ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 1
สำนักนายกฯแถลง สมเด็จญาณฯ ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชแต่เพียงพระองค์เดียว
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2548 19:07 น.
สำนักนายกรัฐมนตรีออกคำชี้แจง ยืนยันสมเด็จพระญาณสังวรฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่เพียงพระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ ทำหน้าที่แทนชั่วคราวเท่านั้น
วันนี้ (3 พ.ย.) สำนักนายกรัฐมนตรี ออกคำชี้แจงกรณีเรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แจงเหตุที่ต้องชี้แจงเพราะยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อน ยืนยันสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกของประเทศไทยอยู่แต่พระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราวเท่านั้น
คำชี้แจงดังกล่าวระบุว่า ตามที่มหาเถรสมาคมมีมติ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ให้แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในระหว่างที่ประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้น ยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว แม้รัฐบาลจะได้เคยชี้แจงมาแล้วก็ตาม จึงขอชี้แจงเพื่อความเข้าใจอันถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
1.ในปัจจุบัน สมเด็จพระญาณสังวร สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ยังทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แต่เพียงพระองค์เดียวของประเทศไทย จึงขอให้ทุกฝ่ายถวายความเคารพและพระเกียรติอย่างสูงตามกฎหมาย ประเพณี และหลักศาสนาปฏิบัติอันดีงามของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
2. อย่างไรก็ตาม โดยที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระชนมายุถึง 92 พรรษา อีกทั้งการที่ได้ทรงบริหารงานคณะสงฆ์และทรงบำเพ็ญศาสนกิจ อุทิศพระองค์ทรงตรากตรำเพื่อประโยชน์สุขของพุทธศาสนิกชนอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลานาน เป็นเหตุให้ในระยะหลังมานี้พระสุขภาพไม่สู้เป็นปกติ คณะแพทย์เคยรายงานว่าอาจมีพระอาการประชวรฉับพลันได้ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากภูมิต้านทานของพระองค์ลดลง เนื่องจากพระชนมายุสูง และยังประชวรด้วยพระโรคที่เคยมีมาแต่เดิม แม้พระอาการจะไม่ถึงขนาดรุนแรง และยังทรงบำเพ็ญศาสนกิจบางอย่างได้เป็นปกติก็ตาม
แต่บรรดาพุทธศาสนิกชนก็พากันห่วงใย เห็นว่าหากได้ทรงพักผ่อนและลดภาระในการปฏิบัติงาน ที่นับวันจะหนักมากขึ้น เช่น การปกครองและบัญชาการสังฆมณฑล การประชุมมหาเถรสมาคม ซึ่งต้องใช้เวลาเดือนละหลายครั้ง ครั้งละหลายชั่วโมง การเสด็จไปทรงเปิดปิดการประชุมต่างๆ ซึ่งต้องมีพระดำรัสที่ยาว การรับผู้มาขอเฝ้าที่ต้องมีพระปฏิสันถารด้วยเป็นเวลานาน และการที่ต้องทรงพระอักษรและลงพระนามหรือต้องตัดสินพระทัยในเรื่องที่ยุ่งยาก เป็นต้น ก็น่าจะเป็นการดีต่อพระสุขภาพ
3. เดิมทีมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นควรให้แต่งตั้งสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งก็ได้ทรงมีพระบัญชาว่า ทราบและเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 ต่อมาการแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนด ต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ มหาเถรสมาคมจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2547 มหาเถรสมาคมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมลับ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ให้แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชเป็นคณะบุคคล เพื่อแบ่งเบาภาระ และเพื่อเป็นการรักษาพระเกียรติอีกสถานหนึ่งด้วย มิให้ผู้ใดนำพระลิขิต พระนาม หรือพระดำรัสไปแอบอ้างจนเกิดความเสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศดังที่เคยมีผู้กระทำมาแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ประกอบด้วยพระราชาคณะ รวม 7 รูป จากพระอาราม 7 วัด โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ในฐานะมีอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นการพิจารณาของคณะสงฆ์โดยแท้ รัฐบาลมิได้เป็นผู้เสนอแต่อย่างใด และต่อไปมหาเถรสมาคมอาจเห็นชอบให้หมุนเวียนผู้ดำรงตำแหน่งประธานตามความจำเป็นก็ได้
4. การที่มีผู้บิดเบือนว่า ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสมเด็จพระสังฆราชแล้วก็ดี มีการบังอาจแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชเสียเอง โดยล่วงละเมิดพระราชอำนาจ ไม่ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งก็ดี มีสมเด็จพระสังฆราชสองพระองค์หรือหลายพระองค์ซ้อนกันในเวลาเดียวก็ดี จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกของประเทศไทยอยู่แต่พระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราว และต้องปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น การที่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในรูปของคณะประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะทุกรูปที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งจากฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุตนิกายร่วมกันเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจของคณะบุคคล มิใช่เป็นการใช้อำนาจโดยพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งหรือแต่งตั้งจากนิกายใดนิกายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว ดังที่มีผู้อ้าง
ในการนี้รัฐบาลขอยืนยันว่า กระบวนการดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย คณะสงฆ์ไทยโดยมหาเถรสมาคม อันเป็นองค์กรปกครองสูงสุดก็ได้เห็นว่าการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยและโบราณประเพณี ซึ่งรัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทตามที่กฎหมายกำหนดด้วยแล้ว
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2548 19:07 น.
