หน้า 1 จากทั้งหมด 3

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 29, 2005 8:57 am
โดย mrdew
เห็น thaivi มีหมอหลายคนน่าจะได้ไอเดียอะไรดี ๆ
อ่านคอลัมภ์นี้ครับ
http://www.thairath.co.th/thairath1/254 ... 9_4_48.php

ชาว VI ชอบ BH ไหมครับ?

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 29, 2005 11:12 am
โดย adi
ก็เล็งๆอยู่เหมือนกันครับ แต่อยากได้ราคาถูกๆกว่านี้

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 29, 2005 4:31 pm
โดย mustang
ไม่สนใจ ntv แบบผมบ้างหรือครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 12:29 am
โดย ปรัชญา
:mrgreen: หุ้นลงรอบนี้ โรงพยาบาลคงมีรายได้เพิ่ม

คนเล่นหุ้นเสีย เมียตีได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
คนเล่นหุ้นเสียกู้หนี้ยืมสินมาไม่มีจ่าย กินยาฆ่าตัวตาย ไปโรงพยาบาล
ส่วนคนยิงตัวตายประท้วงที่หลักทรัพย์มีคนเดียว แต่ยิงตัวตายที่อื่นๆคงมีหลายคน
มันไม่ถึงฆาตรก็นำส่งโรงพยาบาล รวยเพราะผู้อื่นเป็นทุกข์...

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 12:36 am
โดย harry
คงไม่รายได้เพิ่มมั้งครับ

เพราะเงินหมดไปกับหุ้นแล้ว จะเอาที่ไหนมาจ่ายค่ารักษาล่ะครับ :lovl: :lovl:

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 2:17 am
โดย woody
สามสิบบาทรักษาทุกโรคไงครับ แต่จะว่าไปรัฐพึ่งอนุมัติให้เงินอุดหนุนแก่โรงพยาบาลเพิ่มเติมในโครงการนี้นี่ครับ โรงพยาบาลบางแห่งคงได้รับผลประโยชน์ไปด้วย แต่ BH นี่คง ไม่เกี่ยวมั้งครับ :twisted:

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 9:01 am
โดย Jeng
หุ้นโรงพยาบาลไม่ค่อยดี เพราะหมอมีรายได้เยอะ(เอกชน)

อืม พูดตรงไปหรือเปล่า

คือกิจการอย่างอื่นเวลามีรายได้ดี พนักงานส่วนใหญ่ ก็มีรายได้ปกติ

หุ้นโรงพยาบาล ก็เหมือนหุ้นสายการบิน นักบินชอบประท้วง หมอก็เหมือนกัน คุมยาก

พูดจาดี แต่ถ้าได้ประโยชน์ไม่พอ ก็มีทางเลือกเยอะ

ผมว่างั้นนะ ใครคิดอย่างไรบ้าง เห็นมีหมอเยอะก็เลยวิจารณ์ตรงๆ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 11:07 am
โดย mrdew
ปรัชญา เขียน::mrgreen: หุ้นลงรอบนี้ โรงพยาบาลคงมีรายได้เพิ่ม

คนเล่นหุ้นเสีย เมียตีได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
คนเล่นหุ้นเสียกู้หนี้ยืมสินมาไม่มีจ่าย กินยาฆ่าตัวตาย ไปโรงพยาบาล
ส่วนคนยิงตัวตายประท้วงที่หลักทรัพย์มีคนเดียว แต่ยิงตัวตายที่อื่นๆคงมีหลายคน
มันไม่ถึงฆาตรก็นำส่งโรงพยาบาล รวยเพราะผู้อื่นเป็นทุกข์...
แล้วถ้าเล่นหุ้นเสีย แล้วเมียไม่ให้เข้าบ้าน จะไปไหนดีครับ? :D

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 11:15 am
โดย CK
หุ้นโรงพยาบาลไม่ค่อยดี เพราะหมอมีรายได้เยอะ(เอกชน)
องบำรุงราษฏร์ ค่าหมอกับค่า facility และยา แยกเก็บอยู่แล้วครับ หมอจะคิดค่า
รักษาเท่าไหร่ก็แจ้งรพ. รพ.ก็เก็บเงินให้แทน ส่วนค่ายา+facility ก็เก็บไว้เอง

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 4:02 pm
โดย ขุนอิน
แหมพี่เจ๋ง ถึงว่าทำไมหนังตาผมกระตุก 55555

ถามผมเรื่อง bh ผมต้องตอบว่าดีแน่สำหรับผมนะ เพราะผมสามารถ monitor ผลประกอบการได้ทุกเดือนเลย ค่อนข้างแม่นยำซะด้วย

อีกอย่างผู้บริหารเท่าที่เห็นก็ตั้งใจทำงานมาก เป็นมืออาชีพ ไม่มานั่งปั่นหุ้นเหมือนบางโรงพยาบาล

ธุรกิจก็เป็นขาขึ้นชัดเจน วิธีการทำตลาดก็เฉียบคม หากินกับคนทั้งโลกโดยที่ไม่ต้องพึ่งเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 5:09 pm
โดย สุมาอี้
ชอบหุ้นตัวนี้ที่สุดในตลาดเลยครับ เพราะเป็นหนึ่งในบริษัทของไทยไม่กี่บริษัทที่พูดได้เต็มปากว่ามีระบบการบริหารจัดการที่ไม่น้อยหน้าประเทศไหนๆ ในโลกครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 7:33 pm
โดย Knott
Jeng เขียน:หุ้นโรงพยาบาลไม่ค่อยดี เพราะหมอมีรายได้เยอะ(เอกชน)
แหมพี่เจ๋งครับ รายได้แพทย์เมื่อเพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้รายได้โรงพยาบาลลดลงนะครับ เพราะเรียกเก็บค่าแพทย์ต่างหากจากคนไข้โดยตรงอยู่แล้ว โดยโรงพยาบาลหักเปอร์เซนต์ค่าแพทย์ที่เรียกเก็บส่วนหนึ่ง โดยถือว่าเป็นค่าเช่าสถานที่ประกอบการและค่าบริการในการเรียกเก็บให้ ดังนั้นหากแพทย์รายได้เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลก็มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย เพียงแต่สัดส่วนแตกต่างกัน เพราะรายได้โรงพยาบาลส่วนใหญ่มาจากมาร์จิ้นของค่ายา / แลบ / เวชภัณฑ์มากกว่าครับ
Jeng เขียน: หุ้นโรงพยาบาล ก็เหมือนหุ้นสายการบิน นักบินชอบประท้วง หมอก็เหมือนกัน คุมยาก

พูดจาดี แต่ถ้าได้ประโยชน์ไม่พอ ก็มีทางเลือกเยอะ

ผมว่างั้นนะ ใครคิดอย่างไรบ้าง เห็นมีหมอเยอะก็เลยวิจารณ์ตรงๆ
โรงพยาบาลระดับบำรุงราษฎร์ไม่ต้องง้อแพทย์เลยครับ เพราะมีแต่แพทย์ที่อยากเข้าไปทำงานที่นั่นอยู่แล้ว ใครคุยยากก็เชิญไปทำที่อื่นได้ หรือมีปัญหามากก็หาแพทย์สาขาเดียวกันมาเพิ่มอีกได้ โรงพยาบาลไม่ต้องจ่ายเพิ่มเพราะไม่ต้องจ่ายเงินเดือนแพทย์ ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไป จะมีแพทย์กี่ร้อยกี่พันคนก็ได้ จะมีแพทย์ที่เป็น"แม่เหล็ก"อยู่ไม่กี่คนที่โรงพยาบาลต้องเอาใจมากหน่อย คือคนที่มีชื่อเสียงส่วนตัวดี มีคนไข้ต้องการมาหาเยอะ พวกนี้ถ้าไปที่อื่นมักจะดึงคนไข้ไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่มาเพราะชื่อเสียงโรงพยาบาลมากกว่า ยิ่งต่างชาติด้วยแล้ว แทบจะไม่รู้จักชื่อแพทย์มาก่อนด้วยซ้ำ รู้แต่ว่ามาที่นี้แล้วรักษาดี จะแพทย์คนไหนก็ได้

สักษณะที่กล่าวมานี้ ไม่ได้เป็นเฉพาะบำรุงราษฎร์นะครับ แต่โรงพยาบาลเอกชนใหญ่ๆที่ชื่อเสียงดีในกรุงเทพเป็นหมดทุกแห่ง :evil: :evil:

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 30, 2005 10:38 pm
โดย ขุนอิน
5555 มีพวกแล้ว

ผมแก้ตัวแทนนักบินด้วยครับ คือโดยมาตรฐานแล้วนักบินการบินไทยก็ได้เงินเดือนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นแหละถ้าเทียบกับสายการบินอื่น ๆ ของบ้านใกล้เรือนเคียง

ปัญหาเมื่อธุรกิจการบินรุ่งเรืองจะเกิดปัญหาสมองไหลของนักบิน นักบินไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ นะครับ ค่าวิชาชีพก็ต้องแพงตามความยากของงานและความรับผิดชอบในหน้าที่

ถ้าผมจะว่าพวกผู้บริหารบริษัทที่คิดเบี้ยประชุมกันแพง ๆ เงินเดือนก็เป็นล้านก็คงว่าได้่เช่นกัน

นักบินที่มีอุดมการณ์ในการบินไทยก็ยังมีเยอะ พวกนี้ยังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างดีแม้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหาร แต่นักบินแย่ ๆ ก็มีเหมือนกันพวกที่ไม่เอาอะไรแล้ว ไม่มีที่ไป ความรู้ก็ไม่พัฒนา

เป็นธรรมดาของระบบบริหารแบบไทย ๆ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 12:09 am
โดย dr_norr
มีเพื่อนทำงานที่ BH และก็มีเพื่อนไปคลอดลูกที่ รพ.นี่ เคยไปเยี่ยม ส่วน ข่าวที่ออกอากาศก็เคยดู

- พบว่าโรงพยาบาล จะเน้นสัดส่วนไปที่คนไข้ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางซึ่งชอบมารักษามาก เพื่อนจะเล่าให้ฟังว่ามีแผนกที่ติดต่อกับชาวต่างชาติ จะมาขอข้อมูลการรักษา ค่าใช้จ่าย แล้วเพื่อน ก็จะติดต่อสอบถาม staff ด้านนั้น เช่น เคยมีญาตินักการเมืองระดับสูงในประเทศติดกับไทยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มาเปลี่ยนไขกระดูกในเมืองไทย หรือพระราชวงศ์ในตะวันออกกลางที่มารักษาโรคต่างๆ เช่น หัวใจ มะเร็ง

-เวลาต่างชาติมาบริการก็จะดีมาก เวลาผู้ป่วยกับประเทศ มีบริการให้แพทย์นั่งเครื่องบินไปส่งผู้ป่วยในต่างประเทศด้วย เพราะเพื่อนก็เคยไป

- ที่พักก็มีบริการ ซึ่งการบริหารจัดการก็จะคล้าย ๆ กับโรงแรม

- แพทย์ส่วนใหญ่ จะเป็น american board เพราะมีการ contact กับทาง U.S.A.
ผู้บริหารบางคนก็เป็นชาว U.S.A. และจะมีแพทย์ที่ชำนาญภาษาต่างชาติหลายภาษเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วย

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 1:46 am
โดย woody
เอ่อ พี่ขุนอินครับ แล้วที่หนังสือพิมพ์เคยลงข้อความเนื้อหาอย่างคร่าวๆว่า อัตราการเข้ารักษาของคนไข้ต่างประเทศจะเริ่มอิ่มตัวในอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า ทางโรงพยาบาลจึงต้องเริ่มขยายการบริหารงานไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ฯลฯ พี่ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยอย่างไรครับ

อีกอย่างพี่ว่า ถ้าเทียบประเทศไทยกับสิงคโปร์แล้วเรายังพอมีความได้เปรียบอยู่อีกมากน้อยขนาดไหนครับ

รบกวนตอบคำถามด้วยนะครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 2:29 pm
โดย Knott
ขุนอิน เขียน: 5555 มีพวกแล้ว
:wink:
woody เขียน: อัตราการเข้ารักษาของคนไข้ต่างประเทศจะเริ่มอิ่มตัวในอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า ทางโรงพยาบาลจึงต้องเริ่มขยายการบริหารงานไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ฯลฯ พี่ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยอย่างไรครับ
ไม่แน่ใจว่าที่ว่าจะอิ่มตัวอีก 2-3 ปีข้างหน้า ประเมินจากอะไรนะครับ หากดูสัดส่วนของชาวต่างประเทศที่มารักษาตัวที่เมืองไทยเทียบกับจำนวนชาวต่างประเทศทั้งหมดที่สามารถเดินทางไปรักษาตัวนอกประเทศของตนเอง ถือว่ายังมีสัดส่วนน้อยมาก เพราะเราเพิ่งเริ่มส่งออกบริการทางการแพทย์ได้ไม่กี่ปีเอง

ปัจจัยที่จะทำให้ชาวต่างชาติมารักษาที่เราน้อยลง หรือไม่เพิ่มขึ้น เท่าที่เห็นน่าจะมี 2-3 เรื่องใหญ่ๆ

1. ราคาค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันเรายังถูกกว่าประเทศคู่แข่งเช่นสิงค์โปร์อยู่ 2-4 เท่า แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไรที่ราคาไม่ต่างกันก็อาจทำให้คนมาน้อยลงได้

2. คู่แข่งต่างประเทศ ทั้งเจ้าเดิมเช่นสิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน บราซิล หรือประเทศใหม่ๆที่อาจก้าวเข้ามาในเวทีนี้ ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนมากนักว่าจะมีใครก้าวเข้ามาบ้าง

3. เศรษฐกิจโลกที่แย่ลง ทำให้กำลังซื้อคนลดลง แต่กลุ่มคนที่มารักษาตัวต่างประเทศได้มักได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มรากหญ้้าในแต่ละประเทศ

หากินกับประชากรทั้งโลกได้ โอกาสอิ่มตัวยังยากอยู่ สำคัญที่ความสามารถในการแข่งขันซึ่งของไทยยังค่อนข้างดี ทั้งคุณภาพแพทย์ ทักษะทางภาษา (กลุ่มแพทย์ที่จบต่างประเทศ) และราคาค่ารักษาพยาบาลที่ยังถูกอยู่ครับ

การกระจายสาขาไปต่างประเทศ เป็นยุทธวิธีที่ดีในการสร้าง brand recognition ในต่างประเทศ และทำการตลาดในประเทศนั้น รวมทั้งส่งต่อผู้ป่วยซับซ้อนมายังโรงพยาบาลแม่ แล้วติดตามการรักษาทีประเทศเดิมที่โรงพยาบาลสาขา ปัจจัยเสี่ยงคือความเข้าใจในธุรกิจการรักษาพยาบาลในแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่่างกันไป และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในแต่ละที่ แต่หากมีหลายประเทศมากพอก็จะเป็นการลดความเสี่ยงลงได้ แต่ต้นทุนจะสูงขึ้นครัีบ

:) :) :)

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 2:55 pm
โดย woody
ขอบคุณมากครับ พี่ Knott ไหนๆ แล้วขออนุญาติถามต่อเลยนะครับ ว่าเมื่อเทียบ BH กับ BGH แล้ว พี่มีมุมมองเป็นอย่างไรบ้างครับ ในขณะที่ BH เริ่มบุกไปต่างประเทศ อัตราส่วนระหว่างคนไข้ต่างประเทศ กับคนไทย ประมาณ 40:60 กับ BGH ซึ่งพยายามทำตัวเองให้เป็น Chain โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยการควบรวม หรือ ซื้อหุ้นโรงพยาบาลอื่นก็แล้วแต่ และมีคนไข้ต่างประเทศต่อคนไทย ประมาณ 30:70........

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:13 pm
โดย CK
BH มีโอกาสโตมากกว่า BGH ครับ ในความคิดของผม

ข่าวที่ออกไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับการที่ชาวต่างชาติจะมารักษามากเท่ากับ
การขายแบรนด์ BH ครับ

ตอนนี้ระบบจัดการบริหารโรงพยาบาลของ BH เป็น brand ไปแล้ว คือมีการ
license และทำเป็น consultation ให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ ในโลก ซึ่งค่าบริการ
ตรงนี้มี margin สูงมาก เกือบๆ 100% เลยก็ว่าได้ครับ

ทำให้กำไรของ BH สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ต่อให้ occupancy
เต็ม 90%+ ตลอด และไม่มีการขยายสาขาก็ตาม

ถ้าทำตรงนี้ดีๆ ผมว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะเห็นโรงพยาบาลระดับหรูใน
ใจกลางกรุงโตเกียว พะยี่ห้อว่า "Certified by Bumrungrad" ฮา...

