อยากชวนเพื่อนๆที่ร่างกายแข็งแรง ไม่ผอมเกินไป ไปบริจาคเลือดกันนะครับ
การบริจาคเลือดเป็นการช่วยเพื่อนมนุษย์ที่เราแทบไม่เสียอะไรเลย แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพเราด้วย
ไม่ต้องกลัวเจ็บหรอกครับ สภากาชาดไทยยังขาดเลือดอีกมาก ถ้าจะบริจาคเป็นประจำทุก 3 เดือนก็จะดีมากเลยครับ
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
-
oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 2
ปกติก็บริจาคทุกเดือนครับพี่ และอวัยวะทุกส่วนก็แสดงเจตน์จำนงบริจาคแล้วด้วย มีเรื่องเล่าให้รู้เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะด้วยครับ "ต้นเดือนที่ผ่านมา พี่ชายของป้าสะใภ้ที่บ้านได้เสียชีวิต ก่อนนั้นเข้ารักษาตัวที่ รพ.กระทุ่มแบน เพราะกินเหล้ามาตลอด ค่อนข้างเยอะ ก่อนตายแพทย์ก็สอบถามแม่คนตายว่าจะบริจาคอวัยวะมั้ย ยายที่เป็นแม่ก็ตกลงเซ็นอนุญาตเลย ปรากฏว่า สามารถช่วยชีวิตคนได้สามคน คือ ปอดสองข้าง และหนึ่งหัวใจ งานเผาศพ ทางสภากาชาดจะขอไฟพระราชทานฯ ให้ แต่ทางญาติไม่อยากให้ยุ่งยาก วันเผาก็มีเจ้าหน้าที่ของสภาฯ มาและเอาหนังสือของหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุมาแจกด้วย" ยังดีใจครับที่คนหนึ่งเขาอาจจะเสเพลมาตลอด ก่อนตายมีโอกาสได้ชุบชีวิตได้อีกสามชีวิต น่าจะเป็นการทำบุญที่ประเสริฐแล้วนะผมว่า
-
Dech
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 6
บริจาคได้บ่อยกว่านั้นอีกคับ ....
http://www.redcross.or.th/donation/blood_donation.php4
บริจาคโลหิต
เนื่องจากโลหิตเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ให้อยู่รอด นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นคว้ามาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการหาสารประกอบอื่น ๆ ที่มาทดแทนโลหิตได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้โลหิตจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งด้วยการบริจาคนั่นเอง
การบริจาคโลหิต คือการสละโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้กับผู้ป่วย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเลย เพราะร่างกายแต่ละคนจะมีปริมาณโลหิตประมาณ 17-18 แก้วน้ำ ซึ่งร่างกายใช้เพียง 15-16 แก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้
ผู้บริจาคโลหิตสามารถบริจาคโลหิตได้ทุก 3 เดือน เพราะเมื่อบริจาคโลหิตออกไป ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทนให้มีปริมาณโลหิตในร่างกายเท่าเดิม ถ้าไม่ได้บริจาค ร่างกายจะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัว เพราะหมดอายุออกมาในรูปของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่ออยู่แล้ว การบริจาคโลหิตใช้เวลาประมาณ 15 นาที ท่านจะได้รับการเจาะเก็บโลหิตและบรรจุในถุงพลาสติก (BLOOD BAG) ตั้งแต่ 350-450 มิลลิลิตร (ซี.ซี) ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาค
โลหิตคืออะไร
โลหิตมีส่วนที่เป็นน้ำ เรียกว่า น้ำเหลือง มีสีเหลืองอ่อนใสมีโปรตีนและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดและส่วนที่เป็นเม็ดโลหิตซึ่งมีเม็ดโลหิตแดง เม็ดโลหิตขาว และเกล็ดโลหิต เป็นของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนอยู่ภายในหลอดโลหิตในร่างกาย โดยกำลังสูบฉีดของหัวใจ อวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดโลหิต คือ ไขกระดูก ซึ่งได้แก่ กระดูกแขน กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครง กระโหลกศีรษะ กระดูกเชิงกราน กระดูกไขสันหลัง เป็นต้น ในร่างกายของมนุษย์ (ผู้ใหญ่) จะมีโลหิตประมาณ 4,000-5,000 มิลลิลิตร (ซี.ซี.) หรือสามารถคำนวณง่ายๆ คือ
น้ำหนักตัวสุทธิ x 80 = ปริมาณโลหิตที่มีในร่างกายโดยประมาณ (หน่วยเป็น ซี.ซี.)
