Thai VI

เห็นลงมามาก
ไม่ทราบว่า พื้นฐานยังเป็นแบบที่ discuss กันก่อนหน้าไหมคะ
(คือทราบคร่าวๆ ว่า ดีมากๆ กำไรต่อหุ้นจะสูงมาก)

อยากได้ update น่ะค่ะ

ขอบคุณมาก

เข้าไปอ่านดูที่บอร์ดกระทิงเขียวดูครับ

พี่ ih บอกว่าทรัพย์สิน 15 บาทกว่าค่ะ และมีการประมาณการจากทาง dbs ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 จะเติบโต yoy 96% และ qoq 10 กว่า % ส่วนไตรมาส 2 จะก้าวกระโดดมากเพราะบันทึกกำไรจาก property fund

เก็บมาฝากจากกระทิงเขียว โดยคุณInvisible Hand

ตามที่บริษัทได้แจ้งตลาดก็คงได้ทราบกันแล้วนะครับว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TFUND ก็ขายหมดแล้ว

ดังนั้นกำไรที่เกิดจากการขายสุทธิก็จะประมาณ 424 ล้านบาท และเมื่อรวมกำไรจากการดำเนินงานก็จะได้กำไรสุทธิโดยประมาณของปี 48 ที่ 724 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น 1.38 บาท ( สมมุติฐานว่ามีหุ้นใหม่ที่เกิดขึ้นจากการ convert warrant จำนวน 10 ล้านหุ้น )

คาดว่าเงินปันผลที่บริษัทจะจ่ายในปีนี้น่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.8 ถึง 1.0 บาทครับ

แต่อย่างไร ประมาณการกำไรต่อหุ้น 1.38 บาท เป็นกำไรที่เกิดจาการขายสินทรัพย์เข้า property fund เพียงครั้งเดียวในปีนี้ แต่ไม่ได้รวมถึงโอกาสที่อาจจะมีการขายสินทรัพย์เข้า property fund ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง

เงินที่บริษัทได้รับจากการขาย property fund ประมาณ 1,150 ล้านบาท TICON จะนำไปลงทุนในโรงงานขนาด 1,500-5,000 ตร.ม. ให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิม และลงทุนในการสร้างโรงงานหรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นธุรกิจที่ ticon ไม่เคยทำมาก่อนเพราะเคยติดข้อจำกัดด้านเงินทุน นอกจากนี้ ticon มีแผนที่จะดำเนินธุรกิจในลักษณะ buy and lease back คือ เข้าไปซื้อโรงงานจากเจ้าของโรงงานเดิม แล้วให้เช่ากลับ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีธุรกิจนี้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ดังนั้น ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ticon ถูกแรงขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาวะตลาดที่ไม่ดี ข่าวลือที่ว่า property fund จะขายไม่หมด รวมไปถึงแรงขายจากนักลงทุนที่ต้องการ sell on fact เพราะที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรข่าว property fund และมองว่าการออก property fund เป็นเพียงแค่ one time

ช่วงที่ผ่านมา แรงขายชนะแรงซื้อ จึงทำให้ราคาลงมาโดยตลอด ซึ่งก็หมายความว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังมองว่าการขายสินทรัพย์เข้า property fund จะเกิดขึ้นครั้งเดียว ซึ่งหากเรามองว่าปีที่ผ่านมา ticon สามารถเพิ่มลูกค้าได้ 39 โรงงาน และขายสินทรัพย์เข้า prop fund ไป 39 โรงงานเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้โรงงานลดลงเพราะจำนวนที่ขายไปเท่าที่เพิ่มมาในปีก่อน ใน 2 เดือนแรกของปี 48 นี้ ticon มีลูกค้าเพิ่ม 14 โรงงาน ( เดือนละ 7 ถ้าบรรญัตไตรยางค์ก็จะได้ปีละ 84 ) ซึ่งหากคิดแบบ conservative คือ ทั้งปี 48 ticon มีลูกค้าเพิ่มได้ 50-60 โรงงาน การขายโรงงานเข้า prop fund จำนวน 40-50 โรงงานในปีหน้า ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก และนี่ยังไม่รวมโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ผมเล่าไว้ข้างต้นคือการสร้างโรงงานขนาดใหญ่และธุรกิจ buy and lease back

ดังนั้น in the short term, stock price is a market voting, in the long term, stock price is a market weighting. ก็คงต้องรอดูยาวๆ ครับว่า ticon จะทำให้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้า prop fund เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นทุกปีได้หรือไม่

หลายคนอาจจะมองว่าการออก prop fund คือการจบ story ของหุ้น และ sell on fact แต่ผมมองว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของ story ที่ยาวนานครับ เงิน 1150 ล้านบาท ที่ได้ไป บวกกับความสามารถในการก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากฐานของ equity ที่เพิ่ม ทำให้ ticon น่าจะมีเงินลงทุนในปีนี้อย่างน้อย 2,000 ล้านบาท ซึ่งเงินตรงนี้ทำอะไรได้เยอะทีเดียวครับ

