Mr. Simple Man

[กูรูขอบสนาม]

เปิดศักราชใหม่ ตั้งใจจะเขียนซีรีสบทความอ่านสบายๆ ไม่ไร้สาระจนเกินไป  
(ขืนมีสาระมาก ผิดคอนเซ็ปท์ห้องนี้ ถูกย้ายไปไซบีเรียห้องบทความ
บอกเล่าเรื่องราวของชีวิต ผู้คนที่พบผ่าน สร้างแรงบันดาลใจ
คนธรรมดาที่แสนจะเรียบง่าย  ซื่อใส จนบางครั้งออกจะซื่อบื้อ
ก็เลยออกมาภายใต้หัวข้อ  "คุณคนธรรมดา"
หรือภาษาอังกฤษขนานนามว่า "Mr. Simple Man"

ใครคือ Mr. Simple Man

ใครที่ไหนก็ได้ที่เดินอยู่ตามท้องถนน  เราอาจเคยกระทบไหล่
หรือเดินเฉียดกันโดยไม่เคยมองหน้า
หรือหากจะกระทบกระทั่งก็ดันจำไม่ได้แล้วว่าหน้าตาอย่างไร
ไม่หล่อ ไม่เหลา ไม่สวย เด่น สะดุดตาใดๆ
(เผลอๆกระถางต้นไม้ข้างทางหรือร่มเฉดบังใบยังน่าสนใจกว่าเสียอีก)

ใครก็ตามที่ไม่ได้คาบหรือแหวกช้อนเงินช้อนทองขึ้นมาเกิด
ไม่มีเส้นวาสนาทะลุจากฝ่ามือถึงกลางนิ้วชี้

ใครคนที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม พ่อแม่ไม่ใหญ่โต
เอ่ยชื่อมา ชื่อสัตว์เลี้ยงไฮโซยังมีคนรู้จักมากกว่า

ใครคนนั้นผู้ไม่ท้อแท้ น้อยใจโชคชะตา ดำเนินรอยความฝันของตัวเองอยู่ในโลกเงียบๆ  

แล้ววันหนึ่งก็ถูกค้นพบ

โลกไม่ได้ต้องการคนใหญ่คับฟ้า ที่ชี้นิ้วบงการให้โลกหมุนตามอำเภอใจ
โลกต้องการเพียงคนเล็กๆที่ดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายและหมุนไปพร้อมๆกัน  

[กูรูขอบสนาม]

Paul Potts : จากเซลส์แมนขายมือถือมาร้องโอเปราต่อหน้าควีน

Mr. Simple Man ประเดิมคนแรกของซีรีสชุดนี้ คือ พอล พอทท์
( อ่านคล้ายๆ พอลพต แต่ชื่อหลังห่างไกลจากแรงบันดาลใจมาก)
กูรูเพิ่งได้ดูสารคดีชีวิตของคุณคนธรรมดาคนนี้  ไมกี่เพลามานี้เอง
พอดูจบต้องรีบทำการงานขอค้นคว้าต่อเลยว่า อีตานี่เป็นใครมาจากไหน
ดูหน้าตาก็แสนจะซื่อบื้อเสียจริง ฟันก็เหยเก เฉิ่ม เชย หน้าตาไม่ชวนสาวฝันถึง
ออกจะดูดาวน์ๆเล็กน้อยด้วยซ้ำ

แล้วทำไมถึงมาเป็นแรงบันดาลใจ  Your Excellency, Mr. Simple Man ได้

Paul Potts เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม  1970  ที่เมือง Fishponds Bristol ในประเทศอังกฤษ
มีพ่อเป็นคนขับรถบัส  แม่เป็นแคชเชียร์ในซูเปอร์มาร์เก็ต
Paul Potts รักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก
เคยเข้าร่วมร้องเพลงประสานเสียงในโรงเรียนและที่โบสถ์ประจำบ้านเกิด
มีครั้งหนึ่งเสียงร้องของเขาถูกเพื่อนๆล้อเลียน จนทำให้ตนเองขาดความมั่นใจ ประหม่าอาย
อันเป็นความวิตกกังวลที่ติดตัวมาถึงตอนโต

ถึงกระนั้นก็ตาม Paul Potts ไม่เคยละความฝันและความพยายาม
เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะเรียนรู้วิธีการร้องเพลงโอเปราอย่างถูกต้อง
ถึงขนาดเข้าประกวดร้องเพลงเพื่อเอาเงินรางวัล 8,000 ปอนด์
ไปเป็นค่าเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนการร้องเพลงที่อิตาลี