สำนักนายกรัฐมนตรีออกคำชี้แจง ยืนยันสมเด็จพระญาณสังวรฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่เพียงพระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ ทำหน้าที่แทนชั่วคราวเท่านั้น
วันนี้ (3 พ.ย.) สำนักนายกรัฐมนตรี ออกคำชี้แจงกรณีเรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แจงเหตุที่ต้องชี้แจงเพราะยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อน ยืนยันสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกของประเทศไทยอยู่แต่พระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราวเท่านั้น
คำชี้แจงดังกล่าวระบุว่า ตามที่มหาเถรสมาคมมีมติ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ให้แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในระหว่างที่ประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้น ยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว แม้รัฐบาลจะได้เคยชี้แจงมาแล้วก็ตาม จึงขอชี้แจงเพื่อความเข้าใจอันถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
1.ในปัจจุบัน สมเด็จพระญาณสังวร สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ยังทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แต่เพียงพระองค์เดียวของประเทศไทย จึงขอให้ทุกฝ่ายถวายความเคารพและพระเกียรติอย่างสูงตามกฎหมาย ประเพณี และหลักศาสนาปฏิบัติอันดีงามของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
2. อย่างไรก็ตาม โดยที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระชนมายุถึง 92 พรรษา อีกทั้งการที่ได้ทรงบริหารงานคณะสงฆ์และทรงบำเพ็ญศาสนกิจ อุทิศพระองค์ทรงตรากตรำเพื่อประโยชน์สุขของพุทธศาสนิกชนอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลานาน เป็นเหตุให้ในระยะหลังมานี้พระสุขภาพไม่สู้เป็นปกติ คณะแพทย์เคยรายงานว่าอาจมีพระอาการประชวรฉับพลันได้ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากภูมิต้านทานของพระองค์ลดลง เนื่องจากพระชนมายุสูง และยังประชวรด้วยพระโรคที่เคยมีมาแต่เดิม แม้พระอาการจะไม่ถึงขนาดรุนแรง และยังทรงบำเพ็ญศาสนกิจบางอย่างได้เป็นปกติก็ตาม
แต่บรรดาพุทธศาสนิกชนก็พากันห่วงใย เห็นว่าหากได้ทรงพักผ่อนและลดภาระในการปฏิบัติงาน ที่นับวันจะหนักมากขึ้น เช่น การปกครองและบัญชาการสังฆมณฑล การประชุมมหาเถรสมาคม ซึ่งต้องใช้เวลาเดือนละหลายครั้ง ครั้งละหลายชั่วโมง การเสด็จไปทรงเปิดปิดการประชุมต่างๆ ซึ่งต้องมีพระดำรัสที่ยาว การรับผู้มาขอเฝ้าที่ต้องมีพระปฏิสันถารด้วยเป็นเวลานาน และการที่ต้องทรงพระอักษรและลงพระนามหรือต้องตัดสินพระทัยในเรื่องที่ยุ่งยาก เป็นต้น ก็น่าจะเป็นการดีต่อพระสุขภาพ
3. เดิมทีมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นควรให้แต่งตั้งสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งก็ได้ทรงมีพระบัญชาว่า ทราบและเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 ต่อมาการแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนด ต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ มหาเถรสมาคมจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2547 มหาเถรสมาคมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมลับ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ให้แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชเป็นคณะบุคคล เพื่อแบ่งเบาภาระ และเพื่อเป็นการรักษาพระเกียรติอีกสถานหนึ่งด้วย มิให้ผู้ใดนำพระลิขิต พระนาม หรือพระดำรัสไปแอบอ้างจนเกิดความเสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศดังที่เคยมีผู้กระทำมาแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ประกอบด้วยพระราชาคณะ รวม 7 รูป จากพระอาราม 7 วัด โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ในฐานะมีอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นการพิจารณาของคณะสงฆ์โดยแท้ รัฐบาลมิได้เป็นผู้เสนอแต่อย่างใด และต่อไปมหาเถรสมาคมอาจเห็นชอบให้หมุนเวียนผู้ดำรงตำแหน่งประธานตามความจำเป็นก็ได้
4. การที่มีผู้บิดเบือนว่า ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสมเด็จพระสังฆราชแล้วก็ดี มีการบังอาจแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชเสียเอง โดยล่วงละเมิดพระราชอำนาจ ไม่ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งก็ดี มีสมเด็จพระสังฆราชสองพระองค์หรือหลายพระองค์ซ้อนกันในเวลาเดียวก็ดี จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกของประเทศไทยอยู่แต่พระองค์เดียว ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราว และต้องปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น การที่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในรูปของคณะประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะทุกรูปที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งจากฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุตนิกายร่วมกันเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจของคณะบุคคล มิใช่เป็นการใช้อำนาจโดยพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งหรือแต่งตั้งจากนิกายใดนิกายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว ดังที่มีผู้อ้าง
ในการนี้รัฐบาลขอยืนยันว่า กระบวนการดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย คณะสงฆ์ไทยโดยมหาเถรสมาคม อันเป็นองค์กรปกครองสูงสุดก็ได้เห็นว่าการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยและโบราณประเพณี ซึ่งรัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทตามที่กฎหมายกำหนดด้วยแล้ว
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 4
เดี่ยวจะรอดู เมืองไทยฯ วันนี้ซักหน่อยเดี๋ยว ต้นสนไม่ลู่ลม ก็เอามาดัดแปลงด่าต่อจนได้แหละ เชื่อเหอะ
หากไม่มีเรื่องนี้มาพูดอีก ก็ต้องตบมือให้ และผมคงต้องมองดีๆเรื่องการทำหน้าที่ detector ของเฮียแกเสียใหม่ครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 5
ชัดเจนครับ มีสมเด็จพระสังฆราชเพียงองค์เดียวแต่แรก
แต่ผมยังสงสัย คือว่า ปัจจุบันก็ยังมีคณะบุคคล (คณะสงฆ์)
ปฏิบัติหน้าที่แทนใช่ไหมครับ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่แทนถึงเมื่อไร
และหากสมเด็จพระสังฆราช มีพระประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้นเอง
จะทำอย่างไร
อีกประการ จะทราบได้อย่างไรครับว่า คณะสงฆ์ที่ปฏิบัติหน้าแทน
จะปฏิบัติต้องตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราช
ผมแค่สงสัยนะครับ ไม่ได้มีความเห็นแย้งแต่ประการใด :?: :?:
แต่ผมยังสงสัย คือว่า ปัจจุบันก็ยังมีคณะบุคคล (คณะสงฆ์)
ปฏิบัติหน้าที่แทนใช่ไหมครับ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่แทนถึงเมื่อไร
และหากสมเด็จพระสังฆราช มีพระประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้นเอง
จะทำอย่างไร
อีกประการ จะทราบได้อย่างไรครับว่า คณะสงฆ์ที่ปฏิบัติหน้าแทน
จะปฏิบัติต้องตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราช
ผมแค่สงสัยนะครับ ไม่ได้มีความเห็นแย้งแต่ประการใด :?: :?:
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 6
เป็นคณะกรรมการจาก มหาเถระสมาคมครับ โดยเป็นพระชั้นสมเด็จครับ
หากท่านมีพระประสงค์จะปฎิบัติหน้าที่เอง ก็สามารถทำได้ครับ (หมายถึงว่าหากทรงมีดำริ ด้วยพระองค์เอง ไม่ใช่แต่ก่อนที่มีเรื่องราวการแอบอ้างจากบุคคลใกล้ชิด)
ผมคิดว่า ไว้วางใจได้เยอะเลยครับ ในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ เพราะพระสังฆราชจะได้รับการแต่งตั้งก็ต้องมาจากคณะกรรมการเช่นกัน ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนเป็นคณะกรรมเป็นหมู่คณะ ทั้งจากมหานิกายและธรรมยุติ เรื่องต่างๆจะต้องมีการปรึกษาหารือในโต๊ะประชุมครับ
"ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราว และต้องปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น การที่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในรูปของคณะประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะทุกรูปที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งจากฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุตนิกายร่วมกันเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจของคณะบุคคล มิใช่เป็นการใช้อำนาจโดยพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งหรือแต่งตั้งจากนิกายใดนิกายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว ดังที่มีผู้อ้าง "
