รถ hybrid ทำไมรัฐไม่เร่งสนับสนุน
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
รถ hybrid ทำไมรัฐไม่เร่งสนับสนุน
โพสต์ที่ 2
แหะๆ ตอนนี้ไทย ก็เป็นตลาดรถกระบะ ใหญ่เป็นอับดับสองของโลกๆแล้ว
เป็นรองแค่สหรัฐ
รัฐเขากลัว ว่าถ้ากระตุ้นมากๆ เราจะแซงหน้า สหรัฐจะไม่พอใจเอาได้ครับ
เป็นรองแค่สหรัฐ
รัฐเขากลัว ว่าถ้ากระตุ้นมากๆ เราจะแซงหน้า สหรัฐจะไม่พอใจเอาได้ครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- nano
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
รถ hybrid ทำไมรัฐไม่เร่งสนับสนุน
โพสต์ที่ 5
ข่าว- จีนเล็งตั้งรง.รถบัสเอ็นจีวีในไทย สิริฯประเดิมสั่งรถYantai300คัน
รายละเอียด-http://www.thannews.th.com/subnews.php? ... issue=2138
รายละเอียด-http://www.thannews.th.com/subnews.php? ... issue=2138
- nano
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
รถ hybrid ทำไมรัฐไม่เร่งสนับสนุน
โพสต์ที่ 6
รถบัสประหยัดพลังงาน "Yantai Shuchi" จากจีนเตรียมศึกษาลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถบัสพลังงานทางเลือกในไทย ประเดิมเซ็นสัญญากับ "ไทยเดินรถ" ป้อนรถบัสวิ่งสายใต้ใหม่ 200-300 คัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมตั้งสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีระหว่างเส้นทาง
มร.หยาง ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท หยันไต๋ ซูชี่ เวฮิเคิล จำกัด (Yantai Shuchi Vehicle) เปิดเผยว่า บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและประกอบรถโดยสารขนาดใหญ่ กลาง และเล็กในประเทศจีน ได้มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานมาอยู่ในประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและลู่ทางการลงทุน รวมถึงความต้องการใช้รถโดยสารของคนไทย ซึ่งปัจจุบันพบว่าการใช้รถประหยัดพลังงานในเมืองไทยยังนับว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก และมีโอกาสเติบโตได้ต่อไปในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการใช้รถประหยัดพลังงานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยชาติประหยัดพลังงานได้
ล่าสุดบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท สิริโปรเจ็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารปรับอากาศ ภายใต้ชื่อ "ไทยเดินรถ"และ บริษัท พี.เอส.เนเชอรัล ก๊าซ จำกัด ในการผลิตป้อนรถโดยสารหรือรถบัสประหยัดพลังงานที่วิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่จำนวน 200-300 คันในเบื้องต้น คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยรถโดยสารประหยัดพลังงานดังกล่าวจะมีขนาดเครื่องยนต์ 230 แรงม้า 6 สูบเรียง ใช้เชื้อเพลิง NGV 100% สามารถวิ่งได้ 300 กิโลเมตรต่อการเติมก๊าซ 1 ครั้ง (ใช้ถังก๊าซ NGV 6 ถัง) สูงกว่ารถโดยสารประหยัดพลังงานรุ่นปกติ ที่สามารถวิ่งได้ 150 กิโลเมตรต่อการเติมก๊าซ 1 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของสถานีบริการก๊าซ ที่ปัจจุบันยังมีให้บริการอยู่น้อยมาก
"ในอนาคตคาดว่าจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 คัน โดยการร่วมลงนามในครั้งนี้นอกจากการผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานให้กับบริษัท สิริโปรเจ็คฯ แล้วบริษัทยังจะติดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ในเมืองไทยตลอดเส้นทางเดินรถสายใต้ เพื่อคอยให้บริการกับรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ NGV ด้วย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะติดตั้ง 6-7 สถานีใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทต่อสถานี โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดส่งก๊าซ NGV ให้อีกด้วย"
นายปิยพัฒน์ เต็มเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิริโปรเจ็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารปรับอากาศ ภายใต้ชื่อ "ไทยเดินรถ" เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบายของภาครัฐ ในการรณรงค์ประหยัดพลังงาน โดยสนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซNGV นั้น ล่าสุดบริษัทได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาทางการค้ากับ Yantai Shuchi Vehicle Co.,Ltd. และบริษัท พี.เอส.เนเชอรัล ก๊าซ จำกัด เพื่อผลิตรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ NGV และนำมาวิ่งให้บริการแก่ผู้โดยสารประจำเส้นทางสายใต้ใหม่จำนวน 200-300 คัน
อนึ่ง บริษัท Yantai Shuchi เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลจีน และภาคเอกชน ในสัดส่วน 30 : 70 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงาน (ก๊าซNGV) รายใหญ่อันดับ 1 ในเมืองซันตง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตรถโดยสารรายใหญ่ของประเทศจีนด้วย ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานในจีน มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการใช้รถโดยสารประหยัดพลังงานของจีนเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับบริษัท Yantai Shuchi พัฒนาและผลิตรถโดยสารออกสู่ตลาดแล้วรวม 120 รุ่น ซึ่งในปี 2548 ที่ผ่านมา Yantai Shuchi ใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 900 ล้านหยวนหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,500 ล้านบาท ขณะที่ในปีเดียวกัน Yantai Shuchi มีรายได้รวม 1,700 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 8,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากการผลิตและจำหน่ายในประเทศจีน และการส่งออกรถโดยสารประหยัดพลังงานไปยังประเทศฮ่องกง และยุโรปด้วย
มร.หยาง ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท หยันไต๋ ซูชี่ เวฮิเคิล จำกัด (Yantai Shuchi Vehicle) เปิดเผยว่า บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและประกอบรถโดยสารขนาดใหญ่ กลาง และเล็กในประเทศจีน ได้มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานมาอยู่ในประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและลู่ทางการลงทุน รวมถึงความต้องการใช้รถโดยสารของคนไทย ซึ่งปัจจุบันพบว่าการใช้รถประหยัดพลังงานในเมืองไทยยังนับว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก และมีโอกาสเติบโตได้ต่อไปในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการใช้รถประหยัดพลังงานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยชาติประหยัดพลังงานได้
ล่าสุดบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท สิริโปรเจ็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารปรับอากาศ ภายใต้ชื่อ "ไทยเดินรถ"และ บริษัท พี.เอส.เนเชอรัล ก๊าซ จำกัด ในการผลิตป้อนรถโดยสารหรือรถบัสประหยัดพลังงานที่วิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่จำนวน 200-300 คันในเบื้องต้น คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยรถโดยสารประหยัดพลังงานดังกล่าวจะมีขนาดเครื่องยนต์ 230 แรงม้า 6 สูบเรียง ใช้เชื้อเพลิง NGV 100% สามารถวิ่งได้ 300 กิโลเมตรต่อการเติมก๊าซ 1 ครั้ง (ใช้ถังก๊าซ NGV 6 ถัง) สูงกว่ารถโดยสารประหยัดพลังงานรุ่นปกติ ที่สามารถวิ่งได้ 150 กิโลเมตรต่อการเติมก๊าซ 1 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของสถานีบริการก๊าซ ที่ปัจจุบันยังมีให้บริการอยู่น้อยมาก
"ในอนาคตคาดว่าจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 คัน โดยการร่วมลงนามในครั้งนี้นอกจากการผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานให้กับบริษัท สิริโปรเจ็คฯ แล้วบริษัทยังจะติดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ในเมืองไทยตลอดเส้นทางเดินรถสายใต้ เพื่อคอยให้บริการกับรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ NGV ด้วย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะติดตั้ง 6-7 สถานีใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทต่อสถานี โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดส่งก๊าซ NGV ให้อีกด้วย"
นายปิยพัฒน์ เต็มเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิริโปรเจ็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารปรับอากาศ ภายใต้ชื่อ "ไทยเดินรถ" เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบายของภาครัฐ ในการรณรงค์ประหยัดพลังงาน โดยสนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซNGV นั้น ล่าสุดบริษัทได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาทางการค้ากับ Yantai Shuchi Vehicle Co.,Ltd. และบริษัท พี.เอส.เนเชอรัล ก๊าซ จำกัด เพื่อผลิตรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ NGV และนำมาวิ่งให้บริการแก่ผู้โดยสารประจำเส้นทางสายใต้ใหม่จำนวน 200-300 คัน
อนึ่ง บริษัท Yantai Shuchi เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลจีน และภาคเอกชน ในสัดส่วน 30 : 70 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงาน (ก๊าซNGV) รายใหญ่อันดับ 1 ในเมืองซันตง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตรถโดยสารรายใหญ่ของประเทศจีนด้วย ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมผลิตรถโดยสารประหยัดพลังงานในจีน มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการใช้รถโดยสารประหยัดพลังงานของจีนเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับบริษัท Yantai Shuchi พัฒนาและผลิตรถโดยสารออกสู่ตลาดแล้วรวม 120 รุ่น ซึ่งในปี 2548 ที่ผ่านมา Yantai Shuchi ใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 900 ล้านหยวนหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,500 ล้านบาท ขณะที่ในปีเดียวกัน Yantai Shuchi มีรายได้รวม 1,700 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 8,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากการผลิตและจำหน่ายในประเทศจีน และการส่งออกรถโดยสารประหยัดพลังงานไปยังประเทศฮ่องกง และยุโรปด้วย
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
รถ hybrid ทำไมรัฐไม่เร่งสนับสนุน
โพสต์ที่ 7
เอาประสพการณ์การใช้ LPG มาบอกกล่าวกันครับ
เมื่อวานผมไปเมืองกาญจฯ มา ขึ้นเขาสบายมาก รถผมใช้ LPG ครับ รถนิสสัน NV เครื่อง 1600 ติด แก๊สแบบ หัวฉีดครับ อายุรถ ก็ 5 ปี ตอนนี้ ไมล์ 60,000 กม. ผมติดถังรุ่น 96 ลิตร โดยทั่วไปความจุถัง ประมาณ 50-70 ลิตร นน. ถังเปล่าทั่วไป ของ LPG ประมาณ 25 โล
ปรากฎว่า
วิ่งทางไกลแบบนี้ LPG สิ้นเปลืองที่ 11 กม นิดๆ / ลิตร ราคา ก็ 85 ตัง / กม.
ขับในเมือง ก็ 9 กม./ ลิตร ประมาณ 1.05 บาท / กม.
ตอนนี้แก็ส LPG 9.5 บาท / ลิตร ครับ ( แก๊ส LPG ที่ปั๊มขายเป็น ลิตรครับ ส่วน NGV ขายเป็น กิโล )
น้ำมันเครื่องสำหรับกรณีที่ใช้ แก๊ส LPG ก็เปลี่ยนที่ 3500 โล แทน 5000 โล ทั้งๆที่เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด เพราะว่า ความร้อนที่เกิดจากการใช้ แก๊ส LPG จะประมาณ 400 องศากว่าๆ ทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งมีความร้อนแค่ ประมาณ 200 กว่า เท่านั้น ( แต่ถ้า NGV หล่ะก็ ความร้อนที่ 600 องศา ครับ รถเบนซ์ระวัง NGV ดีๆ นะครับ )
เห็นว่าที่เกาหลี เขาสนับสนุน ทั้ง LPG NGV เพราะว่าเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด
ผมเองพึ่งติดมาได้ ไม่ถึงเดือน ใช้ดีครับ
--- ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเลย
--- เครื่องอืดหน่อย เมื่อเทียบกับ แก๊สโซฮอล95 แต่ถ้าจูนแบบใช้แก๊สเปลืองขึ้นอีกหน่อย คือประมาณ 1.20 บาท / กม ความแรงเครื่องก็ใช้ได้ใกล้ๆกับ แก๊สโซฮอล95 เลยครับ ลองมาแล้ว ครับ
--- ระบบหัวฉีดจะไม่มีปัญหาเรือ่ง backfire , backfire อาจเกิดได้กับ การติดแก๊สระบบดูดครับ เวลาเกิดแล้ว ถ้ารุนแรง จะทำให้ส่วนของระบบกรองอากาศเสียหาย ท่อพังหมด เพราะว่ามันเกิดการระเบิดของแก๊สที่เผาไหม้ไม่หมด ที่ระบบกรองอากาศ เกิดได้ถ้าหากว่าจูนไม่ดี แต่ถ้าเกิดรุนแรงก็ซ่อมเกือบหมื่น เลยใช้ระบบหัวฉีดครับ
เมื่อไม่กี่วันก่อนรถของหัวหน้าแฟน พึ่งเกิด backfire ก็พึ่งติดระบบดูดมาได้ไม่เกิน 2 week ซ่อม เกือบหมื่น ปกติ ถ้าภายใน 1 เดือนไม่เกิด backfire ก็จะไม่เกิดแล้วมั๊ง.... มั๊ง .... มั๊ง
---ระยะเวลาการเติมแก็ส LPG ประมาณ 1 นาที ต่อ 10 ลิตร ครับ
แปลกใจที่บ้านเราไม่สนับสนุน LPG เรื่องผลประโยชน์มังครับ
การใช้ LPG น่าจะช่วยชาติได้เรื่องการลดเงินไหลออก ( แต่ไม่ได้ช่วย บริษัทน้ำมันในประเทศบางตัวนะคัรบ อิอิอิ ) เพราะว่าถึงยังไงๆ ต่อให้รัฐไม่สนับสนุนเงินให้ LPG ต่อให้ลอยตัว LPG ยังไงๆ ก็ถูกกว่า น้ำมัน มากมายเลยครับ
แปลกใจรัฐบาลมากครับ ชอบให้ซื้อน้ำมันแพงๆ มาใช้แทน LPG ทำไมหว่า ท่าจะบ้า จะเอากำไรท่าเดียว
ปัมแก๊ส LPG ตอนนี้มีทั่วประเทศแล้วครับ
ส่วน NGV ก็เชียร์เอาๆ ทั้งๆที่มีจำนวนปั๊มเท่าไรกัน ขนาดตอนนี้เติม NGV ยังเข้าคิวยาวเลย ถ้าคนติดตั้ง NGV มากๆเข้า แล้ว ขยายปั๊มไม่ทัน สงสัยเติมที ครึ่ง ชม - 1 ชม ระบบไทยๆเรา จัดการแบบนี้แหล่ะครับ
ที่ไม่เลือกติด NGV เพราะว่า ในการเดินทางไปสู่พื้นที่ที่ไม่มีแหล่งแก๊สธรรมชาติ หรือไม่มีแนวท่อแก้ส เช่น ภาคเหนือ ก็ อดใช้ แก๊ส NGV ครับ ก็เลยไม่สะดวก
ยังไงก็ต้องขับน้ำมันบ้าง เพราะว่ากลัวหัวฉีดตัน เพื่อนผม หัวฉีดน้ำมันตันมาแล้วครับ เพราะว่าขับแต่แก็ส NGV ผมเองใช้วิ 1 กม แรก น้ำมัน 1 กม สุดท้าย น้ำมัน ครับ
NGV ส่วนใหญ่เป็นมีเทน เบากว่าอากาศ ไม่ได้เติมกลิ่น LPG ส่วนใหญ่เป็น โพรพีน หนักกว่าอากาศ มีการเติมกลิ่น ทำให้เวลารั่วจะรู้จากกลิ่น
ลองจอดรถตากแดดดูทั้งวัน อืมม ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย วันแรกกลัว เพราะว่าเพื่อนกระทุ้ง ตแนหลังมานั่งคิด taxi มันติด LPG วิ่งกันเป็นแสน คันรอบ กทม ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เรามากลัวอะไรมากมายหว่า
เคยคุยกับ taxi คันนึงที่เช้าจากอุ่ มือเดียว วิ่ง 24 ชม เขาวิ่งมา 5 แสน โล แล้ว ถามว่า เครื่องเคยมีปัญหาอะไรรึป่าว เขาบอกว่า วิ่งมา 5 แสนโล ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย นอกนั้นก้บำรุงรักษาธรรมดา
เลยเป็นจุดตัดสินใจไปติดแก็สคัรบ แต่ก้ใช้ระบบหัวฉีดที่มันแพงกว่าระบบดูด ( ระบบหัวฉีด 35000-45000 ระบบดูด 15000-20000 ) เพื่อความปลอดภัยกับประสิทธิภาพการใช้ แก๊สครับ
ระบบหัวฉีดหรือว่าระบบดูด หมายถึงระบบการส่งแก็สเข้าเครื่องนะครับ ไม่ใช่ระบบเครื่องยนต์
หมดความรู้แล้ว คัรบ
นอนแล้ว คัรบ ตี 3 แล้ว
เมื่อวานผมไปเมืองกาญจฯ มา ขึ้นเขาสบายมาก รถผมใช้ LPG ครับ รถนิสสัน NV เครื่อง 1600 ติด แก๊สแบบ หัวฉีดครับ อายุรถ ก็ 5 ปี ตอนนี้ ไมล์ 60,000 กม. ผมติดถังรุ่น 96 ลิตร โดยทั่วไปความจุถัง ประมาณ 50-70 ลิตร นน. ถังเปล่าทั่วไป ของ LPG ประมาณ 25 โล
ปรากฎว่า
วิ่งทางไกลแบบนี้ LPG สิ้นเปลืองที่ 11 กม นิดๆ / ลิตร ราคา ก็ 85 ตัง / กม.
ขับในเมือง ก็ 9 กม./ ลิตร ประมาณ 1.05 บาท / กม.
ตอนนี้แก็ส LPG 9.5 บาท / ลิตร ครับ ( แก๊ส LPG ที่ปั๊มขายเป็น ลิตรครับ ส่วน NGV ขายเป็น กิโล )
น้ำมันเครื่องสำหรับกรณีที่ใช้ แก๊ส LPG ก็เปลี่ยนที่ 3500 โล แทน 5000 โล ทั้งๆที่เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด เพราะว่า ความร้อนที่เกิดจากการใช้ แก๊ส LPG จะประมาณ 400 องศากว่าๆ ทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งมีความร้อนแค่ ประมาณ 200 กว่า เท่านั้น ( แต่ถ้า NGV หล่ะก็ ความร้อนที่ 600 องศา ครับ รถเบนซ์ระวัง NGV ดีๆ นะครับ )
เห็นว่าที่เกาหลี เขาสนับสนุน ทั้ง LPG NGV เพราะว่าเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด
ผมเองพึ่งติดมาได้ ไม่ถึงเดือน ใช้ดีครับ
--- ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเลย
--- เครื่องอืดหน่อย เมื่อเทียบกับ แก๊สโซฮอล95 แต่ถ้าจูนแบบใช้แก๊สเปลืองขึ้นอีกหน่อย คือประมาณ 1.20 บาท / กม ความแรงเครื่องก็ใช้ได้ใกล้ๆกับ แก๊สโซฮอล95 เลยครับ ลองมาแล้ว ครับ
--- ระบบหัวฉีดจะไม่มีปัญหาเรือ่ง backfire , backfire อาจเกิดได้กับ การติดแก๊สระบบดูดครับ เวลาเกิดแล้ว ถ้ารุนแรง จะทำให้ส่วนของระบบกรองอากาศเสียหาย ท่อพังหมด เพราะว่ามันเกิดการระเบิดของแก๊สที่เผาไหม้ไม่หมด ที่ระบบกรองอากาศ เกิดได้ถ้าหากว่าจูนไม่ดี แต่ถ้าเกิดรุนแรงก็ซ่อมเกือบหมื่น เลยใช้ระบบหัวฉีดครับ
เมื่อไม่กี่วันก่อนรถของหัวหน้าแฟน พึ่งเกิด backfire ก็พึ่งติดระบบดูดมาได้ไม่เกิน 2 week ซ่อม เกือบหมื่น ปกติ ถ้าภายใน 1 เดือนไม่เกิด backfire ก็จะไม่เกิดแล้วมั๊ง.... มั๊ง .... มั๊ง
---ระยะเวลาการเติมแก็ส LPG ประมาณ 1 นาที ต่อ 10 ลิตร ครับ
แปลกใจที่บ้านเราไม่สนับสนุน LPG เรื่องผลประโยชน์มังครับ
การใช้ LPG น่าจะช่วยชาติได้เรื่องการลดเงินไหลออก ( แต่ไม่ได้ช่วย บริษัทน้ำมันในประเทศบางตัวนะคัรบ อิอิอิ ) เพราะว่าถึงยังไงๆ ต่อให้รัฐไม่สนับสนุนเงินให้ LPG ต่อให้ลอยตัว LPG ยังไงๆ ก็ถูกกว่า น้ำมัน มากมายเลยครับ
แปลกใจรัฐบาลมากครับ ชอบให้ซื้อน้ำมันแพงๆ มาใช้แทน LPG ทำไมหว่า ท่าจะบ้า จะเอากำไรท่าเดียว
ปัมแก๊ส LPG ตอนนี้มีทั่วประเทศแล้วครับ
ส่วน NGV ก็เชียร์เอาๆ ทั้งๆที่มีจำนวนปั๊มเท่าไรกัน ขนาดตอนนี้เติม NGV ยังเข้าคิวยาวเลย ถ้าคนติดตั้ง NGV มากๆเข้า แล้ว ขยายปั๊มไม่ทัน สงสัยเติมที ครึ่ง ชม - 1 ชม ระบบไทยๆเรา จัดการแบบนี้แหล่ะครับ
ที่ไม่เลือกติด NGV เพราะว่า ในการเดินทางไปสู่พื้นที่ที่ไม่มีแหล่งแก๊สธรรมชาติ หรือไม่มีแนวท่อแก้ส เช่น ภาคเหนือ ก็ อดใช้ แก๊ส NGV ครับ ก็เลยไม่สะดวก
ยังไงก็ต้องขับน้ำมันบ้าง เพราะว่ากลัวหัวฉีดตัน เพื่อนผม หัวฉีดน้ำมันตันมาแล้วครับ เพราะว่าขับแต่แก็ส NGV ผมเองใช้วิ 1 กม แรก น้ำมัน 1 กม สุดท้าย น้ำมัน ครับ
NGV ส่วนใหญ่เป็นมีเทน เบากว่าอากาศ ไม่ได้เติมกลิ่น LPG ส่วนใหญ่เป็น โพรพีน หนักกว่าอากาศ มีการเติมกลิ่น ทำให้เวลารั่วจะรู้จากกลิ่น
ลองจอดรถตากแดดดูทั้งวัน อืมม ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย วันแรกกลัว เพราะว่าเพื่อนกระทุ้ง ตแนหลังมานั่งคิด taxi มันติด LPG วิ่งกันเป็นแสน คันรอบ กทม ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เรามากลัวอะไรมากมายหว่า
เคยคุยกับ taxi คันนึงที่เช้าจากอุ่ มือเดียว วิ่ง 24 ชม เขาวิ่งมา 5 แสน โล แล้ว ถามว่า เครื่องเคยมีปัญหาอะไรรึป่าว เขาบอกว่า วิ่งมา 5 แสนโล ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย นอกนั้นก้บำรุงรักษาธรรมดา
เลยเป็นจุดตัดสินใจไปติดแก็สคัรบ แต่ก้ใช้ระบบหัวฉีดที่มันแพงกว่าระบบดูด ( ระบบหัวฉีด 35000-45000 ระบบดูด 15000-20000 ) เพื่อความปลอดภัยกับประสิทธิภาพการใช้ แก๊สครับ
ระบบหัวฉีดหรือว่าระบบดูด หมายถึงระบบการส่งแก็สเข้าเครื่องนะครับ ไม่ใช่ระบบเครื่องยนต์
หมดความรู้แล้ว คัรบ
นอนแล้ว คัรบ ตี 3 แล้ว