โลหิตแบ่งได้ 2 ส่วน คือ
1. เม็ดโลหิต จะมีอยู่ประมาณ 45 % ของโลหิตทั้งหมด ซึ่งมี 3 ชนิด คือ
- เม็ดโลหิตแดง มีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนเพื่อให้เซลล์ต่างๆ ใช้สันดาปอาหารเป็นพลังงาน อายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 120 วัน
- เม็ดโลหิตขาว ทำหน้าที่ปกป้องและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และสารที่เป็นอันตรายอื่นๆ ซึ่งเปรียบเหมือนทหารป้องกันประเทศ เม็ดโลหิตขาวมีอายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 10 ชั่วโมง
-เกล็ดโลหิต ทำหน้าที่ช่วยให้โลหิตแข็งตัวตรงจุดที่มีการฉีกขาดของเส้นโลหิต มีอายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 5-10 วัน
2. พลาสมา (Plasma ) คือส่วนที่เป็นของเหลวของโลหิตที่ทำให้เม็ดโลหิตทั้งหลายลอยตัว มีลักษณะเป็นน้ำสีเหลือง จะมีอยู่ประมาณ ร้อยละ 55 ของโลหิตทั้งหมด มีหน้าที่ควบคุมระดับความดันและปริมาตรของโลหิตป้องกันเลือดออก และเป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อที่จะเข้าสู่ร่างกาย พลาสมานี้ประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำประมาณ 92 % และส่วนที่เป็นโปรตีนประมาณ 8 % ซึ่งโปรตีนที่สำคัญ ได้แก่
- แอลบูมิน มีหน้าที่รักษาความสมดุลของน้ำในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ
- อิมมูโนโกลบูลิน มีหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อต่างๆ ที่จะเข้าสูร่างกาย เกร็ดความรู้
ถ้านำเส้นโลหิตทั่วร่างกายมาต่อกัน จะมีความยาวถึง 96,000 กิโลเมตร หรือความยาวเท่ากับ 2 เท่าครึ่งของระยะทางรอบโลก โดยเฉลี่ยแล้วปริมาณโลหิตในร่างกายจะมี 5-6 ลิตรในผู้ชาย และ 4-5 ลิตรในผู้หญิง และโลหิตจะมีการไหลเวียน โดยผ่านมาที่หัวใจถึง 1,000 เที่ยวต่อวัน คนหนุ่มสาวจะมีเซลล์เม็ดโลหิตแดงเท่ากับ 35,000,000,000,000 เซลล์ (สามสิบห้าล้านเซลล์) อยู่ภายในร่างกายในเวลา 120 วัน เซลล์เม็ดโลหิตแดง จำนวน 1.2 ล้านเซลล์ จะถึงกำหนดหมดอายุขัย ถูกขับถ่ายออกมาขณะเดียวกันไขกระดูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกระดูกซี่โครง กะโหลกศรีษะ และกระดูกสันหลัง จะช่วยกันผลิตเซลล์ใหม่เท่ากับจำนวนที่ตายไปขึ้นมาแทนที่
จากชีวิตสู่ชีวิต มอบโลหิตช่วยผู้ป่วย
บริจาค
1. บริจาคโลหิตรวม (Whole blood)
2. บริจาคพลาสมา (Plasma)
3. บริจาคเกล็ดโลหิต (Single Donor Platelets)
4. บริจาคเม็ดโลหิตแดง (Single Donor Red Cell)
5. ตารางเวลาหน่วยรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่
6. LOGO โครงการ BRAND'S YOUNG BLOOD
บริจาคพลาสมา(Plasma)
คุณประโยชน์
พลาสมาจะนำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคขาดน้ำเหลือง มีอาการช็อคเนื่องจากน้ำร้อน ลวก ไฟไหม้ หรือช็อคในผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออก
วิธีการ
