ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับวินิจฉัย ซุกหุ้นนายก

[WaveRider965]

คุณ MisterK ตีความหมายของข้อความอย่างไรหรือ?

[ครรชิต ไพศาล]

เพราะฉนั้น เมื่อจิตใจของคนเรา โตไปพร้อมกับร่างกาย
เราย่อมได้เรียนรู้ว่า อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ให้เป็นไปดังใจเราเองไปทุกอย่าง

สังคมโลก ได้ผ่านการทดลองรูปแบบ การปกครองแบบต่างๆ มาหลายยุค
ทุกรูปแบบก็มีการขัดแย้ง ฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงอำนาจ มากมาย

เพื่อลดการรบราฆ่าฟันกัน
จึงคิด ระบบประชาธิปไตย ที่ถือหลักเสียงข้างมาก ขึ้นมาก
เพื่ออยู่กันด้วยความสงบ เพื่อการเปลี่ยนแปลงถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ

[ครรชิต ไพศาล]

สมัยอยุธยา ยุคราชาธิปไตย
เวลาเขาเปลี่ยนถ่ายอำนาจกัน เปลี่ยนราชวงศ์กัน
เพื่อให้หมดความเห็นขัดแย้ง เพื่อให้หมดเสี่ยนหนามของแผ่นดิน
เขาต้อง ฆ่าล้างโคตรกันเลย ซึ่งเป็นการโหดร้ายมาก น่าเศร้ามาก


มาสมัยนี้ สมัยประชาธิปไตย ดีกว่าสมัยโน้นตั้งเยอะ ยอมๆหยวนๆ กันเถอะ ครับ
เพียงแค่ ยอมรับในกติกาเสียงข้างมาก ในระบบประชาธิปไตย
เพื่อจะได้อยู่กันด้วยความสงบ เพื่อการเปลี่ยนแปลงถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ

แผ่นดินจะได้ไม่เกิด กลียุค

[WaveRider965]

นั่นสิ เราก็พออยู่พอกิน
ใครจะร่ำจะรวยอย่างไร ก็เรื่องของเขา
เราเพียงพอแค่นี้ หยวนๆกันไป สบายใจดี

[Jeng]

พี่ครรชิตครับ

หรือว่าสนธิ และพรรคพวก พร้อมครู อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และอื่นๆ

เขาประเมิณกันแล้วว่า เขาน่าจะมีเสียงข้างมากกว่านายก ณ เวลานี้

[Supra]

 :roll:

            ยุคประชาธิปไตย  เสียงข้างเงินมาก.......

[ครรชิต ไพศาล]

พี่ครรชิตครับ

หรือว่าสนธิ และพรรคพวก พร้อมครู อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และอื่นๆ

เขาประเมิณกันแล้วว่า เขาน่าจะมีเสียงข้างมากกว่านายก ณ เวลานี้

อาจเป็นได้ ครับ เขาอาจคิดว่า เขาสามารถหาเสียงได้มากกว่ารัฐบาล
แต่ก็ขอให้ ชุนนุนประท้วง กันโดยสงบสันติ
เอาเหตุเอาผลมาอธิบายให้ประชาชนฟัง ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศ  
ต่างชาติจะได้เห็นว่าเราเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตย ที่เจริญแล้ว ไม่ป่าเถื่อน
อย่าเอาแต่ด่า ฝ่ายตรงข้ามแบบหยาบๆคายๆ ไม่ดีเลย

ยิ่งคุณสนธิ ใช้คำด่า นายก หยาบๆคายๆ มากเข้า มากเข้า
แล้วนายกเฉยเสีย ใช้วิธี เขาด่ามา ก็ไม่ด่าตอบ ชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ  
นานๆเข้า คุณสนธิระวังนะ คะแนนสงสาร จากแม่ยกจากคนดู จะไหลกลับ ไปหานายก  :lol:


การยื่นเรื่องของนักศึกษา ให้อภิปรายนายก ในสภา ก็ดีเหมือนกัน ครับ
จะได้ให้โอกาส ฝ่ายค้านได้ระบายความอัดอั้นในสภา เสียบ้างจะได้เบาตัว
แต่ก็คงไม่มีผลอะไรต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเสียงมากกว่าอยู่แล้ว

[เพื่อน]

พี่ครรชิต เขียน:

มาสมัยนี้ สมัยประชาธิปไตย ดีกว่าสมัยโน้นตั้งเยอะ ยอมๆหยวนๆ กันเถอะ ครับ
เพียงแค่ ยอมรับในกติกาเสียงข้างมาก ในระบบประชาธิปไตย
เพื่อจะได้อยู่กันด้วยความสงบ เพื่อการเปลี่ยนแปลงถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ

แผ่นดินจะได้ไม่เกิด กลียุค

โดยความเคารพครับพี่ครรชิต
ผมเองก็คิดวิธีอื่นไม่ออกครับ ว่าจะใช้วิธีไหนถ้าไม่ใช้ระบบเสียงข้างมาก ในเมื่อเราก็ไม่สามารถคัดเลือกคุณภาพของผู้ออกเสียงได้และมีความคิดหลากหลายในปัจจุบัน.....ผมเห็นว่าวิธีนี้ดีที่สุดเช่นกันครับ แต่ต้องอยู่บนกติกาที่ยุติธรรมด้วยครับ และขอเน้นว่าต้องสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้เอาเปรียบกัน

ความสำคัญจึงมาตกอยู่ที่กติกาที่ใช้ควบคุมมากกว่าครับว่ามีความยุติธรรมแค่ไหน....ต้องมาช่วยกันคิดที่ส่วนนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนา และต้องช่วยกันดูแลกติกาให้ดีอย่าให้ใครเอาไปใช้เป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์ส่วนตัวและเอาเปรียบคนอื่นได้ครับ

.....แบบที่พี่ยกตัวอย่างเด็กเล็กผมก็เห็นด้วย แต่ยังมีมุมมองที่เด็กจะเลียนแบบผู้ใหญ่ที่เค้าชื่นชอบด้วยครับที่เป็นตัวกั้นการพัฒนาในทางที่ดี....ถ้าเค้าอยู่กับครอบครัวที่ดี พ่อแม่เป็นคนซื่อตรง ย่อมมีโอกาสเรียนรู้และจะโตขึ้นมาเป็นคนดีมีคุณภาพมากกว่าอยู่กับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่คดโกงเอาเปรียบเป็นตัวอย่างให้เค้าเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปใครๆก็ทำกันเพื่อให้ตัวเองรวย

.....มองในมุมของพี่ก็ถูกต้องครับ แต่ขอเพิ่มมุมมองส่วนของผมเข้าไปร่วมด้วยอีกสัก1ส่วนพอจะอนุญาติได้มั้ยครับ ผมว่าน่าจะช่วยในด้านสร้างสรรค์นะครับ....แล้วมาหาวิธีกันต่อว่าจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้น

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ความสำคัญจึงมาตกอยู่ที่กติกาที่ใช้ควบคุมมากกว่าครับว่ามีความยุติธรรมแค่ไหน....ต้องมาช่วยกันคิดที่ส่วนนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนา และต้องช่วยกันดูแลกติกาให้ดีอย่าให้ใครเอาไปใช้เป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์ส่วนตัวและเอาเปรียบคนอื่นได้ครับ 

1. ยกเลิกการล่ารายชื่อ 50000 ชื่อ เพราะเป็นต้นเหตุของการประท้วง ไม่พอใจอะไรก็ล่ารายชื่อ

2. เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ โดยแค่มีฝ่ายค้าน 1 เสียงก็ยื่นอภิปรายได้ ทุก 3 เดือน ปีนึง อภิปรายได้ 4 รอบ ทำให้ เกิดการถ่วงดุลอำนาจ

ถ้าทำไม่ดี แล้วยังไม่มีหลักฐานถึงขั้นผิด ติด คุก แต่ประชาชนก็สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้

[เพื่อน]

ข้อ1. ผมไม่ค่อยแน่ใจครับคุณเจ๋ง....สำหรับคนที่อัดอั้นมากๆอาจจะเป็นการดีกว่าก็ได้ที่มีพื้นที่ในการระบายออกด้วยการลงชื่อ ดีกว่าไปทำวิธีอื่นที่เสี่ยงกว่า และเป็นการเช็คโพลล์ไปในตัวเพื่อวัดคะแนนิยมด้วย

อันที่จริงผมว่ารายชื่อถึงจะได้เป็นแสนก็ยังทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ครับ เพราะยังมีขั้นตอนเตะถ่วงตรวจสอบอีกมาก และคิดว่าไม่ผ่านง่ายๆ(หาข้ออ้างได้อีกเยอะครับ...เรื่องแค่นี้)ยังไงผมก็ว่าจะไปร่วมลงชื่อด้วยนะครับเพื่อเป็นการวัดผลเฉยๆไม่ได้หวังว่าจะปลดเค้าได้จริงๆหรอกครับ

แต่ที่คุณเจ๋งกังวลเรื่องอาจกลายเป็นการกลั่นแกล้งหรือชักจูงกันก็น่าคิดและเป็นไปได้ครับครับ

