หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 04, 2005 11:28 pm
โดย Stock Broker
เพื่อนๆ ว่า ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นในตอนนี้ (ดัชนี ~680) เทียบกับเมื่อสัก 4-5 เดือนก่อน (ดัชนี ~620) ตอนไหนดีกว่ากัน ตอนไหนแย่กว่ากันครับ?

ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตอน 620 ปัจจัยต่างๆ มันดีกว่าตอนนี้นะ

- ตอนนั้นคาดการณ์ GDP ก็สูงกว่าตอนนี้
- ตอนนั้นยังไม่มี สึนามิ
- ตอนนั้นราคาน้ำมันตลาดโลกต่ำกว่าตอนนี้ ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในบ้านเราก็ต่ำกว่าตอนนี้
- ตอนนั้นดอกเบี้ยทั้ง US และบ้านเราต่ำกว่าตอนนี้
- ตอนนั้นข่าวก่อการร้ายภาคใต้เกิดในวงแคบกว่าตอนนี้
- ฯลฯ

ตอนนั้นผมมองตลาดหุ้นไม่ค่อยน่าซื้อ และรู้สึกว่าไร้เหตุผลมากที่ต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นบ้านเราจ้าละหวั่น

แต่ตอนนี้ผมดันรู้สึกซ่าส์กว่าเดิม และรู้สึก "กระทิง" กว่าตอนนั้นมาก

กำลังสงสัยตัวเองอยู่ว่าโรคแมงเม่ากำเริบรึเปล่า? แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เตรียมยา stop loss ไว้เรียบร้อยแล้ว แก้โรคเสี้ยนซ่าน 8)

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 04, 2005 11:48 pm
โดย Jeng
ตอนนี้พี่รู้สึกกลัว ต่อให้หุ้นขึ้นไปอีก ก็ยังรู้สึกกลัว

1. จีนส่งของเข้ามาขายเยอะมาก และแย่งตลาดส่งออกของไทยเยอะมาก ( เดา )
2. น้ำมันแพง
3. ดอกเบี้ยขึ้น
4. ก่อการร้าย ไฟใต้
5. ภัยธรรมชาติ สึนามิ
6. โรคระบาด หวัดนก
7. แผลเก่า NPL ยังคงสูงอยู่

โดยความรู้สึกว่า หุ้นน่าจะยังขึ้นไป เพราะฝรั่งถือหุ้นไทยเยอะแล้ว และจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์

แต่นึกๆดูแล้ว ประเทศไทย ไม่เคยเจออะไรที่มันหนักหนาสาหัสขนาดนี้เลย

สมัยก่อน อย่างมากก็ปฎิวัติ

สมัยนี้มาทุกรูปแบบเลย

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 12:14 am
โดย คัดท้าย
แหม ไม่นึกว่าช่วงนี้จะมีพี่ๆเพื่อนๆมาช่วยนับข่าวร้ายนะครับ ที่ผ่านๆมา ผมนับคนเดียวไม่มีเพื่อน

แต่ VI ต้องหนักแน่นนะครับ VI ต้องไม่สนใจข่าวร้าย ... ผลประกอบการเท่านั้น ซื้อกิจการ ไม่ได้สนอารมณ์ตลาด

ส่วนผมไม่ใช่ VI รอดตัว สั่นได้ ... อูยย ย แต่ผมสั่นสู้นะ ... :P

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 8:24 am
โดย โป้ง
ก่อการร้าย สึนามิ หวัดนก มันเป็นอะไรทางจิตวิทยามากกว่านะครับ บางอย่างเกิดและผ่านไปแล้ว แต่ความวิตกว่ามันจะกลับมาอีก


ประการหลักวัดฝีมือ ของรัฐบาล

ประการรองวัดฝีมือ ประชาชนในชาติ เอาตัวรอด สร้างรายได้ ชำระหนี้สินโดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ได้แค่ไหน

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 11:47 am
โดย adi
แต่บางข่าวร้ายนี่มีผลกระทบต่อกิจการจริงๆนะครับ อย่าได้วางใจ

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 11:50 am
โดย วัวแดง
คิดเหมือนคุณFinancial Engineer เลยครับ

ตอนนั้นข่าวร้ายน้อยกว่านี้ แต่หุ้นถูกกว่านี้
ตอนนี้สาหัสจริงๆๆ แต่หุ้นก็ไม่ต่ำกว่าตอนนั้น

แสดงว่าต้องมีใครพยายามพยุง set ไม่ให้ต่ำกว่าตอนนั้น โดยใช้pe ตลาดเป็นเครื่องมือและปันผลเป็นตัวล่ออีกอย่างหนึ่ง

สังเกตดูฝรั่งขายได้ไม่นาน ต้องกับมาซื้อ แบบกระปิบกระปอย เหมือนกำลังเล่นขายของอยู่(เหมือนเด็กๆเค้าเล่นกัน)