เจาะโลหิตออกจากร่างกายผ่านตัวกรอง หรือตัวปั่น เพื่อทำการแยกพลาสมาออกจากเม็ดโลหิต จากนั้นส่วนที่เป็นพลาสมาจะถูกแยกส่งไปยังถุงบรรจุ ที่รองรับอยู่ ส่วนที่เป็นเม็ดโลหิตแดงไหลกลับเข้าสู่ร่างกายผู้บริจาค
การบริจาคพลาสมา สามารถทำได้ทุก 14 วัน บริจาคครั้งละ 500 มิลลิลิตร (ซี.ซี.) พลาสมาที่ได้รับบริจาค นอกจากจะใช้ในรูปของส่วนประกอบโลหิตที่นำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยเฉพาะโรคแล้ว ยังนำไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิต เช่นแอลบูมิน (Albumin) แฟคเตอร์ 8 เข้มข้น แฟคเตอร์ 9 เข้มข้น อิมมูโนกลอบบูลิน ชนิดฉีดเข้าเส้น เซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันพิษสุนัขบ้า
http://www.redcross.or.th/donation/blood_donation.php4
บริจาคโลหิต
เนื่องจากโลหิตเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ให้อยู่รอด นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นคว้ามาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการหาสารประกอบอื่น ๆ ที่มาทดแทนโลหิตได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้โลหิตจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งด้วยการบริจาคนั่นเอง
การบริจาคโลหิต คือการสละโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้กับผู้ป่วย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเลย เพราะร่างกายแต่ละคนจะมีปริมาณโลหิตประมาณ 17-18 แก้วน้ำ ซึ่งร่างกายใช้เพียง 15-16 แก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้
ผู้บริจาคโลหิตสามารถบริจาคโลหิตได้ทุก 3 เดือน เพราะเมื่อบริจาคโลหิตออกไป ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทนให้มีปริมาณโลหิตในร่างกายเท่าเดิม ถ้าไม่ได้บริจาค ร่างกายจะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัว เพราะหมดอายุออกมาในรูปของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่ออยู่แล้ว การบริจาคโลหิตใช้เวลาประมาณ 15 นาที ท่านจะได้รับการเจาะเก็บโลหิตและบรรจุในถุงพลาสติก (BLOOD BAG) ตั้งแต่ 350-450 มิลลิลิตร (ซี.ซี) ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาค
โลหิตคืออะไร
โลหิตมีส่วนที่เป็นน้ำ เรียกว่า น้ำเหลือง มีสีเหลืองอ่อนใสมีโปรตีนและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดและส่วนที่เป็นเม็ดโลหิตซึ่งมีเม็ดโลหิตแดง เม็ดโลหิตขาว และเกล็ดโลหิต เป็นของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนอยู่ภายในหลอดโลหิตในร่างกาย โดยกำลังสูบฉีดของหัวใจ อวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดโลหิต คือ ไขกระดูก ซึ่งได้แก่ กระดูกแขน กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครง กระโหลกศีรษะ กระดูกเชิงกราน กระดูกไขสันหลัง เป็นต้น ในร่างกายของมนุษย์ (ผู้ใหญ่) จะมีโลหิตประมาณ 4,000-5,000 มิลลิลิตร (ซี.ซี.) หรือสามารถคำนวณง่ายๆ คือ
น้ำหนักตัวสุทธิ x 80 = ปริมาณโลหิตที่มีในร่างกายโดยประมาณ (หน่วยเป็น ซี.ซี.)
