หาความรู้เรื่องการShort Against Port

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
multipleceilings
Verified User
โพสต์: 2141
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 31

โพสต์

^^ ไม่เกี่ยวกับจังหวะตลาดครับ พอมีเรื่องระบุ mos เข้ามาเกี่ยว ถือเป็นการทำตามเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ เท่านั้น
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 32

โพสต์

แล้วเงื่อนที่ตั้ง โดยใช้ MOS

โดยหากได้ MOS ตามที่ต้องการแล้ว
ถึงจะซื้อ

มิเช่นนั้น ก็จะรอ ไปเรื่อยๆ

เป็นเงื่อนไข อิสระ
หรือเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ถ้าเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ทำไม

การรอให้ราคาหุ้น หรือ การหวังให้ราคาหุ้น
...ตกลงมา

จนมี MOS อย่างที่เราคาดหวัง

จึงไม่เป็น การจับจังหวะตลาด
หรือ การคาดเดาราคา



ก็ในเมื่อ
การทำ SAP มีการตั้งข้อสังเกตว่า

VI จะไม่ทำ เพราะ ไม่มีใครจับจังหวะตลาดได้
ขายไปแล้ว ไม่รู้จะซื้อกลับที่ราคานี้ได้หรือเปล่า

เปรียบเทียบกับ การตั้งเงื่อนไข MOS
แล้วพบว่า

ราคาตลาดยังให้ MOS ไม่เพียงพอ
เราจึงไม่ซื้อ

แล้วกรณีนี้ล่ะ
เรารู้ได้อย่างไรว่า

สักวันหนึ่ง

ราคาหุ้นตัวนั้น จะต้องตกลงมา
จนมี MOS ตามที่เราต้องการ
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 33

โพสต์

iamkom เขียน:...
เปรียบเทียบกับ การตั้งเงื่อนไข MOS
แล้วพบว่า

ราคาตลาดยังให้ MOS ไม่เพียงพอ
เราจึงไม่ซื้อ

แล้วกรณีนี้ล่ะ
เรารู้ได้อย่างไรว่า

สักวันหนึ่ง

ราคาหุ้นตัวนั้น จะต้องตกลงมา
จนมี MOS ตามที่เราต้องการ
การลงทุนส่วนตัวของผม คำตอบคือไม่รู้ครับ
เพราะผมไม่เคยคาดการณ์ทิศทางของราคาหุ้น
ว่ากำลังจะขึ้น หรือว่ากำลังจะลง

และถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ก็จะไม่ซื้อครับ
ผมจะมองข้ามโอกาสนั้นไป
ถ้ามองภาพบริษัทมัวๆ ไม่ชัด

เมื่อซื้อหุ้นแล้ว หุ้นจะลงก็ได้ หุ้นจะขึ้นก็ดี
ผมรู้แค่ว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยก็สบายใจละ

สำหรับ MOS ผมมองว่ามันมี 2 ด้าน
เชิงคุณภาพ กับเชิงปริมาณ

และมันก็ไม่ใช่ตัวเลขตายตัว

แต่ถ้าคิดว่าการรอซื้อหุ้นที่หมายปอง
ซึ่งในอนาคต จะซื้อ หรือ ไม่ซื้อก็ได้
เป็นการจับจังหวะตลาด
ก็สุดแล้วแต่จะคิดครับ
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 34

โพสต์

มาคิดๆ ดู จังหวะลงทุนของผม
มันคล้ายๆ กับเกมบิงโก

เราไม่รู้ว่าเราจะบิงโกเมื่อไหร่
เราแค่หาโอกาสไปเรื่อยๆ
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

ไม่ใส่ใจภาวะตลาด
ราคาหุ้นไม่จำเป็นต้องลง
แม้้ป็นราคา new high
ก็ซื้อลงทุนได้ ถ้าคิดว่ามันปลอดภัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul Octopus
Verified User
โพสต์: 798
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เอาตัวอย่างกันสดๆร้อนๆ
TNH เป็นหุ้นที่หลายๆคนที่เรียกตัวเองว่า VI ถือกันอยู่
ใครก็ตามที่ทนไม่ได้ขายไปก่อน หรือใช้วิธี SAP และ กำลังรอซื้อกลับ ดูซิครับว่า เมื่อวานราคาขึ้น 10% วันนี้ถึงตอนเที่ยงครึ่งอีก 17 %
จะซื้อกลับยังใงทัน?
ราคาวิ่งไปหาค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาลในปัจจุบัน

ครั้งนี้คงมีคนเจ็บปวด เพราะSAPไม่น้อย คงได้บทเรียนเหมือนผมเมื่อหลายๆปีก่อน

โชคดีที่ผมเรียนรู้ไปก่อน.....วันนี้เลย ดีใจนิดหน่อย :mrgreen:
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 36

โพสต์

อ่านความเห็นพี่หมึก paul แล้ว
นึกถึงความสุขของการเห็นรวงข้าว
สุขเหลืองอร่ามเต็มท้องนา

มันคงเป็นแค่ภาพฝัน ถ้านักรอคอย
ถอดใจไปก่อน

ส่วนตัวเคยถือ tnh เหมือนกันนะพี่
แต่ผมไม่รอ :B
multipleceilings
Verified User
โพสต์: 2141
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 37

โพสต์

iamkom เขียน:แล้วเงื่อนที่ตั้ง โดยใช้ MOS

โดยหากได้ MOS ตามที่ต้องการแล้ว
ถึงจะซื้อ

มิเช่นนั้น ก็จะรอ ไปเรื่อยๆ

เป็นเงื่อนไข อิสระ
หรือเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ถ้าเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ทำไม

