Thai VI

จะทะลุถาวรหรือไม่ พรุ่งนี้ติดตามชมค่ะ

ทำไมต้อง 200 วัน 180 วันไม่ได้หรือ หรือจะเป็น 210 วันได้ไหมครับ

ไม่ได้กวนแต่อยากรู้

ทะลุขึ้น หรือ ทะลุลงครับ

แล้วหมายถึงดัชนี หรือ หุ้นตัวไหนครับ

76-200 วัน เป็นการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ในระยะยาว (long term)
ก็คือแนวโน้ม ที่น่าจะเป็นไปของค่าที่เราวัด(ดูค่าเคลื่อนที่ 2 เส้นตัดกัน ทำให้เกิดลักษณะสัญญาณซื้อหรือสัญญาณขาย)

ถามว่า 10 ,25 ,50 วัน ก็ดูได้ครับ ถ้าน้อยวันก็เป็นลักษณะ short term

และการวัดค่าเฉลี่ย โดยเทียบกับระยะเวลาก็ต้องให้สอดคล้องกับวิธีการวัด

หลักๆก็มี EMA , SMA , DEMA , TEMA , HMA มีอีกเยอะครับ รวมถึงวิธีการใหม่ๆ แต่ล่ะวิธีก็ต้องให้เหมาะสมกับระยะเวลาด้วยครับ

chatchai เขียน:ทำไมต้อง 200 วัน 180 วันไม่ได้หรือ หรือจะเป็น 210 วันได้ไหมครับ

ไม่ได้กวนแต่อยากรู้

ที่เป็น 200 วัน ก็เป็นจิตวิทยาไงครับพี่ คือส่วนใหญ่ดู 200 วัน แล้วจะรู้สึกเป็นกังวลเมื่อดัชนีหรือราคาหุ้นหลุดลงมา ดังนั้นถ้ามีคนแรกโยนหุ้นทิ้ง คนที่ 2, 3 , 4 ก็จะโยนทิ้งตาม

ที่ไม่เป็น 210 วันก็เพราะมันยังไม่ฮิตครับ แต่ถ้าอีกหน่อยมีคนมาโม้ว่าเทรดตาม 210 วันแล้วได้กำไร มันก็จะเริ่มสำคัญขึ้นมาไงครับ

จริงๆ แล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิคมันต้องมีการทำ Back test ด้วย เพื่อทดสอบว่าแนวทางของเรานั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน (เพราะเทคนิคเคิลเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย)

แต่หลายครั้งที่นักเก็งกำไรชอบใช้ไสยศาสตร์แทน เช่น กรณี 200 วันนี้ก็เช่นกัน เคยตรวจสอบย้อนหลังกันมั้ยครับ ว่าการขายเมื่อหลุด 200 วัน หรือซื้อเมื่อผ่าน 200 วัน หลังจากนั้นผลเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็ฟังๆ เค้ามา โดนกับดักทางจิตวิทยาทั้งนั้นแหละครับ

200 วัน ไม่ค่อยสนเท่าไหร่ค่ะ

ไปรับระดับ Week ดีกว่า

back testing อย่างเดียวไม่พอครับ ต้องทำ optimization ด้วยครับ

ผม run optimization ของค่าเฉลี่ย ทั้ง MA และ EMA มาแล้วครับ
สำหรับ SET

ตั้งแต่ 2 วันไปจนถึง 200 วัน (อืมม์ 210 วันไม่ได้ลองแฮะ)

สรุปว่าทุกวิธี กำไรสู้ buy & hold ไม่ได้เลยครับ ในระยะยาวจริงๆ

เฉพาะฉะนั้น พวกเส้นค่าเฉลี่ย เอาไว้ใช้ confirm trend ก็พอ
ไม่ควรนำมาใช้ในการตัดสินใจครับ

ยังมี indicators อีกหลายตัวที่ backtest ออกมาแล้ว กำไรสูงกว่า
buy & hold ครับ ตัวที่ผมชอบที่สุดทำได้สูงถึง 30% ต่อปีในระยะ
14.3 ปี (จาก มกรา 1990)

ที่น่าแปลกคือ เมื่อทำ optimization แล้ว (คือ back test พวก
parameter ทุกตัว) พบว่าวันที่ใช้แล้วได้ผลดีที่สุด มักจะไปลง
ตรง fibonacci series พอดี (แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี)

ทำไมต้อง 200 วัน 180 วันไม่ได้หรือ หรือจะเป็น 210 วันได้ไหมครับ

ไม่ได้กวนแต่อยากรู้

จุดจิตวิทยา
เหมือนดาบสองคม

ถ้าทุกคนอ่านแล้วเชื่อ น่าจะมีคนอ่านแล้วเขียนให้อ่าน
ตรงนี้ กลัวนักใช่ไหม เอาไปเลย (นิดเดียวพอนะ)
ตรงนี้ทะลุน่าเล่นใช่ไหม เอาไปสิ (เอาไปเยอะๆเลย)

ยิ่งเล่นสั้น ยิ่งอันตราย
ยิ่งไม่รู้พื้นฐาน ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ ยิ่งอันตรายมากๆ

งบการเงิน เป็นบันทึกเกี่ยวกับ การดำเนินงานของธุรกิจนั้นๆ
กราฟ และเครื่องมือทาง เทคนิคอื่นๆ เป็นบันทึกเกี่ยวกับ อารมณ์ โดยผ่านราคา กับ volume

เวลาอ่านงบ ผมรู้สึกว่า มันต้องใช้เหตุผล และ ความเข้าใจทางบัญชี
ในขณะที่ อ่านกราฟ แล้วผมใช้จินตนาการได้ง่ายกว่ามาก

จึงเป็นเรื่องอันตรายมาก ถ้าเราไม่เข้าใจมันจริงๆ แล้วเล่นตามเขา

CK เขียน: เฉพาะฉะนั้น พวกเส้นค่าเฉลี่ย เอาไว้ใช้ confirm trend ก็พอ
ไม่ควรนำมาใช้ในการตัดสินใจครับ

เห็นด้วยครับ เส้นค่าเฉลี่ยด้วยเนื้อแท้ในทางสถิติมันเกิดขึ้นเพื่อใช้ลด errror ของข้อมูลดิบๆ ลง เพื่อให้เราสามารถมองแนวโน้มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้นประโยชน์หลักจึงควรใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม ไม่ใช่ใช้เพื่อเป็นสัญญาณซื้อหรือขาย ดังเช่นที่นักวิแคะเทคนิคบางทั่นเอาไว้จัดสัมมนาพื้นๆ หลอกเอาเงินรายย่อยหรอกครับ

ยังลงได้อีกดัชนีหุ้น แต่หุ้นคงไม่ลงทุกตัว เหอๆ

หาเส้น300วันมาดูกันดีกว่า...