TPC วางแผนขยายกำลังผลิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
TPC วางแผนขยายกำลังผลิต
โพสต์ที่ 1
TPC จ่อแผนลงทุนเกือบ 7 พันล.
"ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์" จ่อแผนลงทุนมูลค่าเกือบ7,000 ล้านบาท ผุด 2 โครงการรวด ขยายกำลังผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี และวีซีเอ็ม รอบอร์ดอนุมัติ ชี้มีแรงกระตุ้นขานรับให้ลงทุนทั้งฐานะการเงิน และสภาพตลาดที่อยู่ในจังหวะขาขึ้นถึงปี2008 นอกจากนี้จีนยังมีระดับความต้องการใช้เม็ดพลาสติกพีวีซี ต่อเนื่องไปอีกหลายปี
นายเทพ วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
หรือTPC ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการดำเนินธุรกิจว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนด้วยเงินทุนมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผลการศึกษาใกล้จะสมบูรณ์และพร้อมที่จะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติในปลายเดือนเมษายนนี้ และแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นลำดับต่อไป
โดยเงินลงทุนดังกล่าวเแบ่งเป็นจำนวน ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือ 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนขยายการผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 120,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีขนาดกำลังการผลิตที่ 460,000 ตันซึ่งขณะนี้ผลิตได้เต็มเพดานแล้ว และอีกจำนวน4,800 ล้านบาทหรือ 120 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะใช้สำหรับการลงทุนขยายกำลังการผลิตวีซีเอ็ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีอีกจำนวน 300,000 ตัน/ปี จากที่ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 440,000 ตัน/ปี ซึ่งจะเป็นส่วนการลงทุนที่เกิดขึ้นหลังจากที่บอร์ดของบริษัทอนุมัติในส่วนขยายเม็ดพลาสติกพีวีซีก่อนแล้ว
ทัง้นี้การผลิตวีซีเอ็มจะใช้สำหรับป้อนในไลน์ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีส่วนขยายจำนวน 120,000 ตัน กำลังผลิตที่เหลือจะส่งให้กับโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ตั้งโรงงานผลิตอยู่ที่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย
นายเทพกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทพร้อมที่จะขยายการลงทุนเพราะทุกด้านพร้อมที่จะสนับสนุนได้ทั้งหมด นับตั้งแต่เงินลงทุน ที่ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด/ปีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท มีหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1 โดยเงินลงทุนจะมาจากรายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของบริษัท และเงินกู้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้สภาพตลาดยังอยู่ในจังหวะขาขึ้นต่อไปถึงปี2008 ขณะเดียวกันยังมองว่าตลาดสำคัญอย่างจีนที่มีอัตราการบริโภคเม็ดพลาสติกพีวีซีสูงกว่า 2 ล้านตัน/ปี นั้นจะช่วยในเรื่องตลาดส่งออกได้ ซึ่งปัจจุบันTPC จะส่งออกไปจีนประมาณ 100,000 ตัน/ปี หรือคิดเป็น สัดส่วน 40% ของยอดการส่งออกของบริษัททั้งหมด อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์กันว่าจีนจะมีการขยายตัวในการบริโภคเม็ดพลาสติกพีวีซีต่อไปจนถึงปี2010 ซึ่งเป็นปีที่มีงาน เวิร์ด เอ็กซโป
"อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกพีวีซีตลาดในประเทศเป็นสินค้าที่ไปอิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากเม็ดพลาสติกพีวีซีใช้สำหรับผลิตท่อเพื่อการเกษตร ท่อร้อยสายไฟฟ้า ถุงน้ำเกลือ ถุงพลาสติก ฯลฯ การผลิตเม็ดพลาสติกของTPC ขนาด 460,000 ตัน จะแบ่งเป็นการส่งออกเป็นเม็ดพลาสติกออกไปจำนวน 45% และอีก55 % ขายในประเทศ "
นายเทพ กล่าวอีกว่า การลงทุนของบริษัทครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศ และก็ให้มีกำลังผลิตเหลือที่จะส่งออกประมาณ 25% เพราะว่าความต้องการใช้ในประเทศจะสวิงได้ เมื่อถึงเวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวจะเติบโตมากถึง 10% หรือสูงถึง20% ซึ่งการเติบโตแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อถึงตอนนั้นถ้ามีกำลังการผลิตไม่พอก็จะเสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศไปได้ นอกจากนี้การก่อสร้างโรงงานในอุตสาหกรรมนี้จะต้องใช้เวลา 2 ปีกว่า จำเป็นต้องมีกำลังผลิตเผื่อไว้ก่อนล่วงหน้า
ส่วนสถานการการณ์ของราคาเม็ดพลาสติกพีวีซีช่วงไตรมาสสองปีนี้ ยืนอยู่ที่ประมาณ 900 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ/ตัน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วราคาอยู่ที่ กว่า 700 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และเมื่อเทียบกับราคาเมื่อไตรมาสแรกปีที่แล้วอยู่ที่ 400 เหรียญดอลาร์สหรัฐ/ตัน
สำหรับผลประกอบการปี2548 ตั้งเป้าว่า TPC กรุ๊ปส์(รวมบริษัทลูก)จะมีรายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยผลกำไรจะขึ้นลงอยู่ที่ราคาเม็ดพลาสติกพีวีซีในตลาดโลก โดยปี2547 บริษัท มีรายได้ 24,000 ล้านบาท มีกำไร 3,152 ล้านบาท โดยTPCบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ถือหุ้น 39.61% บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด ถือหุ้น 20% ที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยสถานภาพของTPCในตลาดหุ้นมีจุดขายคือ จ่ายปันผลดีซึ่งปีนี้จ่าย 2บาท/หุ้น และบริษัทมีการบริหารธุรกิจแบบไม่เสี่ยง คิดถึงเจ้าของเงินซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น และมีการลงทุนแบบระมัดระวัง
ปัจจุบันมีผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีในประเทศจำนวน 3 ราย ประกอบด้วยบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมีคอล จำกัด มีขนาดกำลังผลิตประมาณ 120,000 ตัน/ปี บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ประมาณ 220,000 ตัน/ปี และบริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)หรือTPCมีกำลังผลิตจำนวน 460,000 ตัน/ปี รวมขนาดกำลังการผลิตในประเทศทั้งสิ้นประมาณ 800,000 ตัน/ปีในจำนวนนี้สัดส่วน 50% จะป้อนให้กับผู้ผลิตในอุตสาหหกรรมท่อพลาสติก และอีก50% ป้อนให้กับผู้ผลิตหนังเทียมและแผ่นพลาสติกเทียม โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมีการผลิตเพื่อส่งออกเป็นจำนวนมาก
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
ประจำวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2548
"ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์" จ่อแผนลงทุนมูลค่าเกือบ7,000 ล้านบาท ผุด 2 โครงการรวด ขยายกำลังผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี และวีซีเอ็ม รอบอร์ดอนุมัติ ชี้มีแรงกระตุ้นขานรับให้ลงทุนทั้งฐานะการเงิน และสภาพตลาดที่อยู่ในจังหวะขาขึ้นถึงปี2008 นอกจากนี้จีนยังมีระดับความต้องการใช้เม็ดพลาสติกพีวีซี ต่อเนื่องไปอีกหลายปี
นายเทพ วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
หรือTPC ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการดำเนินธุรกิจว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนด้วยเงินทุนมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผลการศึกษาใกล้จะสมบูรณ์และพร้อมที่จะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติในปลายเดือนเมษายนนี้ และแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นลำดับต่อไป
โดยเงินลงทุนดังกล่าวเแบ่งเป็นจำนวน ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือ 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนขยายการผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 120,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีขนาดกำลังการผลิตที่ 460,000 ตันซึ่งขณะนี้ผลิตได้เต็มเพดานแล้ว และอีกจำนวน4,800 ล้านบาทหรือ 120 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะใช้สำหรับการลงทุนขยายกำลังการผลิตวีซีเอ็ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีอีกจำนวน 300,000 ตัน/ปี จากที่ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 440,000 ตัน/ปี ซึ่งจะเป็นส่วนการลงทุนที่เกิดขึ้นหลังจากที่บอร์ดของบริษัทอนุมัติในส่วนขยายเม็ดพลาสติกพีวีซีก่อนแล้ว
ทัง้นี้การผลิตวีซีเอ็มจะใช้สำหรับป้อนในไลน์ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีส่วนขยายจำนวน 120,000 ตัน กำลังผลิตที่เหลือจะส่งให้กับโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ตั้งโรงงานผลิตอยู่ที่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย
นายเทพกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทพร้อมที่จะขยายการลงทุนเพราะทุกด้านพร้อมที่จะสนับสนุนได้ทั้งหมด นับตั้งแต่เงินลงทุน ที่ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด/ปีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท มีหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1 โดยเงินลงทุนจะมาจากรายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของบริษัท และเงินกู้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้สภาพตลาดยังอยู่ในจังหวะขาขึ้นต่อไปถึงปี2008 ขณะเดียวกันยังมองว่าตลาดสำคัญอย่างจีนที่มีอัตราการบริโภคเม็ดพลาสติกพีวีซีสูงกว่า 2 ล้านตัน/ปี นั้นจะช่วยในเรื่องตลาดส่งออกได้ ซึ่งปัจจุบันTPC จะส่งออกไปจีนประมาณ 100,000 ตัน/ปี หรือคิดเป็น สัดส่วน 40% ของยอดการส่งออกของบริษัททั้งหมด อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์กันว่าจีนจะมีการขยายตัวในการบริโภคเม็ดพลาสติกพีวีซีต่อไปจนถึงปี2010 ซึ่งเป็นปีที่มีงาน เวิร์ด เอ็กซโป
"อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกพีวีซีตลาดในประเทศเป็นสินค้าที่ไปอิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากเม็ดพลาสติกพีวีซีใช้สำหรับผลิตท่อเพื่อการเกษตร ท่อร้อยสายไฟฟ้า ถุงน้ำเกลือ ถุงพลาสติก ฯลฯ การผลิตเม็ดพลาสติกของTPC ขนาด 460,000 ตัน จะแบ่งเป็นการส่งออกเป็นเม็ดพลาสติกออกไปจำนวน 45% และอีก55 % ขายในประเทศ "
นายเทพ กล่าวอีกว่า การลงทุนของบริษัทครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศ และก็ให้มีกำลังผลิตเหลือที่จะส่งออกประมาณ 25% เพราะว่าความต้องการใช้ในประเทศจะสวิงได้ เมื่อถึงเวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวจะเติบโตมากถึง 10% หรือสูงถึง20% ซึ่งการเติบโตแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อถึงตอนนั้นถ้ามีกำลังการผลิตไม่พอก็จะเสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศไปได้ นอกจากนี้การก่อสร้างโรงงานในอุตสาหกรรมนี้จะต้องใช้เวลา 2 ปีกว่า จำเป็นต้องมีกำลังผลิตเผื่อไว้ก่อนล่วงหน้า
ส่วนสถานการการณ์ของราคาเม็ดพลาสติกพีวีซีช่วงไตรมาสสองปีนี้ ยืนอยู่ที่ประมาณ 900 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ/ตัน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วราคาอยู่ที่ กว่า 700 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และเมื่อเทียบกับราคาเมื่อไตรมาสแรกปีที่แล้วอยู่ที่ 400 เหรียญดอลาร์สหรัฐ/ตัน
สำหรับผลประกอบการปี2548 ตั้งเป้าว่า TPC กรุ๊ปส์(รวมบริษัทลูก)จะมีรายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยผลกำไรจะขึ้นลงอยู่ที่ราคาเม็ดพลาสติกพีวีซีในตลาดโลก โดยปี2547 บริษัท มีรายได้ 24,000 ล้านบาท มีกำไร 3,152 ล้านบาท โดยTPCบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ถือหุ้น 39.61% บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด ถือหุ้น 20% ที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยสถานภาพของTPCในตลาดหุ้นมีจุดขายคือ จ่ายปันผลดีซึ่งปีนี้จ่าย 2บาท/หุ้น และบริษัทมีการบริหารธุรกิจแบบไม่เสี่ยง คิดถึงเจ้าของเงินซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น และมีการลงทุนแบบระมัดระวัง
ปัจจุบันมีผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีในประเทศจำนวน 3 ราย ประกอบด้วยบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมีคอล จำกัด มีขนาดกำลังผลิตประมาณ 120,000 ตัน/ปี บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ประมาณ 220,000 ตัน/ปี และบริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)หรือTPCมีกำลังผลิตจำนวน 460,000 ตัน/ปี รวมขนาดกำลังการผลิตในประเทศทั้งสิ้นประมาณ 800,000 ตัน/ปีในจำนวนนี้สัดส่วน 50% จะป้อนให้กับผู้ผลิตในอุตสาหหกรรมท่อพลาสติก และอีก50% ป้อนให้กับผู้ผลิตหนังเทียมและแผ่นพลาสติกเทียม โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมีการผลิตเพื่อส่งออกเป็นจำนวนมาก
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
ประจำวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2548
- tom
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
TPC วางแผนขยายกำลังผลิต
โพสต์ที่ 2
จริงๆ ผมว่าปีนี้ รายได้ ทีพีซี ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แต่ปีก่อนมาตรฐานมันสูงเกินไป และราคาก็ไม่ได้ตอบสนองกับผลกำไรกับรายได้สูงๆเท่าไหร่ พอปีนี้ รายได้ไม่ลดแต่กำไรลด ราคาหุ้นตอบสนองกับปัจจัยลบเต็มๆ ราคาเลยต้วมเตี๊ยม วีไอในนี้หลายคนเลยนำ้ตาตก (ผมด้วย อิอิ)
ก็อย่างว่า
จังหวะการลงทุนมันสำคัญ
หุ้นดีแต่ซื้อตอนอยู่ยอดดอย ก็ต้องคอยนานเป็นธรรมดาครับ (ปลอบใจตัวเอง อิอิ)
ก็อย่างว่า
จังหวะการลงทุนมันสำคัญ
หุ้นดีแต่ซื้อตอนอยู่ยอดดอย ก็ต้องคอยนานเป็นธรรมดาครับ (ปลอบใจตัวเอง อิอิ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0