งาน มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ 9-11 ก.ย.ณ ศูนย์สิริกิติ์

[2nd wind]

เริ่มงานวันนี้นะครับ  :!:  :!:  :!:


เข็นมาตรการบ้านมือสอง ลดค่าธรรมเนียมโอน-เพิ่มลดหย่อนแสนบาท

โดย ผู้จัดการรายวัน 6 กันยายน 2548 10:25 น.

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews ... 0000120851

      ผู้จัดการรายวัน มาตรการฟื้นบ้านมือสองอาจมีเซอร์ไพรส์ลดค่าธรรมเนียมการโอน-ค่าลดหย่อนแสนบาท ด้านสมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาฯ ร่วมโหมโรงอัดแคมเปญ ในงาน มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ 9-11 ก.ย.นี้ ชูส่วนลด 10-40% พร้อมจับมือพันธมิตรมอบส่วน ด้านโฮมโปรแจกบัตร โฮมโปร วีไอพี คาร์ด ใช้ลดราคาวัสดุก่อสร้างแถมคัดบ้านมือสองรายการเด่น จัดประมูลราคาพิเศษกว่า 50 รายการในวันที่ 11 ก.ย.นี้
     
       นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงแนวทางการส่งเสริมตลาดบ้านมือสองว่า ขณะนี้กำลังการตัดสินใจจากกระทรวงการคลัง ถึงความเป็นไปได้ที่จะผลักดันการลดความซ้ำซ้อนทางภาษีให้แก่ตลาดบ้านมือสอง ซึ่งน่าจะมีเรื่องของการลดค่าธรรมเนียมการโอน โดยไม่ควรอิงเปอร์เซ็นต์ของราคาขาย แต่ให้คิดตามความเป็นจริง ส่วนนี้คงต้องรอความชัดเจนจากกรมที่ดินจะมีแนวทางที่สอดคล้องกับตลาดมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการขยายค่าลดหย่อนภาษีบุคคลจากเดิม 50,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งทั้งสองส่วนจะช่วยขับเคลื่อนตลาดบ้านมือสองให้ขยายตัวได้มากกว่าปัจจุบัน
     
       " หากค่าธรรมเนียมการโอนลดลง จะทำให้ตัวแทนนายหน้าสามารถที่จะเข้าไปรับซื้อบ้านมือสองจากบริษัท บริหารสินทรัพย์ หรือเอเอ็มซีได้ ซึ่งทางศูนย์ข้อมูลอสังหาฯค่อนข้างสนับสนุนให้ทั้งฝ่ายมีความร่วมมือในการพัฒนา บ้านมือสอง และเมื่อต้นทุนส่วนนี้ลดน้อยลง ก็อาจจะหักลดราคาขายให้กับลูกค้าได้ และการที่โบรกเกอร์จะคิดราคาสูงๆเพื่อขายทำกำไรนั้น คิดว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากผู้บริโภคสามารถตรวจสอบราคาได้หลายแห่ง อีกทั้งภาวะขณะนี้เป็นยุคทองของผู้ซื้อมากกว่าผู้ขายเหมือนในอดีต"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
     
       ในด้านข้อมูลของตลาดบ้านมือสอง ผอ.ศูนย์ข้อมูลฯ แจงว่ามีความชัดเจนขึ้นอีกระดับ โดยข้อมูลที่ได้ตรวจสอบอยู่ที่ 2.5 แสนล้านหน่วย(รวมกรมบังคับคดี) เฉลี่ยราคาอยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อหน่วย ทั้งในบ้านมือสองที่สามารถจับต้องได้มีประมาณ 1.6 แสนหน่วย
     
      ลดราคาบ้านมือสอง 40%
     
       นายสมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงการจัดงาน มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 9-11 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า เป็นการจัดงานมหกรรมบ้านมือสองที่มีบริการครบวงจรมากที่สุด เพราะนอกจากภายจะมีบริษัทตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 33 บริษัท นำทรัพย์ออกมาร่วมในงานจำนวนมาก คิดเป็นจำนวนทรัพย์ประมาณ 20,000 ยูนิต(ราคาเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อหน่วย) รวมถึงยังมีบริษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน(เอเอ็มซี)ของภาครัฐ และเอกชน 18 แห่งเข้าร่วม โดยจะใช้งบประมาณ(ไม่รวมงบประชาสัมพันธ์)ประมาณ 5 ล้านบาท
     
       โดยภายในงาน จะมีบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ อาทิ บริการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ,บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบริการให้คำปรึกษาก่อนซื้อบ้านมือสอง รวมทั้งมีบ้านมือสองให้เลือกซื้อทุกสภาพ ตั้งแต่บ้านมือสองสภาพเดิม ไปจนถึงบ้านมือสองที่ปรับปรุงแล้วพร้อมอยู่ โดยในส่วนของสมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ มีการจัดกิจกรรมพิเศษ ด้วยการคัดบ้านมือสองรายการเด่นกว่า 50 รายการ มาจัดการประมูลภายในงาน ทั้งนี้การประมูลจะมีขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2548
     
      นายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บี.ซี.พี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจตลาดบ้านมือสอง เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นว่า บ้านมือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการซื้อที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าจะมีการจัดแคมเปญให้ส่วนลดลูกค้า 10-40%
     
      สำหรับในส่วนของบี.ซี.พี.ได้คัดทรัพย์สินที่เป็นบ้านมือสองมาร่วมขายประมาณ 1,000 รายการ โดยเสนอส่วนลดจากราคาขายปกติประมาณ 10-20% และเสนอโปรโมชันพิเศษมอบให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อขายบ้านภายในงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ อาทิ 1.รับบัตรโฮมโปร วีไอพี คาร์ด เพื่อรับส่วนลด 3%เมื่อใช้ซื้อสินค้าที่ โฮมโปร และโฮมโปร พลัส ทุกสาขา 2.รับบัตรส่วนลด 30% เพื่อใช้ซื้อสระว่ายน้ำบนดินทุกขนาดจาก บริษัท ซอฟท์ไลท์ พลัส จำกัด 3.รับบัตรส่วนลด 40%เพื่อใช้ในการติดตั้งสัญญาณกันขโมยภายในบ้านจากบริษัทวินวินโกบอลกรุ๊ป และ 4.รับส่วนลด 10 % เพื่อใช้ในการขนย้ายของเข้าบ้านใหม่จากบริษัท เจวีเค อินเตอร์เนชั่นแนล มุฟเวอร์
     
       นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติในครั้งนี้ถือว่า มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทตัวแทนและนายหน้ารายย่อยได้มีโอกาสเปิดตลาด และสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อบ้าน เนื่องจากธรรมชาติของธุรกิจตลาดบ้านมือสอง ต้องอาศัยความชำนาญของบริษัทตัวแทนขาย เพราะจุดเด่นของบ้านมือสองคือทำเล และความหลากหลายของสินค้า การที่โบรกเกอร์รายย่อยได้มีโอกาสนำเสนอกิจกรรมทางการตลาด ภายใต้การส่งเสริมของหน่วยงานภาครัฐ คือศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และกระทรวงการคลัง นับเป็นการเริ่มต้นของการพัฒนาวงการธุรกิจตลาดบ้านมือสองในประเทศไทย