บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2
อังคาร ส.ค. 21, 2012 10:02 am | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
มันมีบางอย่างข้างหลังตัวเลขโดย คนขายของ
วิธีหนึ่งที่ผมมักใช้ในการหากิจการที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน (Durable Competitive Advantage หรือเรียกย่อๆว่า DCA) ก็คือการเปรียบเทียบตัวเลข Net Profit Margin (NPM) ของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมากบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนมักจะมีตัวเลข NPM สูงกว่าคู่แข่ง เพราะว่าตัวเลข NPM ที่สูงกว่าแสดงถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีกว่าการบริหารต้นทุนการเงินที่ดีกว่า การควบคุมสินค้าคงคลังที่ดีกว่า มี Business Model ที่เหนือกว่า และอื่นๆอีกมากมาย ผมขอยกตัวอย่างในอดีตดังนี้
กรณีที่ 1 บริษัทที่ผลิตกระเบื้องเป็นหลักในเมืองไทยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เมือสี่ปีก่อนมีอยู่สี่บริษัท เป็นที่น่าสังเกตุว่าตัวเลข NPM ของบริษัทกระเบื้องส่วนใหญ่ขาดทุนหมดในปี 2551 แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งที่สามารถทำ NPM ได้ถึง 13% ในปีนั้น ตัวเลขนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมากทำให้ผมทำการศึกษาต่อว่า
เพราะเหตุใดในขณะที่คนอื่นขาดทุนหมด แต่บริษัทนี้กลับทำ NPM ได้ถึง 13% อย่างนี้แสดงว่าต้องมีดี และก็เป็นจริงดังคาด จากการศึกษา Business Model ของบริษัทนี้ผมพบว่าแทนที่บริษัทจะมุ่งเน้นการขายผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่เหมือนเจ้าอื่นๆ เขากลับสร้างร้านจำหน่ายสินค้าของเขาเอง ซึ่งแต่ละร้านที่เขาเปิดใช้เงินลงทุนไม่มาก ไม่ติดแอร์ แต่ใช้ระบบ IT เข้ามาจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
การขายผ่านหน้าร้านของบริษัทเองทำให้บริษัทไม่ต้องให้เครดิต มาร์จิ้นไม่ถูกกดเหมือนการขายผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในระดับสูง และสามารถจ่ายปันผลได้ ในขณะที่ตอนนั้นผู้คนในตลาดไม่มีใครสนใจธุรกิจกระเบื้องเพราะเหมาเอาหมดว่าเป็นธุรกิจตะวันตกดิน ต้นทุนเราไม่สามารถแข่งขันกับจีนได้ กระเบื้องจีนต่อไปจะเข้ามาตีตลาด แต่กลายเป็นว่าหลังจากนั้นมาไม่กี่ปี บริษัทนี้กลับได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ใน SET50 Index
กรณีที่ 2 ธุรกิจรับเงินสดเป็นธุรกิจที่ผมชอบมานานแล้ว เพราะผมเคยเป็นพนักงานขายทำให้รู้ว่า ขายของได้ยังไม่นับว่าเก่ง ถ้าเก่งจริงต้องเก็บเงินให้ได้ด้วย และรู้ดีว่าขั้นตอนการทวงเงินนั้นมันยุ่งยากขนาดไหน
ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ผมติดตามอยู่เสมอ ผมเคยทำการวิเคราะห์ NPM ของร้านอาหารของไทย ของเอเซีย และร้านที่มีเครือข่ายระดับโลกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และพบว่า NPM ส่วนใหญ่จะประมาณ 10% หรือต่ำกว่า แต่กลับมีบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นร้านอาหารแบบทานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับทำNPM ได้เกือบ 20% ติดต่อกันมานานหลายปี เขาทำได้อย่างไร ทำไมไม่มีใครทำได้ อย่างนี้มันต้องมีสิ่งที่เรียกว่า DCA อย่างแน่นอน หลังจากที่ศึกษา Business Model ของบริษัทนี้ผมพบว่า จริงๆแล้วเขาไม่ได้ขายอาหารแต่อย่างเดียวแต่ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แฝงตัวอยู่ในนั้นด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เมื่อหลายสิบปีมาแล้วตอนที่บริษัทเริ่มขยายแฟรนไชส์ร้านในอเมริกา ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประสบปัญหาไม่สามารถหาทำเลดีๆในการทำร้านอาหาร หรือไม่ก็ไม่มีเงินพอที่จะลงทุนสร้างร้าน ทำให้บริษัทแม่ต้องเข้ามาเป็นผู้จัดหาร้านให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ โดยบริษัทแม่จะเก็บค่าเช่าร้านคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายหรือไม่ก็เช่าช่วงมาแล้วมาปล่อยต่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ เมื่อเวลาผ่านไปอสังหาเหล่านั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากมาย ธุรกิจอาหารก็ได้รับความนิยม ยอดขายเพิ่มขึ้นมากมายทำให้ค่าเช่าก็เพิ่มขึ้นด้วย
หน่ำซ้ำบริษัทแม่ยังสามารถทำการซื้อขายอสังหาเหล่านั้นได้อีก บริษัทอื่นที่มาทีหลังหากต้องการทำธุรกิจร้านอาหารด้วย Business Model เดียวกันนี้คงทำได้ยากเพราะต้นทุนของธุรกิจอสังหาจะสู้ผู้ที่มาก่อนไม่ได้เนื่องจากเงินเฟ้อทำให้ค่าก่อสร้างและต้นทุนสัญญาเช่าที่เพิ่มขึ้นในทุกๆปี
ในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าโดยมากจะเป็นการถือหุ้นในระยะยาวกว่าค่าเฉลี่ยของคนในตลาด
นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนซึ่งมีความหมายมากกว่าการให้ความสำคัญต่อตัวเลขอัตราส่วนทางการเงิน เพราะในการถือหุ้นระยะยาวเราคงหลีกเลี่ยงการถือหุ้นฝ่าวิกฤตได้ยาก ในวิกฤตเราจะเห็นว่ามีบริษัท PE < 5 PBV < 1 ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่ราคาถูก แต่กลับต้องปิดกิจการลง แต่หุ้นที่มี DCA นั้นสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ และมีอยู่หลายครั้งที่ราคาจะขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป
[/size]
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ส.ค. 21, 2012 10:07 am | 0 คอมเมนต์
สุดยอดครับ ขอบคุณมาก
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
K-invest
Verified User
โพสต์: 107
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ส.ค. 21, 2012 9:24 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากครับ จะรออ่านตอนต่อไปครับ
pakhakorn
Verified User
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ส.ค. 21, 2012 10:46 pm | 0 คอมเมนต์
จะรออ่านตอนต่อไปอีก ยอดเยี่ยมจริงๆ
ขอบคุณ ครับ
เกล้า
Verified User
โพสต์: 1165
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ส.ค. 21, 2012 11:25 pm | 0 คอมเมนต์
มารอติดตามครับ..ยอดเยี่ยมครับพี่คนขายของ..
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 8:40 am | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ หนึ่งในจอมยุทธ์ที่ผมชื่นชมครับ พี่คนขายของ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง "
kabu
Verified User
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 9:54 am | 0 คอมเมนต์
ยอดเยี่ยมมากครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับบทความดีดี จะติดตามอ่านเรื่อยๆ ครับ
ake3004
Verified User
โพสต์: 502
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 10:25 am | 0 คอมเมนต์
p คนขายของ sud yod kab.
great that i have a chance to talk with him once.
Confirm to me again that some of key success factor is reading much kab.
cant wait other articles kab^^
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 10:40 am | 0 คอมเมนต์
ยอดเยี่ยมเลยครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
boat_09
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 1:37 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากครับ จะรอติดตามต่อไปนะครับ
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 5:15 pm | 0 คอมเมนต์
ฟังเรื่องหุ้นกระเบื้อง
แล้ว ชวนให้นึกถึงอิฐ มวลเบา
สักวันจะมีไหม
ที่ปรับโมเดลตัวเองอย่างกระเบื้อง
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 788
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 8:43 pm | 0 คอมเมนต์
ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคน ที่แวะเวียนมาอ่านกัน หากผมเขียนอะไรผิดพลาดไป ต้องขออภัย ยินดีหากท่านมีข้อท้วงติงใด และถ้ามีคอมเม้นท์อะไรก็แชร์ได้เต็มที่นะครับ
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 9:56 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ส.ค. 22, 2012 10:24 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="คนขายของ"]ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคน ที่แวะเวียนมาอ่านกัน หากผมเขียนอะไรผิดพลาดไป ต้องขออภัย ยินดีหากท่านมีข้อท้วงติงใด และถ้ามีคอมเม้นท์อะไรก็แชร์ได้เต็มที่นะครับ[/quote]
สุดยอดอยู่แล้วคับ
อยากให้มีภาคต่อ ว่า
ดูยังไงไม่ใช่ too good to be true
ผมเห็นหุ้นพลาสติกตัวนึง
เผื่อใช่เป็นความรู้ในการมอง
ขอบคุณคับ
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 4:03 am | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากคับ ขอรออ่านตอนต่อไปด้วยคนคับ
anuchitkova
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 7:44 am | 0 คอมเมนต์
[quote="คนขายของ"]ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคน ที่แวะเวียนมาอ่านกัน หากผมเขียนอะไรผิดพลาดไป ต้องขออภัย ยินดีหากท่านมีข้อท้วงติงใด และถ้ามีคอมเม้นท์อะไรก็แชร์ได้เต็มที่นะครับ[/quote]
Linzhi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1464
ผู้ติดตาม: 1
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 9:37 am | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ เยี่ยมเลยครับ
ไม่รู้พี่พอมีข้อมูลรึเปล่าว่า ธุรกิจอย่างธุรกิจอาหาร ที่มี DCA มันไปส่งผลกับ GPM หรือ NPM มากกว่ากันครับ
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 788
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 10:35 am | 0 คอมเมนต์
[quote="Linzhi"]ไม่รู้พี่พอมีข้อมูลรึเปล่าว่า ธุรกิจอย่างธุรกิจอาหาร ที่มี DCA มันไปส่งผลกับ GPM หรือ NPM มากกว่ากันครับ[/quote]
ขอบคุณสำหรับคำถามครับหลิน ผมเองยังไม่มีข้อมูลพอที่จะยืนยันว่า DCA ของร้านอาหารจะส่งถึง Gross หรือ Net Margin มากกว่ากัน
แต่ถ้าให้พูดจากความเห็นส่วนตัว สำหรับในกรณี business model ของร้านเบอร์เกอร์ระดับโลกแล้ว มีผลต่อ NPM มากกว่าครับ
เท่าที่ผมได้ดูมาถ้าพิจารณาจาก Gross Margin เป็นหลัก GPM ของเบอร์เกอร์จัดว่าอยู่ในระดับดีมากแต่ยังไม่สามารถทิ้งห่างอย่างเหนือชั้นได้
แต่หากพิจารณาจาก NPM แล้วตอนนี้ยังไม่มีใครเทียบได้ครับ
แต่ทั้งนี้สำหรับในกรณีอื่นเช่น มีธุรกิจร้านอาหารที่มี DCA ในเรื่องการให้แฟรนไชส์ซี่ซื้อวัตถุดิบโดยตรงจาก qualified suppliers โดยมีกระบวนการที่เทพมาก
สำหรับในกรณีนี้ DCA อาจมีผลต่อ GPM มากกว่า เพราะ DCAนี้มีผลโดยตรงต่อในเรื่องของ Cost of Goods Sold ของบริษัทแม่
สำหรับ NPM ก็คงมีผลด้วยเพราะอยู่ปลายน้ำ แต่คงไม่มี impact เท่า
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 11:12 am | 0 คอมเมนต์
[quote="Thai VI Article"]
นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนซึ่งมีความหมายมากกว่าการให้ความสำคัญต่อตัวเลขอัตราส่วนทางการเงิน เพราะในการถือหุ้นระยะยาวเราคงหลีกเลี่ยงการถือหุ้นฝ่าวิกฤตได้ยาก ในวิกฤตเราจะเห็นว่ามีบริษัท PE < 5 PBV < 1 ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่ราคาถูก แต่กลับต้องปิดกิจการลง แต่หุ้นที่มี DCA นั้นสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ และมีอยู่หลายครั้งที่ราคาจะขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป[/code][/size][/quote]
ผมขอสนับสนุนแนวคิดนี้ ของท่านคนขายของมากครับ จากประสบการณ์ความผิดพลาดของตัวผมเอง
ช่วงก่อนวิกฤต ผมไล่หุ้น โรงกลั่นลูกข่าง อยู่ตัวหนึ่งครับ ตัวเลขดูดีหมดครับ คนสนับสนุน ต้นทุนผมอยู่ประมาณ 7x และด้วยความเร่าร้อนของกลุ่มพลังงาน โรงกลั่นลูกข่างขึ้นไปทำ Higher high ที่ประมาณ 9x ผมคิดในใจ "มาถูกทางแล้วโว๊ย เทพจริงเว๊ยเรา" หลังจากนั้นไม่นาน เกิดวิกฤต ชุลมุนไปหมด ผมนั่งรอตัวเลขผลประกอบการณ์ เฮ้ย ออกมาใช้ได้ครับ แต่ทำไมหุ้นตก และตก และตก จนลงมาถึง ถ้าผมจำไม่ผิด 18 บาท หรือต่ำกว่า ผมถือหุ้นตัวนี้เป็นตัวมากสุดในพอร์ตครับ คิดดูครับ มีเงินประมาณ 80 เหลือ 18 จะรู้สึกยังไง