ผมว่าผู้บริหารฉลาดนะครับ ที่เอา equity มาแปลงให้เป็นกำไรได้แบบง่ายๆ


สิ่งที่ผมห่วงคือ แล้วปีต่อไป equity จะเหลือเท่าไหร่ละครับ

จากตอนนี้ที่มีประมาณ 3 บาทกว่าๆ book value นะครับ 3 บาทกว่าๆ

เทรดกันที่ p/b 2.5

sell on fact คงจะเกิดอีกครั้งตอนประกาศกำไรจากการขาย equity งวดนี้

คุณIH คิดว่าราคาเป้าหมายของTICONในยุคทักษิณ เป็นเท่าไรครับ
กระทู้โดย : หนุ่มเหนือ(18)




Posts : 18
Replies : 49



« เมื่อ 11/04/2005 , 18:12:10 »
--------------------------------------------------------------------------------
อยากทราบความคิดเห็นส่วนตัวของคุณIH ว่าราคาเป้าหมายของTICONในยุครัฐบาลทักษิณ เป็นเท่าไรครับ ส่วนผม ผมคิดว่าประมาณ30-40บาท กะคร่าวๆเอาเองครับ




**กำจัดไขมันส่วนเกิน** ลดน้ำหนัก 4 - 13 กิโล ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ใช่ยา ได้ผลปลอดภัย 100% Click Here Now!!


ตอบกลับโดย : thiennai





Posts : 2
Replies : 11 « Reply #1 เมื่อ 12/04/2005 , 19:58:13 »
--------------------------------------------------------------------------------
ประจำวันที่ 12 เม.ย. 2548 ชื่อบริษัท ชื่อผู้บริหาร ความ
สัมพันธ์ ประเภท
หลักทรัพย์ วันที่รับเอกสาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย หมายเหตุ
ทรีนีตี้ วัฒนา บมจ.(TNITY) ภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/04/2548 07/04/2548 100,000 12.80 ซื้อ
ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น บมจ.(TICON) ตรีขวัญ บุนนาค ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/04/2548 08/04/2548 20,000 9.20 ซื้อ
แพค เดลต้า บมจ.(PD) ปัญญา นิลสินธพ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2548 11/04/2548 10,000 10.20 ขาย
ยูไนเต็ด เปเปอร์ บมจ.(UTP) กำจร ชื่นชูจิตต์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2548 11/04/2548 5,000 7.45 ซื้อ
ยูไนเต็ด เปเปอร์ บมจ.(UTP) กำจร ชื่นชูจิตต์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2548 11/04/2548 45,000 7.50 ซื้อ
ยูไนเต็ด เปเปอร์ บมจ.(UTP) กำจร ชื่นชูจิตต์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2548 11/04/2548 89,700 7.55 ซื้อ
โรงงานผ้าไทย บมจ.(TTI) กำจร ชื่นชูจิตต์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2548 11/04/2548 1,000 26.00 ซื้อ



ตอบกลับโดย : Invisible_hand





Posts : 61
Replies : 1312 « Reply #2 เมื่อ 13/04/2005 , 01:05:42 »
--------------------------------------------------------------------------------
Ha ha ทำไมต้องเจาะจงรัฐบาลด้วยล่ะครับ บริษัทที่ดีควรจะสร้างกำไรได้ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลไม่ใช่หรือครับ

ผมเชื่อว่าหากประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตย มีเสถียรภาพของรัฐบาลในระดับหนึ่ง และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรมากไปกว่าที่เกิดอยู่นัก ราคาน้ำมันไม่สูงจนเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะตกต่ำอย่างหนักแล้ว การลงทุนทางตรงน่าจะยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ

สำหรับเป้าหมายนั้น คิดว่ายังไงก็สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันแน่นอนครับ เพราะราคาใช้สิทธิ esop ปัจจุบันก็ 9 บาท ก็เท่ากับว่าหากผู้บริหารไม่ออกแรงเยอะๆ ก็จะไม่ได้อะไร ส่วนเป้าหมายจะเท่าไหร่นั้นคงจะไม่เหมาะนักที่จะ post ในที่นี้แต่ผมก็พอจะมีเป้าในใจอยู่ครับ แต่ก็อาจจะเพิ่มหรือลดลงได้ขึ้นกํบภาวะเศรษฐกิจและฝีมือผู้บริหารว่าหลังได้เงินจากการออก property fund จะเอาไปทำอะไรบ้างและจะสามารถสร้างรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้า prop fund ได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

เพียงแต่ในปัจจุบัน Adjusted Net asset value ( Adjusted NAV ) ประมาณการ ณ สิ้นปีนี้ก็น่าจะอยู่ที่ 15 บาทกว่าๆ แล้ว เท่ากับว่าเรากำลังซื้อที่ดินแปลงหนึ่งกับอาคารโรงงาน ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด 40% อยู่ครับ และยังไม่ได้รวม premium ของผู้บริหารเลยครับ




สมาชิกเท่านั้นที่สามารถโต้ตอบในกระทู้นี้ได้

พื้นฐานแน่นขนาดนี้ ยังโดนทุบซะอ่วม เจ้ามือโหดน่าดู
หวังว่าชาว vi ยังคงมั่นคงตามพื้นฐานที่แน่นหนา เหมือนเดิมนะครับ