การรอให้ราคาหุ้น หรือ การหวังให้ราคาหุ้น
...ตกลงมา

จนมี MOS อย่างที่เราคาดหวัง

จึงไม่เป็น การจับจังหวะตลาด
หรือ การคาดเดาราคา



ก็ในเมื่อ
การทำ SAP มีการตั้งข้อสังเกตว่า

VI จะไม่ทำ เพราะ ไม่มีใครจับจังหวะตลาดได้
ขายไปแล้ว ไม่รู้จะซื้อกลับที่ราคานี้ได้หรือเปล่า

เปรียบเทียบกับ การตั้งเงื่อนไข MOS
แล้วพบว่า

ราคาตลาดยังให้ MOS ไม่เพียงพอ
เราจึงไม่ซื้อ

แล้วกรณีนี้ล่ะ
เรารู้ได้อย่างไรว่า

สักวันหนึ่ง

ราคาหุ้นตัวนั้น จะต้องตกลงมา
จนมี MOS ตามที่เราต้องการ
ก่อนที่ผมจะตอบ ขอถามก่อนครับ ว่า ไม่เข้าใจและสับสนจริงๆ แยกไม่ออก หรือ ยังไงครับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ส.สลึง เขียน:
miracle เขียน:
ส.สลึง เขียน:ชนะศึกในสมรภูมิ 100 ครั้ง
เทียบไม่ได้กับชัยชนะในสงครามครั้งเดียว :)
อันนี้มาจากสงครามครั้งสุดท้ายของยุคเลียดก๊กนี่น่า
:)
แบบว่าลักจำเขามาอีกทีครับ :)
loose battle to win the war

retreat is part of the plan
show me money.
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ถ้าผมชัวร์ 2 ข้อนี้นะ
1 ราคาเหมาะสม หรือราคาเป้า
2 ราคามันจะลงแน่ๆ

ผมขายแน่ๆถ้ามีหุ้นในมือ หรือ shortล่วงหน้า
แต่ความเป็จริง คือ มันไม่เคยชัวร์ ทั้งข้อใดข้อหนึ่ง
ส่วนจะใช้วิธีอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับ
สถานการณ์ ณ เวลานั้น
ต่างกรรมต่างวาระ
คงไม่สามารถ manage ด้วยวิธีเดิมได้ทุกครั้ง
หน้าตักต่างกัน จุดประสงค์ต่างกัน time frame ต่างกัน
show me money.
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 40

โพสต์

multipleceilings เขียน:
iamkom เขียน:แล้วเงื่อนที่ตั้ง โดยใช้ MOS

โดยหากได้ MOS ตามที่ต้องการแล้ว
ถึงจะซื้อ

มิเช่นนั้น ก็จะรอ ไปเรื่อยๆ

เป็นเงื่อนไข อิสระ
หรือเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ถ้าเกี่ยวพันกับ ราคาตลาด

ทำไม

การรอให้ราคาหุ้น หรือ การหวังให้ราคาหุ้น
...ตกลงมา

จนมี MOS อย่างที่เราคาดหวัง

จึงไม่เป็น การจับจังหวะตลาด
หรือ การคาดเดาราคา



ก็ในเมื่อ
การทำ SAP มีการตั้งข้อสังเกตว่า

VI จะไม่ทำ เพราะ ไม่มีใครจับจังหวะตลาดได้
ขายไปแล้ว ไม่รู้จะซื้อกลับที่ราคานี้ได้หรือเปล่า

เปรียบเทียบกับ การตั้งเงื่อนไข MOS
แล้วพบว่า

ราคาตลาดยังให้ MOS ไม่เพียงพอ
เราจึงไม่ซื้อ

แล้วกรณีนี้ล่ะ
เรารู้ได้อย่างไรว่า

สักวันหนึ่ง

ราคาหุ้นตัวนั้น จะต้องตกลงมา
จนมี MOS ตามที่เราต้องการ
ก่อนที่ผมจะตอบ ขอถามก่อนครับ ว่า ไม่เข้าใจและสับสนจริงๆ แยกไม่ออก หรือ ยังไงครับ
จับประเด็นของคำถามไม่ได้ จริงๆหรือครับ

ลองดูคำตอบของคนที่อื่นดูครับ
ว่าทำไมเขาตอบมาได้ โดยไม่ได้ถามเรื่องความสับสน

เพราะ ผมไม่ได้สับสน และแยกแยะให้เห็นชัดๆ
แล้วต่างหาก

แต่ขอถามนะครับว่า ตรงไหน ที่ทำให้คุณสับสน
แล้วคิดว่า คนถาม มีความสับสน

ขอบคุณครับ
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ส.สลึง เขียน:
iamkom เขียน:...
เปรียบเทียบกับ การตั้งเงื่อนไข MOS
แล้วพบว่า

ราคาตลาดยังให้ MOS ไม่เพียงพอ
เราจึงไม่ซื้อ

แล้วกรณีนี้ล่ะ
เรารู้ได้อย่างไรว่า

สักวันหนึ่ง

ราคาหุ้นตัวนั้น จะต้องตกลงมา
จนมี MOS ตามที่เราต้องการ
การลงทุนส่วนตัวของผม คำตอบคือไม่รู้ครับ
เพราะผมไม่เคยคาดการณ์ทิศทางของราคาหุ้น
ว่ากำลังจะขึ้น หรือว่ากำลังจะลง

และถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ก็จะไม่ซื้อครับ
ผมจะมองข้ามโอกาสนั้นไป
ถ้ามองภาพบริษัทมัวๆ ไม่ชัด

เมื่อซื้อหุ้นแล้ว หุ้นจะลงก็ได้ หุ้นจะขึ้นก็ดี
ผมรู้แค่ว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยก็สบายใจละ

สำหรับ MOS ผมมองว่ามันมี 2 ด้าน
เชิงคุณภาพ กับเชิงปริมาณ

และมันก็ไม่ใช่ตัวเลขตายตัว

แต่ถ้าคิดว่าการรอซื้อหุ้นที่หมายปอง
ซึ่งในอนาคต จะซื้อ หรือ ไม่ซื้อก็ได้
เป็นการจับจังหวะตลาด
ก็สุดแล้วแต่จะคิดครับ
MOS เชิงคุณภาพ น่าจะหมายถึง
กฎเกณฑ์อะไรบางอย่างมากกว่า
แล้วก็เป็น Subjective มากๆ

เพราะ ถ้าให้เรียงลำดับ
หุ้นในตลาดทั้งหมด ตาม MOS เชิงคุณภาพ

คนร้อยคน ก็ต้องเรียงกัน ร้อยแบบ
ใช่หรือเปล่า ?

แล้วบริษัทที่มี MOS เชิงคุณภาพสูงสุด (ท่านคิดว่าบริษัทไหน)
เป็นบริษัทที่ จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน สูงสุด หรือ
หรือ เป็นบริษัทที่น่าลงทุนที่สุดหรือเปล่า (ขอเหตุผลประกอบ)


ประเด็นต่อมา คือ MOS เชิงปริมาณ
หรือ ที่กล่าวกันอยู่ทั่วไป มักจะหมายถึง

ส่วนลด หรือ ส่วนต่างของ

ราคา Intrinsic Value หรือ Fair price ( ตามการประเมินของแต่ละคน)
ที่มีต่อ ราคาตลาด

ตรงนี้ เห็นด้วยหรือเห็นตรงกัน นะครับว่า
Intrinsic Value หรือ Fair Price ไม่มีตัวเลขที่ตายตัว

แต่ในขณะที่ราคาตลาด ที่ทุกคนใช้อ้างอิง
คือ ราคาเดียวกัน

คำถาม ก็คือ .... ราคาในการเข้าซื้อหุ้นตัวหนึ่งๆ

จากการประเมิน IV หรือ FP
ที่มีการคำนึงถึง MOS ( ซึ่งแต่ละคนก็มี ตัวเลขไม่เท่ากันอีก)

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
ใครกำหนดได้เหมาะสม หรือ ตัวเลขตัวไหนที่เหมาะสม ?

แล้วถ้ามีตัวเลขหนึ่ง ที่แต่ละคนเชื่อว่า เหมาะสม
แต่ไม่สามารถซื้อได้ คือ ราคาหุ้นนั้นๆ

ไม่เคยตกลงมาต่ำกว่านั้นอีกเลย
ราคานั้น จะยังเป็นราคาที่เหมาะสมอีกหรือเปล่า ?

ประเด็นต่อมาก็คือ
การกำหนดราคาซื้อหุ้นตัวเดียวกัน ที่มีราคาแตกต่างกัน
ของคนกลุ่มหนึ่ง

แล้วมีบางคนได้ครอบครอง
โดยราคาได้ลงมาถึง ที่คนๆนั้น ได้กำหนดไว้

แต่ก็มีอีกหลายๆคน ที่ตั้งไว้ต่ำกว่านั้น (บางทีก็ต่างกันแค่เล็กน้อย)
แล้วไม่ได้ครอบครอง

นั่นหมายถึง การใช้ MOS

ไม่ได้เป็นเงื่อนไข ที่ให้เราได้ใช้ ฟรีๆ

แต่มี ค่าเสียโอกาส
เป็นการแลกเปลี่ยนด้วย

ใช่หรือเปล่า ?
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 42

โพสต์

Paul Octopus เขียน:เอาตัวอย่างกันสดๆร้อนๆ
TNH เป็นหุ้นที่หลายๆคนที่เรียกตัวเองว่า VI ถือกันอยู่
ใครก็ตามที่ทนไม่ได้ขายไปก่อน หรือใช้วิธี SAP และ กำลังรอซื้อกลับ ดูซิครับว่า เมื่อวานราคาขึ้น 10% วันนี้ถึงตอนเที่ยงครึ่งอีก 17 %
จะซื้อกลับยังใงทัน?
ราคาวิ่งไปหาค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาลในปัจจุบัน

ครั้งนี้คงมีคนเจ็บปวด เพราะSAPไม่น้อย คงได้บทเรียนเหมือนผมเมื่อหลายๆปีก่อน

โชคดีที่ผมเรียนรู้ไปก่อน.....วันนี้เลย ดีใจนิดหน่อย :mrgreen:

ตรงนี้
สรุปผล ไม่ตรงกับ เหตุ ครับ

เพราะ คนที่จะเจ็บปวดกับวิธี SAP
คือ คนที่ใช้ไม่เป็น หรือไม่รู้วิธีใช้

แต่คิดแค่ว่า อยากจะทำ SAP
ต่างหาก

เหมือนกับ
คนที่ไม่รู้วิธีการลงทุนแบบบ VI

พอเสียหายด้วยวิธีของ VI แล้วโทษหลักการของ VI
นั่นแหละครับ

ความเจ็บปวดในอดีตของคุณ
มาจากสาเหตุนี้


ส่วนการทำ SAP ที่ถูกต้อง
จะไปเกี่ยวข้องกับ Trading System และ Money Management
อีกด้วย ขายหมดมือในไม้เดียว แล้วราคาวิ่งขึ้น

ตรงนี้ อย่าไปบอกใครๆ ว่าทำ SAP เป็น
เลยครับ

ส่วนที่ว่า VI หลายคนถือ เพราะอดทนไม่พอ

อันนี้ คงต้องให้คนที่ขายไปก่อนหน้า
มาเปิดเผยดีกว่าว่า

ขายไปด้วยเหตุผลใด

แต่การยกกรณีนี้ ขึ้นมา
กลับทำให้ยิ่งเห็นได้ชัดว่า

สำหรับ บางคน ที่สนใจและจะเข้าซื้อหุ้นตัวนี้
แต่กำลัง...ต่อรองราคา

ก็อาจไม่ต่างกับ การคาดเดาราคาหุ้น
หรือ จับจังหวะตลาด

แล้วพลาด นั่นเอง
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 43

โพสต์

แก้ไขคำผิด

ถือ แก้เป็น ขาย

ส่วนที่ว่า VI หลายคน...ขาย เพราะอดทนไม่พอ
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 44

โพสต์

iamkom เขียน:MOS เชิงคุณภาพ น่าจะหมายถึง
กฎเกณฑ์อะไรบางอย่างมากกว่า
แล้วก็เป็น Subjective มากๆ

เพราะ ถ้าให้เรียงลำดับ
หุ้นในตลาดทั้งหมด ตาม MOS เชิงคุณภาพ

คนร้อยคน ก็ต้องเรียงกัน ร้อยแบบ
ใช่หรือเปล่า ?

แล้วบริษัทที่มี MOS เชิงคุณภาพสูงสุด (ท่านคิดว่าบริษัทไหน)
เป็นบริษัทที่ จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน สูงสุด หรือ
หรือ เป็นบริษัทที่น่าลงทุนที่สุดหรือเปล่า (ขอเหตุผลประกอบ)


ประเด็นต่อมา คือ MOS เชิงปริมาณ
หรือ ที่กล่าวกันอยู่ทั่วไป มักจะหมายถึง

ส่วนลด หรือ ส่วนต่างของ

ราคา Intrinsic Value หรือ Fair price ( ตามการประเมินของแต่ละคน)
ที่มีต่อ ราคาตลาด

ตรงนี้ เห็นด้วยหรือเห็นตรงกัน นะครับว่า
Intrinsic Value หรือ Fair Price ไม่มีตัวเลขที่ตายตัว

แต่ในขณะที่ราคาตลาด ที่ทุกคนใช้อ้างอิง
คือ ราคาเดียวกัน

คำถาม ก็คือ .... ราคาในการเข้าซื้อหุ้นตัวหนึ่งๆ

จากการประเมิน IV หรือ FP
ที่มีการคำนึงถึง MOS ( ซึ่งแต่ละคนก็มี ตัวเลขไม่เท่ากันอีก)

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
ใครกำหนดได้เหมาะสม หรือ ตัวเลขตัวไหนที่เหมาะสม ?
ขอสงสัยเยอะแยะไปหมด
แต่ขอให้ความเห็นซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว
ไม่เกี่ยวกับนักลงทุนท่านอื่น

mos ช่วยให้การลงทุนปลอดภัย
ไม่ได้หมายความว่าการลงทุนนั้นมีกำไร
ซึ่งก็ตามชื่อของมันเลยครับ
ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย

แล้วปลอดภัยจากอะไร
ก็ปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่คาดฝัน

ส่วนความฝันของใครก็ของมันครับ

ขนาดคนเราฝันไม่เหมือนกัน
ยังซื้อหวยเบอร์เดียวกันได้เลย

แฮ่ม...

mos สำหรับผมจึงไม่ใช่ส่วนลด
ดังนั้นหุ้นจึงไม่จำเป็นต้องราคาลง
หรือขายเทกระจาด ถึงจะซื้อลงทุนได้

ส่วนหุ้นที่ปลอดภัยที่สุด
หรือ mos เชิงคุณภาพสูงสุด

ส่วนตัวคิดว่า
ก็คือหุ้นที่เราเข้าใจมันดีนั่นแหละ
ซึ่งความเข้าใจ มันจะไปสะท้อน
ใน intrinsic value นั่นเอง

ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง
บ. ที่มีลูกค้าเจ้าเดียว กับ บ. ที่มีลูกค้าล้านราย
แล้วไงต่อ ไปคิดกันเอง ร้อยคนก็ร้อยแบบ

ในส่วนของส่วนลดในกิจการที่ผมคิดว่า mos เชิงคุณภาพเยอะ
ผมมักไม่ค่อยเกี่ยงเรื่องราคา
ว่าต้องส่วนลดเท่านั้นเท่านี้ครับ

ส่วนเรื่องราคาเหมาะสมสำหรับตัวผมเองนั้น
คำตอบคือ มี ครับ
แต่ราคาเหมาะสมสำหรับทุกคนนั้น
ผมคิดว่าไม่มีนะ

ในทำนองเดียวกัน การลงทุนที่มี mos สำหรับผมนั้น
คำตอบคือ มี ครับ
แต่การลงทุนที่มี mos สำหรับทุกคนนั้น
คำตอบ คือ ไม่มี ครับ

ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่า ?
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 45

โพสต์

iamkom เขียน:เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
ใครกำหนดได้เหมาะสม หรือ ตัวเลขตัวไหนที่เหมาะสม ?

แล้วถ้ามีตัวเลขหนึ่ง ที่แต่ละคนเชื่อว่า เหมาะสม
แต่ไม่สามารถซื้อได้ คือ ราคาหุ้นนั้นๆ

ไม่เคยตกลงมาต่ำกว่านั้นอีกเลย
ราคานั้น จะยังเป็นราคาที่เหมาะสมอีกหรือเปล่า ?

ประเด็นต่อมาก็คือ
การกำหนดราคาซื้อหุ้นตัวเดียวกัน ที่มีราคาแตกต่างกัน
ของคนกลุ่มหนึ่ง

แล้วมีบางคนได้ครอบครอง
โดยราคาได้ลงมาถึง ที่คนๆนั้น ได้กำหนดไว้

แต่ก็มีอีกหลายๆคน ที่ตั้งไว้ต่ำกว่านั้น (บางทีก็ต่างกันแค่เล็กน้อย)
แล้วไม่ได้ครอบครอง

นั่นหมายถึง การใช้ MOS

ไม่ได้เป็นเงื่อนไข ที่ให้เราได้ใช้ ฟรีๆ

แต่มี ค่าเสียโอกาส
เป็นการแลกเปลี่ยนด้วย

ใช่หรือเปล่า ?
มาต่อกัน

เคยเล่นเบสบอลมั๊ยครับ ?

ส่วนตัวผมไม่เคยเล่น
เคยเล่นแต่เกมเบสบอล

ตัวใจของการทำแต้มของฝ่ายตี
คือรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่ไม่ควรทำ

ถ้าหวดทุกลูกที่บอลถูกคว้างมา
โอกาสแพ้สูงครับ
ยิ่งถ้าอีกฝ่ายจับทางเราได้
จะคว้างให้เรา out ได้ง่ายๆ

แต่สิ่งที่ฝ่ายตีควรทำ คือ
ต้องรอลูกที่เราถนัดครับ
แล้วเมื่อโอกาสมาถึง ก็แค่หวดให้มันสุดแรง

แฮ่ม...

ทุกวันนี้ผมมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคน
มีความถนัดไม่เหมือนกันครับ
นักลงทุนก็เหมือนกัน

และเมื่อโอกาสมาถึง
ก็แค่ใช้ความถนัดให้เป็นประโยชน์ครับ
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 46

โพสต์

ที่ตอบมา ยังไม่ค่อยตรงคำถาม
สักเท่าไหร่

เพราะท่าน จุดประเด็นเรื่อง MOS เชิงคุณภาพ
แต่ยังไม่ได้ตอบว่า

แล้วบริษัทที่มี MOS เชิงคุณภาพสูงสุด (ท่านคิดว่าบริษัทไหน)
เป็นบริษัทที่ จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน สูงสุด หรือ
หรือ เป็นบริษัทที่น่าลงทุนที่สุดหรือเปล่า (ขอเหตุผลประกอบ)


ขอประเด็นตรงนี้ ชัดๆ ละกันครับ
iamkom
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ส.สลึง เขียน:อ่านความเห็นพี่หมึก paul แล้ว
นึกถึงความสุขของการเห็นรวงข้าว
สุขเหลืองอร่ามเต็มท้องนา

มันคงเป็นแค่ภาพฝัน ถ้านักรอคอย
ถอดใจไปก่อน

ส่วนตัวเคยถือ tnh เหมือนกันนะพี่
แต่ผมไม่รอ :B

ตรงนี้ ก็น่าสนใจครับ
ว่า เหตุผลอะไร ที่ไม่รอ หรือ ทำให้ขายไปแล้ว

ก็ในเมื่อท่านก็บอกเองว่า
ท่านซื้อเมื่อมี MOS เชิงคุณภาพ เข้าเกณฑ์ส่วนตัวของท่าน
แล้วก็เชื่อมั่น ว่าปลอดภัย ไม่สนใจว่า ราคาจะขึ้นหรือลง

แต่ความเห็นด้านบน
ก็ขัดแย้ง กันเองแล้วนี่ครับ
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 48

โพสต์

iamkom เขียน:ที่ตอบมา ยังไม่ค่อยตรงคำถาม
สักเท่าไหร่

เพราะท่าน จุดประเด็นเรื่อง MOS เชิงคุณภาพ
แต่ยังไม่ได้ตอบว่า

แล้วบริษัทที่มี MOS เชิงคุณภาพสูงสุด (ท่านคิดว่าบริษัทไหน)
เป็นบริษัทที่ จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน สูงสุด หรือ
หรือ เป็นบริษัทที่น่าลงทุนที่สุดหรือเปล่า (ขอเหตุผลประกอบ)


ขอประเด็นตรงนี้ ชัดๆ ละกันครับ
ผมบอกไปแล้วครับ

mos สำหรับผมคือปลอดภัย ไม่ใช่กำไร
mos เรา control ได้ เพราะเราเป็นฝ่ายเลือก
แต่ market price เป็น uncontrol ครับ

ส่วน mos เชิงคุณภาพ สำหรับผม
คือ การเข้าใจในตัว บ. รู้จุดแข็งจุดอ่อน
รู้ความเสี่ยง ซึ่งมันจะไปสะท้อนใน intrinsic value
ส่วนจะเผื่อคิดลด mos เชิงปริมาณเพิ่มเข้าไปนั้น
ก็เพราะว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

ก็เผื่อๆ ไว้ ฤดูฝน ติดร่มไปสักคัน จะเป็นไรไป
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 49

โพสต์

iamkom เขียน: ก็ในเมื่อท่านก็บอกเองว่า
ท่านซื้อเมื่อมี MOS เชิงคุณภาพ เข้าเกณฑ์ส่วนตัวของท่าน
แล้วก็เชื่อมั่น ว่าปลอดภัย ไม่สนใจว่า ราคาจะขึ้นหรือลง

แต่ความเห็นด้านบน
ก็ขัดแย้ง กันเองแล้วนี่ครับ
ผมบอกเมื่อไหร่ครับว่าผมซื้อเพราะ mos เชิงคุณภาพ :|
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ผมเคยถือ tnh นานแล้วครับ น่าจะเกินปี
แต่ขายไปเพราะตอนนั้นสนใจ บ. อื่นมากกว่า
ไม่ได้ขายเพราะราคามันขึ้น หรือว่าราคามันลงครับ

การลงทุนเป็นศิลปะครับ เป็นเรื่องสนุก
ผมก็แค่นักลงทุนตัวเล็กๆ ไม่ได้เก่งอะไร
แค่โรคจิต หาที่ระบายบ้างก็แค่นั้น

ส่วนการจะซื้อหุ้นสักตัว มันก็มีหลายเหตุผลนะ

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่ผมใช้ลงทุนตอนนี้
ไม่ใช่ความรู้ แต่เป็นสติ คือรู้ตัวว่าเรารู้อะไร ไม่รู้อะไร
เสี่ยงน้อยเสี่ยงมากแค่ไหน
ไม่ใช่โอกาสกำไรเท่าไหร่
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ถ้าความเห็นของผมอ่านแล้วไม่เคลียร์ ก็ขออภัยครับ
ยินดีจะรับผิด และแลกเปลี่ยนครับ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
odin
Verified User
โพสต์: 84
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ผมว่าการลงทุนแบบVIเป็นการลงทุนที่ทำให้จิตเราสงบ แล้วจะนำมาซึ่งความสุขระหว่างการลงทุนนะครับ
การมีMOSก็เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราสบายใจ ปลอดภัย แล้วเราต้องไม่ไปเครียดหลังจากที่ลงทุนแล้วด้วย
ดังนั้นผมคิดว่าหุ้นควรซื้อเมื่อมีMOSเพียงพอ ถ้าหุ้นตัวนั้นๆยังไม่มีMOS(ทั้งคุณภาพหรือปริมาณ)พอ เราก็ไม่ต้องรีบลงทุนได้นิ
เงินอยู่ในมือเรานะครับ ถ้าไม่อยู่ในเกมเรา เราก็เลือกที่จะไม่เล่นได้
ส่วนSAPผมว่าใจมันจะไม่นิ่งนะครับ จะเครียดกว่าเดิม :?
“Compound interest is the eighth wonder of the world. He who understands it, earn it ; he who doesn’t, pays it.”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul Octopus
Verified User
โพสต์: 798
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ส.สลึง เขียน:อ่านความเห็นพี่หมึก paul แล้ว
นึกถึงความสุขของการเห็นรวงข้าว
สุขเหลืองอร่ามเต็มท้องนา

มันคงเป็นแค่ภาพฝัน ถ้านักรอคอย
ถอดใจไปก่อน

ส่วนตัวเคยถือ tnh เหมือนกันนะพี่
แต่ผมไม่รอ :B
อดึตผมฝันสลายบ่อยเลยครับน้อง ส.สลึง
ถึงแม้ว่าเราจะคำนวณด้วยวิธีการ และ ข้อมูลของเราที่ได้รับมาอย่างดีเพียงใด
เราไม่มีวันมั่นใจได้ 100 %

เมื่อเวลาผ่านไป หุ้นที่เราซื้อ ตลาดไม่ตอบสนองเหมือนที่เราคำนวณไว้ เช่น มูลค่าหุ้นมันน่าจะเติบโตตามกำไรหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือ มีค่า PE ratio อยู่ใน Industry เดียวกัน (ในกรณีของ TNH มี PE ratio ประมาณ 8-10 มาหลายปี ขณะที่โรงพยาบาลอื่นๆวิ่งไปบางโรงพยาบาล PE 30 เข้าไปแล้ว (หลายๆคนก็ยังบอกว่าถูก :mrgreen: ))
แน่นอนเราเป็นมนุษย์ย่อมต้องหวั่นไหว
อย่างน้อยก็คงสงสัยว่า เราคำนวณอะไรผิด หรือ มีอะไรที่คนอื่นเค้ารู้แล้วเราไม่รู้ที่มัน Serious (เช่นในกรณี TNH มันเป็นเพราะว่าปี 61 จะถูกไล่ที่รึเปล่า?เป็นต้น)

มันถูกต้องครับที่ VI จะต้องสงสัย และ ทบทวนว่าสิ่งที่เข้าใจ มันถูกต้องหรือไม่
และ ถ้าจะขายไป เพราะเราให้ "ค่าความเสี่ยงไม่เท่ากัน" มันก็ถูกต้องอีก

สำหรับผมที่ไม่ขายเพราะผมตั้งธงไว้ว่า "สำหรับหุ้นโรงพยาบาลที่ความเสี่ยงต่ำมาก การให้ผลตอบแทนคือ Dividend ในระดับ 5% ขึ้นไปผมสามารถถือไว้ได้ตลอดชีวิต :B )
จึงเป็นที่มาของการที่ไม่ได้ขายไปก่อน

ผมยกตัวอย่าง TNH ในเรื่องการทำ SAP เพราะว่า "มีคนไม่น้อยที่ตั้งใจถือไว้นานๆ แต่ในที่สุดรู้สึกว่าตัวเองอาจเข้าใจผิดในเรื่องการประมาณการ จึงขายออกไปดีกว่า.....และในบางขณะมีการขายออกไปพร้อมๆกันหลายคน จนทำให้มูลค่าของหุ้นลดลง" เมื่อมูลค่ามันลดลงประมาณหนี่ง ก็จะมีคนอีกหลายคนที่ยังเชื่อว่าการประมาณการของตนถูกต้องก็จะซื้อ จนทำให้ราคากลับมาที่เดิม.....

การขึ้นและลงของหุ้นแบบนี้ทำให้เรารู้สึกว่าอย่ากระนั้นเลย เราขายมันไปก่อนตอนที่มันราคาวิ่งขึ้น แล้วค่อยซื้อกลับตอนราคามันลง....มันเป็นสมการเหตุและผลที่ง่ายๆ ไม่ต้องใช้ Technical Analysis อะไรกันมากมาย :mrgreen:

ผมเชื่อว่า VI ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดและทำแบบนั้น เพราะพวกเราเป็นนักคิด....เพียงแต่ว่าในท้ายที่สุดแล้วเราแต่ละคนก็จะมีความเชื่อของเราแตกต่างกัน ไม่มีใครผิดหรือถูก บางคนก็เป็น VI ได้โดยทำSAPควบคู่ สร้างองค์ความรู้ในเรื่อง Technical Analysis จากสมการเลข สร้างเป็นกราฟที่ซับซ้อน....

