บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 1
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2548
เรื่อง แจ้งกำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2548 และการให้กู้ยืมเงิน
เรียน กรรมการและกรรมการผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุม
คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 53/2548 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2548
เวลา 17.00 น. ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดังนี้
1. การยกเลิกวาระที่ 12 ในการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 51/2548
คณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบในการยกเลิกมติ ของวาระที่ 12 ในการประชุม
คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 51/2548 ซึ่งได้จัดให้มีขึ้น เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548
เกี่ยวกับการที่บริษัทมีนโยบายจะไปทำการลงทุน ด้วยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ กับบริษัท
กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด แห่งประเทศสิงค์โปร์ เนื่องจากเห็นว่ายังไม่สะดวกและ
ไม่เหมาะสมในการที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีแก่บริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 26
กรกฏาคม 2548 บริษัทได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สามารถทำการ
ให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด แห่งประเทศสิงค์โปร์ แทนการเข้า
ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสมและดีกว่าการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว
2. พิจารณาและอนุมัติการให้กู้ยืมเงินของบริษัทให้แก่ บริษัท กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด
ประเทศสิงค์โปร์
คณะกรรมการบริษัท ให้ความยินยอมและอนุมัติในการให้กู้ยืมเงินของบริษัท จำนวน
10,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (สิบล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่บริษัท
กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด ประเทศสิงค์โปร์ ภายใต้เงื่อนไขตามเอกสาร สารสนเทศที่
เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน ซึ่งจะได้นำสารสนเทศนี้ให้ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท
พิจารณาอนุมัติ
3. กำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2548
คณะกรรมการได้ตัดสินใจ อนุมัติในการจะจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญของผู้ถือหุ้น
ของบริษัท ครั้งที่ 1/2548 ขึ้น โดยจะจัดใหัมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2548
เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ห้องบางกอกพาโนราม่า 1 ชั้น 3
เลขที่ 199 ถนนสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ
4. กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท
ครั้งที่ 1/2548
คณะกรรมการได้มีกำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วม
ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2548
เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ.
ขอแสดงความนับถือ
(นายธเนศ ลือวราพงษ์)
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหาร
เรื่อง แจ้งกำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2548 และการให้กู้ยืมเงิน
เรียน กรรมการและกรรมการผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุม
คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 53/2548 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2548
เวลา 17.00 น. ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดังนี้
1. การยกเลิกวาระที่ 12 ในการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 51/2548
คณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบในการยกเลิกมติ ของวาระที่ 12 ในการประชุม
คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 51/2548 ซึ่งได้จัดให้มีขึ้น เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548
เกี่ยวกับการที่บริษัทมีนโยบายจะไปทำการลงทุน ด้วยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ กับบริษัท
กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด แห่งประเทศสิงค์โปร์ เนื่องจากเห็นว่ายังไม่สะดวกและ
ไม่เหมาะสมในการที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีแก่บริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 26
กรกฏาคม 2548 บริษัทได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สามารถทำการ
ให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด แห่งประเทศสิงค์โปร์ แทนการเข้า
ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสมและดีกว่าการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว
2. พิจารณาและอนุมัติการให้กู้ยืมเงินของบริษัทให้แก่ บริษัท กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด
ประเทศสิงค์โปร์
คณะกรรมการบริษัท ให้ความยินยอมและอนุมัติในการให้กู้ยืมเงินของบริษัท จำนวน
10,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (สิบล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่บริษัท
กู๊ดเยียร์ โอเรี้ยน จำกัด ประเทศสิงค์โปร์ ภายใต้เงื่อนไขตามเอกสาร สารสนเทศที่
เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน ซึ่งจะได้นำสารสนเทศนี้ให้ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท
พิจารณาอนุมัติ
3. กำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2548
คณะกรรมการได้ตัดสินใจ อนุมัติในการจะจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญของผู้ถือหุ้น
ของบริษัท ครั้งที่ 1/2548 ขึ้น โดยจะจัดใหัมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2548
เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ห้องบางกอกพาโนราม่า 1 ชั้น 3
เลขที่ 199 ถนนสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ
4. กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท
ครั้งที่ 1/2548
คณะกรรมการได้มีกำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วม
ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2548
เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ.
ขอแสดงความนับถือ
(นายธเนศ ลือวราพงษ์)
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหาร
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 3
ไม่ชอบครับ :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 4
ผมไม่เคยปักใจเชื่อบริษัทไหนว่ามีธรรมาภิบาล ... อีก 1 บทพิสูจน์ ...
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 60
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 6
ขอโทษนะครับ ผมแค่สงสัยว่าถ้าการให้กู้เงิน10,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และความเสี่ยงต่ำกว่านำเงินไปทำธุรกรรมอื่นล่ะครับ
"Sometimes your best investments are the ones you don't make"(Donald Trump)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 7
ประเด็นไม่ใช่ผลตอบแทนครับคุณ parallel
1. การให้บริษัทแม่กู้ และบริษัทแม่อยู่สิงค์โปร์ ทำให้นักลงทุนไทยรายย่อยไม่สามารถ
ตรวจสอบการใช้เงินได้
2. ถ้าไม่รู้จะเอาเงินไปลงทุนอะไรดี ก็ปันผลออกมาดีกว่า ผู้ถือหุ้นทุกคนได้เต็ม
เม็ดเต็มหน่วย
3. บริษัทแม่คงไม่กู้ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ซึ่งถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ให้ปันผล
ออกมา บริษัทแม่จะได้เงินไปส่วนหนึ่ง (เอาไปทำอะไรก็ได้) ผู้ "ร่วม" ลงทุนรายอื่นๆ
ก็จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนของตัวเอง ทำแบบนี้ มีแต่บริษัทแม่ที่ได้ นักลงทุน
ไทยได้แค่ "เศษ" ของดอกเบี้ยเงินกู้
1. การให้บริษัทแม่กู้ และบริษัทแม่อยู่สิงค์โปร์ ทำให้นักลงทุนไทยรายย่อยไม่สามารถ
ตรวจสอบการใช้เงินได้
2. ถ้าไม่รู้จะเอาเงินไปลงทุนอะไรดี ก็ปันผลออกมาดีกว่า ผู้ถือหุ้นทุกคนได้เต็ม
เม็ดเต็มหน่วย
3. บริษัทแม่คงไม่กู้ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ซึ่งถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ให้ปันผล
ออกมา บริษัทแม่จะได้เงินไปส่วนหนึ่ง (เอาไปทำอะไรก็ได้) ผู้ "ร่วม" ลงทุนรายอื่นๆ
ก็จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนของตัวเอง ทำแบบนี้ มีแต่บริษัทแม่ที่ได้ นักลงทุน
ไทยได้แค่ "เศษ" ของดอกเบี้ยเงินกู้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทที่มีเงินสดเหลือเยอะ บริหารแบบนี้ชอบไหม
โพสต์ที่ 12
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี