วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBizweek
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 32
ขอบคุณ คุณโจมากๆครับ ที่ให้ความรู้ วิธีคิด หลักการการลงทุนที่ถูกต้อง และอื่นๆอีกมากมายในคลังกระทู้คุณค่า
ซึ่งสำหรับผมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ ของการลงทุนแบบวีไอ และมีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อย
ขอบคุณจากใจครับ
ซึ่งสำหรับผมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ ของการลงทุนแบบวีไอ และมีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อย
ขอบคุณจากใจครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 384
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 35
พี่โจเป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ครับ
ขยัน ฝีมือสุดยอด แต่ถ่อมตัวมาก และ มีทัศนคติในเรื่องต่างๆที่ดีมาก
ปลื้มครับ
ขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ
ทั้งในเว็บบอร์ด และ ตามงานต่างๆครับ
ขยัน ฝีมือสุดยอด แต่ถ่อมตัวมาก และ มีทัศนคติในเรื่องต่างๆที่ดีมาก
ปลื้มครับ
ขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ
ทั้งในเว็บบอร์ด และ ตามงานต่างๆครับ
- Mr.KANAT
- Verified User
- โพสต์: 48
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 37
ติดตามพี่โจมานานครับ เป็นนักลงทุนที่เป็นตัวของตัวเองมากอีกคนหนึ่ง และก็ยืนยันให้เห็นแล้วว่า VI นั้นเป็นแนวทางที่อาศัยเหตุผลทำกำไรได้จิงๆ
Time is the friend of the wonderful company, the enemy of the mediocre.
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 39
ยินดีกับพี่โจด้วยครับ ผมจะพยายามจะทำให้ได้อย่างพี่บ้าง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกอย่างนะครับ
- whitecastle
- Verified User
- โพสต์: 406
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 41
ไอดอลผมเหมือนกันครับ ไปมีทติ้งที่หาดใหญ่เหมือนกัน พี่เค้าทำให้ผมทึ่งในความขยันจริงๆอ่านทุกบริษัท
ได้มาด้วยพรขยันล้วนๆ นับถือมากๆครับ
ได้มาด้วยพรขยันล้วนๆ นับถือมากๆครับ
- ake3004
- Verified User
- โพสต์: 502
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 42
(i respect him as) my idol, teacher,mentor.
There r many smart persons in Thailand.
But there is less smart+good persons in Thailand.P Jo is in this level kab.
With my respect to him kab.
There r many smart persons in Thailand.
But there is less smart+good persons in Thailand.P Jo is in this level kab.
With my respect to him kab.
One up on SET
- firefox
- Verified User
- โพสต์: 124
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 44
พี่โจถือเป็นไอดอลคนหนึ่งของผมในเรื่องการลงทุนเลยครับ
พื้นฐานชีวิตก็คล้ายกับผม
เงินทุกบาทที่หาได้ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจริงๆ
ไม่ได้เริ่มต้นมาจากเงินของคนอื่น
และที่สำคัญคือรู้จักแบ่งปัน และเป็นผู้ให้
พื้นฐานชีวิตก็คล้ายกับผม
เงินทุกบาทที่หาได้ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจริงๆ
ไม่ได้เริ่มต้นมาจากเงินของคนอื่น
และที่สำคัญคือรู้จักแบ่งปัน และเป็นผู้ให้
"ถึงจะช้า ถ้าไม่ถอย ไกลแค่ไหนก็ไปถึง"
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 46
กว่าจะมีพอร์ตหุ้น 'เลข 9 หลัก'เปิดคัมภีร์เซียนวีไอ 'โจ..ลูกอีสาน'
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, August 13, 2012 08:07
24875 XTHAI XGEN DAS V%NETNEWS P%WKT
ถ้าชีวิตคนคนหนึ่งคือกระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวเอง ชีวิต "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ก็เป็นยิ่งกว่านวนิยาย สะท้อนให้ใครหลายคนเห็นว่าเด็กยากจนคนหนึ่งชีวิตยังประสบความสาเร็จได้ กลายเป็น 'เซียนหุ้นร้อยล้าน' ในวัยเพียง 38 ปี มีพอร์ตหุ้นใหญ่ "เลข 9 หลัก" นิยายกลายเป็นเรื่องจริง !!!
ถ้าชีวิตคนคนหนึ่งคือกระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวเอง ชีวิต "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ก็เป็นยิ่งกว่านวนิยายสะท้อนให้ใครหลายคนเห็นว่าเด็กยากจน คนหนึ่งชีวิตยังประสบความสำเร็จได้...นิยายกลายเป็น ความจริง!!!
ในกลุ่มนักลงทุนวีไอรุ่นใหม่ โจนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในวัยเพียง 38 ปี เขามีพอร์ต หุ้นใหญ่ "เลข 9 หลัก" ด้วยหลักการลงทุน "กำไรทบต้น" พอร์ตขยายตัวเฉลี่ยปีละ 60% ทำกำไร 400 เท่า ภายในระยะเวลา 12 ปี เขาทำได้มาแล้ว!
โจเป็นคนจังหวัดพังงาแต่ใช้นามแฝง "ลูกอีสาน" ตามนวนิยายเรื่อง "ลูกอีสาน" ของ คำพูน บุญทวี หนังสืออ่านนอกเวลาที่บรรยายชีวิตเด็กบ้านนอกยากจนได้บาดลึกถึงหัวใจ
หลังคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.6 แม่ต้องยึดอาชีพขายของชำเล็กๆ เลี้ยงดูครอบครัว 5 ปาก แต่ทุกคนมีหัวใจเดียวกัน "ชีวิตต้องสู้" ในวัยเด็ก โจมีชีวิตค่อนข้างลำบาก นี่เองที่ทำให้เขามุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก ชาตินี้ต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ช่วงเรียนปริญญาตรีอยู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โจใช้เวลาทุกเย็นคลุกอยู่ในห้องสมุดอ่านหนังสือพิมพ์และ นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจ เพื่อนคนอื่น ไปเที่ยวเฮฮากัน โจนั่งอ่าน..อ่าน และอ่านอย่างนี้ทุกวัน ตลอด 4 ปี เขาเคยล้มเหลวจากความพยายามเล่นหุ้น ครั้งแรก และตามภรรยาไปอเมริกาไปทำงานเป็น ผู้ช่วยพ่อครัวในร้านอาหารเกาหลีประมาณ 1 ปีครึ่ง ก่อนจะกำเงิน 800,000 บาท กลับมาพิชิตความฝัน ที่รอคอยจนมีเงิน "หลักร้อยล้าน" ในปัจจุบัน
เซียนหุ้นวีไอรายนี้ เล่าสไตล์การลงทุนให้ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ปกติจะเป็นคนถือ หุ้นค่อนข้างนานเฉลี่ยประมาณ 1 ปี เคยถือนานที่สุด 2-3 ปี ลงทุนสั้นที่สุด 2-3 เดือน ที่ขายเพราะราคา หุ้นขึ้นมาถึงเป้าหมายเร็วก็ขายทำกำไรออกมา
การลงทุนของโจจะวางน้ำหนักหุ้นไม่กระจุกตัวกันเกินไป เขามีความคิดว่า "นั่งเก้าอี้หลายขาดีกว่าสองขา" ถ้าวิเคราะห์พลาดโอกาสเสียหายจะหนักมาก เพราะฉะนั้นจะไม่วัดดวงกับหุ้นเพียงหนึ่งหรือ สองตัว แต่จะกระจายอย่างเหมาะสมเพื่อ "จำกัดความเสี่ยง"
"ปกติผมจะมีหุ้นในพอร์ตประมาณ 10-15 ตัว แต่ช่วงนี้มีเยอะประมาณ 19 ตัว เพราะพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้น ผมจะไม่เล่นหุ้นเป็นกลุ่ม แต่เน้นเป็นตัว ผมถือคติว่าถ้าหุ้นดีจริง สุดท้ายราคาต้องขยับ"
คำจำกัดความของหุ้นที่เขาชอบลงทุนคือ "หุ้น ถูก คุณภาพใช้ได้" ถ้าใครรู้จักโจแทบจะไม่เห็นเขาลงทุน ในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่วีไอส่วนใหญ่ชอบลงทุน เขาให้เหตุผลง่ายๆ "มันแพงครับ!" (หัวเราะ) โจเล่าว่า ทุกวันนี้ มีนักลงทุนแนววีไออยู่ 3 ประเภท พวกแรก...ประเภทเดียวกับผม คือ ชอบ "หุ้นถูก คุณภาพใช้ได้" พวกที่สอง...ชอบหุ้นคุณภาพดีหรือเปล่าไม่รู้ แต่ขอ "ถูก" ไว้ก่อน พวกสุดท้าย...ชอบหุ้น "ซูเปอร์สต็อก" ถูกแพง ไม่ว่า ขอให้คุณภาพบริษัทดีไว้ก่อน ประเภทหลังนี้ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปรมาจารย์วีไอในประเทศไทย "ชอบมาก"
สำหรับวิธีการเลือกหุ้นลงทุน ข้อแรก.. "ผมจะดูกำไร" ส่วนตัวมีความเชื่อว่ากำไรเป็นเสมือน "มือที่มองไม่เห็น" กำไรคือ "เจ้ามือตัวจริง" ที่จะผลักดันราคาหุ้น
"ผมจะชอบหุ้นที่มีแนวโน้มว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั่นแปลว่า บริษัทนั้นมีสตอรี่ที่ดีมารองรับแล้ว"
ข้อสอง..ผมจะวิเคราะห์ "มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นภายใน 1 ปีข้างหน้า" นำมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้น ที่ซื้อขายในปัจจุบัน ถ้าหุ้นตัวนั้นมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (margin of safety) ยิ่งมาก..ยิ่งชอบ ถามว่าวิธีการคำนวณต้องทำอย่างไร? เขาบอกว่า เรื่องนี้ต้องไปศึกษาเอง ไม่มีทางลัด นักลงทุนต้องไปอ่านแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1) บ่อยๆ ตัวเองก็อ่านมาแล้วเกือบทุกบริษัท โจสรุปให้ฟังว่าหากมองในแง่ของตัวเลขจะดูหลักๆ ดังนี้ หนึ่ง..เน้นดูค่า P/E ควรต่ำเข้าไว้ แต่ถ้าคุณภาพดี ก็ไม่ต้องต่ำมากก็ได้ ปกติหากบริษัทนั้นมีคุณภาพที่ดี "ผมจะเพิ่มพรีเมียม..ให้ค่าเฉลี่ย P/E ขึ้นไปอีก 1 เท่า" แต่ก็ไม่ได้ใช้หลักการนี้ตายตัว ถ้าคุณภาพ "ดีปานกลาง" จะเพิ่มพรีเมียมค่าเฉลี่ย P/E อีกเพียง 0.5 เท่า จากค่าเฉลี่ยปกติ พวกหุ้นค้าปลีก และโรงพยาบาลจะเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพ "ดีที่สุด" เพราะมีการเจริญเติบโตทุกปี แถมงบการเงินก็ดี ผู้บริหารเก่ง และแทบไม่มีความเสี่ยง
สอง..เน้นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ต้องมากกว่า 15% สาม..อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ธุรกิจทั่วไปไม่ควรเกิน 1 เท่า ไม่เช่นนั้นจะเริ่มเสี่ยง แต่บางธุรกิจมีข้อยกเว้น เช่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มลิสซิ่ง เป็นต้น
ข้อสุดท้าย.. ดูวงจรกระแสเงินสด บริษัทไหนมีเงินนอนอยู่ในบริษัทมากๆ ถือว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่ม โรงพยาบาล และค้าปลีก เพราะเวลาเขาขายสินค้าจะรับเงินสดทันที แต่เวลาซื้อสินค้ากว่าจะจ่ายเงินก็ 60 วัน เท่ากับว่าเขามีเงินสดกองในบริษัทตลอดเวลา แถมเงินส่วนนี้มีดอกเบี้ยด้วย
"ถ้าผมเจอหุ้นที่มีคุณสมบัติอย่างที่บอก ผมจะ เคาะขวา (ซื้อฝั่ง Offer) เลย เพราะกลัวมีคนมาแย่ง ไม่ต้อง ตั้งรอ ซื้อแพงหน่อยไม่เป็นไร แต่ถ้าตัวไหนดูแล้วอัพไซด์ไม่มาก..ก็รอหน่อย! ส่วนใหญ่จะซื้อทีเดียวเลย ถ้าลงมา ก็จะซื้อเพิ่มอีก ตัวไหนดีมากจะซื้อไม่เกิน 30% ของพอร์ต ปกติจะมีหุ้นตัวหลักในใจ 6-7 ตัว"
ก่อนจะเป็นวีไอที่ประสบความสำเร็จแก่นแท้ข้อหนึ่งที่จะต้องท่องไว้เลยคือ "เราซื้อธุรกิจไม่ได้ซื้อหุ้น" คน ส่วนใหญ่ที่คิดว่าซื้อหุ้น เพราะเขาเชื่อว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้น แต่หากคิดว่าซื้อธุรกิจ เราจะคิดว่าธุรกิจนี้จะมีกำไรสูงขึ้น ซึ่งมันจะเป็นตัวผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น แต่จะคิดแบบซื้อธุรกิจได้คุณต้องศึกษาธุรกิจนั้นอย่างลึกซึ้ง
"บางคนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน คุณต้องไปอ่านหนังสือ การลงทุนก็เหมือนปลูกทุเรียนปีเดียวคงไม่มีทางได้กิน แต่ผมวันนี้ศึกษาข้อมูลเพียง 1 วัน บางครั้ง 5-10 นาที ก็ตัดสินใจได้แล้ว เพราะผมพร้อมตลอดเวลารู้จักทุกบริษัท แล้ว"
มาถึงศาสตร์เรื่องจิตวิทยา และทัศนคติ โจเล่าว่า เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนไว้ตลาดหุ้นจะมี 2 คน คือ "ตัวเรา" และ "นายตลาด" ตลอดเวลาเราจะซื้อขายหุ้นกับ นายตลาด ซึ่งนายตลาดเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้าๆ บอๆ วันไหนอารมณ์ดีจะมาเสนอซื้อหุ้นเราในราคาสูงๆ แต่หากวันไหนอารมณ์หดหู่ มองโลกในแง่ร้าย จะมาเสนอขายหุ้นให้เราในราคาต่ำๆ ฉะนั้นเรามี 2 ทางเลือก คือ 1. หาประโยชน์จากนายตลาด หรือ 2. ตกอยู่ในอิทธิพล ของนายตลาด ดังนั้นหากเราเลือกถูกทาง ก็ไม่ต้องกลัวหุ้นตก
"ผมพนันเลยว่ากว่า 90% ของคนที่เข้ามาในตลาดหุ้น จะกลายเป็นนายตลาดเสียเอง ยิ่งเขาไม่สามารถแยกตัวเป็นอิสระจากนายตลาดได้ เขาก็จะ "เจ๊ง" เห็นคนชอบขายหุ้นตอนราคาต่ำๆ แล้วไปไล่ซื้อช่วงสูงๆ..ถ้าเรามั่นใจถือเลย ขาดทุนก็ไม่เป็นไร เชื่อมั้ย! ตอนวิกฤติซับไพร์ม ผมขาดทุนครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ขายของดีราคาต่ำจะขายทำไม! มันไม่สมเหตุสมผล ตรงข้ามเราควรซื้อเพิ่มถ้ามีเงิน อย่าไปหวั่นไหวตามตลาด คนที่อดทนผมรับรองไม่สำเร็จมากก็สำเร็จน้อยอย่างแน่นอน" เขากล่าวอย่างมั่นใจ
โจบอกว่า ทุกๆ วันจะมองหาหุ้นที่จะซื้อตลอดเวลา มองหุ้นบางตัวอยู่แต่ราคาอาจแพงไปนิด แถมโอกาส ชนะมีแค่ 50% ถ้าเป็นแบบนั้น "จะยังไม่ซื้อ" เพราะโอกาสชนะแค่ 50% เหมือนเรา "เล่นการพนัน" จะซื้อก็ต่อเมื่อโอกาสชนะต้องมากถึง 80-90% เท่านั้น
"ที่ผ่านมาผมลงทุนในตลาดหุ้น 100% ตลอด จากสถิติพบว่าตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ก่อตั้งในปี 2518 สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี สูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทุกประเภท ผมยังเชื่อว่าระยะยาวตลาดหุ้นยังจะให้ ผลตอบแทนดีที่สุดต่อไป" และ "โจ..ลูกอีสาน" ก็จะฝังตัว อยู่ในตลาดหุ้น ที่ที่เขารักตลอดไป!!!
รวยแล้ว!!! ยังอาศัยบ้านพักข้าราชการ
สำหรับเป้าหมายการลงทุน อนุรักษ์ บุญแสวง บอกว่า ในปีนี้ ขอผลตอบแทน 30% ก็พอใจแล้ว แต่ระยะยาวอยากได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี คนที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ทำได้เท่านี้ แต่เขาทำได้ติดต่อกัน 50 ปี ถามว่าภายใน 5-10 ปีข้างหน้า อยากมีพอร์ตสูงขึ้นเป็นระดับเท่าไร มาถึงตอนนี้ "ผมพอใจแล้ว"
ทุกวันอนุรักษ์จะตื่นเช้าไปส่งลูกทั้ง 3 คน ไปโรงเรียน (ลูกชายคนโต 9 ปี ลูกชายคนรอง 7 ปี ลูกสาวคนสุดท้อง 3 ขวบ) ส่งเสร็จจะกลับมาอ่านข่าว บจ.ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ และอ่านบทวิเคราะห์ โดยจะไม่ฟัง คำแนะนำของมาร์เก็ตติ้ง
"ผมถือคติว่า ฟังคนอื่นหรือลอกหุ้นคนอื่นชีวิตการลงทุนคงไม่รอด ที่ผ่านมาผมปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ใช้ "อินไซเดอร์" ถึงได้กำไรก็ไม่ภูมิใจ เราโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ ไม่อยากเงยหน้าอายฟ้า
ก้มหน้าอายดิน"
สำหรับเงินที่ได้กำไรจากการลงทุน โจไม่เคยนำไปซื้อบ้านหรือที่ดินทุกวันนี้ครอบครัวเขายังอยู่บ้านพักข้าราชการ (ภรรยาเป็นอาจารย์) เขามองว่า สินทรัพย์ประเภทนั้นไม่ได้สร้างรายได้ให้มากมาย
และไม่เคยซื้อทองคำ ลองดูราคาย้อนหลัง 30 ปี ผลตอบแทนทองคำ "ห่วยที่สุด" แต่คนมองว่าทองคำ
ดีในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
"ผมมีซื้อที่ดินในจังหวัดพังงา 40-50 ไร่ ให้พี่ชาย (อายุห่างกัน 2 ปี) นำไปปลูกปาล์มและ
ทำสวนยาง ให้เขามีอาชีพเลี้ยงตัวเอง"
ปัจจุบันอนุรักษ์ซื้อขายหุ้นหลายโบรกเกอร์ที่ บล.เอเซีย พลัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ไทยพาณิชย์, บล.ภัทร และ บล.ธนชาต ถามว่าทำไม! ต้องเล่นหลายโบรก เขาตอบว่า อยากได้งานวิจัยที่หลากหลายและดีที่สุด นอกจากนี้แต่ละโบรกเกอร์มีโปรแกรมการซื้อขาย ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวมองว่า บล.เอเซีย พลัส มีงานวิจัยดีที่สุด เซียนหุ้นร้อยล้าน กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้นักลงทุนที่ยังไม่ถึงเป้าหมายศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด อย่าไปคิดว่า
ซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้นทันที ให้คิดว่าเรา "ซื้อธุรกิจ" ถ้าใครไม่พร้อมก็ให้ไปซื้อกองทุนรวมแทนก็ได้ ปัจจุบันมีหลาย กองทุนสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี "ผมอยากฝากถึงนักลงทุนทุกคนว่า ถ้าอยากมีชีวิตหลังเกษียณที่ดีควรรีบลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ หุ้นเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่า ให้ผลตอบแทนดีที่สุด แต่ก็ต้องลงทุนด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง คือ มองหุ้นให้เป็นธุรกิจ และมีอารมณ์ที่มั่นคง หุ้นจึงจะกลายเป็น "บ่อเงินบ่อทอง" ขุดเท่าไรก็ไม่หมด แต่ถ้าลงทุนผิดวิธีมีเท่าไรก็หมดได้"
ผมจะชอบหุ้นที่มีแนวโน้มว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั่นแปลว่าบริษัทนั้น มีสตอรี่ที่ดีมารองรับแล้ว!!!
คนจนเล่นหวย..คนรวยเล่นหุ้น ประโยคพลิกชีวิต 'โจ' อนุรักษ์ บุญแสวง ก่อนชีวิตจะกลับด้านจาก 'คนจน' กลายเป็น 'เซียนหุ้นร้อยล้าน' นิยายกลายเป็นเรื่องจริง!!!--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, August 13, 2012 08:07
24875 XTHAI XGEN DAS V%NETNEWS P%WKT
ถ้าชีวิตคนคนหนึ่งคือกระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวเอง ชีวิต "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ก็เป็นยิ่งกว่านวนิยาย สะท้อนให้ใครหลายคนเห็นว่าเด็กยากจนคนหนึ่งชีวิตยังประสบความสาเร็จได้ กลายเป็น 'เซียนหุ้นร้อยล้าน' ในวัยเพียง 38 ปี มีพอร์ตหุ้นใหญ่ "เลข 9 หลัก" นิยายกลายเป็นเรื่องจริง !!!
ถ้าชีวิตคนคนหนึ่งคือกระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวเอง ชีวิต "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ก็เป็นยิ่งกว่านวนิยายสะท้อนให้ใครหลายคนเห็นว่าเด็กยากจน คนหนึ่งชีวิตยังประสบความสำเร็จได้...นิยายกลายเป็น ความจริง!!!
ในกลุ่มนักลงทุนวีไอรุ่นใหม่ โจนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในวัยเพียง 38 ปี เขามีพอร์ต หุ้นใหญ่ "เลข 9 หลัก" ด้วยหลักการลงทุน "กำไรทบต้น" พอร์ตขยายตัวเฉลี่ยปีละ 60% ทำกำไร 400 เท่า ภายในระยะเวลา 12 ปี เขาทำได้มาแล้ว!
โจเป็นคนจังหวัดพังงาแต่ใช้นามแฝง "ลูกอีสาน" ตามนวนิยายเรื่อง "ลูกอีสาน" ของ คำพูน บุญทวี หนังสืออ่านนอกเวลาที่บรรยายชีวิตเด็กบ้านนอกยากจนได้บาดลึกถึงหัวใจ
หลังคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.6 แม่ต้องยึดอาชีพขายของชำเล็กๆ เลี้ยงดูครอบครัว 5 ปาก แต่ทุกคนมีหัวใจเดียวกัน "ชีวิตต้องสู้" ในวัยเด็ก โจมีชีวิตค่อนข้างลำบาก นี่เองที่ทำให้เขามุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก ชาตินี้ต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ช่วงเรียนปริญญาตรีอยู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โจใช้เวลาทุกเย็นคลุกอยู่ในห้องสมุดอ่านหนังสือพิมพ์และ นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจ เพื่อนคนอื่น ไปเที่ยวเฮฮากัน โจนั่งอ่าน..อ่าน และอ่านอย่างนี้ทุกวัน ตลอด 4 ปี เขาเคยล้มเหลวจากความพยายามเล่นหุ้น ครั้งแรก และตามภรรยาไปอเมริกาไปทำงานเป็น ผู้ช่วยพ่อครัวในร้านอาหารเกาหลีประมาณ 1 ปีครึ่ง ก่อนจะกำเงิน 800,000 บาท กลับมาพิชิตความฝัน ที่รอคอยจนมีเงิน "หลักร้อยล้าน" ในปัจจุบัน
เซียนหุ้นวีไอรายนี้ เล่าสไตล์การลงทุนให้ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ปกติจะเป็นคนถือ หุ้นค่อนข้างนานเฉลี่ยประมาณ 1 ปี เคยถือนานที่สุด 2-3 ปี ลงทุนสั้นที่สุด 2-3 เดือน ที่ขายเพราะราคา หุ้นขึ้นมาถึงเป้าหมายเร็วก็ขายทำกำไรออกมา
การลงทุนของโจจะวางน้ำหนักหุ้นไม่กระจุกตัวกันเกินไป เขามีความคิดว่า "นั่งเก้าอี้หลายขาดีกว่าสองขา" ถ้าวิเคราะห์พลาดโอกาสเสียหายจะหนักมาก เพราะฉะนั้นจะไม่วัดดวงกับหุ้นเพียงหนึ่งหรือ สองตัว แต่จะกระจายอย่างเหมาะสมเพื่อ "จำกัดความเสี่ยง"
"ปกติผมจะมีหุ้นในพอร์ตประมาณ 10-15 ตัว แต่ช่วงนี้มีเยอะประมาณ 19 ตัว เพราะพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้น ผมจะไม่เล่นหุ้นเป็นกลุ่ม แต่เน้นเป็นตัว ผมถือคติว่าถ้าหุ้นดีจริง สุดท้ายราคาต้องขยับ"
คำจำกัดความของหุ้นที่เขาชอบลงทุนคือ "หุ้น ถูก คุณภาพใช้ได้" ถ้าใครรู้จักโจแทบจะไม่เห็นเขาลงทุน ในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่วีไอส่วนใหญ่ชอบลงทุน เขาให้เหตุผลง่ายๆ "มันแพงครับ!" (หัวเราะ) โจเล่าว่า ทุกวันนี้ มีนักลงทุนแนววีไออยู่ 3 ประเภท พวกแรก...ประเภทเดียวกับผม คือ ชอบ "หุ้นถูก คุณภาพใช้ได้" พวกที่สอง...ชอบหุ้นคุณภาพดีหรือเปล่าไม่รู้ แต่ขอ "ถูก" ไว้ก่อน พวกสุดท้าย...ชอบหุ้น "ซูเปอร์สต็อก" ถูกแพง ไม่ว่า ขอให้คุณภาพบริษัทดีไว้ก่อน ประเภทหลังนี้ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปรมาจารย์วีไอในประเทศไทย "ชอบมาก"
สำหรับวิธีการเลือกหุ้นลงทุน ข้อแรก.. "ผมจะดูกำไร" ส่วนตัวมีความเชื่อว่ากำไรเป็นเสมือน "มือที่มองไม่เห็น" กำไรคือ "เจ้ามือตัวจริง" ที่จะผลักดันราคาหุ้น
"ผมจะชอบหุ้นที่มีแนวโน้มว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั่นแปลว่า บริษัทนั้นมีสตอรี่ที่ดีมารองรับแล้ว"
ข้อสอง..ผมจะวิเคราะห์ "มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นภายใน 1 ปีข้างหน้า" นำมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้น ที่ซื้อขายในปัจจุบัน ถ้าหุ้นตัวนั้นมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (margin of safety) ยิ่งมาก..ยิ่งชอบ ถามว่าวิธีการคำนวณต้องทำอย่างไร? เขาบอกว่า เรื่องนี้ต้องไปศึกษาเอง ไม่มีทางลัด นักลงทุนต้องไปอ่านแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1) บ่อยๆ ตัวเองก็อ่านมาแล้วเกือบทุกบริษัท โจสรุปให้ฟังว่าหากมองในแง่ของตัวเลขจะดูหลักๆ ดังนี้ หนึ่ง..เน้นดูค่า P/E ควรต่ำเข้าไว้ แต่ถ้าคุณภาพดี ก็ไม่ต้องต่ำมากก็ได้ ปกติหากบริษัทนั้นมีคุณภาพที่ดี "ผมจะเพิ่มพรีเมียม..ให้ค่าเฉลี่ย P/E ขึ้นไปอีก 1 เท่า" แต่ก็ไม่ได้ใช้หลักการนี้ตายตัว ถ้าคุณภาพ "ดีปานกลาง" จะเพิ่มพรีเมียมค่าเฉลี่ย P/E อีกเพียง 0.5 เท่า จากค่าเฉลี่ยปกติ พวกหุ้นค้าปลีก และโรงพยาบาลจะเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพ "ดีที่สุด" เพราะมีการเจริญเติบโตทุกปี แถมงบการเงินก็ดี ผู้บริหารเก่ง และแทบไม่มีความเสี่ยง
สอง..เน้นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ต้องมากกว่า 15% สาม..อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ธุรกิจทั่วไปไม่ควรเกิน 1 เท่า ไม่เช่นนั้นจะเริ่มเสี่ยง แต่บางธุรกิจมีข้อยกเว้น เช่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มลิสซิ่ง เป็นต้น
ข้อสุดท้าย.. ดูวงจรกระแสเงินสด บริษัทไหนมีเงินนอนอยู่ในบริษัทมากๆ ถือว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่ม โรงพยาบาล และค้าปลีก เพราะเวลาเขาขายสินค้าจะรับเงินสดทันที แต่เวลาซื้อสินค้ากว่าจะจ่ายเงินก็ 60 วัน เท่ากับว่าเขามีเงินสดกองในบริษัทตลอดเวลา แถมเงินส่วนนี้มีดอกเบี้ยด้วย
"ถ้าผมเจอหุ้นที่มีคุณสมบัติอย่างที่บอก ผมจะ เคาะขวา (ซื้อฝั่ง Offer) เลย เพราะกลัวมีคนมาแย่ง ไม่ต้อง ตั้งรอ ซื้อแพงหน่อยไม่เป็นไร แต่ถ้าตัวไหนดูแล้วอัพไซด์ไม่มาก..ก็รอหน่อย! ส่วนใหญ่จะซื้อทีเดียวเลย ถ้าลงมา ก็จะซื้อเพิ่มอีก ตัวไหนดีมากจะซื้อไม่เกิน 30% ของพอร์ต ปกติจะมีหุ้นตัวหลักในใจ 6-7 ตัว"
ก่อนจะเป็นวีไอที่ประสบความสำเร็จแก่นแท้ข้อหนึ่งที่จะต้องท่องไว้เลยคือ "เราซื้อธุรกิจไม่ได้ซื้อหุ้น" คน ส่วนใหญ่ที่คิดว่าซื้อหุ้น เพราะเขาเชื่อว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้น แต่หากคิดว่าซื้อธุรกิจ เราจะคิดว่าธุรกิจนี้จะมีกำไรสูงขึ้น ซึ่งมันจะเป็นตัวผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น แต่จะคิดแบบซื้อธุรกิจได้คุณต้องศึกษาธุรกิจนั้นอย่างลึกซึ้ง
"บางคนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน คุณต้องไปอ่านหนังสือ การลงทุนก็เหมือนปลูกทุเรียนปีเดียวคงไม่มีทางได้กิน แต่ผมวันนี้ศึกษาข้อมูลเพียง 1 วัน บางครั้ง 5-10 นาที ก็ตัดสินใจได้แล้ว เพราะผมพร้อมตลอดเวลารู้จักทุกบริษัท แล้ว"
มาถึงศาสตร์เรื่องจิตวิทยา และทัศนคติ โจเล่าว่า เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนไว้ตลาดหุ้นจะมี 2 คน คือ "ตัวเรา" และ "นายตลาด" ตลอดเวลาเราจะซื้อขายหุ้นกับ นายตลาด ซึ่งนายตลาดเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้าๆ บอๆ วันไหนอารมณ์ดีจะมาเสนอซื้อหุ้นเราในราคาสูงๆ แต่หากวันไหนอารมณ์หดหู่ มองโลกในแง่ร้าย จะมาเสนอขายหุ้นให้เราในราคาต่ำๆ ฉะนั้นเรามี 2 ทางเลือก คือ 1. หาประโยชน์จากนายตลาด หรือ 2. ตกอยู่ในอิทธิพล ของนายตลาด ดังนั้นหากเราเลือกถูกทาง ก็ไม่ต้องกลัวหุ้นตก
"ผมพนันเลยว่ากว่า 90% ของคนที่เข้ามาในตลาดหุ้น จะกลายเป็นนายตลาดเสียเอง ยิ่งเขาไม่สามารถแยกตัวเป็นอิสระจากนายตลาดได้ เขาก็จะ "เจ๊ง" เห็นคนชอบขายหุ้นตอนราคาต่ำๆ แล้วไปไล่ซื้อช่วงสูงๆ..ถ้าเรามั่นใจถือเลย ขาดทุนก็ไม่เป็นไร เชื่อมั้ย! ตอนวิกฤติซับไพร์ม ผมขาดทุนครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ขายของดีราคาต่ำจะขายทำไม! มันไม่สมเหตุสมผล ตรงข้ามเราควรซื้อเพิ่มถ้ามีเงิน อย่าไปหวั่นไหวตามตลาด คนที่อดทนผมรับรองไม่สำเร็จมากก็สำเร็จน้อยอย่างแน่นอน" เขากล่าวอย่างมั่นใจ
โจบอกว่า ทุกๆ วันจะมองหาหุ้นที่จะซื้อตลอดเวลา มองหุ้นบางตัวอยู่แต่ราคาอาจแพงไปนิด แถมโอกาส ชนะมีแค่ 50% ถ้าเป็นแบบนั้น "จะยังไม่ซื้อ" เพราะโอกาสชนะแค่ 50% เหมือนเรา "เล่นการพนัน" จะซื้อก็ต่อเมื่อโอกาสชนะต้องมากถึง 80-90% เท่านั้น
"ที่ผ่านมาผมลงทุนในตลาดหุ้น 100% ตลอด จากสถิติพบว่าตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ก่อตั้งในปี 2518 สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี สูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทุกประเภท ผมยังเชื่อว่าระยะยาวตลาดหุ้นยังจะให้ ผลตอบแทนดีที่สุดต่อไป" และ "โจ..ลูกอีสาน" ก็จะฝังตัว อยู่ในตลาดหุ้น ที่ที่เขารักตลอดไป!!!
รวยแล้ว!!! ยังอาศัยบ้านพักข้าราชการ
สำหรับเป้าหมายการลงทุน อนุรักษ์ บุญแสวง บอกว่า ในปีนี้ ขอผลตอบแทน 30% ก็พอใจแล้ว แต่ระยะยาวอยากได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี คนที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ทำได้เท่านี้ แต่เขาทำได้ติดต่อกัน 50 ปี ถามว่าภายใน 5-10 ปีข้างหน้า อยากมีพอร์ตสูงขึ้นเป็นระดับเท่าไร มาถึงตอนนี้ "ผมพอใจแล้ว"
ทุกวันอนุรักษ์จะตื่นเช้าไปส่งลูกทั้ง 3 คน ไปโรงเรียน (ลูกชายคนโต 9 ปี ลูกชายคนรอง 7 ปี ลูกสาวคนสุดท้อง 3 ขวบ) ส่งเสร็จจะกลับมาอ่านข่าว บจ.ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ และอ่านบทวิเคราะห์ โดยจะไม่ฟัง คำแนะนำของมาร์เก็ตติ้ง
"ผมถือคติว่า ฟังคนอื่นหรือลอกหุ้นคนอื่นชีวิตการลงทุนคงไม่รอด ที่ผ่านมาผมปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ใช้ "อินไซเดอร์" ถึงได้กำไรก็ไม่ภูมิใจ เราโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ ไม่อยากเงยหน้าอายฟ้า
ก้มหน้าอายดิน"
สำหรับเงินที่ได้กำไรจากการลงทุน โจไม่เคยนำไปซื้อบ้านหรือที่ดินทุกวันนี้ครอบครัวเขายังอยู่บ้านพักข้าราชการ (ภรรยาเป็นอาจารย์) เขามองว่า สินทรัพย์ประเภทนั้นไม่ได้สร้างรายได้ให้มากมาย
และไม่เคยซื้อทองคำ ลองดูราคาย้อนหลัง 30 ปี ผลตอบแทนทองคำ "ห่วยที่สุด" แต่คนมองว่าทองคำ
ดีในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
"ผมมีซื้อที่ดินในจังหวัดพังงา 40-50 ไร่ ให้พี่ชาย (อายุห่างกัน 2 ปี) นำไปปลูกปาล์มและ
ทำสวนยาง ให้เขามีอาชีพเลี้ยงตัวเอง"
ปัจจุบันอนุรักษ์ซื้อขายหุ้นหลายโบรกเกอร์ที่ บล.เอเซีย พลัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ไทยพาณิชย์, บล.ภัทร และ บล.ธนชาต ถามว่าทำไม! ต้องเล่นหลายโบรก เขาตอบว่า อยากได้งานวิจัยที่หลากหลายและดีที่สุด นอกจากนี้แต่ละโบรกเกอร์มีโปรแกรมการซื้อขาย ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวมองว่า บล.เอเซีย พลัส มีงานวิจัยดีที่สุด เซียนหุ้นร้อยล้าน กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้นักลงทุนที่ยังไม่ถึงเป้าหมายศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด อย่าไปคิดว่า
ซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้นทันที ให้คิดว่าเรา "ซื้อธุรกิจ" ถ้าใครไม่พร้อมก็ให้ไปซื้อกองทุนรวมแทนก็ได้ ปัจจุบันมีหลาย กองทุนสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี "ผมอยากฝากถึงนักลงทุนทุกคนว่า ถ้าอยากมีชีวิตหลังเกษียณที่ดีควรรีบลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ หุ้นเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่า ให้ผลตอบแทนดีที่สุด แต่ก็ต้องลงทุนด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง คือ มองหุ้นให้เป็นธุรกิจ และมีอารมณ์ที่มั่นคง หุ้นจึงจะกลายเป็น "บ่อเงินบ่อทอง" ขุดเท่าไรก็ไม่หมด แต่ถ้าลงทุนผิดวิธีมีเท่าไรก็หมดได้"
ผมจะชอบหุ้นที่มีแนวโน้มว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั่นแปลว่าบริษัทนั้น มีสตอรี่ที่ดีมารองรับแล้ว!!!
คนจนเล่นหวย..คนรวยเล่นหุ้น ประโยคพลิกชีวิต 'โจ' อนุรักษ์ บุญแสวง ก่อนชีวิตจะกลับด้านจาก 'คนจน' กลายเป็น 'เซียนหุ้นร้อยล้าน' นิยายกลายเป็นเรื่องจริง!!!--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 48
สุดยอดไปเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: วิถีเซียนหุ้นวีไอ 'อนุรักษ์ บุญแสวง' จากกรุงเทพธุรกิจBiz
โพสต์ที่ 49
คอลัมน์: ริมถนนนักลงทุน
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, August 13, 2012 09:22
47829 XTHAI XGEN DAS V%NETNEWS P%WKT
ริมถนนนักลงทุน ฉบับที่ 426 วันที่ 13-19 สิงหาคม 2555
ลง "บิซวีค" ครั้งเดียวดังระเบิด เถิดเทิง!! เทรดเดอร์ไร้ปริญญา "ปณต จิตการุญ" ฝากบอกผู้อ่านชีวิตนี้มี "ผู้มีพระคุณ" ที่ทำให้มี Mudley Group อีกคนคือ "ฐิติภัทร์ เจริญชัยพงศ์" แห่ง "นำสินประกันภัย" เจ้าตัว แนะให้จับตา "ทองคำ" กราฟกำลังบอกว่าราคามาถึง "จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ" แล้ว! ไม่ว่าจะ "ขึ้น" หรือ "ลง" แพทเทิร์นแบบนี้ "เฮดจ์ฟันด์" กำลังรอจ้องอยู่
อีกคนที่ดังแบบสุดๆ "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ทันที ที่ลงคอลัมน์ "ถนนนักลงทุน" ใน "บิซวีค" บรรดา "แฟนคลับ"ก็ดึงบทความไปลงในเว็บไซต์"ไทยวีไอ" ทันที แถมได้รับ คำชื่นชมเกือบทุกคอมเมนท์ "คนนี้แหละ! ไอดอลของผม"ไม่รู้ว่าป่านนี้ "หุบยิ้ม" ได้หรือยัง!!!
กลายเป็น "พ่อตา"ไปซะแล้ว! "เสี่ยแซนด์วิช" ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ แต่งลูกสาวคนโต"ซวง" วรวรรณ วรเวทวุฒิคุณ วัย 30 ปี ดีกรี "เศรษฐศาสตร์" ม.ธรรมศาสตร์ เพิ่งเข้าประตู "วิวาห์" กับ "เมษ สุวรรณตรา"ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "พล.อ.อดิศร สุวรรณตรา" ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม จัดงานใหญ่ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล งานนี้เชิญ "บิ๊กปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ ร่วมเป็นประธานในพิธี
ส่วนรายนี้ "พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก"รมช.คมนาคม กำลังจะได้สะใภ้ดารา "แป้ง" อรจิรา แหลมวิไล เพื่อนรัก "เอม" พินทองทา ชินวัตร เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว "ผู้กองต้อม" ร.ต.อ.ทรงพันธุ์ กุลดิลก วัย 30 ปี ลูกชายคนที่ 6 ในจำนวน 7 คน ของรองหัวหน้าพรรค "เพื่อไทย"
การเมือง "ล็อกสเปค" สองตำแหน่งใหญ่ "รัฐวิสาหกิจ" ลงตัว ผู้อำนวยการ "ธ.ออมสิน" คงไม่พ้น "วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี"ลูกเขย "ปลัดพลังงาน" ณอคุณ สิทธิพงศ์ประธานกรรมการ "ปตท." ส่วนตำแหน่ง "ดีดี การบินไทย" เตรียมไว้ให้ "สรจักร เกษมสุวรรณ"ประธานกรรมการ "อสมท"
นายใหญ่เครือมติชน "ขรรค์ชัย บุนปาน" ซุ่มจับมือ "เสี่ยตา" ปัญญา นิรันดร์กุลผลิตรายการ "มติชน ข่าวค่ำ" ป้อน "เวิร์คพอยท์ ทีวี" ช่วง 1 ทุ่ม ถือเป็นสเต็ป ก้าวที่สองของ "เสี่ยตา" ที่ค่อยๆ "มูฟ" จาก "วาไรตี้ทีวี"ที่ตัวเองถนัด ไปสู่ "ฟรีทีวี"เต็มรูปแบบ เร็วๆ นี้ ก็มีข่าว "ไทยรัฐ" กำลังหมายตา ช่องข่าว "สปริงนิวส์" มาต่อยอด ธุรกิจ ขณะที่ "ฐานเศรษฐกิจ" ของ "วุฒิชัย ศรีวุฒิชาญ" หลังได้ "ศิริธัช โรจนพฤกษ์" มาเป็น "นายทุนใหม่" เจ้าตัวเผยมีการเจรจากับ "กลุ่มเนชั่น"และ "ผู้จัดการ" จะเห็นการเปลี่ยนแปลง ของ "ฐานเศรษฐกิจ" ใน "ต้นปีหน้า" ที่แน่ๆ "วันที่ 9 เดือน 9" รอชม "กรุงเทพธุรกิจทีวี"เปิดสถานีอย่างเป็นทางการ "สุทธิชัย หยุ่น"ดันสุดฤทธิ์!!
มีคนเห็น "เจ๊สมพร" บินไป "มาเก๊า"บ่อยๆ ไปเล่นทีนอน "ตี 4 ตี 5" ช่วงขายที่ดินผืนงาม "กลางกรุง" เสียไป "ร้อยกว่าล้าน"ไม่นานมานี้เล่นได้มา "4-5 แสนเหรียญ" มีคน เคยถามเจ๊..เจ้าตัวเล่า สมบัติก็แบ่งให้ลูกๆ หมดแล้ว เงินที่มีอยู่ก็ "เหลือกินเหลือใช้" มันเป็น "ความสุข" ของเจ๊! ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน!!! ส่วน "เจ๊สมพร" นามสกุลอะไร "คนเล่า" บอกให้ลอง "เดา" กันดู!!!
เปิดกิจการมาเกือบ 20 ปี สู้ศึก ค้าปลีก "เจ้าสัวซีพี" ไม่ไหว "แฟมิลี่มาร์ท"ยืนยันไม่ได้ "เจ๊ง" แต่อยากหาคนมารับหน้าที่ "บริหารต่อ" แว่วว่า "จิราธิวัฒน์" น่าจะเข้าวิน!! เอามาเสริมทัพกับ "ท็อปส์ เดลี่" โดยมี "เบอร์ลี่ ยุคเกอร์" ของ "เขยเล็ก" เจ้าสัวเจริญ "อัศวิน เตชะเจริญวิกุล" ก็อยากได้ "ปตท." ที่กำลังรุกธุรกิจ "นอนออยล์" ก็ขอสู้!
"ชิน คอร์ปอเรชั่น" ประกาศ "ถอนตัว"จากศึกชิง "พรีเมียร์ลีก" 3 ฤดูกาลแล้ว! "สมประสงค์ บุญยะชัย" ให้เหตุผลว่า "บริษัทไม่แน่ใจในขีดความสามารถในการสร้าง ผลตอบแทน" ทั้งๆ ที่ในจำนวนผู้เข้าท้าชิงทั้ง 6 ราย ได้แก่ TRUE, GRAMMY, RS, WORK, GTH และ คิวบิค "อินทัช" เข้าข่าย "เงินเยอะสุด" ด้าน "ทรูวิชั่นส์" ประกาศแล้ว "สู้คนเดียว"มีเงินซื้อลิขสิทธิ์ปีละ 7,000 ล้านบาท เดือน "กันยายน" นี้..รู้กัน!!
เห็น "อากู๋" ออกข่าวบ่อยๆ "อาร์เอส"ก็เลยจัด "Group Interview" ประกาศ เดินหน้า "ธุรกิจกีฬา" เต็มสูบ "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ คุยว่าคอนเทนต์ช่อง "RS Sport LaLiga" แน่นตลอดฤดูกาล พร้อมจะมา เผยความคืบหน้ากล่อง "ซันบ็อกซ์" ที่ยอดขาย กำลังไหลลื่น จะเปิดโรงแรม "เรเนซองส์ ราชประสงค์" คุยกับ "สื่อ" ในวันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2555 นี้ มีคนสงสัยช่วงหลังๆ แถลงข่าวเมื่อไรก็ต้อง "โรงแรมนี้" สืบเสาะได้ความว่าเจ้าของชื่อ "ศิริกาญจน์ ศักดิเดช- ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา" เป็นเพื่อนร่วมรุ่น "วตท.รุ่นที่ 13"
ชีวิตมาเป็น "ขาขึ้น" เอาตอน "แก่"สัปดาห์ที่ผ่านมา "วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์"กับ "วรภัค ธันยาวงษ์" บอสใหญ่ "ฟินันซ่า"เป็นโต้โผเลี้ยงฉลองวันเกิด "ครบ 70 ปี" ให้กับ
ท่านประธานบริษัท "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร"ที่ปัจจุบันนั่งควบตำแหน่งใหญ่ทั้งในหน่วยงาน "รัฐ-เอกชน" ข่าวว่าใครเชิญไป "ขึ้นเวที"ค่าตัว "ดร.โกร่ง" แพงระยับระดับ "ดาราดัง"เลยแหละ!!
ตำแหน่ง "รองผู้ว่าการแบงก์ชาติ"แทน "สุชาดา กิระกุล" ที่จะหมดวาระใน สิ้นเดือน "กันยายน" นี้ "ดร.โกร่ง" ในฐานะ "ประธานแบงก์ชาติ" เปิดประตู "คนนอก"มาแข่งกับ "คนใน" ที่วางตัว "ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน" ไว้รอเสียบ!!หนึ่งในรายชื่อผู้ที่ถูก "ทาบทาม" มีชื่อ "ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ" จาก "บล.ภัทร" รวมอยู่ด้วย!
สตอรี่ก็หาย ข่าวก็เงียบ "เกียรติธนา ขนส่ง" ของ "เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์"ปีนี้ ผลประกอบการ "น่าผิดหวัง" เซียนวีไอ รายใหญ่ "น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"ลดน้ำหนักการลงทุนมาตลอด จากสิ้นเดือน "มีนาคม" เคยถือ 24.32 ล้านหุ้น สัดส่วน 12.16% ลดหุ้นเหลือ 12.34 ล้านหุ้น สัดส่วน 5.61% ล่าสุดขายอีก "ล็อตใหญ่" เหลือหุ้นเพียง 7.59 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.45% ในช่วงไม่ถึง 5 เดือน "คุณหมอ" ขายหุ้น KIAT ออกแล้ว 16.73 ล้านหุ้น
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" และภรรยา "ยุวดี พงษ์อัชฌา" ขายหุ้น "เจมาร์ท" ล็อตใหญ่ 25 ล้านหุ้น สัดส่วน 6.21% ผ่าน "บล.เอเซีย พลัส" ราคาหุ้นละ 9.50 บาท มูลค่ารวม 237.50 ล้านบาท
เดินสายพบ "สื่อ" แต่เนิ่นๆ "เสี่ยสมพล ธนาดำรงศักดิ์" กับ "ซ้อนุศรา"เจ้าของบริษัท "ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้" (FPI) เตรียมนำหุ้นเข้าตลาด mai ตั้ง "บล.ฟินันเซีย ไซรัส" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แวะมาแนะนำตัวกับ "บิซวีค" ถึงโต๊ะทำงาน จะแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์
ปั๊มน้ำมัน PT ของ "พิทักษ์ รัชกิจ-ประการ" กำลังแต่งตัวเข้า SET ให้ทันภายใน "ปีนี้" ตั้ง "เซจ แคปปิตอล" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เชิญนักข่าว "เครือเนชั่น" ไปกิน "โต๊ะจีน" โรงแรมดัง..ไม่น่าเชื่อ! มีปั๊ม ทั่วประเทศ 500 สาขา เป็นลูกค้ารายใหญ่ "ไทยออยล์" ช่วง 2-3 ปีนี้ เติบโตก้าวกระโดด ปี 2554 ขายน้ำมัน 950 ล้านลิตร มียอดขาย 2.78 หมื่นล้านบาท ปีนี้ ตั้งเป้า 1,300 ล้านลิตร ยอดขาย 4 หมื่นล้านบาท โตโดยวิธี "เช่าปั๊ม"ที่ "เลิกกิจการ" ที่อยู่ตามถนน "สายรอง" คนอื่นลงทุนปั๊มละ 50-60 ล้านบาท ตัวเองลงทุนปรับปรุงปั๊มละ 2 ล้านบาท ความฝัน อันสูงสุดอยากมี "1 ปั๊ม 1 อำเภอ" (ทั่วประเทศ มีกว่า 900 อำเภอ) และที่เห็นถือหุ้น "ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่" 219,900 หุ้น มูลค่า 73 ล้านบาท เจ้าตัวบอกเป็นบริษัทของ "คุณป้า"
ข่าวว่า "วิรัตน์ เอี้ยวอักษร" บอสใหญ่ "กฤษดามหานคร" ไปแอบดูที่ดิน "เกาะล้าน" สงสัยหาทำเลขึ้น "คอนโดตากอากาศ" เจ้าตัว ยัง "อุบเงียบ" สอบถามว่าเฮียมาเที่ยวหรือมาธุระอะไร "มาทำงานครับ" !!!
"เสี่ยตึ๋ง" อนันต์ อัศวโภคินมอบทุนวิจัย 3 ล้านบาท ให้แก่ "ม.ราชมงคลรัตนโกสินทร์"สนับสนุนการทำวิจัยเรื่อง "การประหยัดพลังงานในบ้านพักอาศัย" โจทย์ที่ให้คือ "ผลวิจัย"ต้องนำมาประยุกต์ใช้ได้ใน "ชีวิตจริง" โดยจะนำผลวิจัยมาปรับใช้กับ "บ้าน" ในโครงการ "แลนด์ แอนด์เฮ้าส์"
"บล.เคที ซีมิโก้" รีบส่งข่าว "จักรพงศ์ เชวงศรี"นักวิเคราะห์ในสังกัด คว้ารางวัล FACTSET สาขานักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ในกลุ่ม "น้ำมันและก๊าซ" ประจำปี 2012 จาก The Wall Street Journal
"ทรงพล ชัญมาตรกิจ" บิ๊กบอส "ทีวีไดเร็ค" รีบส่งข่าวหุ้น TVD เคาะ ราคา IPO แล้วที่ราคา 2.10 บาท เปิดให้จอง ซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม และ จะเข้าซื้อขายในตลาด mai วันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยมี "บล.ฟินันเซีย ไซรัส" และ "บล.โนมูระ พัฒนสิน" เป็นแกนหลัก
"ดร.ตุ้ย" ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนาฝากชวนลูกๆ ทั้งหลาย จูงมือ "คุณแม่" มาร่วมกิจกรรมที่ศูนย์การค้า "เซ็นทรัลเวิลด์"ระหว่าง 1-31 สิงหาคม 2555 นี้ เตรียม กิจกรรมพิเศษไว้รอมากมาย
"กองทัพบก" ร่วมกับ "กสิกรไทย"เปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติเทิดไท้ ๘๐ พรรษามหาราชินี จัดทำสารคดีกึ่งละคร และหนังสือ "ศึกเก้าทัพ" จะออกอากาศทาง "ททบ.5" ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.00- 22.30 น. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ การันตีคุณภาพโดย "ทมยันตี" เป็นบรรณาธิการหนังสือและผู้พัฒนาบทละคร
บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์
จัดสัมมนา Executive Training ให้ ความรู้แก่นักลงทุนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ปรับหลักสูตรทุก 2 เดือน รอบนี้มี 4 หัวข้อ 1.เริ่มต้นลงทุน อย่างเข้าใจใน SET50 Index 2.เริ่มต้นลงทุน อย่างเข้าใจในทองคำล่วงหน้า 3.เริ่มต้นลงทุนอย่างเข้าใจ ใน Single Stock ล่วงหน้า และ 4.เริ่มต้นลงทุนอย่าง เข้าใจในน้ำมันล่วงหน้า สอบถามตารางอบรมและสำรองที่นั่งโทร. 02 673 9911 ต่อ 660 หรือ www.gtwm.co.th
บรรยายใต้ภาพ
พิทักษ์ รัชกิจประการ
ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, August 13, 2012 09:22
47829 XTHAI XGEN DAS V%NETNEWS P%WKT
ริมถนนนักลงทุน ฉบับที่ 426 วันที่ 13-19 สิงหาคม 2555
ลง "บิซวีค" ครั้งเดียวดังระเบิด เถิดเทิง!! เทรดเดอร์ไร้ปริญญา "ปณต จิตการุญ" ฝากบอกผู้อ่านชีวิตนี้มี "ผู้มีพระคุณ" ที่ทำให้มี Mudley Group อีกคนคือ "ฐิติภัทร์ เจริญชัยพงศ์" แห่ง "นำสินประกันภัย" เจ้าตัว แนะให้จับตา "ทองคำ" กราฟกำลังบอกว่าราคามาถึง "จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ" แล้ว! ไม่ว่าจะ "ขึ้น" หรือ "ลง" แพทเทิร์นแบบนี้ "เฮดจ์ฟันด์" กำลังรอจ้องอยู่
อีกคนที่ดังแบบสุดๆ "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง ทันที ที่ลงคอลัมน์ "ถนนนักลงทุน" ใน "บิซวีค" บรรดา "แฟนคลับ"ก็ดึงบทความไปลงในเว็บไซต์"ไทยวีไอ" ทันที แถมได้รับ คำชื่นชมเกือบทุกคอมเมนท์ "คนนี้แหละ! ไอดอลของผม"ไม่รู้ว่าป่านนี้ "หุบยิ้ม" ได้หรือยัง!!!
กลายเป็น "พ่อตา"ไปซะแล้ว! "เสี่ยแซนด์วิช" ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ แต่งลูกสาวคนโต"ซวง" วรวรรณ วรเวทวุฒิคุณ วัย 30 ปี ดีกรี "เศรษฐศาสตร์" ม.ธรรมศาสตร์ เพิ่งเข้าประตู "วิวาห์" กับ "เมษ สุวรรณตรา"ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "พล.อ.อดิศร สุวรรณตรา" ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม จัดงานใหญ่ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล งานนี้เชิญ "บิ๊กปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ ร่วมเป็นประธานในพิธี
ส่วนรายนี้ "พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก"รมช.คมนาคม กำลังจะได้สะใภ้ดารา "แป้ง" อรจิรา แหลมวิไล เพื่อนรัก "เอม" พินทองทา ชินวัตร เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว "ผู้กองต้อม" ร.ต.อ.ทรงพันธุ์ กุลดิลก วัย 30 ปี ลูกชายคนที่ 6 ในจำนวน 7 คน ของรองหัวหน้าพรรค "เพื่อไทย"
การเมือง "ล็อกสเปค" สองตำแหน่งใหญ่ "รัฐวิสาหกิจ" ลงตัว ผู้อำนวยการ "ธ.ออมสิน" คงไม่พ้น "วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี"ลูกเขย "ปลัดพลังงาน" ณอคุณ สิทธิพงศ์ประธานกรรมการ "ปตท." ส่วนตำแหน่ง "ดีดี การบินไทย" เตรียมไว้ให้ "สรจักร เกษมสุวรรณ"ประธานกรรมการ "อสมท"
นายใหญ่เครือมติชน "ขรรค์ชัย บุนปาน" ซุ่มจับมือ "เสี่ยตา" ปัญญา นิรันดร์กุลผลิตรายการ "มติชน ข่าวค่ำ" ป้อน "เวิร์คพอยท์ ทีวี" ช่วง 1 ทุ่ม ถือเป็นสเต็ป ก้าวที่สองของ "เสี่ยตา" ที่ค่อยๆ "มูฟ" จาก "วาไรตี้ทีวี"ที่ตัวเองถนัด ไปสู่ "ฟรีทีวี"เต็มรูปแบบ เร็วๆ นี้ ก็มีข่าว "ไทยรัฐ" กำลังหมายตา ช่องข่าว "สปริงนิวส์" มาต่อยอด ธุรกิจ ขณะที่ "ฐานเศรษฐกิจ" ของ "วุฒิชัย ศรีวุฒิชาญ" หลังได้ "ศิริธัช โรจนพฤกษ์" มาเป็น "นายทุนใหม่" เจ้าตัวเผยมีการเจรจากับ "กลุ่มเนชั่น"และ "ผู้จัดการ" จะเห็นการเปลี่ยนแปลง ของ "ฐานเศรษฐกิจ" ใน "ต้นปีหน้า" ที่แน่ๆ "วันที่ 9 เดือน 9" รอชม "กรุงเทพธุรกิจทีวี"เปิดสถานีอย่างเป็นทางการ "สุทธิชัย หยุ่น"ดันสุดฤทธิ์!!
มีคนเห็น "เจ๊สมพร" บินไป "มาเก๊า"บ่อยๆ ไปเล่นทีนอน "ตี 4 ตี 5" ช่วงขายที่ดินผืนงาม "กลางกรุง" เสียไป "ร้อยกว่าล้าน"ไม่นานมานี้เล่นได้มา "4-5 แสนเหรียญ" มีคน เคยถามเจ๊..เจ้าตัวเล่า สมบัติก็แบ่งให้ลูกๆ หมดแล้ว เงินที่มีอยู่ก็ "เหลือกินเหลือใช้" มันเป็น "ความสุข" ของเจ๊! ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน!!! ส่วน "เจ๊สมพร" นามสกุลอะไร "คนเล่า" บอกให้ลอง "เดา" กันดู!!!
เปิดกิจการมาเกือบ 20 ปี สู้ศึก ค้าปลีก "เจ้าสัวซีพี" ไม่ไหว "แฟมิลี่มาร์ท"ยืนยันไม่ได้ "เจ๊ง" แต่อยากหาคนมารับหน้าที่ "บริหารต่อ" แว่วว่า "จิราธิวัฒน์" น่าจะเข้าวิน!! เอามาเสริมทัพกับ "ท็อปส์ เดลี่" โดยมี "เบอร์ลี่ ยุคเกอร์" ของ "เขยเล็ก" เจ้าสัวเจริญ "อัศวิน เตชะเจริญวิกุล" ก็อยากได้ "ปตท." ที่กำลังรุกธุรกิจ "นอนออยล์" ก็ขอสู้!
"ชิน คอร์ปอเรชั่น" ประกาศ "ถอนตัว"จากศึกชิง "พรีเมียร์ลีก" 3 ฤดูกาลแล้ว! "สมประสงค์ บุญยะชัย" ให้เหตุผลว่า "บริษัทไม่แน่ใจในขีดความสามารถในการสร้าง ผลตอบแทน" ทั้งๆ ที่ในจำนวนผู้เข้าท้าชิงทั้ง 6 ราย ได้แก่ TRUE, GRAMMY, RS, WORK, GTH และ คิวบิค "อินทัช" เข้าข่าย "เงินเยอะสุด" ด้าน "ทรูวิชั่นส์" ประกาศแล้ว "สู้คนเดียว"มีเงินซื้อลิขสิทธิ์ปีละ 7,000 ล้านบาท เดือน "กันยายน" นี้..รู้กัน!!
