Thai VI

มีเพื่อนท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟัง ถึงสังคมในหมู่บ้านให้ฟัง

คือแกไปซื้อบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้าน ดัง แห่งหนึ่ง
อยู่ได้สักพัก คนข้างบ้างที่ไม่เคยรู้จัก ก็ชวนคุยด้วย
และออกปากเชิญไป งานทำบุญบ้าน ของเขา
เพื่อน ผมก็ไปพาแม่พาเมียไป แต่งตัวเต็มยศ เพราะให้
เกียรติกับเจ้าบ้าน พอไปถึง ก็มอบเงินทำบุญให้ พอ
เจ้าบ้านได้เงินทำบุญ ก็หายต้อมไปสัก2 ชม ในบ้านก็ไม่เปิดแอร์
เพื่อนผมก็คิดในใจว่า เขาคงยุ่งจริงจริง แหละ อย่างน้อย
ก็ได้รู้จักเพื่อนบ้านมากขึ้น จากนั้น ดูเหมือนเพื่อนจะไม่
สุงสิงกับเพื่อนบ้านท่านใดในหมู่บ้านนั้นอีก

อ๋อลืมบอกไป เพื่อนผมเขาขายตึกแถวไปอยู่หมู่บ้านนะคับ

ข้อมูลยังน้อยไปครับ

นิสัยคนอยู่ตึก ไม่เหมือนคนอยู่บ้าน

อืม ผมอยู่ตึก ไม่เคยคุยกับคนข้างบ้านเลย ซักครั้ง

คุยแต่เพื่อนๆทางโทรศัพท์ และบางครั้งก็นัดไปสังสรรค์

สาเหตุที่ไม่ได้คุยกับคนข้างบ้าน อาจจะเป็นเพราะ ต้องทักทายกัน แล้ว ก็ทักทายกัน อย่างมากถามว่าเป็นไงบ้าง

คงเบื่อจะทักทายมั๊งครับ

ผมเคยอยู่ตึกแล้วมาอยู่บ้าน

ช่วงหลังมีคนอยู่ตึกแล้วมาซื้อบ้านอยู่ข้างๆ เค้าต่อเติมบ้านใหม่ให้จนเป็นตึก ไม่หลือที่สนามหญ้า แล้วปลูกไม้กระถางนิดหน่อย ที่เหลือเป็นที่จอดรถ4คัน

เลยเหมือนกลับไปอยู่ตึกเหมือนเดิม :lol:

มีเพื่อนท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟัง ถึงสังคมในหมู่บ้านให้ฟัง

คือแกไปซื้อบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้าน ดัง แห่งหนึ่ง
อยู่ได้สักพัก คนข้างบ้างที่ไม่เคยรู้จัก ก็ชวนคุยด้วย
และออกปากเชิญไป งานทำบุญบ้าน ของเขา
เพื่อน ผมก็ไปพาแม่พาเมียไป แต่งตัวเต็มยศ เพราะให้
เกียรติกับเจ้าบ้าน พอไปถึง ก็มอบเงินทำบุญให้ พอ
เจ้าบ้านได้เงินทำบุญ ก็หายต้อมไปสัก2 ชม ในบ้านก็ไม่เปิดแอร์
เพื่อนผมก็คิดในใจว่า เขาคงยุ่งจริงจริง แหละ อย่างน้อย
ก็ได้รู้จักเพื่อนบ้านมากขึ้น จากนั้น ดูเหมือนเพื่อนจะไม่
สุงสิงกับเพื่อนบ้านท่านใดในหมู่บ้านนั้นอีก

อ๋อลืมบอกไป เพื่อนผมเขาขายตึกแถวไปอยู่หมู่บ้านนะคับ

งง นิดนึงครับ ไม่เข้าใจ ว่าสื่อถึงอะไรครับ

ช่วงหลังมีคนอยู่ตึกแล้วมาซื้อบ้านอยู่ข้างๆ เค้าต่อเติมบ้านใหม่ให้จนเป็นตึก ไม่หลือที่สนามหญ้า แล้วปลูกไม้กระถางนิดหน่อย ที่เหลือเป็นที่จอดรถ4คัน

หนี ตัวเอง