุณจินนี่ คุณธันวา คุณพี่พีร์
ไปร่วมรับประทานอาหารญี่ปุ่น แล้วนั่งคุยกัน ดีมั๊ยครับ น้องวิบูลย์
สังสรรค์กันหน่อย

อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งภูมิใจ เป็นแชมป์ ไม่เท่าไร รักษาแชมป์ นี่ซิ
เพราะฉะนั้น อย่าลืมนัดกันไปกินข้าวกันเพื่อวางแผนว่า จะโพสให้ถึง 30,000 ได้อย่างไร
พี่เสนอ วันที่เสาร์ที่ 25 10.30 น.ถึง 14.00 ที่โรงแรมเรดิสัน บุพเฟ่ อาหารญี่ปุ่น หัวหนึ่ง ไม่เกิน 500 บาท อร่อยมาก คนน้อย นั่งคุยสดวก บรรยากาศเยี่ยม
เรียนเชิญ คุณฉัตรชัย คุณมน คุณวิบูลย์ คุณจินนี่ คุณธันวา คุณพี่พีร์
ไปร่วมรับประทานอาหารญี่ปุ่น แล้วนั่งคุยกัน ดีมั๊ยครับ น้องวิบูลย์
สังสรรค์กันหน่อย


-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 383
ผมไม่ได้ภูมิใจนะครับ พี่เจ๋ง
ผมว่าทุกคนมีส่วนร่วม
ที่ให้เกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้นมาได้ครับ
ถ้าไม่มีโพสของพี่ปรัชญา คุณมน
พี่Chatchai พี่พีพี ท่านอื่นๆ แม้แต่พี่เจ๋งเอง
รวมทั้งผู้อ่านที่คอยติดตามผลงานสายันต์
กระทู้นี้คงไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้
ผมขอยกความดีความชอบให้กับทุกท่าน
ที่โพสอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
รวมทั้งท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านกระทู้ด้วยทุกคนนะครับ
ขอบคุณทุกๆท่านครับ จากใจจริง
ผมว่าทุกคนมีส่วนร่วม
ที่ให้เกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้นมาได้ครับ
ถ้าไม่มีโพสของพี่ปรัชญา คุณมน
พี่Chatchai พี่พีพี ท่านอื่นๆ แม้แต่พี่เจ๋งเอง
รวมทั้งผู้อ่านที่คอยติดตามผลงานสายันต์
กระทู้นี้คงไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้
ผมขอยกความดีความชอบให้กับทุกท่าน
ที่โพสอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
รวมทั้งท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านกระทู้ด้วยทุกคนนะครับ
ขอบคุณทุกๆท่านครับ จากใจจริง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 385
ภูมิใจครับพี่เจ๋ง แต่ภูมิใจแทนผู้บริหารเวป TVI ครับ
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีปรากฏการณ์นี้ได้
แต่อย่างที่พี่บอกละครับ
ทำอย่างไรถึงจะมีผู้ติดตามได้ตลอด
นั่นสำคัญกว่า
ส่วนวันที่ 25 ผมว่างครับ
ถ้าจะไปจริง โทรคอนเฟิร์มกับหมอประพันธ์ได้เลยครับ
ตอนนี้แกอาสาเป็นเลขาผมติดต่อกับ TVI อยู่ครับ
ผมหวังอย่างเดียวว่า
ทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้คงจะได้ประโยชน์
สักเพียงเล็กน้อย
ผมก็พอใจแล้วครับ
ความฝันของผม
ก็คือ
ทุกท่านจะไม่เป็น "นักลงทุนประเภท ข"
อย่างที่ท่าน ดร.นิเวศน์ พูดไว้ในคอลัมน์เมื่อวานนี้
แล้วท่านละครับ
เป็น "นักลงทุนประเภท ข" หรือเปล่า
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีปรากฏการณ์นี้ได้
แต่อย่างที่พี่บอกละครับ
ทำอย่างไรถึงจะมีผู้ติดตามได้ตลอด
นั่นสำคัญกว่า
ส่วนวันที่ 25 ผมว่างครับ
ถ้าจะไปจริง โทรคอนเฟิร์มกับหมอประพันธ์ได้เลยครับ
ตอนนี้แกอาสาเป็นเลขาผมติดต่อกับ TVI อยู่ครับ
ผมหวังอย่างเดียวว่า
ทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้คงจะได้ประโยชน์
สักเพียงเล็กน้อย
ผมก็พอใจแล้วครับ
ความฝันของผม
ก็คือ
ทุกท่านจะไม่เป็น "นักลงทุนประเภท ข"
อย่างที่ท่าน ดร.นิเวศน์ พูดไว้ในคอลัมน์เมื่อวานนี้
แล้วท่านละครับ
เป็น "นักลงทุนประเภท ข" หรือเปล่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 386
ขอบคุณพี่ปรัชญาครับ
ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับ TVI
บอกตรงๆว่า
ถ้าไม่มีโพสของพี่
กระทู้นี้คงไม่ฮิตขนาดนี้
จริงๆนะครับ.....ขอบอก
ส่วนเรื่อง "บ้านไร่กาแฟ"
ผมไม่เคยเห็นงบการเงิน
เลยตอบไม่ได้ว่าฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
ขอตอบในฐานะลูกค้าแล้วกันครับ
ผมก็แวะปั๊มเจ๊ทบ่อยๆ
ผมไม่ทานกาแฟครับ
ดื่มแต่ชาร้อน เลยเดินเข้าไปถาม
ว่ามีชาร้อนขายมั๊ย
ได้รับคำตอบแบบห้วนๆครับ "ไม่มี"
ผมสะดุ้งเลยครับ นึกไม่ถึงว่า
บริษัทที่มีชื่ออย่างนี้ถึงไม่อบรมพนักงานกันเลย
ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าพ่อแม่(บริษัท)มันไม่เคยสอนเรื่อง
Customer Service
ก็ไม่ถือสา
อีกครั้งนึง เพื่อนผมมันชอบแวะปั๊มเจ๊ทครับ
แล้วก็มาซื้อกาแฟที่บ้านไร่อีกสาขาหนึ่ง
คราวนี้ผมลองของอีก
สั่ง "ชาเย็นไม่ใส่น้ำตาล"
ผมเจอคำตอบห้วนๆอีกแล้วครับ "ทำไม่ได้"
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยซื้ออะไรที่บ้านไร่อีกเลย
พี่คงรู้นะครับ ว่าผมอยากเป็นเจ้าของบริษัทนี้หรือเปล่า
เอาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่า "อคติ"
ขอตอบในฐานะนักวิเคราะห์แล้วกันครับ
ข้อเด่น
1) อยู่ในปั๊มเจ๊ทที่คนแวะเยอะ
2) ตั้งราคาสูงได้ เพราะมีร้านกาแฟร้านเดียวในปั๊ม
(กาแฟข้างในจิฟฟี่ ไม่เคยชิมนะครับ แต่รู้สึกว่าคนไม่นิยม)
3) ออกแบบได้แปลกตา
4) มีที่นั่งพัก ทำสภาพแวดล้อมดี
ข้อด้อย
1) ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง
2) เจ๊ทอาจเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้
3) ไม่มีสาขาอื่นนอกปั๊มเจ๊ท ยกเว้นสาขาเอกมัย
4) ยืมจมูกปั๊มเจ๊ทหายใจอยู่
5) ราคาสูงเกินคุณภาพ
6) ผมมองว่าค่าใช้จ่านในการดำเนินงานสูงเพราะ
บริษัททำเองหมดทุกสาขา ไม่มีเฟรนชาย
7) มีสินค้าอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม ฯลฯ
ถ้าผมจะลงทุนในบ้านไร่
อันดับแรก ผมจะดูก่อนว่า
สัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างบริษัทกับปั๊มเจ๊ท
มีอายุกี่ปี
ถ้าเท่ากับสัญญาเช่าที่ดินของปั๊ม
ประมาณ 10-20 ปี ผมถึงจะดูต่อครับว่า
ฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
แล้วพี่ปรัชญาคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับ TVI
บอกตรงๆว่า
ถ้าไม่มีโพสของพี่
กระทู้นี้คงไม่ฮิตขนาดนี้
จริงๆนะครับ.....ขอบอก
