ข้อได้เปรียบของ ดร.นิเวศน์ ในการลงทุน

[chatchai]

Buffett กล่าวไว้ว่า เราควรลงทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจที่เรารู้จักดี

ดังนั้นถ้าเราทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น ปีโตรเคมี ยานยนต์ ขนส่งทางทะเล วัสดุก่อสร้าง คุณก็จะรู้ธุรกิจอยู่เพียงไม่กี่อุตสาหกรรม

แต่การที่ท่าน ดร.นิเวศน์ ทำงานอยู่ที่ธนาคารนครหลวงไทยนั้น ท่านสามารถพบปะสอบถามผู้ประกอบกิจการหลากหลายธุรกิจครับ สามารถล่วงรู้สถานการณ์ในแต่ละอุตสาหกรรมได้ก่อน (เป็นการใช้ข้อมูลวงในอย่างถูกกฎหมายอย่างหนึ่ง) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของท่านมากครับ ได้เปรียบเป็นอย่างยิ่ง

[ปรัชญา1]

ท่าน ดร.นิเวศน์ ลงทุนในหลายอุตสาหกรรม
เพื่อกระจายความเสี่ยง ฟังที่ท่านออกTVเล่ามา
ท่านลงทุน หุ้น วัสดุก่อสร้าง น้ำมัน อาหาร เสื้อผ้า ชิ้นส่วนยานยนต์

ผมและคุณฉัตร ยังยิงลูกโดดอยู่เลยครับ

ตั้งใจว่าจะพยายาม เพิ่มหุ้นขึ้นปีละตัว
และกระจายความเสี่ยง โดยนำเงินปันผลมาตบแต่งพอท์ต
ที่ผมตั้งใจจะซื้อในอนาคต

1.WG
2.PTT
3............

เหตุผลมีอยู่ครับ ปีหน้าเริ่มซื้อถึงจะบอกครับ

[chatchai]

บางทีเราก็อยากลงทุนในหลายอุตสาหกรรมครับ แต่ด้วยความรู้ที่มีจำกัด และต้องเคร่งครัดต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เรารู้จักเป็นอย่างดี ทำให้เรามีตัวเลือกที่จะลงทุนน้อยกว่าท่าน ดร.นิเวศน์นะครับ

[Jeng]

ผมว่าเราพวกเราได้เปรียบดร.นิเวศน์ ตั้งเยอะ เช่น

1. มีเวลามากกว่า
2. อายุน้อยกว่า อิอิ
3. เงินน้อยกว่า ทำให้ซื้อหุ้นตัวไหนก็มีสภาพคล่องไปหมด
4. ซื้อหุ้นอะไร ก็ไม่ต้องมีคนสนใจ ทำให้มีอิสระในการคิด แต่ถ้าเป็นท่านดร.ละก็ ต้องเกร็งหน่อย เดี๋ยวเสียแชม

[ปีเตอร์ ชาง]

ผมสงสัยมานานแล้ว มิน่า ดร ถึงได้เลือกลงทุนในหุ้น wacoal

[นักดูดาว]

กัปตันเรือปีเตอร์ มาแซว ดร.นิเวศน์อีกแย้ว อิๆๆๆ

[noknoi]

ผมชอบหนังสือ ผมมีหนังสือ
ผมมีงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ผมมีชิ้นส่วนอีเล็กโทรนิค
ผมมีมรดก ผมมีธนาคาร
ผมใช้รถยนต์ ผมมี ชิ้นส่วนรถ
ผมธรรมชาติ ผมมีโรงงานไม้ ผมมีปุ๋ย

อีกไม่นาน ผมจะมี น้ำมัน พลังงาน กระดาษ และปูน รอเหตุผล แบบ VI อยู่........ไม่ว่าจะมีความรู้มากน้อยแค่ไหน ผมว่าสัญชาติญาณ ก็ต้องมีส่วน ไม่มากก็น้อย ครับ

ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องหรือเปล่า แต่อยากคุยด้วย ครับ

[ประจวบ]

เท่าที่ผม(แอบ)ทราบ
อจ.นิเวศน์จะลงทุนกระจายอยู่15-20บริษัท
ไม่ได้เลือกจำเพาะอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง
แต่ลงมากๆ5-6บริษัท
และหลังจากติดตามไประยะนึง
ถ้าเห็นว่าวิ่งช้าก็จะปรับพอร์ตระหว่างตัวที่เลือกไว้แล้ว
โดยเปลี่ยนน้ำหนักในการลงทุน
โดยอจ.จะไม่"ทิ้ง"หุ้นทั้งหมดในบริษัทนั้นยกเว้นพื้นฐานเปลี่ยนแปลงอย่าง"ถาวร"
แต่จะมีไว้ติดตามผล
หุ้นที่อจ.ถืออยู่ก็อยู่ใน"ตีแตก"นั่นแหละครับเป็นส่วนใหญ่
แฮะๆ ถ้าอจ.แวะผ่านมาจะช่วยเสริมบ้างก็จะเป็นพระคุณครับ