สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 31
แต่ในวิกฤติก็ย่อมมีโอกาส มนุษย์เราทนทุกข์เพราะเชื้อไวรัสมานานแล้ว เราไม่มียาฆ่าไวรัสที่อาศัยอยู่ในตัวคนนะครับ ที่เรารอดมาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะคนเราสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัส และเอาชนะ(ฆ่า)มันได้ ไม่เหมือนเชื้อแบคทีเรียที่เรามียาฆ่าอย่างได้ผล
วงการแพทย์ก็พัฒนามาเรื่อยๆ ปัจจุบันเรามียาฆ่าเชื้อไวรัสตระกูล herpes แล้วส่วนยาที่ฆ่าเชื้อไข้หวัดนกเรายังไม่มี ที่ใช้ TAMIFLU กันก็เพราะมันใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ได้ และเจ้าหวัดนกมันอยู่ตระกูลเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ก็เลยลองใช้แทนกัน
เชื่อว่าช่วงที่หวัดนกกำลังดังๆก็จะทำให้การคิดค้นหายาที่ฆ่าไวรัสตัวนี้มีโอกาสสำเร็จได้มากขึ้น จากปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป้นเรื่องเงินทุน เรื่องกำลังคน และถ้าทำได้ก็อาจจะรุกคืบไปทำกับเชื้อไวรัสตัวอื่นๆอีก
อ้อ......อีกสักสองสามปี โรคไข้เลือดออกที่ทำให้คนตายมากกว่าไข้หวัดนกไม่รู้กี่พันเท่า ก็อาจจะถึงแก่กาลอวสานเหมือนโรคโปลิโอ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก นะครับ เพราะว่าขณะนี้หมอไทยกำลังคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกกันอยู่ ไข้เลือดออกมีอยู่สี่ชนิด เจอวัคซีนแล้วสามชนิดเหลืออีกตัวเดียวก็จะครบและได้ใช้กันแล้ว อันนี้ผลงานระดับโลกนะครับ ประเทศอื่นยังทำไม่ได้ อิอิ
วงการแพทย์ก็พัฒนามาเรื่อยๆ ปัจจุบันเรามียาฆ่าเชื้อไวรัสตระกูล herpes แล้วส่วนยาที่ฆ่าเชื้อไข้หวัดนกเรายังไม่มี ที่ใช้ TAMIFLU กันก็เพราะมันใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ได้ และเจ้าหวัดนกมันอยู่ตระกูลเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ก็เลยลองใช้แทนกัน
เชื่อว่าช่วงที่หวัดนกกำลังดังๆก็จะทำให้การคิดค้นหายาที่ฆ่าไวรัสตัวนี้มีโอกาสสำเร็จได้มากขึ้น จากปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป้นเรื่องเงินทุน เรื่องกำลังคน และถ้าทำได้ก็อาจจะรุกคืบไปทำกับเชื้อไวรัสตัวอื่นๆอีก
อ้อ......อีกสักสองสามปี โรคไข้เลือดออกที่ทำให้คนตายมากกว่าไข้หวัดนกไม่รู้กี่พันเท่า ก็อาจจะถึงแก่กาลอวสานเหมือนโรคโปลิโอ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก นะครับ เพราะว่าขณะนี้หมอไทยกำลังคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกกันอยู่ ไข้เลือดออกมีอยู่สี่ชนิด เจอวัคซีนแล้วสามชนิดเหลืออีกตัวเดียวก็จะครบและได้ใช้กันแล้ว อันนี้ผลงานระดับโลกนะครับ ประเทศอื่นยังทำไม่ได้ อิอิ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 32
ลืมตอบคำถามข้อสุดท้ายของท่านฉัตรชัย
