หน้า 1 จากทั้งหมด 1

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 7:56 pm
โดย hot
ทีแรก ผมเจอกระเบื้อง ตารางเมตร ละ350 บาท ผมว่าแพงแล้วนะ

แต่นี่ล่อไปตารางเมตรละ1000 บาท ใครจะไปซื้อ เนี่ยแพงจัง

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 8:41 am
โดย Amorna
มีค่ะ

อย่างดิฉันอยู่ลำปาง กระเบื้องตรม.ละ 160-180 ก็ถือว่าแพงแล้ว เป็นราคาค่อนข้างสูงในร้านใหญ่ๆ

แต่พอไปดูที่เชียงใหม่ โอ ต่ำสุด 200-300 ต่อ ตรม. ค่ะ แพงสุดก็ไม่ต้องพูดถึง
เค้าคงแบ่งเกรดลูกค้าน่ะคะ เมืองใหญ่หน่อยก็จะมีแบบ โฮโซหน่อย ราคาไม่เกี่ยง

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 8:50 am
โดย edd
มีแน่นอน คุณ hot

บ้านผมปูแกรนิตในห้องน้ำ เลยต้องหากระเบื้องที่เข้ากัน

ผมเลยต้องซื้อกระเบื้องลายแกรนิต ราคาประมาณนี้แหละ ตรม.ละ 1000 บาท

โชคดีที่ใช้ไม่มากคับ

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 03, 2005 9:25 pm
โดย Dech
ของ RCI ก็น่าจะมีครับ พวกนำเข้าจากอิตาลี แพงมากๆ

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 03, 2005 11:03 pm
โดย Jeng
เวลาไปบ้านใคร แล้วเห็นกระเบื้องสวยๆ ผมว่า ตรม.ละ พัน ก็ไม่แพงนะครับ

เมื่อเทียบกับตัวบ้าน ที่ซื้อมาราคาแพง

ตรม.นะครับ ไม่ใช่ แผ่นละพัน ซื้อไปเถอะ ถ้าสวยจริงๆ

โดยเฉพาะกระเบื้องลายหินอ่อน ผมดูแล้ว สวยกว่าหินอ่อน และรักษาง่ายกว่าตั้งเยอะ

แต่ต้องเลือกที่เคลือบผิวดีๆนะครับ ไม่งั้นสิ่งสกปรกซึมลงไปได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นของประเทศจีน ยังไม่ชัวร์ครับ

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 04, 2005 3:40 pm
โดย knotcute
กระเบื้องมีแบบปูชิด กับปูห่างด้วยนะครับ ระวังช่างปูกระเบื้องของท่านให้ดี อาจจะเอากระเบื้องแบบปูชิดไปปูแบบห่าง

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 09, 2005 8:49 am
โดย por_jai
กระเบื้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสินค้าที่ไม่มี durable competitive advantage
แล้วก็อุตสาหกรรมก็ใช่ แต่ต้องมีโพรดักท์ให้ลูกค้าเลือกยิ่งกว่าพวกอุปโภค บริโภคซะอีก
เมื่อก่อนมีtgci(campana)เป็นเจ้าใหญ่อยู่เจ้าเดียวขายตารางเมตรละ7-800บาท
ปูนเห็นเข้าน้ำลายไหล โดดเข้ามา 2ปีรบกันไปมาเหลือตารางเมตรละ75บาท
ก็ดีได้เห็นผู้บริโภคได้ประโยชน์บ้าง
ตอนนี้คิดว่ามีทุกระดับราคาให้เลือก ตามสีสรรและลวดลาย ของใน/นอก
ของอิตาลีกะสเปนเนี่ย หลายพันยังมีเลย
นอกจากนี้ยังมีคนเอากระจกมาเผาอีกรอบเพื่อตกแต่งในแนวกระเบื้องนี่แหละ
กระจกมันได้เปรียบในเรื่องมิติ สวยหนักขึ้นไปอีก
ส่วนเรื่องปูชิด หรือ ห่าง มันอยู่ที่ไซส์กระเบื้อง
ถ้าไซส์เท่ากันก็ปูชิดได้เพราะแนวมันจะไม่บิดๆเบี้ยวๆ จะเป็นพวกกระเบื้องผนัง
ถ้าเป็นกระเบื้องพื้น มักจะปูชิดไม่ค่อยได้เพราะ เผาอุณหภูมิสูง ไซส์ไม่ค่อยเท่ากัน
ต้องเว้นร่องนิดนึง แนวจะตรงสวย....

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 09, 2005 11:51 am
โดย ayethebing
ไปที่งานสถาปนิกจัดที่ impact เมืองทอง ไปดูกระเบื้องของ RCI นำเข้าจากอิตาลี เป็นสีที่มีกากเพชรวาวๆ ราคา 10,000 บาท

เฮ้อ เห็นแล้วเลิกดู กลับเดินไปดู pretty ดีก่า :lovl:

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 09, 2005 9:58 pm
โดย 2nd wind
ผมไปงานสถาปนิกเมื่อวานวันสุดท้าย ก็เลยลองแยบถามซุ้ม RCI กับ TGCI ได้ความว่า

TGCI เป็นผู้ผลิตกระเบื้องเองทั้งหมดแต่ใช้ชื่อแบรนด์ ว่า CAMPANA กับ KAZA (คำนี้อาจสะกดผิด)

ปูนใหญ่ก็ผลิตเอง เช่นกัน ใช้ชื่อแบรนด์ COTTO

ส่วน RCI ผลิตเอง 60 นำเข้า 40 ที่ผลิตเองจะเป็นส่วนของฝาผนัง ส่วนพื้นจะนำเข้าจากจีน อิตาลี สเปน โรงงานอยู่ สระบุรี ใช้พลังงานไฟฟ้า วัตถุดิบที่ใช้ทำกระเบื้องฝาผนังนำเข้าจากแถบยูเครนหรือแอฟริกา

แบรนด์ RCI กับ CAMPANA จับตลาดกลางถึงบน ส่วน COTTO จับตลาดล่างถึงกลาง

แบรนด์ RCI กับ CAMPANA ลูกค้าส่วนใหญ่จะได้จากบริษัทสถาปนิก ซึ่งมีอำนาจ แนะนำบริษัทรับเหมาอีกต่อ นอกจากนั้น ก็ขายผ่าน distributor พวก Hmpro, etc.

คนขาย RCI บอกว่ายอดขายยังโตเรื่อยๆ และคงไม่โตเร็วมากเกินไปนัก เพราะสองปีที่ผ่านมาโตค่อนข้างมากแล้ว เขาว่า สัก 4-5 ปีจะหมด cycle ด้านนี้ ที่ทราบมาอีกคือ RCI ได้รับออเดอร์จาก Ford ในการสร้างโชว์รูมทั่วประเทศ

ก็มาเล่าสู่กันฟัง

นอกจากกระเบื้องแล้วที่ผมเห็น บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็ SUPER TPIPL AA APRINT SWC SINGHA L&E SCC อาจจะหลุดไปบางบริษัทก็ขออภัย

ที่เห็นแล้วแปลกใจก็ ซุ้มของ AYS กับ ACS ที่มาหาลูกค้าในงาน ก็เลยเข้าไปสมัครเล่นๆซะหน่อย งานนี้ไปดูวันเดียวไม่พอครับ สำหรับผม

กระเบื้องตารางเมตรละ1000 บาทผมพึงได้ยิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 09, 2005 11:16 pm
โดย por_jai
แบรนด์ RCI กับ CAMPANA จับตลาดกลางถึงบน ส่วน COTTO จับตลาดล่างถึงกลาง
พ้มว่ามันสลับกันมากกว่านา
แบรนด์ RCI กับ CAMPANA ลูกค้าส่วนใหญ่จะได้จากบริษัทสถาปนิก ซึ่งมีอำนาจ แนะนำบริษัทรับเหมาอีกต่อ นอกจากนั้น ก็ขายผ่าน distributor พวก Hmpro, etc.

คนขาย RCI บอกว่ายอดขายยังโตเรื่อยๆ และคงไม่โตเร็วมากเกินไปนัก เพราะสองปีที่ผ่านมาโตค่อนข้างมากแล้ว เขาว่า สัก 4-5 ปีจะหมด cycle ด้านนี้ ที่ทราบมาอีกคือ RCI ได้รับออเดอร์จาก Ford ในการสร้างโชว์รูมทั่วประเทศ
อย่างเนี้ยเขาเรียกสถาปนิกระบุสเป็คว่า งานออกแบบของเขาให้ใช้กระเบี้องของRCI
ลวดลายนั้นๆ
สถาปนิกมีอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมสูง ในการระบุใช้วัสดุใดๆในงานโครงการ
ทำให้งานสถาปนิก"48 หรือปีไหนๆก็คึกคัก มีบริษัททั้งหลายไปโชว์สินค้า นวัตกรรม
ใหม่ๆ ให้ตลาดรู้จัก