http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55593
แล้วสนใจนะครับ ไม่ทราบว่าทีมงานหรือเพื่อนสมาชิกพอจะช่วยรวบรวมหุ้นที่ไม่บาปให้ได้หรือเปล่าครับ
จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งนะครับ
![ขอคารวะ :bow:](./images/smilies/icon_bow.gif)
![ขอคารวะ :bow:](./images/smilies/icon_bow.gif)
![ขอคารวะ :bow:](./images/smilies/icon_bow.gif)
ตอบเท่าที่เข้าใจนะครับRyotaro เขียน:อยากทราบว่าถ้าเจตนาเหมือนกันคือ เก็งกำไรส่วนต่างราคาระยะสั้น ระหว่าง
1. ไม่รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
2. รู้ว่าหุ้นนั้นทำธุรกิจที่มีส่วนบาปอยู่
จะบาปเท่ากันหรือไม่ครับ
ขออนุญาติถามครับว่า เวลาที่บริษัทกำไรมากขึ้น(ซึ่งจะมีการฆ่าไก่ได้มากขึ้น) เราดีใจหรือยินดีไหมครับWEB เขียน:ขอแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่างการซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
การซื้อหุ้นของผมไม่ได้ทำให้บริษัทฆ่าไก่มากขึ้น เงินลงทุนของ
ผมไม่ใช่เงินชี้ขาด ไม่ได้เกี่ยวกับการขยายงานของบริษัท
เปลี่ยนใหม่ ถ้าเพื่อนมาชวนลงทุนเลี้ยงไก่ เพราะเงินทุนไม่พอ
กรณีนี้ เงินของผมเป็นเงินชี้ขาดที่จะทำให้
กิจการเกิดขึ้นหรือไม่เกิด ถ้าเกิด การฆ่าไก่ก็เริ่มต้นขึ้น
แบบนี้ผมไม่เอา การบอกว่าไม่ซื้อหุ้นบริษัทขายไก่ แต่ยังกินไก่
ผมว่ามันแปลกๆ เพราะอย่างที่ว่า เราจะซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อ เค้าก็ฆ่าแบบนั้น
แต่ถ้าเรากินไก่นี่สิ เรากินตัวนึง ไก่ก็ตายตัวนึง ถ้าถึงขนาดซื้อหุ้นบริษัทขายไก่
ไม่ได้ ตามความเห็นผม ควรเลิกกินไก่ให้ได้ก่อนครับ
อีกอย่างธุรกิจมันเกี่ยวพันกันมาก ถ้าบอกว่าซื้อบริษัทขายไก่ไม่ได้ แล้วบริษัท
น้ำมันพืชที่เค้าเอาไปทอดไก่ล่ะครับ คือถ้าไม่มีน้ำมันพืชก็ไม่มีไก่ทอด
อย่างน้อยคนที่ชอบกินแต่ไก่ทอดก็จะไม่กิน ไก่ก็ตายน้อยลง แล้วบริษัทขาย
ซอสจิ้มไก่ที่ช่วยให้กินไก่ได้อร่อยกินได้บ่อยๆล่ะ แล้วบริษัทที่ทำโฆษณาให้บริษัทนี้อีกล่ะ
และอีกสารพัด หรืออย่างบริษัทขายเบียร์ ไหนจะขวด ไหนจะฝา ไหนจะบริษัทโฆษณา
ไหนจะร้านค้า ถ้าไม่ซื้อก็ต้องไม่ซื้อหมดครับ มันโยงกัน
และจริงๆ ส่วนตัวผม ธุรกิจไม่ดีไม่จำเป็นต้องไม่ดีที่สินค้า แต่อาจไม่ดีที่วิธีการทำธุรกิจด้วย
อย่างเปิดฝาลุ้นรวยทุกวันอะไรเนี่ย ผมว่ามอมเมาชัดๆ ถึงแม้สินค้าไม่ผิดศีลก็เถอะ
แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมไม่รู้ครับ ช่วยชี้แนะครับNevercry.boy เขียน:รู้อยู่แก่ใจ
ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่นzephyr เขียน:คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป
ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย![]()
![]()
ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว
ขอบคุณครับ แต่ที่ผมฟังมามันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ธุรกิจที่มีการประมูลเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ทุกบริษัทแหละครับ การโฆษณาชวนเชื่อก็เกิดได้หมดทุกบริษัทKritkarun เขียน:ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่นzephyr เขียน:คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป
ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย![]()
![]()
ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว
ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด
ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ
และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ
หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ
ธุรกิจประมูลไม่ได้หมายถึงได้บาปนะครับ วิทยากรเขาหมายถึง การฮั้วประมูลแล้วโกงเิงินประชาชนต่างหาก ถึงได้บาปzephyr เขียน: ขอบคุณครับ แต่ที่ผมฟังมามันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ธุรกิจที่มีการประมูลเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ทุกบริษัทแหละครับ การโฆษณาชวนเชื่อก็เกิดได้หมดทุกบริษัท
ผมเพียงบอกว่าเราควรพิจารณาตามสมควร
แปลกดีครับ แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ไม่เข้าใจpanwasit เขียน:ไม่น่ามีนะครับ หุ้นที่ไม่เข้าข่าย อกุศลธรรม
ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าใจธรรมะเท่าไหร แต่ถ้าหุ้นที่มีไม่มีอกุศลกรรม ต้องเป็นหุ้นที่ไม่ทำอะไรเลยครับ เพราะแค่ทำสินค้า บริการขึ้นมัน มันก็ผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับคนคิดมากกว่า
ขายอาหารพวกเนื้อสัตว์ พอขายอาหารได้ดีขึ้น ก็พอใจ เพิ่มการสั่งซื้อKritkarun เขียน:ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่นzephyr เขียน:คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท
2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท
3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท
4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป
ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย![]()
![]()
ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว
ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด
ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ
และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ
หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ
ไม่แน่ใจเรื่องธรรมะ เพราะคุยกับหลายๆคน แล้วหลายคนให้ความคิดเห็นที่แตกต่างนะครับKritkarun เขียน:แปลกดีครับ แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ไม่เข้าใจpanwasit เขียน:ไม่น่ามีนะครับ หุ้นที่ไม่เข้าข่าย อกุศลธรรม
ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าใจธรรมะเท่าไหร แต่ถ้าหุ้นที่มีไม่มีอกุศลกรรม ต้องเป็นหุ้นที่ไม่ทำอะไรเลยครับ เพราะแค่ทำสินค้า บริการขึ้นมัน มันก็ผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับคนคิดมากกว่า