เช่น สมมติว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับไก่แม้แต่นิดเดียวจริงๆให้ดิ้นตาย ก็ยังมีคำถามต่อว่า แล้วนกหละ แล้วอย่างอื่นหละ ซึ่งแค่ออกจากบ้านก็มีโอกาสได้รับเชื้อจากนกจากละอองไอน้ำหรืออย่างอื่นแล้วหละ แม้โอกาสจะน้อยมากก็ตาม
ที่เวียดนามที่สงสัยว่าติดจากคน จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครกล้ายืนยัน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่ามีโอกาสถูก 80 % แล้วจะสรุปได้เลย ในแง่วิชาการมันต้องร้อยเปอร์เซนต์ไม่อย่างนั้น วิชาการก็เละเทะหมด
การสรุปที่แน่นอนว่ามีหรือไม่มียังไม่ทราบครับ เพราะหลังจากวินิจฉัยว่าเป็น h5n1 แล้วจะต้องสืบสวนต่อว่าผู้ป่วยไม่เคยสัมผัสไก่จริงหรือไม่ รวมทั้งโอกาสที่เป้นไปได้ทั้งหมดที่จะติดมาจากไก่หรือนก ในทางทฤษฎีดูง่าย แต่ทางปฎิบัติในแง่วิชาการไม่ง่ายเลยที่จะสรุปอย่างนั้นแล้วในโลกใบนี้มีติดต่อจากคนสู่คนแล้วหรือไม่
เช่น สมมติว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับไก่แม้แต่นิดเดียวจริงๆให้ดิ้นตาย ก็ยังมีคำถามต่อว่า แล้วนกหละ แล้วอย่างอื่นหละ ซึ่งแค่ออกจากบ้านก็มีโอกาสได้รับเชื้อจากนกจากละอองไอน้ำหรืออย่างอื่นแล้วหละ แม้โอกาสจะน้อยมากก็ตาม
ที่เวียดนามที่สงสัยว่าติดจากคน จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครกล้ายืนยัน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่ามีโอกาสถูก 80 % แล้วจะสรุปได้เลย ในแง่วิชาการมันต้องร้อยเปอร์เซนต์ไม่อย่างนั้น วิชาการก็เละเทะหมด
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 34
Ignorance is bliss
เรื่อง Y2K ขอชี้แจงดังนี้ครับ
ตอนนั้น ถ้าไม่มี media hype และพวกผู้บริหารไม่ลงทุนในการ
ดูเรื่อง Y2K อย่างจริงๆ จังๆ ก็อาจจะเกิดเหตุขัดข้องขึ้นมากมายครับ
แต่คงไม่มากถึงขนาดที่กลัวๆ กัน คงแค่โปรแกรมเพี้ยนๆ
Y2K Compliance เป็นเทคนิกการสร้างกระแสที่แรงเกินจริง
เพื่อให้ผู้บริหารสนใจกับเรื่องนี้ อาจจะ overreact ไปนิด
แต่ข้อดีคือ ทำให้เราผ่าน Y2K ค่อนข้างเรียบร้อยดี
ซึ่งผมว่าก็ดีกว่าปล่อยไปเรื่อยๆ ไม่สนใจนะครับ
และอีกอย่าง จาก code review ตอน Y2K ผมคิดว่าทำให้
developers เห็นปัญหาอื่นๆ ในโปรแกรมอีกพอสมควร
และได้แก้ไปเลย ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้ที่ดีอย่างหนึ่ง
เรื่องหวัดนกก็เหมือนกัน ถ้าตีตนไปก่อนไข้ ป้องกันอย่างจริงๆ จังๆ
แล้วมันไม่เกิด ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอครับ
แต่ถ้าเพิกเฉย แล้วมันเกิดขึ้น ผลกระทบก็คงจะร้ายแรงมากๆ
ถึงแม้จะมีโอกาสแค่ 1% ก็ตาม
ผมว่าอยู่ที่วิธีคิดมังครับ
คนบางคนไม่ยอมซื้อประกันอุบัติเหตุ เพราะโอกาสเกิดแค่ 0.01%
เอง ไม่คุ้ม
แต่บางคนก็ยอมซื้อ เพราะคิดว่า ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ ก็น่าจะดีใจนะ
แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุ ก็ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
เรื่องกลายพันธ์ เท่าที่ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดชาวแคนาดา
เขาบอกว่า ไวรัสมีโอกาสกลายพันธุ์สูงมากครับ และปกติ
cycle ของการกลายพันธุ์ในไวรัสจะกินเวลาประมาณ 3 - 5 ปี
นับจาก outbreak ครั้งแรก
(หมายถึงกลายพันธุ์แล้ว survive นะครับ)
จริงๆ แล้ว เขาบอกอีกว่า เรื่องกลายพันธุ์ไม่ต้องห่วง
เพราะมันกลายพันธุ์แน่นอนอยู่แล้ว
อยู่ที่ว่า จะกลายเป็นอะไร ติดจากคนสู่คนหรือไม่
ซึ่งโดยมากจะติด เพราะคนเป็น host และ carrier ที่ popular มาก
เรื่อง Y2K ขอชี้แจงดังนี้ครับ
ตอนนั้น ถ้าไม่มี media hype และพวกผู้บริหารไม่ลงทุนในการ
ดูเรื่อง Y2K อย่างจริงๆ จังๆ ก็อาจจะเกิดเหตุขัดข้องขึ้นมากมายครับ
แต่คงไม่มากถึงขนาดที่กลัวๆ กัน คงแค่โปรแกรมเพี้ยนๆ
Y2K Compliance เป็นเทคนิกการสร้างกระแสที่แรงเกินจริง
เพื่อให้ผู้บริหารสนใจกับเรื่องนี้ อาจจะ overreact ไปนิด
แต่ข้อดีคือ ทำให้เราผ่าน Y2K ค่อนข้างเรียบร้อยดี
ซึ่งผมว่าก็ดีกว่าปล่อยไปเรื่อยๆ ไม่สนใจนะครับ
และอีกอย่าง จาก code review ตอน Y2K ผมคิดว่าทำให้
developers เห็นปัญหาอื่นๆ ในโปรแกรมอีกพอสมควร
และได้แก้ไปเลย ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้ที่ดีอย่างหนึ่ง
เรื่องหวัดนกก็เหมือนกัน ถ้าตีตนไปก่อนไข้ ป้องกันอย่างจริงๆ จังๆ
แล้วมันไม่เกิด ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอครับ
แต่ถ้าเพิกเฉย แล้วมันเกิดขึ้น ผลกระทบก็คงจะร้ายแรงมากๆ
ถึงแม้จะมีโอกาสแค่ 1% ก็ตาม
ผมว่าอยู่ที่วิธีคิดมังครับ
คนบางคนไม่ยอมซื้อประกันอุบัติเหตุ เพราะโอกาสเกิดแค่ 0.01%
เอง ไม่คุ้ม
แต่บางคนก็ยอมซื้อ เพราะคิดว่า ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ ก็น่าจะดีใจนะ
แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุ ก็ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
เรื่องกลายพันธ์ เท่าที่ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดชาวแคนาดา
เขาบอกว่า ไวรัสมีโอกาสกลายพันธุ์สูงมากครับ และปกติ
cycle ของการกลายพันธุ์ในไวรัสจะกินเวลาประมาณ 3 - 5 ปี
นับจาก outbreak ครั้งแรก
(หมายถึงกลายพันธุ์แล้ว survive นะครับ)
จริงๆ แล้ว เขาบอกอีกว่า เรื่องกลายพันธุ์ไม่ต้องห่วง
เพราะมันกลายพันธุ์แน่นอนอยู่แล้ว
อยู่ที่ว่า จะกลายเป็นอะไร ติดจากคนสู่คนหรือไม่
ซึ่งโดยมากจะติด เพราะคนเป็น host และ carrier ที่ popular มาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 36
แต่ผมว่า ตื่นตูมกันมากเหมือนกันครับ
ลองสังเกตุเมื่อก่อนที่มีหวัดนกระบาด ในระยะแรกๆ ไม่ต้องไปดูในต่างประเทศ บ้านเราเนี่ยแหละ เดินไปตามถนนเห็นปิดผ้าเป็นไอ้โม่งกันเป็นแถว
ผมว่าสถิติจนถึงปัจจุบัน ประวัติผู้ติดโรคจนเสียชีวิต ยังมีไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ ในประเทศไทย