ข้อ2. เห็นด้วยครับ ที่จริงน่าจะจัดให้มีการเปิดอภิปรายเป็นทุกไตรมาสไปเลยครับไตรมาสละ1ครั้ง เป็นการคอยตรวจสอบความผิดปรกติและประเมิณผลไปด้วยในตัว

ตัวอย่างงานก่อสร้างอาคารยังต้องมีการประชุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ1ครั้งเลยครับเพื่อตรวจสอบผลงาน การทำงานของผู้รับเหมา ติดตามประเมิณผลงาน และแก้ใขอุปสรรคที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น เพราะบางอย่างถ้าคิดเองทำพลาดเองมันไม่สามารถแก้ใขคืนได้เลยนะครับไม่ว่าจะตั้งใจหรือพลาดพลั้งทำไป งานแบบนี้ถือว่ามีความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับการบริหารบ้านเมือง ยังมีขั้นตอนรัดกุมขนาดนี้เลยครับเพราะผลเสียหายมันสามารถก่อตัวขึ้นได้รอบด้าน แล้วทำไมเราจะไม่หาวิธีตรวจสอบประเมิณผลงานของรัฐเป็นช่วงๆบ้างหละครับ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกันทัน(ถ้าเค้ารับฟังนะ)

[โอ@]

ปกติเ้ค้าอภิปรายกันกี่วันหรอครับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ข้อ1. ผมไม่ค่อยแน่ใจครับคุณเจ๋ง....สำหรับคนที่อัดอั้นมากๆอาจจะเป็นการดีกว่าก็ได้ที่มีพื้นที่ในการระบายออกด้วยการลงชื่อ ดีกว่าไปทำวิธีอื่นที่เสี่ยงกว่า และเป็นการเช็คโพลล์ไปในตัวเพื่อวัดคะแนนิยมด้วย 

อันที่จริงผมว่ารายชื่อถึงจะได้เป็นแสนก็ยังทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ครับ เพราะยังมีขั้นตอนเตะถ่วงตรวจสอบอีกมาก และคิดว่าไม่ผ่านง่ายๆ(หาข้ออ้างได้อีกเยอะครับ...เรื่องแค่นี้)ยังไงผมก็ว่าจะไปร่วมลงชื่อด้วยนะครับเพื่อเป็นการวัดผลเฉยๆไม่ได้หวังว่าจะปลดเค้าได้จริงๆหรอกครับ 

แต่ที่คุณเจ๋งกังวลเรื่องอาจกลายเป็นการกลั่นแกล้งหรือชักจูงกันก็น่าคิดและเป็นไปได้ครับครับ 

ลองคิดดูนะครับ มีคนเลือก 19 ล้านเสียง สมมุติมีคนไม่เลือก ไม่เห็นด้วย 7 ล้านเสียง

การล่ารายชื่อ 50000  จะเช็คอะไรได้ครับ ล่ายังไงก้ได้อยู่แล้ว

[ShexShy]

http://www.thaimisc.com/freewebboard/ph ... uthaprajan

ต้องดูว่าอีกทางนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

ผมขอให้ครบในเร็ววัน จะได้มีอีก หนึ่งช่องทางในการตรวจสอบ

[bsk(มหาชน)]

[quote="bsk(มหาชน)"]ประเด็นของมูลฟ้อง หากหลักฐานชัดเจนก็คงใช้กระบวนการทางศาลทั่วไป

แต่หากหลักฐานไม่ชัดเจน เพียงแต่เชื่อว่ามีมูล และให้สงสัยว่าจะคาบเกี่ยวทับซ้อนกับการบริหารราชการแผ่นดิน อันอาจจะเกิดความเสียหายได้

[ครรชิต ไพศาล]

คำว่า ยอมๆหยวนๆ หรือ ประนีประนอม ให้เป็นไปตามกฏกติกาสังคม
แม้จะไม่ตรงกับความคิดของตัวเองนั้น
ย่อมเป็นคุณสมบัติเบื่องต้นของนักประชาธิปไตย

แต่ว่า คนที่มีนิสัย ยึดมั่นถือมั่นในแนวความคิดของตัวเอง
ไม่ยอมก้มหัวให้กับสังคมที่ไม่ตรงกับแนวความคิดของตัวเอง ตายเป็นตาย นั้น
เรามักจะยกย่องและได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ในฐานะนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สามารถสร้างการนองเลือดขึ้นในแผ่นดิน