Paul Potts ฝึกปรือการร้องเพลงโอเปราด้วยบทบาทสมมติอีกหลายครั้ง
เพื่อดำเนินตามรอยฝันที่จะเอาดีด้านนี้
แต่ความฝันของหนุ่มน้อยก็สะดุดลง ในปี 2003
เมื่อเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถจักรยานจนไหปลาร้าหัก
Paul Potts เลยต้องเบนเข็มชีวิตไปประทังอาชีพอื่นที่หารายได้เลี้ยงตัว
นั่นก็คือ เป็นเซลส์แมนขายมือถือให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งบนเกาะอังกฤษ

ด้วยสถานะการเงินที่ฝืดเคืองตลอดจนหนี้สินรุมเร้า  (คาดว่า เขาคงไม่ใช่เซลส์ที่เก่งแน่ๆ)
Paul Potts ตัดสินใจเข้าประกวดโครงการ Britains Got Talent
เพื่อหวังเงินรางวัลมาสักก้อนพอดำรงชีวิตในขณะนั้น
ด้วยความซื่อบื้อ เฉิ่มเชยเบอะของเขา
ไม่มีใครคิดว่า  นายหนุ่มฟันเกจะแสดงทาเลนท์อะไรออกมา
รูปร่างก็อ้วน ม่อต้อ แสนไม่เจริญหู เจริญตา มือไม้ แขน ขา ประหม่าไปหมด
แจ็ตเก็ตที่สวมขึ้นเวทีก็ซอมซ่อ เชิ้ตตัวข้างในใส่ซ้ำซากมาแล้วกี่หนก็ไม่รู้

คณะกรรมการเพียงแค่ขอให้นายคนนี้ทำอะไรสักอย่างให้จบๆ
แล้วก็ลงเวทีไปซะ เสียเวลาตัดสิน

แต่เพียงแค่คำแรกที่นายซื่อบื้อแสนธรรมดาคนนี้เผยอปากเท่านั้น

เหมือนโลกทั้งโลกสว่างไสวขึ้นมาทันที

กรุณาเปิดดูคลิปอันนี้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=1k08yxu57NA

[Mr. Boo]

http://www.metacafe.com/watch/2132949/video/R/CFD_1002/


อันนี้สงสัยรวยแล้วครับ ได้ค่าโฆษณาจาก บอสัดโท-สับ

[กูรูขอบสนาม]

บทเพลงที่ Paul Potts นำมาขับขานสร้างความตะลึงงันให้กับรายการคืนนั้น
คือเพลง Nessan Dorma (None Shall Sleep tonight)
จากอุปรากรเพลงเรื่อง Turandot  ของ Puccini
( เป็นเพลงที่เปิดคลอในนิทรรศการของ กาลิเลโอ คินี
จัดเมื่อกลางปีที่แล้ว เคยเล่าไว้ในกระทู้หนึ่ง)

สุดสิ้นเสียงร้องของ Paul Potts
ผู้ฟังในรายการกว่า 2,000 คนถึงกับยืนปรบมือเกรียวกราว
แบบ Standing Ovation อย่างพร้อมเพรียง ยาวนาน
ราวกับว่า นายหนุ่มคนนี้ได้เติมเต็มความฝันของคนอังกฤษ
ที่ปรารถนาจะเข้าถึงสุนทรียรสดนตรีคลาสสิค
(อังกฤษคงโหยหานักร้องโอเปรามานานเต็มที ที่มีอยู่ทุกวันนี้
ไม่มีชาวอังกฤษสักคน)

การแสดงของ Paul Potts ได้เรียกเร็ตติ้งรายการพุ่งกระฉูดทันที
ในสัปดาห์ที่สอง สาม และสี่
จนกระทั่งมาถึงสัปดาห์สุดท้ายที่ต้องแข่งกับทาเลนท์คนเก่งๆทั่วทั้งเกาะ
รวมทั้งเด็กหญิงเสียงมหัศจรรย์วัย  6 ขวบ
แต่นั่นแหละ เมื่อเพชรถูกเจียระไนแล้วก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
Paul Potts เป็นผู้ชนะเลิศ Britains Got Talent ครั้งที่ 1

เงื่อนไขเกียรติยศที่ไม่มีใครกล้าคาดหวังหลังจากนั้นก็คือ
การร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ควีนเอลิซาเบ็ทที่ 2
เมื่อวันที่  3 ธันวาคม 2007  ในงาน
"Royal Variety Performance "