กลับบ้านเดินไปที่เสา เอาหัวเขกเสาทุกวัน ปั่ก ปั่ก เจ็บปวดมากครับ นั่นก็เพราะไม่เข้าใจพื้นฐานไม่รู้ว่า Sources of Profit คืออะไร รู้แต่กำไรบันทัดบน บันทัดเดียว ดีก็ดี ดีแล้วหุ้นขึ้นก็ดี ดูตัวเลขอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์
ลินซ์ เคยสอนว่า ซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าคุณถูก
ซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงไม่ได้แปลว่าคุณผิด
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แชร์ความโง่ของตัวเองไว้เป็นอุทธาหรณ์ดีกว่า
อีกเรื่องที่เจ๊ง จากความกากของตัวผมเอง ก็คือ หุ้นโรงกลั่นอีกตัวนึงครับ คือไม่เข็ดน่ะครับ
ตัวเลขดีหมดเลยครับ จนมีชาวต่างชาติสนใจร่วมทุน มีปั๊มน้ำมันเป็นของตัวเองบางปั๊ม แต่ติดเรื่องอนาคตของ Raw Material เรื่องนี้ในกระบวนการ ผบห. ก็บอกว่า เจรจาบ้าง กำลังดำเนินการบ้าง น่าจะแก้ไขได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สุดท้าย ตอบโจทย์ไม่ได้ ต้องเริ่มตั้งไข่กับธุรกิจใหม่ กับสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน
คือ นี่หล่ะครับ Sources of Profit มันหายวั๊บไปเลย แบบนี้ ผมก็เจ๊งไปตามระเบียบ
DCA ที่ท่านคนขายของว่ามานั้นสำคัญมากครับ นลท. ทุกคนควรให้ความใส่ใจให้มากครับ และเรียนรู้ให้มากครับ ขอบคุณท่านคนขายของด้วยครับ และผมรอตอนต่อไปนะครับ
อินทรีย์ทองแดง
Verified User
โพสต์: 513
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 2:26 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ รอตอนต่อไปด้วยคนครับ
อยากขอแชร์มุมมองเรื่อง"ศักยภาพของธุรกิจ" ซึ่งเจ้าสิ่งนี้มันอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะตีค่ากันอย่างไร
อย่างที่พี่คนขายของสนใจธุรกิจขาหนึ่งของเจ้าสัวใหญ่ ผมคิดว่าแรงจูงใจหนึ่งก็คือเรื่องศักยภาพที่ซ่อนอยู่กระมัง
พี่ให้น้ำหนักมากน้อยอย่างไร ขอแชร์มุมมองหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
akindle
Verified User
โพสต์: 159
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 4:19 pm | 0 คอมเมนต์
ได้มุมมองใหม่ เสมอ ขอบคุณครับ
natt4
Verified User
โพสต์: 4
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 5:56 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ส.ค. 24, 2012 2:43 pm | 0 คอมเมนต์
DCA กับ biz model เหมือนเหรียญสองด้านเลย การมี biz model ที่ยอดเยี่ยมสร้าง DCA และการมี DCA ในแต่ละส่วนของ biz model คือสุดยอด biz model
sorageol46
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ส.ค. 24, 2012 9:51 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ คุณ คนขายของ ที่มาแบ่งปันความรู้ครับผม
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 2
เสาร์ ส.ค. 25, 2012 5:04 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ บทความมีประโยชน์มากครับ ^^
Percen
Verified User
โพสต์: 44
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ส.ค. 26, 2012 9:51 am | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว
sipoonya
Verified User
โพสต์: 469
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ส.ค. 26, 2012 5:24 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากครับ รอบทความต่อๆไปของพี่นะครับ
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ส.ค. 26, 2012 10:55 pm | 0 คอมเมนต์
DCAผมไม่ค่อยรู้
ผมเน้นตัวเลขอดีตถึงปัจจุบันต้องดีเช่น
roa roe sale profit
แล้วผมก็รอ รอ รอ ราคาที่ถูกๆๆ
ข้างหลังตัวเลขไม่เคยหลอกผม
kraikria
Verified User
โพสต์: 1161
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ส.ค. 28, 2012 10:32 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับข้อคิดที่มีประโยชน์ครับ
monsoon
Verified User
โพสต์: 535
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 08, 2012 9:20 pm | 0 คอมเมนต์
เยี่ยม^^