ใครที่เชื่อ SAP ก็เชื่อต่อไปเถอะครับ ใครที่เข็ด :'O ก็สร้างวิธีการอื่นขึ้นมา มันก็เท่านั้นเอง.../Octopus
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 54

โพสต์

อ่านคนเก่งๆถกกัน แล้วงงดีคับ
5555

จนวันนี้ผมยังแยกไม่ได้ระหว่าง
upside กะ mos เลย
รู้แต่ ถ้าหาได้จะเลือกหุ้นที่คิดว่า upside สูงๆ
เนื่องจาก ธุรกิจ มีโอกาสที่เราจะพลาดได้ตลอดเวลา
ความไม่แน่นอนสูง
upside ที่สูงน่าจะเป็น buffer ที่ดี
โดยที่ผมก็จะกะ ปันผล เป็นเบาะรองว่านุ่มพอไหม
เกิดคิดผิด ว่ารับได้แค่ไหนเกิดดอยขึ้นมา

ไม่รู้เรียก mos ได้ไหมคับ
show me money.
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ผมคิดว่า upside ใช้กับการลงทุนที่มีเป้าหมาย
เช่น รู้ว่ารถเมล์ป้ายหน้าอยู่ตรงไหน
และเมื่อรถเมล์ส่งเรามาถึงป้ายแล้ว

ทีนี้ปัญหาคือทำไงต่อ ?

อันนี้ แล้วแต่บุคคล

ส่วน mos ไม่ได้ช่วยให้คุณกำไร
แล้วก็ไม่ได้บอกว่ารถเมล์ป้ายหน้าอยู่ที่ไหน
แต่ mos จะบอกเราว่ารถเมล์คันนี้
ปลอดภัยพอหรือเปล่า เสี่ยงที่จะขึ้นได้มั๊ย ?

ซึ่ง...

ความปลอดภัยของแต่ละคน
ก็จะดูไม่เหมือนกันครับ

บางคนรถเมล์เก่าไม่ขึ้น
บางคนบอกว่าคนขับซิ่งก็ไม่เอา
แต่สำหรับบางคน
ขอทั้งรถเก่า คนขับรถดีๆ และ...

ต้องเป็นรถเมล์ฟรีจากภาษีของประชาชน
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ขออภัย รถใหม่ครับ ไม่ใช่รถเก่า ยิ่งเขียนยิ่งงง :)
chitadisai
Verified User
โพสต์: 483
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 57

โพสต์

sap
ผมเคยทำ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนวาเค้าเรียกกันว่า sap พึ่งมาเข้าใจก็วันนี้
ตอนน้ำท่วม ผมรู้ตัวว่าหุ้นผมโดนแน่ๆ panic sell เพราะพึ่งซื้อได้ไม่กี่วัน ขายไปก่อน
พอน้ำใกล้ลด ผมก็ซื้อกลับ เช่น rojna ตอนนี้ไม่ได้ถือแล้วไปเจอตัวใหม่ชอบมากกว่า
sap มันช่วยเราได้ แต่ต้องมันใจว่า หุ้นที่มันตกมันเกิดขึ้นชั่วคราว แล้วมันต้องกลับมาที่เดิมแน่นอน
นานๆถึงจะมีโอกาศที่ชัวร์จริงๆ
ถ้าจะsapเพราะเดา มันเสี่ยงมากๆ ไม่ควรทำถ้าจะทำต้องมีเหตุผลรองรับ
aradin
Verified User
โพสต์: 159
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 58

โพสต์

chitadisai เขียน:sap
ผมเคยทำ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนวาเค้าเรียกกันว่า sap พึ่งมาเข้าใจก็วันนี้
ตอนน้ำท่วม ผมรู้ตัวว่าหุ้นผมโดนแน่ๆ panic sell เพราะพึ่งซื้อได้ไม่กี่วัน ขายไปก่อน
พอน้ำใกล้ลด ผมก็ซื้อกลับ เช่น rojna ตอนนี้ไม่ได้ถือแล้วไปเจอตัวใหม่ชอบมากกว่า
sap มันช่วยเราได้ แต่ต้องมันใจว่า หุ้นที่มันตกมันเกิดขึ้นชั่วคราว แล้วมันต้องกลับมาที่เดิมแน่นอน
นานๆถึงจะมีโอกาศที่ชัวร์จริงๆ
ถ้าจะsapเพราะเดา มันเสี่ยงมากๆ ไม่ควรทำถ้าจะทำต้องมีเหตุผลรองรับ

ผมเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน กับ SCC ช่วงที่ศาลปกครองประกาศ เรื่องระงับโครงการที่ มาบตาพุด
ผมถืออยู่ที่ ราคา 2xx บาท วันที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งราคาอยู่ที่ ประมาณ 3xx บาท ซึ่งผมคาดการณ์ว่า
ยังไงมันต้องมีผลกระทบแน่นอนในแง่จิตวิทยา วันนั้นผมลางานเลยครับ ไปนั่งรอลุ้น ฟังคำสั่ง และมันก็เป็นจริง
อย่างที่คาด คือราคามันรูดลงมาอย่างแรง และก็มีคนมารับอย่างเร็วจนราคากลับไปยืนอยู่มากกว่าเดิมเล็กน้อย
ก่อนคำพิพากษา ผมคิดทางเลือกไว้ 3 ทาง ( เท่าที่จะคิดได้) คือ
1. ขายออกมาก่อนเอากำไรที่มีอยู่เข้ากระเป๋า แล้วจบกัน ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องลางาน
2. ไม่ต้องไปสนใจถือต่อไปเพราะมันเป็นเหตุการณืชั่วคราว คำพิพากษา อาจจะออกมาแล้วเป็นผลดี
กับบริษัทก็ได้ เน้นถือยาว มีปันผล พอใช้ได้เลยทีเดียว
3. ขายออกก่อนแล้วรอซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่าเดิม ( ไม่แน่ใจเรียกว่า SAP หรือเปล่า )

ซึ่งผมเลือก ข้อ 3 คือขายออกก่อนแล้วรอซื้อคืน และผมก็ "เดา"ได้ถูก ซึ่งผมต้อง "ไล่ซื้อ" คืน
โดยมี Target ว่าต้องซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่าที่ขายออกไป + commision (ผมซื้อได้ต่ำกว่าที่ขายออกไปอยู่ 3 บาท)

เหตุผลที่ผมใช้ในการตัดสินใจ เลือกข้อ 3. เพราะ
1. ผมเสียดายกำไร กรณี wrost case แล้วราคาตกลงมาโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย
ซึ่งถ้าผมเลือกข้อ 2. ผมต้องรออีกนานกว่ามันจะคลี่คลายแล้วราคากลับมายืนที่เดิม
2. ผมมองว่า SCC มีโอกาสเติบโต เนื่องจากนโยบาย GO regional ซึ่งไปลงทุนไว้ในเวียดนาม
ก็เลยยังทำใจไม่ได้ที่จะขายทิ้งออกไปเลย
3. กรณีที่ผมตัดสินใจผิด ผมก็ยังมีกำไรอยู่ พอประมาณ

หลังจากนั้น ราคามันก็ขยับเพิ่มไปเรื่อยๆ น่าจะอยู่ที่แถวๆ 37x บาท ผมก็ยังถืออยู่ครบ
แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตกม้าตายจนได้ เพราะช่วงที่น้ำท่วมปลายปีที่แล้ว ด้วยสถานการณ์ที่ชุลมุน
ประกอบกับที่บ้านน้ำท่วม(ลพบุรี) จึงต้องจำใจขายออกไปที่ราคา เกินต้นทุน(เดิม)อยู่เล็กน้อย
เพราะไม่มีเวลาดู และประเมินสถานการณ์ข้างหน้าไม่ออกจริงๆ น่าเสียดายจัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
workart
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 59

โพสต์

เข็ดแล้วครับ ไม่เก่งเลยด้านนี้ เคยจะ SAP ทีนึง หุ้นวิ่งยาวไป 1 เด้งเลย เจ็บปวดเป็นที่สุด
ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา >-<"
wheel_turner
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: หาความรู้เรื่องการShort Against Port

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ผมเคยทำ sap ไปเช่นกัน เป็นหุ้นที่ซื้อไว้เพราะเพิ่งวิเคราะห์หลังจากเพื่อนๆ ได้ซื้อไปแล้ว จำได้ว่าทุนเพื่อนๆ อยู่ที่ 5-6 บาท แต่ผมเข้ามาตอน 11-12 บาทได้ (เพื่อนเขาได้ตั้งแต่ ipo นะครับ) แต่พอหุ้นขึ้นมาที่ 16 บาทกว่าเริ่มเห็นว่ามันมีตกลง แต่รูปแบบยังไม่เสีย ขึ้นต่อได้อีกและทำ new high ได้อีก เลยลองทำ sap บ้างครับ เผื่อจะตามเพื่อนๆ ที่ลงทุนด้วยกันให้ทันบ้าง เพราะตอนนั้นเหมือนมีแนวความคิดว่า ราคาหุ้นเหมือนน้ำกระเพื่อมขึ้นและลง ก็แค่เราขายหุ้นตอนที่จะถึงแนวต้านในช่วงนั้น และซื้อตอนที่หุ้นตกลงไปที่แนวรับ แค่นี้เราก็ได้กำไรส่วนต่าง เพื่อที่จะเข้าหุ้นเพิ่ม ผลที่คาดตอนนั้นคิดว่าเราจะได้ทั้งจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้หุ้นตัวนี้เรามีต้นทุนที่ต่ำลง ทำได้ประมาณไม่กี่ครั้งครับราคาหุ้นก็เริ่มไม่เป็นไปตามที่ผมคาด ราคาไม่ตกแถมเริ่มสูงกว่าที่ขายเพื่อทำ sap 5% ไปที่ 10% จนตอนหลังราคาไปที่เกือบ 20 บาท ผมได้แต่มองและเสียดาย

ครั้งนี้เลยเป็นประสบการณ์ว่าผมจะไม่เสียดายกำไรเพียงราคาที่กระเพื่อมนิดๆ หน่อยๆ เพราะหากเราถือรอจนกระทั่งหุ้นนั้นได้แสดงมูลค่าตัวเองได้เต็มที่แล้วกำไรที่ได้มันเยอะกว่าการที่เราต้องเข้าๆ ออกๆ เพื่อหวังส่วนต่างราคาเพียงเล็กน้อย แต่ละครั้งที่เราทำ sap เราต้องเผชิญความเสี่ยงที่เราไม่สามารถควบคุมมากมาย เช่น ราคาหุ้นจะร่วงไปต่ำกว่าที่เราขายออกหรือไม่ และราคาที่ร่วงลงนั้นต้องมี gap ที่มากพอจะทำให้เราซื้อด้วย ในแต่ครั้งที่เราขายและซื้อจะมีค่าคอมเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงที่เราซื้อๆ ขายๆ ตลอด แถมไม่คุ้มกับที่ต้องเครียดด้วยครับที่เราต้องตัดสินใจซื้อๆ ขายๆ ซึ่งผมคิดว่าเราควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า

ในเรื่อง sap ผมว่าน่าจะมีความเห็นทั้งบวกและลบ ซึ่งหลายๆ คนที่ลองทำแล้วไม่ค่อยสำเร็จ แต่จากหัวข้อนี้เป็นเกี่ยวกับการหาความรู้เรื่อง SAP หากจะมีคนมาแชร์ case study ในกรณีที่ทำ SAP แล้วสำเร็จได้ พร้อมทั้งแชร์วิธีการต่างๆ ที่ถูกต้องในการทำ ​SAP ผมว่าทุกคนที่เข้ามาแสดงความเห็นน่าจะได้ประโยชน์ที่สุด เพราะทุกคนก็น่าจะได้พัฒนาความรู้และเทคนิคในการเล่นหุ้นให้ดีขึ้นไปอีก ผมอยากเห็นความเห็นสนับสนุนการทำ sap case ที่สำเร็จ และวิธีการด้วยครับ เพราะถ้าดีจริงผมก็อยากลองแก้ตัวความผิดในครั้งนั้นครับ
เป้าหมาย มันใหญ่มวาก