เห็น "อากู๋" ออกข่าวบ่อยๆ "อาร์เอส"ก็เลยจัด "Group Interview" ประกาศ เดินหน้า "ธุรกิจกีฬา" เต็มสูบ "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ คุยว่าคอนเทนต์ช่อง "RS Sport LaLiga" แน่นตลอดฤดูกาล พร้อมจะมา เผยความคืบหน้ากล่อง "ซันบ็อกซ์" ที่ยอดขาย กำลังไหลลื่น จะเปิดโรงแรม "เรเนซองส์ ราชประสงค์" คุยกับ "สื่อ" ในวันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2555 นี้ มีคนสงสัยช่วงหลังๆ แถลงข่าวเมื่อไรก็ต้อง "โรงแรมนี้" สืบเสาะได้ความว่าเจ้าของชื่อ "ศิริกาญจน์ ศักดิเดช- ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา" เป็นเพื่อนร่วมรุ่น "วตท.รุ่นที่ 13"
ชีวิตมาเป็น "ขาขึ้น" เอาตอน "แก่"สัปดาห์ที่ผ่านมา "วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์"กับ "วรภัค ธันยาวงษ์" บอสใหญ่ "ฟินันซ่า"เป็นโต้โผเลี้ยงฉลองวันเกิด "ครบ 70 ปี" ให้กับ
ท่านประธานบริษัท "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร"ที่ปัจจุบันนั่งควบตำแหน่งใหญ่ทั้งในหน่วยงาน "รัฐ-เอกชน" ข่าวว่าใครเชิญไป "ขึ้นเวที"ค่าตัว "ดร.โกร่ง" แพงระยับระดับ "ดาราดัง"เลยแหละ!!
ตำแหน่ง "รองผู้ว่าการแบงก์ชาติ"แทน "สุชาดา กิระกุล" ที่จะหมดวาระใน สิ้นเดือน "กันยายน" นี้ "ดร.โกร่ง" ในฐานะ "ประธานแบงก์ชาติ" เปิดประตู "คนนอก"มาแข่งกับ "คนใน" ที่วางตัว "ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน" ไว้รอเสียบ!!หนึ่งในรายชื่อผู้ที่ถูก "ทาบทาม" มีชื่อ "ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ" จาก "บล.ภัทร" รวมอยู่ด้วย!
สตอรี่ก็หาย ข่าวก็เงียบ "เกียรติธนา ขนส่ง" ของ "เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์"ปีนี้ ผลประกอบการ "น่าผิดหวัง" เซียนวีไอ รายใหญ่ "น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"ลดน้ำหนักการลงทุนมาตลอด จากสิ้นเดือน "มีนาคม" เคยถือ 24.32 ล้านหุ้น สัดส่วน 12.16% ลดหุ้นเหลือ 12.34 ล้านหุ้น สัดส่วน 5.61% ล่าสุดขายอีก "ล็อตใหญ่" เหลือหุ้นเพียง 7.59 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.45% ในช่วงไม่ถึง 5 เดือน "คุณหมอ" ขายหุ้น KIAT ออกแล้ว 16.73 ล้านหุ้น
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" และภรรยา "ยุวดี พงษ์อัชฌา" ขายหุ้น "เจมาร์ท" ล็อตใหญ่ 25 ล้านหุ้น สัดส่วน 6.21% ผ่าน "บล.เอเซีย พลัส" ราคาหุ้นละ 9.50 บาท มูลค่ารวม 237.50 ล้านบาท
เดินสายพบ "สื่อ" แต่เนิ่นๆ "เสี่ยสมพล ธนาดำรงศักดิ์" กับ "ซ้อนุศรา"เจ้าของบริษัท "ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้" (FPI) เตรียมนำหุ้นเข้าตลาด mai ตั้ง "บล.ฟินันเซีย ไซรัส" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แวะมาแนะนำตัวกับ "บิซวีค" ถึงโต๊ะทำงาน จะแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์
ปั๊มน้ำมัน PT ของ "พิทักษ์ รัชกิจ-ประการ" กำลังแต่งตัวเข้า SET ให้ทันภายใน "ปีนี้" ตั้ง "เซจ แคปปิตอล" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เชิญนักข่าว "เครือเนชั่น" ไปกิน "โต๊ะจีน" โรงแรมดัง..ไม่น่าเชื่อ! มีปั๊ม ทั่วประเทศ 500 สาขา เป็นลูกค้ารายใหญ่ "ไทยออยล์" ช่วง 2-3 ปีนี้ เติบโตก้าวกระโดด ปี 2554 ขายน้ำมัน 950 ล้านลิตร มียอดขาย 2.78 หมื่นล้านบาท ปีนี้ ตั้งเป้า 1,300 ล้านลิตร ยอดขาย 4 หมื่นล้านบาท โตโดยวิธี "เช่าปั๊ม"ที่ "เลิกกิจการ" ที่อยู่ตามถนน "สายรอง" คนอื่นลงทุนปั๊มละ 50-60 ล้านบาท ตัวเองลงทุนปรับปรุงปั๊มละ 2 ล้านบาท ความฝัน อันสูงสุดอยากมี "1 ปั๊ม 1 อำเภอ" (ทั่วประเทศ มีกว่า 900 อำเภอ) และที่เห็นถือหุ้น "ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่" 219,900 หุ้น มูลค่า 73 ล้านบาท เจ้าตัวบอกเป็นบริษัทของ "คุณป้า"
ข่าวว่า "วิรัตน์ เอี้ยวอักษร" บอสใหญ่ "กฤษดามหานคร" ไปแอบดูที่ดิน "เกาะล้าน" สงสัยหาทำเลขึ้น "คอนโดตากอากาศ" เจ้าตัว ยัง "อุบเงียบ" สอบถามว่าเฮียมาเที่ยวหรือมาธุระอะไร "มาทำงานครับ" !!!
"เสี่ยตึ๋ง" อนันต์ อัศวโภคินมอบทุนวิจัย 3 ล้านบาท ให้แก่ "ม.ราชมงคลรัตนโกสินทร์"สนับสนุนการทำวิจัยเรื่อง "การประหยัดพลังงานในบ้านพักอาศัย" โจทย์ที่ให้คือ "ผลวิจัย"ต้องนำมาประยุกต์ใช้ได้ใน "ชีวิตจริง" โดยจะนำผลวิจัยมาปรับใช้กับ "บ้าน" ในโครงการ "แลนด์ แอนด์เฮ้าส์"
"บล.เคที ซีมิโก้" รีบส่งข่าว "จักรพงศ์ เชวงศรี"นักวิเคราะห์ในสังกัด คว้ารางวัล FACTSET สาขานักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ในกลุ่ม "น้ำมันและก๊าซ" ประจำปี 2012 จาก The Wall Street Journal
"ทรงพล ชัญมาตรกิจ" บิ๊กบอส "ทีวีไดเร็ค" รีบส่งข่าวหุ้น TVD เคาะ ราคา IPO แล้วที่ราคา 2.10 บาท เปิดให้จอง ซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม และ จะเข้าซื้อขายในตลาด mai วันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยมี "บล.ฟินันเซีย ไซรัส" และ "บล.โนมูระ พัฒนสิน" เป็นแกนหลัก
"ดร.ตุ้ย" ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนาฝากชวนลูกๆ ทั้งหลาย จูงมือ "คุณแม่" มาร่วมกิจกรรมที่ศูนย์การค้า "เซ็นทรัลเวิลด์"ระหว่าง 1-31 สิงหาคม 2555 นี้ เตรียม กิจกรรมพิเศษไว้รอมากมาย
"กองทัพบก" ร่วมกับ "กสิกรไทย"เปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติเทิดไท้ ๘๐ พรรษามหาราชินี จัดทำสารคดีกึ่งละคร และหนังสือ "ศึกเก้าทัพ" จะออกอากาศทาง "ททบ.5" ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.00- 22.30 น. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ การันตีคุณภาพโดย "ทมยันตี" เป็นบรรณาธิการหนังสือและผู้พัฒนาบทละคร
บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์
จัดสัมมนา Executive Training ให้ ความรู้แก่นักลงทุนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ปรับหลักสูตรทุก 2 เดือน รอบนี้มี 4 หัวข้อ 1.เริ่มต้นลงทุน อย่างเข้าใจใน SET50 Index 2.เริ่มต้นลงทุน อย่างเข้าใจในทองคำล่วงหน้า 3.เริ่มต้นลงทุนอย่างเข้าใจ ใน Single Stock ล่วงหน้า และ 4.เริ่มต้นลงทุนอย่าง เข้าใจในน้ำมันล่วงหน้า สอบถามตารางอบรมและสำรองที่นั่งโทร. 02 673 9911 ต่อ 660 หรือ www.gtwm.co.th
บรรยายใต้ภาพ
พิทักษ์ รัชกิจประการ
ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