1.กำไรปีนี้รวมกำไรค่าเงินประมาณ 600 ล้าน และไตรมาสสี่ จะมีผลดำเนินงานที่แย่ที่สุด เพราะจะมีการบันทึกการซ่อมบำรุง อย่างปีที่แล้วจะมีกำไรแค่ร้อยกว่าล้าน (เช็คดูอีกครั้งครับ)...
2.โครงการใหญ่ที่จะเพิ่มรายได้ จะทำการผลิตปี 2550 หรืออีก 4ปีข้างหน้า!!
อีกโครงการผลิตปี 2551 และโครงการที่สามปี 2552....ดังนั้น 2-3 ปีข้างหน้ากำไรน่าจะเพิ่มไม่มาก ปันผลประมาณ 3 บาท ที่ราคา 76 บาท ก็ไม่ถูกมาก..
3.ไตรมาสหน้า กฟผ. จะเข้าตลาด (คู่แข่งทำธุรกิจเดียวกัน) โดย กฟผ. ถือหุ้น egcomp ประมาณ 25 % ส่วนที่เหลือ CLP ้Hongkong ถือเท่าๆกัน
(CLP เคยซื้อ egcomp private placement ที่ 120 บาท แต่ได้ซื้อถัวเฉลี่ย+ปันผล ทำให้มีต้นทุนต่ำพอสมควร).....ส่วนคู่แข่งอีกรายคือ RATCH ซึ่ง กฟผ. ถือหุ้นประมาณ 50 % .......
คือดูแล้วในอนาคตหากมีโครงการใหม่ๆ โอกาสที่ egcomp จะได้รับทำโครงการน้อยเพราะ กฟผ ถือหุ้นน้อยสุด และยังมี partner เป็นต่างชาติีอีก...
เป็นมุมมองในแง่ร้ายนะครับ แต่ผมก็ยังคิดว่า egcomp ยังเป็นหุ้นที่ดีครับ แต่หากเรามองไปอีกด้าน ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิก รวมถึงผู้ถือหุ้นปัจจุบันด้วยครับ...