ส่วนเรื่อง "บ้านไร่กาแฟ"
ผมไม่เคยเห็นงบการเงิน
เลยตอบไม่ได้ว่าฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
ขอตอบในฐานะลูกค้าแล้วกันครับ
ผมก็แวะปั๊มเจ๊ทบ่อยๆ
ผมไม่ทานกาแฟครับ
ดื่มแต่ชาร้อน เลยเดินเข้าไปถาม
ว่ามีชาร้อนขายมั๊ย
ได้รับคำตอบแบบห้วนๆครับ "ไม่มี"
ผมสะดุ้งเลยครับ นึกไม่ถึงว่า
บริษัทที่มีชื่ออย่างนี้ถึงไม่อบรมพนักงานกันเลย
ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าพ่อแม่(บริษัท)มันไม่เคยสอนเรื่อง
Customer Service
ก็ไม่ถือสา
อีกครั้งนึง เพื่อนผมมันชอบแวะปั๊มเจ๊ทครับ
แล้วก็มาซื้อกาแฟที่บ้านไร่อีกสาขาหนึ่ง
คราวนี้ผมลองของอีก
สั่ง "ชาเย็นไม่ใส่น้ำตาล"
ผมเจอคำตอบห้วนๆอีกแล้วครับ "ทำไม่ได้"
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยซื้ออะไรที่บ้านไร่อีกเลย
พี่คงรู้นะครับ ว่าผมอยากเป็นเจ้าของบริษัทนี้หรือเปล่า
เอาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่า "อคติ"
ขอตอบในฐานะนักวิเคราะห์แล้วกันครับ
ข้อเด่น
1) อยู่ในปั๊มเจ๊ทที่คนแวะเยอะ
2) ตั้งราคาสูงได้ เพราะมีร้านกาแฟร้านเดียวในปั๊ม
(กาแฟข้างในจิฟฟี่ ไม่เคยชิมนะครับ แต่รู้สึกว่าคนไม่นิยม)
3) ออกแบบได้แปลกตา
4) มีที่นั่งพัก ทำสภาพแวดล้อมดี
ข้อด้อย
1) ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง
2) เจ๊ทอาจเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้
3) ไม่มีสาขาอื่นนอกปั๊มเจ๊ท ยกเว้นสาขาเอกมัย
4) ยืมจมูกปั๊มเจ๊ทหายใจอยู่
5) ราคาสูงเกินคุณภาพ
6) ผมมองว่าค่าใช้จ่านในการดำเนินงานสูงเพราะ
บริษัททำเองหมดทุกสาขา ไม่มีเฟรนชาย
7) มีสินค้าอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม ฯลฯ
ถ้าผมจะลงทุนในบ้านไร่
อันดับแรก ผมจะดูก่อนว่า
สัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างบริษัทกับปั๊มเจ๊ท
มีอายุกี่ปี
ถ้าเท่ากับสัญญาเช่าที่ดินของปั๊ม
ประมาณ 10-20 ปี ผมถึงจะดูต่อครับว่า
ฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
แล้วพี่ปรัชญาคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 387
สงสัยจะถามพี่Chatchai หลายคำถามเกินไป
เลยงง ตอบไม่ถูก
ทีหลังผมจะถามทีละข้อแล้วกันครับ
ตอนนี้ยังไม่อยากข้ามไป DCF ครับ
ขอดูดความรู้เรื่อง FCF ก่อน
เอาคำถามอันนี้ก่อนก็ได้ครับ
ผมไปเจอการคำนวณ FCF อันนึง
ตามสูตรข้างล่างครับ
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed-Dividend
เขาเอาเงินปันผลมาหักออกด้วย
เพื่อหาเงินสดอิสระ
เลยอยากรู้ว่าพี่มีความคิดเห็นกับ
การหักเงินปันผลออกแบบนี้ยังไงบ้างครับ
เรื่อง TONHUA จะกลับไปดูคืนนี้ครับ
เลยงง ตอบไม่ถูก
ทีหลังผมจะถามทีละข้อแล้วกันครับ
ตอนนี้ยังไม่อยากข้ามไป DCF ครับ
ขอดูดความรู้เรื่อง FCF ก่อน
เอาคำถามอันนี้ก่อนก็ได้ครับ
ผมไปเจอการคำนวณ FCF อันนึง
ตามสูตรข้างล่างครับ
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed-Dividend
เขาเอาเงินปันผลมาหักออกด้วย
เพื่อหาเงินสดอิสระ
เลยอยากรู้ว่าพี่มีความคิดเห็นกับ
การหักเงินปันผลออกแบบนี้ยังไงบ้างครับ
เรื่อง TONHUA จะกลับไปดูคืนนี้ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 388
เรื่องสูตร FCF ที่มีการหัก Dividend นั้น ผมไม่ทราบว่าจะนำผลไปใช้วิเคราะห์อะไรครับ
ตามความเข้าใจของผมนั้น สูตรคงไม่มีอะไรตายตัวครับ สามารถดัดแปลงไปตามสิ่งที่เราจะวิเคราะห์
แต่ที่ผมวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะหาเงินสดที่เป็นอิสระ ไม่มีภาระที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งจะเป็นจำนวนเงินที่จะเหลือถึงผู้ถือหุ้นครับ
จากสิ่งที่ผมต้องการสูตรที่ผมใช้จึงเป็น
FCF = กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน - Working Cap. - Cap Exp. - Loan Repayment
รายการกำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลง นั้นเป็นรายการในงบกระแสเงินสดครับ ซึ่งแสดงผลการดำเนินงานที่เป็นเงินสดครับ
ส่วน Working Cap. นั้น ผมจะคำนวณเอง โดยเริ่มจากคำนวณหา จำนวนวันในการเก็บหนี้การค้าเฉลี่ย จำนวนวันในการเก็บสินค้าคงคลังเฉลี่ย และจำนวนวันในการชำระหนี้การค้าเฉลี่ย แล้วจึงนำไปคำนวณหา Working Cap. ครับ
Cap. Exp. ก็เป็นค่าที่ต้องดูอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ค่าที่เป็นการลงทุนเพื่อทดแทนหรือซ่อมบำรุงเท่านั้นครับ ไม่รวมเงินลงทุนในโครงการใหม่ๆ
การคำนวณนั้นถ้าให้ดี ก็คำนวณทั้งงบรวมและงบเดี่ยวก็ดีครับ จะได้เห็นภาพที่ชัดเจน ว่าบางทีกิจการรวมมี FCF ดี แต่จริงๆแล้วมาจากบริษัทลูก ไม่ใช่บริษัทแม่ ซึ่งเงินอาจจะไม่ถึงเราก็ได้ครับ
ตามความเข้าใจของผมนั้น สูตรคงไม่มีอะไรตายตัวครับ สามารถดัดแปลงไปตามสิ่งที่เราจะวิเคราะห์
แต่ที่ผมวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะหาเงินสดที่เป็นอิสระ ไม่มีภาระที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งจะเป็นจำนวนเงินที่จะเหลือถึงผู้ถือหุ้นครับ
จากสิ่งที่ผมต้องการสูตรที่ผมใช้จึงเป็น
FCF = กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน - Working Cap. - Cap Exp. - Loan Repayment
รายการกำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลง นั้นเป็นรายการในงบกระแสเงินสดครับ ซึ่งแสดงผลการดำเนินงานที่เป็นเงินสดครับ
ส่วน Working Cap. นั้น ผมจะคำนวณเอง โดยเริ่มจากคำนวณหา จำนวนวันในการเก็บหนี้การค้าเฉลี่ย จำนวนวันในการเก็บสินค้าคงคลังเฉลี่ย และจำนวนวันในการชำระหนี้การค้าเฉลี่ย แล้วจึงนำไปคำนวณหา Working Cap. ครับ
Cap. Exp. ก็เป็นค่าที่ต้องดูอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ค่าที่เป็นการลงทุนเพื่อทดแทนหรือซ่อมบำรุงเท่านั้นครับ ไม่รวมเงินลงทุนในโครงการใหม่ๆ
การคำนวณนั้นถ้าให้ดี ก็คำนวณทั้งงบรวมและงบเดี่ยวก็ดีครับ จะได้เห็นภาพที่ชัดเจน ว่าบางทีกิจการรวมมี FCF ดี แต่จริงๆแล้วมาจากบริษัทลูก ไม่ใช่บริษัทแม่ ซึ่งเงินอาจจะไม่ถึงเราก็ได้ครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 389
VIB007 เขียน:ขอบคุณพี่ปรัชญาครับ
ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับ TVI
บอกตรงๆว่า
ถ้าไม่มีโพสของพี่
กระทู้นี้คงไม่ฮิตขนาดนี้
จริงๆนะครับ.....ขอบอก
ส่วนเรื่อง "บ้านไร่กาแฟ"
ผมไม่เคยเห็นงบการเงิน
เลยตอบไม่ได้ว่าฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
ขอตอบในฐานะลูกค้าแล้วกันครับ
ผมก็แวะปั๊มเจ๊ทบ่อยๆ
ผมไม่ทานกาแฟครับ
ดื่มแต่ชาร้อน เลยเดินเข้าไปถาม
ว่ามีชาร้อนขายมั๊ย
ได้รับคำตอบแบบห้วนๆครับ "ไม่มี"
ผมสะดุ้งเลยครับ นึกไม่ถึงว่า
บริษัทที่มีชื่ออย่างนี้ถึงไม่อบรมพนักงานกันเลย
ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าพ่อแม่(บริษัท)มันไม่เคยสอนเรื่อง
Customer Service
ก็ไม่ถือสา
อีกครั้งนึง เพื่อนผมมันชอบแวะปั๊มเจ๊ทครับ
แล้วก็มาซื้อกาแฟที่บ้านไร่อีกสาขาหนึ่ง
คราวนี้ผมลองของอีก
สั่ง "ชาเย็นไม่ใส่น้ำตาล"
ผมเจอคำตอบห้วนๆอีกแล้วครับ "ทำไม่ได้"
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยซื้ออะไรที่บ้านไร่อีกเลย
พี่คงรู้นะครับ ว่าผมอยากเป็นเจ้าของบริษัทนี้หรือเปล่า
เอาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่า "อคติ"
ขอตอบในฐานะนักวิเคราะห์แล้วกันครับ
ข้อเด่น
1) อยู่ในปั๊มเจ๊ทที่คนแวะเยอะ
2) ตั้งราคาสูงได้ เพราะมีร้านกาแฟร้านเดียวในปั๊ม
(กาแฟข้างในจิฟฟี่ ไม่เคยชิมนะครับ แต่รู้สึกว่าคนไม่นิยม)
3) ออกแบบได้แปลกตา
4) มีที่นั่งพัก ทำสภาพแวดล้อมดี
ข้อด้อย
1) ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง
2) เจ๊ทอาจเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้
3) ไม่มีสาขาอื่นนอกปั๊มเจ๊ท ยกเว้นสาขาเอกมัย
4) ยืมจมูกปั๊มเจ๊ทหายใจอยู่
5) ราคาสูงเกินคุณภาพ
6) ผมมองว่าค่าใช้จ่านในการดำเนินงานสูงเพราะ
บริษัททำเองหมดทุกสาขา ไม่มีเฟรนชาย
7) มีสินค้าอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม ฯลฯ
ถ้าผมจะลงทุนในบ้านไร่
อันดับแรก ผมจะดูก่อนว่า
สัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างบริษัทกับปั๊มเจ๊ท
มีอายุกี่ปี
ถ้าเท่ากับสัญญาเช่าที่ดินของปั๊ม
ประมาณ 10-20 ปี ผมถึงจะดูต่อครับว่า
ฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
แล้วพี่ปรัชญาคิดว่าอย่างไรบ้างครับ

ผมเห็นเดี๋ยวนี้ เนสกาแฟเขามีถ้วยกระดาษพร้อมกาแฟ
ราคาถูกกว่ามากครับ ตามบิ๊กซี และตามปั๊มการแข่งขันคงสูงขึ้น
ที่สำคัญคือยืมจมูกเขาหายใจ
อันนี้สำคัญที่สุด หลับตาเห็นภาพเลยครับ
อาจขึ้นค่าเช่า และปัญหาอื่นๆ
สินทรัพย์ ไม่รู้ว่าจะเมกบัญชีกันยังไงดูไม่ออกคิดไม่ถึงครับ
ข้อคิดความเห็นของคุณวิบูลย์ บทนี้
ผมอ่าน3รอบเลยครับ
และก็คิดว่าเป็นประโยชน์กับนักลงทุนรุ่นใหม่
ที่เข้ามาสัมผัสความคิดเห็น มุมมองต่างๆ ขอผู้ทรงคุณวุฒิ
ผมยอมรับนับถือ มากๆเลย
ว่าไม่เสียแรงที่ผมตามอ่านมาตลอด
ครั้งนี้อ่านขาดจริงๆครับ
ขอแสดงความนับถือ อย่างจริงใจครับ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 390
ผมก็เป้นคนหนึ่งที่ใช้บริการบ้านไร่ มีความเห็นครับปรัชญา เขียน:
ขอขอบคุณ ที่คุณวิบูลย์ให้แนวคิดและวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนจุดแข็ง
ผมเห็นเดี๋ยวนี้ เนสกาแฟเขามีถ้วยกระดาษพร้อมกาแฟ
ราคาถูกกว่ามากครับ ตามบิ๊กซี และตามปั๊มการแข่งขันคงสูงขึ้น
ที่สำคัญคือยืมจมูกเขาหายใจ
อันนี้สำคัญที่สุด หลับตาเห็นภาพเลยครับ
อาจขึ้นค่าเช่า และปัญหาอื่นๆ
สินทรัพย์ ไม่รู้ว่าจะเมกบัญชีกันยังไงดูไม่ออกคิดไม่ถึงครับ
ข้อคิดความเห็นของคุณวิบูลย์ บทนี้
ผมอ่าน3รอบเลยครับ
และก็คิดว่าเป็นประโยชน์กับนักลงทุนรุ่นใหม่
ที่เข้ามาสัมผัสความคิดเห็น มุมมองต่างๆ ขอผู้ทรงคุณวุฒิ
ผมยอมรับนับถือ มากๆเลย
ว่าไม่เสียแรงที่ผมตามอ่านมาตลอด
ครั้งนี้อ่านขาดจริงๆครับ
ขอแสดงความนับถือ อย่างจริงใจครับ
เคยเจอที่บริการไม่ดีเหมือนกัน บอกว่าปิดเที่ยงคืน แต่ 5ทุ่มครึ่งก็ปิดแล้ว
จากข้อเด่นของคุณวิบูลย์
1.ผมเห็นว่าคนแวะปั๊มเจ๊ตเพราะจะเข้าห้องน้ำ+มินิมาร์ต แต่ผมเข้าเจ็ตเพราะจะไปกินกาแฟครับ น้ำมันผมเติม ปตท ครับ เพราะอย่างไรก็เป็นของคนไทย เคยประท้วงไม่กินกาแฟบ้านไร่ตอนขึ้นราคาจาก 60 เป็น80 โดยการแวะปั๊มอื่นที่มีกาแฟถูกกว่า ผลก็คือผมไปซื้อน้ำล้างแก้วมาเททิ้ง กินไม่ได้เลยครับ สุดท้ายก็เลยต้องกลับมากินของเขา ผมว่าสินค้าเขาคุณภาพดีกว่าของคนอื่นนะ
2.ตั้งราคาสูงได้ เพราะมีกาแฟร้านเดียวในปั๊ม ปั๊มอื่นก็มีกาแฟนะครับ ขนาดเขาขึ้นราคา ผมก็ยังหาอย่างอื่นมาแทนไม่ได้ (กาแฟ) อย่างนี้เรียกว่ามีอำนาจต่อรองกับลูกค้าไหมครับ
ข้อด้อย
1.เช่าเขา เงินลงทุนไม่สูงครับ
2.ถ้าเจ็ตเลิกสัญญา ผมว่าก็คงกระเทือนเจ็ตบ้าง ไม่มากก็น้อย คนส่วนหนึ่งเข้าเจ็ตเพราะบ้านไร่ครับ ปั๊มอื่นก็คงได้เฮครับ
3.
4.ผมว่าชื่อบ้านไร่กับเจ็ตมาด้วยกันนะ คนส่วนหนึ่งเข้าเจ็ตเพราะบ้านไร่ครับ อย่างนี้จะเป็นยืมจมูกหายใจหรือเปล่า
5.ราคานี้ เคยมีคนบอกว่าเกือบเท่าสตาร์บั๊ค ผมก็สงสัยว่าทำไม ของไทยถึงขายเท่าสตาร์บั๊คไม่ได้ ถ้าสองร้านนี้ติดกัน ผมก็ยังกินของบ้านไร่ ผมว่ารสชาดดีกว่า ไม่เกี่ยวกับราคา อาจต่างจากพี่เจ๋งนะครับ
6.ทำเองทั้งหมดไม่มีแฟรนไชส์ เวลากำไรก็ได้กำไรเองเน็ตๆ เขาเปิดเฉพาะที่ที่มีกำลังซื้อครับ ไม่ได้เปิดทุกที่ที่มีเจ็ต
7.มีของอื่นแทนจริง แต่ถ้าจะกินกาแฟ โดยเฉพาะตอนเดินทาง ผมยังหาอะไรแทนไม่ได้เลยครับ
จากเหตุผลข้างบน ผมว่าเขามี DCA พอสมควรนะ เป็นแบรนที่อยู่ในใจด้วย ถ้าถามถึงกาแฟ ผมว่าเขาไม่เป็นรองสตาร์บั๊คนะ ไม่งั้นถ้าสตาร์บั๊คไม่เห็นบ้านไร่อยู่ในสายตา สตาร์บั๊คคงไม่มีแคมเปญเกี่ยวกับกาแฟที่ใช้วัตถุดิบในประเทศไทยหรอก
ข้อด้อยอย่างนึงที่ผมเห็นคือ เขาขึ้นราคาโดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้ชาวไร่กาแฟได้ขายกาแฟมีกำไรเยอะ ซึ่งอาจผิดหลัก 5 force อยู่พอสมควร
ขอบคุณครับ