8) 8) 8) 8) 8)

วันนี้มีโชว์ปาฏิหารย์ครับ แต่เป็นปาฏิหารย์เทียมนำเสนอออกอากาศทางช่อง 9 ตอน 10 โมงกว่าๆ (อีกแล้วครับท่าน)

TOYOTA ประกาศลงทุนตั้งโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งยังไม่สรุปว่าจะลงที่ใดคงไม่ไกลกรุงเทพเท่าไหร่ มูลค่าการลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาทซึ่งจะเริ่มสร้างในปีนี้แน่นอนกำลังการผลิต 1 แสนคันต่อปีดำเนินการผลิตได้ในปี 2550 และขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์เป็น 2 แสนคันต่อปีมูลค่าการลงทุน 3 พันล้านบาท ดำเนินการผลิตได้ในส่วนที่ขยายปีหน้า

และที่สำคัญคือกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ทาง TOYOA ที่ตามมาด้วยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.9 หมื่นล้าน ในส่วนนี้น่าจะเป็นเป้าหมายทีเดียวครับ

ตัวนี้ทางด้าน fibonnaci เป๊ะมากเลยค่ะ เข้าตลาด h 5.7 low 2.1 จบรอบใหญ่ที่ 261.8% 11.6 เป๊ะ แล้ว ปรับฐานมาที่ 61.8% เป๊ะเลยค่ะที่ 5.7 มาดูเป้าหมายระยะยาวทางเทคนิคว่าจะไปถึงจริงไหม 161.8% ราคา 15.2 261.8 % ราคา21.14 423.6% ราคา 30.69 ถือยาวๆๆๆน่าจะดี ถือจนเงินปันผลคืนทุน เหลือหุ้นไว้เป็นกำไร

ถ้านับรอบใหม่ จาก 5.7 ขึ้นมา h 12.6 ปรับฐานลงมาที่ 8.30 (61.8%) ถ้าเด้งไม่
ผ่าน 9.90 (38.2%) ก็เป็นแค่ rebound สั้นๆ ครับ (มองในแง่ร้าย)

แต่ถ้าผ่านก็น่าสนใจ

เล่นกางแผ่นที่เป้าหมายทางเทคนิคกันอย่างนี้เลยเหรอครับ 5555....

เทคนิคใช้ได้ดีก็ต่อเมื่อมีพื้นฐานสอดรับ ยังงั้นมั้ยครับ..

จะทุบหุ้นลงทางเทคนิคหรือลากหุ้นขึ้นทางเทคนิคพอถึงจุดที่พื้นฐานไม่สอดรับมากๆไม่ว่าจะทางเกินปัจจัยพื้นฐานหรือต่ำกว่า ไม่นานคงต้องกลับไปหาที่อยู่ของมันอยู่ดีอยู่ที่ว่าเมื่อใดเท่านั้น แต่ไว้กำหนดเป็นจุดที่เข้าซื้อคงจะดีมั้งครับ

ยังไงก็อย่าลืมประเด็นที่จะเพิ่มขนาดกองทุนขึ้นเป็น 4000 ล้านด้วยนะครับว่าอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดหรือไม่ ?

คิดว่า fibonacci น่าจะใช้ได้ดีกับตัวนี้ ซึ่งเป็นตัวที่มีพื้นฐานรองรับ ไม่ทราบว่าหุ้นกองทุน ticon จะเข้าตลาดเมื่อไหร่คะ

ถ้ากองแรกเข้าจดทะเบียนในตลาดแล้วมีราคาต่ำกว่าจองละครับ จะกระทบต่อกองใหม่ไหมครับ

ตามมาเก็บข้อมูลครับ

มันขึ้นแปลกๆ นะครับขึ้นสวนกระแสเลย
ก่อนมันขึ้นผมยังลังเลอยู่ว่าจะเก็บดีหรือป่าว
โผล่มาดูอีกที 9 บาทไปแล้ว
ขอเก็บเงินสดไว้ก่อนล่ะกัน

ถ้ากองเดิมราคาลด กองใหม่จะขายได้ก็ต้องให้ yield เพิ่มขึ้นครับ
กำไรจากการขายโรงงานอาจจะต้องลดลง
แต่เหตุการณ์ในทางตรงข้ามก็ส่งผลตรงข้ามเช้นกันครับ

เห็นว่าจะไม่ตั้งกองใหม่นิครับ แต่จะเพิ่มกองเก่า

ราคา 9 บาทก็ไม่แพงเท่าไรนะครับผมว่า เพราะคาดว่าปันผลก็เกือบบาทอยู่แล้ว

เคยอ่านข่าวเจอว่าจะขยายกองทุนให้ถึง 10000 ล้านภายใน 5 ปี

เอ่อ ผมว่าผมอ่านมาเจอแค่ 4,000 ล้านนะครับ นี่คิดจะเอาถึง 10,000 จริงๆ เลยหรือนี่

อืม ถ้า หมื่นล้านจริง ตัวนี้ อาจจะ แค่ 5 ปีก็ได้ปันผลจนคืนทุนแล้ว ฝันเฟื่องไปหรือเปล่านี่