ผมไม่เคยเดา set ถูกเลยเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ผมจำได้ว่าหลังจากนาย กขึ้นทำงาน2ปี หุ้นขึ้นกระหน่ำ ดังนั้นจึงมีเค้าว่า ปี50 น่าจะเป็นปีทองของ set อีกครั้ง โดยมีโอกาสไปเตะ 1000 จุดอย่างแน่นอน (สุดท้ายก็เดาอีก :lol: :lol: :lol: )
หลังจากนั้น พอนาย ก ท่านใหม่มา ปี 52 ประเทศไทยจะขึ้นไปที่จุดสูงสุด อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คล้ายๆๆยุคน้าชาติ ที่ดินจะแพงมาก เกินการเก็งกำไรกันครั้งใหญ่(สังเกตได้จากตอนนี้ราคาที่ดินเริ่มแพงขึ้น) โดยจุดสูงสุดน่าจะอยู่ในช่วงปี 55-56 หลังจากนั้นจะซึมๆๆ โดยตอนนั้นจะไม่มีใครกลัวตลาดหุ้นเลย เพราะภาพรวมดูดีจริงๆๆ แม้แต่แม่ค้าส้มตำยังซื้อหุ้น ฟังวิทยุหุ้น และคุยเรื่องหุ้นทั้งวัน สุดท้ายจุดจบคงไม่ต่างจากปี 40-41 เท่าไหร่นัก :lol: :lol: :lol:

อ้อลืมไป ชีวิตนี้ผมได้เห็น 2000 จุดแน่นอน เพราะตอนนั้นจีนจะเป็นใหญ่และเอเซียคือมหาอำนาจยุดใหม่โดยมีจีนเป็นผู้นำ ส่วนไทยคือมือขวาของจีน :D

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 11:57 am
โดย HI.ผมเอง
รายย่อยตอนนี้คงเก็บเงินสดท่วมพอร์ทแน่เลย :D หรือไม่ก็รอถอดใจก่อนแล้วค่อยขาย


เห็นแต่ละโบรก แนะนำให้เก็บเงินสดทั้งนั้น :|

หุ้นขึ้นทยอยเก็บเงินสด :P

หุ้นลง ทยอยเก็บหุ้น :oops:

ไม่มีใครรู้จุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุด....... :roll:

จะรู้ก็ต่อเมื่อมันผ่านไปแล้ว :wink:

รู้ก่อนตัดสินใจก่อน..... :|

รู้ทีหลัง ลำบากหน่อย :mrgreen:

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 12:26 pm
โดย Ent'
ตอนนี้(680) SET สูงมากกว่า ตอน 4-5 เดือนก่อน(620) ไม่แปลกนะครับ เพราะว่า ดูราคา TOP กับ PTT สิครับ ปิโตรเคมีและนำ้้มันที่ราคาสูงต่อเนื่องมาเป็นปีทำให้ผลประกอบการของ TOP และ PTT พุ่งขึ้น ยังมีกลุ่ม เรืออีกต่างหาก ที่ราคาหุ้นขึ่้นเพราะค่าระวางเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 4-5 เดือนก่อน

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 3:33 pm
โดย คัดท้าย
Ent' เขียน:ตอนนี้(680)ี้ SET มากกว่า ตอน 4-5 เดือนก่อน(620) ไม่แพงนะครับ เพราะว่า ดูราคา TOP กับ PTT สิครับ ปิโตรเคมีและนำ้้มันที่ราคาสูงต่อเนื่องมาเป็นปีทำให้ผลประกอบการของ TOP และ PTT พุ่งขึ้น ยังมีกลุ่ม เรืออีกต่างหาก ที่ราคาหุ้นขึ่้นเพราะค่าระวางเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 4-5 เดือนก่อน
คุณ Ent ช่างสังเกตุจริงๆครับ ... :D ตอนนี้ราคาหุ้นรายตัวหลายๆตัวไม่ได้ต่างจากที่ 620-630 เลยครับ เพียงแต่มันมีบางตัวมี่มันทำดัชนีขึ้นมาครับ

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 5:42 pm
โดย sirivajj
สงสัยคงมีผมวิตกจริตอยู่คนเดียว
คือ คิดว่า ตลาดยังลงได้อีก
แม้ว่า หลายตัวจะถูกก็จริง
แต่ก็รู้สึกอุ่นใจกว่าที่ถือเงินสดไว้

ที่ซื้อ ก็เอาไว้เพียงนิดหน่อย
ไม่เข้าไปเก็บทีละมากมาก
กลัวจะหนาว ในหน้าร้อนน่ะครับ

:mrgreen:

ผมกำลังสงสัยการตัดสินใจของตัวเองอยู่เหมือนกัน?!

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2005 9:53 pm
โดย ปรัชญา
สงสัยตัวเองหรือครับ ทั่นFE :mrgreen: :mrgreen:
น่าจะสงสัย ทำไมถึงได้มาเล่นหุ้นกัน :mrgreen: :mrgreen:

หันมาสงสัยผมบ้างก็ได้ โพท์สทำไม โพท์สทุกวัน 555