แต่พระเอกของเราก็ทำได้  :lol:

ความสามารถของหนุ่มนักร้องโอเปราจากเกาะอังกฤษเริ่มขจรขจายไปยังประเทศอื่นๆ
ทั้งในอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน และต้นตำรับ อิตาลี
จนใครบางคนถึงกับบอกว่า นี่แหละคือ ปาวารติคนที่  2
( Luciano Pavarotti หนึ่งใน Three Tenors เสียชีวิตไปแล้ว)

แต่ Paul Potts ก็ยังเป็นคนหนุ่มแสนซื่อ ขี้ประหม่าเหมือนเดิม
เขายังคงใช้ชีวิตเดินดินธรรมดา ไม่ฉายแววนักร้องโอเปราดาวรุ่งที่ใครๆตั้งสมญานามให้
ฟันก็เหยเก ไม่นึกอยากไปปรับเปลี่ยนหรือแต่งใหม่
เออ..พอคนเราเริ่มดัง อ้ายฟันเกๆนั้นก็ดูเท่ดีนะ

ในเดือนธันวาคม 2007 เขาได้มีโอกาสเข้าแวะเยี่ยมทำเนียบนายกรัฐมนตรี    
ณ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่ง
โดยคำเชิญของ นายกอร์ดอน บราวน์
เพื่อมอบโล่ห์เกียรติยศสำหรับศิลปินข่าวอังกฤษ
ที่รังสรรค์อัลบั้ม One Chance และขายได้มากถึง 2,000,000 แผ่น
อังกฤษไม่มีนักร้อง ศิลปินที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้มานานแล้ว

ถึงตอนนี้เรื่องราวของ Mr. Simple Man Paul Potts ได้รับการถ่ายทอดรู้จักกันทั่ว
วีดิโอคลิปที่เข้าประกวดร้องเพลงรอบแรกถูกเปิดดูแล้วนับเป็นล้านๆครั้ง
อากัปกิริยาเคอะเขิน ประหม่าบนใบหน้าบานๆแบบบ้านๆ
กลายเป็นเสน่ห์ธรรมชาติที่ไร้การเสแสร้ง
อันแสดงให้เห็นว่า

คนธรรมดาเพียงหนึ่งคนก็สามารถหมุนโลกได้เช่นกัน

[san]

ชอบมากครับ
ขอบคุณที่หาสิ่งดีๆมาให้ดูนะครับ
ขอบคุณครับ

[por_jai]

ผมก็ได้ดูเทปรายการนี้เช่นกัน
     สุดยอดจริงๆครับ อีตาพอล พอตต์เนี่ย
     ดูปร๊าบก็หวือเลย
     โอโฮย สุดๆจริงๆครับ
     แทงหวือเข้ามาถึงกลางจิตกลางใจผมเลย
     แกบอกว่า
     ทุกวันนี้แกก็ยังสงสัยและไม่ใคร่เข้าใจอยู่นะ
     ว่้าคนชอบแกเพราะอะไร
     ถ้าผมตอบแกได้ก็คงบอกแกว่าภาพรวมของพี่น่ะน๊า
     1.ความสามารถของพี่ทั้งไตรภูมิอาจไม่มีอีกแล้วครับ
     มารวมกับ
     2.บุคลิกที่เกือบๆเอ๋อ เปิ่นๆของพี่
        คงเป็นตัวแทนที่ดีของคนระดับชาวบ้าน
        ว่าพี่กับผมนะพวกเดียวกันมั๊ง
     
     ขำที่มีนักวิจารณ์ไม่รู้แกะขาวหรือแกะดำออกมาบอกว่า
     พี่พอล(ศักดิ์) พอตต์ของผม
     1.ไม่ได้มีน้ำเสียงโซปราโนแต่อย่างใดเลย
     2.ถ้าไปประกวดกับกรรมการที่รู้เรื่องเพลงโอปร่า จริงๆ จะตกรอบแรก
     โถโถโถ อัตตาหนออัตตา
     พี่พอลศักดิ์แกติดดินขนาดนี้แล้ว
     อัลบั้มแกที่ขายดีติดอันดับโลกในชั่วข้ามคืนขนาดนี้แล้ว
     สร้างจินตนาการให้ผู้ฟังได้ขนาดนั้นแล้ว
     แกคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้วละคร้าบ
     นักวิจารณ์พวกนี้ทำให้ผมนึกถึงหมอดูบ้านเรา
     ทายอะไรก็ได้ให้มันแหวกๆชาวบ้านไว้ก่อน
     เกิดฟลุ๊กมีสิทธิถูกก็ได้ดังกันมั่งละฟ่ะ
     นี่หมออะไรเฟิร์มๆคนที่ถูกแม่ลิเดียฟ้อง
     คงได้เป็นตัวอย่างที่ดีของการซี้ซั๊วทายซี้ซั๊วพูดกันมั่งละัน๊า...

[...]

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องดีๆ

น้องหนู Connie ก็ amazing ไม่แพ้กันเลย http://www.youtube.com/watch?v=QWNoiVrJDsE

[Basketman]

เรื่องราวดีๆต่อจาก Dick and Rick Hoyt เลยนะนี่
ไว้เปิดดูตอนพลังชีวิตอ่อนๆ ....
ขอบคุณครับ  :o

[กูรูขอบสนาม]

[quote="por_jai"] ผมก็ได้ดูเทปรายการนี้เช่นกัน

[por_jai]

และถึงจะเปรียบเทียบกันจะจะ
ทางเพลงของ Potts ก็คงแตกต่างจาก Pavorrati
นุ่มและหวานกว่า ไม่ดุดัน เข้ม กร้าวเท่า  

ผมไม่ใคร่ชอบpavarottiเท่าไหร่
แม้ยอมรับว่าแกยอด
แต่ทางเพลงไปทางดุ
คงชอบพี่พอลศักดิ์นี่แหละครับ
เหมือนศรกับขุนอิน
ผมก็ชอบศรมากกว่า
แม้ยอมรับว่าขุนอินนั้นไม่ธรรมดา
จริตใครจริตมัน
ผมบังคับใครไม่ได้
ใครก็บังคับผมไม่ได้เหมือนกานน...

[ปรัชญา]

ใครคนนั้นผู้ไม่ท้อแท้ น้อยใจโชคชะตา ดำเนินรอยความฝันของตัวเองอยู่ในโลกเงียบๆ  

แถวนี้  ชอบ  ชอบ

[กล้วยไม้ขาว]

ชอบมากครับ

ฟังไม่รู้ความหมายยังรู้สึกถึงอารมณ์เำพลงเลยครับ ยอดมาก

[ปุย]

สุดยอดครับผม มาชอบอีกคน

ได้มารู้เรื่องราว แล้วทึ่งพี่แกจริงๆ
ชอบ simon + กรรมการ ถึงกับเหวอทีเดียว

ขอบคุณ พี่กูรู จริงๆ ที่สรรหาเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้ฟัง

[ก้อนหิน]

ขอบคุณพี่ กูรู ที่เอาเรื่องราวดีดีมาแบ่งปันอีกเช่นเคยครับ

ถึงแม้ผมจะไม่เคยฟัง Opera มาก่อนเลย
แต่ เข้าไปฟังนี่ ขนลุกไปสองสามรอบเลยครับ สุดยอดจริงๆเลยครับ

[equalizer]

I saw this topic in Pantip, Writer room.

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic ... 86161.html

It has been voted the most reading consensus of this early week.
Congratulations.
I agree with the conclusion left mentioned :

The world is brighten up with a small person's deed.

Sorry I cannot  type Thai.

[กูรูขอบสนาม]

ขอบคุณคุณ Equalizer ที่ไปอ่านถึงพันทิป
ปกติเวลาโพสบทความจะโพส 2 ที่
คือที่นี่ และ ห้องนักเขียน พันทิป
ซึ่งจะมีคนอ่านอีกจำนวนหนึ่ง
แล้วค่อยเก็บเข้าบล็อกตัวเอง

ปกติห้องนักเขียน พันทิป จะมีแต่นิยายรักหวานแหวว
เจอเรื่องจริงผ่านจอก็เลยฮือฮาเล็กน้อย

[ก้อนหิน]

http://www.youtube.com/watch?v=9lp0IWv8 ... r_embedded


เทียบกับ ของปี 2009 นี่ใครเจ๋งกว่ากันนี่ครับ

[กูรูขอบสนาม]

สองสามวันนี้รู้สึกตื้อๆหดหู่กับหลายๆเรื่อง
จับจ้องแต่ข่าวสาร ทีวี อินเตอร์เน็ท
จนดูเหมือนจะเสพติดความระทึกไปเสียแล้ว

มีปิยมิตรนอกเวปส่งลิงค์อันนี้มาให้
ดูเสร็จ อืมม์....
โลกก็ยังหมุนเหมือนเดิม
อาจจะมีรอยขุ่นหมอง ชอกช้ำ
เวลาจะค่อยๆเยียวยาด้วยตัวมันเอง

เชิญทัศนากันก่อน
เดี๋ยวค่อยมาใส่รายละเอียดทีหลัง

รับรองว่าโลกของเพื่อนๆก็ยังหมุนไปด้วยดี เช่นกัน:lol:

อ้าว เพิ่งเห็นกระทู้น้องก้อนหิน
แจมเข้ามาพอดี

Susan Boyle

[กูรูขอบสนาม]

รู้สึก ลิงค์ของน้องก้อนหิน เปิดดูได้เร็วกว่าที่กูรูทำเน้อ
ไม่ค่อยตะกุกตะกัก ให้เสียอารมณ์    

ก่อนจะเล่าเรื่องคุณป้า Susan Boyle
มหัศจรรย์บันทึกของเรางวดนี้
มารู้จักคำร้องและเนื้อเพลงของเธอก่อน
จะช่วยให้เราๆท่านๆเข้าถึงความหมาย
และเข้าใจว่าทำไมคุณป้าถึงเลือกมาร้องในการสกรีนคัดเลือกรอบแรก
ของ Reality Show " Britain Got Talent 2009"
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง

I dreamed a dream
เป็นเพลงเพราะในละครเวทีชื่อดังคือ Les Miserables
แปลงมาจากบทประพันธ์ชื่อเดียวของนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสคือ Victor Hugo
บทประพันธ์นวนิยายเรื่องนี้มีแปลเป็นไทยโดย"จูเลียต"
(นามปากกาของ ชนิด สายประดิษฐ์ ภรรยาศรีบูรพา)
ในชื่อ "เหยืออธรรม"  
กูรูเคยเล่าไว้ในบางกระทู้บ้างแล้ว

ใครคือผู้ล่า ใครคือผู้ไล่ล่า และใครคือเหยื่ออธรรม
เนื้อเรื่องกล่าวถึง ฌอง วาล ฌอง
นักโทษแดนประหารคนหนึ่งที่หนีออกจากคุกด้วยคดีอุกฉกรรจ์
ระหว่างทางมาพานพบบาทหลวงรูปหนึ่งในโบสถ์ชนบท
ด้วยความเมตตากรุณาจากบาทหลวง
นักโทษตนนั้นก็รู้สำนึกกลับตัวเป็นคนดี  
เริ่มต้นชีวิตใหม่ ขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ จนมีฐานะร่ำรวย
ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่ผู้อารี
เพราะประกอบกิจกุศลช่วยเหลือคนยากจนเสมอ

แต่อดีตอันแปดเปื้อนมลทินของฌอง วาล ฌอง
ก็ยังถูกไล่ล่าตามจากตำรวจที่เกาะติดคดีไม่ลดละ
ต่อให้ฟอกตัวขาวสะอาดเป็นนักบุญคนดีแค่ไหน  
โทษมหันต์ครั้งเก่าก่อนก็มิอาจลบเลือนได้
จึงเกิดการรุกฆาตล่าข้ามแผ่นดิน
ผ่านหัวเลี้ยวหัวต่อของขบวนการปฏิวัติสาธารณรัฐฝรั่งเศส   ปี 1848

ในบทประพันธ์เรื่องนี้เอง มีตัวละครหญิงคนหนึ่งแสนอาอัพนัก
เธอคือหญิงสาวบ้านนอกชาวฝรั่งเศสชื่อว่า ฟอนทีน(Fantine)
ประสบพบรักกับหนุ่มนักศึกษาในเมืองหลวง จนตั้งครรภ์
เธฮมีความฝัน ความหวังเฉกเช่นสาวรุ่นที่อยากมีชีวิตที่ดีกว่ากับคนที่ตนรัก
หากก็ถูกปฏิเสธโดยไร้เยื่อใย  ด้วยฐานะบรรดาศักดิ์ที่ต่ำต้อย
ฟองทีนคลอดบุตรสาวออกมา ต้องจ้างคนอื่นเลี้ยง
ตัวเองเตร็จเตร่ทำงานโรงงานเจือจุนรายได้แต่ละวันพอเพียงแค่นมลูก
เมื่อนายจ้างรู้ว่าเธอเป็นแม่ลูกอ่อน ก็ถูกขับไสไล่ส่ง
จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขายผมและฟันเอามาแลกเงินเป็นค่านมลูก
ท้ายสุดก็ต้องจำใจสู่อาชีพโสเภณี
และก็ตายเพราะติดเชื้อ

ก่อนตาย เธอมีโอกาสพบกับฌอง วาล ฌอง
พระเอกของเรื่องซึ่งตอนนี้กลายเป็นเจ้าเมือง
พร้อมฝากฝังลูกสาวคนเดียวให้เลี้ยงดู

เอาล่ะ เรามาฟังความฝันของฟองทีน ก่อนสิ้นลมหายใจ

[กูรูขอบสนาม]

[FANTINE]

There was a time when men were kind
When their voices were soft
And their words inviting
There was a time when love was blind
And the world was a song
And the song was exciting
There was a time
Then it all went wrong

I dreamed a dream in time gone by
When hope was high
And life worth living
I dreamed that love would never die
I dreamed that God would be forgiving
Then I was young and unafraid
And dreams were made and used and wasted
There was no ransom to be paid
No song unsung, no wine untasted

But the tigers come at night
With their voices soft as thunder
As they tear your hope apart
And they turn your dream to shame

He slept a summer by my side
He filled my days with endless wonder
He took my childhood in his stride
But he was gone when autumn came

And still I dream he'll come to me
That we will live the years together
But there are dreams that cannot be
And there are storms we cannot weather

I had a dream my life would be
So different from this hell I'm living
So different now from what it seemed
Now life has killed the dream I dreamed.

เพื่อนๆเก่งๆจินตนาการกันได้ไกล คงไม่ต้องแปล

[กูรูขอบสนาม]

ทีนี้ มาดูเรื่องราวของคุณป้าซูซานคนนี้ซิ

Susan Boyle อายุ 47 ปี
หน้าตา ท่าทาง กิริยาแสนจะบ้านมากๆ
ไม่เคยมีเดทกับใคร ไม่เคยถูกใครจูบ (โอ้ ช่างน่าอายจริง เธอพูด)
ไม่มีงานทำ อยู่บ้านกับแมวที่รัก
หลังจากเสียคุณแม่ไปเมื่อสองปีที่แล้ว
เคยเป็นนักร้องในโบสถ์ร้องคอรัสและคาราโอเกะ
ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

ความฝันในเวทีนี้น่ะหรือ ก้อเงินไง
แหม..แต่จะเผยโต้งๆไปก็น่าเกลียด
ก็เลยออกมาในรูปประโยคที่สวยงามว่า
มาขอโอกาสเพื่อเปลี่ยนทางเดินชีวิตใหม่
อยากจะฝันไกลไปให้ถึงนักร้องมืออาชีพระดับ เอเลน เพจ (Elaine Paige)
ถึงตอนนี้ ภาพตัดหน้าเด็กสาวคนหนึ่งที่ทำหน้าเบ้หมดหวัง

(เอเลน เพจ เป็นนักร้องนักแสดงหญิงชาวอังกฤษผู้แสนโด่งดัง
ด้วยเสียงร้องหวานซึ้งอันทรงพลังจากละครเวที
ทั้ง Cat , Evita , Jesus Christ Superstar, Grease
จนได้รับการขนานเกียรติยศว่าเป็น The First Lady of British Musical Theatre
ออกอัลบัมเพลงเงินล้าน รับรางวัลสารพัดโดยเฉพาะเพลงประจำตัวจากละครเรื่อง Chess
I know him so well
http://www.youtube.com/watch?v=z2IkLGFiKx0
ตอนนี้เวปเพจของเธอก็พลอยดังไปด้วย
เพราะผู้คนอยากรู้ว่าเธอโชว์พาวแค่ไหน
ป้าซูซานถึงอยากจะโชว์พาวตาม)


ด้วยหน้าตาแสนจะเฉิ่มเชย  รูปร่างก็หนาเทอะทะ  มือไม้ลุกลน
ออกจะไฮเปอร์อยู่ไม่สุข กล้าต่อปากต่อคำ
ทำให้ไม่มีใครคิดว่ายัยป้านี้น่ะเหรอจะเทียบรอยเท้าของเอเลน เพจ
ชาติหน้าตอนบ่ายๆละมั้ง

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ บนเวทีที่ชอบ Reverse the Unexpected
สิ้นเสียงร้องประโยคแรกของเนื้อเพลง I dreamed a dream
ทั้งเวทีก็ลุกขึ้นร้องกรี๊ด
อา..อีกคนแล้วไง  ดาวดวงใหม่(ใหญ่เบอเร้อเบอร่า)ของเกาะอังกฤษ
ปล่อยให้เธอร้องจนจบ ท่ามกลางเสียงเชียร์เป็นระยะ
แม้แต่ตัวกรรมการเองก็ลุ้นไปด้วย
จนในที่สุดป้าซูซานก็เข้ารอบปราศจากข้อกังขา  :8)
นี่ขนาดแค่รอบคัดเลือกเท่านั้นนะ
แต่เร็ทติ้งของรายการ อู้หู้ ติดกันงอมแงมทั้งอังกฤษและอเมริกาเชียวกัน
ว่ากันว่า Demi Moor ดารามะกันที่นั่งดูรายการนี้ถึงกับน้ำตาซึม
เช่นเดียวกับคนอีกค่อนโลกที่ติด Reality Show งอมแงม

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่า ป้า Never Been Kissed
จะต้องเข้าสู่รอบสอง รอบสาม ดันเร็ทติ้งให้ดังระเบิดขึ้นอีก
เฉพาะแค่วีดืโอคลิปซึ่งโพสหลังจากออดิชั่นเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา
ถึงวันนี้เปิดกันดูเกือบ 10 ล้านครั้งแล้วกระมัง

ส่วนหน้าตากระเร้อกะรังของป้าน่ะหรือ  
คอยดูซิ ถ้าผ่านเข้ารอบลึกๆเมื่อไหร่
Dame ดังๆ ไฮโซทั้งหลายน่ะ ชิดซ้ายไปได้เลย
เพราะ Dame คนใหม่ชื่อ Susan Boyle
จะส่องบารมีรัศมีกลบทุก Dame บนเกาะเลย
เชื่อหัวกูรูซิ

เอา ขอแปะหน้าเธอรอบคัดเลือกตอนนี้ไว้ก่อน
หากเธอคว้าตำแหน่งได้ เอารูปของป้าผู้มีชัยมาเทียบอีกที

[Quantum of Solace]

ทึ่งอีกคนแล้วครับ

นี่คือ รอบคัดเลือกรอบแรก หรือว่ามีการ screen มาก่อนขึ้นเวทีครับ
ประมาณว่า รู้แล้วว่าคนนี้เจ๋ง  แต่เอามาทำเซอะๆเซิงๆ หน่อย

ปล. link พี่กูรู กะน้องก้อนหิน มันเป็น clip เดียวกันเลยนี่ครับ

[โค]

โอ๊ย ชอบหลาย

ผมหาชื่อเพลงที่นายพอลศักดิ์ ( ชื่อแบบพี่พอใจ  :lol:  ) นี่ร้องมานานมากแล้วครับ ฟังที่ไรขนลุกน้ำตาไหลทุกที

เป็นเพลงประกอบหนังเยอะมาก ขอบคุณพี่กูรูมากเดี๋ยวไปหามาฟัง

ฟังคลิปของนายพอลศักดิ์นี่แล้วนึกถึงหนังเรื่อง Shawshank redemption ตอนที่พระเอก เขาไปเปิดเพลงโอเปร่า แล้ว Morgan freeman

บอกว่า เขาฟังไม่รู้เรื่องหรอก ว่าผู้หญิงคนนั้นร้องภาษาอิตาเลียนว่ายังไง แต่ฟังแล้ว เหมือนจิตใจเขาบินออกไปไกลแล้ว ประมาณนั้น  :D

เหมือนผมตอนฟัง พอลศักดิเป๊เลย  :lol:

[por_jai]

คนเชื่อเรื่อง ฟ้าลิขิต อย่างผมดูป้าร้องเพลงแล้วก็ได้แต่ยิ่งเชื่อคำๆนี้

ชอบป้าซมซานไม่น้อยกว่าป๋าพอลศักดิ์เลยคับ

[กูรูขอบสนาม]

เขียนมาตั้งนาน ยังไม่ได้ตั้งฉายาคุณป้าซูซานเลย
เอาเป็นว่า

ซูซาน บอยล์  :  ผู้หญิงที่ไม่เคยถูกจูบมาชั่วชีวิต

เอ แต่ถ้าถึงต้องนี้ อาจจะต้องเปลี่ยนฉายาเสียล่ะ
เพราะอิทธิพลของยูทูปนั่นเอง
ถ้าคลิปพี่ยูเปรียบเสมือนรอยจูบที่ฝากไว้ในแต่ละครั้ง
ป่านนี้แก้มคุณป้าคงชอกช้ำด้วยรอบจูบหนัก จูบเบาเกือบ 30 ล้านครั้ง
และคิดจะเพิ่มมากขึ้นๆทุกวัน
ทำสถิติลบคลิปของพอล พอทท์เดิมโดยสิ้นเชิง

[กูรูขอบสนาม]

ยิ่งดังก็ยิ่งมีการขุดประวัติคุณป้ามาบอกกล่าว
ปรากฏว่า ป้าซูซานหัดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 12 ปี
เป็นนักร้องอาสาสมัครในโบสถ์บ้านเกิด
แถมเคยมีอัลบั้มเพลงของตัวเองแล้วนะ
แต่เป็นอัลบั้มการกุศล ผลิตแค่ 1000 เพลง
ลองฟังเสียงของเธอในคลิปนี้
Cry Me A River
โหยหวนถึงอารมณ์จริงๆ ไม่แพ้ต้นฉบับ

http://www.youtube.com/watch?v=P8r9lRJ6yHY

เมื่อเทียบกับพอล พอทท์ Mr.Simple Man ที่กูรูเคยเล่าไว้ก่อนหน้า
จะเห็นว่าทีท่า ท่วงทำนองของการออกมายืนร้องเพลงจะแตกต่างกันมาก
ขณะที่พอลจะประหม่าอาย ไม่มั่นใจ
ดูน่าสงสารนิดๆ จึงได้แรงเชียร์เต็มๆ เมื่อเขาจบเพลง
ทำให้พวกเราคนดูก็พลอยเห็นใจและลุ้นไปด้วย

แต่สำหรับคุณป้าผู้ไม่เคยถูกจูบ
เธอมาด้วยมาดที่มั่นใจทั้งๆที่บุคลิกท่าทางออกจะไฮเปอร์นิดๆ
(แต่มาดูหลังเวที เธอเองก็ตื่นเต้นพอสมควร)
คนดูก็เลยเหรอ เออเฮอ เมื่อเห็นเธอเดินฉับๆมาบนเวที
และมีอคตินิดๆ เมื่อเจ้าตัวบอกว่าอยากจะเป็นนักร้องมืออาชีพแบบเอเลน เพจ
เท่ากับคุณป้าสร้างเขื่อนอคติ ไว้ 2 เด้ง
เด้งแรกคือหน้าตา กิริยา
เด้งสอง คือ อาจหาญเปรียบเทียบตัวเองกับนักร้องคนดัง(ได้อย่างไร)

แต่เพราะพลังความมั่นใจของคุณป้านี่เอง
ที่แรงพอจะทำลายทำนบเขื่อน(อคติ)จนพังทลาย
กระแสเสียงเชี่ยวกรากพอที่จะไหลท่วมเข้าไปในโสตประสาทของคนฟัง
แล้วก็ตรึงไว้ ณ วินาทีนั้น

ถึงตอนนี้ ไม่ต้องรอให้จบการแข่งขันหรอก
บริษัทแผ่นเสียงหลายสำนักจ่อคิวรอให้เธอเซ็นสัญญาเต็มไปหมด
ไม่นับถึงบรรดารายการโทรทัศน์ ทอลค์โชว์ใหญ่ๆโตๆที่ชิงคุณป้ามาออกรายการ
รวมถึงรายการของคุณปู่ แลรี่ คิงส์/ และคุณป้า(เหมือนกัน)โอฟรา วินเฟรย์

นี่แหละคือตัวอย่างชัดๆของ Overnight Success
เมื่อวานซมซาน  วันนี้ซูซ่า  

[por_jai]

วันนี้รายการผู้ยิ๊ง ผู้หญิง(รึเปล่าหว่า)ทางช่อง3
     ก็นำคลิปยูทิ๊วบ์ของป้า มาแนะนำ

[f.escape]

วันก่อนก็มีช่องนึงออกในช่วงข่าวค่ะ
พอเข้ากระทู้นี้เลยได้ฟังเต็มๆ
สุดยอด

[bioman99]

เสียงสุดยอดจริงๆครับ ขนลุกเลย

[Quantum of Solace]

[quote="Quantum of Solace"]ทึ่งอีกคนแล้วครับ

นี่คือ รอบคัดเลือกรอบแรก หรือว่ามีการ screen มาก่อนขึ้นเวทีครับ
ประมาณว่า รู้แล้วว่าคนนี้เจ๋ง