โลหิตแบ่งได้ 2 ส่วน คือ
1. เม็ดโลหิต จะมีอยู่ประมาณ 45 % ของโลหิตทั้งหมด ซึ่งมี 3 ชนิด คือ
- เม็ดโลหิตแดง มีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนเพื่อให้เซลล์ต่างๆ ใช้สันดาปอาหารเป็นพลังงาน อายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 120 วัน
- เม็ดโลหิตขาว ทำหน้าที่ปกป้องและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และสารที่เป็นอันตรายอื่นๆ ซึ่งเปรียบเหมือนทหารป้องกันประเทศ เม็ดโลหิตขาวมีอายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 10 ชั่วโมง
-เกล็ดโลหิต ทำหน้าที่ช่วยให้โลหิตแข็งตัวตรงจุดที่มีการฉีกขาดของเส้นโลหิต มีอายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 5-10 วัน
2. พลาสมา (Plasma ) คือส่วนที่เป็นของเหลวของโลหิตที่ทำให้เม็ดโลหิตทั้งหลายลอยตัว มีลักษณะเป็นน้ำสีเหลือง จะมีอยู่ประมาณ ร้อยละ 55 ของโลหิตทั้งหมด มีหน้าที่ควบคุมระดับความดันและปริมาตรของโลหิตป้องกันเลือดออก และเป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อที่จะเข้าสู่ร่างกาย พลาสมานี้ประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำประมาณ 92 % และส่วนที่เป็นโปรตีนประมาณ 8 % ซึ่งโปรตีนที่สำคัญ ได้แก่
- แอลบูมิน มีหน้าที่รักษาความสมดุลของน้ำในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ
- อิมมูโนโกลบูลิน มีหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันโรคติดต่อต่างๆ ที่จะเข้าสูร่างกาย เกร็ดความรู้
ถ้านำเส้นโลหิตทั่วร่างกายมาต่อกัน จะมีความยาวถึง 96,000 กิโลเมตร หรือความยาวเท่ากับ 2 เท่าครึ่งของระยะทางรอบโลก โดยเฉลี่ยแล้วปริมาณโลหิตในร่างกายจะมี 5-6 ลิตรในผู้ชาย และ 4-5 ลิตรในผู้หญิง และโลหิตจะมีการไหลเวียน โดยผ่านมาที่หัวใจถึง 1,000 เที่ยวต่อวัน คนหนุ่มสาวจะมีเซลล์เม็ดโลหิตแดงเท่ากับ 35,000,000,000,000 เซลล์ (สามสิบห้าล้านเซลล์) อยู่ภายในร่างกายในเวลา 120 วัน เซลล์เม็ดโลหิตแดง จำนวน 1.2 ล้านเซลล์ จะถึงกำหนดหมดอายุขัย ถูกขับถ่ายออกมาขณะเดียวกันไขกระดูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกระดูกซี่โครง กะโหลกศรีษะ และกระดูกสันหลัง จะช่วยกันผลิตเซลล์ใหม่เท่ากับจำนวนที่ตายไปขึ้นมาแทนที่
จากชีวิตสู่ชีวิต มอบโลหิตช่วยผู้ป่วย
บริจาค
1. บริจาคโลหิตรวม (Whole blood)
2. บริจาคพลาสมา (Plasma)
3. บริจาคเกล็ดโลหิต (Single Donor Platelets)
4. บริจาคเม็ดโลหิตแดง (Single Donor Red Cell)
5. ตารางเวลาหน่วยรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่
6. LOGO โครงการ BRAND'S YOUNG BLOOD
บริจาคพลาสมา(Plasma)
คุณประโยชน์
พลาสมาจะนำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคขาดน้ำเหลือง มีอาการช็อคเนื่องจากน้ำร้อน ลวก ไฟไหม้ หรือช็อคในผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออก
วิธีการ
เจาะโลหิตออกจากร่างกายผ่านตัวกรอง หรือตัวปั่น เพื่อทำการแยกพลาสมาออกจากเม็ดโลหิต จากนั้นส่วนที่เป็นพลาสมาจะถูกแยกส่งไปยังถุงบรรจุ ที่รองรับอยู่ ส่วนที่เป็นเม็ดโลหิตแดงไหลกลับเข้าสู่ร่างกายผู้บริจาค
การบริจาคพลาสมา สามารถทำได้ทุก 14 วัน บริจาคครั้งละ 500 มิลลิลิตร (ซี.ซี.) พลาสมาที่ได้รับบริจาค นอกจากจะใช้ในรูปของส่วนประกอบโลหิตที่นำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยเฉพาะโรคแล้ว ยังนำไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิต เช่นแอลบูมิน (Albumin) แฟคเตอร์ 8 เข้มข้น แฟคเตอร์ 9 เข้มข้น อิมมูโนกลอบบูลิน ชนิดฉีดเข้าเส้น เซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันพิษสุนัขบ้า
-
สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 7
ถ้าบริจาคพลาสมาก็ทำได้ทุก 14 วันจริงครับ เพราะร่างกายสร้างทดแทนได้เร็วมากการบริจาคพลาสมา สามารถทำได้ทุก 14 วัน บริจาคครั้งละ 500 มิลลิลิตร (ซี.ซี.)
แต่ถ้าบริจาคเลือดละก็ ต้องทุก 3 เดือนครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 8
อ้อ...เพิ่งเห็นครับ ไม่รู้ว่าผมมองข้ามไปได้ยังไงขอโทษครับ ทุก 3 เดือนครับ
โห....เยี่ยมจริงๆครับ ผมได้ 3 ครั้งเองตอนนี้ได้ 45 ครั้งแล้ว
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 9
สภากาชาดก็ชักชวนให้บริจาคพลาสม่าครับ แต่ต้องเสียเวลาในการนอนบริจาคประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาสำหรับผม
แต่รู้สึกว่าเม็ดเลือดหรืออะไรก็จำไม่ได้ พยาบาลนำเลือดผมไปรวจแล้วบอกว่ามีแค่ 2 แสน ไม่พอครับ เค้าต้องการมากกว่านั้น เลยได้แต่บริจาคเลือดครับ
แต่รู้สึกว่าเม็ดเลือดหรืออะไรก็จำไม่ได้ พยาบาลนำเลือดผมไปรวจแล้วบอกว่ามีแค่ 2 แสน ไม่พอครับ เค้าต้องการมากกว่านั้น เลยได้แต่บริจาคเลือดครับ
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 13
พวกคุณเป็นคนดีจริงๆที่บริจาคเลือด ถึงผมจะพยายามทำดีแค่ไหนก็ตาม ผมก็ได้แค่บริจาคเงิน
อืม ผมไม่เคยบริจาคเลือดเลย
ผมกลัว กลัวอะไร ไม่รู้ซิ กลัวเจอเอดมั๊ง
เออ จริงๆแล้ว ผมตรวจเอดไป 4 รอบแล้ว แต่ก็ยังกลัวการบริจาคเลือดอยู่ดี
อิอิ
อืม ผมไม่เคยบริจาคเลือดเลย
ผมกลัว กลัวอะไร ไม่รู้ซิ กลัวเจอเอดมั๊ง
เออ จริงๆแล้ว ผมตรวจเอดไป 4 รอบแล้ว แต่ก็ยังกลัวการบริจาคเลือดอยู่ดี
อิอิ
-
สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 14
อิอิ...ผมก็กลัวครับแต่ไม่ใช่เอดส์เออ จริงๆแล้ว ผมตรวจเอดไป 4 รอบแล้ว แต่ก็ยังกลัวการบริจาคเลือดอยู่ดี
จุ๊...ๆ...... ผมกลัวเข็มอ่ะ เข็มเบ้อเริ่มเลย สยอง......
ล่าสุด...บริจาคเนื่องในวันเกิดแฟนครับ.....
แต่เขาบอกว่าเลือดกรุ๊ปนี้มีเยอะแล้ว ไม่เอา.....ไว้วันหลังละกัน
ง่ะ....กำ....ผมก็บังคับให้เขาเอาจนได้ ก็วันนี้วันเกิดแฟนอ่ะ.....
ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบนี้จะได้บุญหรือเปล่า..... :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
less is more
- Verified User
- โพสต์: 140
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 16
เออ...ขอเสริมนิดนึงนะครับที่สภากาชาดไทยมีบริจาค3อย่างครับ
1.บริจาคเลือด(ควรจะทุก3เดือน)
2.พลาสม่า(บริจาคได้ทุก14วัน)
3.เกล็ดเลือด(ทุก3เดือนเช่นกัน แต่ใช้เวลาในการบริจาคประมาณชั่วโมงครึ่งถึง2ชั่วโมงครับเพราะเค้าจะเอาเลือดไปปั่นๆผ่านเครืองแยกเกล็ดเลือดออกมา)
แต่ทั้ง3อยางนั้นเค้าจะต้องนำไปวิเคราะห์ดูก่อนว่าถึงเกณฑ์หรือไม่ครับ
อ๋อ...มีบริจาคอีกแบบครับ(บริจาคตังค์ครับ)
1.บริจาคเลือด(ควรจะทุก3เดือน)
2.พลาสม่า(บริจาคได้ทุก14วัน)
3.เกล็ดเลือด(ทุก3เดือนเช่นกัน แต่ใช้เวลาในการบริจาคประมาณชั่วโมงครึ่งถึง2ชั่วโมงครับเพราะเค้าจะเอาเลือดไปปั่นๆผ่านเครืองแยกเกล็ดเลือดออกมา)
แต่ทั้ง3อยางนั้นเค้าจะต้องนำไปวิเคราะห์ดูก่อนว่าถึงเกณฑ์หรือไม่ครับ
อ๋อ...มีบริจาคอีกแบบครับ(บริจาคตังค์ครับ)
คนบางแค... แคร์บางคน...