ลองสังเกตุเมื่อก่อนที่มีหวัดนกระบาด ในระยะแรกๆ ไม่ต้องไปดูในต่างประเทศ บ้านเราเนี่ยแหละ เดินไปตามถนนเห็นปิดผ้าเป็นไอ้โม่งกันเป็นแถว
ผมว่าสถิติจนถึงปัจจุบัน ประวัติผู้ติดโรคจนเสียชีวิต ยังมีไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ ในประเทศไทย
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
- เพื่อน
- Verified User
- โพสต์: 1826
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 38
คุณโป้งก็พูดถูกครับ แต่ที่เค้าห่วงกันคือถ้ามันกลายพันธุ์มาติดระหว่างคนได้แล้ว คุณจะนับจำนวนคนตายต่อวันไม่ทันเลยครับผมว่าสถิติจนถึงปัจจุบัน ประวัติผู้ติดโรคจนเสียชีวิต ยังมีไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ ในประเทศไทย
เคยคุยกับผู้คลุกคลีวงการวัคซีนนำเข้า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันใข้หวัดนกอย่างที่คุณสามัญชนว่าไว้นั่นแหละครับ และวัคซีนใข้หวัดใหญ่ธรรมดาก็ไม่สามารถช่วยได้
....เค้ายังบอกอีกว่าเรื่องที่น่ากลัวคือไวรัสH5N1ผสมข้ามพันธุ์กับไวรัสใข้หวัดใหญ่ เปลี่ยนตัวเองจากH5N1 กลายเป็น H5N? เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในปัจจุบัน
ไม่PANIC แต่ช่วยกันคิด ช่วยกันระวังไว้ก่อนเป็นดีครับ เช่นจะทำอย่างไรที่จะจำกัดการแพร่เชื้อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้(การข่าวจะต้องตรงไปตรงมาและเร็วที่สุด) และจะเอาผู้ที่ติดเชื้อแล้วไปรวมกันรับการรักษา(หรือรอ...)กันที่ไหน
ถ้ามีผู้ติดเชื้อ1คนเพิ่งเริ่มมีอาการ ไปเดินในSupper market ไอจามอยู่ในนั้น สามารถแพร่เชื้อต่อไปได้อีกกี่คน และแต่ละคนกระจายกันออกนำไปแพร่ต่อได้อีกเท่าไหร่ จะจำกัดวงได้อย่างไร
และถ้าเกิดขึ้นในโรงเรียนหละ จะทำอย่างไร
เรื่องพวกนี้ ควรเตรียมตัวไว้ก่อน ไม่เฉพาะรับมือกับใข้หวัดนกเท่านั้นนะครับ โรคติดต่อทางเดินระบบหายใจชนิดอื่นที่อาจไม่รุนแรงเท่า หรือรุนแรงกว่า ก็สามารถเอามาเป็นเคสศึกษาทำแบบจำลองและเตรียมตัวไว้ก่อนเป็นดีครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 40
สิ่งที่ต้องทำคือเลิกหลอกตัวเองได้แล้วครับ ว่าโลกเราเหมือนเดิม การกินอาหาร 5 หมู่พอแล้ว
แล้วก็กลับสู่ธรรมชาติครับ
1. คุณนอนหลับดีหรือเปล่า หลับลึกหลับเพียงพอหรือเปล่า หลับมากพอหรือเปล่า จะหาเงินไปเยอะๆโดยไม่มีเวลานอนเพื่ออะไรครับ
2. คุณกินอิ่ม กินอร่อย มีใจจดจ่อกับการกินแค่ไหน หรือมัวแต่เครียดเรื่องไรอยู่
3. คุณขับถ่ายอย่างไร กินน้ำมากพอหรือเปล่า หรือมัวแต่กินน้ำ ro ที่ไม่มีแร่ธาตุอะไรเลย
4. คุณมีเซ็กน้อยไป มากไปหรือเป่า
5. คุณยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปหรือเปล่า คุณจะรู้ตัวได้อย่างไรว่าไม่มากไป
..............................................................................
สรุปว่า อย่าหลอกตัวเองเลย
เรื่องที่อันตรายที่สุดคือ
1. น้ำตาล ( รวมแป้งนะ )
2. น้ำปลา ( เกลือโซเดียมมากเกินไป )
3. กินผัก ผลไม้น้อย หรือไม่กินเลย แถมหลอกตัวเองทุกวันว่าครบ 5 หมู่
4. ออกกำลังกาย เดินจงกรม วันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ตากแดดยามเช้า ตากแดดยามเย็น ไม่ต้องกลัวฝ้า
5. คุณกินสารพิษมากเกินไปหรือเปล่า คุณมีวิธีล้างพิษออกจากร่างกายคุณอย่างไรบ้าง ไม่ได้บอกให้ไปสวนทวารนะ
6. คุณขาดวิตามินจริงๆหรือเปล่า เช่น B รวม หรือ C
....................................................................................................
สรุปว่า ก็ว่ากันไป โรคนั้นโรคนี้
กลับมาคำถาม เวลามีคนเป็นหวัดจาม 1 คน ในห้องปิด ที่มีคนอยู่ 100 คน
ทำไมมีบางคนเป็นหวัด บางคนไม่เป็น
ทำไมไม่เป็นเหมือนกัน หนักเบาไม่เท่ากัน ในคนทีรับเชื้อเท่ากัน
................................................................................................
สรุปว่า เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ภัยใกล้ตัวมาก นอกจากจะกินไก่ไม่มีคุณภาพแล้ว ยังไปเลี้ยงแบบขังกรงไว้
ฉีดยาเร่ง ตัวไหนไม่โต คัดออก เอามาทำไก่ย่าง ( สังเกตุได้จากตัวมันเล็กๆ นะ พวกไก่ย่าง )
สุดท้ายมนุษย์ที่กินเข้าไปก็อ่อนแอ
เพราะฉะนั้นเราแก้เรื่องการเลี้ยงให้ไก่อ่อนแอไม่ได้
เราก็มาแก้ให้ตัวเราแข็งแรง พอควรดีกว่า
แล้วก็กลับสู่ธรรมชาติครับ
1. คุณนอนหลับดีหรือเปล่า หลับลึกหลับเพียงพอหรือเปล่า หลับมากพอหรือเปล่า จะหาเงินไปเยอะๆโดยไม่มีเวลานอนเพื่ออะไรครับ
2. คุณกินอิ่ม กินอร่อย มีใจจดจ่อกับการกินแค่ไหน หรือมัวแต่เครียดเรื่องไรอยู่
3. คุณขับถ่ายอย่างไร กินน้ำมากพอหรือเปล่า หรือมัวแต่กินน้ำ ro ที่ไม่มีแร่ธาตุอะไรเลย
4. คุณมีเซ็กน้อยไป มากไปหรือเป่า
5. คุณยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปหรือเปล่า คุณจะรู้ตัวได้อย่างไรว่าไม่มากไป
..............................................................................
สรุปว่า อย่าหลอกตัวเองเลย
เรื่องที่อันตรายที่สุดคือ
1. น้ำตาล ( รวมแป้งนะ )
2. น้ำปลา ( เกลือโซเดียมมากเกินไป )
3. กินผัก ผลไม้น้อย หรือไม่กินเลย แถมหลอกตัวเองทุกวันว่าครบ 5 หมู่
4. ออกกำลังกาย เดินจงกรม วันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ตากแดดยามเช้า ตากแดดยามเย็น ไม่ต้องกลัวฝ้า
5. คุณกินสารพิษมากเกินไปหรือเปล่า คุณมีวิธีล้างพิษออกจากร่างกายคุณอย่างไรบ้าง ไม่ได้บอกให้ไปสวนทวารนะ
6. คุณขาดวิตามินจริงๆหรือเปล่า เช่น B รวม หรือ C
....................................................................................................
สรุปว่า ก็ว่ากันไป โรคนั้นโรคนี้
กลับมาคำถาม เวลามีคนเป็นหวัดจาม 1 คน ในห้องปิด ที่มีคนอยู่ 100 คน
ทำไมมีบางคนเป็นหวัด บางคนไม่เป็น
ทำไมไม่เป็นเหมือนกัน หนักเบาไม่เท่ากัน ในคนทีรับเชื้อเท่ากัน
................................................................................................
สรุปว่า เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ภัยใกล้ตัวมาก นอกจากจะกินไก่ไม่มีคุณภาพแล้ว ยังไปเลี้ยงแบบขังกรงไว้
ฉีดยาเร่ง ตัวไหนไม่โต คัดออก เอามาทำไก่ย่าง ( สังเกตุได้จากตัวมันเล็กๆ นะ พวกไก่ย่าง )
สุดท้ายมนุษย์ที่กินเข้าไปก็อ่อนแอ
เพราะฉะนั้นเราแก้เรื่องการเลี้ยงให้ไก่อ่อนแอไม่ได้
เราก็มาแก้ให้ตัวเราแข็งแรง พอควรดีกว่า
- tummeng
- Verified User
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 43
โดนซะแล้ว
***************
อียูห้ามนำเข้า ไก่สดไทยอีก1ปี
18 ตุลาคม 2548 20:40 น.
อียูสั่งยืดเวลานำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ต่อไปอีก 1 ปี หลังพบการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในสัตว์ปีก
รายงานข่าวจากสำนักงานเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงบรัซเซลล์ แจ้งว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ไข้หวัดนกในกลุ่มประเทศเอเชีย รวมทั้งไทย ยังคงดำเนินอยู่ ในวันที่ 8 ตุลาคม 2548 สหภาพยุโรป(อียู )จึงขยายเวลาการห้ามนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 12 เดือน
โดยทางการอียูได้มีประกาศตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ ในEU Official Journal L 263 Volume 20 Commission Decision 2005/692/EC of 6 October 2005 concerning certain protection measures in relation to avian influenza in several third countries ว่าด้วยการมีมติยืนยัน ที่จะขยายเวลาการห้ามนำเข้าสินค้าเนื้อไก่ดิบแช่แข็งจากไทย
นอกจากไทยแล้วอียูยังได้ขยายเวลาห้ามนำเข้าไก่สดแช่แข็ง จากประเทศเอเชียและประเทศเพื่อนบ้านไทย เช่น กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย คาซัคสถาน ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน และเวียดนาม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 12 เดือนเช่นเดียวกัน โดยย้อนหลังตั้งแต่จากวันที่ 1 ตุลาคม 2548 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 จากเดิมตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2548 วันที่ 30 กันยายน 2548 เป็นระยะเวลา 6เดือน อย่างไรก็ดี สินค้าไก่สุกยังคงนำเข้าอียูได้ตามปกติ
รายข่าวระบุว่า ไทยควรจับตามองท่าทีของอียูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลเชื่อมโยง ต่อมาตรการนำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์ปีกจากประเทศที่สาม ที่ยังคงประสบภาวะการระบาดของไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เพราะโดยปกติแล้วอียูมักจะขยายเวลาการห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีก จากประเทศที่ยังคงมีการระบาดโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องออกไปครั้งละ 6 เดือน
หากแต่ในครั้งนี้ได้มีการขยายเวลานานถึง 1 ปี คาดว่า อาจเป็นเพราะสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกในเอเชียและทั่วโลกยังไม่ดีขึ้นและมีท่าทีจะยืดเยื้อออกไปไม่มีกำหนดสิ้นสุดที่แน่นอน
***************
อียูห้ามนำเข้า ไก่สดไทยอีก1ปี
18 ตุลาคม 2548 20:40 น.
อียูสั่งยืดเวลานำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ต่อไปอีก 1 ปี หลังพบการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในสัตว์ปีก
รายงานข่าวจากสำนักงานเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงบรัซเซลล์ แจ้งว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ไข้หวัดนกในกลุ่มประเทศเอเชีย รวมทั้งไทย ยังคงดำเนินอยู่ ในวันที่ 8 ตุลาคม 2548 สหภาพยุโรป(อียู )จึงขยายเวลาการห้ามนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 12 เดือน
โดยทางการอียูได้มีประกาศตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ ในEU Official Journal L 263 Volume 20 Commission Decision 2005/692/EC of 6 October 2005 concerning certain protection measures in relation to avian influenza in several third countries ว่าด้วยการมีมติยืนยัน ที่จะขยายเวลาการห้ามนำเข้าสินค้าเนื้อไก่ดิบแช่แข็งจากไทย
นอกจากไทยแล้วอียูยังได้ขยายเวลาห้ามนำเข้าไก่สดแช่แข็ง จากประเทศเอเชียและประเทศเพื่อนบ้านไทย เช่น กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย คาซัคสถาน ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน และเวียดนาม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 12 เดือนเช่นเดียวกัน โดยย้อนหลังตั้งแต่จากวันที่ 1 ตุลาคม 2548 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 จากเดิมตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2548 วันที่ 30 กันยายน 2548 เป็นระยะเวลา 6เดือน อย่างไรก็ดี สินค้าไก่สุกยังคงนำเข้าอียูได้ตามปกติ
รายข่าวระบุว่า ไทยควรจับตามองท่าทีของอียูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลเชื่อมโยง ต่อมาตรการนำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์ปีกจากประเทศที่สาม ที่ยังคงประสบภาวะการระบาดของไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เพราะโดยปกติแล้วอียูมักจะขยายเวลาการห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีก จากประเทศที่ยังคงมีการระบาดโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องออกไปครั้งละ 6 เดือน
หากแต่ในครั้งนี้ได้มีการขยายเวลานานถึง 1 ปี คาดว่า อาจเป็นเพราะสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกในเอเชียและทั่วโลกยังไม่ดีขึ้นและมีท่าทีจะยืดเยื้อออกไปไม่มีกำหนดสิ้นสุดที่แน่นอน
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 44
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 45
ดูเหมือนกรีซ จะโดนด้วยนี่คับ
คุณสังเกตไหมว่าทำไม ยุโรปถึงเป็น
จุดแพร่ระบาด หวัดนกที่เร็วมาก
เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่นกแถบนั้นเขาย้ายถิ่นฐานกัน
ผมว่าน่ากลัวกว่าฝังเรามาก เพราะเราแค่ผ่าน3เดือนนี้
ไปได้ก็ปลอดภัย แต่ทางนั้นซิ สภาพอากาศผิดจาก
เรามาก น่าเป็นห่วงมากกว่า
คุณสังเกตไหมว่าทำไม ยุโรปถึงเป็น
จุดแพร่ระบาด หวัดนกที่เร็วมาก
เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่นกแถบนั้นเขาย้ายถิ่นฐานกัน
ผมว่าน่ากลัวกว่าฝังเรามาก เพราะเราแค่ผ่าน3เดือนนี้
ไปได้ก็ปลอดภัย แต่ทางนั้นซิ สภาพอากาศผิดจาก
เรามาก น่าเป็นห่วงมากกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 46
ขอบคุณคุณสามัญชนครับ
ลองฟังข้อมูลของผมดูบ้าง
ผมทำงานในร.พ. เอกชนแห่งหนึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน
ประมาณ 2 เดือนที่มีการเชิญ ข้าราชการระดับสูงของกรมควบคุมโรคติดต่อ
มาบรรยาย สถานการณ์ให้ฟัง เนื่องจากเป็นร.พ ที่มีต่างชาติมารักษามาก
เท่าที่ผมสรุปใจความได้คร่าวๆดังนี้
1 หวัดนกกลายเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศแถบเราไปแล้ว
2 การกลายพันธุ์จากคนสู่คน ไมได้ขึ้นกับว่าจะเกิดหรือไม่ ขึ้นกับเวลาเท่านั้น
3 ถ้ามีการกลายพันธุ์ ประเมินความสูญเสียไม่ได้เลย
ประกอบกับ
1 เดือนก่อน อังกฤษ สั่งยาแก้หวัดนกเข้าประเทศตุนไว้จำนวนมาก
2-3 วันนี้ มีข่าวจาก BBC ว่าบริษัทที่ผลิตยา Tamiflu ได้ตกลงยินยอมให้บริษัทอื่นช่วยกันผลิตยาดังกล่าวเพราะว่า ลำพังบริษัทเองไม่สามารถผลิตได้ทัน
ตัวผมเองก็ยังติดตามข้อมูลอยู่ ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นกระต่ายตื่นตูม
ลองฟังข้อมูลของผมดูบ้าง
ผมทำงานในร.พ. เอกชนแห่งหนึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน
ประมาณ 2 เดือนที่มีการเชิญ ข้าราชการระดับสูงของกรมควบคุมโรคติดต่อ
มาบรรยาย สถานการณ์ให้ฟัง เนื่องจากเป็นร.พ ที่มีต่างชาติมารักษามาก
เท่าที่ผมสรุปใจความได้คร่าวๆดังนี้
1 หวัดนกกลายเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศแถบเราไปแล้ว
2 การกลายพันธุ์จากคนสู่คน ไมได้ขึ้นกับว่าจะเกิดหรือไม่ ขึ้นกับเวลาเท่านั้น
3 ถ้ามีการกลายพันธุ์ ประเมินความสูญเสียไม่ได้เลย
ประกอบกับ
1 เดือนก่อน อังกฤษ สั่งยาแก้หวัดนกเข้าประเทศตุนไว้จำนวนมาก
2-3 วันนี้ มีข่าวจาก BBC ว่าบริษัทที่ผลิตยา Tamiflu ได้ตกลงยินยอมให้บริษัทอื่นช่วยกันผลิตยาดังกล่าวเพราะว่า ลำพังบริษัทเองไม่สามารถผลิตได้ทัน
ตัวผมเองก็ยังติดตามข้อมูลอยู่ ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นกระต่ายตื่นตูม
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 47
สงสัย กระจอกพลีชีพครับ ... ดีนะคุณ Ball ปลอดภัย ... ฮุฮิba_2l เขียน:วันนี้เห็นนกกระจอกบินชนกระจกหน้าต่างห้องผมที่ Laguna Phuket อย่างแรงถึง2ตัวครับ ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นบ่อยๆหรือเพราะอย่างอื่น
ตอนนี้ภูเก็ต เป็นยังไงมั่งครับตอนนี้ หน้า High Season ปีนี้ เทียบกับปีก่อนๆ เข้าสู่ภาวะปกติ หรือยังครับ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
สถานการณ์หวัดนก ยิ่งนับวันยิ่งเลวร้าย !!!!
โพสต์ที่ 48
ba_2l เขียน:ช่วงนี้เป็น High Season สำหรับครอบครัวคนไทยมากกว่าชาวต่างชาติครับ แวะไปดูหาดป่าตองยามค่ำคืนก็ยังไม่คึกครื้น ช่วงหลังจากที่ท่านปูตินมาพักเชอราตัน มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมากันเยอะมากคนพื้นที่เล่าว่าพวกนี้ดีมากเลยนะพูดก็ไม่พูดแต่ช็อปแหลก พอหมดยุคท่าปูตินทำดี ก็มาถึงยุคคนจีน กำลังทำท่าจะรวยกันถ้วนหน้าก็มาโดนสึนามิซะก่อน
ไปคราวนี้ผมพักที่ Allamanda ครับห้องเต็มล้นทะลักจนฝ่าย Reservation ทำผมฟิวส์ขาด :lovl: โรงแรมดุสิตที่โดนสึนามิก็ยังไม่เรียบร้อยดีครับ กำลังปรับปรุงชายหาดกับบริเวณสระน้ำที่โดนท่วมคราวก่อน ภายในลากูน่าเองก็มีการก่อสร้างโรงแรมเพิ่มสำหรับสมาชิกLaguna Holiday Club อีก79ห้อง ส่วนบ้าน Golf Villa หลังนึง23ล้านก็ขายหมดเกลี้ยง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ผมเห็นส่วนใหญ่ก็ทำเพื่อขาย Farang ทั้งนั้นหลังนึง 20ล้านขึ้นไป ดูจากสถานการณ์แล้วไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพและราคาที่ดินที่นับวันจะสูงขึ้นๆ ผมว่าอีกไม่นานคนไทยจะหมดปัญญาไปเที่ยวภูเก็ต ครับ
ผมได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันครับ เคยไปภูเก็ตเค้าก็ไม่ค่อยอยากต้อนรับเรา ผมเลยไม่ได้ไปอีกเลยถ้าไม่ได้ไปทำงาน .. กลัวเค้าเอาไบก้อนกระป๋องเขียวมาฉีดไล่ผม ไปซะชิ่วๆเจ้าแมลงสาบ อย่ามาเพ่นพ่านแถวนี้ ฟุ๊ด ฟุ๊ด ๆ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying