วิธีการระดมแบบใหม่ของ picni

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

วิธีการระดมแบบใหม่ของ picni

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ปิคนิค ฟ้องหมิ่น บก.ประชาชาติธุรกิจ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 5 พันล้าน ลงข่าวแบงก์ปิดเครดิต ทำราคาหุ้นตก ขอศาลสั่งห้ามจำเลยทำงานสื่อเป็นเวลา 5 ปี ศาลรับไต่สวนมูลฟ้อง 19 ก.ย.นี้

วันนี้ (15 ก.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ รับมอบอำนาจจากบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทวี มีเงิน บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ราย 3 วัน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 5,000 ล้านบาท ตามฟ้องสรุปว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลชื่อ บ.ปิคนิคฯ มีนางสุวลี แสงกาญจนวนิช, น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน, นายสุพจน์ พัฒนะศรี, นายวัชรกิติ วัชโรทัย นายวิรัช พันธุมะผล, นายสมโภชน์ อินทรานุกูล, นายประภาส ฤกษ์พิบูลย์ เป็นกรรมการ ถูกจำเลยร่วมกับผู้มีชื่อที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง สมคบกันตีพิมพ์ข่าวใส่ความโจทก์ใน นสพ.ประชาชาติธุรกิจราย 3 วัน ฉบับวันจันทร์ที่ 11-13 ก.ค.48 โดยพาดหัวข่าว แห่ขายทิ้ง ปิคนิค แบงก์ปิดโอ/ดี ระทึกหุ้นใหญ่ควักเงินเพิ่มทุนพันล. และจำเลยยังลงรายละเอียดในเนื้อหาข่าวทำนองว่า บริษัท ปิคนิคฯ ระส่ำจำใจเพิ่มทุน 2,000 ล้านบาท ราคาหุ้นวูบ 292% แบงก์เจ้าหนี้ กรุงไทยกรุงศรีอยุธยา ปิดวงเงินโอ/ดี จับตากลุ่มลาภวิสุทธิสิน ต้องควักเงินซื้อหุ้นร่วมพันล้าน ด้านกองทุนรวมหวั่นรายย่อยไม่สนใจใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน

นอกจากนี้ จำเลยยังรายงานข่าวและยืนยันข้อเท็จจริงในเนื้อหาข่าวว่า การเพิ่มทุนของโจทก์สรุปว่าไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย และไม่เห็นว่าปิคนิคมีความโปร่งใส โดยการที่จำเลยตีพิมพ์ข้อความดังกล่าวอันเป็นเท็จทั้งสิ้น จึงไม่ใช่เป็นการติชมหรือนำเสนอข่าวด้วยความเป็นธรรมตามจรรยาบรรณที่สื่อมวลชนพึงกระทำ ทำให้ผู้อ่านเชื่อว่าโจทก์ไม่มีฐานะทางการเงินที่จะบริหาร เพราะขนาดสถาบันการเงินยังปิดไม่ใช่เงินโอ/ดี ซึ่งทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เพราะผู้อ่านเข้าใจผิดหลงชื่อว่าข้อความดังกล่าวเป็นจริง ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ไม่เคยมีโอ/ดี กับ ธ.กรุงไทย จำกัด และ ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด รวมทั้งโจทก์ไม่เคยใช้วงเงินโอ/ดี แต่อย่างใด

นอกจากนี้ การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นเดิมไม่ซื้อหุ้นเพิ่มและโจทก์ไม่มีความโปร่งใสในบริษัทมหาชนนั้น เป็นการเสนอข่าวจูงใจให้ลูกค้าและผู้ที่ค้าขายกับโจทก์เกิดความไม่เชื่อถือและมั่นใจในบริษัทฯ ส่งผลทำให้หุ้นบริษัทของโจทก์ราคาตก เสียหายเป็นเงินจำนวน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจำเลยต้องชดใช้ความเสียหายต่อโจทก์ด้วย คดีนี้เกิดที่แขวงและเขตสวนหลวง กทม.เนื่องจากการนำเสนอข่าวของจำเลยส่งผลทำให้ลงทุนของประเทศให้เกิดความเสียหายเป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งจำเลยกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายคดีที่ศาลนี้และศาลอื่น

ดังนั้น หากปล่อยให้จำเลยประกอบอาชีพนี้ อาจจะกระทำผิดอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่หลาบจำ โจทก์จึงขอให้ศาลห้ามจำเลยประกอบอาชีพสื่อมวลชนเป็นเวลา 5 ปี ตามวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามประมวลกฎหมายอาญา ม.50

ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ล็อคหัวข้อ