ความเห็นของฝรั่งกับการแปรรูป....
-
- Verified User
- โพสต์: 1260
- ผู้ติดตาม: 0
ความเห็นของฝรั่งกับการแปรรูป....
โพสต์ที่ 1
เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เตือนแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มหันตพลังทำลายชาติ
รายการโลกยามเช้า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เวลา 06.30-06.55 (วันที่ 19 มีนาคม 2547)
ช่วงวิจารณ์หนังสือประจำสัปดาห์ โดย ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ศาสตราจารย์ Joseph Stiglitz (โจเซฟ สติ๊กสิทซ์) เคยเป็นประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นรองประธานอาวุโสของธนาคารโลก ศึกษาปัญหาการพัฒนาตามกระแสโลกาภิวัตน์ ในหมู่ประเทศยากจน กำลังพัฒนามาทั่วโลกอย่างยาวนาน ปัจจุบันสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ. 2001 เป็นผู้รอบรู้และประสบการณ์เรื่องผลกระทบของการพัฒนาที่ตามกระแสโลกาภิวัตน์ว่า ทำลายรากฐานเศรษฐกิจและสังคมของประเทศยากจนและกำลังพัฒนาเพียงไร โดยเฉพาะเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่ทำลายรากฐานการพัฒนาในหลายประเทศไปแล้ว อย่างที่จะให้อภัยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ผู้บงการในฐานะนายทุนเงินกู้ ไม่ได้
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของไอเอ็มเอฟ หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ล้มเหลวในหลายประเทศ เพื่อทำตามสูตรคำแนะนำของ ไอเอ็มเอฟ โดยเร่งเร็ว ขาดความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงหลักการสำคัญพื้นฐาน และผลสุดท้ายก็ร่ำรวยกันเฉพาะคนกลุ่มน้อย คือนักลงทุนต่างชาติ กับนักการเมืองผู้กุมอำนาจสั่งการนโยบายแปรรูป น่าเสียในที่ ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก มองเรื่องแปรรูปโดยอุดมการณ์ที่คับแคบ โดยต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้ได้โดยเร็ว ถึงขั้นเก็บคะแนนกัน ประเทศไหนทำได้มาก ก็ได้คะแนนมาก
ผลลัพธ์ก็คือ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจมักจะไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ตามคำมั่นสัญญา ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวว่า ยิ่งแปรรูปล้มเหลวก็ยิ่งชิงชังความคิดแปรรูปมากขึ้น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เป็นตัวอย่างความล้มเหลวมากที่สุดให้ดูที่รัสเซีย รัสเซียใช้นโยบายตาม ไอเอ็มเอฟ คือแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยไม่ยั้งมือ โดยแปรทุกอย่างที่ขวางหน้า เสียหายเท่าไหร่ไม่สนใจ ต้องแปรรูปให้หมด
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ วิจารณ์ว่า ไม่น่าแปลกใจเลยที่กระบวนการโกงการแปรรูปนั้นออกแบบมาเพื่อให้รัฐมนตรีในรัฐบาลได้กอบโกยผลประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่รัฐ ไม่มีใครคำนึงถึงเรื่องประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ รัสเซียคือตัวอย่างกรณีศึกษาที่พินาศร้ายกาจที่สุด ว่าด้วยเรื่องอันตรายของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจแบบไม่สนใจความเสียหายอะไรทั้งสิ้น
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวย้ำหนักแน่นว่า จะที่ต้องห่วงมากที่สุดในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจก็คือ การทุจริตคอรัปชั่น ท่านบอกว่า หากไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ และหากมีการคอรัปชั่นก็จะกินกันเป็นรายปี เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทีละเล็กทีละน้อย แบ่งกันไปในหมู่นักการเมืองและผู้บริหาร เป็นอย่างนี้ไปตลอด แต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่า การแปรรูปในหลายประเทศได้ผลตรงกันข้ามกับที่อยากได้ จนเรียกกันติดตลกว่า Briberization ไม่ใช่ Privatization เป็นการแปรรูปการติดสินบน ไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีคณะรัฐมนตรีนิสัยโกหก ไม่มีหลักฐานใด ๆ บอกว่า การแปรรูปจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะรัฐบาลที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็เป็นรัฐบาลเดียวกันที่แก้ปัญหาการบริหารรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพไม่ได้ ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ เดินทางไปศึกษาความล้มเหลวในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ท่านกล่าวว่า ประเทศแล้วประเทศเล่า ทุกรัฐบาลรู้ว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจครั้งเดียวหมายถึงการที่จะไม่ต้องมาจำกัดตัวเองให้คอยเก็บเกี่ยวใต้โต๊ะเป็นรายปี โดยการขายรัฐวิสาหกิจต่ำกว่าราคาตลาด นักการเมืองทุจริตสามารถกอบโกยหุ้นมหาศาลให้กับตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้กับนักการเมืองรุ่นถัดไป หมายความว่านักการเมืองคดโกงเหล่านี้ สามารถขโมยความมั่งคั่งจากการขายรัฐวิสาหกิจในวันนี้วันเดียวได้มหาศาล มากกว่าที่จะให้นักการเมืองสมัยหน้าเก็บกินในอนาคต
หัวใจสำคัญของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ บอกว่าอยู่ที่
1. การแข่งขันอย่างเต็มที่
2. การควบคุมโดยรัฐหลังการแปรรูป
รัฐวิสาหกิจใด ๆ ที่แปรรูปแล้วยังไม่มีการแข่งขัน ยังคงการผูกขาดเหมือนเดิม เช่น กิจการสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา และกิจการโทรคมนาคม ต้องไม่แปรรูป เพราะสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าเดิม เพราะการผูกขาดจะย้ายไปอยู่ที่นายทุน นักลงทุนภาคเอกชน ที่ต้องทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
ส่วนการแปรรูปอย่างเร่งด่วน โดยยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการกำกับดูแลหลังการแปรรูปรองรับ ผนวกกับการขาดการแข่งขันเสรี จะทำให้ไม่มีใครกำกับควบคุมใครได้ทั้งสิ้น ทิ้งให้เป็นเสรีภาพในการผูกขาดโดยบริษัทเอกชนโดยสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ รัสเซียและอีกหลาย ๆ ประเทศ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ประสบผลสำเร็จในการเป็นพลังเพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ที่จริงแล้วการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก่อให้เกิดการตกต่ำและพิสูจน์ว่า เป็นมหันตพลังในการทำลายสถาบันประชาธิปไตยและตลาดเศรษฐกิจ
ทรราชมันบังคับ
รายการโลกยามเช้า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เวลา 06.30-06.55 (วันที่ 19 มีนาคม 2547)
ช่วงวิจารณ์หนังสือประจำสัปดาห์ โดย ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ศาสตราจารย์ Joseph Stiglitz (โจเซฟ สติ๊กสิทซ์) เคยเป็นประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นรองประธานอาวุโสของธนาคารโลก ศึกษาปัญหาการพัฒนาตามกระแสโลกาภิวัตน์ ในหมู่ประเทศยากจน กำลังพัฒนามาทั่วโลกอย่างยาวนาน ปัจจุบันสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ. 2001 เป็นผู้รอบรู้และประสบการณ์เรื่องผลกระทบของการพัฒนาที่ตามกระแสโลกาภิวัตน์ว่า ทำลายรากฐานเศรษฐกิจและสังคมของประเทศยากจนและกำลังพัฒนาเพียงไร โดยเฉพาะเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่ทำลายรากฐานการพัฒนาในหลายประเทศไปแล้ว อย่างที่จะให้อภัยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ผู้บงการในฐานะนายทุนเงินกู้ ไม่ได้
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของไอเอ็มเอฟ หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ล้มเหลวในหลายประเทศ เพื่อทำตามสูตรคำแนะนำของ ไอเอ็มเอฟ โดยเร่งเร็ว ขาดความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงหลักการสำคัญพื้นฐาน และผลสุดท้ายก็ร่ำรวยกันเฉพาะคนกลุ่มน้อย คือนักลงทุนต่างชาติ กับนักการเมืองผู้กุมอำนาจสั่งการนโยบายแปรรูป น่าเสียในที่ ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก มองเรื่องแปรรูปโดยอุดมการณ์ที่คับแคบ โดยต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้ได้โดยเร็ว ถึงขั้นเก็บคะแนนกัน ประเทศไหนทำได้มาก ก็ได้คะแนนมาก
ผลลัพธ์ก็คือ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจมักจะไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ตามคำมั่นสัญญา ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวว่า ยิ่งแปรรูปล้มเหลวก็ยิ่งชิงชังความคิดแปรรูปมากขึ้น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เป็นตัวอย่างความล้มเหลวมากที่สุดให้ดูที่รัสเซีย รัสเซียใช้นโยบายตาม ไอเอ็มเอฟ คือแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยไม่ยั้งมือ โดยแปรทุกอย่างที่ขวางหน้า เสียหายเท่าไหร่ไม่สนใจ ต้องแปรรูปให้หมด
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ วิจารณ์ว่า ไม่น่าแปลกใจเลยที่กระบวนการโกงการแปรรูปนั้นออกแบบมาเพื่อให้รัฐมนตรีในรัฐบาลได้กอบโกยผลประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่รัฐ ไม่มีใครคำนึงถึงเรื่องประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ รัสเซียคือตัวอย่างกรณีศึกษาที่พินาศร้ายกาจที่สุด ว่าด้วยเรื่องอันตรายของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจแบบไม่สนใจความเสียหายอะไรทั้งสิ้น
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวย้ำหนักแน่นว่า จะที่ต้องห่วงมากที่สุดในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจก็คือ การทุจริตคอรัปชั่น ท่านบอกว่า หากไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ และหากมีการคอรัปชั่นก็จะกินกันเป็นรายปี เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทีละเล็กทีละน้อย แบ่งกันไปในหมู่นักการเมืองและผู้บริหาร เป็นอย่างนี้ไปตลอด แต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่า การแปรรูปในหลายประเทศได้ผลตรงกันข้ามกับที่อยากได้ จนเรียกกันติดตลกว่า Briberization ไม่ใช่ Privatization เป็นการแปรรูปการติดสินบน ไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีคณะรัฐมนตรีนิสัยโกหก ไม่มีหลักฐานใด ๆ บอกว่า การแปรรูปจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะรัฐบาลที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็เป็นรัฐบาลเดียวกันที่แก้ปัญหาการบริหารรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพไม่ได้ ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ เดินทางไปศึกษาความล้มเหลวในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ท่านกล่าวว่า ประเทศแล้วประเทศเล่า ทุกรัฐบาลรู้ว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจครั้งเดียวหมายถึงการที่จะไม่ต้องมาจำกัดตัวเองให้คอยเก็บเกี่ยวใต้โต๊ะเป็นรายปี โดยการขายรัฐวิสาหกิจต่ำกว่าราคาตลาด นักการเมืองทุจริตสามารถกอบโกยหุ้นมหาศาลให้กับตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้กับนักการเมืองรุ่นถัดไป หมายความว่านักการเมืองคดโกงเหล่านี้ สามารถขโมยความมั่งคั่งจากการขายรัฐวิสาหกิจในวันนี้วันเดียวได้มหาศาล มากกว่าที่จะให้นักการเมืองสมัยหน้าเก็บกินในอนาคต
หัวใจสำคัญของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น ศาสตราจารย์โจเซฟ สติ๊กสิทซ์ บอกว่าอยู่ที่
1. การแข่งขันอย่างเต็มที่
2. การควบคุมโดยรัฐหลังการแปรรูป
รัฐวิสาหกิจใด ๆ ที่แปรรูปแล้วยังไม่มีการแข่งขัน ยังคงการผูกขาดเหมือนเดิม เช่น กิจการสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา และกิจการโทรคมนาคม ต้องไม่แปรรูป เพราะสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าเดิม เพราะการผูกขาดจะย้ายไปอยู่ที่นายทุน นักลงทุนภาคเอกชน ที่ต้องทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
ส่วนการแปรรูปอย่างเร่งด่วน โดยยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการกำกับดูแลหลังการแปรรูปรองรับ ผนวกกับการขาดการแข่งขันเสรี จะทำให้ไม่มีใครกำกับควบคุมใครได้ทั้งสิ้น ทิ้งให้เป็นเสรีภาพในการผูกขาดโดยบริษัทเอกชนโดยสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ รัสเซียและอีกหลาย ๆ ประเทศ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ประสบผลสำเร็จในการเป็นพลังเพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ที่จริงแล้วการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก่อให้เกิดการตกต่ำและพิสูจน์ว่า เป็นมหันตพลังในการทำลายสถาบันประชาธิปไตยและตลาดเศรษฐกิจ
ทรราชมันบังคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ความเห็นของฝรั่งกับการแปรรูป....
โพสต์ที่ 6
น่าจะมาจากหนังสือ Globalization and its discontents
ประเด็นเรื่องนี้คือการแปรรูปต้องเป็นขั้นตอนและต้องกระจายหุ้นอย่างเป็นธรรม
เนื้อหาหลักของหนังสือเป็นการวิจารณ์การทำงานของ IMF กับ World Bank ซะมากกว่านะครับ คนแปลก็เอาส่วนที่ถูกใจมาลงซะนิ
ประเด็นเรื่องนี้คือการแปรรูปต้องเป็นขั้นตอนและต้องกระจายหุ้นอย่างเป็นธรรม
เนื้อหาหลักของหนังสือเป็นการวิจารณ์การทำงานของ IMF กับ World Bank ซะมากกว่านะครับ คนแปลก็เอาส่วนที่ถูกใจมาลงซะนิ
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ความเห็นของฝรั่งกับการแปรรูป....
โพสต์ที่ 7
เท่าที่อ่าน ประเด็น"ไม่ได้อยู่ที่ว่าการแปรรูปเป็นสิ่งไม่ดี" แต่ประเด็นปัญหาโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ "มาตรการ, ระบบ และการตรวจสอบที่จะมารองรับการแปรรูป" และ "ปัญหาคอรัปชั่นในการแปรรูป" มากกว่า แต่การที่สื่อชอบตัดประเด็นออกมา โดยเฉพาะพาดหัวที่บิดเบือนแบบนี้ บอกตามตรงไม่ชอบเลย :evil: