ชี้ราคาน้ำมันเป็นฟองสบู่ใกล้แตก อีก3เดือนร่วงเหลือ30ดอลล์/บา
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 10:05 pm
นักวิเคราะห์พลังงานทอมสัน ไฟแนนเชี่ยล มองสวนทางราคาน้ำมันตลาดโลก ปรับขึ้นไม่เป็นไปตามโครงสร้างพื้นฐาน แต่กำลังก่อปัญหาคล้ายฟองสบู่ไฮเทคช่วงปลายทศวรรษหลังปี 2533 พร้อมจะแตกใน 2-3 เดือนข้างหน้า ฉุดราคาลงเหลือ 26-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์พลังงานอาวุโสของไอเอฟอาร์ เอนเนอร์จี เซอร์วิส ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของทอมสัน ไฟแนนเชี่ยล สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำแห่งหนึ่งของสหรัฐ ให้ความเห็นกับบิซิเนสวีค นิตยสารด้านเศรษฐกิจชั้นนำของสหรัฐ เกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ระดับสูงขณะนี้ เป็นการมองสวนทางคนส่วนใหญ่ว่า ราคาน้ำมันปัจจุบันที่ปรับขึ้น มีความคล้ายคลึงอย่างยิ่งกับฟองสบู่อินเทอร์เน็ตในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 2533
นักวิเคราะห์อาวุโสของทอมสัน ไฟแนนเชี่ยล มองผู้เชี่ยวชาญหลายรายพากันประเมินราคาน้ำมันจะขึ้นพรวดไปอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จนเกิดวิกฤติน้ำมันในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เป็นการมองสวนทางกับเขาที่เชื่อว่า ราคาน้ำมันที่เปรียบเหมือนฟองสบู่ จะระเบิดและแตกได้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉุดให้ราคาดิ่งลงมาอยู่เหนือระดับกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายอีแวนส์มองคาดการณ์ฟองสบู่ราคาน้ำมัน เหมือนฟองสบู่ไฮเทคโนโลยีเมื่อปลายปี 2533 ว่าในครั้งนั้นมีการวิเคราะห์เตือนให้ผู้คนอยู่ห่างๆจากการใช้วิธีประเมินมูลค่าแบบเก่าๆ ซึ่งเรื่องนี้เขาเห็นว่าประเด็นสำคัญไม่ได้เกี่ยวกับความคิดเห็น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริง
"ตอนนี้น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ อยู่ระดับสูงสุดนับจากเดือนมิ.ย.ปี 2545 ถ้าพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานด้านจิตวิทยา ราคาน้ำมันปัจจุบันควรอยู่ที่ 26-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล" นายอีแวนส์ กล่าว
เขายังให้เหตุผลกับคาดการณ์ราคาน้ำมันจะตกลงถึง 26-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลว่า น่าจะได้เห็นช่วงราคาดังกล่าวอีก 2-3 เดือนข้างหน้า และคิดว่าขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะขึ้นๆลงๆ ทางกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างโอเปคยังคงเพิ่มการผลิต มีการเพิ่มโควตาผลิต 5 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนเม.ย.นี้ และซาอุดีอาระเบียได้จัดสรรน้ำมันเพิ่มเติมสำหรับยอดขายในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกันความต้องการน้ำมันดิบในไตรมาส 2 มีแนวโน้มจะลดลง โดยพื้นฐานแล้วตลาดจะได้เห็นราคาน้ำมันลดลง จากนี้ไปจะมีอุปทานเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ตรงข้ามกับอุปสงค์มีแนวโน้มลดลง ขณะที่น้ำมันคงคลังของสหรัฐอยู่ในระดับน่าพอใจ
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทรุดเกือบ 3 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ 51.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรอบสัปดาห์สหรัฐพุ่ง 5.5 ล้านบาร์เรล เป็น 324.4 ล้านบาร์เรล ด้านผู้นำสหรัฐเดินหน้าแผนลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้า เรียกร้องแปลงฐานทัพเป็นโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น
รอยเตอร์รายงานว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าไนเม็กซ์ ทรุดลงเกือบ 5% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันทะยานขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยในรอบสัปดาห์สูงสุดเป็นประวัติการณ์อันดับ 3
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.ทรุดลง 2.59 ดอลลาร์หรือ 4.8% มาปิดตลาดที่ 51.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลงไปแตะจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.ที่ 51.55 ดอลลาร์
...จะทำให้ดีใจเก้อหรือเปล่าน๊า...
นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์พลังงานอาวุโสของไอเอฟอาร์ เอนเนอร์จี เซอร์วิส ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของทอมสัน ไฟแนนเชี่ยล สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำแห่งหนึ่งของสหรัฐ ให้ความเห็นกับบิซิเนสวีค นิตยสารด้านเศรษฐกิจชั้นนำของสหรัฐ เกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ระดับสูงขณะนี้ เป็นการมองสวนทางคนส่วนใหญ่ว่า ราคาน้ำมันปัจจุบันที่ปรับขึ้น มีความคล้ายคลึงอย่างยิ่งกับฟองสบู่อินเทอร์เน็ตในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 2533
นักวิเคราะห์อาวุโสของทอมสัน ไฟแนนเชี่ยล มองผู้เชี่ยวชาญหลายรายพากันประเมินราคาน้ำมันจะขึ้นพรวดไปอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จนเกิดวิกฤติน้ำมันในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เป็นการมองสวนทางกับเขาที่เชื่อว่า ราคาน้ำมันที่เปรียบเหมือนฟองสบู่ จะระเบิดและแตกได้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉุดให้ราคาดิ่งลงมาอยู่เหนือระดับกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายอีแวนส์มองคาดการณ์ฟองสบู่ราคาน้ำมัน เหมือนฟองสบู่ไฮเทคโนโลยีเมื่อปลายปี 2533 ว่าในครั้งนั้นมีการวิเคราะห์เตือนให้ผู้คนอยู่ห่างๆจากการใช้วิธีประเมินมูลค่าแบบเก่าๆ ซึ่งเรื่องนี้เขาเห็นว่าประเด็นสำคัญไม่ได้เกี่ยวกับความคิดเห็น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริง
"ตอนนี้น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ อยู่ระดับสูงสุดนับจากเดือนมิ.ย.ปี 2545 ถ้าพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานด้านจิตวิทยา ราคาน้ำมันปัจจุบันควรอยู่ที่ 26-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล" นายอีแวนส์ กล่าว
เขายังให้เหตุผลกับคาดการณ์ราคาน้ำมันจะตกลงถึง 26-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลว่า น่าจะได้เห็นช่วงราคาดังกล่าวอีก 2-3 เดือนข้างหน้า และคิดว่าขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะขึ้นๆลงๆ ทางกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างโอเปคยังคงเพิ่มการผลิต มีการเพิ่มโควตาผลิต 5 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนเม.ย.นี้ และซาอุดีอาระเบียได้จัดสรรน้ำมันเพิ่มเติมสำหรับยอดขายในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกันความต้องการน้ำมันดิบในไตรมาส 2 มีแนวโน้มจะลดลง โดยพื้นฐานแล้วตลาดจะได้เห็นราคาน้ำมันลดลง จากนี้ไปจะมีอุปทานเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ตรงข้ามกับอุปสงค์มีแนวโน้มลดลง ขณะที่น้ำมันคงคลังของสหรัฐอยู่ในระดับน่าพอใจ
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทรุดเกือบ 3 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ 51.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรอบสัปดาห์สหรัฐพุ่ง 5.5 ล้านบาร์เรล เป็น 324.4 ล้านบาร์เรล ด้านผู้นำสหรัฐเดินหน้าแผนลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้า เรียกร้องแปลงฐานทัพเป็นโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น
รอยเตอร์รายงานว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าไนเม็กซ์ ทรุดลงเกือบ 5% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันทะยานขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยในรอบสัปดาห์สูงสุดเป็นประวัติการณ์อันดับ 3
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.ทรุดลง 2.59 ดอลลาร์หรือ 4.8% มาปิดตลาดที่ 51.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลงไปแตะจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.ที่ 51.55 ดอลลาร์
...จะทำให้ดีใจเก้อหรือเปล่าน๊า...