Thai VI

ทราบข่าวว่า
วันนี้จะไปตรวจ เอ็มอาร์ไอ ที่บำรุงราษฏร์
เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของไมเกรนที่เป็นมาเรื้อรัง
รักษามาหลายวิธี ก็ไม่หาย
ครั้งนี้ขอเอาใจช่วย
ให้พบสาเหตุที่แท้จริง
และร้กษาจนหายขาดด้วยครับ

อวยพรให้คุณติงติงสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยด้วยครับ


คุณอรินฝากความคิดถึงคุณติงติงผ่านเฮียคลายเครียดมาด้วยครับ

ไปเจอหมอพี่ขุนอินป่าวครับ คนกันเองทั้งนั้น

ยินดีล่วงหน้าด้วยครับ คราวนี้ท่าจะหายขาดแน่นอน หลังจากเจอบิลล์ค่า
MRI เข้าไป :lol:

เข้าใจแซวนะคุณซีเค
น่าเสียดายที่พี่หมอขุนอินต้องไปศรีลังกาพรุ่งนี้
ก็เลยไม่มีอินไซด์เอ็มอาร์ไอให้น้องติงติงได้ถามไถ่
ต้องรอไปถึงอาทิตย์หน้า
ซึ่งตลาดฯก็คงตอบสนองราคาหุ้นไปหมดแล้ว ฮาๆๆๆ

ในฐานะที่เป็นสมาชิกเว็บเดียวกับคุณติง ติง มานานพอควร
ขอเป็นกำลังให้นะคะ และฝากข่าวนี้มาให้ด้วยค่ะ

ขอให้หายเร็วๆ นะคะ



แก้ไมเกรนไม่ต้องพึ่งยา แค่พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดื่มไวน์เลี่ยงผงชูรส

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2548 15:53 น.


แนะวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดไมเกรนโดยไม่ต้องใช้ยา ซึ่งไมเกรนพบมากในวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว เป็นอาการที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกทำสมาธิ ไม่อดอาหาร เลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ โดยเฉพาะไวน์แดง และ ผงชูรส ขณะปวดให้ใช้น้ำแข็งประคบ หรือใช้น้ำมันสะระแหน่นวดอาการจะทุเลา







ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงอาการไมเกรนที่พบผู้ป่วยเป็นกันมาก ว่า ไมเกรน คือ โรคปวดศีรษะที่เกิดจากหดและขยายตัวอย่างผิดปกติของเส้นเลือดแดงบริเวณศีรษะ ชาวบ้านเรียกว่า โรคลมตะกัง ผู้ที่เป็นไม่เกรนจะมีอาการปวดศีรษะตุบ ๆ ตามชีพจร ปวดอยู่ข้างเดียว บางครั้งอาจสลับข้าง น้อยรายที่พบว่าจะปวดศีรษะสองข้างพร้อมกัน บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น มือไม้เย็น รู้สึกไวต่อแสงสว่างและเสียงด้วย ซึ่งอาการปวดศีรษะที่เป็นอาจคงอยู่เป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือนานเป็นเดือนก็มี
ไมเกรนส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นปัญหาของวัยรุ่น และคนหนุ่มสาวมากกว่าคนสูงอายุหลายเท่า คนที่เป็นไมเกรนนั้นจะเป็นได้ตั้งแต่เด็กอายุ 7-8 ขวบ แต่ที่พบบ่อยจะเป็นช่วงวัยรุ่น อายุ 10-25 ปีขึ้น และจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่พออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการจะน้อยลง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนบางอย่าง ผู้หญิงบางคนเป็นไมเกรนมาตลอด แต่พอถึงวัยหมดประจำเดือนอาการปวดไมเกรนกลับหายไปด้วย

ศ.ดร.ภักดี กล่าวว่า สำหรับสาเหตุและกลไกการเกิดอาการของไมเกรนยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก จึงยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงแค่ยาบรรเทา หรือป้องกันอาการปวดได้ โดยอาจรับประทานยากลุ่มบรรเทาปวด เช่น ยาพาราเซตามอล ฯลฯ ซึ่งเป็นยาที่ทุกครอบครัวมักมีอยู่ประจำบ้าน เพื่อรักษาอาการปวด แต่หากยังไม่หายก็อาจไปพบแพทย์ หรือเภสัชกรให้จัดยาบรรเทาปวดที่เหมาะสมให้ อย่างไรก็ตาม ตามทฤษฎีหลักเชื่อว่าไมเกรนเกิดจากการมีปัจจัยไปกระตุ้นให้เส้นประสาทในสมองหลั่งสารบางอย่างออกมา และสารพวกนี้ไปทำให้เส้นเลือดขยายตัว และการที่เส้นเลือดขยายตัวนี้เอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เนื่องจากในเส้นเลือดของคนเรา จะมีเส้นเลือดเล็ก ๆ ฝอย ๆ เป็นประสาทพันรอบ พอเส้นเลือดขยายก็จะไปยืดเส้นประสาทที่พันรอบเส้นเลือดนี้ด้วย ก็จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการป่วยได้

ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า แม้ว่าไมเกรนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เมื่อใดที่ปวดศีรษะจากไมเกรน ก็ยังสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยยา นอกจากนี้แล้ว ยังมีวิธีการปฎิบัติตัวเพื่อป้องกัน ลด และบรรเทาอาการปวด โดยไม่ต้องพึ่งยาด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ ประการแรก ต้องพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ ไม่นอนดึกจนเกินไป เพราะหากพักผ่อนน้อย นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแล้ว ยังจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้ออีกด้วย ประการที่สอง ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว การเต้นแอโรบิก หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น โดยทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาทีติดต่อกัน
ประการที่สาม ต้องมีการควบคุม หรือวิธีการขจัดความเครียด โดยการหาเวลานั่งพัก หลับตา หยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือการทำสมาธิ ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า ออก อย่างมีสติ ประการที่สี่ ควรระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าอดอาหาร และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นไมเกรน จำพวกแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง รวมทั้งหลีกเลี่ยงผงชูรส เนย นม ช็อกโกแลต กล้วยหอม ผลไม้ประเภทส้ม กาแฟ และชา
ประการที่ห้า หลักเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้ เช่น สถานที่ที่มีแดดจัด อากาศร้อน เสียงดัง ไฟกระพริบ หรือหลีกเลี่ยงกลิ่นที่รุนแรง เช่น กลิ่นน้ำหอม และกลิ่นบุหรี่ เป็นต้น ประการที่หก งดการสูบบุหรี่ และประการสุดท้าย หากเกิดอาการปวด ควรลดหรือบรรเทาอาการปวดไมเกรน โดยรีบใช้น้ำแข็งประคบ โดยนำผ้าขนหนูห่อก้อนน้ำแข็งไว้ แล้วนำมาลูบช้า ๆ บริเวณที่ปวด ก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ หรือจะใช้น้ำมันสะระแหน่ นวดบริเวณที่ปวดก็จะช่วยให้อาการปวดศีรษะทุเลาลงได้

ลองวิธีนี้ดูไหมครับ

เคยอ่านเจอ มีศาสตร์หนึ่งของฝรั่ง เขาแก้พวกโรคปวดหัว เส้นประสาทรอบดวงตาตึงเครียด โดยการ คิด-นึกที่จะมอบความสุขให้ผู้อื่น ปราศถนาทางความคิดที่จะให้ผู้อื่นมีความสุข คิดแบบนี้ทั้งวัน ผลปรากฎว่ามันช่วยลดอาการไปได้มาก (ก็คงเป็นแบบการแผ่เมตตา ของศาสนาพุทธ)

ยังไงก็ขอให้คุณ ติง ติง หายไว้ๆครับ

คุณติงติงครับถ้า MRI แล้วไม่เจอปัญหา ลองให้เขาทำกายภาพบำบัด หรือฝังเข็มดูบ้างก็ดีนะครับ ที่ BH ก็มี

มาเห็นกระทู้ ต๊กใจหมดเลย ไม่ใช่อะไร มันเขินน่ะค่ะ

ขอบคุณทุกท่าน สำหรับคำอวยพรและคำแนะนำทั้งหลายค่ะ
ขอฝากความคิดถึงและขอบคุณคุณอ-รินผ่านคุณ ต.หยวนเปียวกับเฮียคลายเครียดด้วยนะคะ เห็นคำว่าอาหาร + ภูเก็ตทีไร คิดถึงคุณอ-รินกับคุณหนอนทุกทีเลย

ขอบคุณคุณAmorna คุณโป้งและคุณwpong ด้วยค่ะ

ขอเล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะคะ จริงๆเริ่มแรกก็รักษาด้วยแผนปัจจุบัน ทานยาฝรั่ง ก็ไม่ได้หายขาด แล้วก็หันไปรักษาทางฝังเข็ม รวมทั้งวิธีอื่นๆ เหลือแต่เข้าทรงและนั่งทางใน ยังไม่ได้ไปค่ะ

จนล่าสุด ฝังเข็มก็ไม่หายแล้ว ทั้งๆที่ปกติฝังเข็มแล้วอาการจะหายไปเป็นปี ถึงขนาดที่ ฝังเข็มหายปวด เดินออกมาจากร้านหมอ ขึ้นรถปุ๊บ ก็ปวดทันทีอีก ปวดจนอาเจียน ปวดซีกขวาทั้งด้าน ตั้งแต่กระหม่อม กระบอกตา จมูก ท้ายทอย ไหล่ เป็นทุกวันมาเป็นเวลาสามเดือน แขน+นิ้วก็ชาไปหมด เข้าเวบทีวีไอก็ไม่ค่อยได้ เพราะ scroll mouse แล้วนิ้วเจ็บแปล๊บๆ

ก็เลยต้องกลับมาแผนปัจจุบัน พบคุณหมอที่ตรวจอย่างละเอียด ถึงได้รู้ว่า นอกจากไมเกรนแล้ว ยังเป็นเกี่ยวกับระบบประสาทอักเสบด้วย เลยต้องไปทำ MRI ดูกันให้ชัดๆ

จริงอย่างคุณ CK บอกค่ะ เห็นเขาแจกแจงค่าทำ MRI ให้ฟังก่อนแล้ว รู้สึกอาการปวดจะน้อยลงเยอะเลยค่ะ วันสองวันนี้ :lol:

ได้ผลอย่างไรจะกลับมาเล่าให้ฟังค่ะ เผื่อใครเป็นบ้างจะได้รักษาถูกทาง ไม่ทรมานนานๆ

หายเร็ว ๆ นะครับ

ผมก็เป็นไมเกรนเหมือนกันครับ

ส่วนมากเกิดจากใช้คอมพิวเตอร์มาก
เพราะนั่งใกล้จอเกินไป และนั่งไม่ถูกท่า

ส่วนใหญ่ไมเกรนจะเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณไหล่เกิดเกร็งตัว
ทำให้เลือกไปเลี้ยงสมองข้างนั้นไม่เพียงพอ
ทำให้ปวดหัวข้างเดียว

วิธีแก้
นั่งใช้คอมให้ถูกท่า
อ่านหนังสือในที่แสงเพียงพอ
ไม่จ้องจอคอมนานเกินไป

ใครเป็นไมเกรนก็ลองไปใช้ดูได้ครับ
ไม่ต้องกินยา เพราะยารักษาไมเกรนไม่หายขากครับ
ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองมากกว่า

ขอให้คุณติงติงหายเร็วๆครับ

ขอให้หายเร็วๆครับ

และลองรักษาไปทุกอย่างก่อนครับ ถ้ายังไม่หาย ก็บอกมา เพราะยังมีอีกวิธี แต่เก็บไว้เป็นวิธีสุดท้ายละกัน

ผมเดาว่าวิธีพี่เจ๋งคือ ..... ล้างพอร์ท

สาเหตุไมเกรน นอกจากความเครียดแล้ว ก็อย่างที่พี่วิบูลย์บอกนะครับ รักษาให้หายชั่วคราวไม่ยาก หายถาวรก็ไม่ยากถ้าตั้งใจ


ถ้าให้ผมเดาผมว่าความเครียดเป็นหลัก อีกอย่างก็การตึงตัวของกล้ามเนื้อที่บีบรัดทั้งเส้นประสาท และเส้นเลือด

เรืองฝังเข็มเท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่หายชั่วคราวครับ ยังไม่เคยเจอหายถาวรเลยครับ

ที่นี่หมอเยอะ คุณติงติงไม่ลองเขียนมาว่าไปทำอะไรที่ใหนมาบ้างครับหละครับเผื่อเขามีคำแนะนำดีๆ

ที่ผมแปลกใจคือ MRI มันดูเส้นประสาทอักเสบได้ด้วย ผมว่าเขาน่าจะดูว่าเส้นประสาทตรงใหนโดนกดทับมากกว่า แล้วตัว MRI เองก็แสดงภาพหลอกได้บางมุมนะครับ

ผมไม่ใช่หมอ เป็นเพียงคนไข้ที่เคยผ่านการ MRI มาหลายครั้งครับ

แล้วเทคนิคสปา อย่าง

อาบน้ำร้อน
อบสมุนไพร
นวดคลายเส้น

จะช่วยเรื่องไมเกรนจากความเครียดได้มั้ยครับ

เรื่อง migraine นี่เรื่องยาวมากครับ การทำ mri อาจช่วยหาบางสาเหตุได้

เส้นประสาทอักเสบดูจาก mri ได้มั่ง ไม่ได้มั่งครับ

ถ้า mri ปรกติก็คงมั่นใจขึ้นว่าไม่ได้มีเหตุที่รักษาได้ด้วยการผ่าตัด

การรักษา migraine นั้นแพทย์ก็ยังปวดหัวเลยครับ ผมแนะนำว่าให้พบแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้สนี้และรักษากับแพทย์่ท่านเดียว จะได้ปรับเปลี่ยนแผนการรักษาได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามขอให้คุณติงติงพบการรักษาที่ถูกต้องกับตัวคุณในที่สุด บางคนใช้แพทย์แผนปัจจุบันแล้วหาย บางคนต้องใช้การรักษาแพทย์ทางเลือก บางคนไปพึ่งธรรมะ ฝึกสมาธิ

แต่หลายคนก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงแต่ทำให้ทุเลาลงได้ด้วยยา การหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าภายนอกที่กระตุ้นให้ปวด และการฝึกจิตใจตัวเองให้ลดความเครียดลง

ไว้สัปดาห์หน้า ผมจะไปขอดูรายละเอียดการรักษาหน่อยนะครับ เผื่อจะเกิดไอเดียอะไรที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาบ้าง

หลักของการรักษา migraine มีกว้าง ๆ คือ

1. Medications for prevention and treatment migraine attacks
2. Identification and control of factors that may provoke migraine
3. Encourage healthy behavior and lifestyle changes

รายละเอียดเยอะมากครับ ต้องคุยกันยาวเชียว พบแพทย์ที่เชี่ยวชาญและรักษาต่อเนื่องจะช่วยได้ครับ

ท่านขุนอินครับ Musculoskeletal แปลว่าอันใดครับ

คนทุกคน ย่อมมีทุกข์
โรคภัยเบียดเบียน
ผมก็มีโรคประจำตัวเหมือนกัน ทำใจเอา

หากกำลังใจนี้ช่วยได้
ก็ส่งกำลังใจช่วยให้หายนะครับ

ปวดหัว บ้างครั้งมันเกี่ยวกับ แนวกระดูกสันหลังตั้งแต่ต้นคอลงไป ไม่ได้เป็นแนวที่ถูกต้องหรือเปล่าครับ

musculo = กล้ามเนื้อ

skeletal = กระดูก

แปลว่า เกี่ยวกับ กระดูกและกล้ามเนื้อ มั๊ง

ใช่เลยครับพี่เจ๋ง

musculoskeletal radiology ก็แปลว่า รังสีวิทยาระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

หมายรวมถึงกระูดูก ข้อ กล้ามเืนื้อ ครับ

วิชานี้เองที่ผมจะไปเรียน พี่ซิกกี้

ไป search มาจาก bumrungrad.com แหละ คำนี้ หุหุ

เห็นว่าคุณหมอคลูนี่ย์เชี่ยวเรื่องนี้นี่ครับ

หายเร็วๆไวๆนะพี่

ขอให้หายขาดนะครับ แล้วว่างๆ พี่ก็ไปดูกิจการโรงพยาบาล มาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ

หายไวๆ นะครับ

เอาใจช่วย

คนดีพระคุ้มครอง

กลับมารายงานตัวแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆสำหรับคำอวยพรค่ะ
คุณขุนอินคะ ถ้าได้มีโอกาสพิจารณา ก็ขอขอบคุณมากค่ะ

คืนวันพุธ หลังจากทำ MRI ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ และรอหมออีก 2 ชั่วโมง หมอก็เรียกเข้าพบ แล้วเปิดไฟล์ให้ดูทันที ชี้ให้เห็นภาพชัดเจนว่า เส้นประสาทเส้นที่ 7 ในสมองด้านซ้ายอักเสบมีอาการบวมเห็นได้ชัด และไปมีผลกับเส้นประสาทเส้นที่ 8 และ 5 ซึ่งทำให้ร่างกายซีกขวามีอาการตั้งแต่ตา ปาก คอ ไปจนถึงแขน ซึ่งหมอบอกว่า ต้องเป็นทีมที่วิเคราะห์บางทีมเท่านั้นจึงจะสามารถวิเคราะห์ได้ เพราะถ้าหากทีมวิเคราะห์รายงานว่าผลการตรวจเป็นปกติ หมอก็จะไม่สามารถทำการรักษาต่อได้ค่ะ

หมอส่วนใหญ่จะวิเคราะห์ว่าเป็นไมเกรน + กระดูกทับเส้น + กระดูกคอเสื่อม ซึ่งอันตรายเพราะอาการจะใกล้เคียงกันมาก ตั้งแต่ปวดต้นคอ ปวดหัวข้างเดียว แต่คุณหมอท่านนี้ ท่านเชี่ยวชาญเรื่องปวดหัวและระบบกล้ามเนื้อโดยเฉพาะค่ะ

หลังจากคุยกันหมอก็สั่งเลยว่า ห้ามกลับบ้าน ให้อยู่รักษาในโรงพยาบาลทันทีสามวัน ขอต่อรองเป็นสองวันได้ไหมคะ คุณหมอทำเสียงเย็นเฉียบ...ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าตัวคุณเองนะ....จ๋อยเลยค่ะ.....เลยต้องนอนให้ยาอยู่สามวัน เพิ่งจะออกมาเมื่อเช้านี้ค่ะ แต่ยังคงต้องไปพบหมออีกครั้งสัปดาห์หน้านี้ หมอบอกว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ สว่นไมเกรนเมื่ออายุมากขึ้นอาการจะทุเลาลงเอง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ค่ะ ถ้าให้เทียบอาการปวดหัวของโรคระบบประสาทอักเสบแบบนี้อีก ยอมเป็นไมเกรนดีกว่าค่ะ

ตอนเห็นใบแจ้งหนี้ รู้สึกอาการป่วยอยากจะหายไปทันทีเลยค่ะ รวมสามวันค่ารักษาเฉียดแสนไปนิดเดียว

เลยตั้งใจว่ากลับออกมาได้ จะเอาทุนคืนด้วยการซื้อ BH ค่ะ แหะๆ เห็นกำไรดีเหลือเกิน แล้วก็รู้สึกว่าจะมีการ Coordinate กับโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อรับคนไข้ที่บินมารักษาที่นี่โดยตรงด้วยค่ะ

ดูจากการตลาดแล้วน่าจะไปได้ดี เพราะขนาดนอนอยู่ในห้องพัก ยังมีแผนกลูกค้าสัมพันธ์มาเคาะประตูสัมภาษณ์คนไข้เลยค่ะ ว่าการบริการเป็นอย่างไร พอใจไหม มีอะไรแจ้งได้นะคะ ฯลฯ.... แล้วก็จะมีคุณพยาบาลเปลี่ยนทีมกันมาเยี่ยมคนไข้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องมีญาติมาเยี่ยมก็ไม่เหงาน่ะค่ะ

คุณติงติงไปทำ scuttlebutt BH ให้เพื่อนๆแล้วครับ
แต่ผมคงไม่ยอมไปที่นี่แน่ๆ.. :lol: :lol:

หวังว่าอาการคงดีขึ้นแล้วนะครับ..

อันดับแรกของให้คุณติงติงหายวันหายคืนนะครับ

พูดถึง BH ก็มีเรื่องเล่าให้เพื่อนๆฟังต่อ
ภรรยาผม ฝากครรภ์แรกไว้ที่ BH ตั้งแต่ช่วงกันยาปีที่ผ่านมา
ตั้งใจฝากครรภ์ที่นี้เพราะ เพื่อนๆเค้าแนะนำหมอเก่งให้
ราคาค่าคลอดที่นี้ตอนนั้นก็ประมาณ 30000+ - 50000+ ต่อแพคเกจ
จนกระทั่งต้นปีที่ผ่านมา ได้รับข่าวสารจากทาง BH ว่า แพคเกจค่าคลอด
ได้ปรับราคาแล้วเป็น 50000+ - 70000+ ผมนี้เหงือซึมเลยครับ
ตอนแรกก็คิดว่าพอสู้ไหว ถึงแม้ ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ถ้าภรรยาสบายใจก็สู้
แต่โชคยังดีที่เค้าแจ้งว่าถ้าฝากครรภ์ก่อน มค 48 ยังใช้ราคาเดิม
สอบถามเพิ่มเติมทาง BH ว่าทำไมถึงเพิ่มราคามากมายขนาดนี้ แต่ละแพคเกจ
คำนวณคร่าวๆก็เพิ่มประมาณ 70% เค้าตอบมาว่า จริงๆแล้วถือว่าไม่ได้เพิ่มเลยนะ
เพียงแต่ว่าช่วงวิกฤษเศรษฐกิจ เค้าลดราคาลงมามาก ราคาที่เพิ่มในปัจจับัน ยังไม่เท่าราคาตอนช่วงก่อนวิกฤษเลย ฟังแล้วก็อึ้งครับ

ขอให้หายเร็วๆนะครับ

ว่าไปแล้วต้องหาหุ้นโรงพยาบาลมาดูเล่นหน่อยแล้ว

ค่าใช้จ่ายแพงมากๆ ครับ เลยสงสัยครับว่าเป็นโรคแบบนี้ประกันสุขภาพทั่วๆไป ครอบคลุมหรือเปล่าครับ หรือจะเบิกอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ

แล้วคุณติงๆ ทำประกันไว้บ้างหรือเปล่าครับ เสียดายเงินแทนครับ ซื้อหุ้นได้เยอะเลย

ขอแสดงความยินดีที่หาสาเหตุเจอครับ

และ

ขอแสดงความเสียใจกับบิลค่ารักษา

วิธีแก้คือ ซื้อหุ้นบำรุงราษฏร์ไว้
เข้าข่าย อัฐยายซื้อขนมยาย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: