เงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash Equivalents) เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องที่สุดในบรรดาสินทรัพย์ของบริษัท รายการนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในงบแสดงฐานะการเงิน ที่ทั้งนักลงทุน เจ้าหนี้ รวมไปถึงผู้บริหารของบริษัทให้ความสนใจ เพราะเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคือ ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในงบกระแสเงินสด (ซึ่งเป็นงบการเงินที่แสดงถึงแหล่งที่มาและจ่ายไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด) ดังนั้น นักลงทุนทุกคนควรทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่า “เงินสด” และ “รายการเทียบเท่าเงินสด” ให้ดีเสียก่อน
เงินสด เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและจำเป็นที่สุดของธุรกิจ เงินสดหมายถึง ธนบัตร เหรียญกษาปณ์ (ทั้งสกุลไทยและต่างประเทศ) ทั้งที่อยู่ในบริษัทหรือที่ฝากอยู่ในธนาคาร เช่น เงินฝากกระแสรายวันและเงินฝากออมทรัพย์ที่บริษัทสามารถเบิกถอนได้โดยไม่มีข้อแม้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเช็คเงินสดที่ถึงกำหนดแล้วแต่ยังไม่ได้นำฝาก เช็คเดินทาง ดราฟต์ธนาคาร ธนาณัติ และตั๋วแลกเงินไปรษณีย์
ส่วนคำว่ารายการเทียบเท่าเงินสดนั้น หมายถึง เงินลงทุนระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูงและพร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นเงินสดในจำนวนที่ทราบได้แน่นอน หรือมีความเสี่ยงต่ำต่อการเปลี่ยนแปลงมูลค่า เงินลงทุนระยะสั้นที่จะจัดเป็นรายการเทียบเท่าเงินสดได้ต้องมีระยะเวลาถึงกำหนดสั้น เช่น ไม่เกิน 3 เดือน
ตัวอย่างรายการเทียบเท่าเงินสดที่พบเห็นได้บ่อย คือ ตั๋วเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินเป็นผู้ออกให้ โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการถือไว้เพื่อชำระภาระผูกพันระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินที่ออกเพื่อชําระหนี้แทนเงินสด เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในทางการค้า ทั้งนี้ตั๋วเงินนั้นต้องครบกำหนดภายใน 3 เดือนหรือน้อยกว่า นอกจากนี้รายการเทียบเท่าเงินสดยังรวมถึงเงินลงทุนระยะสั้น เช่น ตราสารหนี้ (หุ้นกู้) ที่จะครบกำหนดภายในเวลา 3 เดือน เว้นแต่ว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะถือ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก หรือตั๋วเงินที่มีวันครบกำหนดภายใน 3 เดือนนั้นต่อไป โดยการต่อตั๋วหรือฝากต่อ รายการเหล่านั้นจะไม่ถือเป็นรายการเทียบเท่าเงินสด แต่ถือเป็นเงินฝากระยะยาวในสถาบันการเงินหรือเงินลงทุน
แม้ว่าเงินสดจะเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดตามที่ได้กล่าวไว้ แต่เงินสดก็เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้แก่ธุรกิจ ดังนั้น ธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการบริหารเงินสดที่ดี ซึ่งนั่นหมายถึงการไม่ถือเงินสดไว้ในจำนวนที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป บริษัทต้องพยายามลดเงินสดที่ถือไว้โดยเปล่าประโยชน์ให้เหลือน้อยที่สุด และนำเงินจำนวนนั้นไปหาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ในระหว่างที่ยังคงสามารถรักษาสภาพคล่องทั้งในปัจจุบันและในอนาคตของธุรกิจเอาไว้ให้ได้ ซึ่งหมายถึงการเหลือไว้ซึ่งเงินสดสำหรับการดำเนินธุรกิจประจำวัน และสำหรับกรณีฉุกเฉินในจำนวนที่เหมาะสม
ดังนั้น การที่บริษัทมีการแสดงจำนวนเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวนมาก อาจไม่ได้หมายความว่าบริษัทนั้นมีการดำเนินการที่ดีหรือมีประสิทธิภาพเสมอไป แต่อาจเป็นสัญญาณแสดงถึงความบกพร่องในการบริหารการจัดการสินทรัพย์ของบริษัทก็เป็นได้
มีข้อสงสัยโพสถามได้เลยนะคะ