ถ้าเขาสามารถโน้มน้าวดึงคนไปเข้าข้างเขาได้มาก
เขาก็จะปฏิวัติ ได้สำเร็จด้วยการนองเลือด
จากนั้น ด้วยความที่เป็นคนที่มีนิสัย ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง
เขาผู้ได้อำนาจมาด้วยการปฏิวัตินองเลือดขึ้นในแผ่นดิน
ก็จะเริ่มยึดทรัพย์และฆ่าเพื่อกำจัด คนที่มีความคิดไม่ตรงกับตัวเอง ให้หมดไปจากแผ่นดิน
(เห็นคุณสนธิ ประกาศไว้แล้วใช่ไหมครับ จะต้อง ยึดทรัพย์และกำจัด นายกทักษิณ  :lol: )

ตัวอย่างบุคคลที่เป็นอย่างนี้และประสบความสำเร็จในการปฏิวัติ
เช่น เลนิน,สตาลิน,เหมาเจ๋อตุง,ฟิเดล คาสโตร,พอลพต

ส่วนผู้นักปฏิวัติที่ไม่สำเร็จ ก็มักจะยอมตายที่ชายป่า ให้ประว้ติศาสตร์ได้จารึกนาม
ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้กับสังคมที่ไม่ตรงกับแนวความคิดของตัวเอง ตายเป็นตาย นั้น
เช่น เชกูวารา ,จิต ภมิศักดิ์

เราไม่อยากเห็นสังคมไทย ที่มีความแตกแยกกัน
ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง สู้กันแบบหัวชนฝา แบบตายเป็นตาย

เราอยากเห็นสังคมไทย ที่มีความคิดความเห็นที่แตกต่างกันได้
อยู่กันได้ด้วยการประนีประนอบ ยอมรับในกติกาสังคม
ที่ได้ร่วมตั้งกันขึ้นมา ด้วยความสุขสงบ ชั่วนิรันดร

[ครรชิต ไพศาล]

ถ้าหากมีหลักฐาน การทุจริต ประพฤติมิชอบในวงราชการ จริง
ก็ต้องฟ้องเอาผิดเอาโทษ ทางอาญา กันให้ถึงที่สุด

ไม่ใช่เที่ยวกล่าวหากันลอยๆ แล้วเอาไปเที่ยวโพนทะนาข้างถนน
ให้เขาเสียหายทางการเมือง ให้บ้านเมืองวุ่นวาย

[WaveRider965]

ถูกต้อง มาเที่ยวโพทะนาข้างถนน หนวกหู
ทำให้เสียบรรยากาศการลงทุน
ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไร้ระเบียบ

หาหลักฐานไม่ได้ ใบเสร็จไม่มี ก็เอาแต่ความรู้สึกมาพูด
หามาตราฐาน หากติกาไม่ได้ จะตัดสินเอาแต่ใจได้อย่างไร

กลับบ้านอย่างสงบ ก้มหน้าก้มตาหาเงิน
พออยู่พอกิน ไม่เดือดร้อน ไม่ดีกว่าหรือ

 


เต่านอกกะลา ... เริงร่าในทุนนิยม (2)

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ถูกต้อง มาเที่ยวโพทะนาข้างถนน หนวกหู 
ทำให้เสียบรรยากาศการลงทุน 
ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไร้ระเบียบ 

เอาอีกแล้ว ว่าคนอื่นอีกแล้ว

เดี๋ยวอีกฝ่าย เค๊า ด่ากลับ ว่า เห็นหลักฐานจะๆ แล้ว ขนาดไปเกาะบริติช เวอร์จิ้นแล้ว

ยังไม่รู้เรื่องอีก

เหอๆ

[WaveRider965]

เดี๋ยวอีกฝ่าย เค๊า ด่ากลับ ว่า เห็นหลักฐานจะๆ แล้ว ขนาดไปเกาะบริติช เวอร์จิ้นแล้ว

นี่ก็ทำไปทำมา บริษัทในไทย เขาไปอยู่โน้นกันตั้งแยะ
ทำไมชินฯไปแล้วมีปัญหา เห็นว่า PTT ก็มีด้วยเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด
เป็นเทคนิคของการค้าการขาย ต้องศึกษากันให้ดี เผื่อจะมีประโยชน์ไว้ใช้



เต่านอกกะลา ... เริงร่าในทุนนิยม (4)

[Supra]

 :twisted:  :evil:

           คนเราถ้ามันจะทำอะไรให้บริสุทธิ์ใจไม่คลุมเครือ  ควรหาหลักฐานมาชี้แจงยืนยันที่ชัดเจน.....แม้แต่คำพูดที่เคยพูดไว้ ว่าคนอื่นไว้ แต่พอถึงคราตัวเอง บอกใครๆๆก้อทำ คนแบบนี้จะให้คิดอย่างไรเล่า    :roll:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

นี่ก็ทำไปทำมา บริษัทในไทย เขาไปอยู่โน้นกันตั้งแยะ 
ทำไมชินฯไปแล้วมีปัญหา เห็นว่า PTT ก็มีด้วยเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด 
เป็นเทคนิคของการค้าการขาย ต้องศึกษากันให้ดี เผื่อจะมีประโยชน์ไว้ใช้ 

บริษัทที่ค้าขายในปัจจุบัน เมื่อมีรายได้มาก เพื่อการประหยัด vat เขาก็ซื้อใบเสร็จ เพื่อจ่ายภาษีให้น้อย

ใครๆเขาก็ทำกัน จนกระทั่ง คนไม่ทำ เหมือนคนโง่เลยครับ

การที่ใครๆก็หลีกเลียง ใครๆก็ทำ ไม่ได้แปลว่า มันจะดีนะครับ

เหมือนที่มีการวิจารณ์ว่า ดร.สุวรรณ สอนลูกให้รวย หรือ สอนลูกให้โกง

[Supra]

 

            ผมจะสอนลูกอย่างไรดีครับ   สอนลูกให้รวย หรือ สอนลูกให้โกง  ดีเอย....  :?:  หรือสอนทั้งสองเลย  ขอให้ได้มา ทำอะไรก้อได้ ไม่สนอะไรทั้งนั้น คนไม่ทำคือคนโง่....  :lol:

[WaveRider965]

จะเป็นไรมี ดีไม่ดี ไม่ต้องห่วงถึงในตอนนี้
ศึกษาให้ดี ทำให้ถูกกฏหมายเป็นหลักใหญ่
ปลอดภัยไร้กังวล ศาลก็ต้องเมตตา มีคนทำมากก็ย่อมไร้ข้อครหา
หากไม่ดี กรรมคงจะตามทันเข้าสักวันหนึ่ง จริงมั้ย
เอาไว้ตอนนั้น ค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้ขอก่อนล่ะกัน




เต่านอกกะลา ... เริงร่าในทุนนิยม (๕)

[Jeng]

สมาชิกไทยรักไทยกันเอง ก็ทำหนังสือเรียกร้องให้ออกแล้วนะ

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews ... 0000022537

ทำเป็นหนังสือเลย คงไม่ใช่เรื่องตะโกนข้างถนนแล้วหละ

มีหลายฝ่ายเริ่มทำหนังสือกันใหญ่

[kab256]

ฝากให้อ่านนิดหนึ่งครับ

บทความขนาดยาว (มาก) ชิ้นนี้พยายามอธิบายโครงสร้างดีลการขายหุ้น บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ ให้กับ Temasek Holdings ของรัฐบาลสิงคโปร์ สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับข้อกฎหมาย และกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเทคโอเวอร์บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ความถูกต้องทางกฎหมาย และระดับ ความถูกต้องทางศีลธรรม ของพฤติกรรมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ขายหุ้นในครั้งนี้ ในประเด็นหลักต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม เท่าที่ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2549 และประสบการณ์ในแวดวงการเงินของผู้เขียนทั้งสอง จะเอื้ออำนวย

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาเสนอหรือพิสูจน์ว่าการขายหุ้นครั้งนี้ ไม่ควรทำ เพราะเป็นการ ขายสมบัติชาติ หรือด้วยเหตุผลใกล้เคียงอื่นใด ที่คนไทยจำนวนหนึ่งยึดเป็นสรณะในการต่อต้านรัฐบาลไปแล้ว

ทั้งนี้ เพราะผู้เขียนเชื่อมั่นในประโยชน์ของการเปิดเสรีโทรคมนาคม และเชื่อว่าการขายหุ้นในครั้งนี้เป็นก้าวย่างที่สำคัญของการเปิดเสรี ซึ่งน่าจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของบริการโทรคมนาคม หากการเปิดเสรีนำไปสู่การแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง

ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้น เพราะมีความแคลงใจ และไม่พอใจอย่างมาก ต่อ วิธีการ ที่กลุ่มชินวัตร-ดามาพงศ์ เลือกใช้ในการขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งมีความไม่ชอบมาพากลหลายประการ ที่ผู้อยู่นอกแวดวงการเงินอาจยังไม่ทราบ หรือกำลังสับสนกับการชี้แจงของหลายฝ่าย ว่าอะไรจริง อะไรเท็จกันแน่

ก่อนที่จะอ่านบทความนี้ต่อ กรุณาถามใจคุณเองก่อนว่า คุณคิดว่า:

...ประเด็นเรื่องศีลธรรม คุณธรรม ศักดิ์ศรี และความเหมาะสม เป็นเรื่องล้าสมัย ไม่สำคัญ หรือไม่เกี่ยวกับดีลนี้เลยหรือไม่?

...การที่บุคคลสำคัญระดับนายกรัฐมนตรีของประเทศ ใช้คำว่า ถูกกฎหมาย เป็น คำตอบสุดท้าย และทนายของครอบครัวอ้างว่าไม่มี หน้าที่ ตอบคำถามเกี่ยวกับศีลธรรม โดยเฉพาะเจตนา เลี่ยงภาษี ที่นายกฯ คนนี้ย้ำนักย้ำหนาในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ว่าเป็นพฤติกรรมของ ผู้ไม่รักชาติ นั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องดีแล้วหรือไม่?

...พฤติกรรมการ เลี่ยงภาษีสุดกู่ ของนายกฯ นั้น เข้าข่าย บกพร่องโดยสุจริต หรือเป็นเรื่อง ปกติธรรมดา ที่ ใครๆ เขาก็ทำกัน ฉะนั้นคนที่เรียกร้องให้นายกฯ ทำตัวดีกว่านักธุรกิจทั่วไป ที่หาช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อเลี่ยงภาษีได้ทุกเมื่อนั้น เป็นแค่พวก ช่างตะแบง หรือ ขี้อิจฉา หรือไม่?

ถ้าคำตอบของคุณ ต่อคำถามข้อใดข้อหนึ่งข้างต้นคือ ใช่ แล้วละก็ กรุณาหยุดอ่านบทความนี้ทันที แล้วโยนมันลงถังขยะไปได้เลย

เพราะไม่มีอะไรในนี้ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนทัศนคติ ความเชื่อ หรือความคิดได้

http://www.onopen.com/2006/editor-spaces/334

[kab256]

อีกเรื่องครับ

และแล้วความพยายามในการตรวจสอบนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด้วยกระบวนการ ในรูปแบบ คือผ่านกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ของสมาชิกวุฒิสภาทั้งยี่สิบแปดคนก็มีอันถูก ปิดประตู บานที่สองจากศาลรัฐธรรมนูญให้มีอันกระเด้งกระดอนกลับมา เห่าหอน (ภาษาของท่านนายกฯ) กันข้างถนนหรือตามสวนสาธารณะเหมือนเดิม ด้วยเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งในคำแถลงการณ์ว่า

...การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะต้องทำการไต่สวนตามประเด็นในคำร้องที่มีความชัดเจน ไม่เคลือบคลุมเป็นหลัก แต่โดยที่คำร้องมิได้แสดงให้เห็นได้ว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีเป็นการเข้าไปบริหารจัดการเกี่ยวกับหุ้น หรือกิจการของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนและบริษัทใดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่แจ้งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือแห่งชาติในกรณีที่นายกรัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไป อันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่การพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 ประกอบมาตรา 209 นอกจากนี้ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2546 ข้อ 6 ประกอบข้อ 12 วรรคสอง ซึ่งออกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 269 ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่อาจรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยให้ได้ ...

อย่างไรก็ตามศาลรัฐธรรมนูญยังให้ คำปลอบใจ หยอดไว้หน่อยว่า ...กรณีดังกล่าวไม่กระทบสิทธิของผู้ร้องในฐานะสมาชิกวุฒิสภาที่จะเข้าชื่อร้องต่อประธานวุฒิสภาได้อีก หากปรากฏข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องเพียงพอที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพึงรับไว้วินิจฉัย...

ถ้าเปรียบว่าคดีนี้เสมือนการบ้าน ศาลเป็นนักเรียน ก็กล่าวได้เลยว่า นักเรียนกำลังหนีส่งการบ้าน ด้วยการผลัดผ่ายบ่ายเบี่ยงคุณครูไปว่า ... คราวหน้าถ้าอ่านโจทย์รู้เรื่อง อ่านเข้าใจจะทำส่งให้... (นะจ๊ะ)

แต่นักเรียนจะส่งการบ้านอีกจริงหรือไม่ ? เราต้องมาดู ภูมิหลัง ของนักเรียนคณะนี้กันเป็นสำคัญ

http://www.onopen.com/2006/editor-spaces/334

ผมคิดว่าบทความทั้ง 2 อ่านแล้วเห็นประเด็นชัดเจนครับ
น่าจะทำให้เข้าใจในหลายๆเรื่องๆได้

ปล. ผมได้ยินมาจากเพื่อนของ"บรรณาธิการ open online" ว่า บก. ท่านนี้มีความเห็นขัดแย้งกับแนวทางของรัฐบาค่อนข้างมาก จนมีชื่ออยู่ใน 1 บัญชีดำที่ต้องจับตามองของรัฐบาล เลยทีเดียว ดังนั้นรีบๆไปอ่านกันนะครับ วันดี คืนดี เวปโดนปิดละแย่เลย

[bsk(มหาชน)]

ถ้าหากมีหลักฐาน การทุจริต ประพฤติมิชอบในวงราชการ จริง
ก็ต้องฟ้องเอาผิดเอาโทษ ทางอาญา กันให้ถึงที่สุด

ไม่ใช่เที่ยวกล่าวหากันลอยๆ แล้วเอาไปเที่ยวโพนทะนาข้างถนน
ให้เขาเสียหายทางการเมือง ให้บ้านเมืองวุ่นวาย

เข้าใจว่าขณะนี้ปปช.ยังไม่เกิด ยังอยู่แค่ขั้นคัดเลือกคณะกรรมการสรรหา

และคณะกรรมการสรรหาก็เสนอชื่อเพื่อให้วุฒิสภาพิจารณา จำไม่ผิดก็ 18 ท่าน

แล้ววุฒิสภาก็คัดเลือกเหลือกี่ท่าน 7 หรือ 9 ไม่แน่ใจ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป

ช่องทางตรงนี้ก็ต้องรอไปก่อน ซึ่งไม่ทราบว่านานเท่าใด มีกรอบของระยะเวลาหรือไม่


กรณีที่มีหลักฐานที่เชื่อว่าทุจริตประพฤติมิชอบจริง ชัดเจน

ก็คงจะใช้ช่องทางฟ้องแพ่งหรืออาญาก็ว่ากันไป

กรณีคู่ความมีสถานะเท่าเทียมกันก็ใช้หลักกฎหมายเอกชน และศาลทั่วไป


แต่หากเป็นเอกชนกับรัฐ ก็น่าจะเข้ากับหลักกฎหมายมหาชน

เพราะสถานะของคู่ความไม่เท่าเทียมกัน

ซึ่งสว.ใช้ช่องทางนี้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ประเด็นก็คือศาลรัฐธรรมนูญมีหลักการในการตีความอย่างไร

ตีความแบบแพ่งพาณิชย์อาญาตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัด

หรือตีความตามหลักกฎหมายมหาชน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ หรือวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น คือ ประโยชน์สาธารณะ โดยคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่บุคลลเอกชนจะพึงมีตามกฎหมาย

[bsk(มหาชน)]

....และการพิจารณารับ-ไม่รับก็ได้ผ่านมาแล้ว

เป็นบทพิสูน์ หรืออาจจะบอกว่าเป็นบทเรียน อุทธาหรณ์สำหรับสังคมไทยอีกครั้งหนึ่งว่า

แท้ที่จริง เจตนารมณ์ของรธน.2540 เป็นเช่นไรกันแน่

องค์กรอิสระใช้อะไรเป็นหลักคิดหรือแนวทางในการพิจารณาเรื่องหนึ่งๆ

อยากฝากบางถ้อยคำของท่านอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด  

เกี่ยวกับอำนาจของศาลในรูปขององค์กรอิสระ ดังนี้...


"องค์กรอีกอันหนึ่งที่สำคัญคือ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องทำหน้าที่ตรงนี้*

ถ้าแปลกฎหมายอย่างเดียวก็เรียบร้อย

ศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวที่วางกรอบ ว่าด้วย Principle ใหญ่ของรัฐธรรมนูญ

แต่ศาลปกครองเป็นตัวที่จะ Implement บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้เป็นรูปธรรม"


*กฎหมายไม่มีทางที่จะเขียนทุกอย่างได้ครบถ้วนบริบูรณ์ แก้ปัญหาได้ทุกจุด

เรียกว่าเป็นช่องว่างกฎหมาย เพราะฉะนั้นโดยหลักวิชาการต้องมีการอุดช่องว่างกฎหมาย

โดยองค์กรที่มีหน้าที่ในการใช้กฎหมาย (ในที่นี้คือ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ)



"ประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด คุณต้องดูข้างบนก่อน

ดูรัฐธรรมนูญแล้วไล่ลงมา แล้วมันมีช่องว่างตรงไหนที่กฎหมายเขียนไม่ถึง และหมายความว่าอย่างไร  

จะแปลยังไงเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ไม่ใช่ว่ากฎหมายไม่มีเขียนไว้ ก. ข. เลยยกไป  ไม่ใช่  มันเป็นศาสตร์"



"...ต่อให้คุณเก่งทางกฎหมายแต่คุณไม่มีจิตใจที่เป็นธรรม  

นักกฎหมายนี่นะครับ ยิ่งเก่งเท่าไหร่ ถ้าไม่มีคุณธรรมยิ่งกว่าโจร

คือ สามารถทำให้อะไรเป็นอะไรได้หมด ทำขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว

นักกฎหมายที่ไม่สุจริต ผมเชื่อว่าอย่างนั้นนะ ถ้าไม่มีคุณธรรมโจรยังดีกว่า

เพราะการใช้อำนาจทางกฎหมาย ทำจนในที่สุดผิดเป็นถูก อันนี้อันตรายที่สุด

ประโยคแรกที่ผมสอนนักศึกษามา 30 กว่าปี

เรียนกฎหมายไปต้องเรียนไปให้เกิดความเป็นธรรม

ไม่ใช่เรียนไปเพื่อใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าอันตรายที่สุดเลย

นักกฎหมายถ้าไม่มีความเป็นธรรม ยิ่งกว่ามหาโจร"



...กฎหมายต้องมีตรรกะ

กฎหมายต้องเป็นเรื่องของความสมเหตุสมผล แน่นอนที่สุดมัน link กัน

ซึ่งเสียดายบ้านเราไม่ให้ความสำคัญ  สังคมวิทยาก็สำคัญ

คุณจะออกกฎหมาย จะใช้กฎหมาย เรื่องมานุษยวิทยา สังคมวิทยา จำเป็นที่สุดเลย

เพราะฉะนั้นว่าจริงๆ วิชากฎหมายควรจะเป็นดีกรีที่ 2 หลังจากจบวิชาพื้นฐานอย่างต่างประเทศ  

เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของชีวิตมากมาย

คุณไปทำหน้าที่สำคัญๆ ถ้าคุณขาดสิ่งเหล่านี้ ความยุติธรรมเสียหาย.....

อักขราทร จุฬารัตน

ประธานศาลปกครองสูงสุด

[ครรชิต ไพศาล]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เพราะฉะนั้นว่าจริงๆ วิชากฎหมายควรจะเป็นดีกรีที่ 2 หลังจากจบวิชาพื้นฐานอย่างต่างประเทศ   

เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของชีวิตมากมาย 

คุณไปทำหน้าที่สำคัญๆ ถ้าคุณขาดสิ่งเหล่านี้ ความยุติธรรมเสียหาย..... 

ข้อนี้ดีครับ ผมก็เคยอ่านข่าวเห็นว่า
ที่สหรัฐต้องจบปริญญาอื่นมาก่อนทำงานมาก่อน
จึงจะขอเข้าเรียนกฏหมายได้
ทำไมบ้านเราถึงไม่ทำอย่างนี้บ้าง ครับ

[ครรชิต ไพศาล]

"...ต่อให้คุณเก่งทางกฎหมายแต่คุณไม่มีจิตใจที่เป็นธรรม  

นักกฎหมายนี่นะครับ ยิ่งเก่งเท่าไหร่ ถ้าไม่มีคุณธรรมยิ่งกว่าโจร

คือ สามารถทำให้อะไรเป็นอะไรได้หมด ทำขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว

นักกฎหมายที่ไม่สุจริต ผมเชื่อว่าอย่างนั้นนะ ถ้าไม่มีคุณธรรมโจรยังดีกว่า

เพราะการใช้อำนาจทางกฎหมาย ทำจนในที่สุดผิดเป็นถูก อันนี้อันตรายที่สุด

ประโยคแรกที่ผมสอนนักศึกษามา 30 กว่าปี

เรียนกฎหมายไปต้องเรียนไปให้เกิดความเป็นธรรม

ไม่ใช่เรียนไปเพื่อใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าอันตรายที่สุดเลย

นักกฎหมายถ้าไม่มีความเป็นธรรม ยิ่งกว่ามหาโจร"

อันนี้ก็ถูกใจครับ

ตัวอย่าง
คดีดังของ  เชอรีแอน ดันแคน  
ศาลพิพากษา   ว่าจำเลยผิดจริง ฆ่าคนตายโทษมหันต์
ไปๆมาๆ กลับตาลปัตร กลายเป็นว่า ศาลไปลงโทษคนบริสุทธิ
เพราะผู้กล่าวหาและทนายของผู้กล่าวหา สร้างพยานเท็จ ขึ้นมาพูดโกหกหลอก ให้ศาลเชื่อว่า
จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาไตรตรองไว้ก่อน