หากท่านมีพระประสงค์จะปฎิบัติหน้าที่เอง ก็สามารถทำได้ครับ (หมายถึงว่าหากทรงมีดำริ ด้วยพระองค์เอง ไม่ใช่แต่ก่อนที่มีเรื่องราวการแอบอ้างจากบุคคลใกล้ชิด)
ผมคิดว่า ไว้วางใจได้เยอะเลยครับ ในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ เพราะพระสังฆราชจะได้รับการแต่งตั้งก็ต้องมาจากคณะกรรมการเช่นกัน ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนเป็นคณะกรรมเป็นหมู่คณะ ทั้งจากมหานิกายและธรรมยุติ เรื่องต่างๆจะต้องมีการปรึกษาหารือในโต๊ะประชุมครับ
"ส่วนสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นเป็นเพียงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่แทนชั่วคราว และต้องปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น การที่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในรูปของคณะประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะทุกรูปที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งจากฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุตนิกายร่วมกันเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจของคณะบุคคล มิใช่เป็นการใช้อำนาจโดยพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งหรือแต่งตั้งจากนิกายใดนิกายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว ดังที่มีผู้อ้าง "
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 7
แต่จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้คุณสนธิที่เรียกร้อง อย่างต่อเนื่องเหมือนกันนะ โป้ง เพราะไม่มีคุณสนธิ พวกเราก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน และการที่รัฐบาลถึงขั้นยอมจำนนแบบนี้ก็แสดงว่า มีความผิดจริง แต่กำลังหาทางออกสวยๆ
อย่างไรก็ตามเราก็ไม่รู้หรอกว่า การที่คุณสนธิ เอาเรื่องต่างๆมาลุยกับรัฐบาลแบบกัดไม่ปล่อยแบบนี้ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง และอาจจะมีบางเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริหรือเปล่าบ้าง
ไม่รู้จริงๆว่า อะไรเป็นแรงจูงใจให้คุณสนธิ ลุยขนาดนั้น
อืม เมื่อวานมีข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการโดนระเบิด
อย่างไรก็ตามเราก็ไม่รู้หรอกว่า การที่คุณสนธิ เอาเรื่องต่างๆมาลุยกับรัฐบาลแบบกัดไม่ปล่อยแบบนี้ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง และอาจจะมีบางเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริหรือเปล่าบ้าง
ไม่รู้จริงๆว่า อะไรเป็นแรงจูงใจให้คุณสนธิ ลุยขนาดนั้น
อืม เมื่อวานมีข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการโดนระเบิด
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 8
โอ้โห ยังไม่จบครับ วันนี้มีเรื่องนี้พูดแน่นอนครับ
เปิดหลักฐานจับโกหก แถลงการณ์สำนักนายกฯ แอบอ้างสมเด็จพระสังฆราช
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2548 11:35 น.
เผยหลักฐานจะจะ สำนักนายกฯโกหกอีกแล้ว อ้างสมเด็จพระสังฆราชลงนามในพระบัญชา ทราบและเห็นชอบ กับการตั้ง สมเด็จเกี่ยว เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน แท้ที่จริงแล้วเป็นการเสนอหลัง วิษณุ ลงนามไปก่อนแล้ว 2 วัน สมเด็จพระสังฆราชทิ้งไว้ 13 วัน แล้วไม่ลงพระนาม ทรงมีพระลิขิตอักษรตัวหนึ่งแล้วขีดฆ่าออก
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ เรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2548 โดยมีความสำคัญตอนหนึ่งอ้างว่า สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ได้ลงนามในพระบัญชารับทราบและเห็นชอบด้วยกับการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547
โดยทรงมีพระบัญชาว่า ทราบและเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 นั้น
เป็นการโกหกโดยสิ้นเชิง
สมเด็จพระสังฆราชไม่เคยทรงลงพระนาม มีแต่การลงนามของพระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น ที่ส่งไปถึงพล.ต.ท.อุดม เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ที่ทำหนังสือขอรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 ตามหนังสือ ที่ พศ 0006/3
และข้อความ ขอให้ดำเนินการต่อไป ของพระเทพสารเวทีนั้น ก็ไม่อาจตีความได้ว่าสมเด็จพระสังฆราชทราบและเห็นชอบ
ในส่วนข้อความ ทราบและเห็นชอบ ที่ตั้งแทนเพื่อให้สมเด็จพระสังฆราชลงพระนาม อันเป็นที่มาแห่งข้ออ้างในการโกหกของแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นลายมือเขียนของพระเทพสารเวทีเช่นกัน โดยไม่มีการลงพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชแต่ประการใด แต่มีร่องรอยว่าพระองค์ได้มีพระลิขิตเป็นตัวอักษรขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วขีดฆ่าออก
ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการแสดงว่า ทราบและเห็นชอบ แล้วยังอาจตีความว่าพระองค์ ไม่เห็นชอบ ด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นที่แถลงการณ์โกหกฉบับเดียวกันนี้พยายามโยนให้เรื่องของมหาเถรสมาคมว่า ...เดิมทีมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นควรให้แต่งตั้งสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช... นั้น ก็เป็นการ อ้างพระ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ปิดบังการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดประเพณีของนายวิษณุ เครืองามเท่านั้น
ความจริงในเรื่องนี้มีว่า มหาเถรสมาคมประชุมเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2547 เพื่อให้มี คณะกรองงานของสมเด็จพระสังฆราช แต่นายวิษณุ เครืองามเสนอให้ที่ประชุมให้มีผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มหาเถรสมาคมจึงให้นายวิษณุ เครืองามไปดูหลักกฎหมายตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 ก่อน ไม่ได้มีมติเห็นชอบด้วยแต่ประการใด
จากนั้น ในวันที่ 13 มกราคม 2547 นายวิษณุ เครืองามจึงได้ลงนามเองในประกาศแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โดยอ้างพระอาการประชวร
และลงประกาศฉบับประวัติศาสตร์นั้นในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547
อันเป็นวันเดียวกับที่พล.ต.ท.อุดม เจริญทำหนังสือขอพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชดังกล่าว
สรุปการผิดขั้นตอน
ของกระบวนการประกาศแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 47 มส.ประชุมเพื่อให้มีคณะกรรมการกรองงานของสมเด็จพระสังฆราช แต่นายวิษณุ เสนอให้มีผู้สำเร็จราชการสมเด็จพระสังฆราช มส.จึงให้นายวิษณุไปดูหลักกฎหมาย ตามพรบ.สงฆ์ 2505 ฉบับแก้ไข 2535 เสียก่อน
ครั้นวันที่ 13 ม.ค. 2547 นายวิษณุอ้างข้อเท็จจริงอาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราช ออกประกาศแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 และมาตรา 10 แห่ง พรบ.สงฆ์
วันที่ 15 ม.ค. 47 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค. 47 มีการประชุม มส.ตามปกติ พล.ต.ท.อุดม เจริญ นำประกาศแต่งตั้งฯ ที่นายวิษณุประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว(15 ม.ค. 47)
(1) ทราบและอนุโมทนา และ
(2) ขอให้ปฏิบัติตามมาตรา 10 แห่ง พรบ.สงฆ์
(3) ถวายให้สมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
(4) ให้มีพระราชาคณะ 5 รูป เป็นผู้ช่วยผู้ปฏิบัติหน้าที่
(5) ให้รัฐบาลรับไปจัดทำประกาศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 47 พล.ต.ท.อุดม เลขิการ มส.นำประกาศแต่งตั้งฯไปส่งมอบให้พระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ เพื่อขอพระบัญชา สมเด็จพระสังฆราช
เมื่อ 26 ม.ค. 2547 พระเทพสารเวทีนำหนังสือขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเพื่อทราบ (ไม่มีหลักฐานปรากฏลงนามที่ชัดเจน) แต่พระเทพสารเวทีได้ลงนามถึงพล.ต.ท.อุม ผอ.สำนักพุทธฯ ขอให้ดำเนินการต่อไปได้
วันที่ 30 ม.ค. 47 พล.ต.ท.อุดม เลขิการ มส.ทำหนังสือแจ้ง มส.ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงทราบและเห็นชอบ ซึ่งเป็นความเท็จ (ดูบันทึกข้อราชการ)ที่แนบวาระ 4.1
สรุป การที่ มส.อนุโมทนา แต่งตั้ง - เสนอสมเด็จพระสังฆราช ล้วนแล้วแต่กระทำภายหลังวันที่ 13 ม.ค. 47 ทั้งสิ้น
หนังสือ ขอรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ที่ พศ 0006/3 วันที่ 15 มกราคม 2547 ที่สมเด็จพระสังฆราชไม่ได้ลงพระนามในช่องพระบัญชา (บนขวา) แต่ประการใด มีแต่เสมือนตัวอักษรตัวหนึ่งที่ถูกขีดฆ่าออกเท่านั้น ลายมือเขียนตั้งแท่น ทราบและเห็นชอบ เป็นของพระเทพสารเวที เลขานุการ (โปรดเปรียบเทียบกับลายมือของท่านเจ้าคุณฯตอนล่าง) การแอบอ้างว่าสมเด็จพระสังฆราชทรง ทราบและเห็นชอบ จึงเป็นการโกหก
เปิดหลักฐานจับโกหก แถลงการณ์สำนักนายกฯ แอบอ้างสมเด็จพระสังฆราช
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2548 11:35 น.
เผยหลักฐานจะจะ สำนักนายกฯโกหกอีกแล้ว อ้างสมเด็จพระสังฆราชลงนามในพระบัญชา ทราบและเห็นชอบ กับการตั้ง สมเด็จเกี่ยว เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน แท้ที่จริงแล้วเป็นการเสนอหลัง วิษณุ ลงนามไปก่อนแล้ว 2 วัน สมเด็จพระสังฆราชทิ้งไว้ 13 วัน แล้วไม่ลงพระนาม ทรงมีพระลิขิตอักษรตัวหนึ่งแล้วขีดฆ่าออก
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ เรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2548 โดยมีความสำคัญตอนหนึ่งอ้างว่า สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ได้ลงนามในพระบัญชารับทราบและเห็นชอบด้วยกับการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547
โดยทรงมีพระบัญชาว่า ทราบและเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 นั้น
เป็นการโกหกโดยสิ้นเชิง
สมเด็จพระสังฆราชไม่เคยทรงลงพระนาม มีแต่การลงนามของพระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น ที่ส่งไปถึงพล.ต.ท.อุดม เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ที่ทำหนังสือขอรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 ตามหนังสือ ที่ พศ 0006/3
และข้อความ ขอให้ดำเนินการต่อไป ของพระเทพสารเวทีนั้น ก็ไม่อาจตีความได้ว่าสมเด็จพระสังฆราชทราบและเห็นชอบ
ในส่วนข้อความ ทราบและเห็นชอบ ที่ตั้งแทนเพื่อให้สมเด็จพระสังฆราชลงพระนาม อันเป็นที่มาแห่งข้ออ้างในการโกหกของแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นลายมือเขียนของพระเทพสารเวทีเช่นกัน โดยไม่มีการลงพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชแต่ประการใด แต่มีร่องรอยว่าพระองค์ได้มีพระลิขิตเป็นตัวอักษรขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วขีดฆ่าออก
ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการแสดงว่า ทราบและเห็นชอบ แล้วยังอาจตีความว่าพระองค์ ไม่เห็นชอบ ด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นที่แถลงการณ์โกหกฉบับเดียวกันนี้พยายามโยนให้เรื่องของมหาเถรสมาคมว่า ...เดิมทีมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นควรให้แต่งตั้งสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช... นั้น ก็เป็นการ อ้างพระ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ปิดบังการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดประเพณีของนายวิษณุ เครืองามเท่านั้น
ความจริงในเรื่องนี้มีว่า มหาเถรสมาคมประชุมเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2547 เพื่อให้มี คณะกรองงานของสมเด็จพระสังฆราช แต่นายวิษณุ เครืองามเสนอให้ที่ประชุมให้มีผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มหาเถรสมาคมจึงให้นายวิษณุ เครืองามไปดูหลักกฎหมายตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 ก่อน ไม่ได้มีมติเห็นชอบด้วยแต่ประการใด
จากนั้น ในวันที่ 13 มกราคม 2547 นายวิษณุ เครืองามจึงได้ลงนามเองในประกาศแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โดยอ้างพระอาการประชวร
และลงประกาศฉบับประวัติศาสตร์นั้นในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547
อันเป็นวันเดียวกับที่พล.ต.ท.อุดม เจริญทำหนังสือขอพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชดังกล่าว
สรุปการผิดขั้นตอน
ของกระบวนการประกาศแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 47 มส.ประชุมเพื่อให้มีคณะกรรมการกรองงานของสมเด็จพระสังฆราช แต่นายวิษณุ เสนอให้มีผู้สำเร็จราชการสมเด็จพระสังฆราช มส.จึงให้นายวิษณุไปดูหลักกฎหมาย ตามพรบ.สงฆ์ 2505 ฉบับแก้ไข 2535 เสียก่อน
ครั้นวันที่ 13 ม.ค. 2547 นายวิษณุอ้างข้อเท็จจริงอาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราช ออกประกาศแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 และมาตรา 10 แห่ง พรบ.สงฆ์
วันที่ 15 ม.ค. 47 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค. 47 มีการประชุม มส.ตามปกติ พล.ต.ท.อุดม เจริญ นำประกาศแต่งตั้งฯ ที่นายวิษณุประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว(15 ม.ค. 47)
(1) ทราบและอนุโมทนา และ
(2) ขอให้ปฏิบัติตามมาตรา 10 แห่ง พรบ.สงฆ์
(3) ถวายให้สมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
(4) ให้มีพระราชาคณะ 5 รูป เป็นผู้ช่วยผู้ปฏิบัติหน้าที่
(5) ให้รัฐบาลรับไปจัดทำประกาศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 47 พล.ต.ท.อุดม เลขิการ มส.นำประกาศแต่งตั้งฯไปส่งมอบให้พระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ เพื่อขอพระบัญชา สมเด็จพระสังฆราช
เมื่อ 26 ม.ค. 2547 พระเทพสารเวทีนำหนังสือขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเพื่อทราบ (ไม่มีหลักฐานปรากฏลงนามที่ชัดเจน) แต่พระเทพสารเวทีได้ลงนามถึงพล.ต.ท.อุม ผอ.สำนักพุทธฯ ขอให้ดำเนินการต่อไปได้
วันที่ 30 ม.ค. 47 พล.ต.ท.อุดม เลขิการ มส.ทำหนังสือแจ้ง มส.ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงทราบและเห็นชอบ ซึ่งเป็นความเท็จ (ดูบันทึกข้อราชการ)ที่แนบวาระ 4.1
สรุป การที่ มส.อนุโมทนา แต่งตั้ง - เสนอสมเด็จพระสังฆราช ล้วนแล้วแต่กระทำภายหลังวันที่ 13 ม.ค. 47 ทั้งสิ้น
หนังสือ ขอรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ที่ พศ 0006/3 วันที่ 15 มกราคม 2547 ที่สมเด็จพระสังฆราชไม่ได้ลงพระนามในช่องพระบัญชา (บนขวา) แต่ประการใด มีแต่เสมือนตัวอักษรตัวหนึ่งที่ถูกขีดฆ่าออกเท่านั้น ลายมือเขียนตั้งแท่น ทราบและเห็นชอบ เป็นของพระเทพสารเวที เลขานุการ (โปรดเปรียบเทียบกับลายมือของท่านเจ้าคุณฯตอนล่าง) การแอบอ้างว่าสมเด็จพระสังฆราชทรง ทราบและเห็นชอบ จึงเป็นการโกหก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 9
โห เอาอีกแล้ว วุ๊ย มิน่ารัฐบาลถึงไม่ยอม เราก็งง ว่าตั้งผู้แทนตอนป่วย พอหายป่วย ก็กลับมาทำงาน
ไม่น่าจะมีอะไร เพราะตอนแรกก็มองไม่เห็นว่า เป็นสองสังฆราชตรงไหน
อืม ติดตามกันต่อไป
ว่าแต่ว่า สมัยนี้ ถ่ายรูป เอาหลักฐานมาโชว์กันได้ทันเวลาดีนะ ไม่เหมือนสมัยก่อน
ไม่น่าจะมีอะไร เพราะตอนแรกก็มองไม่เห็นว่า เป็นสองสังฆราชตรงไหน
อืม ติดตามกันต่อไป
ว่าแต่ว่า สมัยนี้ ถ่ายรูป เอาหลักฐานมาโชว์กันได้ทันเวลาดีนะ ไม่เหมือนสมัยก่อน
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 11
เข้ามาเก็บข้อมูลเพิ่มเติมครับ ดูว่างานนี้รัฐบาลจะหาทางลงให้กับตัวเองได้ยังไง (เริ่มมองหาทางลงแล้ว แม้เมื่อก่อนไม่เคยสนใจจะมาทำ หรือเพราะว่าความวัวยังไม่หายความควายที่บอกว่าจะเลือกพัฒนาแต่จังหวัด ทรท.เข้ามาแทรก กลัวว่าจะยิ่งบานปลายชักจะหลายเรื่องเลยต้องรีบมาเคลียร์เรื่องเก่าๆ) เพราะเล่นกระโดดข้ามหัวอะไรต่อมิอะไรมามาก แต่ผมเชื่อว่าเดี๋ยวก็คงมีออกมาบอกด้วยวาทะเด็ด เช่นเคยเหมือนคนพาลตีหัวคนดี แล้วมาพูดว่า อย่ามาหาเรื่องกัน แน้.......กลายเป็นว่า koo ผิดซะเองอีก
I got the newlife HooYa!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 12
ดีครับ นั้นมาดูกัน จะได้รู้กันไปเลยรัฐผิดหรือสนธิหาเรื่อง
อ่านนานเลยครับ งง เหมือนกัน
ตามข้อกล่าวหาความผิดสรุปได้ดังนี้ครับ
1. นายวิษณุทำลัดขั้นตอน
2. ไม่มีลายเซ็น ของสมเด็จพระสังฆราช ในการแต่งตั้ง
ลองมาดูการชี้แจ้งของรัฐบาลดูครับ หากไม่เคลียร์ตามข้อกล่าวหา เป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี งานนี้ถ้าเป็นตามคุณสนธิว่ามา ผมเข้าข้างคุณสนธินะ ถือเป็นการปลอมและลงประกาศสำนักฯ อย่างอุอาจมาก
แต่ถ้างานนี้ไม่เป็นจริงตามข้อกล่าวหา คุณสนธิควรถูกเล่นงานอย่างหนักเช่นกัน ในฐานะทำการให้เกิดการแตกความสามัคคีในชาติ ครับ
อ่านนานเลยครับ งง เหมือนกัน
ตามข้อกล่าวหาความผิดสรุปได้ดังนี้ครับ
1. นายวิษณุทำลัดขั้นตอน
2. ไม่มีลายเซ็น ของสมเด็จพระสังฆราช ในการแต่งตั้ง
ลองมาดูการชี้แจ้งของรัฐบาลดูครับ หากไม่เคลียร์ตามข้อกล่าวหา เป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี งานนี้ถ้าเป็นตามคุณสนธิว่ามา ผมเข้าข้างคุณสนธินะ ถือเป็นการปลอมและลงประกาศสำนักฯ อย่างอุอาจมาก
แต่ถ้างานนี้ไม่เป็นจริงตามข้อกล่าวหา คุณสนธิควรถูกเล่นงานอย่างหนักเช่นกัน ในฐานะทำการให้เกิดการแตกความสามัคคีในชาติ ครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 13
โห ฝ่ายที่มีเอกสารนี้ ก็เก่งนะ เล่นเอาเอกสารมาเปิดตอนนี้
อืม ถือว่ารอจังหวะดี
งานนี้ฝ่ายรัฐบาลเป็นรอง
แต่มีเรื่องที่แปลก ในจังหวะที่นาย ก แทบจะเอาตัวรอดได้ยาก มาก เนื่องจาก กรณี จะช่วยพื้นที่ที่เลือกไทยรักไทยก่อน
แต่ หลวงตาบัว กลับ........มาช่วยนาย ก อีกแล้ว
หาอ่านเอาเอง ไม่อยากวิจารณ์พระแล้ว
อืม ถือว่ารอจังหวะดี
งานนี้ฝ่ายรัฐบาลเป็นรอง
แต่มีเรื่องที่แปลก ในจังหวะที่นาย ก แทบจะเอาตัวรอดได้ยาก มาก เนื่องจาก กรณี จะช่วยพื้นที่ที่เลือกไทยรักไทยก่อน
แต่ หลวงตาบัว กลับ........มาช่วยนาย ก อีกแล้ว
หาอ่านเอาเอง ไม่อยากวิจารณ์พระแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 15
เรื่องการแต่งตั้งรักษาการสมเด็จพระสังฆราชนั้นได้มีชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวได้ต่อสู้ และวิพากษ์รัฐบาลมานานแล้ว คุณสนธิเพิ่งจะหยิบยกขึ้นมาโจมตีรัฐบาลในระยะนี้เอง เนื่องจากผิดใจกับคุณทักษิณ ลองอ่านจากที่นี่ดูจะรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลในประเด็นนี้ตั้งแต่ตันครับ
http://larndham.net/index.php?showforum=5
http://larndham.net/index.php?showforum=5
-
- Verified User
- โพสต์: 577
- ผู้ติดตาม: 0
ได้ข้อสรุปเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช แล้วครับ
โพสต์ที่ 16
สำหรับผมเหลืออีก 1 เรื่องใหญ่ ๆ ครับ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000153207
สำหรับท่านนายก ที่ควรเป็นผู้นำในการแก้ปัญหานี้
สำหรับภาคใต้ นั้น เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนครับ ไม่อาจทิ้งให้ รัฐบาล นายก เพียงอย่างเดียว
:D :D
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000153207
สำหรับท่านนายก ที่ควรเป็นผู้นำในการแก้ปัญหานี้
สำหรับภาคใต้ นั้น เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนครับ ไม่อาจทิ้งให้ รัฐบาล นายก เพียงอย่างเดียว
:D :D