อิสระภาพทางการเงิน
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 1
ตลาดหุ้นให้ Real return 7% ในระยะยาว
ถ้าอยากมีเงินใช้ปีละ 500,000 บาท (น่าจะพอสำหรับคนส่วนใหญ่)
ต้องมีทุน 7,142,857 บาท
มานั่งคำนวนถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วการประสบอิสระภาพทางการเงินด้วยหุ้นไม่ได้ใช้เงินมากเลย (7 ล้านมากแต่ไม่ได้มากจนเป็นไปไม่ได้) ว่ามั้ยครับ
คงมีวันนั้นสักวัน
ถ้าอยากมีเงินใช้ปีละ 500,000 บาท (น่าจะพอสำหรับคนส่วนใหญ่)
ต้องมีทุน 7,142,857 บาท
มานั่งคำนวนถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วการประสบอิสระภาพทางการเงินด้วยหุ้นไม่ได้ใช้เงินมากเลย (7 ล้านมากแต่ไม่ได้มากจนเป็นไปไม่ได้) ว่ามั้ยครับ
คงมีวันนั้นสักวัน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 2
คนที่มีเงินสดอยู่ในมือ 7 ล้านบาทน่าจะมีน้อยนะ
และส่วนใหญ่คนที่มีเงินหลักล้านมาเล่นหุ้นมักจะขาดทุน
เซียนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน มักจะเริ่มต้นด้วยเงินหลักแสน
..........................................................................................
ผมว่าหากิจการทำ โดยใช้เงิน 1 ล้าน แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำกิจการ ให้กิจการมีกำไรหักค่าใช้จ่าย เดือนละ 7 หมื่น
ใช้จ่ายส่วนตัว + ครอบครัว เดือนละ 5 หมื่น
เหลือไว้ซื้อหุ้นเดือนละ 2 หมื่น
เก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วย + เกษียณ
น่าจะง่ายกว่ามั๊ยครับ
และส่วนใหญ่คนที่มีเงินหลักล้านมาเล่นหุ้นมักจะขาดทุน
เซียนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน มักจะเริ่มต้นด้วยเงินหลักแสน
..........................................................................................
ผมว่าหากิจการทำ โดยใช้เงิน 1 ล้าน แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำกิจการ ให้กิจการมีกำไรหักค่าใช้จ่าย เดือนละ 7 หมื่น
ใช้จ่ายส่วนตัว + ครอบครัว เดือนละ 5 หมื่น
เหลือไว้ซื้อหุ้นเดือนละ 2 หมื่น
เก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วย + เกษียณ
น่าจะง่ายกว่ามั๊ยครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 3
กิจการส่วนตัวให้ผลตอบแทนมากกว่าตลาดหุ้นอยู่แล้วครับ
แต่มันเหนื่อย....อ่ะ
แต่มันเหนื่อย....อ่ะ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- tom
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 4
ผมเคยคิดอย่างพี่นะครับ ผมคิดว่าจะต้องมีเงิยในหุ้นประมาณ 8-9 ล้าน จึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน ปัจจุบันนี้หาแทบตาย ได้ปริ่มๆล้าน ส่วนใหญ่มาจากหุ้นทั้งนั้น แต่ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกเลย มีแมงกะไซต์ขี่อยู่คันเดียว บ้านก็อยู่บ้านหลวง ไม่มีหนี้ ไม่ที่ดิน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เมื่อเร็วๆนี้เกิดอยากจะทำอาชีพเสริมพวกปลูกผัก ปลูกไม้ขาย กลับทำไม่ได้เลย เพราะไม่มีพื้นทีี่ ที่จะทำ ก็เกิดความคิดว่า เอ ถ้าซื้อที่ดินไว้ทำเกษตร น่าจะดีมั้ย ...คิดแล้วก็ไม่ดี เพราะลงทุนเยอะไปหน่อย สรุป ถ้าไม่มีทุนมาก ทำอะไรได้น้อย ..ซะงั้น อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 5
ตกลงแล้วอิสรภาพการเงินนี่มัน คือ การมีเงินใช้จ่ายตามความต้องการที่เราจะใช้เท่าไรก้อได้ หรือ ว่าเป็นการเพียงพอต่อจำนวนเงินที่เรามีอยู่และใช้ให้เหมาะสมกะฐานะ กันแน่ครับ สงสัยว่าเจ้าของกิจการก้อยังทำงาน เครียด หาเงินหาวิธีให้ธุรกิจไม่ล้ม แต่เกิดฟลุ้คล้มเงินหลายสิบล้านหายในพริบตา แล้วอย่างนี้จะมีอิสรภาพการเงินแม้จริงในโลกแห่งความจริงไหมครับ สงสัย????????
*****
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 6
ลักษณะของคนรวยคือ คนที่ Interest/Dividend Income มีรายได้ส่วนใหญ่
ลักษณะของคนจนคือ คนที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าแรง
งานที่ยิ่งเหนื่อยจะยิ่งได้เงินน้อย งานที่ยิ่งสบายจะยิ่งได้เงินมาก
คนที่มีหนี้คือคนที่ยอมจ่ายดอกเบี้ยเพื่อให้ได้บริโภคก่อนที่จะมีรายได้ ส่วนคนที่ให้กู้คือคนที่ยอมให้คนอื่นบริโภคด้วยเงินของเขาก่อนเพราะตนเองมีเงินเหลือใช้จนบริโภคเองไม่ทัน แล้วก็ได้ดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน นักลงทุนก็เช่นเดียวกัน มีเงินแทนที่จะเอาไปบริโภคก็นำไปซื้อปัจจัยการผลิต และได้รับกำไรเป็นค่าตอบแทน
ลักษณะของคนจนคือ คนที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าแรง
งานที่ยิ่งเหนื่อยจะยิ่งได้เงินน้อย งานที่ยิ่งสบายจะยิ่งได้เงินมาก
คนที่มีหนี้คือคนที่ยอมจ่ายดอกเบี้ยเพื่อให้ได้บริโภคก่อนที่จะมีรายได้ ส่วนคนที่ให้กู้คือคนที่ยอมให้คนอื่นบริโภคด้วยเงินของเขาก่อนเพราะตนเองมีเงินเหลือใช้จนบริโภคเองไม่ทัน แล้วก็ได้ดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน นักลงทุนก็เช่นเดียวกัน มีเงินแทนที่จะเอาไปบริโภคก็นำไปซื้อปัจจัยการผลิต และได้รับกำไรเป็นค่าตอบแทน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 25
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 7
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนรวยคือ ผู้ที่มีความสุขในการให้ มากกว่ามีความสุขจากการรับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนรวยคือ ผู้ที่มีความสุขในการให้ มากกว่ามีความสุขจากการรับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 8
ข้อควรระวัง
1. ระวังเรื่องเงินเฟ้อที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายของเราเพิ่มขึ้นทุกปี
2. Return ของตลาดที่ว่า เป็น Dividend รวม Capital Gain แต่ว่า Capital Gain นั้น เราคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไรราคาหุ้นจะขึ้น เมื่อไรราคาหุ้นจะลง
3. บางปีเราอาจจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษก้อนโตก็ได้ครับ คล้ายกับธุรกิจศูนย์การค้าที่จะต้องมีการ Renovate ทุกๆ 3 - 5 ปี
1. ระวังเรื่องเงินเฟ้อที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายของเราเพิ่มขึ้นทุกปี
2. Return ของตลาดที่ว่า เป็น Dividend รวม Capital Gain แต่ว่า Capital Gain นั้น เราคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไรราคาหุ้นจะขึ้น เมื่อไรราคาหุ้นจะลง
3. บางปีเราอาจจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษก้อนโตก็ได้ครับ คล้ายกับธุรกิจศูนย์การค้าที่จะต้องมีการ Renovate ทุกๆ 3 - 5 ปี
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 9
อิสระภาพทางการเงินคือ
รายจ่ายไม่เกินรายได้ และ หาให้พอแค่จ่าย
เช่น
รายจ่ายต่อเดือน 10000 บาท ก็หารายได้แค่ 12000 บาทไม่ต้องสะสมจนเกินเหตุ ก็จะมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว
คราวนี้การที่จะมีอิสระภาพทางการเงินได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับรายจ่าย ของแต่ละคน ถ้ามากก็ช้า น้อยก็เร็ว หรือพูดง่ายๆ อยากมาก ก็หามาก อยากน้อยก็หาน้อย หรืออีกอย่าง จ่ายน้อยแต่หาได้ไม่รู้จักพอหาเพื่อไว้มากเกินไป อันนี้ก็ไม่มีทางเป็นอิสระได้
จริงไหมครับ
รายจ่ายไม่เกินรายได้ และ หาให้พอแค่จ่าย
เช่น
รายจ่ายต่อเดือน 10000 บาท ก็หารายได้แค่ 12000 บาทไม่ต้องสะสมจนเกินเหตุ ก็จะมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว
คราวนี้การที่จะมีอิสระภาพทางการเงินได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับรายจ่าย ของแต่ละคน ถ้ามากก็ช้า น้อยก็เร็ว หรือพูดง่ายๆ อยากมาก ก็หามาก อยากน้อยก็หาน้อย หรืออีกอย่าง จ่ายน้อยแต่หาได้ไม่รู้จักพอหาเพื่อไว้มากเกินไป อันนี้ก็ไม่มีทางเป็นอิสระได้
จริงไหมครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 10
(1) อิสระภาพทางการเงินคือ เงินไม่มีอำนาจเหนือเรา
ตราบใดที่เรายังห่วงว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงิน ก็ยังไม่มีอิสระภาพ
ยังตกเป็นทาสของเงินอยู่ร่ำไป
(2) อิสระภาพทางการเงินคือ คำที่ Robert Kiyosaki เอามา
ใช้ขายหนังสือ ทำให้แกร่ำรวยมากขึ้น
เหมือน 7 Habbits ของ Covey
(3) อิสรภาพทางการเงิน คือที่ราบสูง ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึง จะพบว่า
อา ยังมีภูเขาที่สูงขึ้นไปอีกนั่นแหละ
ตราบใดที่เรายังห่วงว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงิน ก็ยังไม่มีอิสระภาพ
ยังตกเป็นทาสของเงินอยู่ร่ำไป
(2) อิสระภาพทางการเงินคือ คำที่ Robert Kiyosaki เอามา
ใช้ขายหนังสือ ทำให้แกร่ำรวยมากขึ้น
เหมือน 7 Habbits ของ Covey
(3) อิสรภาพทางการเงิน คือที่ราบสูง ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึง จะพบว่า
อา ยังมีภูเขาที่สูงขึ้นไปอีกนั่นแหละ
- NT
- Verified User
- โพสต์: 319
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 12
อิสรภาพทางด้านการเงินในมุมของผมคือ
รายได้จากเงินมีมากพอที่จะให้เราดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องทำงาน (หรือทำงานอดิเรกอื่นๆ ใดๆ ก้ได้ที่ตัวเองอยากทำ โดยไม่ต้องคำนึงถึงรายได้อีก)
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่อาจมีบางสิ่งที่อยากทำมากกว่า แต่ไม่สามารถทำได้เพราะยังต้องทำงานปัจจุบันอยู่เพื่อให้มีรายได้มากพอที่จะรองรับค่าใช้จ่าย
รายได้จากเงินมีมากพอที่จะให้เราดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องทำงาน (หรือทำงานอดิเรกอื่นๆ ใดๆ ก้ได้ที่ตัวเองอยากทำ โดยไม่ต้องคำนึงถึงรายได้อีก)
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่อาจมีบางสิ่งที่อยากทำมากกว่า แต่ไม่สามารถทำได้เพราะยังต้องทำงานปัจจุบันอยู่เพื่อให้มีรายได้มากพอที่จะรองรับค่าใช้จ่าย
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 14
:lol: :lol: :lol: :lol:
ขอแจมด้วยเด้อ.....
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... siological
:lol: :lol: :lol: :lol:
ขอแจมด้วยเด้อ.....
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... siological
:lol: :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 15
คือตามที่คุณสุมาอี้ว่ามานี่ผมก็เห็นด้วยนะครับแต่มีข้อแนะอีกนิดคือ
1. เราอาจมีรายจ่ายที่ไม่คาดคิดจำนวนมากๆเช่น หากเราเป็นโสดเราอาจต้องจัดงานแต่งที่สมกับหน้าตาเจ้าสาว(ถ้าคุณได้คนรวย) การแต่งเรือนหอ ฮ้นนีมูนต่างประเทศ
2. หากมีลูกค่าใช้จ่ายก็จะตามมาอีกคือค่าเทอม แป๊ะเจี๊ยะกินเปล่า ขึ้นกับว่าคุณอยากให้ลูกอยู่ในสังคมแบบไหน
สรุปแล้วอิสรภาพทางการเงินนี้ไปๆมาๆผมสรุปได้ว่าอยู่ที่อัตตาของคุณเอง ถ้าคุณพอใจกับบ้านทาวเฮ้าส์เล็กๆ มีเมียแบบไม่เรียกร้องอะไรมาก คือไม่ต้องถึงกับไปพาไปทัวร์ยุโรปทุกปี มีลูกที่เรียนโรงเรียนของกทม. รายได้แค่8000-10000 ต่อเดือนก็น่าจะพอนะครับ แต่ถ้าลูกต้องเรียนเซนคาเบรียลหรืออัสสัมเกรงว่า 7-8ล้านที่ลงทุนในหุ้นคงจะไม่พอ
1. เราอาจมีรายจ่ายที่ไม่คาดคิดจำนวนมากๆเช่น หากเราเป็นโสดเราอาจต้องจัดงานแต่งที่สมกับหน้าตาเจ้าสาว(ถ้าคุณได้คนรวย) การแต่งเรือนหอ ฮ้นนีมูนต่างประเทศ
2. หากมีลูกค่าใช้จ่ายก็จะตามมาอีกคือค่าเทอม แป๊ะเจี๊ยะกินเปล่า ขึ้นกับว่าคุณอยากให้ลูกอยู่ในสังคมแบบไหน
สรุปแล้วอิสรภาพทางการเงินนี้ไปๆมาๆผมสรุปได้ว่าอยู่ที่อัตตาของคุณเอง ถ้าคุณพอใจกับบ้านทาวเฮ้าส์เล็กๆ มีเมียแบบไม่เรียกร้องอะไรมาก คือไม่ต้องถึงกับไปพาไปทัวร์ยุโรปทุกปี มีลูกที่เรียนโรงเรียนของกทม. รายได้แค่8000-10000 ต่อเดือนก็น่าจะพอนะครับ แต่ถ้าลูกต้องเรียนเซนคาเบรียลหรืออัสสัมเกรงว่า 7-8ล้านที่ลงทุนในหุ้นคงจะไม่พอ
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 17
อย่างงี้การมีอิสรภาพทางการเงิน ก้อจะต้องได้เงินมาเพียงพอค่าใช้จ่ายและสามารถเพิ่มสัมพันธ์กะค่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นใช่ไหมครับ แต่ปัญหาคือว่าบางทีค่าใช้จ่ายก้อนโตมันก้อมาโดยไม่ตั้งใจ เช่น ค่าแต่งงาน ค่าเล่าเรียนบุตร ค่าซ่อมบ้าน รถ มันก้อต้องเผื่อมากน่ะสิครับ..............
*****
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 20
ผมว่าคิโยซากิจะรวยก่อนใครๆนะครับ คุณซื้อ8เล่มจะทำให้เขามีอิสรภาพการเงินที่มากๆขึ้น
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 21
อันนั้นก็ไปโทษเค้าไม่ได้ครับhatorihunso เขียน:ผมว่าคิโยซากิจะรวยก่อนใครๆนะครับ คุณซื้อ8เล่มจะทำให้เขามีอิสรภาพการเงินที่มากๆขึ้น
ถ้าเค้าเขียนหนังสือออกมาดี คนซื้อเยอะ ก็สมควรที่เค้าจะรวยขึ้นๆ
หลายๆคนอาจจะไม่ชอบ คิโยซากิ
ผมเองก็ไม่เห็นด้วยในหลายๆเรื่องของเค้า
แต่ผมได้ประโยชน์จากหนังสือของเค้ามากๆ
ถ้าเมื่อ 4 ปีก่อนผมไม่ได้อ่านหนังสือของคิโย ผมคงไม่มีวันนี้
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 22
ผมว่าผมซื้อแนวความคิดของคนคนหนึ่งแค่หลัก100หลัก1000นั้นถูกมากครับเพราะกว่าเขาจะสั่งสมประสบการณ์20-30ปีเพื่อที่จะมาขาย ผมว่าไม่มีอะไรจะคุ้มไปกว่านี้แล้วผมว่าคิโยซากิจะรวยก่อนใครๆนะครับ คุณซื้อ8เล่มจะทำให้เขามีอิสรภาพการเงินที่มากๆขึ้น
ปล.ไม่ใช่แค่คุณ คิโยซากิ นะครับ มีแนวความคิดที่ดีๆในหนังสือที่เป็นร้อยๆเล่มที่ควรคู่แก่การอ่านอย่างมาก
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- stp
- Verified User
- โพสต์: 252
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 23
บวชเป็นพระแล้วตัดขาดจากทางโลกครับ
ในชีวิตจริงคนมีตังก็ต้องการมีตังเยอะขึ้นอีก
ไม่เห็นมีใครหยุดได้สักที
เป็น VI VS VSOP ก็ต้องทำงานครับเพียงแต่ไม่มีใครบังคับเท่านั้น
ใครจะมาดูหุ้นให้หละถ้าไม่ใช่ตัวเอง เงินเราทั้งนั้น
ผมเคยลองสมมุติว่าถ้าแขนขาดขาขาด ไม่สามารถทำงานได้ ต้องเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก พ่อแม่ พ่อตาแม่ยาย ซึ่งก็แขนขาดขาขาดทำงานไม่ได้เหมือนกัน เลวร้ายที่สุด ไม่สามารถหาเงินเพิ่ม ผมควรมีเงินเท่าไหร่ที่จะสามารถใช้จ่ายในสถานะที่เคยใช้จ่ายได้ในปัจจุบันจนกระทั่งทุกคนตายหมดตามอายุไข ...คิดออกมาได้ประมาณพันกว่าล้านครับ รวมลดค่าเงินอนาคต ไม่ใช่น้อยเลย
ในชีวิตจริงคนมีตังก็ต้องการมีตังเยอะขึ้นอีก
ไม่เห็นมีใครหยุดได้สักที
เป็น VI VS VSOP ก็ต้องทำงานครับเพียงแต่ไม่มีใครบังคับเท่านั้น
ใครจะมาดูหุ้นให้หละถ้าไม่ใช่ตัวเอง เงินเราทั้งนั้น
ผมเคยลองสมมุติว่าถ้าแขนขาดขาขาด ไม่สามารถทำงานได้ ต้องเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก พ่อแม่ พ่อตาแม่ยาย ซึ่งก็แขนขาดขาขาดทำงานไม่ได้เหมือนกัน เลวร้ายที่สุด ไม่สามารถหาเงินเพิ่ม ผมควรมีเงินเท่าไหร่ที่จะสามารถใช้จ่ายในสถานะที่เคยใช้จ่ายได้ในปัจจุบันจนกระทั่งทุกคนตายหมดตามอายุไข ...คิดออกมาได้ประมาณพันกว่าล้านครับ รวมลดค่าเงินอนาคต ไม่ใช่น้อยเลย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 24
การมีอิสระภาพทางการเงินนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมคนส่วนใหญ่ในยุคนี้ถึงถวิลหาstp เขียน:บวชเป็นพระแล้วตัดขาดจากทางโลกครับ
ในชีวิตจริงคนมีตังก็ต้องการมีตังเยอะขึ้นอีก
ไม่เห็นมีใครหยุดได้สักที
เป็น VI VS VSOP ก็ต้องทำงานครับเพียงแต่ไม่มีใครบังคับเท่านั้น
ใครจะมาดูหุ้นให้หละถ้าไม่ใช่ตัวเอง เงินเราทั้งนั้น
ผมเคยลองสมมุติว่าถ้าแขนขาดขาขาด ไม่สามารถทำงานได้ ต้องเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก พ่อแม่ พ่อตาแม่ยาย ซึ่งก็แขนขาดขาขาดทำงานไม่ได้เหมือนกัน เลวร้ายที่สุด ไม่สามารถหาเงินเพิ่ม ผมควรมีเงินเท่าไหร่ที่จะสามารถใช้จ่ายในสถานะที่เคยใช้จ่ายได้ในปัจจุบันจนกระทั่งทุกคนตายหมดตามอายุไข ...คิดออกมาได้ประมาณพันกว่าล้านครับ รวมลดค่าเงินอนาคต ไม่ใช่น้อยเลย
การมีอิสระภาพทางการเงิน นั้นหมายถึง การที่เรามีรายได้มากเพียงพอที่จะใช้จ่ายในการดำรงชีวิต โดยรายได้ที่ว่านี้ไม่ได้มาจากการใช้แรงงาน ดังนั้นจึงมีอิสระจากการใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการ
ปัจจุบันหลายคนต้องทนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่รัก เพื่อรายได้ที่จะเลี้ยงชีพ ไม่มีเวลาเหลือไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตัวเองชอบ
แต่การมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว จะไม่ได้หมายความถึงว่าต้องไม่ทำงานอะไรเลยนะครับ งานที่เขารัก เขาชอบ อาจจะเป็นงานที่มีรายได้ที่ดี เป็นงานที่หลายคนไม่ชอบก็ได้ครับ เราถึงยังเห็นคนเหล่านั้นยังคงนั่งทำงานอยู่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 25
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมควรมีเงินเท่าไหร่ที่จะสามารถใช้จ่ายในสถานะที่เคยใช้จ่ายได้ในปัจจุบันจนกระทั่งทุกคนตายหมดตามอายุไข ...คิดออกมาได้ประมาณพันกว่าล้านครับ รวมลดค่าเงินอนาคต ไม่ใช่น้อยเลย
อืม ทำไมเยอะจัง
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 26
:lol: :lol: :lol: :lol:
พลังงานจากความต้องการขั้นที่ 1 ค่อนข้างจะก่อมลพิษเยอะกว่า
:lol: :lol: :lol: :lol:
ใช่ครับ ถ้าเป็นปุถุชนก็ทำเพื่อความต้องการขั้นที่ 3-4-5 ซึ่งถ้าเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้เป็นพลังงาน ก็ถือได้ว่าเป็นพลังงานที่สะอาดกว่า ปลอดภัยกว่าแต่การมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว จะไม่ได้หมายความถึงว่าต้องไม่ทำงานอะไรเลยนะครับ งานที่เขารัก เขาชอบ อาจจะเป็นงานที่มีรายได้ที่ดี เป็นงานที่หลายคนไม่ชอบก็ได้ครับ เราถึงยังเห็นคนเหล่านั้นยังคงนั่งทำงานอยู่
พลังงานจากความต้องการขั้นที่ 1 ค่อนข้างจะก่อมลพิษเยอะกว่า
:lol: :lol: :lol: :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 27
ถ้าเป็นคุณหมอ เมื่อมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ก็ยังสามารถทำงานเป็นคุณหมอได้เหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะรักษาผู้ด้อยโอกาส
ลองนึกถึงผู้คนในสังคมที่มีอิสระภาพทางการเงินเป็นส่วนใหญ่ซิครับ สังคมจะดีขึ้นแค่ไหน
แต่การที่จะให้คนส่วนใหญ่ในสังคมมีอิสระภาพทางการเงินนั้นคงไม่ง่าย ถ้าคนในสังคมยังมีกิเลส ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟื่อย
ถ้าน้ำมีอยู่เพียงครึ่งแก้ว เราก็สามารถที่จะลดแก้วให้เล็กลงได้ครับ แต่ถ้าเรามัวแต่ขยายแก้วให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ น้ำก็คงไม่มีวันที่จะเต็มแก้ว ชีวิตก็คงต้องดิ้นรนไปจนวันสุดท้าย
ลองนึกถึงผู้คนในสังคมที่มีอิสระภาพทางการเงินเป็นส่วนใหญ่ซิครับ สังคมจะดีขึ้นแค่ไหน
แต่การที่จะให้คนส่วนใหญ่ในสังคมมีอิสระภาพทางการเงินนั้นคงไม่ง่าย ถ้าคนในสังคมยังมีกิเลส ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟื่อย
ถ้าน้ำมีอยู่เพียงครึ่งแก้ว เราก็สามารถที่จะลดแก้วให้เล็กลงได้ครับ แต่ถ้าเรามัวแต่ขยายแก้วให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ น้ำก็คงไม่มีวันที่จะเต็มแก้ว ชีวิตก็คงต้องดิ้นรนไปจนวันสุดท้าย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
อิสระภาพทางการเงิน
โพสต์ที่ 30
นับวันผมจะค่อยๆ ไปสู่ยุคหินแล้วครับพี่เจ๋งJeng เขียน:ผมว่า ในยุคหิน ที่ยังไม่มีเงินใช้ ยุคนั้นมีอิสรภาพทางการเงินมากกว่าปัจจุบันครับ
(ผมกำลังจะมีอิสรภาพหรือเนี่ย :lol: :lol: )