-
Tiger
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 18
set schedule ได้ลงตัวดีนะครับพี่
สงสัยต้องลองบ้าง :lol:
สามารถบริจาคได้ที่โรงพยาบาลรัฐ(น่าจะ)ทุกแห่งครับ
แต่บางที่อาจไม่ได้ผ่านสภากาชาดไทย
ถ้าผ่านก็มีวชิระ พระมงกุฎ ประมาณนี้ครับ
บริจาคผ่านรถ mobile ของกาชาดก็สะดวกนะครับ
สมัยเรียนก็มี mobile มาบริการถึงที่
ตอนนี้ก็ใช้วิ่งไปที่สนามหลวงบ้าง สภากาชาดบ้าง
เคยลองสอบถามไปสองเที่ยวแล้วครับว่าบริจาคเยอะ ๆ
จะมีสิทธิ พิเศษ อะไรบ้าง ไม่เห็นเขาแจ้งกลับเลย
ของผมผ่านกาชาด 27-28 ครั้งแล้วครับ
สงสัยต้องลองบ้าง :lol:
สามารถบริจาคได้ที่โรงพยาบาลรัฐ(น่าจะ)ทุกแห่งครับ
แต่บางที่อาจไม่ได้ผ่านสภากาชาดไทย
ถ้าผ่านก็มีวชิระ พระมงกุฎ ประมาณนี้ครับ
บริจาคผ่านรถ mobile ของกาชาดก็สะดวกนะครับ
สมัยเรียนก็มี mobile มาบริการถึงที่
ตอนนี้ก็ใช้วิ่งไปที่สนามหลวงบ้าง สภากาชาดบ้าง
เคยลองสอบถามไปสองเที่ยวแล้วครับว่าบริจาคเยอะ ๆ
จะมีสิทธิ พิเศษ อะไรบ้าง ไม่เห็นเขาแจ้งกลับเลย
ของผมผ่านกาชาด 27-28 ครั้งแล้วครับ
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren
-
โป้ง
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 19
ยอดเยี่ยมทุกท่านครับ ฟังแล้วประทับใจจริงๆ :D
ผมเองก็บริจาคไปแล้ว 40 ครั้ง
อยากให้ทุกๆคน ในบอร์ดนี้ สร้างกุศลอันนี้ให้มากๆ ตอนนี้สภากาชาดขาดโลหิตอย่างหนักครับ
ผมเองก็บริจาคไปแล้ว 40 ครั้ง
อยากให้ทุกๆคน ในบอร์ดนี้ สร้างกุศลอันนี้ให้มากๆ ตอนนี้สภากาชาดขาดโลหิตอย่างหนักครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
nano
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 21
ในชีวิตหนึ่งน่าลองสักหนนะครับ แล้วเราจะได้เข็มของกาชาดเป็นที่ระลึกJeng เขียน: อืม ผมไม่เคยบริจาคเลือดเลย
ผมกลัว กลัวอะไร ไม่รู้ซิ กลัวเจอเอดมั๊ง
เออ จริงๆแล้ว ผมตรวจเอดไป 4 รอบแล้ว แต่ก็ยังกลัวการบริจาคเลือดอยู่ดี
อิอิ
เป็นเครื่องหมาย ว่าครั้งหนึ่งที่เราได้สละเลือดเป็นทาน
และรู้สึกภูมิใจที่เราสามารถชนะใจตนเองได้
-เข็มที่ใช้จะเป็นของใหม่ ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 22
นานแล้วครับ ครั้งคุณแม่ของผมต้องทำการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลบอกว่าเลือดที่โรงพยาบาลไม่พอ แม้ผมจะบริจาคให้แล้วก็ยังไม่พอ
ทางโรงพยาบาลบอกว่า ผมเคยบริจาคเลือดให้สภากาชาด ลองโทรศัพท์ไปแจ้งขอเลือดดูครับ
ปรากฏว่าทางสภากาชาดก็ให้เลือดมาครับ ผมคิดว่าคงเหมือนกับเราเคยบริจาคเลือดช่วยผู้อื่นมามาก เมื่อเราหรือคนใกล้ชิดต้องการเลือดทางสภากาชาดเลยให้ก่อนนะครับ (คิดเองนะครับ)
ดังนั้นเวลาเราบริจาคเลือดก็เหมือนกับเรากำลังสำรองเลือดให้ตัวเราเองหรือคนใกล้ชิด เพื่ออนาคตจำเป็นต้องการใช้เลือดจะได้มีใช้ครับ
แต่จริงๆแล้ว เวลาให้เลือดแล้วคิดถึงคนที่ได้รับเลือดจากเรา เราก็มีความสุขแล้วครับ เคยดูคนค้นคนตอนหนึ่ง ที่เกี่ยวกับเด็กที่เป็นโรคที่ต้องรับเลือดบ่อยๆเพื่อยืดชีวิตนะครับ ดูแล้วรู้เลยว่าเลือดที่เราบริจาคนั้นมีค่าเพียงใดสำหรับผู้ที่ต้องการ
การบริจาคเลือดไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ ครั้งแรกอาจจะเสียวๆบ้าง แต่ให้บ่อยๆและคิดถึงคนที่ต้องการเลือดเพื่อยืดชีวิตก็เลิกเสียวครับ
ทางโรงพยาบาลบอกว่า ผมเคยบริจาคเลือดให้สภากาชาด ลองโทรศัพท์ไปแจ้งขอเลือดดูครับ
ปรากฏว่าทางสภากาชาดก็ให้เลือดมาครับ ผมคิดว่าคงเหมือนกับเราเคยบริจาคเลือดช่วยผู้อื่นมามาก เมื่อเราหรือคนใกล้ชิดต้องการเลือดทางสภากาชาดเลยให้ก่อนนะครับ (คิดเองนะครับ)
ดังนั้นเวลาเราบริจาคเลือดก็เหมือนกับเรากำลังสำรองเลือดให้ตัวเราเองหรือคนใกล้ชิด เพื่ออนาคตจำเป็นต้องการใช้เลือดจะได้มีใช้ครับ
แต่จริงๆแล้ว เวลาให้เลือดแล้วคิดถึงคนที่ได้รับเลือดจากเรา เราก็มีความสุขแล้วครับ เคยดูคนค้นคนตอนหนึ่ง ที่เกี่ยวกับเด็กที่เป็นโรคที่ต้องรับเลือดบ่อยๆเพื่อยืดชีวิตนะครับ ดูแล้วรู้เลยว่าเลือดที่เราบริจาคนั้นมีค่าเพียงใดสำหรับผู้ที่ต้องการ
การบริจาคเลือดไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ ครั้งแรกอาจจะเสียวๆบ้าง แต่ให้บ่อยๆและคิดถึงคนที่ต้องการเลือดเพื่อยืดชีวิตก็เลิกเสียวครับ
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 23
ขอบคุณครับ คุณ nano กับคุณฉัตรชัยที่แนะนำให้ทำความดี
จริงๆแล้วสมัยเรียน เพื่อนๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็บริจาคกันประจำ
ผมก็มะเคย
ตอนปี 4 ผมเองก็ต้องไปเจาะเลือดคนที่มาบริจาค เป็นรถคันใหญ่หน่อย วิ่งไปที่ข้างๆธรรมศาสตร์ ก็มีคนมาบริจาคเรื่อยๆ เราก็เจาะไปเรื่อยๆ
และรู้สึกดีมากที่ มีคนที่มีความเป็นมนุษย์ชั้นเลิศ คือ อุทิศแม้กระทั่งเลือดเนื้อของตัวเองเพื่อผู้อื่น
หลายคนมีประวัติการบริจาคยาวนาน
อืม แต่ผมก็ยังไม่เคย
จริงๆแล้วสมัยเรียน เพื่อนๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็บริจาคกันประจำ
ผมก็มะเคย
ตอนปี 4 ผมเองก็ต้องไปเจาะเลือดคนที่มาบริจาค เป็นรถคันใหญ่หน่อย วิ่งไปที่ข้างๆธรรมศาสตร์ ก็มีคนมาบริจาคเรื่อยๆ เราก็เจาะไปเรื่อยๆ
และรู้สึกดีมากที่ มีคนที่มีความเป็นมนุษย์ชั้นเลิศ คือ อุทิศแม้กระทั่งเลือดเนื้อของตัวเองเพื่อผู้อื่น
หลายคนมีประวัติการบริจาคยาวนาน
อืม แต่ผมก็ยังไม่เคย
-
Viewtiful Investor
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 25
ปกติบริจาคทุก 3 เดือน แต่ยังไม่ถึง 10 ครั้งเลยครับ ไปอยู่เมืองนอกเอาแต่กินๆนอนๆเรียนๆ
ที่แปลกก็คือผมบริจาคที่กาชาดได้ แต่ตอนที่น้องสาวผ่าตัดขา ที่ รร. รามา กะจะเอาเลือดผมให้น้อง แต่หมอบอกว่าผมเคยกินเนื้อวัวตอนอยู่ Germany มีสิทธิเป็นพาหะโรควัวบ้า -_-'
อิอิ ใครได้เลือดผมไปก็เตรียมตัวร้อง มอ มอ ละกัน
ที่แปลกก็คือผมบริจาคที่กาชาดได้ แต่ตอนที่น้องสาวผ่าตัดขา ที่ รร. รามา กะจะเอาเลือดผมให้น้อง แต่หมอบอกว่าผมเคยกินเนื้อวัวตอนอยู่ Germany มีสิทธิเป็นพาหะโรควัวบ้า -_-'
อิอิ ใครได้เลือดผมไปก็เตรียมตัวร้อง มอ มอ ละกัน
I do not sleep. I dream.
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 27
[quote="Tiger"][quote="Tiger"]เคยลองสอบถามไปสองเที่ยวแล้วครับว่าบริจาคเยอะ
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 28
ส่วนลด 50% มั้งคับ
-
Tao Investor
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
อยากชักชวนเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันครับ
โพสต์ที่ 29
ตามที่ผมเข้าใจนะครับ
ว่าตอนนี้ สภากาชาด มีเลือดเหลือไม่เพียงพอ กับการให้บริการผู้ป่วย
ทำไม ถึงไม่มีการจัดทำธนาคารเลือดขึ้นมาล่ะครับ
จริงอยู่ว่าเลือดมันมีวันหมดอายุ
แต่พอเวลาเราใช้จริงๆ ก็คง ไม่แห่กันไปถอนเลือดออกมาพร้อมๆ กันหรอกนะครับ
น่าจะทำเหมือนฝากเงิน แล้วลงตัวเลขไว้ก็ได้
เลือดมันจะได้พอใช้ไงครับ
เวลาร่างกายแข็งแรง ก็ ไป เก็บไว้
พอต้องการใช้ ก็ ถอน ออกมาใช้
จะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบ เพื่อนมนุษย์
ช่วยๆ กัน ครับ ^^
ว่าตอนนี้ สภากาชาด มีเลือดเหลือไม่เพียงพอ กับการให้บริการผู้ป่วย
ทำไม ถึงไม่มีการจัดทำธนาคารเลือดขึ้นมาล่ะครับ
จริงอยู่ว่าเลือดมันมีวันหมดอายุ
แต่พอเวลาเราใช้จริงๆ ก็คง ไม่แห่กันไปถอนเลือดออกมาพร้อมๆ กันหรอกนะครับ
น่าจะทำเหมือนฝากเงิน แล้วลงตัวเลขไว้ก็ได้
เลือดมันจะได้พอใช้ไงครับ
เวลาร่างกายแข็งแรง ก็ ไป เก็บไว้
พอต้องการใช้ ก็ ถอน ออกมาใช้
จะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบ เพื่อนมนุษย์
ช่วยๆ กัน ครับ ^^
Inmagination is more importan than knowledge
ล็อคหัวข้อ
32 โพสต์
of 2
ต่อไป
ต่อไป
บันทึกไม่สำเร็จ