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:17 pm
โดย Knott
BGH ปัจจุบัน ประมา่ณ 70% ของรายได้มาจากโรงพยาบาลแม่ที่ซอยศูนย์วิจัย ซึ่งสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศ กับคนไทย ประมาณ 20:80 (30:70 เป็นตัวเลขของทั้งเครือ) ทิศทางหลักของ BGH เป็นตลาดคนไทยมากกว่า โดยอาศัยข้อได้เปรียบคือเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดจากจำนวนเตียง BGHเน้นเรื่องระบบการรับส่งคนไข้ต่อ ทั้งจากภายในเครือและจากโรงพยาบาลอื่นๆ ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเครือข่ายจะตั้งอยู่ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ เช่นพัทยา ภูเก็ต สมุย หาดใหญ่ ตราด(มีสาขาเกาะช้างด้วย) ส่วนทางเหนือและอีสานยังไม่มีเครือข่ายเพราะมีรามคำแหงอยู่แล้ว (ฺBGH ถือหุ้น RAM ประมาณ 20%) ระบบบริหารเครือข่ายจะมีการสนับสนุนต่างๆเช่น การมีทีมจากส่วนกลางไป Audit แต่ละโรงพยาบาลเครือข่ายทุกๆ 3 เดือน มีการส่งคนไปช่วยกรณีที่ขาดแคลนเจ้าหน้าที่ มีการส่งแพทย์ไปช่วยจัดตั้งศูนย์สำคัญ เช่นทีมแพทย์หัวใจ ทำให้โรงพยาบาลเครือข่ายต่างจังหวัดเช่นพัทยาสามารถผ่าตัดเปิดหัวใจได้ มีการตั้งโรงเรียนสอนการบริหารโรงพยาบาลเพื่อพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่ๆขึ้นมา ฯลฯ

สำหรับตลาดต่างประเทศ ทาง BH จะไปได้ไกลกว่าเพราะทีมบริหารส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทีมการตลาด BH ทำการตลาดต่างชาติได้เยี่ยมมาก ของ BGH กำลังพยายามทำตลาดส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น โดยกำลังสร้างโรงพยาบาลผู้ป่วยต่างชาติซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ปลายปีนี้ ในต่างประเทศ BGH ไม่มีการสร้างโรงพยาบาล แต่มีคลินิกอยู่ในหลายประเทศ เช่นกัมพูชา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง และจีน เป็นต้น ซึ่งเน้นเป็น Brand recognition และเครือข่ายในการหาผู้ป่วยส่งมาที่โรงพยาบาลในประเทศไทยมากกว่า

สรุปว่าทั้ง BGH และ BH น่าสนทั้งคู่ อัตราการเติบโตน่าจะสูสีกัน แต่เด่นกันคนละตลาด หากเศรษฐกิจในประเทศไทยดี BGH น่าจะโตได้เร็ว แต่หากเศรษฐกิจในประเทศไทยชะลอตัว BH จะมีตลาดต่างชาติซึ่งไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศไทยมารองรับได้ดีกว่า

ข้อเสียหลักของ BGH ขณะนี้ที่ทำให้ไม่มีใครใน web TVI นี้สนใจคือค่า P/E ที่สูงลิ่ว ในขณะที่ P/E BH ดูจะสมเหตุสมผลมากกว่าเมื่อเทียบกับ growth ครับ

:P :P :P

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:23 pm
โดย CK
กระจ่างเลยครับ คุณหมอ knott :0)

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 6:40 pm
โดย woody
พี่ Knott รักษาอาการสงสัยให้กระจ่างเลยครับ ขอบคุณมากๆ :mrgreen:

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 11:52 pm
โดย Cartoon
มีใครได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นมามั่งครับ :)

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 2:03 am
โดย woody
อ้อ อีกนิดนึงนะครับ P/E ที่สูงลิ่งของ BGH ตอนนี้เกิดจากการควบรวมกิจการในปีที่ผ่านมาด้วยหรือเปล่าครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 8:02 am
โดย สุมาอี้
ไปของ BH มาครับ อยากรู้เรื่องอะไร

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 1:47 pm
โดย woody
งั้นถามพี่สุมาอี้ต่อนะครับ

1. ผู้บริหารมีใบ้ Growth ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าไว้บ้างหรือเปล่าครับ

2. อ้อ แล้วการไปลงทุนที่ต่างประเทศนั้นเหตุผลหลักคือ ต้องการสร้าง Recognition ให้ตัวโรงพยาบาลแม่ที่กรุงเทพฯ หรือว่าไปตั้งหลักอยู่ตรงนั้นจริงๆ เลยครับ

3. การควบคุมคุณภาพของโรงพยาบาลในต่างประเทศ มีการควบคุมอย่างไรครับ

:o

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 2:12 pm
โดย surachav
พอดีมีพรรคพวกที่ทำงานเดียวกันไปรักษาที่ BH มา แกบอกว่าจะไม่ไปอีกแล้วครับ เห็นว่าเอาใจแต่ฝรั่ง แกเป็นคนไทยไม่เห็นสนใจเลย ปล่อยให้รอคิวตั้งนาน แล้วโดนฝรั่งแซงคิวไปเสียอีก
ไม่รู้ว่าเน้นลูกค้า ตปท.เกินไปหรือเปล่าครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 2:38 pm
โดย CK
ผมใช้บำรุงราษฎร์มาตลอดครับ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ลูกค้าต่างชาติเยอะก็จริง
ครับ แต่ก็ไม่ได้รับการบริการอะไรพิเศษนอกจากมีล่ามแปลภาษาตามไปตลอด

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 3:43 pm
โดย Heroine
ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย จากกระทู้นี้อีกแล้ว ดีใจจัง :B รออ่านต่อค่ะ รบกวนคุณสุมาอี้ซึ่งได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นมาตอบข้อสงสัย ของคุณ woody ด้วยค่ะ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 3:56 pm
โดย Jeng
ขอบคุณทุกท่านมากครับ

ชาว VI ชอบ BH ป่ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 02, 2005 4:01 pm
โดย สุมาอี้
ขอตอบดังนี้ครับ

1. Growth ไม่ได้มีการพูดถึงเป็นตัวเลขในที่ประชุม เพียงแต่บอกว่า ตึก 22 ชั้นจะเริ่มให้บริการส่วนโรงพยาบาลได้ในปี 49 โดยจะย้ายบางแผนกไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้สามารถ renovate ห้องในตึกเก่าได้หลังจากที่ไม่ได้ renovate มานานถึง 9 ปีเนื่องจากอัตราการใช้เตียงของตึกเก่าเต็ม 100 เปอร์เซนต์ถ้า renovate จะเสียรายได้ ดังนั้นรายได้ปี 49 น่าจะเติบโตจากการขยายพื่นที่ให้บริการไปยังตึกใหม่เป็นหลักครับ ส่วนรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาหลังปี 49 เป็นต้นไปครับ

ถ้าใครอ่านหนังสือพิมพ์จะทราบว่า BH เคยให้ข่าวว่าปี 48 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเพียงร้อยละ 15 เท่านั้นทั้งทีปี 47 รายได้เติบโตถึงร้อยละ 29 เนื่องจากตอนนี้ตึกเก่าเต็มหมดแล้ว (supply โตไม่ทัน demand)

2. การลงทุนในต่างประเทศเป็นแบบ Joint-venture เช่น ให้โรงพยาบาลต่างประเทศลงทุนเรื่องตึกและที่ดิน ส่วนบำรุงราษฎร์ลงทุนเรื่องการบริหารจัดการและอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น BH จะมีรายได้ทั้งจากกำไรของโรงพยาบาลและค่าจ้างบริหารจัดการครับ เอาเป็นว่าไปปักหลักอยู่ครึ่งตัวก็ละกัน

3. อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ เข้าใจว่าจะมีการส่งบุคลากรเข้าไปด้วย จุดหนึ่งที่ BH มีชื่อมากคือระบบไอที ซึ่ง BH ลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เองตรงนี้น่าจะถูกนำไปใช้ในต่างประเทศและคงมีส่วนช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย