คุณ YOYO
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
คุณ YOYO
โพสต์ที่ 2
ทำตามอย่างผมไม่ดีหรอกครับ
หลายๆครั้งผมก็ใจร้อนเกินไป จริงๆแล้วคุณ Naris น่าจะเก่งกว่าผมอีก หุ้นหลายๆตัวที่ผมได้กำไรมาคุณ Naris ก็ซื้อก่อนผมซะอีก
อย่างหุ้นตัวล่าสุดที่เพิ่งซื้อมายังโดนเฮียมนตรีแกติงเลยว่าใจเร็วไปมั๊ย (ตัวนี้คุณ Naris ต้นทุนต่ำกว่าผมอีก)
ผมนั่งอ่าน 56-1 กับ งบการเงินไม่เกิน 2 วันผมก็ซัดไปครึ่ง port แล้ว พอดีว่าโชคมันช่วย มันเลยกำไรเยอะ
ครั้งต่อๆไปอาจจะไม่ได้ดวงดีอย่างนี้ก็ได้
อีกเรื่องนึงที่ผมติดนิสัยอยู่ทุกวันนี้คือเวลาผมซื้อหุ้นผมไม่ค่อยตั้งรอเท่าไหร่ครับ มักจะเคาะขวาเลย
เพราะผมคิดว่าถ้าหุ้นมันต่ำกว่ามูลค่ามันมากๆเช่น เราคาดว่า fairvalue มันควรจะสูงกว่าราคาปัจจุบัน 50% ผมไม่รู้ว่าหุ้นมันจะวิ่งไปสู่มูลค่าจริงวันไหน
ผมเลยคิดว่าการมาตั้งซื้อเพื่อต่อราคาเพียง 2-3ช่อง อาจช่วยผมประหยัดได้ 1% แต่มันก็ไม่คุ้ม ถ้าอยู่ๆหุ้นมันวิ่งไปสู่มูลค่าจริงในวันสองวัน
ประหยัดได้ 1% กับ กำไร 50% ผมเลือกแบบหลังครับ
ผมขอยืมคำที่เฮียมนตรีแกสอนผมมาพูดละกันครับ
"ถ้าจะซื้อหุ้นเราต้องศึกษาให้ละเอียดก่อน สมมติเราศึกษาได้เพียง 50% เราก็ซื้อเพียง 50 ถ้าศึกษาละเอียดขึ้นมา ก็ซื้อเพิ่มขึ้นได้ เมื่อเราศึกษาเพิ่มแล้วเจอสิ่งที่ไม่ดีของบริษัท เราจะได้ไม่เสี่ยงมาก" (คำพูดเฮียมนเท่าที่จำได้ครับ)
หลายๆครั้งผมก็ใจร้อนเกินไป จริงๆแล้วคุณ Naris น่าจะเก่งกว่าผมอีก หุ้นหลายๆตัวที่ผมได้กำไรมาคุณ Naris ก็ซื้อก่อนผมซะอีก
อย่างหุ้นตัวล่าสุดที่เพิ่งซื้อมายังโดนเฮียมนตรีแกติงเลยว่าใจเร็วไปมั๊ย (ตัวนี้คุณ Naris ต้นทุนต่ำกว่าผมอีก)
ผมนั่งอ่าน 56-1 กับ งบการเงินไม่เกิน 2 วันผมก็ซัดไปครึ่ง port แล้ว พอดีว่าโชคมันช่วย มันเลยกำไรเยอะ
ครั้งต่อๆไปอาจจะไม่ได้ดวงดีอย่างนี้ก็ได้
อีกเรื่องนึงที่ผมติดนิสัยอยู่ทุกวันนี้คือเวลาผมซื้อหุ้นผมไม่ค่อยตั้งรอเท่าไหร่ครับ มักจะเคาะขวาเลย
เพราะผมคิดว่าถ้าหุ้นมันต่ำกว่ามูลค่ามันมากๆเช่น เราคาดว่า fairvalue มันควรจะสูงกว่าราคาปัจจุบัน 50% ผมไม่รู้ว่าหุ้นมันจะวิ่งไปสู่มูลค่าจริงวันไหน
ผมเลยคิดว่าการมาตั้งซื้อเพื่อต่อราคาเพียง 2-3ช่อง อาจช่วยผมประหยัดได้ 1% แต่มันก็ไม่คุ้ม ถ้าอยู่ๆหุ้นมันวิ่งไปสู่มูลค่าจริงในวันสองวัน
ประหยัดได้ 1% กับ กำไร 50% ผมเลือกแบบหลังครับ
ผมขอยืมคำที่เฮียมนตรีแกสอนผมมาพูดละกันครับ
"ถ้าจะซื้อหุ้นเราต้องศึกษาให้ละเอียดก่อน สมมติเราศึกษาได้เพียง 50% เราก็ซื้อเพียง 50 ถ้าศึกษาละเอียดขึ้นมา ก็ซื้อเพิ่มขึ้นได้ เมื่อเราศึกษาเพิ่มแล้วเจอสิ่งที่ไม่ดีของบริษัท เราจะได้ไม่เสี่ยงมาก" (คำพูดเฮียมนเท่าที่จำได้ครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1913
- ผู้ติดตาม: 0
คุณ YOYO
โพสต์ที่ 5
นิสัยเหมือนผมเลยครับ เคาะขวาไม่เคย bid เลย ของตัวเองyoyo เขียน:ทำตามอย่างผมไม่ดีหรอกครับ
หลายๆครั้งผมก็ใจร้อนเกินไป จริงๆแล้วคุณ Naris น่าจะเก่งกว่าผมอีก หุ้นหลายๆตัวที่ผมได้กำไรมาคุณ Naris ก็ซื้อก่อนผมซะอีก
อย่างหุ้นตัวล่าสุดที่เพิ่งซื้อมายังโดนเฮียมนตรีแกติงเลยว่าใจเร็วไปมั๊ย (ตัวนี้คุณ Naris ต้นทุนต่ำกว่าผมอีก)
ผมนั่งอ่าน 56-1 กับ งบการเงินไม่เกิน 2 วันผมก็ซัดไปครึ่ง port แล้ว พอดีว่าโชคมันช่วย มันเลยกำไรเยอะ
ครั้งต่อๆไปอาจจะไม่ได้ดวงดีอย่างนี้ก็ได้
อีกเรื่องนึงที่ผมติดนิสัยอยู่ทุกวันนี้คือเวลาผมซื้อหุ้นผมไม่ค่อยตั้งรอเท่าไหร่ครับ มักจะเคาะขวาเลย
เพราะผมคิดว่าถ้าหุ้นมันต่ำกว่ามูลค่ามันมากๆเช่น เราคาดว่า fairvalue มันควรจะสูงกว่าราคาปัจจุบัน 50% ผมไม่รู้ว่าหุ้นมันจะวิ่งไปสู่มูลค่าจริงวันไหน
ผมเลยคิดว่าการมาตั้งซื้อเพื่อต่อราคาเพียง 2-3ช่อง อาจช่วยผมประหยัดได้ 1% แต่มันก็ไม่คุ้ม ถ้าอยู่ๆหุ้นมันวิ่งไปสู่มูลค่าจริงในวันสองวัน
ประหยัดได้ 1% กับ กำไร 50% ผมเลือกแบบหลังครับ
ผมขอยืมคำที่เฮียมนตรีแกสอนผมมาพูดละกันครับ
"ถ้าจะซื้อหุ้นเราต้องศึกษาให้ละเอียดก่อน สมมติเราศึกษาได้เพียง 50% เราก็ซื้อเพียง 50 ถ้าศึกษาละเอียดขึ้นมา ก็ซื้อเพิ่มขึ้นได้ เมื่อเราศึกษาเพิ่มแล้วเจอสิ่งที่ไม่ดีของบริษัท เราจะได้ไม่เสี่ยงมาก" (คำพูดเฮียมนเท่าที่จำได้ครับ)